พวกเขาพบพระมาซีฮา!
“พวกเราพบพระมาซีฮาแล้ว.”—โย. 1:41
1. มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก่อนที่อันเดรอัสจะบอกว่า “พวกเราพบพระมาซีฮาแล้ว”?
โยฮันผู้ให้บัพติสมายืนอยู่กับสาวกสองคน. เมื่อพระเยซูเสด็จมาใกล้ โยฮันก็พูดว่า “ดูสิ พระเมษโปดกของพระเจ้า!” อันเดรอัสและสาวกอีกคนหนึ่งตามพระเยซูไปทันทีและอยู่กับพระองค์ทั้งวัน. ต่อมา อันเดรอัสไปหาซีโมนเปโตรพี่ชายของเขา และบอกพี่ชายอย่างตื่นเต้นว่า “พวกเราพบพระมาซีฮาแล้ว.” จากนั้น อันเดรอัสก็พาเปโตรไปหาพระเยซู.—โย. 1:35-41
2. เราจะได้รับประโยชน์อย่างไรเมื่อเราพิจารณาคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระมาซีฮากันต่อไป?
2 เมื่อเวลาผ่านไป อันเดรอัส เปโตร และคนอื่น ๆ จะมีโอกาสมากมายที่จะศึกษาพระคัมภีร์อย่างละเอียดและจะประกาศได้อย่างเต็มปากว่าพระเยซูชาวนาซาเรทเป็นพระมาซีฮาที่ทรงสัญญา. ความเชื่อของเราเองในพระคำของพระเจ้าและผู้ถูกเจิมของพระองค์จะมั่นคงยิ่งขึ้นเมื่อเราพิจารณาคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระมาซีฮากันต่อไป.
“ดูเถิด! กษัตริย์ของเจ้ากำลังเสด็จมา”
3. การที่พระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเลมอย่างผู้มีชัยทำให้คำพยากรณ์อะไรสำเร็จเป็นจริง?
3 พระมาซีฮาจะเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเลมอย่างผู้มีชัย. คำพยากรณ์ของซะคาระยากล่าวว่า “โอ้บุตรีแห่งซีโอนจงยินดีเป็นอันมาก, โอ้บุตรีแห่งยะรูซาเลมจงโห่ร้องด้วยชื่นชม, นี่แน่ะ, กษัตริย์ของท่านเสด็จมาหาท่าน, มีความชอบธรรมแลประกอบด้วยฤทธิ์ช่วยให้รอด, แลมีพระทัยอันสุภาพ, แลเสด็จนั่งบนลาแลลูกลา.” (ซคา. 9:9) ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญเขียนว่า “ความสุขสวัสดิ์มงคลจงมีแก่ผู้ซึ่งมาในพระนามของพระยะโฮวา.” (เพลง. 118:26) พระเยซูไม่ได้บอกฝูงชนว่าพวกเขาต้องทำอะไร. แต่ฝูงชนโห่ร้องออกมาเองด้วยความยินดีอย่างเหลือล้น ซึ่งทำให้คำพยากรณ์นี้สำเร็จเป็นจริง. ขณะที่คุณอ่านเรื่องราวดังกล่าวในพระคัมภีร์ ขอให้วาดมโนภาพว่าคุณเห็นเหตุการณ์นี้และได้ยินประชาชนส่งเสียงแสดงความยินดี.—อ่านมัดธาย 21:4-9
4. จงอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งทำให้บทเพลงสรรเสริญ 118:22, 23 สำเร็จเป็นจริง?
