แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 11-17 กรกฎาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 20-21
“พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ยุติธรรม”
it-1-E น. 932 ว. 1
กิเบโอน
ถึงแม้ว่ากษัตริย์ซาอูลวางแผนที่จะทำลายชาวกิเบโอน แต่ชาวกิเบโอนก็ยังรอดและมีชีวิตต่อมาได้เรื่อย ๆ พวกเขาอดทนรอพระยะโฮวาจัดการกับความไม่ยุติธรรมนี้ พระยะโฮวาทำให้มีการขาดแคลนอาหารติดต่อกัน 3 ปีในช่วงที่ดาวิดปกครองเป็นกษัตริย์ พอดาวิดถามพระยะโฮวาและได้รู้ว่ามีการทำผิด เขาเลยถามชาวกิเบโอนว่าต้องทำยังไงเพื่อจะไถ่โทษ ชาวกิเบโอนตอบอย่างถูกต้องว่าเรื่องนี้ “ไม่เกี่ยวกับเงินหรือทอง” เพราะตามกฎหมายของโมเสสแล้ว ไม่มีค่าไถ่ใด ๆ ที่สามารถไถ่ชีวิตของฆาตกรได้ (กดว 35:30, 31) และชาวกิเบโอนรู้ว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ประหารชีวิตใครโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ดังนั้น พวกเขาจึงรอดาวิดถามแล้วค่อยขอให้ส่ง “ลูกหลาน” ของซาอูล 7 คนมาให้พวกเขา การที่ความผิดตกอยู่กับซาอูลและราชวงศ์ของเขาแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ซาอูลเป็นคนนำหน้าในการลงมือฆ่า แต่ “ลูกหลาน” ของเขาก็อาจมีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วย ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม (2ซม 21:1-9) เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่การประหารชีวิตลูกเพราะความผิดของพ่อ (ฉธบ 24:16) แต่เกี่ยวข้องกับการทำให้มีความยุติธรรมตามกฎหมายที่บอกว่า “ชีวิตจะต้องแทนด้วยชีวิต”—ฉธบ 19:21
วันที่ 25-31 กรกฎาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 2 ซามูเอล 23-24
“คุณกำลังถวายเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาไหม?”
it-1-E น. 146
อาราวนาห์
ดูเหมือนว่าอาราวนาห์เสนอจะให้ที่ดิน วัว และไม้ที่ใช้ในการถวายเครื่องบูชาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ดาวิดไม่ยอมและบอกว่าจะจ่ายเงินให้ บันทึกที่ 2 ซามูเอล 24:24 บอกว่าดาวิดซื้อลานนวดข้าวและวัวเป็นเงินหนัก 50 เชเขล (3,700 บาท) แต่บันทึกที่ 1 พงศาวดาร 21:25 บอกว่าดาวิดจ่ายค่าที่ดินเป็นทองคำหนัก 600 เชเขล (2,580,000 บาท) ผู้เขียนหนังสือ 2 ซามูเอลพูดถึงแค่ที่ตั้งของแท่นบูชาและของถวายที่ใช้สำหรับเครื่องบูชา ดังนั้น จำนวนเงินที่เขาบันทึกไว้จึงเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับของเหล่านี้เท่านั้น แต่ผู้เขียนหนังสือ 1 พงศาวดารพูดถึงการซื้อที่ดินซึ่งจะมีการสร้างวิหารที่นั่นในเวลาต่อมา (1พศ 22:1-6; 2พศ 3:1) เนื่องจากพื้นที่ของวิหารมีขนาดใหญ่มาก ทองคำจำนวน 600 เชเขลจึงเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่ใช่แค่ที่ดินที่ดาวิดใช้สำหรับแท่นบูชาเท่านั้น
วันที่ 1-7 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 พงศ์กษัตริย์ 1-2
“คุณเรียนจากความผิดพลาดของตัวเองไหม?”
