จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรม
“ข้าพเจ้ามีความหวังใจในพระเจ้า . . . ว่าจะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.”—กิจการ 24:15, ล.ม.
1. สภาพการณ์อะไรที่มนุษยชาติทั้งปวงเผชิญนับตั้งแต่อาดามและฮาวาตกเข้าสู่ความบาป?
“เมื่อมือไม้ของเจ้าจับการอันใดทำ จงกระทำการอันนั้นด้วยกำลังวังชาของเจ้าเถิด เพราะว่าไม่มีการงาน หรือโครงการณ์ หรือความรู้หรือสติปัญญาในเมืองผี [เชโอล, ล.ม.] ที่เจ้าจะไปนั้น.” (ท่านผู้ประกาศ 9:10) ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรเป็นอย่างดีไม่กี่คำ กษัตริย์ซะโลโมผู้ชาญฉลาดพรรณนาสภาพการณ์ซึ่งมนุษยชาติทุกชั่วอายุได้เผชิญนับตั้งแต่อาดามกับฮาวาบิดามารดาคู่แรกของเราตกเข้าสู่ความบาป. โดยไม่มีข้อยกเว้น ในที่สุดความตายได้กลืนทุกผู้คน ทั้งรวยและจน, ทั้งกษัตริย์และสามัญชน, คนซื่อสัตย์และไม่ซื่อสัตย์. จริงทีเดียว ความตายได้ “ครอบงำอยู่.”—โรม 5:17.
2. ทำไมผู้ซื่อสัตย์บางคนเคยรู้สึกผิดหวังในระหว่างสมัยสุดท้ายนี้?
2 ทั้ง ๆ ที่มีความก้าวหน้าใหม่สุดด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ความตายก็ยังคงครอบงำอยู่แม้แต่ในปัจจุบันนี้. แม้นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก บางคนก็อาจเคยรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเมื่อเผชิญกับศัตรูที่มีมายาวนานนี้ในที่สุด. เพราะเหตุใด? ย้อนไปในทศวรรษปี 1920 สมาคมว็อชเทาเวอร์ประกาศข่าวสารที่ว่า “หลายล้านคนที่มีชีวิตอยู่เวลานี้จะไม่ตายเลย.” หลายล้านคนเหล่านี้จะเป็นใคร? คือ “แกะ” ที่มีการกล่าวถึงในคำตรัสของพระเยซูเกี่ยวกับแกะและแพะ. (มัดธาย 25:31-46) มีการพยากรณ์ไว้ว่า คนเยี่ยงแกะเหล่านี้จะปรากฏในระหว่างสมัยสุดท้าย และความหวังของพวกเขาคือชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน. ขณะที่เวลาผ่านไป ไพร่พลของพระเจ้าได้รับความเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับฐานะของ “แกะ” เหล่านี้ในพระประสงค์ของพระเจ้า. เป็นที่เข้าใจว่า ผู้ที่เชื่อฟังเหล่านี้จะถูกแยกจาก “แพะ” ที่ดื้อรั้น และหลังจากความพินาศของคนจำพวกหลัง แกะจะได้รับดินแดนภาคแผ่นดินโลกของราชอาณาจักรเป็นมรดก ซึ่งถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับพวกเขา.
การรวบรวมคนเยี่ยงแกะ
3. ไพร่พลพระเจ้ามุ่งเอาใจใส่การงานอะไรนับตั้งแต่ปี 1935?
3 เริ่มต้นในปี 1935 ‘ทาสสัตย์ซื่อ’ ได้มุ่งเอาใจใส่ในการค้นหา “แกะ” และนำพวกเขาเข้ามาในองค์การของพระยะโฮวา. (มัดธาย 24:45; โยฮัน 10:16) คริสเตียนที่สมัครใจศึกษาเหล่านี้ได้มาตระหนักว่า บัดนี้ พระเยซูทรงครองราชย์อยู่ในราชอาณาจักรของพระยะโฮวาทางภาคสวรรค์ และเวลาสำหรับอวสานของระบบชั่วนี้และการนำเข้าสู่โลกใหม่ซึ่งความชอบธรรมจะดำรงอยู่นั้นกำลังคืบใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว. (2 เปโตร 3:13; วิวรณ์ 12:10) ในโลกใหม่นั้น ถ้อยคำที่หนุนกำลังใจของยะซายาจะสำเร็จเป็นจริง ที่ว่า “พระองค์จะทรงทำลายความตายให้สาบศูนย์.”—ยะซายา 25:8.
