บท 19
“แม่น้ำนี้ไหลไปที่ไหนก็จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่น”
จุดสำคัญ นิมิตเรื่องแม่น้ำที่ไหลออกจากวิหารเกิดขึ้นจริงอย่างไรในสมัยโบราณ สมัยปัจจุบัน และในอนาคต
1, 2. เอเสเคียล 47:1-12 บอกให้รู้ว่าเอเสเคียลเห็นอะไร และเขารู้สึกอย่างไร? (ดูภาพแรก)
เอเสเคียลเห็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่งจากนิมิตเรื่องวิหาร เขาเห็นน้ำไหลออกมาจากวิหาร! ขอให้นึกภาพเอเสเคียลกำลังเดินตามน้ำที่ใสเหมือนกระจก (อ่านเอเสเคียล 47:1-12) น้ำนั้นค่อย ๆ ไหลจากธรณีประตูวิหาร ผ่านตัววิหารไปทางประตูทิศตะวันออก ทูตสวรรค์พาเอเสเคียลออกจากตัววิหารและวัดระยะทางตลอดเส้นทางที่เดินไป เขาให้เอเสเคียลลุยน้ำไปเรื่อย ๆ เอเสเคียลเห็นว่าน้ำลึกขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแม่น้ำที่ลุยข้ามไปไม่ได้ แต่ต้องว่ายน้ำไป!
2 เอเสเคียลเห็นว่าแม่น้ำไหลลงทะเลตายและทำให้น้ำในทะเลตายกลายเป็นน้ำดี แหล่งน้ำทุกแห่งที่แม่น้ำนี้ไหลไปถึงจะเต็มไปด้วยปลามากมายหลายชนิด และมีต้นไม้ทุกชนิดขึ้นอยู่ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่ง ทุกเดือนต้นไม้เหล่านี้จะออกผลที่มีคุณค่าทางอาหาร และใบของมันจะเป็นยารักษาโรค เอเสเคียลคงรู้สึกสงบใจและมีความหวังเมื่อได้เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่นิมิตเรื่องวิหารส่วนนี้มีความหมายอย่างไรกับเขาและเพื่อนเชลย? และมีความหมายอย่างไรกับเราในทุกวันนี้?
แม่น้ำในนิมิตมีความหมายอย่างไรกับกลุ่มเชลย?
3. ทำไมชาวยิวในสมัยโบราณรู้ว่าแม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียลไม่ใช่แม่น้ำจริง ๆ?
3 ชาวยิวในสมัยโบราณรู้แน่นอนว่าแม่น้ำในนิมิตไม่ใช่แม่น้ำจริง ๆ แต่ข้อความจากคัมภีร์ไบเบิลในส่วนนี้น่าจะทำให้พวกเขานึกถึงคำพยากรณ์เกี่ยวกับการฟื้นฟูอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้พยากรณ์โยเอลบันทึกไว้ 200 กว่าปีมาแล้ว (อ่านโยเอล 3:18) เมื่อเชลยชาวยิวได้อ่านคำพยากรณ์ของโยเอล พวกเขาไม่ได้คาดหมายว่าจะมี “เหล้าองุ่นหยด” จากภูเขา หรือที่เนินเขาจะมี “น้ำนมไหลลงมา” จริง ๆ และพวกเขาก็ไม่คิดด้วยว่าจะมีน้ำพุพุ่งออกมาจาก ‘วิหารของพระยะโฮวา’ ดั้งนั้น ชาวยิวคงเข้าใจเหมือนกันว่านิมิตของเอเสเคียลไม่ได้พูดถึงแม่น้ำจริง ๆa ถ้าอย่างนั้น พระยะโฮวาต้องการให้พวกเขารู้อะไรจากนิมิตนี้? ข้อคัมภีร์หลายข้อช่วยให้เราเข้าใจความหมายบางส่วนแล้ว แต่เราจะพิจารณาสิ่งที่นิมิตนี้บอกชัดเจนและทำให้เราได้รับกำลังใจ 3 อย่างด้วยกัน
4. (ก) แม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียลอาจทำให้ชาวยิวคาดหมายว่าจะได้พรอะไรบ้างจากพระยะโฮวา? (ข) คำว่า “แม่น้ำ” และ “น้ำ” ในคัมภีร์ไบเบิลทำให้เรามั่นใจอย่างไรว่าพระยะโฮวาจะอวยพรประชาชนของพระองค์? (ดูกรอบ “แม่น้ำที่นำพรมามากมายจากพระยะโฮวา”)
