พระยะโฮวาจะไม่ล่าช้าเลย
“แม้นิมิตจะเนิ่นช้าก็จงคอยท่า; ด้วยว่าจะสำเร็จเป็นแน่. จะไม่ล่าช้าเลย.”—ฮะบาฆูค 2:3, ล.ม.
1. ไพร่พลของพระยะโฮวาได้แสดงความตั้งใจแน่วแน่เช่นไร และความตั้งใจดังกล่าวกระตุ้นให้พวกเขาทำอะไร?
“ข้าพเจ้าจะยืนอยู่ที่คอยเฝ้าแห่งข้าพเจ้า.” นั่นคือความตั้งใจอันแน่วแน่ของฮะบาฆูคผู้พยากรณ์ของพระเจ้า. (ฮะบาฆูค 2:1) ไพร่พลของพระยะโฮวาในศตวรรษที่ 20 ได้แสดงความตั้งใจแน่วแน่อย่างเดียวกันนี้. ด้วยเหตุนั้น พวกเขาตอบรับด้วยใจแรงกล้าต่อการเรียกซึ่งประกาศ ณ การประชุมภาคครั้งประวัติศาสตร์คราวหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1922 ว่า “บัดนี้เป็นเวลาสำคัญที่สุด. ดูเถิด พระมหากษัตริย์ทรงครองราชย์แล้ว! คุณเป็นผู้เผยแพร่ของพระองค์. เหตุฉะนั้น จงโฆษณา โฆษณา โฆษณาพระมหากษัตริย์และราชอาณาจักรของพระองค์.”
2. เมื่อได้รับการฟื้นฟูสู่สภาพขันแข็งในการงานภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 คริสเตียนผู้ถูกเจิมสามารถประกาศอะไร?
2 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พระยะโฮวาทรงฟื้นฟูชนที่เหลือแห่งผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์สู่สภาพขันแข็งในการงาน. เช่นเดียวกับฮะบาฆูค พวกเขาแต่ละคนในตอนนั้นสามารถประกาศออกมาได้ว่า “ข้าพเจ้า . . . จะนั่งอยู่บนหอป้อม, แลจะคอยเพ่งดูเพื่อจะเห็นว่า, พระองค์จะตรัสว่าอะไรแก่ข้าพเจ้า.” มีการใช้คำฮีบรูสำหรับคำว่า “เพ่งดู” และ “คอยเฝ้า” ซ้ำหลายครั้งในคำพยากรณ์หลายเรื่อง.
“จะไม่ล่าช้าเลย”
3. เหตุใดเราต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอ?
3 ขณะที่พยานพระยะโฮวาประกาศคำเตือนของพระเจ้าในทุกวันนี้ พวกเขาต้องตื่นตัวอยู่เสมอที่จะเอาใจใส่คำลงท้ายในคำพยากรณ์อันยิ่งใหญ่ของพระเยซูที่ว่า “ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่, เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร, จะมาหัวค่ำ, หรือเที่ยงคืน, หรือเวลาไก่ขัน, หรือรุ่งเช้า กลัวว่าจะมาฉับพลัน, และจะพบท่านนอนหลับอยู่. ซึ่งเราบอกพวกท่าน, เราก็บอกคนทั้งปวงด้วยว่า, จงเฝ้าระวังอยู่เถิด.” (มาระโก 13:35-37) เช่นเดียวกับฮะบาฆูค และสอดคล้องกับคำตรัสของพระเยซู เราต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอ!
4. สถานการณ์ของเราคล้ายกันอย่างไรกับของฮะบาฆูคเมื่อประมาณปี 628 ก.ส.ศ.?
