บทสิบ
ราชอาณาจักร “ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย”
1. เหตุการณ์ของโลกตลอดประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์เน้นถึงข้อเท็จจริงอะไร?
เหตุการณ์ของโลกในแต่ละวันเน้นข้อเท็จจริงที่ว่ามนุษย์ไม่ได้พบความสุขเมื่อปฏิเสธพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาและพยายามจะปกครองตนเอง. ไม่มีระบอบการปกครองใดของมนุษย์ที่ได้นำผลประโยชน์มาสู่มนุษยชาติโดยถ้วนหน้า. ถึงแม้ว่ามนุษย์ได้พัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปถึงขอบเขตที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะความเจ็บป่วยหรือยุติความตายได้ แม้แต่สำหรับคนคนเดียว. การปกครองของมนุษย์ไม่ได้ขจัดสงคราม, ความรุนแรง, อาชญากรรม, การฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือความยากจน. บรรดารัฐบาลที่กดขี่ยังคงมีอำนาจเหนือผู้คนในหลายดินแดน. (ท่านผู้ประกาศ 8:9) เทคโนโลยี, ความละโมบ และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ล้วนทำให้เกิดมลพิษบนแผ่นดิน, น้ำ, และอากาศ. การจัดการอย่างผิด ๆ ด้านเศรษฐกิจโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำให้ยากสำหรับหลายคนที่จะได้รับสิ่งจำเป็นในชีวิต. การปกครองตลอดหลายพันปีของมนุษย์ทำให้เห็นได้ชัดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า “ทางที่มนุษย์จะไปนั้นไม่ได้อยู่ในตัวของตัว, ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.”—ยิระมะยา 10:23.
2. อะไรคือทางแก้ทางเดียวสำหรับปัญหาของมนุษยชาติ?
2 อะไรคือทางแก้? ราชอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งพระเยซูได้สอนเหล่าผู้ติดตามของพระองค์ให้อธิษฐานขอดังนี้: “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่. พระทัยของพระองค์สำเร็จในสวรรค์อย่างไร, ก็ให้สำเร็จในแผ่นดินโลกเหมือนกัน.” (มัดธาย 6:9, 10) ราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้าได้รับการพรรณนาไว้ที่ 2 เปโตร 3:13 (ล.ม.) ว่าเป็น “ฟ้าสวรรค์ใหม่” ซึ่งจะปกครองเหนือ “แผ่นดินโลกใหม่” ซึ่งก็คือสังคมมนุษย์ที่ชอบธรรม. ราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้ามีความสำคัญถึงขนาดที่พระเยซูทรงมุ่งเน้นเรื่องนี้ในการประกาศของพระองค์. (มัดธาย 4:17) พระองค์แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้น่าจะมีความสำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิตของเราโดยกระตุ้นเตือนว่า “จงแสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนเสมอไป.”—มัดธาย 6:33, ล.ม.
3. เหตุใดการเรียนรู้เรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้?
3 การเรียนรู้เรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้ เพราะในไม่ช้าราชอาณาจักรนั้นจะลงมือเปลี่ยนแปลงการปกครองบนแผ่นดินโลกนี้ตลอดกาล. ดานิเอล 2:44 (ล.ม.) บอกล่วงหน้าว่า “ในสมัยของกษัตริย์เหล่านั้น [รัฐบาลต่าง ๆ ที่ปกครองอยู่ในเวลานี้] พระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรหนึ่งขึ้น [ในสวรรค์] ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย. และอาณาจักรนี้จะไม่ถูกยกแก่ชนชาติอื่นใด [มนุษย์จะไม่มีวันได้ปกครองแผ่นดินโลกอีก]. อาณาจักรนี้จะบดขยี้อาณาจักรทั้งปวงนั้น [ในปัจจุบัน] และทำให้สิ้นไป และอาณาจักรนี้จะคงอยู่จนเวลาไม่กำหนด.” ด้วยเหตุนั้น ราชอาณาจักรนี้จะทำให้ยุคสุดท้ายสิ้นสุดลงโดยการทำลายระบบชั่วทั้งสิ้น. ครั้นแล้วการปกครองแผ่นดินโลกโดยทางราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์จะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครโต้แย้งได้. เราน่าจะรู้สึกขอบพระคุณสักเพียงไรสำหรับการปลดเปลื้องที่จะมีมาโดยทางราชอาณาจักรซึ่งบัดนี้จวนจะถึงอยู่แล้ว!
