“จงต่อสู้พญามาร” เหมือนที่พระเยซูทรงต่อสู้
“จงต่อสู้พญามาร แล้วมันจะหนีไปจากพวกท่าน.”—ยโก. 4:7.
1. พระเยซูทรงรู้ว่าพระองค์จะเผชิญกับการต่อต้านเช่นไรบนแผ่นดินโลก และผลจะเป็นอย่างไร?
พระเยซูคริสต์ทรงรู้ว่าพระองค์จะถูกพญามารต่อต้าน. ข้อเท็จจริงนี้เห็นได้ชัดจากพระดำรัสที่พระเจ้าตรัสกับงูซึ่งที่แท้แล้วพระองค์ตรัสกับกายวิญญาณชั่วที่พูดผ่านทางงู ที่ว่า “เราจะให้เจ้ากับหญิง [องค์การในสวรรค์ของพระยะโฮวา] และพงศ์พันธุ์ของเจ้ากับพงศ์พันธุ์ของนางเป็นศัตรูกัน. เขา [พระเยซูคริสต์] จะบดขยี้หัวของเจ้าและเจ้าจะบดขยี้ส้นเท้าของเขา.” (เย. 3:14, 15, ล.ม.; วิ. 12:9) การที่พระเยซูถูกบดขยี้ส้นเท้าหมายความว่าพระองค์จะถูกฆ่าเมื่อทรงอยู่บนแผ่นดินโลกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพระองค์เพียงแค่ชั่วคราว เพราะพระยะโฮวาจะปลุกพระองค์ให้คืนพระชนม์เพื่อรับสง่าราศีในสวรรค์. แต่การบดขยี้หัวของงูจะหมายความว่าพญามารจะถูกฆ่าและไม่มีวันฟื้นอีกเลย.—อ่านกิจการ 2:31, 32; ฮีบรู 2:14.
2. เหตุใดพระยะโฮวาทรงเชื่อมั่นว่าพระเยซูจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้พญามาร?
2 พระยะโฮวาทรงเชื่อมั่นว่าพระเยซูจะทำงานมอบหมายของพระองค์ให้สำเร็จและจะชนะพญามารได้เมื่อทรงอยู่บนแผ่นดินโลก. เพราะเหตุใดพระยะโฮวาจึงทรงเชื่อมั่นมากเช่นนั้น? เพราะพระองค์ทรงสร้างพระเยซูขึ้นในสวรรค์มานานมากก่อนหน้านั้น, ทรงสังเกตดูพระเยซู, และทรงรู้ว่า “นายช่าง” และ “ผู้ที่เกิดก่อนสรรพสิ่งทรงสร้าง” ผู้นี้เชื่อฟังและซื่อสัตย์. (สุภา. 8:22-31, ล.ม.; โกโล. 1:15) ดังนั้น เมื่อพระเยซูถูกส่งมายังแผ่นดินโลกและพระเจ้าทรงยอมให้พญามารทดสอบพระองค์จนถึงสิ้นพระชนม์ พระยะโฮวาทรงเชื่อมั่นว่าพระบุตรองค์เดียวของพระองค์จะมีชัยในการต่อสู้พญามาร.—โย. 3:16.
พระยะโฮวาทรงคุ้มครองผู้รับใช้ของพระองค์
3. พญามารมองผู้รับใช้พระยะโฮวาอย่างไร?
3 พระเยซูตรัสถึงพญามารว่าเป็น “ผู้ปกครองโลก” และทรงเตือนเหล่าสาวกว่าพวกเขาจะถูกข่มเหงเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงถูกข่มเหง. (โย. 12:31; 15:20) โลกนี้ ซึ่งอยู่ในอำนาจซาตานพญามาร เกลียดชังคริสเตียนแท้เพราะพวกเขารับใช้พระยะโฮวาและเป็นผู้ประกาศความชอบธรรม. (มัด. 24:9; 1 โย. 5:19) พญามารเล็งเป้าเป็นพิเศษไปที่ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมซึ่งในที่สุดจะปกครองกับพระคริสต์ในราชอาณาจักรสวรรค์. นอกจากนั้น ซาตานยังเล็งเป้าไปที่พยานพระยะโฮวาจำนวนมากซึ่งมีความหวังจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปบนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน. พระคำของพระเจ้าเตือนเราว่า “พญามาร ปรปักษ์ของพวกท่านเดินไปมาเหมือนสิงโตคำราม เสาะหาคนที่มันจะขม้ำกินเสีย.”—1 เป. 5:8.
