วันนั้น “ซึ่งจะเผาไหม้เหมือนเตา”
“นี่แน่ะ! วันนั้นจะมาซึ่งจะเผาไหม้เหมือนเตา.”—มาลาคี 4:1, ล.ม.
1. เกิดคำถามอะไรขึ้นอันเกี่ยวเนื่องกับมาลาคี 4:1?
ในช่วงสมัยสุดท้ายนี้ คนเหล่านั้นซึ่งพระยะโฮวาทรงเลือกจารึกชื่อของเขาลงในหนังสือบันทึกความจำของพระองค์ก็เป็นสุข. แต่คนเหล่านั้นซึ่งไม่มีคุณสมบัติสำหรับสิทธิพิเศษนี้ล่ะจะว่าอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือสามัญชนทั่วไป พวกเขาจะเป็นอย่างไรถ้าเขาปฏิบัติกับผู้ประกาศราชอาณาจักรของพระเจ้าและข่าวสารของเขาด้วยความดูหมิ่น? มาลาคีกล่าวถึงวันแห่งการคิดบัญชี. ที่บท 4 ข้อ 1 (ล.ม.) เราอ่านดังนี้: “‘เพราะนี่แน่ะ! วันนั้นจะมา ซึ่งจะเผาไหม้เหมือนเตา และบรรดาผู้ที่ทำเกินสิทธิ์และบรรดาคนทำชั่วจะต้องกลายเป็นเหมือนตอข้าว. และวันซึ่งจะมานั้นจะไหม้พวกเขาหมดอย่างแน่นอน’ พระยะโฮวาแห่งพลโยธาได้ตรัส ‘เพื่อวันนั้นจะไม่ให้เขาเหลือเลยไม่ว่ารากหรือกิ่ง.’”
2. ยะเอศเคลให้คำพรรณนาอย่างที่มโนภาพได้เช่นไรเกี่ยวกับการพิพากษาของพระยะโฮวา?
2 ผู้พยากรณ์คนอื่น ๆ ก็เปรียบการที่พระยะโฮวาทรงพิพากษานานาชาติกับความร้อนจัดของเตาหลอมเช่นกัน. ช่างเหมาะเจาะจริง ๆ ที่ยะเอศเคล 22:19-22 (ฉบับแปลใหม่) หมายถึงการที่พระเจ้าทรงพิพากษานิกายต่าง ๆ ของคริสต์ศาสนจักรที่ออกหาก! ที่นั่นอ่านว่า “พระเจ้า [“พระยะโฮวาเจ้า,” ล.ม.] ตรัสดังนี้ว่า เพราะว่าเจ้าเป็นขี้โลหะไปเสียทั้งสิ้นแล้ว เพราะฉะนั้น ดูเถิด เราจะรวบรวมเจ้าไว้ . . . อย่างที่คนเขารวบรวมเงิน ทองสัมฤทธิ์ และเหล็ก และตะกั่วและดีบุกไว้ในเตาหลอม เพื่อเอาไฟพ่นรดให้มันละลาย ดังนั้นเราจะรวบรวมเจ้าด้วยความกริ้วและด้วยความพิโรธของเรา และเราจะใส่เจ้ารวมไว้ให้เจ้าละลาย เราจะรวบรวมเจ้า และเอาเพลิงแห่งความพิโรธของเราพ่นเจ้าและเจ้าจะละลายอยู่ท่ามกลางนั้น เงินละลายอยู่ในเตาหลอมฉันใด เจ้าทั้งหลายจะละลายอยู่ท่ามกลางเพลิงฉันนั้น และเจ้าจะทราบว่า เราคือพระเจ้า [“พระยะโฮวา,” ล.ม.] ได้ระบายความกริ้วของเราออกเหนือเจ้า.”
3, 4, (ก) พวกนักเทศน์นักบวชได้กล่าวอ้างอย่างหน้าซื่อใจคดเช่นไร? (ข) ประวัติบันทึกอันโสมมของศาสนาเป็นเช่นไร?
