บท 4
พระยะโฮวายกย่องชื่อของพระองค์
1, 2. คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ยกย่องชื่อของพระเจ้าอย่างไร?
เช้าวันอังคารที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1947 พี่น้องผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ จากเบเธลบรุกลิน นิวยอร์ก เริ่มทำงานชิ้นใหญ่ที่ต้องใช้ความบากบั่นพยายามอย่างมาก แต่พวกเขาก็ทำงานนี้ตลอดช่วงเวลา 12 ปี ในที่สุด เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 1960 พวกเขาก็แปลส่วนสุดท้ายของพระคัมภีร์เสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นอีก 3 เดือน คือวันที่ 18 มิถุนายน 1960 พี่น้องนาธาน นอร์ประกาศการออกส่วนสุดท้ายของพระคัมภีร์ครบชุดที่เรียกว่าพระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับแปลโลกใหม่ ในการประชุมใหญ่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ผู้ฟังทุกคนที่นั่นตื่นเต้นดีใจมาก ผู้บรรยายพูดแทนความรู้สึกของผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้อย่างดี เขาบอกว่า ‘วันนี้เป็นวันที่พยานพระยะโฮวาทั่วโลกยินดีมาก!’ เหตุผลที่ทำให้พวกเขาดีใจเป็นพิเศษก็คือลักษณะเด่นของการแปลพระคัมภีร์ฉบับนี้คือ มีการใช้ชื่อเฉพาะของพระยะโฮวาบ่อยมาก
2 คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลหลายฉบับตัดชื่อของพระเจ้าออกไป แต่ผู้รับใช้ที่ถูกเจิมของพระยะโฮวาต้านทานแผนร้ายของซาตานที่ต้องการลบชื่อของพระเจ้าจากความทรงจำของมนุษย์ คำนำของคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ ที่ออกในวันนั้นกล่าวว่า “ลักษณะเด่นที่สุดของฉบับแปลนี้คือมีการใส่ชื่อของพระเจ้าไว้ที่เดิมที่เคยมีอยู่” ที่จริง ฉบับแปลโลกใหม่ ใช้ชื่อของพระเจ้า คือ ยะโฮวา มากกว่า 7,000 ครั้ง เห็นได้ชัดว่า ฉบับแปลนี้ยกย่องชื่อพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเรามากยิ่งกว่าฉบับไหน ๆ!
3. (ก) พี่น้องของเราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับความหมายของชื่อพระเจ้า? (ข) เราเข้าใจเอ็กโซโด 3:13, 14 อย่างไร? (ดูกรอบ “ชื่อพระเจ้าหมายความว่าอะไร?”)
3 ในช่วงแรก ๆ นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเข้าใจว่า ชื่อของพระเจ้าหมายความว่า “เราเป็นผู้ซึ่งเราเป็น” (เอ็ก. 3:14, ฉบับคิงเจมส์ ) ดังนั้น หอสังเกตการณ์ 1 มกราคม 1926 จึงบอกว่า “ชื่อยะโฮวาหมายถึง บุคคลหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง . . . เป็นผู้ที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุด” แต่ตอนที่ผู้แปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ เริ่มงานนี้ พระยะโฮวาได้ช่วยประชาชนของพระองค์ให้เข้าใจว่าชื่อนี้ไม่ได้หมายความว่าพระองค์มีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ชื่อนี้แสดงว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่มีความตั้งใจและมีโครงการหลายอย่าง ผู้แปลได้เรียนรู้ว่าความหมายตรงตัวของชื่อยะโฮวาคือ “พระองค์ทำให้เป็น” พระเจ้าทำให้เอกภพและสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเกิดขึ้นมากมาย และพระองค์ยังทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่ตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริง แต่ทำไมการยกย่องชื่อของพระเจ้าจึงสำคัญมาก และเราจะยกย่องชื่อของพระองค์ได้อย่างไร?
การทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์
4, 5. (ก) เมื่อเราอธิษฐานขอให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ เราหมายถึงอะไร? (ข) พระเจ้าจะทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์เมื่อไร และอย่างไร?