4 แม้หลายคนปฏิเสธพระเยซูทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานชี้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมาซีฮา แต่พระเจ้าทรงถือว่าพระองค์มีค่ามาก. ดังที่มีบอกไว้ล่วงหน้า พระเยซู “ถูกสบประมาท” และคนที่ไม่ยอมรับหลักฐาน ‘หาได้นับถือพระองค์ไม่.’ (ยซา. 53:3; มโก. 9:12) อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงดลใจผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญให้กล่าวว่า “ศิลาที่ช่างก่อได้ทิ้งเสียกลับมาเป็นศิลาหัวมุมแล้ว. นี่แหละเป็นกิจการของพระยะโฮวา.” (เพลง. 118:22, 23) พระเยซูทรงชี้ชวนให้พวกผู้ต่อต้านทางศาสนาสนใจข้อความนี้ และเปโตรกล่าวว่าข้อความนี้สำเร็จกับพระคริสต์. (มโก. 12:10, 11; กิจ. 4:8-11) พระเยซูทรงเป็น “หินหัวมุมของฐานราก” ของประชาคมคริสเตียน. แม้ว่าทรงถูกปฏิเสธโดยคนที่ไม่เลื่อมใสพระเจ้า แต่ ‘พระเจ้าทรงเลือกพระองค์ไว้และถือว่าพระองค์มีค่ามาก.’—1 เป. 2:4-6
ถูกทรยศและถูกละทิ้ง!
5, 6. มีคำพยากรณ์บอกไว้ล่วงหน้าและสำเร็จตามนั้นอย่างไรเกี่ยวกับการที่พระมาซีฮาถูกทรยศ?
5 มีคำพยากรณ์บอกไว้ล่วงหน้าว่าพระมาซีฮาจะถูกสหายที่ไม่ซื่อทรยศ. ดาวิดพยากรณ์ไว้ว่า “สหายสนิทซึ่งเป็นที่ไว้ใจของข้าพเจ้าเอง, และได้รับประทานอาหารของข้าพเจ้า, แล้วก็ยังทรยศยกส้นเท้าขึ้นให้ข้าพเจ้า.” (เพลง. 41:9) คนที่รับประทานอาหารด้วยกันกับใครคนหนึ่งถือได้ว่าเป็นสหายของคนนั้น. (เย. 31:54) การที่ยูดาอิสการิโอตทรยศพระเยซูจึงเป็นการทรยศที่ร้ายแรงที่สุด. พระเยซูทรงชี้ให้สนใจความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์ของดาวิดเมื่อพระองค์ตรัสถึงผู้ทรยศและทรงบอกเหล่าอัครสาวกว่า “เราไม่ได้พูดถึงพวกเจ้าทุกคน เรารู้จักผู้ที่เราเลือกไว้. แต่ที่เป็นเช่นนั้นก็เพื่อให้สำเร็จตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘ผู้ที่เคยกินอาหารกับเราได้ยกส้นเท้าใส่เรา.’ ”—โย. 13:18, เชิงอรรถ
6 ผู้ที่ทรยศพระมาซีฮาจะได้รับเหรียญเงิน 30 เหรียญ ซึ่งเท่ากับราคาของทาสคนหนึ่ง! มัดธายอ้างถึงซะคาระยา 11:12, 13 และชี้ว่าพระเยซูทรงถูกทรยศเพื่อแลกกับเงินเพียงน้อยนิดดังกล่าว. แต่เหตุใดมัดธายจึงกล่าวว่า “ผู้พยากรณ์ยิระมะยาห์” บอกล่วงหน้าถึงเรื่องนี้? ในสมัยของมัดธาย หนังสือยิระมะยาอาจถูกจัดให้เป็นเล่มแรกในกลุ่มหนังสือของคัมภีร์ไบเบิลที่มีหนังสือซะคาระยารวมอยู่ด้วย. (เทียบกับลูกา 24:44) ยูดาไม่ได้ใช้เงินที่เขาได้มาอย่างชั่วร้ายนั้นเลย เพราะเขาโยนเงินนั้นเข้าไปในพระวิหารและออกไปฆ่าตัวตาย.—มัด. 26:14-16; 27:3-10
7. ซะคาระยา 13:7 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
7 แม้แต่เหล่าสาวกของพระมาซีฮาก็จะกระจัดกระจายไป. ซะคาระยาเขียนว่า “จงตีผู้เลี้ยงแกะแลแกะฝูงนั้นก็จะกระจัดกระจายไป.” (ซคา. 13:7) ในวันที่ 14 เดือนไนซาน สากลศักราช 33 พระเยซูทรงบอกเหล่าสาวกว่า “คืนนี้เจ้าทั้งหลายจะทิ้งเราไปเนื่องจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเรา เพราะมีคำเขียนไว้ว่า ‘เราจะตีผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้นจะกระจัดกระจายไป.’ ” เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะมัดธายรายงานว่า “สาวกทั้งหมดก็ทิ้ง [พระเยซู] แล้วหนีไป.”—มัด. 26:31, 56
ถูกกล่าวหาและทุบตี
8. ยะซายา 53:8 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
8 พระมาซีฮาจะถูกพิจารณาคดีและถูกตัดสินลงโทษ. (อ่านยะซายา 53:8) รุ่งเช้าวันที่ 14 เดือนไนซาน ศาลซันเฮดรินทั้งคณะมารวมตัวกัน สั่งให้มัดพระเยซู และส่งมอบให้ปอนติอุสปีลาตผู้ว่าราชการโรมัน. เขาไต่สวนพระเยซูและไม่พบว่าพระองค์มีความผิดใด ๆ. แต่เมื่อปีลาตจะปล่อยพระเยซู ฝูงชนกลับร้องตะโกนว่า “ตรึงเขาเสีย!” และเรียกร้องให้ปล่อยตัวบารับบัสซึ่งเป็นอาชญากรแทน. เพราะอยากเอาใจฝูงชน ปีลาตจึงปล่อยตัวบารับบัส สั่งให้เฆี่ยนพระเยซู และส่งพระองค์ให้พวกเขาเอาไปตรึงบนเสา.—มโก. 15:1-15
9. เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในสมัยของพระเยซู ตามที่มีบอกไว้ล่วงหน้าที่บทเพลงสรรเสริญ 35:11?
9 พยานเท็จจะปรักปรำพระมาซีฮา. ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวว่า “มีพยานเท็จยืนขึ้น. เขาซักถามข้าพเจ้าด้วยข้อความที่ข้าพเจ้าไม่รู้เลย.” (เพลง. 35:11) จริงตามคำพยากรณ์ “พวกปุโรหิตใหญ่กับสมาชิกทุกคนของสภาซันเฮดรินก็หาพยานเท็จมาปรักปรำพระเยซูเพื่อจะได้ประหารพระองค์.” (มัด. 26:59) ที่จริง “ถึงจะมีหลายคนให้การเท็จเพื่อใส่ร้ายพระองค์ แต่คำให้การของพวกเขาขัดแย้งกัน.” (มโก. 14:56) ศัตรูของพระเยซูซึ่งเป็นพวกบ้าเลือดไม่สนใจเลยว่าพยานที่เขาหามาจะกล่าวเท็จอย่างไร ขอแต่เพียงให้พระเยซูถูกตัดสินถึงตายเท่านั้นก็พอ.
10. จงอธิบายว่ายะซายา 53:7 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร.
10 พระมาซีฮาจะนิ่งเงียบเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้กล่าวหา. ยะซายาห์พยากรณ์ว่า “เขาถูกข่มขี่, แต่ขณะเมื่อกำลังถูกทรมานเขาก็หาได้ปริปากไม่; เหมือนดังแกะที่ถูกนำไปฆ่า, เหมือนอย่างแกะตัวเมียไม่อ้าปากร้องต่อหน้าคนตัดขนฉันใด, เขาผู้นั้นก็ไม่ปริปากฉันนั้น.” (ยซา. 53:7) ขณะที่ “พวกปุโรหิตใหญ่และผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวหา [พระเยซู] ไม่ได้ตอบอะไร.” ปีลาตถามว่า “เจ้าไม่ได้ยินหรือว่าพวกเขาให้การปรักปรำเจ้าหลายประการ?” อย่างไรก็ตาม พระเยซู “มิได้ตอบเขาสักคำเดียว ผู้ว่าราชการจึงประหลาดใจอย่างยิ่ง.” (มัด. 27:12-14) พระเยซูไม่ได้ด่าว่าพวกที่กล่าวหาพระองค์.—โรม 12:17-21; 1 เป. 2:23
11. มีอะไรเกิดขึ้นซึ่งสำเร็จเป็นจริงตามที่ยะซายา 50:6 และมีคา 5:1 กล่าวไว้?