3 เป็นอุทาหรณ์ที่มีพลังมากจริง ๆ! พวกนักเทศน์นักบวชที่ได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้พระนามยะโฮวา กระทั่งหมิ่นพระนามอันบริสุทธิ์นี้ จะต้องเผชิญวันแห่งการคิดบัญชีนั้น. ด้วยการทำเกินสิทธิ์ พวกเขาอ้างว่า เขากับพันธมิตรทางการเมืองของเขาจะตั้งราชอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก หรืออย่างน้อยที่สุดก็ทำให้โลกเป็นสถานที่อันเหมาะสมสำหรับให้ราชอาณาจักรมา.
4 คริสเตียนที่ออกหากได้ร่วมมือกับผู้ปกครองทางการเมืองในการต่อสู้ในสงครามอันน่าสยดสยอง. ประวัติศาสตร์บันทึกสงครามครูเสดในยุคกลาง, การที่ศาลศาสนาแห่งสเปนบังคับให้เปลี่ยนศาสนา, สงครามสามสิบปีซึ่งทำลายยุโรปจนย่อยยับในศตวรรษที่ 17, และสงครามกลางเมืองในสเปนในทศวรรษปี 1930 ซึ่งเป็นการสู้รบเพื่อปกป้องฐานะของคริสตจักรคาทอลิกในสเปน. การทำให้โลหิตไหลนองครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นด้วยสงครามโลกทั้งสองครั้งในศตวรรษของเรา เมื่อพวกคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ต่างเข้าเข่นฆ่าผู้นับถือศาสนาเดียวกับเขารวมทั้งผู้นับถือศาสนาอื่นอย่างไร้กฎเกณฑ์ไม่มีการแยกแยะ. เมื่อไม่นานนี้เอง มีการเข่นฆ่ากันระหว่างพวกคาทอลิกกับพวกโปรเตสแตนต์ในไอร์แลนด์, ระหว่างกลุ่มศาสนาต่าง ๆ ในอินเดีย, และระหว่างกลุ่มศาสนาต่าง ๆ ของอดีตยูโกสลาเวีย. นอกจากนั้น หน้าประวัติศาสตร์ศาสนายังเปรอะไปด้วยเลือดของพยานพระยะโฮวาผู้ซื่อสัตย์หลายพันคนซึ่งพลีชีพเพื่อความเชื่ออีกด้วย.—วิวรณ์ 6:9, 10.
5. การพิพากษาเช่นไรคอยท่าศาสนาเท็จอยู่?
5 เราเข้าใจได้ไม่ยากถึงความยุติธรรมแห่งการสำเร็จโทษจากพระยะโฮวาที่ใกล้จะมีแก่บาบูโลนใหญ่ จักรวรรดิโลกแห่งศาสนาเท็จ พร้อมกับเหล่าผู้สนับสนุนของมัน. เรื่องนี้มีพรรณนาไว้ที่วิวรณ์ 18:21, 24 (ล.ม.) ดังนี้: “ทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์องค์หนึ่งได้ยกหินก้อนหนึ่งดุจหินโม่ใหญ่ขึ้นและเหวี่ยงลงในทะเลและกล่าวว่า ‘อย่างนี้แหละ บาบูโลนเมืองใหญ่จะถูกเหวี่ยงลงโดยฉับไว และจะไม่มีใครพบอีกเลย. ถูกแล้ว ในเมืองนั้นได้พบเลือดของผู้พยากรณ์และของผู้บริสุทธิ์และของคนทั้งปวงที่ถูกฆ่าฟันบนแผ่นดินโลก.’”
6. (ก) ใครจะต้องเป็นเหมือนตอข้าว และเพราะเหตุใด? (ข) มีคำรับรองอะไรสำหรับคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระยะโฮวา?
