รับใช้พระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจ
“พระยะโฮวาพระเจ้า โปรดคิดถึงการกระทำที่ซื่อสัตย์ของผม ผมรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ”—2 พก. 20:3
1-3. การรับใช้พระยะโฮวา “สุดหัวใจ” หมายความว่าอย่างไร? ขอยกตัวอย่าง
พวกเราทุกคนไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาด เรารู้สึกขอบคุณพระยะโฮวาที่พระองค์ให้มีค่าไถ่และพร้อมจะยกโทษความผิดของเรา ถ้าเราถ่อมตัวและกลับใจเราสามารถขอพระเจ้ายกโทษให้เรา เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะ “ไม่ลงโทษพวกเราให้สมกับบาปของพวกเรา” (สด. 103:10) แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ต้อง “รับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ” (1 พศ. 28:9) แล้วเราจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ?
2 ให้เราเปรียบเทียบชีวิตของกษัตริย์อาสากับกษัตริย์อามาซิยาห์ กษัตริย์ยูดาห์ทั้งสององค์นี้ทำสิ่งที่พระยะโฮวาเห็นว่าถูกต้อง แต่อาสาทำอย่างสุดหัวใจ ที่จริงเขาทั้งสองคนไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาด ถึงอย่างนั้น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า ‘อาสารับใช้พระเจ้าสุดหัวใจตลอดชีวิต’ อาสาพยายามทำให้พระยะโฮวาพอใจเสมอ เขาให้พระองค์ทั้งหัวใจ (2 พศ. 15:16, 17; 25:1, 2; สภษ. 17:3) แต่อามาซิยาห์ไม่ได้รับใช้พระเจ้า “สุดหัวใจ” หลังจากที่เขาเอาชนะพวกศัตรูของพระเจ้า อามาซิยาห์เอารูปเคารพของพวกศัตรูกลับมาด้วยและเริ่มกราบไหว้รูปเคารพเหล่านั้น—2 พศ. 25:11-16
3 คนที่รับใช้พระยะโฮวา “สุดหัวใจ” จะรักพระองค์ทั้งหัวใจและอยากจะรับใช้พระองค์ตลอดไป คำว่า “หัวใจ” ในคัมภีร์ไบเบิลปกติแล้วหมายถึงตัวตนจริง ๆ ของเรา ซึ่งรวมถึงวิธีที่เราคิด สิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราอยากทำ และเหตุผลลึก ๆ ที่เราทำสิ่งต่าง ๆ ถึงแม้ว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ เรายังสามารถรับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจได้ เรารับใช้พระองค์เพราะเราอยากจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับหรือทำด้วยความเคยชิน—2 พศ. 19:9
4. เราจะเรียนอะไรต่อจากนี้?
4 เราสามารถเข้าใจมากขึ้นว่าการรับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจหมายความว่าอย่างไรจริง ๆ โดยทบทวนเรื่องราวชีวิตของอาสาและกษัตริย์ยูดาห์ที่ซื่อสัตย์อีก 3 องค์ ซึ่งก็คือเยโฮชาฟัท เฮเซคียาห์ และโยสิยาห์ ถึงแม้กษัตริย์ทั้ง 4 องค์จะทำผิดพลาดอยู่บ้าง แต่พระยะโฮวาก็พอใจในตัวพวกเขา พระองค์มองว่าพวกเขารับใช้พระองค์สุดหัวใจจริง ๆ ให้เรามาดูด้วยกันว่าทำไมพระองค์ถึงมองพวกเขาแบบนั้น และเราจะเลียนแบบพวกเขาได้อย่างไร
อาสา “รับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจ”
5. อาสาทำอะไรตอนที่เขาเป็นกษัตริย์?