4 พระยะโฮวาอยากให้ชื่อของพระองค์ได้รับการยกย่อง ที่จริง ความตั้งใจอันดับแรกของพระเจ้าคือ การทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากคำอธิษฐานแบบอย่างของพระเยซู สิ่งแรกที่ท่านขอคือ “ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์” (มัด. 6:9) เมื่อเราอธิษฐานขอแบบนั้น เรากำลังหมายถึงอะไร?
5 ในบท 1 เราได้เรียนเรื่องคำอธิษฐานแบบอย่างของพระเยซู คำขอที่บอกว่า “ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์” เป็นหนึ่งในคำขอ 3 ข้อที่เกี่ยวกับความตั้งใจของพระยะโฮวา ส่วนอีก 2 ข้อคือ “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ” (มัด. 6:10) ดังนั้น เหมือนกับที่เราขอให้พระยะโฮวาก่อตั้งราชอาณาจักรเพื่อทำให้สิ่งที่พระองค์ตั้งใจไว้เกิดขึ้นจริง เราก็ขอให้พระยะโฮวาทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ด้วย พูดง่าย ๆ คือ เรากำลังขอให้พระยะโฮวาลบล้างคำตำหนิที่ทำให้ชื่อของพระองค์เสื่อมเสียตั้งแต่ตอนที่มีการกบฏในสวนเอเดน พระยะโฮวาจะตอบคำอธิษฐานนั้นอย่างไร? พระองค์กล่าวว่า “เราจะชำระให้นามที่ยิ่งใหญ่ของเราบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นนามที่ถูกลบหลู่ท่ามกลางประชาชาติ” (ยเอศ. 36:23; 38:23, ฉบับคิงเจมส์ ) นี่หมายความว่า พอถึงวันอาร์มาเก็ดดอน พระยะโฮวาจะขจัดความชั่วช้า และทำให้ทั้งมนุษยชาติและทูตสวรรค์เห็นว่าชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์
6. เราจะทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ได้อย่างไร?
6 ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์ พระยะโฮวาอนุญาตให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีส่วนร่วมในการทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ แน่นอนว่า เราไม่มีทางทำให้ชื่อของพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไปมากกว่านี้ เพราะชื่อพระองค์ศักดิ์สิทธิ์หรือบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้น เราจะทำให้ชื่อนี้เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ได้อย่างไร? ยะซายาห์บอกว่า “พระยะโฮวาแห่งพลโยธานั้นแหละ ที่เจ้าทั้งหลายยกย่อง ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์” และพระยะโฮวาเองก็พูดถึงประชาชนของพระองค์ว่า “เขาจะเคารพนับถือนามของเรา . . . และเขาจะยำเกรง พระเจ้าแห่งชนชาติยิศราเอล” (ยซา. 8:13; 29:23) ดังนั้น เราทำให้ชื่อของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ได้โดยแยกชื่อของพระเจ้าไว้ต่างหากและยกย่องชื่อนี้ให้สูงยิ่งกว่าชื่อใด ๆ คิดถึงความหมายของชื่อพระองค์เสมอ และช่วยคนอื่นให้เห็นความบริสุทธิ์ของชื่อพระองค์ เราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเราเกรงกลัวและเคารพนับถือชื่อของพระเจ้า เมื่อเรายอมรับว่าพระยะโฮวาคือผู้ปกครองของเรา และเราเชื่อฟังพระองค์จากใจจริง—สุภา. 3:1; วิ. 4:11
พระเจ้าเตรียมประชาชนให้พร้อมที่จะยกย่องและใช้ชื่อพระองค์
7, 8. (ก) ทำไมต้องใช้เวลานานก่อนที่ประชาชนของพระเจ้าจะได้ใช้ชื่อของพระองค์? (ข) เรากำลังจะเรียนเรื่องอะไร?