it-2-E น. 987 ว. 4
โซโลมอน
อาโดนียาห์และพรรคพวกของเขาหนีไปด้วยความกลัวและความสับสนหลังจากได้ยินเสียงเพลงที่กีโฮนซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก และได้ยินเสียงผู้คนตะโกนว่า “ขอให้กษัตริย์โซโลมอนอายุยืนยาว!” โซโลมอนทำให้เห็นว่าประชาชนจะมีสันติสุขภายใต้การปกครองของเขาโดยเขาไม่ได้จัดการกับอาโดนียาห์ ในทางกลับกันถ้าอาโดนียาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ โซโลมอนคงถูกฆ่าแน่ ๆ อาโดนียาห์หนีไปที่วิหารของพระเจ้าเพื่อหาที่คุ้มภัย โซโลมอนเลยสั่งคนให้ไปเอาตัวอาโดนียาห์มา และบอกว่าอาโดนียาห์จะไม่ตายถ้าเขาทำตัวดี แล้วหลังจากนั้นโซโลมอนก็ให้อาโดนียาห์กลับบ้านไป—1พก 1:41-53
it-1-E น. 49
อาโดนียาห์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดาวิดตาย อาโดนียาห์ได้ไปขอร้องบัทเชบาให้ช่วยพูดกับกษัตริย์โซโลมอนแทนเขา เพื่อขออาบีชากซึ่งเคยเป็นผู้ดูแลรับใช้กษัตริย์ดาวิดมาเป็นภรรยา อาโดนียาห์บอกว่า “ผมควรจะได้เป็นกษัตริย์ และทุกคนในอิสราเอลก็คิดว่าผมจะได้เป็นกษัตริย์” นี่ทำให้เห็นว่าอาโดนียาห์รู้สึกว่าเขาไม่ได้รับสิทธิ์ที่เขาควรจะได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองก็ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นความต้องการของพระเจ้า (1พก 2:13-21) สิ่งที่อาโดนียาห์ขออาจมาจากความรู้สึกที่ว่าเขาควรจะได้อะไรทดแทนจากการที่เขาไม่ได้เป็นกษัตริย์ แต่ก็แสดงด้วยว่าอาโดนียาห์ยังมีความทะเยอทะยานอยู่ เพราะในดินแดนทางตะวันออกโบราณมีกฎว่าภรรยาและนางสนมของกษัตริย์จะเป็นของคนที่สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์เท่านั้น (เทียบกับ 2ซม 3:7; 16:21) พอโซโลมอนได้ยินคำขอนี้จากแม่ของเขา เขาก็สั่งให้เบไนยาห์ไปประหารอาโดนียาห์ทันที—1พก 2:22-25
วันที่ 15-21 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 พงศ์กษัตริย์ 5-6
“สร้างด้วยมือและใจของพวกเขา”
it-1-E น. 424
ซีดาร์
เนื่องจากมีการใช้ไม้สนซีดาร์เยอะมาก งานนี้จึงต้องใช้คนงานเป็นหมื่น โดยพวกคนงานจะตัดไม้ และส่งไปที่เมืองไทระหรือไซดอนซึ่งอยู่ทางชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พอไม้ไปถึงที่นั่นพวกเขาจะผูกไม้รวมกันเป็นแพ และให้มันลอยไปตามชายฝั่งซึ่งอาจจะไปถึงที่เมืองยัฟฟา หลังจากนั้น คนงานก็จะขนไม้เหล่านี้ไปที่เยรูซาเล็ม นี่เป็นข้อตกลงในสัญญาระหว่างโซโลมอนกับฮีราม (1พก 5:6-18; 2พศ 2:3-10) มีการขนส่งไม้สนซีดาร์อยู่ตลอดจนสามารถบอกได้ว่ามี “ไม้สนซีดาร์มากมายเหมือนต้นมะเดื่อป่า” ในช่วงการปกครองของโซโลมอน—1พก 10:27; เทียบกับ อสย 9:9, 10
it-2-E น. 1077 ว. 1
วิหาร
เพื่อจะทำให้โครงการนี้สำเร็จ โซโลมอนเกณฑ์คนงาน 30,000 คนจากทั่วอิสราเอล เขาส่งคนงานเหล่านี้ไปเลบานอนเดือนละ 10,000 คน คนพวกนี้จะผลัดกันไปทำงานและกลับมาอยู่บ้านตัวเอง 2 เดือน (1พก 5:13, 14) โซโลมอนเกณฑ์ “คนต่างชาติ” ที่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอล 70,000 คนให้เป็นคนงานแบกหาม และอีก 80,000 คนให้เป็นคนงานสกัดหิน (1พก 5:15; 9:20, 21; 2พศ 2:2) ดูเหมือนว่าโซโลมอนแต่งตั้งหัวหน้าผู้ดูแล 550 คนและผู้ช่วยอีก 3,300 คน (1พก 5:16; 9:22, 23) และดูเหมือนว่าในจำนวนนี้มี 250 คนเป็นชาวอิสราเอล และอีก 3,600 คนเป็น “คนต่างชาติ” ที่อาศัยในอิสราเอล—2พศ 2:17, 18