6 เมื่อถึงเวลา ศัตรูทั้งปวงของความชอบธรรม พร้อมกับเหล่าผู้สนับสนุนของเขา “จะต้องเป็นเหมือนตอข้าว.” วันของพระยะโฮวาจะเผาในท่ามกลางพวกเขาเหมือนเตาไฟ. “วันนั้นจะไม่ให้เขาเหลือเลยไม่ว่ารากหรือกิ่ง.” ในวันแห่งการคิดบัญชีนั้น เด็กเล็ก ๆ หรือกิ่งทั้งหลาย จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเที่ยงธรรมตามที่พระยะโฮวาทรงประเมินค่ารากของพวกเขา คือเหล่าบิดามารดาของเขา ซึ่งดูแลเด็ก ๆ เหล่านั้น. บิดามารดาที่ชั่วช้าจะไม่มีทายาทเพื่อสืบแนวทางชั่วช้าของเขาให้ดำรงอยู่อีกต่อไป. แต่คนเหล่านั้นที่แสดงความเชื่อคำสัญญาเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าจะไม่ถูกทำให้หวั่นไหว. เฮ็บราย 12:28, 29 กระตุ้นเตือนดังนี้: “ให้เราขอบพระคุณ, เพื่อเราจะได้ปฏิบัติพระเจ้าตามชอบพระทัยของพระองค์ด้วยความเคารพและยำเกรง เพราะว่าพระเจ้าของเราเป็นเพลิงที่ไหม้คุอยู่.”
พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าที่โหดร้ายไหม?
7. ความรักของพระยะโฮวามีบทบาทอย่างไรในการพิพากษาของพระองค์?
7 นั่นหมายความว่า พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าที่โหดร้ายและอาฆาตพยาบาทกระนั้นไหม? หามิได้! ที่ 1 โยฮัน 4:8 (ล.ม.) อัครสาวกโยฮันกล่าวถึงความจริงขั้นพื้นฐานที่ว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก.” จากนั้น ในข้อ 16 ท่านกล่าวย้ำอีกว่า “พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่คงอยู่ในความรักก็คงอยู่ร่วมสามัคคีกับพระเจ้าและพระเจ้าคงอยู่ร่วมสามัคคีกับเขา.” เป็นเพราะความรักที่พระองค์ทรงมีต่อมนุษยชาติที่พระยะโฮวาทรงประสงค์จะชำระแผ่นดินโลกนี้ให้สะอาดจากความชั่วช้าทั้งปวง. พระเจ้าของเราผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักและความเมตตาทรงแถลงดังนี้: “พระยะโฮวาเจ้าตรัสว่า ‘เรามีชีวิตฉันใด เรามิได้ชอบพระทัยในความตายแห่งคนชั่วฉันนั้น แต่ชอบพระทัยจะให้คนชั่วกลับเสียจากทางชั่วของเขาและมีชีวิต. เจ้าทั้งหลายจงกลับเสีย จงกลับเสียจากทางชั่วทั้งหลายของเจ้า เหตุไฉนเจ้าจึงจะตาย?’”—ยะเอศเคล 33:11
8. โดยวิธีใดที่โยฮันเน้นเรื่องความรัก แต่ก็แสดงตนเองเป็นลูกฟ้าร้องด้วย?
8 โยฮันกล่าวถึงอะกาʹเป ความรักตามหลักการ บ่อยครั้งยิ่งกว่าผู้เขียนกิตติคุณคนอื่นรวมกัน กระนั้น ที่มาระโก 3:17 โยฮันเองถูกกล่าวถึงว่าเป็น ‘ลูกฟ้าร้อง.’ เป็นโดยการดลใจจากพระยะโฮวาที่ลูกฟ้าร้องคนนี้ได้เขียนข่าวสารเชิงพยากรณ์แห่งพระธรรมเล่มสุดท้ายของคัมภีร์ไบเบิล คือพระธรรมวิวรณ์ ซึ่งพรรณนาถึงพระยะโฮวาว่าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงดำเนินการด้วยความยุติธรรม. พระธรรมนี้เต็มไปด้วยคำกล่าวเกี่ยวกับการพิพากษา เช่น “บ่อย่ำองุ่นอันใหญ่แห่งพระพิโรธของพระเจ้า,” “ขันเจ็ดใบแห่งพระพิโรธของพระเจ้า,” และ “ความกริ้วของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ.”—วิวรณ์ 14:19; 16:1; 19:15, ล.ม.