7 ผู้รับใช้ของพระเจ้าในสมัยปัจจุบันได้ใช้ชื่อของพระองค์ในสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1870 ตัวอย่างเช่น หอสังเกตการณ์ สิงหาคม 1879 และหนังสือเพลงที่ชื่อว่าเพลงของเจ้าสาว (ภาษาอังกฤษ) ที่พิมพ์ในปีเดียวกันนั้นได้พูดถึงชื่อพระยะโฮวาด้วย แต่ดูเหมือนว่าก่อนที่พระยะโฮวาจะยอมให้ประชาชนเรียกตัวเองอย่างเปิดเผยโดยใช้ชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระยะโฮวาต้องการให้พวกเขาทำตามข้อเรียกร้องของพระองค์เพื่อจะคู่ควรกับเกียรตินี้ พระยะโฮวาเตรียมนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลรุ่นแรก ๆ ให้พร้อมสำหรับการใช้ชื่อของพระองค์อย่างไร?
8 ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เราเห็นวิธีที่พระยะโฮวาช่วยประชาชนให้เข้าใจความจริงที่สำคัญเกี่ยวกับชื่อของพระองค์ ให้เรามาดูความจริง 3 ข้อที่พวกเขาได้เรียนรู้
9, 10. (ก) ทำไมบทความในหอสังเกตการณ์ ฉบับแรก ๆ เน้นเรื่องพระเยซูคริสต์? (ข) มีการเปลี่ยนแปลงอะไรตั้งแต่ปี 1919 เป็นต้นมา และผลที่เกิดขึ้นคืออะไร? (ดูกรอบ “หอสังเกตการณ์ ยกย่องชื่อพระเจ้าอย่างไร?”)
9 ข้อ 1 ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาได้รับความเข้าใจว่าชื่อของพระองค์สำคัญมากขนาดไหน นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่ซื่อสัตย์ในสมัยแรก ๆ มองว่าการจัดเตรียมเรื่องค่าไถ่เป็นคำสอนหลักของคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้น หอสังเกตการณ์ จึงพูดถึงพระเยซูบ่อยมาก อย่างเช่น ในปีแรกที่จัดพิมพ์วารสารนี้ มีการกล่าวถึงชื่อพระเยซูมากกว่าชื่อพระยะโฮวาถึง 10 เท่า หอสังเกตการณ์ 15 มีนาคม 1976 บอกว่านักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในสมัยแรก ๆ “ให้ความสำคัญกับพระเยซูมากเกินไป” แต่ต่อมาพระยะโฮวาช่วยพวกเขาให้เข้าใจว่าเรื่องสำคัญที่คัมภีร์ไบเบิลเน้นคือ ชื่อของพระเจ้า ความเข้าใจนี้ส่งผลต่อนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลอย่างไร? บทความในหอสังเกตการณ์ ฉบับนั้นบอกด้วยว่า ตั้งแต่ปี 1919 เป็นต้นมา “พวกเขาเริ่มให้เกียรติพระยะโฮวาผู้เป็นพ่อของมาซีฮามากขึ้น” ที่จริง ในช่วงปี 1920-1929 หอสังเกตการณ์ ได้พูดถึงชื่อพระเจ้ามากกว่า 6,500 ครั้ง!
10 พี่น้องของเราแสดงให้เห็นว่าพวกเขารักชื่อของพระเจ้าโดยให้ความสำคัญและยกย่องชื่อของพระยะโฮวาอย่างสมเกียรติ เหมือนกับโมเซที่มีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณ พวกเขาตั้งใจ “ประกาศพระนามพระยะโฮวา” (บัญ. 32:3; เพลง. 34:3) ผลก็เป็นอย่างที่พระคัมภีร์สัญญาไว้คือ พระยะโฮวาสังเกตเห็นว่าพวกเขารักชื่อของพระองค์ และพระองค์ก็แสดงความรักต่อพวกเขา—เพลง. 119:132; ฮีบรู 6:10
11, 12. (ก) ไม่นานหลังจากปี 1919 มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในหนังสือของเรา? (ข) พระยะโฮวาได้ช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้หันมาสนใจเรื่องอะไร และทำไม?