5 หลังจากชาติอิสราเอลถูกแบ่งแยกออกเป็นอาณาจักรอิสราเอลและอาณาจักรยูดาห์ อาสาเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองยูดาห์ เขาตั้งใจกำจัดการนมัสการเท็จและการผิดศีลธรรมทางเพศที่น่ารังเกียจทั้งหมดออกจากอาณาจักรของเขา อาสาทำลายรูปเคารพที่ประชาชนกราบไหว้และขับไล่พวกโสเภณีชายประจำวิหารออกไป อาสาถึงกับปลดย่าของเขาออกจากตำแหน่ง “ราชมารดา เพราะนางทำ . . . รูปเคารพที่น่าเกลียด” (1 พก. 15:11-13) อาสายังกระตุ้นให้ประชาชน “รับใช้พระยะโฮวา” และ “ทำตามกฎหมายและคำสั่งของพระองค์” กษัตริย์องค์นี้ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยคนอื่นให้นมัสการพระยะโฮวา—2 พศ. 14:4
6. อาสาทำอย่างไรตอนที่พวกเอธิโอเปียบุกมาสู้รบกับยูดาห์?
6 ในช่วง 10 ปีแรกที่อาสาปกครอง ในอาณาจักรยูดาห์ไม่มีสงครามเลย แต่แล้วพวกเอธิโอเปียก็ยกทัพมาต่อสู้กับยูดาห์ พวกเขามีทหารหนึ่งล้านคนและรถศึกอีก 300 คัน (2 พศ. 14:1, 6, 9, 10) อาสาทำอย่างไร? เขาอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยให้ชนะสงคราม เขามั่นใจเต็มที่ว่าพระยะโฮวาสามารถช่วยประชาชนของพระองค์ (อ่าน 2 พงศาวดาร 14:11) บางครั้ง พระยะโฮวาช่วยให้ประชาชนของพระองค์ชนะศัตรูถึงแม้ตอนนั้นกษัตริย์ที่ปกครองพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ที่พระองค์ทำอย่างนั้นก็เพราะอยากแสดงว่าพระองค์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ (1 พก. 20:13, 26-30) แต่ในครั้งนี้พระยะโฮวาช่วยประชาชนของพระองค์เพราะกษัตริย์อาสาพึ่งพระองค์ พระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานของอาสาและช่วยให้พวกเขาชนะสงคราม (2 พศ. 14:12, 13) หลังจากนั้น กษัตริย์อาสาทำผิดร้ายแรง เขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาแต่ไปขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์ซีเรีย (1 พก. 15:16-22) ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น พระยะโฮวามองว่าอาสารักพระองค์ สำหรับพระองค์แล้ว เขาเป็นคนที่ “รับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจตลอดชีวิต” เราจะเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของอาสาได้อย่างไร?—1 พก. 15:14
7, 8. คุณจะเลียนแบบอาสาได้อย่างไร?
7 เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราให้พระยะโฮวาทั้งหัวใจจริง ๆ หรือเปล่า? เราน่าจะถามตัวเองว่า ‘ฉันเชื่อฟังพระยะโฮวาทั้งตอนที่ไม่ง่ายที่จะทำอย่างนั้นไหม? ฉันตั้งใจจริง ๆ ที่จะรักษาประชาคมของพระองค์ให้สะอาดและบริสุทธิ์ไหม?’ ลองคิดดูว่ากษัตริย์อาสาต้องกล้าหาญขนาดไหนเพื่อจะปลดย่าของเขาออกจากตำแหน่งในราชสำนัก คุณเองก็เหมือนกัน บางครั้งคุณอาจต้องกล้าหาญเหมือนกับอาสา ตัวอย่างเช่น คุณจะทำอย่างไรถ้าครอบครัวหรือเพื่อนที่คุณรักทำผิด ไม่กลับใจ และถูกตัดสัมพันธ์? คุณจะตั้งใจไม่คบและไม่คุยกับเขาไหม? หัวใจของคุณบอกให้คุณทำอะไร?