4 แม่น้ำที่นำพรมามากมาย คัมภีร์ไบเบิลมักใช้แม่น้ำและน้ำเป็นภาพเปรียบเทียบถึงพรที่ให้ชีวิตซึ่งมาจากพระยะโฮวา เอเสเคียลเห็นแม่น้ำที่มีพรแบบนั้นไหลมาจากวิหาร ดังนั้น นิมิตนี้คงทำให้ประชาชนของพระเจ้าคาดหมายว่าถ้าพวกเขายึดมั่นกับการนมัสการบริสุทธิ์ พรที่ให้ชีวิตจากพระยะโฮวาจะหลั่งไหลมาถึงพวกเขา มีพรอะไรบ้าง? พวกเขาจะได้รับการสอนเกี่ยวกับการนมัสการแท้จากพวกปุโรหิตอีกครั้ง พวกเขาสามารถมั่นใจว่าเครื่องบูชาต่าง ๆ ที่พวกเขาถวายที่วิหารจะใช้เพื่อไถ่บาปพวกเขาได้ (อสค. 44:15, 23; 45:17) ดังนั้น พวกเขาจึงกลับมาสะอาดอีกครั้งเหมือนได้รับการชำระด้วยน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลออกมาจากวิหาร
5. แม่น้ำในนิมิตทำให้คนที่เป็นห่วงว่าพรจะมีไม่พอสำหรับทุกคนสบายใจขึ้นได้อย่างไร?
5 จะมีพรเพียงพอสำหรับทุกคนไหม? คนที่เป็นห่วงเรื่องนี้จะสบายใจขึ้นเพราะนิมิตบอกว่าน้ำจะลึกขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ในระยะทางไม่ถึง 2 กิโลเมตร จากน้ำสายเล็ก ๆ ก็กลายเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่! (อสค. 47:3-5) หลังจากที่ชาวยิวกลับไปฟื้นฟูบ้านเกิดแล้ว พวกเขาอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก แต่พระยะโฮวาก็จะอวยพรอย่างทั่วถึงและเพียงพอต่อความต้องการของพวกเขา เพราะแม่น้ำนี้เป็นภาพเปรียบเทียบถึงปริมาณที่มากมายมหาศาล!
6. (ก) ภาพเปรียบเทียบนี้ทำให้มั่นใจในคำสัญญาอะไร? (ข) นิมิตเรื่องนี้ยังมีคำเตือนอะไรด้วย? (ดูเชิงอรรถ)
6 น้ำที่ให้ชีวิต เอเสเคียลเห็นแม่น้ำในนิมิตไหลลงทะเลตายและทำให้สิ่งดีเกิดขึ้นมากมาย ขอให้สังเกตว่าน้ำนั้นทำให้มีปลามากมายหลายชนิดเหมือนปลาในทะเลใหญ่หรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จนผู้คนถึงกับทำประมงได้ตลอดแนวชายฝั่งระหว่าง 2 เมืองที่อยู่ไกลกันมาก ทูตสวรรค์บอกว่า “แม่น้ำนี้ไหลไปที่ไหนก็จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่น” แต่นี่หมายความว่าน้ำจากวิหารของพระยะโฮวาไหลไปถึงทุกส่วนของทะเลตายไหม? ไม่ ทูตสวรรค์อธิบายว่าน้ำในบึงต่าง ๆ จะไม่กลายเป็นน้ำดีเพราะน้ำที่ให้ชีวิตไหลไปไม่ถึง ที่เหล่านั้น “ถูกทิ้งให้เป็นเกลือ”b (อสค. 47:8-11) ดังนั้น ภาพเปรียบเทียบเรื่องนี้จึงทำให้มั่นใจในคำสัญญาที่ว่าการนมัสการบริสุทธิ์จะทำให้ประชาชนกลับมามีชีวิตชีวาและเข้มแข็งอีกครั้ง แต่ก็น่าสังเกตด้วยว่าไม่ใช่ทุกคนจะตอบรับการอวยพรจากพระยะโฮวา และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการเยียวยารักษา
7. ต้นไม้ที่อยู่ริมแม่น้ำในนิมิตนี้ทำให้เชลยชาวยิวมั่นใจเรื่องอะไร?
7 ต้นไม้ที่เป็นอาหารและเป็นยารักษาโรค ต้นไม้ที่อยู่ริมแม่น้ำคืออะไร? ต้นไม้เหล่านี้ไม่ใช่แค่ทำให้ภาพในนิมิตดูสวยขึ้นแต่ยังทำให้มีความหมายมากขึ้นด้วย แน่นอนว่าเอเสเคียลกับเพื่อนร่วมชาติมีความสุขที่ได้คิดถึงผลไม้อร่อย ๆ จากต้นไม้เหล่านั้นที่ออกผลทุกเดือน! ภาพที่น่าดึงดูดใจนี้ยังทำให้พวกเขามั่นใจขึ้นว่าพระยะโฮวาจะเลี้ยงดูให้พวกเขามีความเชื่อเข้มแข็ง ยังมีอะไรอีก? ขอสังเกตว่าใบของต้นไม้ “จะเป็นยารักษาโรค” (อสค. 47:12) พระยะโฮวารู้ดีว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เชลยซึ่งกลับบ้านเกิดจำเป็นต้องได้รับคือการเยียวยารักษาด้านความเชื่อและพระองค์สัญญาว่าจะดูแลพวกเขา เราได้พิจารณาวิธีที่พระองค์เยียวยาพวกเขาไปแล้วในคำพยากรณ์เกี่ยวกับการฟื้นฟูอีกเรื่องหนึ่งในบท 9 ของหนังสือนี้
8. อะไรทำให้เรารู้ว่านิมิตของเอเสเคียลจะเกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่า?
8 อย่างไรก็ตาม จากที่เราพิจารณาในบท 9 เชลยที่กลับบ้านเกิดได้เห็นคำพยากรณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริงในขอบเขตจำกัด ซึ่งสาเหตุก็มาจากพวกเขาเอง พระยะโฮวาจะอวยพรพวกเขาอย่างเต็มที่ได้อย่างไรในเมื่อพวกเขากลับไปทำชั่ว ไม่เชื่อฟัง และทิ้งการนมัสการบริสุทธิ์ไปหลายต่อหลายครั้ง ชาวยิวที่ซื่อสัตย์ก็เจ็บปวดและผิดหวังจากการกระทำของเพื่อนร่วมชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้นมัสการที่ภักดีของพระยะโฮวารู้ว่าคำสัญญาของพระองค์ไม่มีวันล้มเหลว คำสัญญาทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริงเสมอ (อ่านโยชูวา 23:14) ดังนั้น สักวันหนึ่งนิมิตของเอเสเคียลจะเกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่า แล้วจะเกิดขึ้นเมื่อไรล่ะ?
แม่น้ำนั้นไหลอยู่ในปัจจุบัน!
9. เมื่อไรนิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารเกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่า?
9 บท 14 ของหนังสือนี้บอกว่า นิมิตของเอเสเคียลเรื่องวิหารเกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่าในช่วง “สมัยสุดท้าย” ซึ่งการนมัสการบริสุทธิ์ถูกยกให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (อสย. 2:2) ตอนนี้นิมิตของเอเสเคียลส่วนนี้กำลังเกิดขึ้นจริงในแง่ไหน?
10, 11. (ก) ทุกวันนี้มีพรอะไรที่หลั่งไหลมาถึงพวกเราเหมือนกับแม่น้ำ? (ข) พรที่หลั่งไหลจากพระยะโฮวาทันกับความจำเป็นที่เพิ่มขึ้นในสมัยสุดท้ายอย่างไร?
10 แม่น้ำที่นำพรมามากมาย น้ำที่ไหลออกจากวิหารของพระยะโฮวาทำให้เราคิดถึงพรอะไรในทุกวันนี้? ที่จริงเราอาจนึกถึงทุกอย่างที่ช่วยให้เรามีความเชื่อเข้มแข็งและเป็นประโยชน์กับเรา สำคัญที่สุดคือพลังจากเครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์ที่ทำให้เรามีโอกาสได้รับการอภัยบาป ความจริงที่บริสุทธิ์ในคัมภีร์ไบเบิลยังเป็นเหมือนน้ำที่ให้ชีวิตซึ่งทำให้เราสะอาดด้วย (อฟ. 5:25-27) พรมากมายเหล่านี้หลั่งไหลในสมัยของเราอย่างไร?
11 ปี 1919 มีคนที่รับใช้พระยะโฮวาแค่ไม่กี่พันคน พวกเขาตื่นเต้นที่ได้รับคำอธิบายความจริงในคัมภีร์ไบเบิลหลายเรื่อง หลายสิบปีต่อมาพวกเขามีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันนี้มีประชาชนของพระเจ้ามากกว่า 8 ล้านคน น้ำแห่งความจริงที่บริสุทธิ์ยังไหลอยู่ไหม? ใช่! เพราะมีการอธิบายความจริงจากคัมภีร์ไบเบิลมากมายหลายเรื่อง ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาทั้งคัมภีร์ไบเบิล หนังสือ วารสาร จุลสาร และแผ่นพับหลายพันล้านชิ้นได้หลั่งไหลไปถึงประชาชนของพระเจ้า เช่นเดียวกับแม่น้ำที่เอเสเคียลเห็นในนิมิต ความจริงที่บริสุทธิ์ก็หลั่งไหลและแผ่ขยายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วทันกับการเติบโตของประชาชนที่หิวกระหายความจริงเรื่องพระเจ้า หนังสืออธิบายคัมภีร์ไบเบิลมีให้อ่านในรูปแบบสิ่งพิมพ์มานานแล้ว และตอนนี้มีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ในเว็บไซต์ jw.org มากกว่า 900 ภาษา! น้ำแห่งความจริงส่งผลต่อผู้คนที่จริงใจอย่างไร?
12. (ก) ความจริงในคัมภีร์ไบเบิลเป็นประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไร? (ข) นิมิตนี้มีคำเตือนอะไรที่เหมาะกับเราในทุกวันนี้? (ดูเชิงอรรถด้วย)
12 น้ำที่ให้ชีวิต ทูตสวรรค์บอกเอเสเคียลว่า “แม่น้ำนี้ไหลไปที่ไหนก็จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่น” ลองนึกถึงวิธีที่ความจริงหลั่งไหลไปถึงทุกคนที่มาอยู่กับเราในแผ่นดินโดยนัยที่ฟื้นฟูแล้ว ความจริงในคัมภีร์ไบเบิลเข้าถึงหัวใจหลายล้านคนและช่วยให้พวกเขามีความเชื่อในพระยะโฮวา อย่างไรก็ตาม นิมิตนี้ยังให้คำเตือนที่เหมาะกับเวลาด้วยคือ ไม่ใช่ทุกคนจะตอบรับความจริงนี้ คนที่ปฏิเสธความจริงเป็นเหมือนหนองน้ำและบึงต่าง ๆ แถบทะเลตายในนิมิตของเอเสเคียล ความจริงไม่สามารถเข้าถึงหัวใจเพราะพวกเขาไม่ฟังและไม่ยอมเอาคำสอนคัมภีร์ไบเบิลไปใช้ในชีวิตc ขอเราอย่าเป็นอย่างนั้นเลย!—อ่านเฉลยธรรมบัญญัติ 10:16-18
13. ทุกวันนี้เราอาจได้รับบทเรียนอะไรจากเรื่องต้นไม้ในนิมิต?
13 ต้นไม้ที่เป็นอาหารและเป็นยารักษาโรค ต้นไม้ในนิมิตที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมีบทเรียนที่ให้กำลังใจเราในทุกวันนี้ไหม? แน่นอน! ขอจำไว้ว่าทุก ๆ เดือนต้นไม้เหล่านั้นจะออกผลที่รสชาติดีและใบก็เป็นยารักษาโรค (อสค. 47:12) สิ่งเหล่านี้เตือนว่าเรากำลังรับใช้พระเจ้าที่เลี้ยงดูเราอย่างใจกว้างและเยียวยารักษาด้านความเชื่อซึ่งจำเป็นที่สุดสำหรับเรา โลกทุกวันนี้อยู่ในสภาพที่ป่วยและหิวกระหาย คนทั่วไปไม่เข้าใจความจริงในคัมภีร์ไบเบิล แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พระยะโฮวาเตรียมให้เรา คุณรู้สึกอย่างไรเมื่ออ่านวารสารของเราจนจบเล่ม เมื่อร้องเพลงสุดท้ายในการประชุมหมวดหรือประชุมภูมิภาค หรือเมื่อดูวีดีโอหรือรายการโทรทัศน์ JW จบ คุณรู้สึกว่าพระยะโฮวาอวยพรให้คุณได้รับอาหารที่เสริมความเชื่อใช่ไหม? เราได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจริง ๆ (อสย. 65:13, 14) ความรู้จากคัมภีร์ไบเบิลทำให้เราใช้ชีวิตแบบที่เป็นประโยชน์กับตัวเราและทำให้พระเจ้าพอใจใช่ไหม? คำแนะนำทุกอย่างจากคัมภีร์ไบเบิลช่วยให้เราหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ดี เช่น การผิดศีลธรรม ความโลภ และการขาดความเชื่อ พระยะโฮวายังจัดเตรียมให้คริสเตียนได้รับการรักษาความเจ็บป่วยด้านความเชื่อที่เกิดจากการทำบาปร้ายแรงด้วย (อ่านยากอบ 5:14) เราได้รับพรมากมายจริง ๆ ตามที่บอกไว้ในนิมิตของเอเสเคียลเกี่ยวกับต้นไม้ที่เป็นอาหารและเป็นยานี้
14, 15. (ก) เราได้รับบทเรียนอะไรจากหนองน้ำที่ไม่ได้เปลี่ยนเป็นน้ำดีในนิมิตของเอเสเคียล? (ข) แม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียลกำลังไหลอย่างไรในทุกวันนี้?
14 ในขณะเดียวกัน เราอาจได้บทเรียนจากหนองน้ำต่าง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนเป็นน้ำดี เราไม่อยากปฏิเสธพรจากพระยะโฮวาที่หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตเรา คงน่าเศร้ามากถ้าเราไม่ได้รับการรักษาให้หายเหมือนกับหลายคนในโลกที่เจ็บป่วยนี้ (มธ. 13:15) แต่เราดีใจที่ได้รับประโยชน์จากพรที่หลั่งไหลมาเหมือนแม่น้ำ เมื่อเราดื่มน้ำแห่งความจริงที่บริสุทธิ์จากคัมภีร์ไบเบิลอย่างกระตือรือร้น เมื่อเราไปประกาศและบอกความจริงนั้นกับคนอื่น เมื่อผู้ดูแลที่ได้รับการฝึกฝนจากทาสที่ซื่อสัตย์มาแนะนำ ปลอบโยน และช่วยเหลือเราด้วยความรัก เราอาจคิดถึงแม่น้ำนี้ในนิมิตของเอเสเคียลซึ่งให้ชีวิตและให้การเยียวยารักษาทุกแห่งที่มันไหลไป!
15 แล้วนิมิตเรื่องแม่น้ำจะเกิดขึ้นจริงอย่างไรในอนาคต? เราจะได้เห็นว่าแม่น้ำจะไหลไปในขอบเขตที่กว้างใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในสวนอุทยานที่จะมาถึง
นิมิตนี้มีความหมายอย่างไรในสวนอุทยาน
16, 17. (ก) ในสวนอุทยาน น้ำที่ให้ชีวิตจะไหลในขอบเขตที่ใหญ่กว่าในแง่ไหน? (ข) ในสวนอุทยานเราจะได้รับประโยชน์อะไรจากแม่น้ำที่นำพรมามากมาย?
16 คุณเคยนึกภาพตัวเองอยู่ในสวนอุทยานที่มีเพื่อนและคนในครอบครัวอยู่รอบข้าง และมีความสุขอย่างเต็มที่กับชีวิตไหม? การเรียนเกี่ยวกับแม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียลจะช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น เพราะอะไร? ให้เรามาดูสิ่งที่ชัดเจนและให้กำลังใจ 3 อย่างจากนิมิตนี้
17 แม่น้ำที่นำพรมามากมาย ในแง่หนึ่ง แม่น้ำโดยนัยนี้จะขยายขอบเขตกว้างไกลมากขึ้นในสวนอุทยาน แม่น้ำนี้จะไม่ได้ให้ประโยชน์แค่ด้านความเชื่อเท่านั้น แต่จะให้ประโยชน์ด้านร่างกายด้วย ในช่วงหนึ่งพันปีที่พระเยซูปกครอง รัฐบาลของพระเจ้าจะช่วยคนซื่อสัตย์ให้ได้รับประโยชน์จากค่าไถ่ในขอบเขตใหญ่กว่า เราจะค่อย ๆ สมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ! ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ต้องมีหมอ พยาบาล โรงพยาบาล หรือประกันสุขภาพอีกต่อไป! น้ำแห่งชีวิตนั้นจะหลั่งไหลไปถึงหลายล้านคนที่รอดชีวิตจากอาร์มาเกดโดน ซึ่งก็คือ “ชนฝูงใหญ่” ที่รอดผ่าน “ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” (วว. 7:9, 14) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การไหลในช่วงแรกของแม่น้ำนี้จะน่าประทับใจมาก แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะในนิมิตของเอเสเคียลแม่น้ำจะไหลในขอบเขตที่กว้างใหญ่จนเพียงพอต่อความต้องการที่มากขึ้น
18. ในช่วงพันปีที่พระเยซูปกครอง “แม่น้ำสายหนึ่งที่มีน้ำที่ให้ชีวิต” จะกลายเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ในแง่ไหน?
18 น้ำที่ให้ชีวิต ในช่วงพันปีที่พระเยซูปกครอง “แม่น้ำสายหนึ่งที่มีน้ำที่ให้ชีวิต” จะกลายเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่! (วว. 22:1) หลายพันล้านคนจะฟื้นขึ้นจากตายและมีโอกาสจะอยู่ตลอดไปในสวนอุทยาน! พรมากมายที่พระยะโฮวาให้ผ่านทางรัฐบาลของพระองค์จะรวมถึงการทำให้คนจำนวนมหาศาลที่หลับอยู่ในความตายอย่างยาวนานกลับมีชีวิตอีก (อสย. 26:19) อย่างไรก็ตาม คนที่ฟื้นขึ้นจากตายจะมีชีวิตตลอดไปทุกคนไหม?
19. (ก) เรารู้ได้อย่างไรว่าในสวนอุทยานจะมีน้ำแห่งความจริงใหม่ ๆ จากพระเจ้า? (ข) บางคนจะ “ถูกทิ้งให้เป็นเกลือ” ในแง่ไหน?
19 ทุกคนต้องเลือกเอง เรารู้แล้วว่าจะมีการเปิดม้วนหนังสือต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ดังนั้น น้ำที่ทำให้สดชื่นซึ่งมาจากพระยะโฮวาจะรวมถึงความจริงเรื่องใหม่ ๆ และการชี้นำใหม่ ๆ จากพระองค์ด้วย แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้วใช่ไหม? แต่จะมีบางคนปฏิเสธไม่ยอมทำตามการชี้นำใหม่นั้นและพวกเขาจะเลือกไม่เชื่อฟังพระยะโฮวา บางคนอาจกบฏในช่วงหนึ่งพันปี แต่พระเจ้าจะไม่ยอมให้พวกเขาทำลายสวนอุทยาน (อสย. 65:20) เรื่องนี้อาจเตือนให้เรานึกถึงนิมิตของเอเสเคียลและหนองบึงต่าง ๆ ที่แห้งและ “ถูกทิ้งให้เป็นเกลือ” ไม่ฉลาดเลยที่ใครจะยืนกรานไม่ยอมดื่มน้ำที่ให้ชีวิตซึ่งมีค่ามาก! หลังจากช่วงหนึ่งพันปี คนที่กบฏจะเข้าพวกกับซาตาน คนที่ปฏิเสธการปกครองที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวาจะต้องพบจุดจบแบบเดียวกับซาตานคือ ความตายตลอดไป—วว. 20:7-12
20. การจัดเตรียมอะไรในช่วงหนึ่งพันปีที่พระคริสต์ปกครองทำให้เรานึกถึงต้นไม้ในนิมิตของเอเสเคียล?
