“เจอกันในอุทยาน!”
“คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยานแน่นอน”—ลูกา 23:43
1, 2. ผู้คนคิดต่างกันอย่างไรเรื่องอุทยาน?
พี่น้องจากหลายประเทศมาประชุมใหญ่ที่สนามกีฬาในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่จะจากกันไป พี่น้องเกาหลีก็มายืนล้อมรอบพี่น้องต่างชาติเหล่านั้น ภาพที่เห็นมันน่าประทับใจจริง ๆ พวกเขาโบกมือลาและตะโกนบอกกันและกันว่า “เจอกันในอุทยาน!” คุณคิดว่าพวกเขาพูดถึงอุทยานไหน?
2 เมื่อพูดถึงอุทยาน ทุกวันนี้ผู้คนทั่วโลกคิดไม่เหมือนกัน บางคนบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน บางคนบอกว่าอุทยานจะเป็นที่ไหนก็ได้ขอให้คนที่นั่นอยู่อย่างมีความสุข ส่วนบางคนบอกว่าเมื่อได้ยินคำว่าอุทยานก็จะคิดถึงอุทยานแห่งชาติซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ ๆ และสวนสวยงาม และอาจมีสัตว์ต่าง ๆ อยู่ที่นั่นด้วย แล้วคุณล่ะ คุณคิดว่าอุทยานคืออะไร? คุณอยากให้อุทยานเกิดขึ้นจริง ๆ ไหม?
3. ครั้งแรกที่คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงอุทยานคือข้อไหน?
3 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าอุทยานเคยมีจริงในอดีต แล้วมันก็จะมีจริงในอนาคตด้วย ที่แรกที่มีการพูดถึงเรื่องอุทยานคือหนังสือเล่มแรกของคัมภีร์ไบเบิล ปฐมกาล 2:8 บอกว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าเตรียมสวนแห่งหนึ่งไว้ที่เอเดนทางฝั่งทิศตะวันออก แล้วให้มนุษย์ที่พระองค์สร้างขึ้นอยู่ที่นั่น” คัมภีร์ไบเบิลฉบับดูเอย์ ของคาทอลิก (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งแปลจากภาษาละตินแปลส่วนแรกของข้อนี้ว่า “พระเจ้าเตรียมอุทยานแห่งความเพลิดเพลินขึ้นในตอนเริ่มต้น” สังเกตว่าคำว่า “อุทยาน” ก็คือ “สวน” และคำว่า “เพลิดเพลิน” ก็คือความหมายของคำว่า “เอเดน” สวนนี้เป็นที่ที่น่าอยู่และทำให้มีความสุขเพลิดเพลินจริง ๆ สวนนี้สวยมาก มีพืชผักผลไม้หลากหลาย และคนกับสัตว์อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข—ปฐมกาล 1:29-31
4. ทำไมเราถึงบอกได้ว่าสวนเอเดนเป็นอุทยาน?
4 ตอนที่มีการแปลจากภาษาฮีบรูเป็นภาษากรีก มีการแปลคำฮีบรูที่แปลว่า “สวน” โดยใช้คำภาษากรีกว่าพาราดิซอส ซึ่งหมายถึง อุทยาน สารานุกรม ของแมกคลินทอกและสตรอง (ภาษาอังกฤษ) บอกว่าเมื่อคนกรีกได้ยินคำว่าพาราดิซอส พวกเขาจะนึกถึงสวนที่สวยและกว้างมาก ๆ ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเข้ามาในนั้นได้ มีต้นไม้ที่สูงใหญ่และมีผลไม้หลายอย่าง ในสวนยังมีลำธารที่มีน้ำใส และที่ริมลำธารก็มีฝูงกวางและฝูงแกะกำลังเล็มหญ้าที่เขียวชอุ่ม คำพรรณนานี้ช่วยเราให้เห็นว่าสวนเอเดนเป็นอุทยานที่สวยงามจริง ๆ—เทียบกับปฐมกาล 2:15, 16
5, 6. ทำไมอาดัมกับเอวาไม่ได้อยู่ในอุทยานอีกต่อไป? และบางคนอาจมีคำถามอะไร?
