“พระบุตรทรงประสงค์จะเปิดเผยเรื่องพระบิดา”
“ไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใครนอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรทรงประสงค์จะเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่เขา.”—ลูกา 10:22
คุณจะตอบอย่างไร?
เหตุใดพระเยซูจึงสามารถเปิดเผยเรื่องพระบิดาอย่างที่ไม่มีใครทำได้เหมือนพระองค์?
พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ อย่างไร?
คุณจะเลียนแบบพระเยซูได้โดยวิธีใดในการเปิดเผยเรื่องพระบิดา?
1, 2. คำถามอะไรที่ทำให้หลายคนงุนงง และเพราะเหตุใด?
‘ใครคือพระเจ้า?’ คำถามนี้ทำให้หลายคนงุนงง. ตัวอย่างเช่น แม้ว่าคนที่อ้างว่าเป็นคริสเตียนส่วนใหญ่เชื่อว่าพระเจ้าเป็นตรีเอกานุภาพ แต่หลายคนยอมรับว่าไม่มีทางเข้าใจคำสอนนี้ได้. นักเขียนคนหนึ่งซึ่งเป็นนักบวชยอมรับว่า “คำสอนนี้เป็นเรื่องที่เกินขอบเขตอันจำกัดของความคิดมนุษย์. คำสอนนี้อยู่นอกเหนืออาณาเขตของเหตุผลตามปกติธรรมดาหรือตรรกะของมนุษย์.” ในอีกด้านหนึ่ง คนส่วนใหญ่ที่ยอมรับทฤษฎีวิวัฒนาการเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า. พวกเขาอ้างว่าสรรพสิ่งที่น่าพิศวงเกิดขึ้นโดยบังเอิญ. แม้กระนั้น แทนที่จะปฏิเสธในเรื่องการดำรงอยู่ของพระเจ้า ชาลส์ ดาร์วิน กล่าวว่า “ถ้าจะให้ผมลงความเห็นก็คงต้องบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อยู่เกินขอบเขตเชาวน์ปัญญาของมนุษย์.”
2 ไม่ว่าจะมีความเชื่อเช่นไร คนส่วนใหญ่สงสัยในเรื่องการดำรงอยู่ของพระเจ้า. อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาไม่ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ ในที่สุดหลายคนก็เลิกแสวงหาพระเจ้า. ซาตาน “ได้ทำให้จิตใจคนที่ไม่เชื่อมืดไป” จริง ๆ. (2 โค. 4:4) จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่รู้สึกสับสนและไม่รู้เรื่องพระบิดาผู้ทรงสร้างเอกภพ!—ยซา. 45:18
3. (ก) ใครเปิดเผยเรื่องพระผู้สร้างแก่เรา? (ข) เราจะพิจารณาคำถามอะไร?
3 ถึงกระนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนจะรู้ความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า. เพราะเหตุใด? เพราะคนที่ทูลอ้อนวอน “โดยออกพระนามพระยะโฮวา” เท่านั้นที่จะรอด. (โรม 10:13) การออกพระนามของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักกับพระยะโฮวาผู้ทรงเป็นบุคคล. พระเยซูคริสต์ทรงเปิดเผยความรู้สำคัญนี้แก่เหล่าสาวก. พระองค์ทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่พวกเขา. (อ่านลูกา 10:22) เหตุใดพระเยซูทรงสามารถเปิดเผยเรื่องพระบิดาอย่างที่ไม่มีใครทำได้เหมือนพระองค์? พระเยซูทรงทำเช่นนั้นอย่างไร? และเราจะทำตามแบบอย่างของพระเยซูในการเปิดเผยเรื่องพระบิดาให้คนอื่น ๆ รู้ได้อย่างไร? ให้เรามาพิจารณาคำถามเหล่านี้ด้วยกัน.
พระเยซูคริสต์ผู้มีคุณสมบัติเหนือกว่าใคร
4, 5. เหตุใดพระเยซูจึงอยู่ในฐานะที่เหมาะกว่าใคร ๆ ที่จะเปิดเผยเรื่องพระบิดา?