4 ฮะบาฆูคอาจเขียนพระธรรมเล่มนี้เสร็จประมาณปี 628 ก.ส.ศ. ก่อนที่บาบูโลนจะกลายเป็นมหาอำนาจโลกที่โดดเด่นเสียด้วยซ้ำ. เป็นเวลาหลายปีที่มีการประกาศคำพิพากษาของพระยะโฮวาต่อยะรูซาเลมที่ออกหาก. กระนั้น ไม่มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเมื่อไรจึงจะมีการสำเร็จโทษตามการพิพากษาดังกล่าว. ใครล่ะจะเชื่อว่าอีกเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้นเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นและบาบูโลนจะเป็นผู้สำเร็จโทษของพระยะโฮวา? คล้ายกัน ในทุกวันนี้เราไม่ทราบ “วันนั้นและโมงนั้น” ที่กำหนดไว้สำหรับอวสานของระบบนี้ แต่พระเยซูได้ทรงเตือนเราไว้แล้วว่า “จงเตรียมตัวพร้อมเพราะในโมงที่ท่านไม่คิดว่าเป็นเวลานั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา.”—มัดธาย 24:36, 44, ล.ม.
5. อะไรที่ให้กำลังใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับคำตรัสของพระเจ้าดังบันทึกไว้ที่ฮะบาฆูค 2:2, 3?
5 ด้วยเหตุผลที่ดี พระยะโฮวาทรงประทานงานมอบหมายอันน่าตื่นเต้นแก่ฮะบาฆูคดังนี้: “จงเขียนเนื้อความนิมิตลงไว้ที่แผ่นจารึกให้กระจ่างตา เพื่อว่าคนที่อ่านดัง ๆ จากแผ่นจารึกนั้นจะได้อ่านคล่อง. ด้วยว่านิมิตนั้นก็มีไว้สำหรับเวลากำหนด และกำลังรุดเร่งไปสู่ที่สุดปลาย และนิมิตนั้นจะไม่กล่าวเท็จเลย. ถึงแม้นิมิตจะเนิ่นช้าก็จงคอยท่า; ด้วยว่าจะสำเร็จเป็นแน่. จะไม่ล่าช้าเลย.” (ฮะบาฆูค 2:2, 3, ล.ม.) ปัจจุบัน ความชั่วช้าและความรุนแรงทวีขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วแผ่นดินโลก ซึ่งบ่งบอกว่าเราอยู่ใกล้ “วันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัวของพระยะโฮวา” เต็มทีแล้ว. (โยเอล 2:31) คำตรัสรับรองของพระยะโฮวาเองให้กำลังใจจริง ๆ ที่ว่า “จะไม่ล่าช้าเลย”!
6. เราอาจจะรอดชีวิตผ่านวันแห่งการพิพากษาสำเร็จโทษที่กำลังจะมาถึงได้อย่างไร?
6 ถ้าอย่างนั้น เราจะรอดชีวิตผ่านวันแห่งการพิพากษาสำเร็จโทษที่กำลังจะมาถึงนั้นได้อย่างไร? พระยะโฮวาทรงตอบโดยเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมกับคนอธรรมดังนี้: “นี่แน่ะ! จิตวิญญาณของเขาเบ่งพองขึ้น; จิตวิญญาณของเขาหาซื่อตรงไม่. แต่ส่วนคนชอบธรรมนั้น เขาจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปโดยความซื่อสัตย์ของตน.” (ฮะบาฆูค 2:4, ล.ม.) พวกผู้ปกครองและประชาชนที่หยิ่งทะนงและโลภโมโทสันได้ทำให้หน้าประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันเปื้อนเลือดผู้บริสุทธิ์หลายล้านคนที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในสงครามโลกทั้งสองครั้งรวมไปถึงการนองเลือดในสงครามล้างชาติพันธุ์. ตรงกันข้าม ผู้รับใช้ที่ได้รับการเจิมของพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รักสันติได้อดทนอย่างซื่อสัตย์. พวกเขาเป็น “ชนชาติชอบธรรมซึ่งรักษาความซื่อสัตย์.” ชนชาตินี้ พร้อมกับ “แกะอื่น” ซึ่งเป็นสหาย ทำตามคำแนะเตือนที่ว่า “ท่านทั้งหลายจงวางใจในพระยะโฮวาเสมอเป็นนิจ; เพราะพระยะโฮวา, คือพระยะโฮวาพระองค์เอง, เป็นศิลาที่ตั้งมั่นคงไม่รู้สิ้นสุด.”—ยะซายา 26:2-4; โยฮัน 10:16.