11 ข้อ 2 คริสเตียนแท้ได้รับความเข้าใจว่างานที่พระเจ้าอยากให้พวกเขาทำคืออะไร ไม่นานหลังจากปี 1919 พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ชี้นำพี่น้องผู้ถูกเจิมที่นำหน้าในงานรับใช้ให้ตรวจสอบคำพยากรณ์ของยะซายาห์อย่างจริงจัง ตั้งแต่นั้นมา เนื้อหาในหนังสือของเราก็เปลี่ยนไปเน้นอีกด้านหนึ่ง ทำไมการปรับเปลี่ยนนี้จึงถือว่าเป็น ‘อาหารในเวลาที่เหมาะ’?—มัด. 24:45
12 ก่อนปี 1919 หอสังเกตการณ์ ไม่เคยพิจารณารายละเอียดในคำพูดของยะซายาห์ที่ว่า “พระยะโฮวาตรัสว่า ‘เจ้าทั้งหลายเป็นพยานของเรา และเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราได้เลือกสรรไว้’” (อ่านยะซายา 43:10-12) แต่ไม่นานหลังจากปี 1919 หนังสือของเราเริ่มให้ความสำคัญกับข้อคัมภีร์นี้มากขึ้น โดยสนับสนุนผู้ถูกเจิมทุกคนให้มีส่วนร่วมในงานที่พระยะโฮวาสั่งให้ทำ คือ การเป็นพยาน ถึงพระองค์ ที่จริง แค่ในช่วงปี 1925-1931 มีบทความที่พิจารณาหนังสือยะซายาบท 43 อย่างละเอียดในหอสังเกตการณ์ ถึง 57 ฉบับ และแต่ละฉบับก็อธิบายว่าคำพูดของยะซายาห์เกี่ยวข้องกับคริสเตียนแท้อย่างไร เห็นได้ชัดว่า ตลอดหลายปีนั้น พระยะโฮวาได้ช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้หันมาสนใจงาน ที่พวกเขาต้องทำ เพราะอะไร? เหตุผลหนึ่งก็คือ พระองค์อยาก “ทดลองดูความเหมาะสมของคนเหล่านี้ก่อน” (1 ติโม. 3:10) นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลต้องทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าพวกเขาตั้งใจทำงานและเป็นพยานของพระองค์จริง ๆ และพวกเขาต้องพิสูจน์ตัวว่าคู่ควรกับเกียรติที่จะได้ใช้ชื่อของพระเจ้า—ลูกา 24:47, 48
13. คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยความจริงที่สำคัญที่สุดอย่างไร?
13 ข้อ 3 ประชาชนของพระยะโฮวาได้รับความเข้าใจว่าการทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์สำคัญอย่างไร ระหว่างทศวรรษ 1920 พวกเขาเข้าใจว่าการทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยความจริงที่สำคัญนี้อย่างไร? ขอให้เราคิดถึง 2 ตัวอย่างต่อไปนี้ เหตุผลหลักที่พระยะโฮวาช่วยชาติอิสราเอลให้รอดจากอียิปต์คืออะไร? พระยะโฮวากล่าวว่า “เพื่อนามของเราจะได้ลือกระฉ่อนไปทั่วโลก” (เอ็ก. 9:16) และทำไมพระยะโฮวาแสดงความกรุณาต่อชาวอิสราเอลทั้ง ๆ ที่พวกเขาขัดขืนและไม่เชื่อฟังพระองค์? พระยะโฮวาบอกว่า “เราก็กระทำโดยเห็นแก่ชื่อของเราเองเพื่อไม่ให้ชื่อนั้นมลทินในสายตาของประชาชาติ” (ยเอศ. 20:8-10, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1971 ) นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลได้เรียนอะไรจากข้อคัมภีร์เหล่านี้และเรื่องอื่น ๆ ที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล?