4. อะไรพิสูจน์ว่าประชาชนของพระเจ้าในสมัยของเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้พญามาร?
4 ในฐานะองค์การที่ได้รับการสนับสนุนจากพระยะโฮวาพระเจ้า เราสามารถประสบความสำเร็จในการต่อสู้พญามาร. ขอให้พิจารณาข้อเท็จจริงต่อไปนี้: ในช่วง 100 ปีที่ผ่านไป ผู้ปกครองเผด็จการบางคนที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ได้พยายามกำจัดพยานพระยะโฮวาให้หมดสิ้น. แต่จำนวนของพยานฯเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้มีเกือบ ๆ 7,000,000 คนใน 100,000 กว่าประชาคมทั่วโลก. ผู้นำเผด็จการที่โหดร้ายเหล่านี้ที่ข่มเหงประชาชนของพระยะโฮวากลับเป็นฝ่ายถูกกำจัดจนสิ้นซาก!
5. ยะซายา 54:17 ปรากฏว่าเป็นจริงอย่างไรในกรณีของผู้รับใช้ของพระยะโฮวา?
5 เมื่อตรัสถึงประชาคมแห่งอิสราเอลโบราณในฐานะ “หญิง” ของพระองค์ พระเจ้าทรงสัญญาว่า “อาวุธใดก็ตามที่เขาจะสร้างขึ้นต่อสู้เจ้าจะใช้ไม่ได้ผล และลิ้นทุกลิ้นซึ่งจะกล่าวหาว่าเจ้าทำผิด เจ้าจะแสดงว่าเขาเป็นฝ่ายผิด. นี่เป็นทรัพย์มรดกของผู้รับใช้ของพระยะโฮวา และเราให้เขามีฐานะที่ชอบธรรม.” (ยซา. 54:11, 17, ล.ม.) คำสัญญานี้ปรากฏว่าเชื่อถือได้ในกรณีของประชาชนของพระยะโฮวาทั่วโลกใน “สมัยสุดท้าย” นี้. (2 ติโม. 3:1-5, 13) เราต่อสู้พญามารอยู่เรื่อย ๆ และไม่มีอาวุธที่มันพยายามใช้เพื่อกวาดล้างทำลายประชาชนของพระเจ้าที่ใช้ได้ผล เพราะพระยะโฮวาทรงอยู่ฝ่ายเรา.—เพลง. 118:6, 7.
6. คำพยากรณ์ของดานิเอลบอกให้เรารู้อะไรเกี่ยวกับการปกครองของพญามารในอนาคต?
6 ในคราวอวสานของระบบชั่วทั้งสิ้นซึ่งใกล้จะถึงเต็มทีแล้ว การปกครองทุกส่วนของซาตานจะถูกกำจัดจนสิ้นซาก. ผู้พยากรณ์ดานิเอลเขียนบอกล่วงหน้าโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้าว่า “ในสมัยเมื่อกษัตริย์เหล่านั้นกำลังเสวยราชย์อยู่ [ในสมัยของเรา], พระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรอันหนึ่งขึ้น [ในสวรรค์], ซึ่งจะไม่มีวันทำลายเสียได้, หรือผู้ใดจะชิงเอาอาณาจักรนี้ไปก็หาได้ไม่; แต่อาณาจักรนี้จะทำลายอาณาจักรอื่น ๆ [ที่มีอยู่ในเวลานี้] ลงให้ย่อยยับและเผาผลาญเสียสิ้น, และอาณาจักรนี้จะดำรงอยู่เป็นนิจ.” (ดานิ. 2:44) เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งการปกครองของซาตานและการปกครองของมนุษย์ไม่สมบูรณ์จะหายสาบสูญไป. ระบบของพญามารทุกส่วนจะผ่านพ้นไปตลอดกาล และราชอาณาจักรของพระเจ้าจะปกครองเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้นโดยไม่มีใครต่อต้าน.—อ่าน 2 เปโตร 3:7, 13.