8 เหมือนกับอาสา บางครั้งเราอาจรู้สึกว่ามีแต่คนไม่ชอบเรา เพื่อนที่โรงเรียนหรือครูอาจทำเหมือนคุณเป็นตัวตลก หรือคุณอาจรู้สึกเป็นตัวประหลาดเพราะคุณเป็นพยานพระยะโฮวา หรือเพื่อนที่ทำงานอาจบอกว่าคุณโง่ที่ใช้วันลาหยุดไปประชุมใหญ่ หรือบอกว่าคุณไม่ฉลาดที่ไม่ค่อยทำโอทีเพื่อจะได้เงินมากขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้คุณต้องพึ่งพระเจ้าเหมือนกับอาสา คุณต้องอธิษฐานถึงพระยะโฮวา คุณต้องกล้าที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง จำไว้ว่าพระเจ้าช่วยอาสาและให้กำลังกับเขา และพระองค์ก็จะทำอย่างนั้นกับคุณด้วย
9. ตอนที่เราประกาศ เราจะแสดงว่าเรารับใช้พระเจ้าสุดหัวใจได้อย่างไร?
9 อาสาไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง เขายังกระตุ้นคนอื่นให้ “รับใช้พระยะโฮวา” พวกเราก็เหมือนกัน เราน่าจะช่วยคนอื่นให้รับใช้พระยะโฮวาด้วย พระยะโฮวาเห็นตอนที่เราพูดกับคนอื่นเกี่ยวกับพระองค์ ลองคิดดูสิว่าพระองค์จะดีใจขนาดไหนที่ได้เห็นว่าเราบอกเรื่องของพระองค์ให้คนอื่นฟังเพราะเรารักพระองค์ ห่วงคนอื่น และห่วงอนาคตของพวกเขา
เยโฮชาฟัทรับใช้พระยะโฮวา
10, 11. เราจะเลียนแบบเยโฮชาฟัทได้อย่างไรบ้าง?
10 เยโฮชาฟัทลูกชายของอาสา “ทำตามอาสาพ่อของเขาทุกอย่าง” (2 พศ. 20:31, 32) เขาทำอะไร? เหมือนกับพ่อของเขา เยโฮชาฟัทกระตุ้นประชาชนให้นมัสการพระยะโฮวาต่อไป เขาส่งพวกผู้ชายไปเมืองต่าง ๆ ในยูดาห์เพื่อสอนประชาชนจาก “หนังสือกฎหมายของพระยะโฮวา” (2 พศ. 17:7-10) เยโฮชาฟัทถึงกับไปหาประชาชนในเขตเทือกเขาของเอฟราอิมซึ่งเป็นเขตของอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือ “เพื่อช่วยประชาชนให้กลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้า” (2 พศ. 19:4) เยโฮชาฟัทเป็นกษัตริย์ที่ “รับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจ”—2 พศ. 22:9
11 ในทุกวันนี้ พระยะโฮวาอยากให้ผู้คนจากทั่วโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์ และเราทุกคนสามารถช่วยกันทำงานนี้ได้ คุณตั้งเป้าที่จะสอนเรื่องพระยะโฮวากับคนอื่นทุกเดือนไหม? คุณอยากจะมีนักศึกษาเพื่อคุณจะได้ช่วยเขาให้มารับใช้พระยะโฮวาเหมือนกับคุณไหม? คุณอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม? ถ้าคุณออกความพยายาม พระยะโฮวาจะช่วยคุณให้เริ่มการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับใครสักคนได้ คุณเต็มใจเสียสละเวลาพักผ่อนส่วนตัวเพื่อจะมีเวลาสอนคัมภีร์ไบเบิลไหม? เหมือนกับเยโฮชาฟัทที่พยายามช่วยคนอื่นให้กลับมารับใช้พระยะโฮวาอีกครั้ง เราทุกคนก็น่าจะพยายามช่วยคนที่เลิกประกาศ นอกจากนั้น ในเขตงานของประชาคมอาจมีคนที่ถูกตัดสัมพันธ์ที่อาจจะเลิกทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องไปแล้ว ผู้ดูแลในประชาคมน่าจะไปเยี่ยมและช่วยพวกเขา
12, 13. (ก) ตอนที่เยโฮชาฟัทกลัว เขาทำอะไร? (ข) ทำไมเราควรทำตามตัวอย่างของเยโฮชาฟัท?