7. สอดคล้องกับที่เปาโลใช้ฮะบาฆูค 2:4 เราต้องทำอะไร?
7 ในจดหมายที่เขียนถึงคริสเตียนชาวฮีบรู อัครสาวกเปาโลยกข้อความจากฮะบาฆูค 2:4 บอกกล่าวกับไพร่พลของพระยะโฮวาว่า “ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องมีความเพียรอดทน เพื่อว่า เมื่อท่านกระทำให้พระทัยประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จแล้ว ท่านจะได้รับตามคำทรงสัญญา. เพราะว่ายัง ‘อีกหน่อยหนึ่ง’ และ ‘พระองค์ผู้จะเสด็จมาจะมาถึงและจะไม่ทรงเนิ่นช้า.’ ‘แต่คนชอบธรรมของเราจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ’ และ ‘ถ้าเขาถอยกลับ จิตวิญญาณของเราไม่พอใจในคนนั้นเลย.’ ” (เฮ็บราย 10:36-38, ล.ม.) เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะหย่อนมือหรือติดกับดักแนวทางแห่งโลกของซาตานที่นิยมวัตถุและคลั่งไคล้ความเพลิดเพลิน. เราต้องทำอะไรจนกระทั่งเวลา ‘อีกหน่อยหนึ่ง’ นั้นหมดลง? เช่นเดียวกับเปาโล พวกเราที่เป็นส่วนแห่งชาติบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาต้อง “โน้มตัวไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า บากบั่นมุ่งสู่เป้าหมาย” แห่งชีวิตนิรันดร์. (ฟิลิปปอย 3:13, 14, ล.ม.) และเช่นเดียวกับพระเยซู เราต้อง ‘อดทนเพราะเห็นแก่ความยินดีซึ่งมีอยู่ตรงหน้าเรา.’—เฮ็บราย 12:2, ล.ม.
8. ใครคือ “ชาย” ในฮะบาฆูค 2:5 และเหตุใดเขาจะไม่ประสบผลสำเร็จ?
8 ฮะบาฆูค 2:5 (ล.ม.) พรรณนาถึง “ชายฉกรรจ์” ซึ่งต่างกับผู้รับใช้ของพระยะโฮวา คนเหล่านี้ไม่บรรลุเป้าหมายของเขา แม้ว่าเขา “ทำให้จิตวิญญาณของตนกว้างใหญ่ดุจดังเชโอล.” ใครคือชายผู้นี้ซึ่ง “ไม่รู้จักอิ่ม”? โดยมีความตะกละตะกลามเช่นเดียวกับบาบูโลนในสมัยของฮะบาฆูค “ชาย” ผู้นี้ได้แก่ฝ่ายต่าง ๆ แห่งอำนาจทางการเมือง—ไม่ว่าจะเป็นฟาสซิสต์, นาซี, คอมมิวนิสต์, หรือแม้แต่ฝ่ายที่เรียกกันว่าประชาธิปไตย—ซึ่งทำสงครามกันเพื่อขยายดินแดนของตน. ชายผู้นี้ยังฝังจิตวิญญาณมากมายของผู้ไร้ความผิดไว้ที่เชโอลหรือหลุมฝังศพ. แต่ “ชาย” ที่ไว้ใจไม่ได้ผู้นี้แห่งโลกของซาตานซึ่งมัวเมาด้วยความหลงผิดคิดว่าตัวเองสำคัญ ไม่ประสบผลสำเร็จในการ “ชุมนุมชาติทั้งปวงสำหรับตนเองและรวบรวมชนชาติทั้งปวงสำหรับตนเอง.” มีเพียงพระยะโฮวาพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงสามารถรวบรวมมนุษยชาติทั้งหมดเข้าเป็นหนึ่งเดียว และพระองค์จะทรงทำให้สำเร็จลุล่วงเช่นนี้โดยทางราชอาณาจักรมาซีฮา.—มัดธาย 6:9, 10.