5 พระยะโฮวาให้อาดัมกับเอวาอยู่ในสวนที่เป็นอุทยานแบบนั้นแหละ แต่เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังก็เลยไม่มีโอกาสได้อยู่ในอุทยานนั้นอีกต่อไป และทำให้ลูกหลานของพวกเขาหมดโอกาสไปด้วย (ปฐมกาล 3:23, 24) ถึงไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่ในอุทยานนั้นอีก แต่ดูเหมือนว่ามันยังมีอยู่จนถึงน้ำท่วมโลกสมัยโนอาห์
6 บางคนอาจสงสัยว่า ‘จะมีอุทยานบนโลกอีกไหม?’ มีข้อเท็จจริงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง? ถ้าคุณมีความหวังจะได้อยู่กับคนที่คุณรักในอุทยาน คุณมีเหตุผลหนักแน่นอะไรบ้างที่หวังอย่างนั้น? คุณอธิบายได้ไหมว่าทำไมคุณถึงแน่ใจว่าจะมีอุทยานในอนาคตอีกครั้ง?
ข้อพิสูจน์ว่าจะมีอุทยานในอนาคต
7, 8. (ก) พระเจ้าสัญญาอะไรกับอับราฮัม? (ข) คำสัญญาของพระองค์คงทำให้อับราฮัมคิดถึงอะไร?
7 แหล่งที่ดีที่สุดที่จะหาคำตอบเรื่องอุทยานคือคัมภีร์ไบเบิล เพราะคัมภีร์ไบเบิลมาจากพระยะโฮวาผู้สร้างอุทยาน ให้เรามาดูกันว่าพระองค์บอกอะไรกับอับราฮัมเพื่อนของพระองค์ พระองค์บอกว่าจะให้อับราฮัมมีลูกหลานมากมาย “เหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเล” แล้วพระยะโฮวาก็ให้คำสัญญาที่สำคัญมากกับอับราฮัมว่า “ทุกชาติในโลกจะได้รับพรเพราะลูกหลานของเจ้า และเพราะเจ้าเชื่อฟังเรา” (ปฐมกาล 22:17, 18) ต่อมา พระเจ้าสัญญาเรื่องเดียวกันนี้อีกกับลูกชายแล้วก็หลานชายของอับราฮัม—อ่านปฐมกาล 26:4; 28:14
8 ไม่มีที่ไหนในคัมภีร์ไบเบิลที่บอกว่า อับราฮัมคิดว่า ท้ายที่สุดแล้วรางวัลที่มนุษย์จะได้คือการได้อยู่ในอุทยานบนสวรรค์ ดังนั้น เมื่อพระเจ้าสัญญาว่า “ทุกชาติบนโลก” จะได้พร อับราฮัมต้องคิดถึงพรต่าง ๆ และสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนโลก แต่นี่เป็นข้อพิสูจน์อย่างเดียวไหมในคัมภีร์ไบเบิลว่าจะมีอุทยานบนโลก?
9, 10. หลังจากสมัยอับราฮัมมีคำสัญญาอะไรบ้างที่ทำให้เรามีเหตุผลที่จะคาดหวังได้ว่าจะมีอุทยานในอนาคตแน่นอน?
