เยาวชน—คุณกำลังมุ่งติดตามอะไร?
“จงหนีเสียจากความปรารถนาซึ่งมักมีในวัยหนุ่มสาว แต่จงมุ่งหน้าติดตามความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก สันติสุข ร่วมไปกับคนเหล่านั้นที่ร้องถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยหัวใจบริสุทธิ์.”—2 ติโมเธียว 2:22 ล.ม.
1. อะไรเป็นความหวังของเราสำหรับเยาวชนในท่ามกลางพวกเรา?
“พยานพระยะโฮวาเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสมาชิกใหม่มากที่สุดทุก ๆ ปีและเป็นกลุ่มที่มีคนหนุ่มสาวมากที่สุด.” ข้อความนี้ได้เปิดเผยในหนังสือพิมพ์ดาเก็น ของนิกายเพ็นเตคอสในสวีเดน. บางทีคุณอาจเป็นคนหนึ่งในกลุ่มเยาวชนนี้ที่เป็นคนสะอาดสะอ้านและเกรงกลัวพระเจ้า. คุณอาจได้รับการอบรมเลี้ยงดูในแนวทางคริสเตียนมาตั้งแต่เป็นทารก หรือคุณอาจเคยได้ยินข่าวราชอาณาจักรด้วยตัวเองแล้วตอบรับ. ไม่ว่าในสภาพใดก็ตาม พวกเราดีใจที่มีคุณอยู่ท่ามกลางพวกเรา. และพวกเราหวังว่าคุณจะมุ่งติดตามแนวทางอันชอบธรรม ดังที่หนุ่มสาวคริสเตียนผู้ภักดีสมัยศตวรรษแรกเคยทำเช่นนั้น. คำพูดของอัครสาวกโยฮันคงเหมาะในการพรรณนาถึงคุณที่ว่า “ท่านทั้งหลายมีกำลังมาก, และพระคำของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่านทั้งหลาย. และท่านได้ชัยชนะแก่มารนั้น.”—1 โยฮัน 2:14.
2. องค์ประกอบอะไรบ้างซึ่งอาจทำให้ยุ่งยากต่อการมุ่งติดตามความชอบธรรมในช่วง “ความเปล่งปลั่งแห่งวัยหนุ่มสาว”?
2 หลายคน—ใช่แล้ว เยาวชนคริสเตียนส่วนใหญ่เวลานี้ยืนหยัดต้านความกดดันของโลก. กระนั้น คุณอาจประสบด้วยตัวเองว่าการยึดมั่นอยู่ในแนวทางดังกล่าวไม่ง่าย. เมื่ออยู่ใน “ความเปล่งปลั่งแห่งวัยหนุ่มสาว” คุณอาจรู้สึกเต็มด้วยความผ่าวร้อนและความรู้สึกใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นภายในตัว. (1 โกรินโธ 7:36, ล.ม.) เวลาเดียวกัน คุณอาจสำนึกถึงภาระรับผิดชอบที่เพิ่มเข้ามาในโรงเรียน, ที่บ้าน, และในประชาคม. มีความกดดันที่มาจากซาตานพญามารโดยตรงเสียด้วยซ้ำ. ด้วยความมุ่งมั่นจะชักนำคนเป็นอันมากให้หลงผิด ซาตานโจมตีคนเหล่านั้นซึ่งดูเหมือนไม่มั่นคง—เช่นที่มันทำในสวนเอเดน. ครั้งนั้น มันมุ่งวางอุบายเพื่อโน้มน้าวใจ ไม่ใช่อาดามซึ่งมีอายุมากกว่าและมีความรู้มากกว่า แต่ฮาวา หญิงที่อายุน้อยกว่าและค่อนข้างจะมีประสบการณ์น้อยกว่าอาดาม. (เยเนซิศ 3:1-5) หลายศตวรรษต่อมา ซาตานได้ใช้ยุทธวิธีที่คล้ายคลึงกันกับประชาคมคริสเตียนที่พึ่งตั้งขึ้นใหม่ในเมืองโกรินโธ. อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเกรงว่า, งูนั้นได้ล่อลวงนางฮาวาด้วยอุบายของมันฉันใด, จะมีเหตุอันหนึ่งอันใดล่อลวงจิตต์ใจของท่านทั้งหลายให้หลงจากความสัตย์ซื่อและความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์ฉันนั้น.”—2 โกรินโธ 11:3.