วิบัติอันเด่นชัดประการแรกในห้าประการ
9, 10. (ก) พระยะโฮวาทรงประกาศอะไรต่อไปทางฮะบาฆูค? (ข) สถานการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบเป็นเช่นไร?
9 โดยทางผู้พยากรณ์ฮะบาฆูค พระยะโฮวาทรงประกาศต่อไปถึงชุดภัยพิบัติห้าประการ ซึ่งเป็นการสำเร็จโทษตามการพิพากษาที่ต้องทำเพื่อเตรียมแผ่นดินโลกไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้นมัสการที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า. ผู้มีหัวใจชอบธรรมเช่นนั้น “ยกภาษิต” ที่พระยะโฮวาทรงประทานให้. เราอ่านที่ฮะบาฆูค 2:6 (ล.ม.) ว่า “วิบัติแก่ผู้ซึ่งเพิ่มพูนสิ่งที่ไม่ใช่เป็นของตน—โอ้นานสักเท่าใด!— และผู้ที่สร้างหนี้อันหนักหน่วงให้กับตนเอง!”
10 ข้อนี้เน้นถึงการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ. ในโลกรอบตัวเรา คนรวยรวยขึ้นเรื่อย ๆ และคนจนจนลงไปทุกขณะ. พวกผู้ค้ายาเสพย์ติดและคนฉ้อโกงกอบโกยทรัพย์มหาศาล ในขณะที่คนทั่วไปจำนวนมากอดอยาก. กล่าวกันว่าหนึ่งในสี่ของประชากรโลกมีมาตรฐานชีวิตต่ำกว่าเส้นแห่งความยากจน. สภาพความเป็นอยู่ในหลายประเทศน่าตกใจ. คนที่ปรารถนาจะเห็นความชอบธรรมบนแผ่นดินโลกอุทานออกมาว่า “โอ้นานสักเท่าใด” ที่ความอยุติธรรมเหล่านี้ได้เพิ่มทวี! กระนั้น อวสานจวนจะถึงแล้ว! แท้จริง นิมิตนั้น “จะไม่ล่าช้าเลย.”
11. ฮะบาฆูคกล่าวเช่นไรเกี่ยวกับการทำให้โลหิตมนุษย์ตก และเหตุใดเราจึงกล่าวได้ว่ามีความผิดฐานทำให้โลหิตตกมากมายบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน?
11 ผู้พยากรณ์แจ้งแก่คนชั่วว่า “เหตุว่าท่านได้ปล้นทำลายประเทศเมืองเป็นอันมาก, บรรดาชนซึ่งเหลืออยู่นั้นจะปล้นทำลายท่านเสีย, ด้วยเห็นแก่เลือดคนแลเห็นแก่ความร้ายกาจซึ่งมีแก่แผ่นดินโลกแลแก่เมืองแลแก่คนทั้งหลายที่ได้อาศัยอยู่ในที่นั่น.” (ฮะบาฆูค 2:8) เราพบเห็นความผิดฐานทำให้โลหิตตกในโลกทุกวันนี้มากสักเพียงไร! พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า “บรรดาผู้ถือดาบจะต้องพินาศเพราะดาบ.” (มัดธาย 26:52) กระนั้น เฉพาะแต่ในศตวรรษที่ 20 เท่านั้น ชาติและกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีความผิดฐานทำให้โลหิตตกได้เป็นต้นเหตุของการสังหารมนุษย์ด้วยกันมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคน. วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่มีส่วนในการนองเลือดเหล่านี้!
วิบัติประการที่สอง
12. วิบัติประการที่สองคืออะไรดังที่ฮะบาฆูคได้บันทึกไว้ และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความมั่งมีที่ได้มาด้วยความไม่ซื่อสัตย์จะไร้ประโยชน์?