9 พระเจ้าดลใจให้ดาวิดลูกหลานคนหนึ่งของอับราฮัมพูดถึงอนาคตว่า “จะไม่มีคนชั่วเลย” (สดุดี 37:1, 2, 10) เขายังบอกล่วงหน้าอีกว่า “คนที่อ่อนน้อมถ่อมตนจะได้อยู่ในโลก พวกเขาจะชื่นชมยินดีและมีแต่ความสงบสุข” และ “คนดีจะได้อยู่ในโลก พวกเขาจะได้อยู่ในโลกตลอดไป” (สดุดี 37:11, 29; 2 ซามูเอล 23:2) คุณคิดว่าคำสัญญาเหล่านี้มีผลอย่างไรกับคนที่อยากทำตามความประสงค์ของพระเจ้า? พวกเขามีเหตุผลที่จะหวังว่าวันหนึ่งจะมีแต่คนดีอยู่บนโลก และโลกจะเป็นอุทยานเหมือนสวนเอเดนอีกครั้ง
10 ต่อมา ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ที่อ้างว่ารับใช้พระยะโฮวาค่อย ๆ หันหลังให้พระองค์และไม่สนใจการนมัสการแท้ พระองค์เลยให้ชาวบาบิโลนมาโจมตีพวกเขา ทำลายแผ่นดินของพวกเขา และจับหลายคนไปเป็นเชลย (2 พงศาวดาร 36:15-21; เยเรมีย์ 4:22-27) แต่ก็มีผู้พยากรณ์ของพระยะโฮวาหลายคนที่บอกล่วงหน้าว่าประชาชนของพระองค์จะได้กลับมาที่แผ่นดินเกิดหลังจากผ่านไป 70 ปี คำพยากรณ์เหล่านั้นได้เกิดขึ้นจริง ไม่เพียงแค่นั้น คำพยากรณ์เหล่านั้นยังมีความหมายสำหรับเราในทุกวันนี้ด้วย ให้เรามาดูคำพยากรณ์บางเรื่องด้วยกัน และขอให้สังเกตว่า คำพยากรณ์เหล่านั้นช่วยเราอย่างไรให้มีเหตุผลที่จะคาดหวังได้ว่าจะมีอุทยานบนโลกในอนาคตแน่นอน
11. อิสยาห์ 11:6-9 เป็นจริงครั้งแรกอย่างไร? แต่เรายังอาจสงสัยอะไร?
11 อ่านอิสยาห์ 11:6-9 พระยะโฮวาบอกล่วงหน้าผ่านทางผู้พยากรณ์อิสยาห์ว่า ตอนที่ชาวอิสราเอลกลับไปที่แผ่นดินของพวกเขา แผ่นดินนั้นจะมีแต่ความสงบสุข ไม่มีใครต้องกลัวว่าจะถูกคนหรือสัตว์ทำร้าย ทั้งเด็กและคนแก่จะอยู่อย่างปลอดภัย นี่ทำให้คุณนึกถึงความสงบสุขที่เคยมีในสวนเอเดนไหม? (อิสยาห์ 51:3) อิสยาห์ยังบอกล่วงหน้าอีกว่าทั้งโลก ไม่ใช่แค่ชาติอิสราเอลจะมี ‘ความรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาเหมือนน้ำที่มีอยู่เต็มทะเล’ คำพยากรณ์นี้เป็นจริงเมื่อไร? เห็นได้ชัดเลยว่าจะต้องเป็นจริงในอนาคต
12. (ก) คนที่กลับจากการเป็นเชลยที่บาบิโลนได้รับพรอะไรบ้าง? (ข) อะไรทำให้เราเห็นว่าคำพยากรณ์ในอิสยาห์ 35:5-10 จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตด้วย?
12 อ่านอิสยาห์ 35:5-10 ขอสังเกตว่าอิสยาห์บอกล่วงหน้าอีกว่า ชาวอิสราเอลจะได้ออกจากบาบิโลนกลับมาที่แผ่นดินเกิด สัตว์และคนจะไม่ทำร้ายพวกเขา แผ่นดินอิสราเอลจะมีพืชผักผลไม้มากมายเพราะมีน้ำเยอะเหมือนที่เคยมีในสวนเอเดน (ปฐมกาล 2:10-14; เยเรมีย์ 31:12) คำพยากรณ์นี้เป็นจริงเฉพาะสมัยอิสราเอลไหม? ขอสังเกตว่าคำพยากรณ์นี้ยังบอกด้วยว่า คนตาบอด คนง่อย คนหูหนวกจะหายเป็นปกติ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่ชาวอิสราเอลกลับมาที่แผ่นดินเกิด แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พระเจ้าบอกว่าจะรักษาความเจ็บป่วยทุกชนิดในอนาคต
13, 14. คำพยากรณ์ที่อิสยาห์ 65:21-23 เกิดขึ้นจริงอย่างไรตอนที่ชาวอิสราเอลกลับจากบาบิโลน? แต่ส่วนไหนของคำพยากรณ์ที่ยังต้องรอให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต? (ดูภาพแรก)
13 อ่านอิสยาห์ 65:21-23 ตอนที่ชาวยิวกลับไปถึงแผ่นดินเกิด พวกเขาไม่มีบ้านที่สะดวกสบายให้อยู่อาศัย ทุ่งนาและสวนองุ่นก็ถูกทิ้งร้าง แต่เพราะพระเจ้าอวยพรพวกเขา ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปในที่สุด ขอให้นึกภาพว่าพวกเขามีความสุขขนาดไหนที่ได้อยู่ในบ้านที่สร้างเองและได้กินผักผลไม้อร่อย ๆ ที่ปลูกเอง
14 ขอสังเกตที่คำพยากรณ์นี้ ที่นั่นบอกว่า เรา “จะมีอายุยืนยาวเหมือนอายุของต้นไม้” ต้นไม้บางชนิดมีอายุหลายพันปี เพื่อจะมีอายุยืนขนาดนั้นได้คนเราจะต้องสุขภาพดีมาก ๆ และถ้าได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและสวยงามอย่างที่อิสยาห์บอกไว้ล่วงหน้า มันจะต้องเป็นอุทยานที่ยอดเยี่ยมแน่ ๆ คำพยากรณ์นี้จะต้องเกิดขึ้นจริงแน่นอน
15. มีพรอะไรบ้างที่บอกไว้ในหนังสืออิสยาห์?