7. เรารู้ได้อย่างไรว่าผู้รับใช้แต่ละคนของพระยะโฮวาสามารถประสบความสำเร็จในการต่อสู้พญามาร?
7 ไม่มีข้อสงสัยว่าองค์การของพระยะโฮวาจะได้รับการคุ้มครองและจะรุ่งเรืองฝ่ายวิญญาณ. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 125:1, 2.) แล้วเราล่ะ? คัมภีร์ไบเบิลบอกเราว่าเราสามารถชนะพญามารได้ เหมือนกับที่พระเยซูทรงชนะมาแล้ว. ที่จริง คำพยากรณ์ที่พระคริสต์ประทานโดยทางอัครสาวกโยฮันแสดงว่าแม้ถูกซาตานต่อต้าน “ชนฝูงใหญ่” ที่มีความหวังทางโลกจะรอดชีวิตผ่านอวสานของระบบนี้. ตามในพระคัมภีร์ พวกเขาร้องว่า “ความรอดมาจากพระเจ้าของเราผู้ประทับบนราชบัลลังก์ และมาจากพระเมษโปดก [พระเยซูคริสต์].” (วิ. 7:9-14) มีการกล่าวถึงชนผู้ถูกเจิมว่าได้ชนะซาตาน และ “แกะอื่น” สหายของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการต่อสู้ซาตานเช่นกัน. (โย. 10:16; วิ. 12:10, 11) แต่การจะชนะซาตานได้ต้องพยายามอย่างขันแข็งและอธิษฐานอย่างจริงจังขอพระเจ้า ‘ช่วยให้รอดพ้นจากตัวชั่วร้าย.’—มัด. 6:13.
ตัวอย่างอันสมบูรณ์แบบในการต่อสู้พญามาร
8. การล่อใจครั้งแรกที่พญามารใช้กับพระเยซูในถิ่นทุรกันดารตามที่มีบันทึกไว้คืออะไร และพระเยซูทรงตอบอย่างไร?
8 พญามารพยายามทำลายความซื่อสัตย์มั่นคงของพระเยซู. ในถิ่นทุรกันดาร ซาตานพยายามใช้การล่อใจหลายอย่างเพื่อทำให้พระเยซูไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา. แต่พระเยซูทรงวางตัวอย่างไว้อย่างสมบูรณ์แบบในการต่อสู้ซาตาน. หลังจากอดพระกระยาหารนาน 40 วัน 40 คืน พระเยซูคงต้องการอาหารอย่างยิ่ง. ซาตานกล่าวว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า สั่งหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปังสิ.” แต่พระเยซูปฏิเสธที่จะใช้อำนาจที่พระเจ้าประทานแก่พระองค์เพื่อประโยชน์ส่วนตัว. แทนที่จะทำอย่างนั้น พระองค์ตรัสว่า “มีคำเขียนไว้ว่า ‘มนุษย์ดำรงชีวิตด้วยอาหารอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยคำตรัสทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระยะโฮวา.’ ”—มัด. 4:1-4; บัญ. 8:3.
9. เหตุใดเราต้องต่อสู้กับความพยายามของพญามารที่ใช้ความปรารถนาตามธรรมชาติทางกายเพื่อล่อใจเรา?
9 ปัจจุบัน พญามารใช้ความปรารถนาตามธรรมชาติทางกายของผู้รับใช้พระยะโฮวาเพื่อล่อใจพวกเขา. ด้วยเหตุนั้น เราต้องตั้งใจให้แน่วแน่ว่าจะต่อสู้กับการล่อใจให้ทำผิดศีลธรรมทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามากในโลกที่ผิดศีลธรรมนี้. พระคำของพระเจ้ากล่าวเน้นดังนี้: “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าคนอธรรมจะไม่ได้รับราชอาณาจักรของพระเจ้า? อย่าหลงผิดเลย. คนผิดประเวณี คนไหว้รูปเคารพ คนเล่นชู้ ชายที่บำเรอชาย ชายรักร่วมเพศ . . . จะไม่ได้รับราชอาณาจักรของพระเจ้า.” (1 โค. 6:9, 10) ดังนั้น มีการบอกไว้ชัดเจนว่าผู้คนที่ดำเนินชีวิตผิดศีลธรรมและไม่ยอมเปลี่ยนจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ในโลกใหม่ของพระเจ้า.