4. แม้มีความหวังอย่างจริงจังจะเห็นพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง ณ อาร์มาเก็ดดอน เกิดอะไรขึ้นกับหลายคนแห่งแกะอื่น?
4 เนื่องจากอวสานแห่งโลกของซาตานใกล้เข้ามาเต็มที คริสเตียนที่เป็นเยี่ยงแกะคงชื่นชมอย่างยิ่งกับการมีชีวิตอยู่จนกว่าพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องในระหว่างความทุกข์ลำบากที่จะเกิดแก่บาบูโลนใหญ่และโลกของซาตานส่วนที่เหลือ. (วิวรณ์ 19:1-3, 19-21) สำหรับคนจำนวนมาก เรื่องไม่ได้เป็นไปเช่นนั้น. หลายคนที่เคยหวังจะอยู่ในท่ามกลาง “หลายล้านคน” ซึ่งจะไม่ตายเลยได้ตายไปแล้วจริง ๆ. บางคนพลีชีพเพื่อความจริงในคุกและค่ายกักกันหรือด้วยน้ำมือของพวกคลั่งศาสนา. คนอื่น ๆ เสียชีวิตในอุบัติเหตุหรือเนื่องจากสิ่งที่เรียกกันว่าสาเหตุธรรมดา เช่น ความเจ็บป่วยและวัยชรา. (บทเพลงสรรเสริญ 90:9, 10; ท่านผู้ประกาศ 9:11) เห็นได้ชัดว่า มีอีกหลายคนจะเสียชีวิตก่อนอวสานมาถึง. คนเหล่านั้นจะเห็นความสำเร็จเป็นจริงของคำสัญญาเรื่องโลกใหม่ซึ่งความชอบธรรมจะดำรงอยู่นั้นโดยวิธีใด?
ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย
5, 6. มีอนาคตอะไรอยู่สำหรับผู้ที่มีความหวังทางแผ่นดินโลกซึ่งตายไปก่อนอาร์มาเก็ดดอน?
5 อัครสาวกเปาโลให้คำตอบเมื่อท่านกล่าวต่อหน้าเฟลิกซ์ ผู้ว่าราชการชาวโรมัน. ดังที่บันทึกไว้ที่กิจการ 24:15 (ล.ม.) เปาโลแถลงอย่างกล้าหาญว่า “ข้าพเจ้ามีความหวังในพระเจ้า . . . ว่าจะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.” ความหวังเรื่องการเป็นขึ้นจากตายให้ความกล้าแก่เราในยามที่เผชิญกับความลำเค็ญที่สุด. เนื่องด้วยความหวังนั้น เพื่อน ๆ ที่รักทั้งหลายของเราซึ่งป่วยและรู้สึกว่าเขาจะตายก็จะไม่ท้อแท้ใจมากเกินไป. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ทราบว่า เขาจะเก็บเกี่ยวบำเหน็จจากความซื่อสัตย์. เนื่องด้วยความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย พี่น้องชายหญิงที่กล้าหาญของเราซึ่งเผชิญความตายด้วยน้ำมือของผู้กดขี่ข่มเหงรู้ว่า พวกผู้กดขี่ข่มเหงเหล่านั้นจะไม่มีทางได้ชัยชนะ. (มัดธาย 10:28) เมื่อมีคนในประชาคมเสียชีวิต เราเสียใจที่สูญเสียเขาไป. ในเวลาเดียวกัน ถ้าเขาเป็นคนหนึ่งในแกะอื่น เราก็ปีติยินดีที่เพื่อนร่วมความเชื่อของเราได้พิสูจน์ตัวซื่อสัตย์จนถึงที่สุดและบัดนี้กำลังพักผ่อนอยู่ แน่ใจในเรื่องอนาคตในโลกใหม่ของพระเจ้า.—1 เธซะโลนิเก 4:13.
6 ถูกแล้ว ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายเป็นลักษณะสำคัญยิ่งประการหนึ่งของความเชื่อของเรา. แต่เพราะเหตุใดความเชื่อของเราในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายจึงมั่นคงนัก? และใครบ้างร่วมในความหวังนี้?
7. การกลับเป็นขึ้นจากตายคืออะไร และข้อพระคัมภีร์อะไรบ้างที่กล่าวถึงความแน่นอนของเรื่องนี้?
7 คำภาษากรีกสำหรับคำ “การกลับเป็นขึ้นจากตาย” คือ อะนาʹสตาซิส ซึ่งหมายความตามตัวอักษรว่า “ลุกขึ้น.” โดยพื้นฐานแล้วคำนี้หมายถึงการลุกขึ้นจากความตาย. น่าสนใจ คำ “การกลับเป็นขึ้นจากตาย” ตามความเป็นจริงแล้วไม่ปรากฏในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู แต่ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายก็มีกล่าวไว้อย่างชัดเจนในที่นั้น. ตัวอย่างเช่น ในถ้อยคำที่โยบกล่าวระหว่างที่ท่านทนทุกข์ว่า “โอ้ หากว่าพระองค์จะทรงซ่อนข้าฯไว้ในหลุมฝังศพ . . . โดยมีเวลาที่ทรงกำหนดไว้สำหรับข้าฯ แล้วจะระลึกถึงข้าฯอีกทีก็จะดี.” (โยบ 14:13) ทำนองคล้ายกัน ที่โฮเซอา 13:14 เราอ่านว่า “จะให้เราไถ่เขาออกจากเอื้อมมือแห่งหลุมฝังศพหรือ? จะให้เราไถ่เขาออกมาจากอำนาจแห่งความตายหรือ? โอ! ความตาย ภัยพิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน? โอ! หลุมฝังศพ ความพินาศของเจ้าอยู่ที่ไหน?” ที่ 1 โกรินโธ 15:55 อัครสาวกเปาโลยกถ้อยคำเหล่านี้มากล่าวและแสดงว่า ชัยชนะเหนือความตายที่มีพยากรณ์ไว้นั้นจะบรรลุโดยการกลับเป็นขึ้นจากตาย. (แน่นอน ในคัมภีร์ข้อนั้นเปาโลกล่าวถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายสู่ภาคสวรรค์.)
ผู้มีความเชื่อ “ได้รับการประกาศว่าชอบธรรม”
8, 9. (ก) มนุษย์ไม่สมบูรณ์จะมีส่วนในการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรมได้อย่างไร? (ข) อะไรคือพื้นฐานของความหวังของเราในเรื่องชีวิตซึ่งจะไม่ถูกทำให้สิ้นสุดลงโดยความตาย?
8 ในคำกล่าวของท่านต่อเฟลิกซ์ ดังที่ยกมากล่าวในวรรค 5 เปาโลกล่าวว่า จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม. ใครคือคนชอบธรรมซึ่งจะถูกปลุกขึ้นมา? ไม่มีมนุษย์คนใดเป็นคนชอบธรรมโดยกำเนิด. เราทุกคนเป็นคนบาปแต่กำเนิด และเราทำบาประหว่างช่วงชีวิตของเรา ซึ่งทำให้เราสมควรจะตายด้วยสาเหตุสองต่อ. (โรม 5:12; 6:23) กระนั้นก็ดี ในคัมภีร์ไบเบิลเราพบถ้อยคำ “ได้รับการประกาศว่าชอบธรรม.” (โรม 3:28) ถ้อยคำนี้หมายถึงมนุษย์ซึ่งถึงแม้เป็นคนไม่สมบูรณ์ ก็ได้รับการอภัยบาปจากพระยะโฮวา.
9 คำกล่าวนี้ใช้อย่างเด่นชัดกับคริสเตียนผู้ถูกเจิมซึ่งมีความหวังภาคสวรรค์. ที่โรม 5:1 (ล.ม.) อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า “เหตุฉะนั้น เมื่อเราได้รับการประกาศว่าชอบธรรม สืบเนื่องจากความเชื่อแล้ว ให้เราประสบสันติสุขกับพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา.” คริสเตียนผู้ถูกเจิมทุกคน ได้รับการประกาศว่าชอบธรรมเนื่องด้วยความเชื่อของพวกเขา. ความเชื่อในอะไร? ดังที่เปาโลชี้แจงอย่างละเอียดในพระธรรมโรม นั่นคือความเชื่อในพระเยซูคริสต์. (โรม 10:4, 9, 10) พระเยซูสิ้นพระชนม์ในฐานะมนุษย์สมบูรณ์และภายหลังก็ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากความตายและเสด็จขึ้นสู่สวรรค์เพื่อถวายคุณค่าแห่งชีวิตมนุษย์ของพระองค์เพื่อประโยชน์ของพวกเรา. (เฮ็บราย 7:26, 27; 9:11, 12) เมื่อพระยะโฮวาทรงยอมรับเครื่องบูชานั้น ผลก็คือ พระเยซูทรงซื้อเผ่าพันธุ์มนุษย์จากการเป็นทาสบาปและความตาย. ผู้ที่แสดงความเชื่อในการจัดเตรียมนี้ได้รับประโยชน์มากมาย. (1 โกรินโธ 15:45) โดยอาศัยพื้นฐานนี้ มนุษย์ชายหญิงที่ซื่อสัตย์จึงมีความหวังในเรื่องการได้รับชีวิตซึ่งจะไม่ถูกทำให้สิ้นสุดลงโดยความตาย ศัตรูที่โหดร้ายนั้น.—โยฮัน 3:16.
10, 11. (ก) การกลับเป็นขึ้นจากตายชนิดใดคอยท่าคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์? (ข) การกลับเป็นขึ้นจากตายชนิดใดที่ผู้นมัสการก่อนยุคคริสเตียนเฝ้าคอย?
10 เนื่องจากเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู ชนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ซึ่งได้รับการประกาศว่าชอบธรรมจึงมีความหวังอันแน่นอนในเรื่องการถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายในฐานะกายวิญญาณอมตะเช่นเดียวกับพระเยซู. (วิวรณ์ 2:10) การกลับเป็นขึ้นจากตายของพวกเขามีกล่าวไว้ที่วิวรณ์ 20:6 (ล.ม.) ซึ่งบอกว่า “ผู้ใดมีส่วนในการกลับเป็นขึ้นจากตายที่หนึ่งก็เป็นสุขและบริสุทธิ์; ความตายที่สองไม่มีอำนาจเหนือคนเหล่านี้ แต่พวกเขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์ และจะปกครองเป็นกษัตริย์กับพระองค์ตลอดพันปีนั้น.” นี่คือการกลับเป็นขึ้นจากตายสู่ภาคสวรรค์. แต่ขอสังเกตว่า คัมภีร์ไบเบิลเรียกการกลับเป็นขึ้นจากตายนี้ว่า “การกลับเป็นขึ้นจากตายที่หนึ่ง” ซึ่งหมายความว่า จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายอีก.
11 ในเฮ็บรายบท 11 เปาโลพาดพิงถึงผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าก่อนยุคคริสเตียนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่ออันแข็งแรงในพระเจ้ายะโฮวา. คนเหล่านี้เช่นกันมีความเชื่อในการกลับเป็นขึ้นจากตาย. ที่ข้อ 35 ในบทนี้ เปาโลกล่าวถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายด้วยการอัศจรรย์ซึ่งเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของยิศราเอล โดยกล่าวว่า “พวกผู้หญิงได้รับคนพวกของเขาที่ตายแล้วเป็นขึ้นมาจากตายอีก. บางคนได้ถูกการทรมาน, เพราะไม่ยอมรับการช่วยให้รอดตาย, เพื่อเขาจะได้รับการเป็นขึ้นมาจากตายอันประเสริฐกว่า.” พยานที่ซื่อสัตย์ในสมัยโบราณสามารถคอยท่าการกลับเป็นขึ้นจากตายที่ดีกว่าการกลับเป็นขึ้นจากตายที่เอลียาและอะลีซามีส่วนเกี่ยวข้อง. (1 กษัตริย์ 17:17-22; 2 กษัตริย์ 4:32-37; 13:20, 21) ความหวังของพวกเขาคือการกลับเป็นขึ้นจากตายเข้าสู่โลกที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะไม่ถูกทรมานเพราะความเชื่อของเขา โลกที่พวกผู้หญิงจะไม่ต้องสูญเสียคนที่เขารักเนื่องด้วยความตาย. ใช่ พวกเขาคอยท่าการเป็นขึ้นจากความตายเข้าสู่โลกใหม่เดียวกันกับที่เราเฝ้าคอย. (ยะซายา 65:17-25) พระยะโฮวาไม่ได้ทรงเผยให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับโลกใหม่มากเหมือนกับที่พระองค์ทรงเผยแก่พวกเรา. แต่พวกเขาทราบว่า โลกใหม่จะมีมา และพวกเขาต้องการจะอยู่ในโลกใหม่นั้น.
การกลับเป็นขึ้นจากตายภาคแผ่นดินโลก
12. ผู้ซื่อสัตย์ก่อนยุคคริสเตียนได้รับการประกาศว่าชอบธรรมไหม? จงอธิบาย.
12 เราควรคิดไหมว่า การที่ชายหญิงก่อนยุคคริสเตียนที่ซื่อสัตย์เหล่านั้นตื่นขึ้นในโลกใหม่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรม? ตามหลักฐานแล้ว ใช่ เพราะคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงพวกเขาว่าเป็นคนชอบธรรม. ตัวอย่างเช่น สาวกยาโกโบกล่าวถึงชายคนหนึ่งและหญิงคนหนึ่งในสมัยโบราณซึ่งได้รับการประกาศว่าชอบธรรม. ชายคนนั้นคืออับราฮาม บุรุษต้นตระกูลของชนชาติฮีบรู. เราอ่านเกี่ยวกับตัวท่าน ดังนี้: “‘อับราฮามเชื่อในพระยะโฮวา และนั่นนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน’ และท่านได้รับสมญาว่า ‘มิตรสหายของพระยะโฮวา.’” ส่วนหญิงคนนั้นคือราฮาบ คนที่ไม่ใช่ชาวยิศราเอลซึ่งแสดงความเชื่อในพระยะโฮวาและได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชาติฮีบรู. (ยาโกโบ 2:23-25, ล.ม.) ด้วยเหตุนี้ ชายและหญิงในสมัยโบราณซึ่งแสดงความเชื่ออันแข็งแรงในพระยะโฮวาและคำสัญญาของพระองค์และคงความซื่อสัตย์จนวันตายได้รับการประกาศว่าชอบธรรมโดยพระยะโฮวาโดยอาศัยความเชื่อของพวกเขา และพวกเขาจะมีส่วนร่วมใน “การกลับเป็นขึ้นจากตายของ . . . คนชอบธรรม” อย่างไม่มีข้อสงสัย.
13, 14. (ก) เราทราบได้อย่างไรว่า คริสเตียนที่มีความหวังทางแผ่นดินโลกสามารถได้รับการประกาศว่าชอบธรรม? (ข) เรื่องนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับพวกเขา?
13 แต่จะว่าอย่างไรกับชนเยี่ยงแกะเป็นรายบุคคลในสมัยนี้ คือคนที่มีความหวังทางแผ่นดินโลกผู้ซึ่งอุทิศตัวแด่พระยะโฮวาและผู้ซึ่งตายไปในระหว่างสมัยสุดท้ายนี้? พวกเขาจะมีส่วนร่วมในการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรมไหม? ปรากฏชัดว่าเป็นเช่นนั้น. มีการเห็นชนฝูงใหญ่แห่งคนซื่อสัตย์เหล่านั้นในนิมิตที่อัครสาวกโยฮันเห็น. ขอสังเกตว่าท่านพรรณนาถึงคนเหล่านั้นอย่างไร: “ข้าพเจ้าได้เห็น และ นี่แน่ะ! ชนฝูงใหญ่ ซึ่งไม่มีใครนับจำนวนได้ จากบรรดาชาติและตระกูลและชนชาติและภาษาทั้งปวง ยืนอยู่ต่อหน้าราชบัลลังก์และต่อพระพักตร์พระเมษโปดก คนเหล่านั้นสวมเสื้อยาวสีขาว; และในมือของพวกเขามีทางปาล์ม. และพวกเขาร้องเสียงดังไม่หยุดว่า ‘ความรอดนั้นเราได้เนื่องมาจากพระเจ้าของเราผู้ประทับบนราชบัลลังก์ และเนื่องมาจากพระเมษโปดก.’”—วิวรณ์ 7:9, 10, ล.ม.
14 ขอสังเกตว่า คนที่ถ่อมใจเหล่านี้เชื่อมั่นคงในเรื่องความรอดของตน และพวกเขาถือว่าเรื่องนี้เนื่องมาจากพระยะโฮวาและพระเยซู “พระเมษโปดก.” นอกจากนี้ พวกเขายืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวาและพระเมษโปดก ทุกคนสวมชุดขาว. ทำไมพวกเขาสวมชุดขาว? สิ่งมีชีวิตในสวรรค์บอกโยฮันว่า “พวกเขาได้ชำระเสื้อยาวของเขาและทำให้ขาวในพระโลหิตของพระเมษโปดก.” (วิวรณ์ 7:14) ในคัมภีร์ไบเบิล สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์, ความชอบธรรม. (บทเพลงสรรเสริญ 51:7; ดานิเอล 12:10; วิวรณ์ 19:8) ข้อเท็จจริงที่ว่ามีการเห็นชนฝูงใหญ่ในนิมิตสวมเสื้อผ้าสีขาวนั้นหมายความว่า พระยะโฮวาทรงถือว่าพวกเขาชอบธรรม. เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ก็เพราะว่า พวกเขาได้ชำระเสื้อยาวของเขาในพระโลหิตของพระเมษโปดก. พวกเขาแสดงความเชื่อในพระโลหิตของพระเยซูคริสต์และดังนั้น พวกเขาจึงได้รับการประกาศว่าชอบธรรมในฐานะสหายของพระเจ้า พร้อมด้วยมีความหวังจะรอดชีวิตผ่านความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่. ฉะนั้น คริสเตียนผู้อุทิศตัวแล้วที่ซื่อสัตย์ไม่ว่าคนใดซึ่งบัดนี้เป็นส่วนแห่ง “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งตายไปก่อนความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่จึงสามารถมั่นใจว่าจะมีส่วนร่วมในการกลับเป็นขึ้นจากตายภาคแผ่นดินโลกของคนชอบธรรม.
15. เนื่องจากทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรมต่างก็จะถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย อะไรคือข้อดีกว่าของการกลับเป็นขึ้นจากตายของคนชอบธรรม?
15 การกลับเป็นขึ้นจากตายนั้นมีพรรณนาไว้ในวิวรณ์บท 20 ข้อ 13 (ล.ม.) ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้: “ทะเลได้มอบคนตายที่อยู่ในนั้น และความตายและฮาเดสได้มอบคนตายที่อยู่ในนั้น และพวกเขาถูกพิพากษาเป็นรายบุคคลตามการกระทำของตน.” ดังนั้น ระหว่างวันพิพากษาพันปีอันยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา คนทั้งปวงเหล่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของพระยะโฮวาจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย คือทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม. (กิจการ 17:31) แต่การกลับเป็นขึ้นจากตายนั้นจะดียิ่งกว่าสักเท่าใดสำหรับคนชอบธรรม! พวกเขาได้ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อมาแล้ว. พวกเขามีสัมพันธภาพใกล้ชิดกับพระยะโฮวาอยู่แล้ว และมีความมั่นใจในความสำเร็จเป็นจริงแห่งพระประสงค์ของพระองค์. พยานผู้ชอบธรรมทั้งหลายตั้งแต่ก่อนยุคคริสเตียนจะตื่นจากความตายและกระหายจะเรียนรู้วิธีที่คำสัญญาของพระยะโฮวาเกี่ยวกับพงศ์พันธุ์นั้นได้สำเร็จเป็นจริง. (1 เปโตร 1:10-12) คนจำพวกแกะอื่นเหล่านั้นซึ่งพระยะโฮวาทรงนับว่าชอบธรรมในสมัยของเรานี้จะออกมาจากหลุมฝังศพเพื่อจะเห็นแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยานซึ่งพวกเขาได้พูดถึงเมื่อเขาประกาศข่าวดีอยู่ในระบบนี้. นั่นจะเป็นเวลาที่น่าปีติยินดีสักเพียงไร!