15 ขอให้นึกถึงคำสัญญาต่าง ๆ ที่เราได้คุยกันไป คำสัญญาเหล่านี้บอกให้รู้ว่าอุทยานจะเกิดขึ้นในอนาคต ตอนนั้นทั้งโลกจะมีแต่คนที่พระเจ้าอวยพร ไม่มีใครต้องกลัวว่าจะถูกสัตว์หรือคนที่ชอบใช้ความรุนแรงมาทำร้าย นอกจากนั้น คนตาบอด คนหูหนวก และคนที่เป็นง่อยจะหายเป็นปกติ ผู้คนจะได้สร้างบ้านของตัวเอง กินผักผลไม้ที่ตัวเองปลูก พวกเขาจะมีอายุยืนยาวกว่าต้นไม้ คัมภีร์ไบเบิลให้ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าอุทยานแบบนั้นจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่บางคนที่เราคุยด้วยอาจบอกว่าคำพยากรณ์เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีอุทยานบนโลก ถ้าพวกเขาพูดอย่างนั้นคุณจะตอบอย่างไร? คุณมีเหตุผลหนักแน่นอะไรที่จะรอคอยอุทยานบนโลก? พระเยซูผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกให้เหตุผลหนึ่งที่หนักแน่นกับเรา
คุณจะได้อยู่ในอุทยาน
16, 17. ตอนไหนที่พระเยซูพูดเรื่องอุทยาน?
16 แม้พระเยซูไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ท่านก็ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยถูกแขวนบนเสาให้ตาย และมีผู้ร้ายชาวยิว 2 คนถูกแขวนไว้ข้างซ้ายและข้างขวาของท่าน ผู้ร้ายคนหนึ่งรู้ว่าพระเยซูเป็นกษัตริย์ เขาเลยขอท่านว่า “ท่านเยซู ตอนที่ท่านได้เป็นกษัตริย์ อย่าลืมผมนะครับ” (ลูกา 23:39-42) แล้วพระเยซูก็สัญญากับเขา และคำสัญญานี้ก็เกี่ยวข้องกับอนาคตของคุณด้วย คำสัญญานี้ของพระเยซูอยู่ที่ลูกา 23:43 มีความเห็นที่แตกต่างกันว่าควรแปลข้อนี้อย่างไร นักวิชาการด้านคัมภีร์ไบเบิลบางคนบอกว่า ในภาษาเดิมประโยคนี้มีความหมายว่า “ผมขอบอกคุณว่า วันนี้คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยาน” แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ ถ้าอย่างนั้น พระเยซูหมายถึงอะไรที่ท่านพูดว่า “วันนี้”?