12 เยโฮชาฟัทเป็นเหมือนกับอาสาพ่อของเขา เขาพึ่งพระยะโฮวาตอนที่มีกองทัพใหญ่บุกเข้ามาโจมตียูดาห์ (อ่าน 2 พงศาวดาร 20:2-4) ถึงเยโฮชาฟัทจะกลัวแต่เขาก็ขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา ในคำอธิษฐานเขายอมรับว่าไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ เขายังบอกด้วยว่าเขาและประชาชนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แต่เยโฮชาฟัทมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะช่วยเขา เขาอธิษฐานว่า “พวกเรา . . . ได้แต่รอให้พระองค์ช่วย”—2 พศ. 20:12
13 เหมือนกับเยโฮชาฟัท บางครั้งเราอาจไม่รู้ว่าจะรับมือกับปัญหาที่เราเจออย่างไรดี และเราอาจกลัวด้วยซ้ำ (2 คร. 4:8, 9) แต่คุณจำได้ไหมว่าเยโฮชาฟัททำอะไร? เขาอธิษฐานต่อหน้าประชาชนและบอกพระยะโฮวาว่าตัวเขาและประชาชนรู้สึกอ่อนแอมากขนาดไหน (2 พศ. 20:5) พี่น้องที่เป็นหัวหน้าครอบครัวสามารถเลียนแบบเยโฮชาฟัท เมื่อมีปัญหาคุณน่าจะอธิษฐานขอพระยะโฮวาช่วยคุณกับครอบครัวให้รู้ว่าควรทำอะไร และขอให้มีกำลังพอที่จะรับมือกับปัญหาได้ อย่าอายที่จะอธิษฐานให้ครอบครัวคุณได้ยินว่าคุณพูดอะไรบ้าง พวกเขาจะได้รู้ว่าคุณวางใจพระยะโฮวามากแค่ไหน จำไว้ว่าพระเจ้าได้ช่วยเยโฮชาฟัท และพระองค์ก็จะช่วยคุณเหมือนกัน
เฮเซคียาห์ทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
14, 15. เฮเซคียาห์วางใจและพึ่งพระเจ้าเต็มร้อยอย่างไร?
14 เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์อีกองค์หนึ่งที่ “ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา” เขาเป็นกษัตริย์ที่ดีถึงแม้ว่าพ่อของเขาวางตัวอย่างที่ไม่ดีและกราบไหว้พระเท็จ เฮเซคียาห์ “กำจัดสถานบูชาบนที่สูง ทุบทำลายแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ และโค่นเสาศักดิ์สิทธิ์” นอกจากนั้น “เขายังทำลายรูปงูทองแดงที่โมเสสทำไว้ด้วย” เพราะชาวอิสราเอลนมัสการกราบไหว้รูปนั้น เฮเซคียาห์ให้พระยะโฮวาทั้งหัวใจ เขา “เชื่อฟังพระองค์เสมอ และทำตามกฎหมายที่พระยะโฮวาให้ไว้กับโมเสส”—2 พก. 18:1-6
15 ตอนที่เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ อัสซีเรียเป็นมหาอำนาจโลก กองทัพอัสซีเรียบุกเข้ามายูดาห์และขู่ว่าจะทำลายกรุงเยรูซาเล็ม กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียเยาะเย้ยพระยะโฮวาและพยายามขู่ให้เฮเซคียาห์ยอมแพ้ ในช่วงเวลาที่วิกฤตินั้นเฮเซคียาห์วางใจพระยะโฮวาเต็มร้อย และอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระองค์ เขารู้ว่าพระยะโฮวามีพลังอำนาจมากกว่ากองทัพอัสซีเรียและพระองค์สามารถช่วยประชาชนของพระองค์ได้แน่นอน (อ่านอิสยาห์ 37:15-20) พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์โดยส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาฆ่าทหารของพวกอัสซีเรีย 185,000 คน—อสย. 37:36, 37
16, 17. เราสามารถเลียนแบบเฮเซคียาห์ได้อย่างไร?