4 พระเยซูทรงมีคุณสมบัติเหมาะเป็นพิเศษที่จะเปิดเผยเรื่องพระบิดา. เพราะเหตุใด? เพราะก่อนที่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทุกชนิดจะถูกสร้าง กายวิญญาณผู้นี้ซึ่งภายหลังได้มาเป็นมนุษย์ที่ชื่อเยซูดำรงอยู่แล้วในสวรรค์ในฐานะ “พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า.” (โย. 1:14; 3:18) ช่างเป็นฐานะพิเศษที่ไม่มีใครเสมอเหมือนจริง ๆ! ตอนที่ยังไม่มีสิ่งทรงสร้างอื่น พระบุตรทรงปลาบปลื้มยินดีและรู้สึกอบอุ่นที่พระบิดาทรงสนพระทัยในตัวพระองค์ และทรงเรียนรู้จักพระบิดาตลอดจนคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระองค์. พระบิดาและพระบุตรคงได้สนทนากันอย่างมากมาย และพัฒนาความรักใคร่อย่างลึกซึ้งตลอดช่วงเวลาอันนานแสนนาน. (โย. 5:20; 14:31) พระบุตรคงต้องมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับบุคลิกภาพของพระบิดาอย่างมากมายเลยทีเดียว!—อ่านโกโลซาย 1:15-17
5 พระบิดาทรงแต่งตั้งพระบุตรให้เป็น “พระวาทะของพระเจ้า” หรือโฆษกของพระองค์. (วิ. 19:13) ด้วยเหตุนั้น พระเยซูทรงอยู่ในฐานะที่เหมาะสมกว่าใคร ๆ ที่จะเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ. จึงเหมาะสมที่โยฮันผู้เขียนหนังสือกิตติคุณพรรณนาพระเยซูว่าเป็น “พระวาทะ” ผู้ “สถิตที่พระทรวงของพระบิดา.” (โย. 1:1, 18) สำนวนที่โยฮันใช้นี้พาดพิงถึงธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันโดยทั่วไปในสมัยของท่านตอนรับประทานอาหาร. แขกคนหนึ่งจะเอนกายอยู่ด้านหน้าอีกคนหนึ่งบนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน. โดยที่อยู่ใกล้ชิดกันอย่างนี้ ทั้งสองคนจึงสามารถสนทนากันได้ง่าย. ดังนั้น เนื่องจากพระบุตร “สถิตที่พระทรวง” พระองค์จึงสามารถสนทนาอย่างสนิทสนมกับพระบิดาได้.
6, 7. สายสัมพันธ์ระหว่างพระบิดากับพระบุตรแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยวิธีใด?
6 สายสัมพันธ์ระหว่างพระบิดากับพระบุตรแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ. ตามที่กล่าวไว้ในสุภาษิต 8:30 (ล.ม.) พระบุตร “ทำให้ [พระเจ้า] สำราญพระทัยทุกวัน.” (อ่านสุภาษิต 8:22, 23, 30, 31) ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสมเหตุผลที่สายสัมพันธ์ระหว่างพระบิดากับพระบุตรจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทั้งสองทำงานด้วยกันและพระบุตรเลียนแบบคุณลักษณะของพระบิดา. เมื่อสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาอื่น ๆ ถูกสร้างขึ้น พระบุตรทรงเห็นวิธีที่พระยะโฮวาทรงปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเป็นรายบุคคล และนั่นย่อมทำให้พระองค์ประทับใจบุคลิกภาพของพระเจ้ามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน.
7 แม้แต่ข้อท้าทายที่ซาตานยกขึ้นมาในเวลาต่อมาเพื่อโจมตีสิทธิในการปกครองของพระยะโฮวาก็ทำให้พระบุตรมีโอกาสเรียนรู้วิธีที่พระยะโฮวาแสดงความรัก ความยุติธรรม สติปัญญา และอำนาจเมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ยุ่งยาก. แน่นอน นั่นช่วยเตรียมพระบุตรไว้ให้พร้อมเพื่อรับมือปัญหาต่าง ๆ ที่พระองค์เองประสบในเวลาต่อมาเมื่อทรงรับใช้บนแผ่นดินโลก.—โย. 5:19
8. บันทึกในหนังสือกิตติคุณช่วยเราอย่างไรให้เรียนรู้ได้มากเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ของพระบิดา?