3, 4. ซาตานพญามารใช้เครื่องมืออะไรล่อหนุ่มสาวให้หลงผิด และพร้อมกับผลอะไรที่เป็นไปได้?
3 ทุกวันนี้ บิดามารดาคริสเตียนอาจเป็นห่วงคุณเช่นกัน. มิใช่เขานึกเอาว่าคุณโน้มเอียงไปทางชั่ว แต่เขารู้จากประสบการณ์ว่าคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะถูกโจมตีง่าย ๆ โดย “ยุทธอุบาย” ของซาตาน. (เอเฟโซ 6:11) แทนที่จะปรากฏในลักษณะน่ากลัว ซาตานวางกับดักล่ออย่างน่าดึงดูดใจ น่าปรารถนาด้วยซ้ำ. โทรทัศน์เสนอลัทธิวัตถุนิยม, เรื่องเพศที่โจ่งแจ้ง, ความรุนแรงที่เห็นภาพได้, และลัทธิภูตผีปิศาจอย่างแยบยลเสมือนเป็นความบันเทิง. จิตใจที่ยังอ่อนอยู่อาจรับเอาสิ่งต่าง ๆ แต่ก็หาใช่สิ่งที่ ‘จริง น่านับถือ ชอบธรรม บริสุทธิ์ และน่ารัก’ ไม่ (ฟิลิปปอย 4:8) ความกดดันที่มาจากคนรุ่นเดียวกันก็เป็นเครื่องมือที่มีพลังอีกอย่างหนึ่งที่ซาตานใช้. คนรุ่นเดียวกันอาจชักพาคุณเข้าสู่ความกดดันอย่างมากเพื่อที่คุณจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบชีวิต, การแต่งกาย, และจัดทรงผมเหมือนเขา. (1 เปโตร 4:3, 4) วิลเลียม บราวน์ นักเขียนประจำคอลัมน์ให้ข้อสังเกตดังนี้: “ถ้ามีพระเจ้าโดด ๆ องค์หนึ่งเฉพาะสำหรับเด็กวัยรุ่น นั้นคือพระเจ้าแห่งการทำเหมือนคนรุ่นเดียวกัน. . . . การเป็นคนที่ต่างไปจากคนรุ่นเดียวกัน สำหรับวัยรุ่นแล้วเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้กับเขา.” เด็กหญิงพยานฯคนหนึ่งในอิตาลีสารภาพว่า “ดิฉันอายที่จะบอกให้เพื่อนที่โรงเรียนรู้ว่าดิฉันเป็นพยานฯ. และเนื่องจากดิฉันรู้ว่าพระยะโฮวาไม่พอพระทัยดิฉัน ดิฉันรู้สึกเสียใจและหดหู่.”
4 อย่าเข้าใจผิด—ซาตานต้องการให้คุณไปสู่ความหายนะ. หนุ่มสาวมากมายที่อยู่ในโลกจะเสียชีวิตในระหว่างความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ เพราะว่าพวกเขาปล่อยตัวเองให้ถูกนำไปผิดทาง. (ยะเอศเคล 9:6) ทางเดียวที่จะรอดชีวิตคือมุ่งติดตามสิ่งที่ถูก.
จงระวังการสมาคมคบหาที่ไม่ดี
5, 6. (ก) หนุ่มติโมเธียวเผชิญการท้าทายอะไรขณะอยู่ในเมืองเอเฟโซ? (ข) เปาโลมีคำแนะนำอะไรสำหรับติโมเธียว?
5 นี้คือใจความของคำแนะนำที่อัครสาวกเปาโลได้ให้แก่หนุ่มติโมเธียว. สิบกว่าปีทีเดียวที่ติโมเธียวได้ร่วมเดินทางไปกับอัครสาวกเปาโลในงานเผยแพร่ต่างแดน. ในคราวที่ติโมเธียวปฏิบัติงานรับใช้ในเอเฟโซเมืองของพวกนอกรีต เปาโลนั่งอยู่ในคุกที่กรุงโรมรอการประหาร. ขณะที่ความตายคืบใกล้เข้ามา โดยไม่มีข้อสงสัย เปาโลคงต้องห่วงว่าติโมเธียวจะเป็นไปประการใด. เมืองเอเฟโซขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่อุดมมั่งคั่ง, การเสเพลผิดศีลธรรม, และการบันเทิงที่เสื่อมทราม และติโมเธียวจะไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไปจากผู้ให้คำปรึกษาซึ่งเป็นที่รักของท่าน.
6 เหตุฉะนั้น เปาโลจึงได้เขียนถึง “บุตรผู้เป็นที่รัก” ของท่านดังนี้: “นี่แหละ ในตึกใหญ่มิได้มีภาชนะทองและเงินอย่างเดียว แต่ย่อมมีภาชนะไม้และภาชนะดินด้วย บ้างก็เพื่อวัตถุประสงค์อันมีเกียรติ บ้างก็เพื่อวัตถุประสงค์ไม่มีเกียรติ. เหตุฉะนั้น ถ้าผู้ใดหลีกห่างจากภาชนะประเภทหลัง เขาก็ย่อมจะเป็นภาชนะสำหรับวัตถุประสงค์อันมีเกียรติ ถูกจัดไว้ต่างหากให้บริสุทธิ์แล้ว มีประโยชน์แก่เจ้าของ ถูกเตรียมไว้สำหรับการดีทุกอย่าง. ดังนั้น จงหนีเสียจากความปรารถนาซึ่งมักมีในวัยหนุ่มสาว แต่จงมุ่งหน้าติดตามความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก สันติสุข ร่วมไปกับคนเหล่านั้นที่ร้องถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยหัวใจบริสุทธิ์.”—2 ติโมเธียว 1:2; 2:20-22, ล.ม.
7. (ก) อะไรคือ ‘ภาชนะที่ไม่มีเกียรติ’ ซึ่งเปาโลได้กล่าวเตือนไว้? (ข) หนุ่มสาวสมัยนี้จะใช้ถ้อยคำของเปาโลในทางที่เป็นประโยชน์ได้อย่างไร?
7 โดยวิธีนี้ เปาโลตักเตือนติโมเธียวว่าแม้แต่ในท่ามกลางคริสเตียนด้วยกันก็อาจจะมี ‘ภาชนะที่ไม่มีเกียรติ’ ได้แก่บางคนซึ่งการประพฤติของเขาไม่ถูกต้อง. ทีนี้หากการคบหากับคริสเตียนผู้ถูกเจิมบางคนอาจจะเกิดผลเสียแก่ติโมเธียว ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดที่การคบหากับคนชาวโลกจะยังความเสียหายแก่หนุ่มสาวคริสเตียนสมัยนี้! (1 โกรินโธ 15:33) ทั้งนี้ไม่หมายความว่าคุณจะแสดงกิริยาเฉยเมยต่อเพื่อนนักเรียน. แต่คุณพึงระมัดระวังไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเกินควร แม้นบางครั้งจะดูเหมือนว่าคุณตีตัวห่างจากคนอื่น. การทำเช่นนี้อาจยากมาก. เด็กหญิงชาวบราซิลคนหนึ่งพูดว่า “มันยาก. นักเรียนคนอื่น ๆ ที่โรงเรียนชวนดิฉันเสมอให้ไปงานสังสรรค์และสถานที่ซึ่งไม่สมควรสำหรับเยาวชนคริสเตียน. พวกเขาว่า ‘อะไรกัน! เธอไม่ไปหรือนี่? เธอช่างโง่เสียจริง ๆ!’”
8, 9. (ก) การคบหาสมาคมแม้กับชาวโลกซึ่งดูเหมือนว่าน่าคบนั้นจะเป็นอันตรายสำหรับคริสเตียนอย่างไร? (ข) คุณสามารถพบเพื่อนที่ดีได้ที่ไหน?
8 เยาวชนชาวโลกบางคนอาจดูเป็นคนดีเพราะเขาไม่สูบบุหรี่, ไม่พูดหยาบคาย, หรือไม่ประพฤติผิดศีลธรรมทางเพศ. ถึงอย่างนั้นก็ตาม ถ้าพวกเขาไม่มุ่งติดตามความชอบธรรม ความคิดนึกและทัศนะของพวกเขาในทางโลกีย์จะชักจูงคุณได้ง่าย ๆ. นอกจากนี้ คุณมีความสนใจร่วมกับคนที่ไม่มีความเชื่อได้มากน้อยเพียงใด? (2 โกรินโธ 6:14-16) ค่านิยมฝ่ายวิญญาณที่คุณถือว่าประเสริฐนั้นเป็น “ความโง่เขลา” สำหรับพวกเขา! (1 โกรินโธ 2:14) คุณจะรักษามิตรภาพกับพวกเขาไว้โดยที่คุณไม่อะลุ้มอล่วยหลักการของคุณจะได้หรือ?
9 ฉะนั้น พึงหลีกเลี่ยงการคบหาที่ไม่ดี. จำกัดการคบหาเฉพาะในหมู่คริสเตียนที่มุ่งมั่นฝ่ายวิญญาณ ผู้ซึ่งรักพระยะโฮวาจริง ๆ. จงระวังกระทั่งคนหนุ่มสาวในประชาคมซึ่งมีทัศนะในแง่ลบหรือชอบวิพากษ์วิจารณ์. ขณะที่คุณเติบโตฝ่ายวิญญาณ รสนิยมของคุณในการเลือกคบเพื่อนคงจะเปลี่ยนไป. เด็กหญิงพยานฯวัยรุ่นคนหนึ่งกล่าวว่า “ดิฉันหาเพื่อนใหม่ได้เรื่อย ๆ ในประชาคมอื่น ๆ หลายแห่ง. ดิฉันจึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนชาวโลกก็ได้.”
การหนีความปรารถนาที่ผิด
10, 11. (ก) ที่จะ “หนีเสียจากความปรารถนาซึ่งมักจะมีในวัยหนุ่มสาว” นั้นหมายถึงอะไร? (ข) คนเราจะ “หลีกหนีการล่วงประเวณี” โดยวิธีใด?
10 อนึ่ง เปาโลได้เตือนติโมเธียวให้ “หนีไปเสียจากความปรารถนาซึ่งมักจะมีในวัยหนุ่มสาว.” เมื่อคุณอยู่ในวัยหนุ่มสาว ความปรารถนาที่จะเป็นที่นิยมของคนทั่วไป, ที่จะมีความสนุก, หรือที่จะสนองความต้องการทางเพศอาจแรงมาก. ความปรารถนาต่าง ๆ ดังกล่าวหากปล่อยไว้โดยไม่มีการควบคุมก็อาจทำให้คุณตกเข้าสู่การทำบาปได้. ดังนั้น เปาโลจึงบอกให้หนี ความปรารถนาที่เป็นภัย คือหนีเสมือนหนึ่งชีวิตของคนเราอยู่ในอันตราย.a
11 ตัวอย่างเช่น ความปรารถนาทางเพศเคยทำให้หนุ่มสาวคริสเตียนหลายคนประสบความหายนะฝ่ายวิญญาณ. ด้วยเหตุผลที่ดี คัมภีร์ไบเบิลกำชับเราว่า “การล่วงประเวณีนั้นจงหลีกหนีเสีย.” (1 โกรินโธ 6:18) ถ้าคู่รัก [ชายกับหญิง] ติดพันกัน, นัดพบกันก็ดี เขาจะใช้หลักการนี้โดยหลีกเลี่ยงสภาพการณ์ต่าง ๆ อันเป็นการล่อใจ เช่น การอยู่ตามลำพังสองต่อสองในห้อง หรือในรถยนต์ที่จอดอยู่. การให้คนดูแลอยู่ด้วยอาจดูล้าสมัย แต่จะเป็นการป้องกันได้จริง ๆ. และขณะการแสดงคำพูดหรือการกระทำบางอย่าง ในทางรักชอบอาจเป็นสิ่งเหมาะสมแต่ก็ต้องจำกัดอยู่ในขอบเขตอันดีเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่สะอาด. (1 เธซะโลนิเก 4:7) การหลีกหนีจากการล่วงประเวณีคงหมายรวมถึงการงดชมภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ที่อาจจะปลุกเร้าความปรารถนาอย่างผิด ๆ. (ยาโกโบ 1:14, 15) หากคุณมีความคิดแวบขึ้นมาในเชิงผิดศีลธรรม จงเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นทันที. จงออกไปเดินเล่น, อ่านหนังสือ, ทำงานบ้าน. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอธิษฐานเป็นเครื่องช่วยที่ให้พลังในเรื่องนี้.—บทเพลงสรรเสริญ 62:8.b
12. คุณเรียนรู้ที่จะเกลียดสิ่งชั่วโดยวิธีใด? ยกตัวอย่าง.
12 สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือคุณต้องเรียนรู้ที่จะเกลียด, รังเกียจ, และชิงชังสิ่งชั่ว. (บทเพลงสรรเสริญ 97:10) คุณเกลียดสิ่งซึ่งทีแรกดูเป็นการสนุกสนานหรือเป็นความเพลิดเพลินนั้นอย่างไร? โดยการคิดถึงผลที่ตามมา! “อย่าให้ใครชักนำท่านให้หลง: จะหลอกพระเจ้าเล่นไม่ได้. ด้วยว่าคนใดหว่านอะไรลงก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น; เพราะคนใดที่หว่านโดยคำนึงถึงเนื้อหนังของตนเองจะเกี่ยวเก็บการเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น.” (ฆะลาเตีย 6:7, 8, ล.ม.) เมื่อถูกล่อใจให้ยอมแพ้แก่ราคะ จงคิดถึงผลอันใหญ่หลวงที่ตามมา—นั่นจะทำให้พระเจ้ายะโฮวาเสียพระทัยเพียงไร. (เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 78:41.) นอกจากนี้ ขอให้คิดถึงโอกาสตั้งครรภ์ทั้งที่ไม่ต้องการ หรือติดโรค เช่น เอดส์ เป็นต้น. พิจารณาถึงความเสียหายด้านจิตใจและความทุกข์เนื่องจากการสูญเสียความนับถือตัวเอง. อนึ่ง อาจมีผลระยะยาวด้วย. สตรีคริสเตียนคนหนึ่งยอมรับว่า “สามีของดิฉันและตัวเองต่างก็เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นก่อนได้มาพบกัน. แม้ว่าเวลานี้เราทั้งสองเข้ามาเป็นคริสเตียนแล้วก็ตาม ชีวิตเกี่ยวกับเรื่องเพศในอดีตเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตสมรสของเรามีการทะเลาะและหึงหวง.” อีกสิ่งหนึ่งซึ่งไม่ควรมองข้ามคือการสูญเสียสิทธิพิเศษของคุณตามระบอบของพระเจ้า หรือเป็นไปได้ที่จะถูกขับออกจากประชาคมคริสเตียน! (1 โกรินโธ 5:9-13) ความเพลิดเพลินใด ๆ เพียงชั่วแล่นคุ้มค่าไหมกับการสูญเสียสิ่งอันมีค่าสูงเช่นนั้น?
การมุ่งแสวงสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับพระยะโฮวา
13, 14. (ก) เหตุใดการหลีกหนีจากสิ่งชั่วเท่านั้นไม่พอ? (ข) คนเรา “พยายามที่จะรู้จักพระยะโฮวา” ได้โดยวิธีใด?
13 อย่างไรก็ดี ที่จะหนีจากสิ่งที่ชั่วยังไม่พอ. ติโมเธียวได้รับการกระตุ้นเตือนเช่นกันให้ “มุ่งหน้าติดตามความชอบธรรม, ความเชื่อ, ความรัก, สันติสุข.” ทั้งนี้ชวนให้นึกถึงการกระทำอย่างแข็งขัน. ผู้พยากรณ์โฮเซอาก็ได้วิงวอนชนชาติยิศราเอลที่ไม่ซื่อสัตย์ในทำนองเดียวกันดังนี้: “มาเถิด, ให้เรากลับไปหาพระยะโฮวา; . . . ให้เราพยายามที่จะรู้จักพระยะโฮวา.” (โฮเซอา 6:1-3) คุณได้พยายามทำเช่นนั้นไหม? มันเกี่ยวข้องมากกว่าเพียงการเข้าร่วมประชุมและการออกไปประกาศตามบ้านกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณ. สตรีคริสเตียนคนหนึ่งสารภาพดังนี้: “พ่อแม่ได้เลี้ยงดูอบรมดิฉันในความจริง และดิฉันได้รับบัพติสมาเมื่อมีอายุน้อย. . . . ดิฉันแทบไม่เคยขาดการประชุมและไม่ขาดการประกาศแต่ละเดือน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่เคยพัฒนาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับพระยะโฮวา.”
14 เด็กสาวอีกคนหนึ่งยอมรับว่าเธอก็เช่นกันไม่ได้ทำความรู้จักกับพระยะโฮวาในฐานะเป็นมิตรและบิดา แต่ถือพระองค์เป็นวิญญาณไม่มีตัวตน. เธอถลำไปสู่การประพฤติผิดศีลธรรมและกลายเป็นมารดาที่ไม่ได้แต่งงานเมื่ออายุ 18 ปี. อย่ากระทำผิดแบบเดียวกัน! จง “พยายามที่จะรู้จัก พระยะโฮวา” ตามที่โฮเซอาเตือน. โดยการอธิษฐานและดำเนินกับพระยะโฮวาทุกวัน คุณสามารถทำให้พระยะโฮวาเป็นเพื่อนแท้ที่คุณไว้วางใจได้. (เทียบกับมีคา 6:8; ยิระมะยา 3:4.) “พระองค์มิได้ทรงอยู่ห่างไกลจากพวกเราแต่ละคน” หากเราแสวงหาพระองค์. (กิจการ 17:27, ล.ม.) การจัดระเบียบประจำเพื่อศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัวจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ. กิจวัตรดังกล่าวไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันหรือซับซ้อน. เด็กสาวชื่อเมโลดีบอกว่า “ดิฉันอ่านพระคัมภีร์ประมาณสิบห้านาทีทุกวัน.” จงจัดเวลาแยกไว้เฉพาะสำหรับอ่านวารสารหอสังเกตการณ์ และตื่นเถิด. จงเตรียมตัวให้พร้อมในการประชุมต่าง ๆ ของประชาคมเพื่อคุณจะได้ “เร้าใจ [คนอื่น ๆ] ให้เกิดความรักและการงานที่ดี.”—เฮ็บราย 10:24, 25, ล.ม
จงฝากหัวใจไว้กับบิดามารดาของคุณ
15. (ก) เหตุใดบางครั้งจึงเป็นการยากที่จะเชื่อฟังบิดามารดา? (ข) เหตุใดการเชื่อฟังมักจะอำนวยคุณประโยชน์แก่หนุ่มสาว?
15 บิดามารดาที่เกรงกลัวพระเจ้าย่อมเป็นแหล่งช่วยเหลือเกื้อหนุนอย่างแท้จริง. แต่จงสังเกตบทบาทของคุณ: “จงเชื่อฟังบิดามารดาของตนร่วมสามัคคีกันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าการนี้ชอบธรรม: ‘จงให้เกียรติบิดาและมารดาของตน’ ซึ่งเป็นบัญญัติแรกพร้อมด้วยคำสัญญา: ‘เพื่อว่าเจ้าจะอยู่ดีมีสุขและเจ้าจะอยู่ยืนยงบนแผ่นดินโลก.’” (เอเฟโซ 6:1-3, ล.ม.) จริงอยู่ คุณเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และคงต้องการอิสระมากขึ้น. นอกจากนี้ คุณก็อาจรู้มากขึ้นด้วยในเรื่องข้อจำกัดต่าง ๆ ของบิดามารดา. อัครสาวกเปาโลยอมรับข้อนี้: “เพราะบิดาที่เป็นมนุษย์ตีสอนเราเพียงชั่วเวลาเล็กน้อยตามความเห็นดีเห็นชอบของเขาเท่านั้น.” (เฮ็บราย 12:10, ฉบับแปลใหม่) กระนั้นก็ดี เมื่อนึกถึงคุณประโยชน์ต่าง ๆ ในระยะยาวแล้ว การเชื่อฟังท่านก็ยังคงเป็นประโยชน์ต่อคุณ. บิดามารดาของคุณรักคุณและรู้จักคุณดีกว่าใคร ๆ คนอื่น. ขณะที่คุณอาจไม่เห็นพ้องกับท่านเสมอไป ตามปกติแล้ว ท่านคำนึงถึงผลประโยชน์อันดีเยี่ยมสำหรับคุณ. ทำไมจึงต้านทานความพยายามของท่านที่จะอบรมคุณด้วยการ “ตีสอนและการปรับความคิดจิตใจตามหลักการของพระยะโฮวา”? (เอเฟโซ 6:4, ล.ม.) ตามจริงแล้ว คนโง่เท่านั้น “ประมาทคำสั่งสอนของบิดาตน.” (สุภาษิต 15:5) เยาวชนที่มีปัญญาย่อมสำนึกถึงสิทธิอำนาจของบิดามารดาและแสดงความนับถืออย่างเหมาะสม.—สุภาษิต 1:8.
16. (ก) ทำไมเป็นการไม่ฉลาดเมื่อเยาวชนปิดบังปัญหาไม่ให้บิดามารดารู้? (ข) เยาวชนอาจทำประการใดเพื่อปรับปรุงแก้ไขการสื่อความกับบิดามารดา?
16 ทั้งนี้หมายรวมถึงการพูดความจริงกับบิดามารดาของคุณ ให้ท่านรู้ถ้าคุณมีปัญหา เช่น ความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความจริงที่รบกวนใจ หรือการพลาดพลั้งเข้าสู่การประพฤติที่น่าสงสัย. (เอเฟโซ 4:25) การปิดบังสภาพที่ก่อความไม่สบายใจไม่ให้บิดามารดารู้เช่นนั้นมักสร้างปัญหามากขึ้น. (บทเพลงสรรเสริญ 26:4) จริงอยู่ บิดามารดาบางคนไม่ค่อยพยายามที่จะพูดสื่อความ. เด็กสาวคนหนึ่งโอดครวญว่า “คุณแม่ไม่เคยนั่งลงและคุยกับดิฉัน ดิฉันไม่เคยกล้าพูดในสิ่งที่เป็นความรู้สึกของตนเอง พราะเกรงว่าคุณแม่จะตำหนิดิฉัน.” ถ้าคุณอยู่ในสภาพคล้ายกัน ก็ควรเลือกเอาเวลาที่เหมาะอย่างฉลาดสุขุมคุยกับบิดามารดาให้ท่านรู้ว่าคุณมีความรู้สึกอย่างไร. สุภาษิต 23:26, ล.ม. เตือนดังนี้: “บุตรชายของเรา จงมอบหัวใจของเจ้าให้เรา.” จงพยายามนำเรื่องที่คุณรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาพูดกับบิดามารดาเป็นประจำ ก่อนเรื่องนั้นกลายเป็นปัญหาร้ายแรง.
จงมุ่งติดตามความชอบธรรมต่อ ๆ ไป
17, 18. อะไรจะช่วยให้หนุ่มสาวมุ่งติดตามความชอบธรรมอยู่ต่อ ๆ ไป?
17 ก่อนจบจดหมายฉบับที่สอง เปาโลได้แนะนำติโมเธียวดังนี้: “จงดำเนินต่อไปในบรรดาสิ่งที่ท่านเรียนรู้มาและในสิ่งที่ท่านถูกจูงใจให้เชื่อ.” (2 ติโมเธียว 3:14, ล.ม.) คุณต้องทำเช่นเดียวกัน. อย่าให้คนใดหรือสิ่งใดล่อคุณไปจากการมุ่งติดตามความชอบธรรม. โลกของซาตาน—แม้ว่าชวนตาชวนใจ—ถูกครอบงำด้วยความชั่ว. ในไม่ช้าโลกนี้และทุกคนที่เป็นส่วนของโลกจะถูกทำลายให้สิ้นสูญ. (บทเพลงสรรเสริญ 92:7) จงตั้งใจแน่วแน่จะไม่ไปถึงความพินาศพร้อมกับฝูงชนฝ่ายซาตาน.
18 โดยคำนึงถึงจุดมุ่งหมายนี้ คุณต้องสำรวจเป้าประสงค์, ความปรารถนา, และความสนใจของคุณอยู่เรื่อย ๆ. จงถามตัวเองว่า ‘ฉันยังคงยึดมั่นในมาตรฐานอันสูงส่งเกี่ยวกับการพูดและการประพฤติไหมขณะที่คุณพ่อคุณแม่และสมาชิกในประชาคมไม่สามารถเห็นฉัน? ฉันเลือกคบเพื่อนแบบไหน? ชาวโลกรุ่นเดียวกันคอยกำกับการแต่งกายและการจัดทรงผมของฉันไหม? ฉันตั้งเป้าหมายอะไรไว้ให้ตัวเอง? ฉันตั้งใจจริงจังที่จะรับใช้เต็มเวลาไหม—หรือว่ามุ่งงานอาชีพในระบบของซาตานซึ่งกำลังจะสิ้นสูญไป?’