12 วิบัติประการที่สอง ซึ่งบันทึกไว้ที่ฮะบาฆูค 2:9-11 ตกอยู่กับ “คนที่โลภแสวงหาลาภอันอธรรมสำหรับเรือนของตน, หวังจะทำรังของเขาในที่สูงเพื่อจะให้พ้นจากอำนาจการชั่วร้าย.” ผลประโยชน์ที่ได้มาด้วยความไม่ซื่อสัตย์จะไม่เป็นประโยชน์ใด ๆ เลย ดังที่ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “อย่ากลัวเมื่อคนหนึ่งคนใดมั่งมีขึ้น, อย่ากลัว, เมื่อเกียรติยศของพงศ์พันธุ์ของใครรุ่งเรืองเจริญขึ้น: เพราะพอเมื่อเขาสิ้นชีพแล้วเขาจะเก็บอะไร ๆ ไปด้วยไม่ได้; เกียรติยศของเขาจะไม่ติดตามตัวเขาไปได้หรอก.” (บทเพลงสรรเสริญ 49:16, 17) ดังนั้น คำแนะนำอันสุขุมของเปาโลจึงนับว่าน่าเอาใจใส่ ที่ว่า “จงกำชับคนเหล่านั้นซึ่งมั่งมีในระบบปัจจุบันอย่าเป็นคนหัวสูง และฝากความหวังของตน ไม่ใช่กับทรัพย์ที่ไม่แน่นอน แต่กับพระเจ้า ผู้ทรงจัดให้สิ่งสารพัดแก่เราอย่างบริบูรณ์เพื่อความชื่นชมยินดีของเรา.”—1 ติโมเธียว 6:17, ล.ม.
13. เหตุใดเราควรประกาศคำเตือนของพระเจ้าต่อ ๆ ไป?
13 นับว่าสำคัญสักเพียงไรที่มีการประกาศข่าวเกี่ยวกับการพิพากษาของพระเจ้าในทุกวันนี้! เมื่อพวกฟาริซายกล่าวคัดค้านการที่ฝูงชนโห่ร้องต้อนรับพระเยซูในฐานะ “ท่านผู้นั้นซึ่งเสด็จมาเป็นกษัตริย์ในพระนามของพระยะโฮวา” พระองค์ตรัสว่า “เราบอกเจ้าทั้งหลายว่า หากคนเหล่านี้เงียบอยู่ ก้อนหินจะส่งเสียงร้อง.” (ลูกา 19:38-40, ล.ม.) ในทำนองเดียวกัน หากไพร่พลของพระเจ้าในปัจจุบันมิได้เปิดโปงความชั่วที่มีอยู่ในโลกนี้ “หินที่ก่อกำแพงจะร้องเสียงดัง.” (ฮะบาฆูค 2:11) ดังนั้น ให้เราประกาศคำเตือนของพระเจ้าต่อ ๆ ไปอย่างกล้าหาญ!
วิบัติที่สามและประเด็นเกี่ยวกับความผิดฐานทำให้โลหิตตก
14. ศาสนาต่าง ๆ ของโลกเป็นต้นเหตุให้โลหิตตกเช่นไร?
14 วิบัติประการที่สามซึ่งแจ้งให้ทราบทางฮะบาฆูคยกประเด็นเกี่ยวกับความผิดฐานทำให้โลหิตตก. ฮะบาฆูค 2:12 กล่าวว่า “วิบัติแก่คนที่สร้างเมืองด้วยประหารให้โลหิตไหล, แลตั้งพระนครด้วยประกอบความชั่ว.” ในระบบนี้ ความอธรรมกับการทำให้โลหิตตกมักไปด้วยกัน. ที่น่าสังเกตคือ ศาสนาต่าง ๆ ของโลกเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นองเลือดต่าง ๆ อันร้ายกาจที่สุดในประวัติศาสตร์. แค่กล่าวถึงไม่กี่ตัวอย่างก็เห็นภาพ เช่น สงครามครูเสดซึ่งกระตุ้นให้คนเหล่านั้นที่อ้างตัวเป็นคริสเตียนรบกับชาวมุสลิม; ศาลศาสนาของคาทอลิกในสเปนและลาตินอเมริกา; สงครามสามสิบปีของยุโรประหว่างชาวโปรเตสแตนต์กับชาวคาทอลิก; และที่นองเลือดมากที่สุดในบรรดาสงครามทั้งหลาย คือสงครามโลกทั้งสองครั้งในศตวรรษนี้ ซึ่งทั้งสองครั้งเริ่มต้นจากดินแดนแห่งคริสต์ศาสนจักร.