8 เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระยะโฮวา พระบุตรจึงทรงอธิบายเกี่ยวกับพระบิดาได้อย่างละเอียดยิ่งกว่าใคร ๆ. ยังจะมีวิธีใดอีกหรือที่เราจะรู้จักพระบิดาได้ดียิ่งไปกว่าการพิจารณาสิ่งที่พระบุตรองค์เดียวทรงสอนและทำ? ยกตัวอย่างเช่น เราจะเข้าใจความหมายของคำว่า “ความรัก” ได้อย่างเต็มที่ไหมโดยเพียงแต่อ่านคำนิยามในพจนานุกรม? แต่ถ้าเราใคร่ครวญเรื่องราวเกี่ยวกับงานรับใช้ของพระเยซูและวิธีที่พระองค์ทรงดูแลผู้อื่นซึ่งผู้เขียนหนังสือกิตติคุณบันทึกไว้อย่างชัดเจน เราก็จะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งว่าถ้อยคำที่ว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก” นั้นหมายถึงอะไรจริง ๆ. (1 โย. 4:8, 16) เป็นเช่นนั้นด้วยกับคุณลักษณะอื่น ๆ ของพระเจ้าที่พระเยซูทรงเปิดเผยแก่เหล่าสาวกขณะที่ทรงอยู่บนแผ่นดินโลก.
วิธีที่พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดา
9. (ก) พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาด้วยสองวิธีหลัก ๆ อะไร? (ข) พระเยซูทรงใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบอะไรเพื่อเปิดเผยเรื่องพระบิดา?
9 พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่เหล่าสาวกและคนที่จะมาเป็นสาวกของพระองค์ในภายหลังอย่างไร? พระองค์ทรงทำอย่างนั้นด้วยสองวิธีหลัก ๆ คือโดยคำสอนและการกระทำของพระองค์. ก่อนอื่น ให้เรามาพิจารณาคำสอนของพระเยซู. สิ่งที่พระเยซูทรงสอนเหล่าสาวกเผยให้เห็นว่าพระองค์ทรงเข้าใจความคิด ความรู้สึก และแนวทางของพระบิดาอย่างลึกซึ้ง. ตัวอย่างเช่น พระเยซูทรงเปรียบพระบิดากับเจ้าของฝูงแกะผู้เปี่ยมด้วยความรักซึ่งออกไปตามหาแกะตัวหนึ่งที่หลงหาย. พระเยซูตรัสว่าเมื่อเจ้าของพบแกะที่หายไป เขา “ชื่นชมยินดีที่พบแกะตัวนั้นยิ่งกว่าที่มีแกะเก้าสิบเก้าตัวที่ไม่ได้หลงหายเสียอีก.” เราอาจสรุปอะไรได้จากตัวอย่างเปรียบเทียบนี้? พระเยซูทรงอธิบายว่า “เช่นนั้นแหละ พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ก็มิได้ปรารถนาให้ผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนเดียวพินาศเลย.” (มัด. 18:12-14) คุณเรียนอะไรได้เกี่ยวกับพระยะโฮวาจากตัวอย่างเปรียบเทียบนี้? แม้ว่าบางครั้งคุณรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยมีค่าและถูกลืม แต่พระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์ทรงสนพระทัยและห่วงใยคุณ. ในสายพระเนตรพระองค์ คุณเป็นคนหนึ่งใน “ผู้เล็กน้อยเหล่านี้.”
10. พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาด้วยการกระทำของพระองค์เองอย่างไร?