10. ตามมัดธาย 4:5, 6 ซาตานพยายามใช้การล่อใจอะไรอีกอย่างหนึ่งเพื่อทำลายความซื่อสัตย์มั่นคงของพระเยซู?
10 พระคัมภีร์กล่าวถึงการล่อใจอย่างหนึ่งที่พระเยซูประสบในถิ่นทุรกันดารว่า “พญามารนำพระองค์เข้าไปในเมืองบริสุทธิ์และให้ยืนบนกำแพงด้านที่สูงที่สุดของพระวิหาร แล้วพูดกับพระองค์ว่า ‘ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าก็กระโจนลงไปสิ เพราะมีคำเขียนไว้ว่า “พระองค์จะทรงบัญชาเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ให้ดูแลท่าน และพวกเขาจะเอามือรับท่านไว้ เพื่อไม่ให้เท้าท่านกระทบหินเลย.”’ ” (มัด. 4:5, 6) ซาตานพูดเป็นนัยว่าการทำตามข้อเสนอนี้จะแสดงฐานะพระมาซีฮาของพระเยซูให้เป็นที่ประจักษ์อย่างน่าประทับใจ. แต่จริง ๆ แล้ว นั่นเป็นการกระทำที่หยิ่งยโสและไม่ถูกต้องที่พระเจ้าคงไม่พอพระทัยและไม่สนับสนุน. อีกครั้งหนึ่ง พระเยซูทรงรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระยะโฮวาและตอบโดยยกข้อคัมภีร์. พระองค์ตรัสว่า “มีคำเขียนไว้อีกว่า ‘อย่าลองดีพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า.’ ”—มัด. 4:7; บัญ. 6:16.
11. ซาตานอาจล่อลวงเราอย่างไร และนั่นอาจทำให้เกิดผลเช่นไร?
11 ซาตานอาจล่อลวงเราให้แสวงหาเกียรติยศในวิธีต่าง ๆ. มันอาจพยายามชักนำเราให้เลียนแบบแฟชั่นการแต่งกายที่ผู้คนคลั่งไคล้หรือให้ยุ่งเกี่ยวกับความบันเทิงที่น่าสงสัย. แต่หากเราเพิกเฉยคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิลและเลียนแบบโลก เราจะคาดหมายว่าทูตสวรรค์จะปกป้องเราไว้จากผลกระทบที่ไม่ดีของการทำอย่างนั้นได้ไหม? แม้ว่ากษัตริย์ดาวิดกลับใจจากบาปที่ทำกับบัธเซบะ ท่านต้องรับผลที่เกิดจากการกระทำของท่าน. (2 ซามู. 12:9-12) ขอเราอย่าทดสอบพระยะโฮวาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น ด้วยการผูกมิตรกับโลก.—อ่านยาโกโบ 4:4; 1 โยฮัน 2:15-17.
12. มีการกล่าวถึงการล่อใจอะไรที่มัดธาย 4:8, 9 และพระบุตรของพระเจ้าทรงตอบอย่างไร?
12 การล่อใจอีกอย่างหนึ่งที่พญามารใช้ในถิ่นทุรกันดารเกี่ยวข้องกับการเสนออำนาจทางการเมืองแก่พระเยซู. ซาตานแสดงให้พระเยซูเห็นอาณาจักรทั้งสิ้นในโลกและสง่าราศีของอาณาจักรเหล่านั้นแล้วกล่าวว่า “เราจะมอบสิ่งทั้งปวงนี้แก่ท่านถ้าท่านหมอบลงนมัสการเราสักครั้ง.” (มัด. 4:8, 9) ช่างต่ำช้าจริง ๆ ที่มันพยายามจะได้รับการนมัสการซึ่งเป็นของพระยะโฮวาและชักนำพระเยซูให้ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า! โดยครุ่นคิดอยากได้รับการนมัสการ ทูตสวรรค์ที่เคยภักดีผู้นี้จึงกลายมาเป็นซาตานพญามาร ผู้ล่อลวงที่ผิดบาป, โลภ, และชั่วร้ายอย่างยิ่ง. (ยโก. 1:14, 15) แต่ต่างกันอย่างชัดเจน พระเยซูทรงแน่วแน่ในการรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์ และด้วยเหตุนั้นพระองค์จึงตรัสอย่างหนักแน่นว่า “ไปให้พ้น เจ้าซาตาน! เพราะมีคำเขียนไว้ว่า ‘จงนมัสการพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า และจงทำงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ถวายพระองค์ผู้เดียว.’ ” โดยวิธีนั้น พระเยซูทรงต่อสู้พญามารด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนและหนักแน่นอีกครั้งหนึ่ง. พระบุตรของพระเจ้าไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในโลกของซาตาน และไม่มีทางที่พระองค์จะนมัสการตัวชั่วร้ายนั้น!—มัด. 4:10; บัญ. 6:13; 10:20.