วันที่ 22-28 สิงหาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 พงศ์กษัตริย์ 7
“บทเรียนจากเสา 2 ต้น”
it-1-E น. 348
โบอาส, II
หน้าโถงทางเข้าวิหารที่ยิ่งใหญ่ของโซโลมอนมีเสาทองแดง 2 ต้นใหญ่ เสาที่อยู่ด้านเหนือสุดมีชื่อว่าโบอาส ซึ่งอาจแปลว่า “ด้วยกำลัง” เสาที่อยู่ทางใต้ชื่อว่ายาคีน แปลว่า “ขอพระองค์ [พระยะโฮวา] ตั้งให้มั่นคง” ดังนั้นเมื่อคนหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและอ่านจากขวาไปซ้าย ก็จะทำให้เข้าใจความหมายว่า ‘ขอพระองค์ [พระยะโฮวา] ตั้ง [วิหารนี้] ให้มั่นคงด้วยกำลัง [ของพระองค์]’—1พก 7:15-21
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-1-E น. 263
อาบน้ำ
ความสะอาดด้านร่างกายเป็นข้อเรียกร้องสำหรับคนที่นมัสการพระยะโฮวาด้วยความบริสุทธิ์ เราเห็นเรื่องนี้ได้จากการจัดเตรียมของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์และการรับใช้ในวิหาร ตอนที่มีการแต่งตั้งให้อาโรนและลูกชายของเขาทำหน้าที่ปุโรหิต พวกเขาก็ต้องอาบน้ำก่อนจะใส่เครื่องแต่งกายบริสุทธิ์ (อพย 29:4-9; 40:12-15; ลนต 8:6, 7) คนที่เป็นปุโรหิตต้องล้างมือล้างเท้าซึ่งจะใช้น้ำจากอ่างทองแดงที่อยู่ในลานเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และสำหรับวิหารของโซโลมอนก็ต้องใช้น้ำจากทะเลทองแดง (อพย 30:18-21; 40:30-32; 2พศ 4:2-6) ในวันไถ่บาป มหาปุโรหิตต้องอาบน้ำสองครั้ง (ลนต 16:4, 23, 24) นอกจากนั้น คนที่เอาแพะอาซาเซลไปปล่อย และคนที่เอาสัตว์ไปเผานอกค่ายพักจะต้องซักเสื้อผ้าของตัวเองและอาบน้ำก่อน ถึงจะกลับเข้ามาในค่ายพักได้—ลนต 16:26-28; กดว 19:2-10
วันที่ 29 สิงหาคม–4 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล | 1 พงศ์กษัตริย์ 7
“โซโลมอนอธิษฐานด้วยความถ่อมต่อหน้าประชาชน”
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-1-E น. 1060 ว. 4
สวรรค์
โซโลมอนสร้างวิหารของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม เขาบอกว่า “แม้แต่ท้องฟ้าที่สูงส่งก็ยังไม่ใหญ่พอที่จะให้พระองค์อยู่” (1พก 8:27) พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างฟ้าและสวรรค์ ตำแหน่งของพระองค์สูงส่งกว่าอะไรทั้งหมด และ “ชื่อของพระองค์ผู้เดียวสูงส่งกว่าทุกสิ่ง พระองค์ยิ่งใหญ่กว่าโลกและสวรรค์” (สด 148:13) พระยะโฮวาวัดสวรรค์ได้ง่ายมากเหมือนที่คนเราวัดสิ่งของด้วยมือเพียงคืบเดียว ซึ่งยาวตั้งแต่ปลายนิ้วหัวแม่มือจนถึงปลายนิ้วก้อยตอนกางมือออก (อสย 40:12) คำพูดของโซโลมอนไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าไม่มีที่อยู่ และไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าอยู่ในทุกสิ่งหรือในทุกหนทุกแห่ง เราเห็นความจริงเรื่องนี้ได้จากสิ่งที่โซโลมอนพูดว่า “ขอพระองค์ฟังจากที่อยู่ของพระองค์ในสวรรค์” ซึ่งสวรรค์ในที่นี้คือที่อยู่ของเหล่ากายวิญญาณ—1พก 8:30, 39