10 วิธีที่สองที่พระเยซูทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่เหล่าสาวกก็คือโดยการกระทำของพระองค์. ดังนั้น เมื่ออัครสาวกฟิลิปถามพระเยซูว่า “ขอทรงโปรดให้พวกข้าพเจ้าได้เห็นพระบิดา” พระเยซูจึงสามารถตอบได้อย่างถูกต้องว่า “ผู้ที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดาด้วย.” (โย. 14:8, 9) ขอให้พิจารณาบางตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีที่พระเยซูทรงแสดงให้เห็นคุณลักษณะของพระบิดา. เมื่อคนโรคเรื้อนคนหนึ่งขอให้พระเยซูรักษาเขา พระเยซูทรงแตะตัวชายผู้นี้ซึ่ง “เป็นโรคเรื้อนทั้งตัว” และบอกเขาว่า “เราต้องการ. จงหายโรคเถิด.” เมื่อได้รับการรักษาให้หาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนโรคเรื้อนนี้เห็นอำนาจของพระยะโฮวาได้จากสิ่งที่พระเยซูทรงทำ. (ลูกา 5:12, 13) นอกจากนั้น ตอนที่ลาซะโรเสียชีวิต เหล่าสาวกคงต้องรู้สึกถึงความเมตตากรุณาของพระบิดาเมื่อพระเยซู “สะเทือนพระทัยและเป็นทุกข์” และ “ทรงกันแสง.” ทั้ง ๆ ที่พระเยซูกำลังจะไปปลุกลาซะโรให้เป็นขึ้นจากตาย แต่พระองค์ทรงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับบรรดาญาติมิตรของลาซะโร. (โย. 11:32-35, 40-43) คงมีบางเรื่องที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการกระทำของพระเยซูที่คุณชอบเป็นพิเศษซึ่งช่วยคุณให้เห็นความเมตตาของพระบิดา.
11. (ก) เมื่อพระเยซูชำระพระวิหาร พระองค์ทรงเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับพระบิดา? (ข) เหตุใดบันทึกเกี่ยวกับการที่พระเยซูทรงชำระพระวิหารทำให้เรารู้สึกมั่นใจ?
11 อย่างไรก็ตาม คุณเรียนรู้อะไรจากการที่พระเยซูทรงชำระพระวิหาร? ขอให้นึกภาพฉากเหตุการณ์ต่อไปนี้: พระเยซูทรงเอาเชือกมาทำเป็นแส้แล้วไล่คนเหล่านั้นที่ขายวัวและแกะ. พระองค์ทรงเทเงินเหรียญของพวกคนรับแลกเงินและคว่ำโต๊ะของพวกเขา. (โย. 2:13-17) การกระทำที่หนักแน่นเช่นนี้ทำให้เหล่าสาวกนึกถึงคำพยากรณ์ของกษัตริย์ดาวิด ที่ว่า “ใจเร่าร้อนรักพระวิหารของพระองค์นั้นเผาข้าพเจ้าจนเกรียมไป.” (เพลง. 69:9) ด้วยการลงมือทำอย่างเด็ดขาดเช่นนั้น พระเยซูทรงแสดงให้เห็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะปกป้องการนมัสการแท้. คุณเห็นบุคลิกภาพของพระบิดาจากเรื่องนี้ไหม? เรื่องนี้เตือนใจเราว่าพระเจ้าไม่เพียงแต่มีอำนาจที่ไม่จำกัดในการกวาดล้างความชั่วจากแผ่นดินโลกเท่านั้น แต่พระองค์ยังมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะทำอย่างนั้นด้วย. เรื่องราวที่พรรณนาปฏิกิริยาที่หนักแน่นของพระเยซูต่อการกระทำผิดนี้เผยให้เห็นว่าพระบิดาคงต้องรู้สึกอย่างไรขณะที่พระองค์ทรงเห็นความชั่วที่มีอยู่แพร่หลายในโลกทุกวันนี้. นั่นทำให้เรารู้สึกมั่นใจจริง ๆ เมื่อต้องรับมือความไม่ยุติธรรม!
12, 13. คุณเรียนอะไรได้เกี่ยวกับพระยะโฮวาจากวิธีที่พระเยซูทรงปฏิบัติต่อเหล่าสาวก?