16 ต่อมา เฮเซคียาห์ป่วยจนเกือบจะตาย ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เขาขอให้พระยะโฮวานึกถึงความซื่อสัตย์ของเขาและช่วยเขา (อ่าน 2 พงศ์กษัตริย์ 20:1-3) พระยะโฮวาฟังคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์และรักษาเขาให้หาย เรารู้จากคัมภีร์ไบเบิลว่าในทุกวันนี้เราไม่สามารถคาดหมายว่าพระเจ้าจะทำการอัศจรรย์ให้เราหายป่วยหรือมีอายุยืนขึ้น แต่เหมือนกับเฮเซคียาห์ เราพึ่งพระยะโฮวาได้ เราสามารถอธิษฐานพูดกับพระองค์ว่า “พระยะโฮวาพระเจ้า โปรดคิดถึงการกระทำที่ซื่อสัตย์ของผม ผมรับใช้พระองค์อย่างสุดหัวใจ” คุณเองเชื่อไหมว่าพระยะโฮวาจะดูแลคุณเสมอถึงแม้ว่าคุณกำลังป่วยอยู่?—สด. 41:3
17 เราสามารถเลียนแบบเฮเซคียาห์ในด้านไหนได้อีก? อาจมีบางอย่างขัดขวางไม่ให้เราใกล้ชิดกับพระยะโฮวา หรือแย่งเวลาเราจากการรับใช้พระองค์ ตัวอย่างเช่น หลายคนในทุกวันนี้ยกย่องผู้คนเหมือนกับว่ากำลังนมัสการคนคนนั้น พวกเขาชื่นชอบคนที่มีชื่อเสียงหรือคนอื่น ๆ ที่เขาไม่รู้จักจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ หลายคนใช้เวลาเยอะมากดูรูปหรืออ่านเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่มีชื่อเสียง นอกจากนั้น หลายคนชอบใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อติดต่อกับผู้คนทางอินเทอร์เน็ต แน่นอน เราชอบใช้เครื่องมือเหล่านั้นเพื่อติดต่อกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แต่เราอาจเสียเวลากับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ยิ่งกว่านั้น การใช้สื่อสังคมออนไลน์อาจจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมากเกินไปก็ได้ เช่น ถ้าเราลงรูปหรือข้อความในอินเทอร์เน็ต แล้วมีหลายคนชอบหรือมากดไลค์ เราอาจจะรู้สึกภูมิใจ แต่พอไม่ค่อยมีคนมาสนใจสิ่งที่เราโพสต์ เราก็อาจรู้สึกโกรธหรือรู้สึกแย่มาก ลองนึกถึงอัครสาวกเปาโลและอะควิลลากับปริสสิลลา คุณคิดว่าพวกเขาสามคนจะใช้เวลาคอยดูและติดตามว่าคนอื่นโดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่ผู้รับใช้พระเจ้าทำอะไรบ้างในแต่ละวันไหม คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าเปาโล “ทุ่มเทเวลาในการประกาศคำสอนของพระเจ้า” และอะควิลลากับปริสสิลลาก็ใช้เวลาประกาศและอธิบายให้ผู้คน “เข้าใจแนวทางของพระเจ้าอย่างถูกต้องยิ่งขึ้น” (กจ. 18:4, 5, 26) พวกเราน่าจะถามตัวเองว่า ‘ฉันระวังที่จะไม่ยกย่องหรือติดตามผู้คนเหมือนกับว่ากำลังนมัสการคนคนนั้นไหม? ฉันพยายามที่จะไม่ใช้เวลามากเกินไปกับสิ่งที่จริง ๆ แล้วไม่สำคัญไหม?’—อ่านเอเฟซัส 5:15, 16
โยสิยาห์เชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวา
18, 19. เราจะเลียนแบบโยสิยาห์ได้อย่างไร?
