บท 47
เรารู้ได้อย่างไรว่าอาร์มาเก็ดดอนมาใกล้แล้ว?
ลูกรู้แล้วใช่ไหมว่าเครื่องหมายคืออะไร?— ในบท 46 เราอ่านเกี่ยวกับเครื่องหมายหรือหมายสำคัญที่พระเจ้าให้ไว้เพื่อพระองค์จะไม่ทำลายโลกโดยให้น้ำท่วมอีก. นอกจากนี้ พวกอัครสาวกยังถามถึงเรื่องหมายสำคัญ เพื่อพวกเขาจะรู้เวลาที่พระเยซูจะเสด็จกลับมาและเวลาอวสานของโลก หรืออวสานของระบบนี้มาใกล้แล้ว.—มัดธาย 24:3, ล.ม.
เนื่องจากพระเยซูไม่มีร่างกายที่มองเห็นได้เมื่ออยู่ในสวรรค์ เครื่องหมายที่ผู้คนเห็นได้จึงนับว่าจำเป็นเพื่อจะแสดงว่าพระองค์ได้เริ่มปกครองแล้ว. ดังนั้น พระเยซูได้บอกสาวกของพระองค์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ บนแผ่นดินโลกนี้ที่พวกเขาควรเฝ้าดู. เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น นั่นย่อมหมายความว่าพระองค์เสด็จกลับมาแล้ว และได้เริ่มปกครองเป็นกษัตริย์ทางภาคสวรรค์.
เพื่อสอนสาวกของพระองค์เกี่ยวกับความสำคัญของการเฝ้าระวังอยู่เสมอ พระเยซูตรัสแก่เขาว่า “จงดูต้นมะเดื่อเทศและต้นไม้ทั้งปวงเถิด เมื่อผลิใบออกแล้ว ท่านทั้งหลายก็เห็น และรู้อยู่เองว่าฤดูร้อนจวนจะถึงแล้ว.” ลูกรู้ว่าเมื่อไรที่ลูกจะบอกได้ว่าใกล้จะถึงฤดูร้อนแล้ว. และลูกก็จะบอกได้ว่าเมื่อไรที่อาร์มาเก็ดดอนใกล้เข้ามาแล้ว ถ้าลูกเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นตามที่พระเยซูได้ตรัสไว้.—ลูกา 21:29, 30.
หน้านี้ และหน้าถัดไป เราจะดูภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งพระเยซูตรัสว่าจะเป็นส่วนของหมายสำคัญที่แสดงว่าราชอาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว. เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้เกิดขึ้น ราชอาณาจักรของพระเจ้าพร้อมด้วยพระคริสต์ในฐานะผู้ปกครองจะทำลายรัฐบาลอื่น ๆ ทั้งสิ้นให้ย่อยยับ ดังที่เราได้อ่านในบท 46.
ดังนั้น ขอให้ดูภาพในสองหน้าก่อนให้ถี่ถ้วน และเราจะพูดคุยกันถึงภาพเหล่านี้. ลูกจะอ่านเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกเห็นในภาพเหล่านี้ได้ที่มัดธาย 24:6-14 และลูกา 21:9-11. นอกจากนั้น ขอให้สังเกตตัวเลขเล็ก ๆ ในแต่ละภาพ. ลูกจะเห็นตัวเลขเดียวกันนี้อยู่ข้างหน้าวรรคที่อธิบายภาพนั้น. ตอนนี้ให้เรามาดูว่า หลายส่วนของหมายสำคัญที่พระเยซูบอกไว้กำลังสำเร็จเป็นจริงหรือไม่ในปัจจุบันนี้.
(1) พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงการสงครามและข่าวเล่าลือถึงการสงครามนั้น . . . จะเกิดการโกลาหลในระหว่างประเทศต่อประเทศ, อาณาจักรต่ออาณาจักร.” ลูกเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงครามไหม?— สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918 ครั้นแล้วก็มีสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1945. ไม่เคยมีสงครามโลกเกิดขึ้นมาก่อน! บัดนี้มีสงครามเกิดขึ้นทั่วโลก. ดูเหมือนว่า ทุกวันเราได้ยินหรือได้อ่านข่าวเกี่ยวกับสงครามทั้งทางโทรทัศน์, วิทยุ, และในหนังสือพิมพ์.
(2) พระเยซูยังตรัสอีกว่า “ทั้งจะเกิดกันดารอาหาร . . . หลายแห่ง.” ดังที่ลูกคงจะรู้ ไม่ใช่ทุกคนมีอาหารพอกิน. ทุกวันมีหลายพันคนเสียชีวิตเพราะพวกเขาไม่มีอาหารเพียงพอ.
(3) พระเยซูเสริมว่า ‘จะมีโรคระบาดแห่งแล้วแห่งเล่า.’ ลูกรู้ไหมว่าโรคระบาดคืออะไร?— คือความเจ็บป่วยหรือโรคภัยที่ทำให้ผู้คนมากมายเสียชีวิต. โรคระบาดใหญ่อย่างหนึ่งที่เรียกว่าไข้หวัดใหญ่สเปน ทำให้ผู้คนประมาณ 20 ล้านคนเสียชีวิตภายในเวลาเพียงหนึ่งปีหรือราว ๆ นั้น. ในสมัยของเรา มีผู้คนมากกว่านั้นที่อาจตายเพราะโรคเอดส์. และก็มีโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, และความเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตหลายพันคนทุกปี.
(4) พระเยซูกล่าวถึงอีกส่วนหนึ่งของหมายสำคัญ โดยตรัสว่า ‘จะเกิดแผ่นดินไหวหลายแห่ง.’ ลูกรู้ไหมว่าแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร?— แผ่นดินไหวทำให้พื้นดินที่ลูกเหยียบอยู่นี้สั่นสะเทือน. บ้านพังทลาย และมักจะทำให้ผู้คนเสียชีวิต. ตั้งแต่ปี 1914 เป็นต้นมา มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายแห่งทุกปี. ลูกเคยได้ยินเรื่องแผ่นดินไหวไหม?—
(5) พระเยซูตรัสว่าอีกส่วนหนึ่งของหมายสำคัญก็คือ “ความชั่วทวีขึ้น.” นั่นเป็นเหตุที่มีการลักขโมยและความรุนแรงมากมาย. ผู้คนทุกหนแห่งกลัวว่า อาจมีคนพยายามจะเข้ามาขโมยของในบ้านของตน. ไม่เคยมีอาชญากรรมและความรุนแรงในทุกส่วนของโลกมากเท่ากับที่เกิดขึ้นในเวลานี้.
(6) พระเยซูกล่าวถึงอีกส่วนหนึ่งของหมายสำคัญซึ่งสำคัญมาก เมื่อพระองค์ตรัสว่า “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรนี้จะได้รับการประกาศทั่วทั้งแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ; และครั้นแล้วอวสานจะมาถึง.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) ถ้าลูกเชื่อ ‘ข่าวดีนี้’ ลูกก็ควรจะพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ๆ. โดยวิธีนี้ลูกสามารถมีส่วนร่วมในความสำเร็จของหมายสำคัญส่วนนี้.
บางคนอาจพูดว่า สิ่งที่พระเยซูบอกล่วงหน้านี้ได้เกิดขึ้นเสมอ. แต่ก็ไม่เคยมีมาก่อนที่ว่า ทุก สิ่งที่กล่าวมานั้นได้เกิดขึ้นในหลายส่วนของโลกและในเวลาพร้อม ๆ กัน. ดังนั้น ลูกเข้าใจไหมว่าหมายสำคัญนั้นหมายความอย่างไร?— หมายความว่า เมื่อเราเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น นั่นแสดงว่า อีกไม่ช้าโลกใหม่ของพระเจ้าจะเข้ามาแทนที่โลกชั่วนี้.
เมื่อพระเยซูตรัสเรื่องหมายสำคัญนี้ พระองค์ยังได้ตรัสถึงฤดูหนึ่งโดยเฉพาะอีกด้วย. พระองค์ตรัสว่า “จงอธิษฐานขอเพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ได้ตกในฤดูหนาว.” (มัดธาย 24:20) ลูกคิดว่า พระองค์หมายความอย่างไรเมื่อตรัสเช่นนั้น?—
เอาล่ะ ถ้าใครคนหนึ่งต้องหนีภัยพิบัติบางอย่างในช่วงฤดูหนาว ซึ่งสภาพอากาศอาจทำให้เดินทางลำบากมากหรือถึงกับมีอันตรายด้วยซ้ำ อะไรอาจเกิดขึ้นได้?— ถ้าเขาหนีรอดได้จริง ๆ ก็คงจะเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก. คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใช่ไหม ถ้าบางคนต้องตายในพายุฤดูหนาว เพียงเพราะเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำสิ่งอื่น ๆ จนไม่ได้ออกเดินทางไปก่อนหน้านี้?—
ลูกเข้าใจที่พระเยซูตรัสไหม เมื่อพระองค์บอกว่าอย่ารอจนถึงฤดูหนาวแล้วค่อยหนี?— พระองค์กำลังบอกพวกเราว่า เนื่องจากเรารู้ว่าอาร์มาเก็ดดอนมาใกล้แล้ว เราไม่ต้องการรีรอชักช้าในการพิสูจน์ว่าเรารักพระเจ้าด้วยการรับใช้พระองค์. ถ้าเราชักช้า นั่นอาจสายเกินไปสำหรับเรา. เช่นนั้นแล้ว เราก็คงเป็นเหมือนคนเหล่านั้นซึ่งอยู่ในสมัยที่เกิดมหาอุทกภัย ผู้ซึ่งได้ยินคำเตือนของโนฮา แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในนาวา.
ต่อจากนี้ ให้เรามาพูดคุยกันถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อสงครามวันใหญ่แห่งอาร์มาเก็ดดอนสิ้นสุดลงแล้ว. เราจะเรียนรู้ว่าพระเจ้าจัดเตรียมอะไรไว้สำหรับพวกเราทุกคนซึ่งรักและรับใช้พระองค์ในขณะนี้.
ข้อคัมภีร์อื่น ๆ ที่แสดงว่าอาร์มาเก็ดดอนมาใกล้แล้วมีดังต่อไปนี้: 2 ติโมเธียว 3:1-5 และ 2 เปโตร 3:3, 4.