15. (ก) โดยได้รับการส่งเสริมหรือเห็นชอบจากคริสตจักร นานาชาติยังคงทำอะไรต่อไป? (ข) สหประชาชาติจะยุติการสร้างเสริมอาวุธในโลกได้ไหม?
15 เหตุการณ์เด่นที่ชั่วร้ายที่สุดอย่างหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สองได้แก่การสังหารหมู่พลเรือนโดยพวกนาซี ซึ่งขย้ำกลืนชีวิตชาวยิวและผู้ไร้ความผิดอื่น ๆ ในยุโรปหลายล้านคน. จนเมื่อไม่นานมานี้เอง คณะปกครองนักบวชแห่งนิกายโรมันคาทอลิกในฝรั่งเศสจึงได้สารภาพว่าไม่ได้ต่อต้านการส่งหลายแสนคนที่ตกเป็นเหยื่อเข้าสู่ห้องแก๊สของนาซี. ถึงกระนั้น ชาติต่าง ๆ ยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการนองเลือด ด้วยการสนับสนุนหรือเห็นชอบจากคริสตจักร. ในการกล่าวถึงคริสตจักรรัสเซียออร์โทด็อกซ์ วารสารไทม์ (ฉบับนานาชาติ ภาษาอังกฤษ) รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า “คริสตจักรที่ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งยังได้ใช้อิทธิพลอันเด็ดขาดในอีกขอบเขตหนึ่งซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นไปได้ กล่าวคือในส่วนที่เกี่ยวกับอาวุธสงครามของรัสเซีย. . . . การอวยชัยให้พรเครื่องบินรบและโรงทหารเกือบจะกลายเป็นกิจวัตร. ในเดือนพฤศจิกายน ที่อารามดานิลอฟสกีในมอสโกซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สังฆราชรัสเซียพำนักอยู่ คริสตจักรดำเนินไปไกลถึงขั้นประกาศให้หัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซียเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์.” สหประชาชาติจะยุติการสร้างเสริมอาวุธสงครามอันชั่วร้ายในโลกได้ไหม? คงไม่มีทาง! ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพท่านหนึ่งให้ความเห็นในหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน (ภาษาอังกฤษ) แห่งกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ดังนี้: “เรื่องที่รบกวนใจอย่างแท้จริงก็คือ สมาชิกถาวรห้าชาติของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้แก่ห้าประเทศที่เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ของโลก.”
16. พระยะโฮวาจะทรงจัดการเช่นไรต่อชาติต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดสงคราม?
16 พระยะโฮวาจะทรงพิพากษาสำเร็จโทษชาติทั้งหลายที่กระตุ้นให้เกิดสงครามไหม? ฮะบาฆูค 2:13 กล่าวดังนี้: “นี่แน่ะ, มีมาแต่พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, เพื่อชนทั้งปวงจะได้กระทำการในที่ไฟร้อน, แลจะเหน็ดเหนื่อยกายเปล่า ๆ มิใช่หรือ.” “พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย”! ถูกแล้ว พระยะโฮวาทรงมีกองทัพแห่งทูตสวรรค์ ซึ่งพระองค์จะทรงใช้ในการทำลายประชาชนและชาติต่าง ๆ ที่กระหายสงครามให้สูญสิ้น!
17. ภายหลังการพิพากษาสำเร็จโทษกลุ่มชาติที่รุนแรงแล้ว ความรู้ของพระยะโฮวาจะเต็มแผ่นดินโลกถึงขนาดไหน?