4. เกี่ยวกับราชอาณาจักรนั้น มีอะไรเกิดขึ้นในสวรรค์เมื่อปี 1914 และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อเรา?
4 ในปี 1914 พระคริสต์เยซูได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ และได้รับมอบอำนาจให้ “ออกไปปราบปรามท่ามกลางศัตรูของ [พระองค์].” (บทเพลงสรรเสริญ 110:1, 2, ล.ม.) นอกจากนั้น ในปีนั้นเองที่ “ยุคสุดท้าย” แห่งระบบชั่วในปัจจุบันได้เริ่มขึ้น. (2 ติโมเธียว 3:1-5, 13) ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ดานิเอลได้เห็นในนิมิตเชิงพยากรณ์ก็ได้เกิดขึ้นจริงในสวรรค์. พระยะโฮวาพระเจ้า “ผู้ทรงพระชนม์แต่เบื้องบรรพ์” ได้มอบ “ราชอำนาจและศักดิ์ศรีและราชอาณาจักร” แก่บุตรมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ “เพื่อบรรดาชนชาติ, ประชาชาติทั้งปวง, และภาษาทั้งหลายจะปรนนิบัติท่าน.” ดานิเอลเขียนเกี่ยวกับนิมิตนั้นว่า “การปกครองของท่านเป็นการปกครองที่ดำรงอยู่ตลอดกาลซึ่งจะไม่สิ้นสุด และราชอาณาจักรของท่านเป็นราชอาณาจักรซึ่งจะไม่ถูกทำลาย.” (ดานิเอล 7:13, 14, ล.ม.) โดยทางราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ในพระหัตถ์ของพระคริสต์เยซูนี้เองที่พระเจ้าจะช่วยบรรดาผู้รักความชอบธรรมให้ได้ประสบสิ่งดีต่าง ๆ มากมายจนนับไม่ถ้วนซึ่งพระองค์ทรงประสงค์ไว้คราวที่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์คู่แรกในอุทยาน.
5. มีรายละเอียดอะไรบ้างเกี่ยวกับราชอาณาจักรที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเรา และเพราะเหตุใด?
5 คุณปรารถนาจะเป็นพลเมืองที่ภักดีต่อราชอาณาจักรนี้ไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณก็คงจะสนใจเป็นอย่างยิ่งในเรื่องโครงสร้างและการดำเนินงานของรัฐบาลทางภาคสวรรค์นี้. คุณคงอยากจะรู้ว่ารัฐบาลนั้นกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้, รัฐบาลนั้นจะบรรลุผลอะไรในอนาคต, และมีข้อเรียกร้องอะไรสำหรับคุณ. ขณะที่คุณตรวจสอบราชอาณาจักรนี้อย่างละเอียด ความหยั่งรู้ค่าของคุณต่อราชอาณาจักรนั้นน่าจะเพิ่มพูนขึ้น. ถ้าคุณตอบรับการปกครองของราชอาณาจักรนั้น คุณจะพร้อมยิ่งขึ้นที่จะบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งน่าพิศวงต่าง ๆ ที่ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำเพื่อมนุษยชาติที่เชื่อฟัง.—บทเพลงสรรเสริญ 48:12, 13.
ผู้ปกครองแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า
6. (ก) พระคัมภีร์แสดงอย่างไรว่า พระบรมเดชานุภาพของใครที่ได้สำแดงออกโดยทางราชอาณาจักรมาซีฮา? (ข) สิ่งที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับราชอาณาจักรน่าจะส่งผลกระทบต่อเราอย่างไร?