20 ต้นไม้ที่เป็นอาหารและเป็นยารักษาโรค พระยะโฮวาไม่อยากให้เราสูญเสียโอกาสที่จะมีชีวิตตลอดไป ดังนั้น เพื่อช่วยให้เรายึดมั่นกับโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่พระองค์เสนอให้ พระองค์จึงทำให้แน่ใจอีกครั้งว่าจะมีการจัดเตรียมที่เหมือนกับต้นไม้ที่เอเสเคียลเห็นในนิมิต ในสวนอุทยานทุกคนจะได้รับการรักษาเยียวยาทั้งด้านร่างกายและด้านความเชื่อ พระเยซูคริสต์และผู้ร่วมปกครอง 144,000 คนจะปกครองเป็นกษัตริย์ในสวรรค์ตลอดช่วงหนึ่งพันปี ในฐานะปุโรหิตทั้ง 144,000 คนจะนำคุณค่าของเครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์มาใช้เพื่อช่วยคนซื่อสัตย์ให้มีสภาพสมบูรณ์ (วว. 20:6) การจัดเตรียมนี้ทำให้นึกถึงต้นไม้ในนิมิตของเอเสเคียลที่ให้ผลที่มีคุณค่าทางอาหารและมีใบที่เป็นยารักษาโรค คล้ายกับต้นไม้ในนิมิตที่สวยงามที่อัครสาวกยอห์นบันทึกไว้ (อ่านวิวรณ์ 22:1, 2) ต้นไม้ที่ยอห์นเห็นมีใบที่ใช้ “เยียวยารักษาผู้คนจากชาติต่าง ๆ” คนซื่อสัตย์มากมายหลายล้านคนจะได้ประโยชน์จากการทำหน้าที่ของปุโรหิต 144,000 คน
21. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้คิดใคร่ครวญเรื่องแม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียล และเราจะพิจารณาอะไรในบทต่อไป? (ดูกรอบ “น้ำที่ไหลออกมากลายเป็นแม่น้ำ!”)
21 เมื่อคุณใคร่ครวญเรื่องแม่น้ำในนิมิตของเอเสเคียล คุณมีใจสงบและมีความหวังไหม? ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดรอเราอยู่ข้างหน้า! คิดดูสิ พระยะโฮวาให้เอเสเคียลบันทึกนิมิตที่น่าตื่นเต้นนี้ไว้หลายพันปีมาแล้ว เพื่อให้เรานึกออกว่าชีวิตในสวนอุทยานจะยอดเยี่ยมแค่ไหน พระองค์พยายามเชิญเราให้อยู่ที่นั่นเพื่อจะได้เห็นคำสัญญานี้เกิดขึ้นจริงอย่างยิ่งใหญ่ คุณจะอยู่ที่นั่นไหม? คุณอาจสงสัยว่าคุณจะได้เป็นเจ้าของที่ดินสักผืนในสวนอุทยานไหม? ให้เรามาดูส่วนสุดท้ายในคำพยากรณ์ของเอเสเคียลที่ช่วยให้มั่นใจในเรื่องนี้
a นอกจากนั้น เชลยชาวยิวที่ยังจำลักษณะภูมิประเทศบ้านเกิดได้ก็คงรู้ว่าแม่น้ำนี้ไม่ใช่แม่น้ำจริงๆ เพราะมันไหลลงมาจากวิหารบนภูเขาที่สูงมาก ซึ่งภูเขานี้ไม่ได้มีอยู่จริงในบริเวณนั้น และนิมิตนี้ก็ยังพูดทำนองว่าแม่น้ำนั้นไหลตรงจากภูเขาลงไปที่ทะเลตายโดยไม่มีอะไรขวาง ซึ่งไม่ตรงกับลักษณะภูมิประเทศจริงๆในแถบนั้น
b นักวิจารณ์บางคนมองเรื่องนี้ในแง่บวก เพราะการผลิตเกลือเพื่อใช้ถนอมอาหารเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ในดินแดนแถบทะเลตายมานานแล้ว แต่ขอให้สังเกตข้อความที่บอกว่าน้ำในหนองและบึงต่าง ๆ “จะไม่กลายเป็นน้ำดี” แหล่งน้ำเหล่านั้นยังไร้ชีวิตหรือไม่ได้เปลี่ยนเป็นน้ำดีเพราะน้ำที่ให้ชีวิตจากวิหารของพระยะโฮวาไม่ได้ไหลไปถึงที่นั่น ดังนั้น ดูเหมือนว่าในที่นี้หนองและบึงต่าง ๆ ที่มีสภาพเป็นเกลือมีความหมายในแง่ลบ—สด. 107:33, 34; ยรม. 17:6
c ลองพิจารณาสิ่งที่คล้ายกันในตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องอวน มีการจับปลามากมายแต่ไม่ใช่ทุกตัวจะเป็นปลาที่ “ดี” ปลาที่ไม่ดีต้องถูกโยนทิ้งไป พระเยซูใช้ตัวอย่างนี้เพื่อเตือนว่าหลายคนที่เข้ามาในองค์การของพระยะโฮวาตอนหลังจะกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์—มธ. 13:47-50; 2 ทธ. 2:20, 21