17 จะมีอะไรตามมาภายหลังการพิพากษาสำเร็จโทษต่อกลุ่มชาติที่รุนแรงดังกล่าว? ฮะบาฆูค 2:14 ให้คำตอบ: “แผ่นดินโลกจะมีความรู้เต็มบริบูรณ์ด้วยพระรัศมีของพระยะโฮวา, ดุจน้ำทั้งหลายท่วมเต็มมหาสมุทร.” ช่างเป็นความคาดหวังที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนั้น! ณ อาร์มาเก็ดดอน พระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องตลอดไป. (วิวรณ์ 16:16) พระองค์ทรงรับรองกับเราว่า พระองค์จะทรง ‘ทำให้ม้าวางเท้าของพระองค์มีเกียรติ’ ซึ่งก็คือแผ่นดินโลกที่เราอาศัยอยู่นี้. (ยะซายา 60:13) มนุษยชาติทั้งหมดจะได้รับการสอนให้ดำเนินในวิถีชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า เพื่อแผ่นดินโลกจะเต็มด้วยความรู้เกี่ยวกับพระประสงค์อันรุ่งโรจน์ของพระยะโฮวาดุจมหาสมุทรที่เต็มแอ่ง.
วิบัติที่สี่และที่ห้า
18. วิบัติประการที่สี่ที่ฮะบาฆูคประกาศคืออะไร และวิบัตินี้เห็นได้อย่างไรจากสภาพศีลธรรมของโลกในปัจจุบัน?
18 วิบัติประการที่สี่มีพรรณนาไว้ที่ฮะบาฆูค 2:15 (ล.ม.) ด้วยถ้อยคำดังนี้: “วิบัติแก่ผู้ซึ่งให้เพื่อนดื่มอะไรบางอย่าง โดยปนความโกรธขึ้งและโทสะของตนด้วย เพื่อให้พวกเขาเมา ด้วยประสงค์จะมองดูส่วนที่น่าละอายของพวกเขา.” ข้อนี้ชวนให้นึกถึงสภาพของโลกในปัจจุบันที่ขาดการเหนี่ยวรั้งและทำตามใจตัวเอง. สภาพเสื่อมศีลธรรมของโลกนี้ซึ่งได้รับการส่งเสริมแม้แต่จากองค์การศาสนาที่ปล่อยตามอำเภอใจได้ตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ. โรคระบาดอย่างเช่นโรคเอดส์และโรคอื่น ๆ ที่ติดต่อทางเพศกำลังระบาดไปทั่วโลก. แทนที่จะสะท้อน “พระรัศมีของพระยะโฮวา” คนชั่วอายุปัจจุบันที่คิดถึงแต่ตัวเองก่อนกำลังจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ในความเลวทรามและไปสู่การสำเร็จโทษตามการพิพากษาของพระเจ้า. โดยที่ “เต็มอิ่มด้วยความละอายมิใช่เป็นสง่าราศี” โลกที่ละเลยกฎหมายกำลังจะดื่มจากจอกแห่งพระพิโรธของพระยะโฮวา ซึ่งแสดงถึงพระทัยประสงค์ของพระองค์ต่อโลกนี้. ‘ความอัปยศอดสูจะมาครอบงำสง่าราศีของโลกนี้.’—ฮะบาฆูค 2:16.
19. ส่วนต้นของวิบัติประการที่ห้าที่ฮะบาฆูคประกาศเกี่ยวข้องกับอะไร และเหตุใดถ้อยคำดังกล่าวจึงมีความหมายในโลกปัจจุบัน?