“จงต่อสู้พญามาร แล้วมันจะหนีไปจากพวกท่าน”
13, 14. (ก) ด้วยการแสดงให้พระเยซูเห็นอาณาจักรทั้งสิ้นในโลก พญามารเสนออะไรแก่พระองค์? (ข) ซาตานพยายามทำให้เราเสื่อมทรามโดยวิธีใด?
13 ด้วยการแสดงให้พระเยซูเห็นอาณาจักรทั้งสิ้นในโลก พญามารเสนอให้พระองค์มีอำนาจยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดมีมาก่อน. ซาตานหวังว่าสิ่งที่พระเยซูทรงเห็นจะดึงดูดใจพระองค์และโน้มน้าวให้เชื่อว่าพระองค์สามารถเป็นผู้นำทางการเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก. ปัจจุบัน พญามารไม่ได้เสนอจะให้อาณาจักรทั้งหลายแก่เรา แต่มันพยายามทำให้หัวใจเราเสื่อมทรามโดยสิ่งที่เราเห็น, ได้ยิน, และคิด.
14 พญามารควบคุมโลกนี้อยู่. ดังนั้น มันควบคุมสื่อต่าง ๆ ของโลก. ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่สิ่งที่โลกเสนอให้ผู้คนชม, ฟัง, และอ่านเต็มไปด้วยเรื่องผิดศีลธรรมและความรุนแรง. พวกนักโฆษณาของโลกนี้พยายามกระตุ้นเราให้อยากซื้อสินค้ามากมายที่เราไม่จำเป็นต้องมี. โดยวิธีเช่นนั้น พญามารล่อลวงเราอยู่เรื่อย ๆ ด้วยวัตถุสิ่งของที่อาจทำให้เรารู้สึกว่าน่าดู, น่าฟัง, และดึงดูดใจ. แต่เมื่อเราปฏิเสธที่จะชม, ฟัง, และอ่านสิ่งที่ขัดกับหลักการในพระคัมภีร์ ก็เหมือนกับการที่เราพูดว่า “ไปให้พ้น เจ้าซาตาน!” ด้วยวิธีนั้น เราเลียนแบบพระเยซูด้วยการปฏิเสธโลกที่ไม่สะอาดของซาตานอย่างหนักแน่นและเด็ดขาด. ข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่เป็นส่วนของโลกของซาตานยังเห็นได้ด้วยจากวิธีที่เราแสดงตัวเราเองอย่างกล้าหาญว่าเราเป็นพยานพระยะโฮวาและเป็นสาวกของพระคริสต์ในที่ทำงาน, ที่โรงเรียน, ในละแวกบ้าน, และกับหมู่ญาติ.—อ่านมาระโก 8:38.
15. เหตุใดจึงต้องตื่นตัวอยู่ตลอดในการต่อสู้ซาตาน?