18 กษัตริย์โยสิยาห์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวา “สุดชีวิตจิตใจ” (2 พศ. 34:31) โยสิยาห์เป็นเหลนของเฮเซคียาห์ เขา “เริ่มรับใช้พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเขา” ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และตอนที่อายุ 20 เขาก็เริ่มกำจัดรูปเคารพออกจากยูดาห์ (อ่าน 2 พงศาวดาร 34:1-3) โยสิยาห์พยายามอย่างมากที่จะทำให้พระยะโฮวาพอใจ เขาทำมากกว่ากษัตริย์องค์อื่น ๆ ในยูดาห์หลายเท่า วันหนึ่ง ปุโรหิตใหญ่พบหนังสือกฎหมายของพระยะโฮวาในวิหาร หนังสือนี้อาจเป็นหนังสือที่โมเสสเขียนเอง! พอโยสิยาห์ได้ยินเลขานุการอ่านหนังสือนั้น เขาก็รู้ว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเต็มที่มากขึ้น และโยสิยาห์ได้กระตุ้นคนอื่นให้ทำอย่างเดียวกันด้วย ผลคือ ตอนที่โยสิยาห์ยังมีชีวิตอยู่ ผู้คน “ไม่ออกนอกลู่นอกทางเลย”—2 พศ. 34:27, 33
19 ถ้าคุณอายุยังน้อย คุณน่าจะเลียนแบบโยสิยาห์และพยายามรู้จักพระยะโฮวามากขึ้น กษัตริย์มนัสเสห์ปู่ที่กลับใจของโยสิยาห์อาจสอนเขาเกี่ยวกับพระยะโฮวาว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่เต็มใจให้อภัย คุณเองก็สามารถเรียนรู้จากคนที่อายุมากกว่าในประชาคมหรือในครอบครัวคุณได้ด้วย พวกเขาสามารถเล่าให้คุณฟังว่าพระยะโฮวาได้ทำอะไรดี ๆ ให้พวกเขาบ้าง นอกจากนั้น คุณจำได้ไหมว่าโยสิยาห์รู้สึกอย่างไรหลังจากที่ได้รู้ว่าคัมภีร์ไบเบิลบอกอะไรบ้าง เขากระตือรือร้นที่จะทำให้พระยะโฮวาพอใจและเปลี่ยนแปลงทันที คุณก็เหมือนกัน ถ้าคุณอ่านคัมภีร์ไบเบิล คุณก็จะมีความตั้งใจมากขึ้นที่จะเชื่อฟังพระยะโฮวา แล้วคุณก็จะสนิทกับพระองค์มากขึ้น มีความสุขขึ้น และอยากจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับพระองค์มากขึ้นด้วย (อ่าน 2 พงศาวดาร 34:18, 19) ตอนที่คุณศึกษาคัมภีร์ไบเบิล คุณอาจเจอวิธีที่จะทำงานรับใช้พระเจ้าได้ดีขึ้น ขอคุณพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับที่โยสิยาห์ทำ
รับใช้พระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจ
20, 21. (ก) กษัตริย์ทั้ง 4 องค์มีอะไรที่เหมือนกัน? (ข) เราจะเรียนอะไรในบทความหน้า?
20 เราได้เรียนอะไรจากกษัตริย์ทั้ง 4 องค์ของยูดาห์ที่รับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจ? กษัตริย์เหล่านี้ตั้งใจจริง ๆ ที่จะทำให้พระยะโฮวาพอใจและใช้ชีวิตเพื่อรับใช้พระองค์ พวกเขาพึ่งพระเจ้าตอนที่ศัตรูที่แข็งแกร่งมากบุกมาต่อสู้กับพวกเขา และที่สำคัญที่สุด พวกเขารับใช้พระยะโฮวาเพราะพวกเขารักพระองค์
21 ถึงแม้ว่ากษัตริย์ทั้ง 4 องค์นี้ไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาด พระยะโฮวาก็ยังพอใจพวกเขา พระองค์เห็นหัวใจของพวกเขาและรู้ว่าพวกเขารักพระองค์จริง ๆ พวกเราก็เหมือนกัน เราไม่สมบูรณ์แบบและทำผิดพลาด แต่พระยะโฮวาจะพอใจเราเมื่อพระองค์เห็นว่าเรารับใช้พระยะโฮวาสุดหัวใจ ในบทความหน้า เราจะคุยกันว่าเราสามารถเรียนอะไรจากข้อผิดพลาดของกษัตริย์ทั้ง 4 องค์นี้ได้