16. เราจะกล่าวได้อย่างไรเกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตายในวันพิพากษาของคนเหล่านั้นที่ตายในสมัยของเรานี้?
16 ระหว่างวันพิพากษาหนึ่งพันปีนั้น เหล่าคนที่ตายอย่างซื่อสัตย์ในช่วงปีท้าย ๆ แห่งระบบของซาตานจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายเมื่อไร? คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอก. อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสมเหตุสมผลมิใช่หรือที่จะคิดว่า คนเหล่านั้นที่ถูกนับว่าชอบธรรม ซึ่งตายในสมัยของเราจะถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายก่อน และด้วยวิธีนั้นจึงสามารถมีส่วนร่วมกับชนฝูงใหญ่ที่รอดจากอาร์มาเก็ดดอนในงานต้อนรับคนชั่วอายุก่อนหน้านั้นที่เป็นขึ้นจากตาย? ใช่ สมเหตุสมผลจริง ๆ!
ความหวังที่ให้การปลอบประโลม
17, 18. (ก) ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายให้การปลอบโยนอะไร? (ข) เราได้รับการกระตุ้นให้ประกาศเรื่องอะไรเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
17 ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายให้กำลังและการปลอบโยนแก่คริสเตียนทุกคนในสมัยนี้. ถ้าเราคงความซื่อสัตย์ ไม่ว่าเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดล่วงหน้าหรือศัตรูใด ๆ ก็ไม่อาจปล้นบำเหน็จของเราไปได้! ตัวอย่างเช่น หนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวา ปี 1992 หน้า 177 มีภาพคริสเตียนที่กล้าหาญในเอธิโอเปียซึ่งยอมตายแทนที่จะอะลุ้มอล่วยความเชื่อของพวกเขา. คำอธิบายภาพนั้นบอกว่า “ใบหน้าที่เราคาดหวังจะเห็นในการกลับเป็นขึ้นจากตาย.” จะเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่จะได้รู้จักพยานผู้ซื่อสัตย์เหล่านั้นและพยานฯคนอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนซึ่งแสดงความซื่อสัตย์คล้ายกันนั้นเมื่อเผชิญความตาย!
18 จะว่าอย่างไรกับคนทั้งหลายที่เรารักและเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้มีชีวิตผ่านความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่เนื่องจากความชราหรือโรคภัย? สอดคล้องกับความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย พวกเขามีอนาคตอันเยี่ยมยอดถ้าพวกเขาคงความเชื่อเอาไว้. และถ้าเราแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูด้วยความกล้า เราก็จะมีอนาคตอันเยี่ยมยอด. เพราะเหตุใด? ก็เพราะว่า เหมือนเปาโล เราหวังใน “การกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.” ด้วยหัวใจทั้งสิ้นของเรา เราขอบพระคุณพระยะโฮวาสำหรับความหวังนี้. แน่นอน ความหวังนี้กระตุ้นเราให้กล่าวซ้ำถ้อยคำของผู้ประพันธ์บทเพลงสรรเสริญที่ว่า “จงประกาศพระเกียรติของพระองค์ในท่ามกลางชนประเทศทั้งปวง, และประกาศการอัศจรรย์ของพระองค์ในท่ามกลางบรรดามนุษย์โลก. เพราะพระยะโฮวาเป็นใหญ่, สมควรจะได้ความสรรเสริญมากยิ่ง.”—บทเพลงสรรเสริญ 96:3, 4.
คุณอธิบายได้ไหม?
▫ ข้อพระคัมภีร์อะไรบ้างช่วยย้ำความหวังของเราในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายภาคแผ่นดินโลก?
▫ ขณะนี้คริสเตียนได้รับการประกาศว่าชอบธรรมโดยอาศัยพื้นฐานอะไร?
▫ ความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายให้ความกล้าและความตั้งใจแน่วแน่แก่เราอย่างไร?
[รูปภาพหน้า 9]
เช่นเดียวกับเปาโล คริสเตียนผู้ถูกเจิมมีความหวังในการกลับเป็นขึ้นจากตายสู่ภาคสวรรค์