14. (ก) พอถึงปลายทศวรรษ 1920 ประชาชนของพระเจ้าเข้าใจเรื่องอะไร? (ข) เมื่อนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลได้รับความเข้าใจมากขึ้น เรื่องนั้นมีผลกระทบต่องานประกาศของพวกเขาอย่างไร? (ดูกรอบ “เหตุผลสำคัญที่ต้องออกประกาศ”)
14 พอถึงปลายทศวรรษ 1920 ประชาชนของพระเจ้าก็เข้าใจว่าสิ่งที่ยะซายาห์พูดไว้เมื่อ 2,700 ปีก่อนนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก ยะซายาห์พูดว่า พระยะโฮวา “นำพลเมืองของพระองค์ไปเช่นนั้นก็เพื่อจะทำให้พระนามของพระองค์มีเกียรติยศ” (ยซา. 63:14) นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเข้าใจว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความรอดของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์ (ยซา. 37:20; ยเอศ. 38:23) ในปี 1929 หนังสือคำพยากรณ์ (ภาษาอังกฤษ) สรุปความจริงข้อนี้ว่า “ชื่อของพระยะโฮวาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับทูตสวรรค์และมนุษย์ทุกคน” ความเข้าใจใหม่นี้ยิ่งกระตุ้นผู้รับใช้ของพระเจ้าให้บอกคนอื่นเรื่องพระยะโฮวา พวกเขาต้องทำให้ชื่อของพระองค์พ้นจากคำตำหนิ
15. (ก) พอถึงต้นทศวรรษ 1930 พี่น้องของเราเข้าใจเรื่องอะไร? (ข) ตอนนี้พระยะโฮวาเห็นว่าถึงเวลาสำหรับอะไร?
15 พอถึงต้นทศวรรษ 1930 พี่น้องของเราก็มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของชื่อพระเจ้า มีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับงานที่พระเจ้าสั่งให้พวกเขาทำ และเข้าใจว่าการทำให้ชื่อของพระเจ้าเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตอนนี้ พระยะโฮวาเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้รับใช้จะได้รับเกียรติเป็นตัวแทนที่ใช้ชื่อของพระองค์ แต่เพื่อจะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น ให้เรามาดูเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต
พระยะโฮวายอมรับ ‘ประชาชนสำหรับชื่อของพระองค์’
16. (ก) พระยะโฮวายกย่องชื่อของพระองค์ในวิธีที่โดดเด่นอย่างไร? (ข) ในอดีต ใครเป็นคนกลุ่มแรกที่ถูกเลือกเป็นประชาชนของพระเจ้า?
16 วิธีที่โดดเด่นวิธีหนึ่งที่พระยะโฮวาใช้เพื่อยกย่องชื่อของพระองค์ คือ ให้มีกลุ่มคนบนโลกนี้เป็นตัวแทนที่ใช้ชื่อของพระองค์ ตั้งแต่ปี 1513 ก่อน ค.ศ. เป็นต้นมา พระยะโฮวาได้เลือกชาติอิสราเอลให้เป็นตัวแทนหรือประชาชนของพระองค์ (ยซา. 43:12) แต่พวกเขาไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพระเจ้า และในปี 33 พวกเขาสูญเสียสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์และไม่ได้เป็นประชาชนของพระองค์อีกต่อไป ไม่นานหลังจากนั้น พระยะโฮวาได้ “หันไปใฝ่พระทัยชนต่างชาติเป็นครั้งแรก . . . เพื่อนำคนกลุ่มหนึ่งออกมาเป็นประชาชนสำหรับพระนามพระองค์” (กิจ. 15:14) ประชาชนที่พระองค์เพิ่งเลือกใหม่นี้เรียกว่า “อิสราเอลของพระเจ้า” พวกเขาก็คือสาวกผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ซึ่งมาจากชาติต่าง ๆ—กลา. 6:16
17. ซาตานประสบความสำเร็จในเรื่องอะไร?