6 หนึ่งในสิ่งแรก ๆ ที่การตรวจสอบเช่นนั้นเผยให้เห็นก็คือ ราชอาณาจักรมาซีฮาเป็นการแสดงถึงพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาเอง. พระยะโฮวาทรงเป็นผู้ที่ประทาน “ราชอำนาจและศักดิ์ศรีและราชอาณาจักร” แก่พระบุตรของพระองค์. หลังจากที่พระบุตรของพระเจ้าได้รับอำนาจให้เริ่มปกครองในฐานะกษัตริย์ ก็มีเสียงในสวรรค์ประกาศอย่างเหมาะสมว่า “อาณาจักรของโลกได้กลายเป็นราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า [พระยะโฮวาพระเจ้า] ของเราและของพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์ [พระยะโฮวา] จะทรงปกครองเป็นกษัตริย์ตลอดไปเป็นนิตย์.” (วิวรณ์ 11:15, ล.ม.) ดังนั้น ทุกสิ่งที่เราสังเกตเห็นเกี่ยวกับราชอาณาจักรและสิ่งที่ราชอาณาจักรนี้ทำให้สำเร็จผล ย่อมชักนำเราเข้ามาใกล้ชิดกับพระยะโฮวามากยิ่งขึ้น. สิ่งที่เราเรียนรู้ควรปลูกฝังให้เรามีความปรารถนาที่จะยอมอ่อนน้อมต่อพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ตลอดไป.
7. เหตุใดการที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ครอบครองแทนพระยะโฮวาจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับเรา?
7 ขอพิจารณาด้วยเช่นกันถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พระยะโฮวาทรงตั้งพระเยซูคริสต์ให้ครองบัลลังก์ฐานะผู้ครอบครองแทน. ในฐานะนายช่างผู้ชำนาญซึ่งพระเจ้าใช้ให้สร้างแผ่นดินโลกและมนุษย์ พระเยซูทรงทราบเรื่องความจำเป็นของเราดีกว่าผู้หนึ่งผู้ใดในพวกเรา. ยิ่งกว่านั้น นับตั้งแต่ตอนเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของมนุษย์ พระองค์ได้แสดง “ความชื่นชมยินดี . . . กับพงศ์พันธุ์ของมนุษย์.” (สุภาษิต 8:30, 31; โกโลซาย 1:15-17) ความรักที่พระองค์ทรงมีต่อมนุษย์นั้นใหญ่หลวงนักถึงขนาดที่พระองค์เสด็จลงมายังแผ่นดินโลกด้วยพระองค์เอง และประทานชีวิตของพระองค์เป็นค่าไถ่เพื่อเห็นแก่พวกเรา. (โยฮัน 3:16) โดยวิธีนั้น พระองค์ทรงช่วยเราให้ได้รับการปลดเปลื้องจากบาปและความตายและมีโอกาสได้ชีวิตถาวร.—มัดธาย 20:28.
8. (ก) ต่างจากการครอบครองของมนุษย์ เหตุใดรัฐบาลของพระเจ้าจะยั่งยืน? (ข) “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” มีความสัมพันธ์เช่นไรกับรัฐบาลทางภาคสวรรค์?
8 ราชอาณาจักรของพระเจ้าเป็นรัฐบาลที่มั่นคงและยั่งยืน. ความยั่งยืนของรัฐบาลนี้มีหลักประกันโดยข้อเท็จจริงที่ว่า พระยะโฮวาเองไม่ทรงอยู่ใต้อำนาจความตาย. (บทเพลงสรรเสริญ 146:3-5, 10) ต่างจากกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ พระเยซูคริสต์ซึ่งพระเจ้าทรงให้ขัตติยอำนาจก็เป็นอมตะเช่นกัน. (โรม 6:9; 1 ติโมเธียว 6:15, 16) เหล่าผู้รับใช้คนอื่น ๆ ที่ภักดีต่อพระเจ้าจำนวน 144,000 คนซึ่งออกมาจาก “ทุกตระกูลและทุกภาษาและทุกชาติและทุกประเทศ” จะปกครองร่วมกับพระคริสต์บนบัลลังก์ทางภาคสวรรค์. คนเหล่านี้ก็ได้รับอมตชีพเช่นกัน. (วิวรณ์ 5:9, 10; 14:1-4; 1 โกรินโธ 15:42-44, 53) พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในสวรรค์แล้ว และส่วนที่ยังเหลืออยู่บนแผ่นดินโลกก็ประกอบกันเป็น “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” ในสมัยปัจจุบัน ซึ่งส่งเสริมผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรบนแผ่นดินโลกด้วยความภักดีต่อไป.—มัดธาย 24:45-47, ล.ม.
9, 10. (ก) อิทธิพลเสื่อมทรามซึ่งทำให้แตกแยกอะไรที่ราชอาณาจักรจะขจัดออกไป? (ข) ถ้าเราไม่ต้องการเป็นศัตรูกับราชอาณาจักรของพระเจ้า เราควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปพัวพันกับอะไร?
9 ในไม่ช้านี้ ณ เวลากำหนดของพระองค์ พระยะโฮวาจะส่งกองกำลังสังหารของพระองค์ไปปฏิบัติการเพื่อชำระแผ่นดินโลกให้สะอาด. กองกำลังนี้จะทำลายมนุษย์เหล่านั้นซึ่งจงใจไม่ยอมรับพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้า และผู้ซึ่งปฏิบัติอย่างดูหมิ่นต่อการจัดเตรียมด้วยความรักที่พระองค์ทรงทำโดยทางพระเยซูคริสต์. (2 เธซะโลนิเก 1:6-9) นั่นจะเป็นวันของพระยะโฮวา เวลาที่รอคอยมานานเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องฐานะองค์บรมมหิศรแห่งเอกภพของพระองค์. “ดูเถิด, วันแห่งพระยะโฮวานั้นกำลังจะมาถึงอย่างดุเดือดด้วยความพิโรธและความกริ้วอย่างร้ายแรง, . . . และผลาญคนบาปที่อยู่ในนั้นให้สิ้นศูนย์ไป.” (ยะซายา 13:9) “วันนั้นก็เป็นวันแห่งความพิโรธ, เป็นวันแห่งความทุกข์ลำบาก, เป็นวันแห่งความชำรุดร้าง, เป็นวันแห่งความมืดมัว, เป็นวันแห่งเมฆแลพยับอับแสง.”—ซะฟันยา 1:15.
10 บรรดาศาสนาเท็จและรัฐบาลมนุษย์ทั้งสิ้นพร้อมด้วยกองทัพทั้งหมดซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ปกครองชั่วร้ายที่ไม่ประจักษ์แก่ตาแห่งโลกนี้จะถูกทำลายให้สูญสิ้นตลอดกาล. ทุกคนที่อยู่ฝ่ายโลกนี้ซึ่งติดตามแนวทางชีวิตที่มุ่งแต่ตัวเอง, ไม่ซื่อสัตย์, และผิดศีลธรรมจะถูกทำลาย. ซาตานและภูตผีปิศาจบริวารของมันจะถูกขจัดไปเสียจากมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลกโดยจะถูกคุมขังอย่างแน่นหนาเป็นเวลาหนึ่งพันปี. ตอนนั้น ราชอาณาจักรของพระเจ้าจะเข้าควบคุมกิจการทั้งสิ้นทางแผ่นดินโลก. ช่างจะเป็นความโล่งใจอะไรเช่นนี้สำหรับผู้รักความชอบธรรม!—วิวรณ์ 18:21, 24; 19:11-16, 19-21; 20:1, 2.
เป้าหมายของราชอาณาจักร—จะบรรลุได้อย่างไร?
11. (ก) ราชอาณาจักรมาซีฮาจะทำให้พระประสงค์ที่พระยะโฮวามีต่อแผ่นดินโลกบรรลุผลสำเร็จอย่างไร? (ข) การปกครองของราชอาณาจักรจะมีความหมายต่อผู้คนที่อาศัยบนแผ่นดินโลกในตอนนั้นอย่างไร?
11 ราชอาณาจักรมาซีฮาจะทำให้พระประสงค์แรกเดิมที่พระเจ้าทรงมีต่อแผ่นดินโลกนั้นบรรลุผลสำเร็จอย่างเต็มที่. (เยเนซิศ 1:28; 2:8, 9, 15) จนถึงขณะนี้ มนุษยชาติก็ไม่ได้สนับสนุนพระประสงค์นั้น. อย่างไรก็ดี “แผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่ซึ่งจะมีมานั้น” จะอยู่ในอำนาจของบุตรมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์. ทุกคนที่รอดจากการพิพากษาที่พระยะโฮวาจะสำเร็จโทษระบบเก่านี้ จะทำงานอย่างเป็นเอกภาพภายใต้พระคริสต์ผู้เป็นกษัตริย์ โดยยินดีทำสิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงชี้นำ เพื่อว่าแผ่นดินโลกจะกลายเป็นอุทยานทั่วทั้งลูกโลก. (เฮ็บราย 2:5-9, ล.ม.) มนุษยชาติทั้งสิ้นจะชื่นชมกับงานจากน้ำพักน้ำแรงของตนและได้รับประโยชน์เต็มขนาดจากผลผลิตอันอุดมจากแผ่นดินโลก.—บทเพลงสรรเสริญ 72:1, 7, 8, 16-19; ยะซายา 65:21, 22.
12. ความสมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและร่างกายจะเกิดขึ้นกับประชากรแห่งราชอาณาจักรอย่างไร?
12 ตอนที่อาดามและฮาวาถูกสร้างขึ้น ทั้งสองเป็นมนุษย์สมบูรณ์ และนั่นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยบุตรหลานของพวกเขา ทุกคนล้วนสมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย. พระประสงค์นั้นจะบรรลุความเป็นจริงอันรุ่งโรจน์ภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร. ทั้งนี้จำต้องขจัดผลกระทบทั้งสิ้นของบาปออกไป และเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายนั้น พระคริสต์ทรงรับใช้ไม่เฉพาะฐานะกษัตริย์เท่านั้น แต่ในฐานะมหาปุโรหิตด้วย. ด้วยความอดทน พระองค์จะช่วยเหล่าประชากรที่เชื่อฟังให้ได้รับประโยชน์จากเครื่องบูชาอันมีคุณค่าในการชดเชยบาปด้วยชีวิตมนุษย์ของพระองค์เอง.
13. ผลประโยชน์ทางด้านร่างกายอะไรที่จะเป็นจริงภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร?
13 ภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร ผู้อาศัยบนแผ่นดินโลกจะได้รับผลประโยชน์อันน่าพิศวงทางด้านร่างกาย. “ขณะนั้นตาของคนตาบอดจะเห็นได้, และหูของคนหูหนวกจะยินได้. แล้วคนง่อยจะเต้นได้ดุจดังอีเก้ง, และลิ้นของคนใบ้จะร้องเพลง.” (ยะซายา 35:5, 6) เนื้อหนังที่เหี่ยวย่นด้วยวัยหรือโรคภัยจะเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเนื้อของเด็ก และความอ่อนแอเรื้อรังจะถูกแทนที่ด้วยสุขภาพอันแข็งแรง. “เนื้อของเขาก็จะกลับเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเนื้อของเด็ก, และความหนุ่มแน่นของเขาก็จะกลับคืนมา.” (โยบ 33:25) วันนั้นจะมาถึงเมื่อไม่มีใครมีสาเหตุที่จะพูดว่า “ข้าพเจ้าป่วยอยู่.” เพราะเหตุใด? เพราะมนุษย์ที่เกรงกลัวพระเจ้าจะได้รับการปลดเปลื้องให้หลุดพ้นจากบาปและผลกระทบอันน่าเศร้าของบาปนั้น. (ยะซายา 33:24; ลูกา 13:11-13) ถูกแล้ว พระเจ้า “จะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีต่อไป การคร่ำครวญและร้องไห้และการเจ็บปวดอย่างหนึ่งอย่างใดจะไม่มีอีกเลย เพราะเหตุการณ์ที่ได้มีอยู่แต่ดั้งเดิมนั้นได้ล่วงพ้นไปแล้ว.”—วิวรณ์ 21:4.
14. การเป็นมนุษย์สมบูรณ์นั้นรวมไปถึงอะไร?
14 อย่างไรก็ดี การบรรลุความสมบูรณ์เกี่ยวข้องไม่เพียงแต่การมีสุขภาพร่างกายดีและจิตใจดีเท่านั้น. นั่นรวมถึงการสะท้อนคุณลักษณะของพระยะโฮวาอย่างเหมาะสม เนื่องจากเราถูกสร้างขึ้น ‘ตามแบบฉายาของพระเจ้า.’ (เยเนซิศ 1:26) เพื่อบรรลุถึงขั้นนั้น จึงจำต้องมีการศึกษามากมาย. ในโลกใหม่ “ความชอบธรรมจะดำรงอยู่.” ดังนั้น ตามที่ยะซายาบอกไว้ล่วงหน้า “พลโลกก็จะเรียนรู้ถึงความชอบธรรม.” (2 เปโตร 3:13; ยะซายา 26:9) คุณลักษณะนี้ก่อให้เกิดสันติสุขระหว่างชนทุกเชื้อชาติ, ท่ามกลางเพื่อนใกล้ชิด, ในครอบครัว, และที่สำคัญที่สุดคือ สันติสุขกับพระเจ้า. (บทเพลงสรรเสริญ 85:10-13; ยะซายา 32:17) คนเหล่านั้นซึ่งเรียนรู้ความชอบธรรมจะได้รับการสอนเป็นขั้น ๆ เกี่ยวกับพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงมีต่อพวกเขา. เมื่อความรักที่มีต่อพระยะโฮวาหยั่งรากลึกลงในหัวใจของเขาแล้ว พวกเขาจะปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์ในทุกแง่มุมของชีวิต. พวกเขาจะพูดได้เช่นเดียวกับที่พระเยซูตรัสว่า “เราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ.” (โยฮัน 8:29) ชีวิตจะน่าเพลิดเพลินสักเพียงไรเมื่อมนุษยชาติทั้งสิ้นต่างก็ทำเช่นนั้น!
ความสำเร็จซึ่งเห็นได้ชัดอยู่แล้ว
15. โดยใช้คำถามในวรรคนี้ จงเน้นถึงความสำเร็จของราชอาณาจักรและแสดงถึงสิ่งที่เราควรทำในขณะนี้.
15 ความสำเร็จอันน่าประทับใจในเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าและประชาชนของพระองค์นั้นเห็นได้ชัดเจน. คำถามและข้อคัมภีร์ต่อไปนี้จะเตือนใจคุณให้นึกถึงความสำเร็จเหล่านั้นบางอย่าง รวมทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่ประชากรทั้งสิ้นของราชอาณาจักรสามารถทำได้ และควรจะทำอยู่แล้วในขณะนี้.
ราชอาณาจักรได้เริ่มจัดการกับผู้ใดก่อนและผลเป็นอย่างไร? (วิวรณ์ 12:7-10, 12)
มีการรวบรวมสมาชิกที่เหลืออยู่กลุ่มไหนนับตั้งแต่ที่พระคริสต์ทรงขึ้นครองราชย์? (วิวรณ์ 14:1-3)
งานอะไรที่พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่าพระองค์จะทำหลังจากความทุกข์ลำบากใหญ่เกิดขึ้น ดังที่บอกไว้ในมัดธาย 25:31-33?
งานขั้นแรกอะไรที่กำลังสำเร็จในปัจจุบันนี้? ใครกำลังร่วมทำงานนี้? (บทเพลงสรรเสริญ 110:3; มัดธาย 24:14; วิวรณ์ 14:6, 7)
เหตุใดผู้ต่อต้านทางการเมืองและทางศาสนาไม่อาจหยุดงานประกาศได้? (ซะคาระยา 4:6; กิจการ 5:38, 39)
การเปลี่ยนแปลงอะไรต้องเกิดขึ้นในชีวิตของผู้ที่ยอมอยู่ใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร? (ยะซายา 2:4; 1 โกรินโธ 6:9-11)
ราชอาณาจักรพันปี
16. (ก) พระคริสต์จะปกครองนานแค่ไหน? (ข) สิ่งที่น่าพิศวงอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างและหลังจากเวลานั้น?
16 หลังจากซาตานและผีปิศาจบริวารของมันถูกขังในเหวลึก พระเยซูคริสต์และชน 144,000 คนซึ่งเป็นรัชทายาทร่วมกับพระองค์จะปกครองเป็นกษัตริย์และปุโรหิตเป็นเวลาหนึ่งพันปี. (วิวรณ์ 20:6) ระหว่างช่วงเวลานั้น มนุษยชาติจะได้รับการช่วยให้บรรลุถึงความสมบูรณ์ อีกทั้งบาปและความตายอันเนื่องมาจากอาดามจะถูกขจัดออกไปตลอดกาล. ณ ตอนสิ้นสุดของรัชสมัยพันปี เมื่อได้บรรลุหน้าที่มอบหมายในฐานะกษัตริย์และปุโรหิตมาซีฮาแล้ว พระเยซูจะทรง “มอบราชอาณาจักร” ให้แก่พระบิดาของพระองค์ “เพื่อพระเจ้าจะเป็นสารพัดสิ่งแก่ทุกคน.” (1 โกรินโธ 15:24-28, ล.ม.) ถึงตอนนั้น ซาตานจะถูกปล่อยออกมาชั่วระยะสั้น ๆ เพื่อทดลองมนุษยชาติที่ได้รับการไถ่ถอนแล้วว่าพวกเขาจะสนับสนุนสากลบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาหรือไม่. หลังจากการทดลองครั้งสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์แล้ว พระยะโฮวาจะทำลายซาตานและพวกกบฏที่อยู่ฝ่ายมัน. (วิวรณ์ 20:7-10) ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา—สิทธิของพระองค์ที่จะปกครอง—จะได้สำแดงความภักดีอันมั่นคงของพวกเขาอย่างเต็มที่. ในตอนนั้น พวกเขาจะถูกนำเข้าสู่สัมพันธภาพอันเหมาะสมกับพระยะโฮวา ได้การยอมรับจากพระองค์ฐานะเป็นบุตรชายหญิงที่พระเจ้าทรงโปรดให้มีชีวิตชั่วนิรันดร์.—โรม 8:21.
17. (ก) จะเกิดอะไรขึ้นกับราชอาณาจักรในตอนสิ้นสุดรัชสมัยพันปี? (ข) เป็นความจริงในแง่ใดที่ว่าราชอาณาจักรนั้น “จะไม่มีวันถูกทำลาย”?
17 เหตุฉะนั้น บทบาทของพระเยซูคริสต์เองและของชน 144,000 คนจะเปลี่ยนแปลงไปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินโลก. การงานของพระองค์และของพวกเขาในอนาคตจะเป็นอย่างไร? คัมภีร์ไบเบิลมิได้บอกไว้. แต่ถ้าเราสนับสนุนพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ เราก็จะมีชีวิตอยู่ในตอนสิ้นรัชสมัยพันปีเพื่อจะทราบถึงสิ่งที่พระยะโฮวาทรงตั้งพระทัยไว้สำหรับพวกเขาและทั้งเอกภพอันน่าเกรงขามของพระองค์ด้วย. กระนั้น การปกครองพันปีของพระคริสต์จะ “ดำรงอยู่ตลอดกาล” และราชอาณาจักรของพระองค์ “จะไม่ถูกทำลาย.” (ดานิเอล 7:14, ล.ม.) ในแง่ไหน? ประการหนึ่งคือ อำนาจในการปกครองจะไม่ตกอยู่ในมือของผู้อื่นที่มีจุดมุ่งหมายต่างออกไป เนื่องจากพระยะโฮวาจะเป็นผู้ครอบครอง. นอกจากนั้น ราชอาณาจักรนั้น “จะไม่มีวันถูกทำลาย” เพราะความสำเร็จของราชอาณาจักรนั้นจะยืนยงตลอดไป. (ดานิเอล 2:44, ล.ม.) และกษัตริย์ปุโรหิตผู้เป็นมาซีฮาและกษัตริย์ปุโรหิตสมทบจะได้รับเกียรติยศตลอดไปเนื่องจากพวกเขารับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์.
การอภิปรายทบทวน
• เหตุใดราชอาณาจักรของพระเจ้าจึงเป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาของมนุษยชาติ? กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าเริ่มปกครองเมื่อไร?
• มีอะไรที่ดึงดูดใจคุณเป็นพิเศษเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้าและสิ่งที่ราชอาณาจักรนั้นจะทำให้สำเร็จ?
• ความสำเร็จของราชอาณาจักรที่เราเห็นอยู่แล้วมีอะไรบ้าง และเรามีส่วนอะไรในความสำเร็จเหล่านี้?
[ภาพหน้า 92, 93]
ภายใต้ราชอาณาจักรของพระเจ้า ผู้คนทั้งสิ้นจะเรียนรู้ถึงความชอบธรรม