19 ส่วนต้นของวิบัติประการที่ห้าเตือนอย่างหนักแน่นให้หลีกห่างจากการนมัสการรูปแกะสลัก. พระยะโฮวาได้ทรงให้ผู้พยากรณ์ประกาศพระดำรัสอันทรงพลังดังนี้: “วิบัติแก่ผู้ที่บอกแก่ท่อนไม้ว่า ‘ตื่นเถิด!’ แก่หินใบ้ว่า ‘ตื่นขึ้นเถิด! ตัวมันเองจะให้คำสั่งสอน’! ดูเถิด! มันหุ้มด้วยทองและเงิน และหามีลมหายใจในมันไม่.” (ฮะบาฆูค 2:19, ล.ม.) จนกระทั่งทุกวันนี้ ทั้งคริสต์ศาสนจักรและศาสนาที่ถูกเรียกว่าศาสนานอกรีตต่างก็กราบไหว้ไม้กางเขน, พระแม่, ภาพบูชา, และรูปจำลองอื่น ๆ ของมนุษย์และสัตว์. ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ ไม่มีสักอย่างเดียวสามารถตื่นขึ้นมาช่วยผู้นมัสการของตนเอาไว้เมื่อพระยะโฮวาเสด็จมาพิพากษาสำเร็จโทษ. ทองและเงินที่ปิดหุ้มสิ่งเหล่านี้จะอันตรธานไปสู่สภาพไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับความสง่างามแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าองค์ถาวรและสง่าราศีแห่งสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตของพระองค์. ขอให้เราถวายเกียรติยศแด่พระนามของพระองค์ซึ่งไม่มีนามใดเทียบได้ตลอดไป!
20. เรามีสิทธิพิเศษรับใช้อย่างชื่นชมยินดีในการจัดเตรียมเกี่ยวกับพระวิหารอะไร?
20 ถูกแล้ว พระยะโฮวาพระเจ้าของเราทรงคู่ควรกับคำสรรเสริญทั้งมวล. ด้วยความเคารพยำเกรงอย่างลึกซึ้งต่อพระองค์ ให้เราเอาใจใส่คำเตือนอันหนักแน่นที่ให้ละเว้นจากการไหว้รูปเคารพ. แต่ฟังซิ! พระยะโฮวายังคงตรัสต่อไปอีกว่า “พระยะโฮวาสถิตในพระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์. จงเงียบเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด แผ่นดินโลกทั้งสิ้น!” (ฮะบาฆูค 2:20, ล.ม.) ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านผู้พยากรณ์นึกถึงพระวิหารแห่งกรุงยะรูซาเลม. อย่างไรก็ตาม พวกเราในปัจจุบันมีสิทธิพิเศษที่จะนมัสการในการจัดเตรียมเกี่ยวกับพระวิหารฝ่ายวิญญาณที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก ซึ่งที่นั่นพระเยซูคริสต์เจ้าของเราได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมหาปุโรหิต. ที่นี่ ณ ลานพระวิหารบนแผ่นดินโลกของพระวิหารนั้น เราประชุม, รับใช้, และอธิษฐาน ถวายพระเกียรติที่คู่ควรกับพระนามอันรุ่งโรจน์แด่พระยะโฮวา. และเรามีความยินดีในการถวายการนมัสการจากหัวใจแด่พระบิดาฝ่ายสวรรค์ของเราผู้เปี่ยมด้วยความรัก!
คุณจำไหม?
• คุณมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคำตรัสของพระยะโฮวาที่ว่า “จะไม่ล่าช้าเลย”?
• วิบัติที่ประกาศทางฮะบาฆูคมีความหมายเช่นไรในสมัยปัจจุบัน?
• เหตุใดเราควรประกาศคำเตือนของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป?
• เรามีสิทธิพิเศษรับใช้ ณ ลานพระวิหารอะไร?
[ภาพหน้า 15]
เช่นเดียวกับฮะบาฆูค ผู้รับใช้ของพระเจ้าในสมัยปัจจุบันทราบว่าพระยะโฮวาจะไม่ทรงล่าช้า
[ภาพหน้า 18]
คุณหยั่งรู้ค่าสิทธิพิเศษแห่งการนมัสการพระยะโฮวา ณ ลานพระวิหารฝ่ายวิญญาณของพระองค์ไหม?
[ที่มาของภาพหน้า 16]
U.S. Army photo