17 ประมาณปี 44 สาวกของพระคริสต์ซึ่งได้รับ “การทรงนำจากพระเจ้า” ถูกเรียกว่า “คริสเตียน” (กิจ. 11:26) ในตอนแรก ชื่อนี้นับว่าโดดเด่นมาก เพราะนี่หมายถึงคริสเตียนแท้เท่านั้น (1 เป. 4:16) แต่จากตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องข้าวสาลีกับวัชพืช เราได้รู้ว่าซาตานประสบความสำเร็จมาก มันใช้เล่ห์เหลี่ยมจนทำให้คำว่าคริสเตียนถูกนำไปใช้กับคริสเตียนปลอมทุกรูปแบบด้วย ผลก็คือ เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ผู้คนแยกแยะไม่ออกว่า ใครเป็นคริสเตียนแท้ใครเป็นคริสเตียนปลอม แต่เมื่อถึง “ฤดูเกี่ยว” ซึ่งเริ่มในปี 1914 สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เพราะอะไร? เพราะทูตสวรรค์เริ่มแยกคริสเตียนปลอมออกจากคริสเตียนแท้—มัด. 13:30, 39-41
18. อะไรช่วยให้พี่น้องของเราเห็นว่าจำเป็นต้องมีชื่อใหม่?
18 หลังจากมีการแต่งตั้งทาสสัตย์ซื่อในปี 1919 พระยะโฮวาช่วยประชาชนให้เข้าใจงานที่พระองค์สั่งให้พวกเขาทำ ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจว่าการประกาศตามบ้านเป็นงานที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากพวกคริสเตียนปลอมทั้งหมด แล้วพวกเขาก็เริ่มมองออกว่า ชื่อ “นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล” ยังไม่ได้ทำให้พวกเขาแตกต่างอย่างชัดเจนจากคริสเตียนปลอม นอกจากนั้น เป้าหมายหลักในชีวิตของพวกเขาไม่ใช่แค่ศึกษาคัมภีร์ไบเบิล แต่เพื่อบอกผู้คนให้รู้เรื่องพระเจ้าและยกย่องให้เกียรติชื่อของพระองค์ แล้วชื่อไหนล่ะที่จะเหมาะกับงานนี้? พวกเขารู้คำตอบในปี 1931
19, 20. (ก) มีคำประกาศที่น่าตื่นเต้นอะไรในการประชุมใหญ่ปี 1931? (ข) พี่น้องของเราตอบรับอย่างไรเมื่อได้ชื่อใหม่?
19 ในเดือนกรกฎาคมปี 1931 นักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลประมาณ 15,000 คนไปร่วมการประชุมใหญ่ที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้รับใบกำหนดการที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่ 2 ตัว คือ J (เจ) กับ W (ดับเบิลยู) อยู่บนหน้าปก พวกเขาสงสัยว่า ‘ตัวอักษรนี้หมายถึงอะไร?’ หลายคนก็เดากันไปต่าง ๆ นานา พอถึงวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พี่น้องโจเซฟ รัทเทอร์ฟอร์ดก็ทำให้ทุกคนหายสงสัย เมื่อเขาประกาศอย่างหนักแน่นว่า “เราต้องการให้ทุกคนรู้จักและเรียกเราด้วยชื่อพยานพระยะโฮวา” แล้วตอนนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก็เข้าใจทันทีว่าตัวอักษร 2 ตัวนั้นเป็นอักษรย่อของชื่อพยานพระยะโฮวา (Jehovah’s Witnesses) ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากยะซายา 43:10
20 ผู้ฟังทั้งหมดตอบรับคำประกาศนั้นด้วยความยินดีและด้วยเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องเป็นเวลานาน แล้ววิทยุก็กระจายเสียงความตื่นเต้นยินดีในโคลัมบัสให้ดังไปไกลถึงครึ่งค่อนโลก! เออร์เนสต์และเนโอมิ บาร์เบอร์ พี่น้องในออสเตรเลียเล่าว่า “พอเสียงปรบมือที่อเมริกาดังขึ้นเท่านั้นแหละ พวกพี่น้องในเมลเบิร์นก็ลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือกันไม่หยุด เราไม่เคยลืมความรู้สึกในวันนั้นเลย!”a
ชื่อของพระเจ้าเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก
21. ชื่อใหม่สนับสนุนให้พี่น้องทำงานประกาศมากขึ้นอย่างไร?
21 ชื่อของพยานพระยะโฮวาที่ได้มาจากพระคัมภีร์ทำให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าประกาศอย่างขยันขันแข็งมากขึ้น เอ็ดเวิร์ดกับเจสซี ไกรม์ส คู่สมรสที่เป็นไพโอเนียร์ในสหรัฐซึ่งไปร่วมการประชุมใหญ่ที่โคลัมบัสในปี 1931 บอกว่า “ตอนที่เราออกจากบ้าน เราเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล แต่ขากลับ เราเป็นพยานพระยะโฮวา เรามีความสุขที่ตอนนี้เรามีชื่อที่ช่วยเราให้ยกย่องชื่อของพระเจ้าได้มากขึ้น” หลังจากการประชุมใหญ่ครั้งนั้น พยานฯบางคนก็ใช้วิธีใหม่ในงานประกาศ พวกเขาแนะนำตัวกับเจ้าของบ้าน โดยยื่นบัตรที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “พยานของพระยะโฮวาคนหนึ่งกำลังประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระยะโฮวาพระเจ้าของเรา” ประชาชนของพระยะโฮวาภูมิใจที่ได้ใช้ชื่อของพระองค์ และพร้อมจะประกาศให้คนทั่วโลกรู้ว่าชื่อนี้สำคัญขนาดไหน—ยซา. 12:4
“ตอนที่เราออกจากบ้าน เราเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล แต่ขากลับ เราเป็นพยานพระยะโฮวา”
22. อะไรทำให้ประชาชนของพระยะโฮวาแตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจน?
22 หลายปีผ่านไป ตั้งแต่ที่พระยะโฮวากระตุ้นพี่น้องผู้ถูกเจิมของเราให้รับเอาชื่อที่ไม่เหมือนใครนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ซาตานประสบความสำเร็จไหม ในการปิดหูปิดตาผู้คนไม่ให้รู้จักประชาชนของพระเจ้า? มันทำให้เราถูกกลืนหายไปกับศาสนาต่าง ๆ ของโลกไหม? ไม่เลย! ที่จริง ชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นพยานถึงพระเจ้ากลับยิ่งโดดเด่นมากกว่ายุคสมัยใด (อ่านมีคา 4:5; มาลาคี 3:18) ที่จริง การที่เราใช้ชื่อของพระยะโฮวาอย่างเปิดเผย ทำให้ผู้คนรู้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้เป็นประชาชนหรือเป็นพยานของพระยะโฮวา แทนที่จะถูกศาสนาเท็จซึ่งเป็นเหมือนภูเขาบดบังจนมิด การนมัสการแท้ของพระยะโฮวาจะ “ถูกตั้งขึ้นเหนือ ยอดของภูเขาทั้งหลาย” (ยซา. 2:2, พระคัมภีร์ โดยคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์ ) เห็นได้ชัดว่า ทุกวันนี้การนมัสการพระยะโฮวาและชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์กำลังได้รับการยกย่องอย่างสูง
23. บทเพลงสรรเสริญ 121:5 ทำให้เรามีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นได้อย่างไร?
23 เรามีความเชื่อเข้มแข็งขึ้นมากเมื่อรู้ว่าพระยะโฮวาจะปกป้องคุ้มครองไม่ให้ซาตานโจมตีเราได้ทั้งในตอนนี้และในอนาคต! (เพลง. 121:5) นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากแสดงความรู้สึกแบบเดียวกับผู้แต่งเพลงสรรเสริญที่เขียนว่า “ชนประเทศที่ถือพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของตนก็เป็นสุข คือชนที่พระองค์ทรงเลือกไว้เป็นพลไพร่ของพระองค์”—เพลง. 33:12
a สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้วิทยุโปรดดูบท 7 หน้า 72-74