17 ภาษาที่ใช้ในปัจจุบันหลายภาษามีการใช้เครื่องหมายวรรคตอน เช่น จุลภาค (,) หรือบางภาษาก็เปลี่ยนตำแหน่งคำในประโยคเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายชัดเจนขึ้น แต่ในสำเนาคัมภีร์ไบเบิลภาษากรีกที่เก่าแก่ที่สุดหลายฉบับซึ่งหาได้ในปัจจุบันไม่ได้ใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าพระเยซูพูดแบบไหนกันแน่ จะเป็น “ผมขอบอกคุณว่า วันนี้คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยาน” หรือ “ผมขอบอกคุณวันนี้ว่า คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยาน” ผู้แปลหลายคนเลยใช้วิธีเปลี่ยนตำแหน่งคำในประโยคหรือใส่เครื่องหมายวรรคตอนตามที่พวกเขาคิดเองว่าพระเยซูควรพูดแบบไหน คุณจะเห็นเรื่องนี้ได้ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับต่าง ๆ
18, 19. อะไรช่วยเราให้เข้าใจคำพูดของพระเยซู?
18 แต่ขอให้นึกถึงคำพูดของพระเยซูที่บอกสาวกเรื่องการตายของตัวท่านเอง ท่านบอกว่า “‘ลูกมนุษย์’ จะอยู่ในหลุมศพ 3 วัน 3 คืน” และท่านยังบอกว่า “‘ลูกมนุษย์’ จะต้องถูกมอบไว้ในมือศัตรู พวกนั้นจะฆ่าท่าน แล้วในวันที่สามท่านจะถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาอีก” (มัทธิว 12:40; 16:21; 17:22, 23; มาระโก 10:34) อัครสาวกเปโตรรายงานว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง (กิจการ 10:39, 40) ดังนั้น พระเยซูไม่ได้ไปอุทยานในวันที่ท่านกับผู้ร้ายคนนั้นตาย แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าพระเยซูอยู่ “ในหลุมศพ” จนถึงวันที่ 3 พระยะโฮวาก็ปลุกท่านให้ฟื้นขึ้นจากตาย—กิจการ 2:31, 32a
19 ดังนั้น เราเห็นว่าที่พระเยซูใช้คำว่า “ผมขอบอกคุณวันนี้” ก็เพื่อเกริ่นว่าต่อไปนี้คือคำสัญญาของท่านที่จะให้กับผู้ร้ายคนนี้ การพูดแบบนี้เป็นเรื่องปกติมากแม้แต่ในสมัยของโมเสส ครั้งหนึ่งโมเสสเคยบอกว่า “ให้สิ่งที่ผมสั่งคุณในวันนี้อยู่ในหัวใจของคุณ”—เฉลยธรรมบัญญัติ 6:6; 7:11; 8:1, 19; 30:15
20. ยังมีอะไรอีกที่สนับสนุนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูพูด?
20 ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลคนหนึ่งในตะวันออกกลางบอกว่า “ประโยคนี้มีการเน้นตรงคำว่า ‘วันนี้’ และควรจะอ่านว่า ‘ผมขอบอกคุณวันนี้ว่า คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยาน’ พระเยซูสัญญาในวันนั้น และมันจะเป็นจริงในอนาคต” ผู้แปลคนนั้นยังบอกอีกว่า มันเป็นวิธีพูดของคนในตะวันออกกลาง ซึ่งหมายความว่า “มีการสัญญาในวันนั้นและจะทำตามที่สัญญาแน่นอน” คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลภาษาซีรีแอกซึ่งแปลเมื่อประมาณ 400 ปีหลังสมัยพระเยซู แปลข้อนี้ว่า “อาเมน ผมขอบอกคุณวันนี้ว่า คุณจะได้อยู่กับผมในสวนเอเดน” เราต้องได้กำลังใจมากแน่ ๆ จากคำสัญญานี้
21. ผู้ร้ายคนนั้นไม่ได้ถูกเลือกให้ไปไหน? และทำไม?