9. พระเยซูตรัสเช่นไรเกี่ยวกับการพิพากษาของพระยะโฮวา และคำพยากรณ์ต่าง ๆ ของพระองค์สำเร็จเป็นจริงแล้วอย่างไร?
9 พระเยซูเจ้าของเรา ผู้ทรงเป็น “แบบพระฉายของพระเจ้าผู้ซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตา” ทรงแถลงถึงคำพิพากษาของพระยะโฮวาอย่างกล้าหาญขณะอยู่บนแผ่นดินโลกนี้. (โกโลซาย 1:15, ล.ม.) ตัวอย่างเช่น มีวิบัติเจ็ดประการในมัดธายบท 23 ที่พระองค์ทรงแถลงอย่างตรงไปตรงมาต่อพวกหน้าซื่อใจคดทางศาสนาในสมัยของพระองค์. พระองค์ได้ทรงสรุปคำพิพากษาลงโทษนั้นด้วยถ้อยคำดังนี้: “โอยะรูซาเลม ๆ ที่ได้ฆ่าบรรดาศาสดาพยากรณ์, และเอาหินขว้างผู้ที่รับใช้มาหาเจ้า, เราใคร่จะรวบรวมลูกของเจ้าไว้เนือง ๆ เหมือนแม่ไก่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน, แต่เจ้าไม่ยอม. นี่แหละ เรือนของเจ้าก็ถูกปล่อยไว้ให้ร้างตามลำพังเจ้า.” สามสิบเจ็ดปีหลังจากนั้น ได้มีการลงโทษตามการพิพากษาโดยกองทัพโรมันภายใต้การนำของนายพลไททุส. นั่นเป็นวันที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งสำแดงล่วงหน้าถึงวันซึ่งจะน่าสะพรึงกลัวที่สุด เท่าที่มนุษย์เคยประสบ คือวันของพระยะโฮวาซึ่งจะระเบิดขึ้นในอีกไม่ช้า.
“ดวงอาทิตย์” ส่องแสง
10. “ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรม” นำความยินดีมาสู่ไพร่พลของพระเจ้าอย่างไร?
10 พระยะโฮวาทรงแจ้งให้ทราบว่า จะมีผู้รอดชีวิตจากวันของพระองค์. พระองค์ตรัสถึงคนเหล่านี้ที่มาลาคี 4:2 (ล.ม.) ว่า “สำหรับพวกเจ้าซึ่งเกรงกลัวพระนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมจะส่องแสงเป็นแน่พร้อมกับปีกที่ให้การรักษา.” ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมนั้นจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากพระเยซูคริสต์เอง. พระองค์ทรงเป็น “ความสว่างของโลก.” (โยฮัน 8:12) พระองค์ทรงส่องสว่างออกไปโดยวิธีใด? พระองค์ทรงยืนขึ้นพร้อมด้วยปีกที่ให้การรักษา ประการแรก การรักษาฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเราสามารถได้รับแม้แต่ในทุกวันนี้ และแล้วก็ในโลกใหม่ที่จะมา การรักษาฝ่ายกายภาพของผู้คนที่ออกมาจากบรรดาชาติต่าง ๆ. (มัดธาย 4:23; วิวรณ์ 22:1, 2, ล.ม.) ในเชิงเปรียบเทียบแล้ว ดังมาลาคีได้กล่าว ผู้ที่ได้รับการรักษาจะ “ออกไปและโขกพื้นดินเหมือนลูกวัวอ้วนพี” ที่เพิ่งถูกปล่อยออกจากคอก. เป็นความยินดีจริง ๆ ที่เหล่าคนซึ่งได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายที่ถูกปลุกขึ้นมาพร้อมด้วยความหวังจะบรรลุความเป็นมนุษย์สมบูรณ์นั้นจะได้ประสบเช่นกัน!
11, 12. (ก) ผลบั้นปลายเช่นไรคอยท่าคนชั่วช้า? (ข) ไพร่พลของพระเจ้า “เหยียบย่ำคนชั่ว” อย่างไร?
11 แต่จะว่าอย่างไรเกี่ยวกับคนชั่วช้า? ที่มาลาคี 4:3 (ล.ม.) เราอ่านว่า “‘เจ้าทั้งหลายจะเหยียบย่ำเหล่าคนชั่วเป็นแน่ เพราะพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนผงใต้ฝ่าเท้าของเจ้าในวันที่เราลงมือ’ พระยะโฮวาแห่งพลโยธาได้ตรัส.” ขณะที่ทรงคุ้มครองคนเหล่านั้นที่รักพระองค์ พระเจ้านักรบของเราจะทรงกวาดล้างแผ่นดินโลกให้สะอาดปราศจากพวกศัตรูที่โหดร้ายทารุณเหล่านั้น โดยทำลายล้างพวกเขา. ซาตานกับผีปิศาจฝ่ายมันจะถูกกักขัง.—บทเพลงสรรเสริญ 145:20; วิวรณ์ 20:1-3.
12 ไพร่พลของพระเจ้าไม่มีส่วนใด ๆ ในการทำลายคนชั่ว. ถ้าเช่นนั้น พวกเขา “เหยียบย่ำคนชั่ว” อย่างไร? พวกเขาทำเช่นนั้นโดยนัยด้วยการเข้าร่วมในการฉลองชัยครั้งใหญ่. เอ็กโซโด 15:1-21 พรรณนาการฉลองเช่นนั้น. การฉลองนั้นมีขึ้นหลังจากความพินาศของฟาโรห์กับกองทัพของเขาที่ทะเลแดง. ในความสำเร็จเป็นจริงของยะซายา 25:3-9 (ฉบับแปลใหม่) การกำจัด “ผู้ทารุณ” จะติดตามมาด้วยงานเลี้ยงฉลองชัยซึ่งเชื่อมโยงกับคำสัญญาของพระเจ้าที่ว่า “พระองค์จะทรงกลืนความตายเสียเป็นนิตย์ และพระเจ้า [“พระยะโฮวา,” ล.ม.] จะทรงเอาการลบหลู่ชนชาติของพระองค์ไปเสียจากทั่วแผ่นดินโลก เพราะพระเจ้าได้ตรัสแล้ว. ในวันนั้น เขาจะกล่าวกันว่า ‘นี่แน่ะ นี่คือพระเจ้าของเราทั้งหลาย . . . นี่คือพระเจ้า [“พระยะโฮวา,” ล.ม.] เราได้รอคอยพระองค์ ให้เรายินดีและเปรมปรีดิ์ในความรอดของพระองค์.’ ที่มีอยู่ในความยินดีนี้ ไม่ใช่ความอาฆาตหรือการคิดสมน้ำหน้า แต่เป็นความยินดีที่ได้เห็นพระนามของพระยะโฮวาได้รับความนับถืออันบริสุทธิ์และแผ่นดินโลกถูกชำระสะอาดสำหรับการอยู่อาศัยด้วยความสงบสุขโดยมนุษยชาติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
โครงการสอนอันยิ่งใหญ่
13. จะมีการสอนเช่นไรขึ้นใน “โลกใหม่”?
13 ที่มาลาคี 4:4 (ล.ม.) ชาวยิวได้รับการเตือนให้ “ระลึกถึงบัญญัติของโมเซ.” ทุกวันนี้ เราต้องปฏิบัติตาม “บัญญัติของพระคริสต์” ดังกล่าวไว้ที่ฆะลาเตีย 6:2 เช่นกัน. ไม่มีข้อสงสัยว่า ผู้รอดชีวิตจากอาร์มาเก็ดดอนจะได้รับคำสั่งสอนเพิ่มเติมโดยอาศัยบัญญัตินี้ และคำสั่งสอนเพิ่มเติมนั้นคงจะมีการเขียนไว้เป็นอย่างดีใน “ม้วนหนังสือ” ที่มีกล่าวถึงในวิวรณ์ 20:12 ซึ่งจะถูกเปิดออกในเวลาแห่งการปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย. นั่นจะเป็นวันอันวิเศษยิ่งเพียงไร เมื่อคนเหล่านั้นที่ถูกปลุกขึ้นจากตายได้รับการสอนให้ดำเนินตามแบบชีวิตของ “โลกใหม่”!—วิวรณ์ 21:1.
14, 15. (ก) เอลียาสมัยใหม่ได้รับการระบุตัวโดยวิธีใด? (ข) ชนจำพวกเอลียาทำให้หน้าที่รับผิดชอบอะไรสำเร็จ?
14 นั่นจะเป็นการแผ่ขยายงานสอนดังที่พระยะโฮวาตรัสถึง ตามที่มีบันทึกไว้ที่มาลาคี 4:5 (ล.ม.) ที่ว่า “นี่แน่ะ เราจะสั่งเอลียาผู้พยากรณ์ไปหาเจ้าทั้งหลายก่อนที่วันใหญ่อันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวาจะมา.” ดังนั้น ใครคือเอลียาในสมัยนี้? ดังแสดงไว้ที่มัดธาย 16:27, 28 ในการตรัสพาดพิงถึงการที่พระองค์ “เสด็จมาด้วยราชอำนาจของพระองค์” (ฉบับแปลใหม่) พระเยซูตรัสว่า “บุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยรัศมีแห่งพระบิดาพร้อมกับพวกทูต, เวลานั้นจะพระราชทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการประพฤติของตน.” หกวันหลังจากนั้น เมื่ออยู่บนภูเขาพร้อมกับเปโตร, ยาโกโบ, และโยฮัน “รูปกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขาเหล่านั้น พระพักตร์ของพระองค์ก็ผ่องใสเหมือนแสงอาทิตย์, ฉลองพระองค์ก็ขาวดุจแสงสว่าง.” มีพระองค์เพียงลำพังในนิมิตนั้นไหม? หามิได้ เพราะว่า “โมเซและเอลียาก็ปรากฏแก่พวกสาวกเหล่านั้น. มาเฝ้าสนทนากับพระองค์.”—มัดธาย 17:2, 3.
15 นิมิตนี้คงหมายความอย่างไร? นิมิตนี้ระบุตัวพระเยซูว่าทรงเป็นโมเซผู้ยิ่งใหญ่กว่าในเวลาที่พระองค์เสด็จมาเพื่อพิพากษา. (พระบัญญัติ 18:18, 19; กิจการ 3:19-23) พระองค์จะมีเอลียาสมัยใหม่ร่วมสมทบด้วยเพื่อจะทำให้งานสำคัญยิ่งบรรลุผลสำเร็จ นั่นคืองานประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรไปทั่วแผ่นดินโลกก่อนที่วันใหญ่อันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวาจะเริ่มต้น. เมื่อพรรณนางานของเอลียาสมัยใหม่นี้ มาลาคี 4:6 (ล.ม.) กล่าวว่า “เขาต้องทำให้หัวใจของพ่อหันไปหาลูก และหัวใจของลูกหันไปหาพ่อ; เพื่อเราจะไม่มาตีแผ่นดินโลกจริง ๆ โดยมอบให้แก่ความพินาศ.” ฉะนั้น “เอลียา” ผู้นี้ถูกระบุตัวว่าเป็นชนจำพวกทาสสัตย์ซื่อและสุขุมแห่งคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่อยู่บนแผ่นดินโลก ซึ่งพระเยซูผู้เป็นนายได้ฝากทรัพย์สมบัติทั้งปวงของพระองค์ไว้. ทั้งนี้รวมถึงการจัดหา “อาหารตามเวลาที่สมควร” ที่จำเป็นทางฝ่ายวิญญาณให้แก่ครอบครัวแห่งความเชื่อ.—มัดธาย 24:45, 46, ล.ม.