12 ให้เราพิจารณาอีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นวิธีที่พระเยซูทรงปฏิบัติต่อเหล่าสาวก. พวกเขาเถียงกันอยู่เรื่อย ๆ ว่าใครเป็นใหญ่กว่าใคร. (มโก. 9:33-35; 10:43; ลูกา 9:46) จากประสบการณ์อันยาวนานที่พระเยซูทรงมีกับพระบิดา พระองค์รู้ว่าพระยะโฮวาทรงรู้สึกอย่างไรในเรื่องความหยิ่ง. (2 ซามู. 22:28; เพลง. 138:6) นอกจากนั้น พระเยซูทรงเห็นแนวโน้มเช่นนั้นอย่างชัดเจนในตัวซาตานพญามาร. กายวิญญาณที่เห็นแก่ตัวผู้นี้เป็นห่วงอย่างยิ่งในเรื่องความเด่นดังและตำแหน่ง. ด้วยเหตุนั้น พระเยซูคงต้องรู้สึกเศร้าพระทัยสักเพียงไรที่เห็นว่าเหล่าสาวกที่พระองค์ทรงฝึกอบรมยังคงมีความทะเยอทะยาน! แม้แต่ในกลุ่มคนที่พระองค์ทรงเลือกให้เป็นอัครสาวกก็ยังมีน้ำใจนี้ให้เห็น! พวกเขาแสดงความทะเยอทะยานจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตพระเยซูบนแผ่นดินโลก. (ลูกา 22:24-27) ถึงกระนั้น พระเยซูทรงพยายามแก้ไขพวกเขาด้วยความกรุณาต่อ ๆ ไป โดยไม่เลิกหวังว่าในที่สุดพวกเขาจะเรียนรู้และแสดงความถ่อมใจเช่นเดียวกับพระองค์.—ฟิลิป. 2:5-8
13 คุณเห็นบุคลิกภาพของพระยะโฮวาจากวิธีที่พระเยซูทรงแก้ไขนิสัยที่ไม่ถูกต้องของเหล่าสาวกด้วยความอดทนไหม? จากการกระทำและคำพูดของพระเยซู คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระบิดาผู้ไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์แม้ว่าพวกเขาพลาดพลั้งทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่าไหม? เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าทรงมีคุณลักษณะเช่นนั้น เราคงถูกกระตุ้นให้กลับใจและอธิษฐานขอพระองค์ทรงให้อภัยเมื่อเราพลาดพลั้งทำผิดมิใช่หรือ?
พระบุตรทรงประสงค์ จะเปิดเผยเรื่องพระบิดา
14. พระเยซูทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าทรงประสงค์จะเปิดเผยเรื่องพระบิดา?
14 ผู้ปกครองเผด็จการหลายคนพยายามกดประชาชนไว้ให้อยู่ใต้อำนาจของตนและปกปิดข้อมูลที่พวกเขาควรรู้. ตรงกันข้าม พระเยซูทรงประสงค์จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระบิดา และพระองค์ทรงเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ อย่างเต็มที่. (อ่านมัดธาย 11:27) นอกจากนั้น พระเยซูประทาน “ความเข้าใจแก่ [เหล่าสาวก] เพื่อ [พวกเขา] จะรู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้.” (1 โย. 5:20) นั่นหมายความอย่างไร? พระเยซูทรงช่วยเหล่าสาวกให้เข้าใจสิ่งที่พระองค์สอนเกี่ยวกับพระบิดา. พระองค์ไม่ทรงปิดซ่อนเรื่องพระบิดาไว้ด้วยคำสอนที่ลึกลับและคลุมเครือ เช่น คำสอนที่ว่าพระบิดาเป็นส่วนหนึ่งของตรีเอกานุภาพที่ไม่อาจเข้าใจได้.
15. เหตุใดพระเยซูไม่ได้บอกบางเรื่องเกี่ยวกับพระบิดา?
15 พระเยซูทรงเปิดเผยทุกเรื่องที่พระองค์ทรงรู้เกี่ยวกับพระบิดาไหม? ไม่ พระองค์ไม่ได้บอกหลายเรื่องที่พระองค์รู้. (อ่านโยฮัน 16:12) เพราะเหตุใด? เพราะในเวลานั้นเหล่าสาวก “ยังไม่อาจเข้าใจ” เรื่องเหล่านั้นได้. แต่ดังที่พระเยซูทรงอธิบาย มีความรู้มากมายที่จะถูกเปิดเผยเมื่อ “ผู้ช่วย” คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ มาถึง ซึ่งจะช่วยพวกเขาให้ “เข้าใจความจริงทั้งหมด.” (โย. 16:7, 13) เช่นเดียวกับบิดามารดาที่สุขุมไม่บอกบางเรื่องแก่บุตรจนกว่าพวกเขาจะโตพอที่จะเข้าใจ พระเยซูก็ทรงรอจนกระทั่งเหล่าสาวกเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณและสามารถเข้าใจข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับพระบิดา. พระเยซูทรงคำนึงถึงข้อจำกัดของพวกเขาด้วยความกรุณา.