19, 20. (ก) ทำไมคนหนุ่มสาวไม่ควรคิดว่าข้อเรียกร้องของพระยะโฮวาเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรง? (ข) หนุ่มสาวทั้งหลายอาจจะถือเอาการจัดเตรียมเกี่ยวกับอะไรให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง?
19 บางทีคุณอาจเห็นถึงความจำเป็นที่จะปรับเปลี่ยนแนวการคิดของคุณบ้าง. (2 โกรินโธ 13:11) อย่าคิดว่าเป็นเรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง. จงระลึกว่า พระยะโฮวาไม่ทรงคาดหมายจากคุณมากกว่าสิ่งที่มีเหตุผล. ผู้พยากรณ์มีคาได้ถามว่า “พระยะโฮวาทรงประสงค์อะไรจากท่านเล่า นอกจากทำการยุตติธรรม, และรักความเมตตากรุณา, และดำเนินชีวิตอย่างสุภาพเคียงคู่กันไปกับพระเจ้าของท่าน.” (มีคา 6:8) สิ่งนี้ไม่ยากเกินไปถ้าคุณรับเอาการช่วยเหลือจากการจัดเตรียมของพระยะโฮวา. จงอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับบิดามารดาของคุณ. คบหาสมาคมกับประชาคมคริสเตียนเป็นประจำ. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พยายามที่จะรู้จักคุ้นเคยกับผู้ปกครองในประชาคม. ท่านเหล่านั้นห่วงใยสวัสดิภาพของคุณและสามารถเป็นแหล่งให้การค้ำจุนและการประโลมใจ. (ยะซายา 32:2) สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ จงพัฒนาสัมพันธภาพอันใกล้ชิดและอบอุ่นกับพระเจ้ายะโฮวา. พระองค์จะทรงโปรดให้คุณมีกำลังเข้มแข็งและมีกำลังใจจะมุ่งติดตามสิ่งที่ถูกต้อง!
20 กระนั้น หนุ่มสาวบางคนบั่นทอนความพยายามของตนที่จะเติบโตฝ่ายวิญญาณโดยการฟังดนตรีที่ให้โทษ. บทความต่อจากนี้จะเอาใจใส่เรื่องนี้เป็นพิเศษ.
[เชิงอรรถ]
a คำภาษากรีกสำหรับคำ “หนี” ถูกนำมาใช้ที่มัดธาย 2:13 ด้วย ตอนนั้นมาเรียกับโยเซฟได้รับคำสั่งให้ “หนีไปยังประเทศอายฆุปโต” ให้พ้นแผนการชั่วของเฮโรดที่ตามล่าชีวิต—เทียบมัดธาย 10:23.
b คุณจะพบข้อแนะนำมากมายที่ให้ประโยชน์สำหรับการควบคุมความปรารถนาทางเพศ จากหนังสือการได้ประโยชน์มากที่สุดจากวัยหนุ่มสาว บท 5 และบท 18 จัดพิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์แห่งนิวยอร์ก.
คุณจำได้ไหม?
▫ ทำไมหนุ่มสาวโดยเฉพาะจึงถูกโจมตีง่าย ๆ โดย “ยุทธอุบาย” ของซาตาน?
▫ ทำไมการคบสนิทสนมกับหนุ่มสาวชาวโลกเป็นอันตราย?
▫ คุณจะหนีการประพฤติผิดศีลธรรมทางเพศโดยวิธีใด?
▫ คุณจะพยายามสร้างสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับพระยะโฮวาโดยวิธีใด?
▫ ทำไมเป็นสิ่งสำคัญที่จะสื่อความกับบิดามารดาของคุณ?
[รูปภาพหน้า 16]
ด้วยความรอบคอบ คู่หนุ่มสาวที่ติดต่อฝากรักจะเรียนรู้จักซึ่งกันและกันในบริเวณที่ไม่ลับตาคนเช่นการเล่นสเก็ต