16. ผลอันน่ายินดีอะไรที่ได้บังเกิดขึ้นเนื่องด้วยการงานของชนจำพวกเอลียา?
16 ทั่วโลกสมัยนี้ เราสามารถเห็นผลที่น่ายินดีของโครงการเลี้ยงอาหารนั้นได้. วารสารหอสังเกตการณ์ ซึ่งมีจำนวนพิมพ์ 16,100,000 ฉบับต่องวดใน 120 ภาษา มีถึง 97 ภาษาที่พิมพ์ออกพร้อมกัน กำลังทำให้แผ่นดินโลกนี้ท่วมไปด้วย “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนี้.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) สิ่งพิมพ์อื่น ๆ ในหลายภาษาถูกใช้ในงานประกาศและสั่งสอนหลายหลากรูปแบบของพยานพระยะโฮวา. ชนจำพวกเอลียา คือเหล่าทาสสัตย์ซื่อและสุขุม ตื่นตัวเพื่อจัดเตรียมอย่างอุดมสมบูรณ์สำหรับ “ผู้ที่รู้สำนึกถึงความจำเป็นฝ่ายวิญญาณของตน.” (มัดธาย 5:3, ล.ม.) ยิ่งกว่านั้นอีก คนเหล่านั้นที่รับเอาความหวังเรื่องราชอาณาจักรและปฏิบัติตามความหวังนั้นถูกรวบรวมไว้ในเอกภาพอันเยี่ยมยอดทั่วโลก. เอกภาพนี้รวมถึงชนฝูงใหญ่ “จากชาติและตระกูลและชนชาติและภาษาทั้งปวง.” (วิวรณ์ 7:9, ล.ม.) เมื่องานนี้สำเร็จผลตามขอบเขตที่พระยะโฮวาทรงประสงค์แล้ว อวสานก็จะมาในวันใหญ่อันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์.
17. วันอันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวาจะเริ่มต้นเมื่อไร?
17 วันอันน่าสะพรึงกลัวนั้นจะเริ่มต้นโดยฉับพลันเมื่อไร? อัครสาวกเปาโลตอบว่า “วันของพระยะโฮวาจะมาเหมือนขโมยที่มาในเวลากลางคืน. เมื่อไรก็ตามที่พวกเขากล่าว [บางทีในวิธีผิดปกติ] ว่า ‘สันติภาพและความปลอดภัย!’ แล้วความพินาศโดยฉับพลันก็จะมาถึงเขาทันที เหมือนความปวดร้าวมาถึงหญิงมีครรภ์; และเขาจะไม่มีทางหนีให้พ้น.”—1 เธซะโลนิเก 5:2, 3, ล.ม.
18, 19. (ก) มีการประกาศ “สันติภาพและความปลอดภัย” อย่างไร? (ข) ไพร่พลของพระยะโฮวาจะได้รับการบรรเทาเมื่อไร?
18 “เขา” ในคำพยากรณ์นี้คือใคร? เขาคือเหล่าผู้นำทางการเมืองซึ่งอ้างว่า พวกเขาสามารถสร้างระเบียบใหม่ซึ่งเป็นเอกภาพขึ้นได้จากส่วนประกอบต่าง ๆ ของโลกที่มีแต่ความรุนแรงนี้. ผลผลิตที่พวกเขาอวดโอ่ คือสันนิบาตชาติและสหประชาชาติ ได้ล้มเหลวในการทำสิ่งดังกล่าว. ดังที่ผู้พยากรณ์ของพระยะโฮวาพยากรณ์ แม้แต่ขณะนี้พวกเขาก็ “กล่าวว่า ‘มีสันติภาพ! มีสันติภาพ!’ เมื่อหามีสันติภาพไม่.”—ยิระมะยา 6:14, ล.ม.; 8:11; 14:13-16.
19 ระหว่างเวลานี้ ไพร่พลของพระยะโฮวาเพียรอดทนความกดดันและการข่มเหงจากโลกที่ไม่เลื่อมใสพระเจ้านี้. แต่ในไม่ช้า ดังที่กล่าวไว้ใน 2 เธซะโลนิเก 1:7, 8 พวกเขาจะได้รับการบรรเทา “เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ปรากฏพร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ของพระองค์ผู้มีฤทธิ์ดังเปลวเพลิง, และจะทรงสนองโทษแก่คนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระเจ้า, และไม่เชื่อฟังกิตติคุณของพระเยซูเจ้าของเรา.”
20. (ก) ซะฟันยาและฮะบาฆูคพยากรณ์เกี่ยวกับวันที่ “เผาไหม้เหมือนเตา” อย่างไร? (ข) คำพยากรณ์เหล่านั้นให้คำแนะนำและการชูใจเช่นไร?
20 เหตุการณ์นั้นจะมีขึ้นเมื่อไร? พวกเราหลายคนรอคอยมานานแล้ว. ระหว่างเวลานั้น ผู้ที่อ่อนน้อมจำนวนมากซึ่งจะรอดชีวิตกำลังตอบรับเสียงเรียกที่ซะฟันยา 2:2, 3 (ล.ม.) ที่ว่า “จงแสวงหาพระยะโฮวา . . . จงแสวงหาความชอบธรรม แสวงหาความอ่อนน้อม. ชะรอยเจ้าอาจถูกกำบังไว้ในวันแห่งความพิโรธของพระยะโฮวา.” แล้วซะฟันยา 3:8 (ล.ม.) มีคำเตือนดังนี้: “‘จงคอยท่าเรา’ เป็นคำตรัสของพระยะโฮวา ‘จนถึงวันที่เราจะลุกขึ้นตีชิง เพราะการตัดสินความของเราคือที่จะรวบรวมนานาชาติ ที่เราจะรวบรวมอาณาจักรทั้งหลาย เพื่อจะกล่าวโทษเขาและหลั่งความพิโรธอันร้อนแรงของเราลงเหนือเขา; เพราะโดยไฟแห่งความกระตือรือร้นของเรา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะถูกผลาญเสียสิ้น.’” อวสานอยู่ใกล้แล้ว! พระยะโฮวาทรงทราบวันและเวลานั้นและจะไม่ทรงเปลี่ยนกำหนดเวลาของพระองค์. จงให้เราพากเพียรอดทน. “ด้วยว่านิมิตนั้นก็มีไว้สำหรับเวลากำหนด และกำลังรุดเร่งไปสู่ที่สุดปลาย และนิมิตนั้นจะไม่กล่าวเท็จเลย. แม้นนิมิตจะดูเหมือนเนิ่นช้าก็จงคอยท่า ด้วยว่าจะสำเร็จเป็นแน่. จะไม่ล่าช้าเลย.” (ฮะบาฆูค 2:3, ล.ม.) วันอันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวากระชั้นขึ้นทุกที. จำไว้ว่า วันนั้นจะไม่ล่าช้าเลย!
เพื่อเป็นการทบทวน
▫ พวกผู้ปกครองและสามัญชนจะเป็นอย่างไรในวันอันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวา?
▫ พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าชนิดใด?
▫ มีการพรรณนาถึงการสอนชนิดใดสำหรับไพร่พลของพระเจ้า?
▫ ผู้พยากรณ์ของพระเจ้าเตือนสติเราอย่างไรเมื่อคำนึงถึงอวสานที่ใกล้เข้ามา?
[รูปภาพหน้า 21]
ในช่วงที่มีศาลศาสนาในสเปน หลายคนถูกบังคับให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคาทอลิก
[ที่มาของภาพ]
The Complete Encyclopedia of Illustration/J. G. Heck