จงเลียนแบบพระเยซูด้วยการช่วยคนอื่น ๆ ให้รู้จักพระยะโฮวา
16, 17. เหตุใดคุณจึงสามารถเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ?
16 เมื่อคุณรู้จักใครคนหนึ่งเป็นอย่างดีและชื่นชมบุคลิกภาพที่น่ารักของเขา คุณอยากจะเล่าเรื่องของเขาให้คนอื่น ๆ ฟังมิใช่หรือ? เมื่ออยู่บนแผ่นดินโลก พระเยซูทรงพูดถึงเรื่องพระบิดา. (โย. 17:25, 26) เป็นไปได้ไหมที่เราจะเลียนแบบพระองค์ในการเปิดเผยเรื่องพระยะโฮวาแก่คนอื่น ๆ?
17 ดังที่เราได้พิจารณาไปแล้ว พระเยซูทรงรู้เรื่องพระบิดาอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าใคร ๆ. ถึงกระนั้น พระองค์ทรงประสงค์จะบอกบางเรื่องที่พระองค์ทรงรู้ และถึงกับประทานความสามารถที่จะเข้าใจแง่มุมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบุคลิกภาพของพระเจ้าแก่เหล่าสาวก. ด้วยความช่วยเหลือจากพระเยซู เราจึงได้มาเข้าใจพระบิดาอย่างที่ผู้คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ไม่เข้าใจ. เรารู้สึกขอบคุณสักเพียงไรที่พระเยซูทรงประสงค์จะเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่เราโดยทางคำสอนและการกระทำของพระองค์! ที่จริง เราอาจอวดได้อย่างเหมาะสมที่เรารู้จักพระบิดา. (ยิระ. 9:24; 1 โค. 1:31) เมื่อเราพยายามเข้าไปใกล้พระยะโฮวา พระองค์ก็ทรงเข้ามาใกล้พวกเรา. (ยโก. 4:8) ด้วยเหตุนั้น ตอนนี้เราจึงสามารถเปิดเผยเรื่องพระยะโฮวาแก่คนอื่น ๆ. เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
18, 19. คุณจะเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ ได้โดยวิธีใด? จงอธิบาย.
18 เราจำเป็นต้องเลียนแบบพระเยซูโดยเปิดเผยเรื่องพระบิดาด้วยคำพูดและการกระทำของเรา. อย่าลืมว่าหลายคนที่เราพบในเขตประกาศไม่รู้ว่าใครคือพระเจ้า. คำสอนเท็จอาจทำให้พวกเขามีทัศนะผิด ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า. เราอาจบอกเรื่องที่เรารู้แก่พวกเขาเกี่ยวกับพระนามของพระเจ้า พระประสงค์สำหรับมนุษย์ และบุคลิกภาพของพระองค์ตามที่เปิดเผยไว้ในคัมภีร์ไบเบิล. นอกจากนั้น เรื่องราวบางเรื่องในคัมภีร์ไบเบิลช่วยให้เราเข้าใจบุคลิกภาพของพระเจ้าในแง่ที่เราไม่เคยเข้าใจมาก่อน. เราสามารถพูดคุยเรื่องที่เราได้เรียนรู้กับคนอื่น ๆ ในประชาคม ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ด้วย.
19 เราควรเลียนแบบพระเยซูและเปิดเผยเรื่องพระบิดาด้วยการกระทำของเรา. เมื่อผู้คนเห็นความรักของพระคริสต์จากการกระทำของเรา พวกเขาก็จะถูกชักนำให้มาหาพระบิดาและพระเยซู. (เอเฟ. 5:1, 2) อัครสาวกเปาโลสนับสนุนเราให้ ‘เป็นผู้เลียนแบบท่านเหมือนที่ท่านเป็นผู้เลียนแบบพระคริสต์.’ (1 โค. 11:1) นับเป็นสิทธิพิเศษอันยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่เราได้ช่วยผู้คนให้รู้จักพระยะโฮวาโดยการกระทำของเรา! ใช่แล้ว ขอให้เราทุกคนเลียนแบบพระเยซูต่อ ๆ ไปด้วยการเปิดเผยเรื่องพระบิดาแก่คนอื่น ๆ.