21 ตอนที่พระเยซูพูดเรื่องอุทยานกับผู้ร้ายคนนั้น ท่านไม่ได้หมายถึงอุทยานบนสวรรค์ เรารู้ได้อย่างไร? เหตุผลแรกคือผู้ร้ายคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระเยซูได้ทำสัญญากับอัครสาวกที่ซื่อสัตย์ว่าจะให้พวกเขาไปปกครองร่วมกับท่านในสวรรค์ (ลูกา 22:29) อีกเหตุผลคือ ผู้ร้ายคนนั้นยังไม่ได้รับบัพติศมาเลยด้วย (ยอห์น 3:3-6, 12) เห็นได้ชัดเลยว่า ผู้ร้ายคนนั้นไม่ได้ถูกเลือกให้ไปสวรรค์ ดังนั้น เมื่อพระเยซูสัญญากับเขา ท่านต้องหมายถึงอุทยานบนโลก หลายปีต่อมาอัครสาวกเปาโลพูดเรื่องนิมิตที่ผู้ชายคนหนึ่ง “ถูกพาไปอุทยาน” (2 โครินธ์ 12:1-4) แม้เปาโลกับอัครสาวกคนอื่น ๆ ได้ถูกเลือกให้ไปสวรรค์และปกครองร่วมกับพระเยซู แต่อุทยานในอนาคตที่เปาโลพูดถึงนี้จะหมายถึงโลกด้วยไหม?b และคุณจะได้เข้าไปอยู่ในอุทยานนั้นไหม?
สิ่งที่คุณคาดหวังได้แน่นอน
22, 23. คุณหวังจะได้อะไร?
22 จำไว้ว่าดาวิดพูดถึงเวลาหนึ่งที่ “คนดีจะได้อยู่ในโลก” (สดุดี 37:29; 2 เปโตร 3:13) ดาวิดหมายถึงเวลาที่ทุกคนบนโลกจะทำตามหลักการที่ดีและถูกต้องชอบธรรมของพระเจ้า นอกจากนั้น คำพยากรณ์ที่อิสยาห์ 65:22 บอกว่า “ประชาชนของเราจะมีอายุยืนยาวเหมือนอายุของต้นไม้” นี่แสดงให้เห็นว่าคนที่รับใช้พระยะโฮวาในโลกใหม่จะมีอายุยืนยาวเป็นพัน ๆ ปี คุณหวังอย่างนั้นไหม? คุณหวังอย่างนั้นได้แน่นอนเพราะวิวรณ์ 21:1-4 บอกไว้ว่าพระเจ้าจะอวยพรมนุษย์ และหนึ่งในพรของพระองค์ก็คือ “ความตายจะไม่มีอีกต่อไป”
23 คัมภีร์ไบเบิลสอนเราเกี่ยวกับอุทยานไว้ชัดเจนมาก อาดัมกับเอวาเสียโอกาสที่จะได้อยู่ตลอดไปในอุทยาน แต่โลกจะเป็นอุทยานอีกครั้งหนึ่งในอนาคต และอย่างที่พระยะโฮวาสัญญาไว้ พระองค์จะอวยพรคนที่อยู่บนโลก ดาวิดบอกว่าคนอ่อนน้อมถ่อมตนและคนดีจะได้อยู่บนโลกตลอดไป คำพยากรณ์ต่าง ๆ ในอิสยาห์ช่วยเราให้รอเวลาที่จะได้อยู่ในสวนอุทยานที่สวยงามบนโลก เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร? เมื่อคำสัญญาที่พระเยซูให้กับผู้ร้ายคนนั้นเกิดขึ้นจริง และคุณก็อยู่ในอุทยานนั้นได้ด้วย เมื่อเวลานั้นมาถึงคำพูดของพี่น้องที่พูดในการประชุมใหญ่ที่เกาหลีจะเป็นจริงนั่นคือ “เจอกันในอุทยาน!”
a ศาสตราจารย์ซี. มาร์วิน เพตเขียนว่า นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าตอนที่พระเยซูพูดคำว่า “วันนี้” ท่านหมายถึงท่านจะตายและจะไปอยู่ในอุทยานวันนั้นเลยภายใน 24 ชั่วโมง แต่ศาสตราจารย์คนนี้ยังบอกด้วยว่าปัญหาก็คือการคิดแบบนี้ไม่สอดคล้องกับคำสอนอื่น ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล เช่น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าหลังจากตายพระเยซูอยู่ในหลุมศพ แล้วจากนั้นค่อยไปสวรรค์—มัทธิว 12:40; กิจการ 2:31; โรม 10:7
b ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในวารสารฉบับนี้