แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 14-20 มีนาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 ซามูเอล 14-15
“การเชื่อฟังดีกว่าเครื่องบูชา”
it-2-E น. 521 ว. 2
การเชื่อฟัง
ไม่มีอะไรมาทดแทนการเชื่อฟังได้ ถ้าไม่เชื่อฟังก็ไม่มีทางทำให้พระเจ้าพอใจได้เลย เหมือนที่ซามูเอลบอกกษัตริย์ซาอูลว่า “พระยะโฮวาจะพอใจเครื่องบูชาเผามากกว่าการเชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวาหรือ? ไม่ใช่เลย! การเชื่อฟังดีกว่าเครื่องบูชาและการทำตามคำสั่งก็ดีกว่ามันแกะตัวผู้” (1ซม 15:22) การไม่เชื่อฟังหมายถึงไม่ยอมรับคำพูดของพระยะโฮวา ซึ่งแสดงถึงการขาดความเชื่อและไม่ไว้ใจคำพูดนั้นรวมถึงผู้ที่พูด ดังนั้น คนที่ไม่เชื่อฟังก็มีความผิดไม่ต่างอะไรกับคนที่ทำนายโชคชะตาและไหว้รูปเคารพ (1ซม 15:23; เทียบกับ รม 6:16) ถ้าใครพูดว่าเชื่อฟังแต่ไม่ได้ทำตามก็ไม่มีประโยชน์เลย และการไม่ทำตามก็แสดงถึงการไม่นับถือและไม่มีความเชื่อในผู้ที่สั่ง (มธ 21:28-32) คนที่ฟังและยอมรับคำสอนของพระเจ้าแค่ในใจแต่ไม่ทำตามก็กำลังหลอกตัวเองด้วยการหาเหตุผลผิด ๆ และเขาจะไม่ได้รับพรจากพระเจ้า (ยก 1:22-25) พระเยซูลูกของพระเจ้าทำให้เห็นชัดว่า คนที่ทำเหมือนกับว่าเชื่อฟังแต่ทำด้วยเจตนาที่ไม่ดีและด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธและไม่ได้เข้ารัฐบาลของพระเจ้า—มธ 7:15-23
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-1-E น. 493
ความเมตตา
การแสดงความเมตตาเพราะถูกกดดันทั้ง ๆ ที่ขัดกับความต้องการของพระเจ้าทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงหลายอย่าง เรื่องนี้เห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับกษัตริย์ซาอูล เขาได้รับคำสั่งให้กำจัดพวกอามาเลขตามคำพิพากษาของพระเจ้า ซึ่งเป็นชนชาติแรกที่มาโจมตีชาวอิสราเอลหลังจากที่พวกเขาออกจากอียิปต์ พระยะโฮวาสั่งซาอูลว่าไม่ต้องเมตตาพวกเขา แต่เพราะถูกกดดันจากประชาชน ซาอูลเลยไม่ได้ทำตามคำสั่งของพระองค์อย่างครบถ้วน ผลก็คือพระยะโฮวาไม่ยอมรับซาอูลเป็นกษัตริย์อีกต่อไป (1ซม 15:2-24) คนที่ยอมรับจากใจว่าทุกอย่างที่พระยะโฮวาทำนั้นถูกต้องและภักดีต่อพระองค์เสมอจะไม่มีวันทำผิดเหมือนซาอูล และจะเป็นที่รักของพระเจ้าตลอดไป
วันที่ 28 มีนาคม–3 เมษายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 ซามูเอล 18-19
“ถ่อมตัวอยู่เสมอแม้แต่ตอนที่ประสบความสำเร็จ”
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 695-696
ผู้พยากรณ์
ถึงแม้ผู้พยากรณ์จะได้รับการแต่งตั้งโดยพลังบริสุทธิ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้รับพลังบริสุทธิ์ตลอดเวลา แทนที่จะเป็นอย่างนั้นพวกเขา “ได้รับพลังจากพระยะโฮวา” เป็นระยะ ๆ ทำให้รู้ว่าต้องประกาศข่าวสารเรื่องอะไร (อสค 11:4, 5; มคา 3:8) พลังนี้จะกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกว่าต้องพูดออกมา (1ซม 10:10; ยรม 20:9; อมส 3:8) บางครั้งผู้พยากรณ์อาจทำอะไรแปลก ๆ หรือมีสีหน้าท่าทางต่างจากคนทั่วไป เพราะฉะนั้นเมื่อคัมภีร์ไบเบิลบอกว่าบางคนทำท่าทาง “เหมือนผู้พยากรณ์” ก็อาจเป็นเพราะเขาทำตัวแปลก ๆ แบบนี้ (1ซม 10:6-11; 19:20-24; ยรม 29:24-32; เทียบกับ กจ 2:4, 12-17; 6:15; 7:55) ผู้พยากรณ์กล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะทำตามคำสั่งของพระเจ้า บางครั้งเขาเลยทำอะไรที่ดูแปลกประหลาดหรือไม่มีเหตุผลในสายตาคนอื่น เช่น ตอนที่ผู้ชายคนหนึ่งมาเจิมเยฮู พวกแม่ทัพคิดว่าเขาเป็นคนบ้า แต่พอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผู้พยากรณ์ พวกแม่ทัพก็ยอมรับสิ่งที่เขาพูดทันที (2พก 9:1-13; เทียบกับ กจ 26:24, 25) ตอนที่ซาอูลกำลังไล่ล่าดาวิด พลังของพระเจ้าทำให้ซาอูล “ทำท่าทางเหมือนผู้พยากรณ์” เขาถอดเสื้อชั้นนอกออกและนอน “โดยไม่มีผ้าคลุมกายทั้งวันทั้งคืน” และตอนนั้นดาวิดก็หนีไปได้ (1ซม 19:18-20:1) นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้พยากรณ์ชอบถอดเสื้อผ้าเพราะบันทึกในคัมภีร์ไบเบิลก็ไม่ได้บอกแบบนั้น ที่จริงมีแค่ 2 เหตุการณ์ที่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าผู้พยากรณ์ไม่มีผ้าคลุมกาย และที่พวกเขาทำอย่างนั้นก็เพื่อทำให้คนอื่นเห็นภาพคำพยากรณ์ชัดขึ้น (อสย 20:2-4; มคา 1:8-11) คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าพลังของพระเจ้ากระตุ้นซาอูลให้ถอดเสื้อออกเพราะอะไร อาจเพื่อให้เขาดูเป็นคนธรรมดาเพราะไม่ได้อยู่ในชุดกษัตริย์ และดูอ่อนแอไม่สามารถต่อสู้กับพระยะโฮวาผู้มีพลังอำนาจสูงส่งได้ หรืออาจเพราะเหตุผลอื่น