15 หลังจากพยายามล่อลวงพระเยซูเป็นครั้งที่สามให้ทิ้งความซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระเจ้าแต่ไม่สำเร็จ “พญามารจึงจากพระองค์ไป.” (มัด. 4:11) แต่ซาตานไม่ได้เลิกล้มความตั้งใจที่จะล่อลวงพระเยซู เพราะเราอ่านว่า “ดังนั้น เมื่อพญามารล่อใจพระองค์ [ในถิ่นทุรกันดาร] แล้วก็ไปจากพระองค์ และรอจนกว่าจะมีโอกาสอีก.” (ลูกา 4:13) เมื่อเราประสบความสำเร็จในการต่อสู้พญามาร เราควรขอบคุณพระยะโฮวา. แต่เราควรขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าต่อไปด้วย เพราะพญามารจะกลับมาล่อลวงเราอีกเมื่อมันมีโอกาส—และไม่จำเป็นต้องเป็นเวลาที่เราอาจคาดหมายว่าจะมีการล่อลวง. ด้วยเหตุนั้น เราต้องตื่นตัวตลอดเวลา พร้อมจะบากบั่นในการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ที่ถวายแด่พระยะโฮวาไม่ว่าเราต้องเผชิญการทดสอบเช่นไรก็ตาม.
16. พระยะโฮวาประทานกำลังอันทรงพลังอะไรแก่เรา และเหตุใดเราควรอธิษฐานขอกำลังจากพระองค์?
16 เพื่อสนับสนุนความพยายามของเราในการต่อสู้พญามาร เราควรอธิษฐานขอกำลังที่ทรงพลังที่สุดในเอกภพ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ด้วยความมั่นใจว่าเราจะได้รับ. พระวิญญาณจะช่วยเราให้ทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำด้วยกำลังของเราเอง. พระเยซูทรงรับรองว่าเหล่าสาวกสามารถได้รับพระวิญญาณของพระเจ้าโดยตรัสว่า “ถ้าเจ้าทั้งหลายซึ่งแม้เป็นคนบาปก็ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตร ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์!” (ลูกา 11:13) ขอให้เราอธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป. โดยได้รับกำลังที่ทรงพลังที่สุดสนับสนุนเราให้ตั้งใจแน่วแน่ในการต่อสู้พญามาร เราจะสามารถชนะ. นอกจากอธิษฐานเป็นประจำอย่างแรงกล้าแล้ว เราจำเป็นต้องสวมยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณครบชุดจากพระเจ้าเพื่อจะ “สามารถยืนหยัดต้านทานกลอุบายของพญามารได้.”—เอเฟ. 6:11-18.
17. ความยินดีอะไรช่วยพระเยซูให้ต่อสู้พญามารได้?
17 มีอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยพระเยซูในการต่อสู้พญามาร และสิ่งนี้สามารถช่วยเราด้วย. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “[พระเยซู] ทรงทนทุกข์จนสิ้นพระชนม์บนเสาทรมานโดยไม่ทรงคำนึงถึงความอับอายเพราะเห็นแก่ความยินดีที่อยู่ตรงหน้า และทรงนั่งด้านขวาราชบัลลังก์ของพระเจ้าแล้ว.” (ฮีบรู 12:2) เราก็สามารถมีความยินดีคล้าย ๆ กันด้วยการสนับสนุนพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา, ถวายเกียรติแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์, และนึกถึงบำเหน็จอันได้แก่ชีวิตนิรันดร์ที่อยู่ตรงหน้าเรา. เราจะยินดีมากเพียงไรเมื่อซาตานและผลแห่งการงานทั้งหมดของมันถูกลบล้างไปตลอดกาล และ ‘คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงได้แผ่นดินเป็นมรดก และชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์’! (เพลง. 37:11) ด้วยเหตุนั้น จงต่อสู้พญามารต่อ ๆ ไปเหมือนกับที่พระเยซูทรงต่อสู้.—อ่านยาโกโบ 4:7, 8.
คุณจะตอบอย่างไร?
• มีข้อพิสูจน์อะไรว่าพระยะโฮวาทรงคุ้มครองประชาชนของพระองค์?
• พระเยซูทรงวางตัวอย่างไว้อย่างไรในการต่อสู้ซาตาน?
• คุณจะสามารถต่อสู้พญามารได้โดยวิธีใด?
[ภาพหน้า 29]
การเป็นมิตรกับโลกทำให้เราเป็นศัตรูกับพระเจ้า
[ภาพหน้า 31]
พระเยซูทรงปฏิเสธข้อเสนอของซาตานที่จะยกอาณาจักรทั้งสิ้นในโลกให้