11 ยะซายาห์พยากรณ์ว่าพระมาซีฮาจะถูกโบยตี. ท่านผู้พยากรณ์เขียนว่า “ข้าพเจ้าหันหลังให้กับผู้เฆี่ยนตี, และให้แก้มแก่คนที่ถอนเครา, ข้าพเจ้ามิได้ซ่อนหน้าให้พ้นจากความหยาบหยามและการถ่มน้ำลาย.” (ยซา. 50:6) มีคาบอกล่วงหน้าว่า “เขาจะเอากระบองมาตีผู้ทรงวินิจฉัยแห่งยิศราเอลที่แก้ม.” (มีคา 5:1) มาระโกผู้เขียนหนังสือกิตติคุณยืนยันว่าคำพยากรณ์ทั้งสองข้อนี้สำเร็จเป็นจริงโดยกล่าวว่า “บางคนได้ถ่มน้ำลายรด [พระเยซู] พวกเขาปิดพระพักตร์พระองค์และต่อยพระองค์แล้วพูดว่า ‘พิสูจน์ให้พวกเราเห็นสิว่าเจ้าเป็นผู้พยากรณ์’ พวกเจ้าพนักงานศาลก็ตบพระพักตร์พระองค์แล้วเอาตัวพระองค์ไป.” มาระโกกล่าวว่าพวกทหาร “เอาไม้อ้อตีพระเศียรพระองค์ ถ่มน้ำลายรดพระองค์ และคุกเข่าแสดงความเคารพ [เพื่อล้อเลียน] พระองค์.” (มโก. 14:65; 15:19) แน่นอน พระเยซูไม่ได้ทำสิ่งใดที่กระตุ้นให้พวกเขาปฏิบัติต่อพระองค์อย่างเลวร้ายเช่นนั้น.
ซื่อสัตย์ตราบจนสิ้นพระชนม์
12. บทเพลงสรรเสริญ 22:16 และยะซายา 53:12 สำเร็จเป็นจริงกับพระเยซูอย่างไร?
12 มีการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการตรึงพระมาซีฮา. ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวว่า “พวกคนชั่วร้ายมากั้นกางข้าพเจ้าไว้; เขาแทงมือและเท้าของข้าพเจ้า.” (เพลง. 22:16) ผู้เขียนกิตติคุณมาระโกรายงานเหตุการณ์ที่ผู้อ่านคัมภีร์ไบเบิลรู้จักกันดีว่า “ตอนที่พวกเขาตรึงพระองค์นั้นเป็นเวลาเก้าโมง.” (มโก. 15:25) มีการบอกไว้ล่วงหน้าด้วยว่าพระมาซีฮาจะถูกนับรวมกับคนบาป. ยะซายาห์เขียนว่า “ผู้นั้นได้ยอมสละเลือดจนกระทั่งหยดสุดท้าย, และถูกนับเข้าอยู่ในจำพวกผู้ล่วงละเมิด.” (ยซา. 53:12) เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะ “มีโจรสองคนถูกตรึงบนเสาพร้อมกับ [พระเยซู] ข้างขวาคนหนึ่งและข้างซ้ายคนหนึ่ง.”—มัด. 27:38
13. พระเยซูทรงทำให้บทเพลงสรรเสริญ 22:7, 8 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
13 ดาวิดพยากรณ์ว่าพระมาซีฮาจะถูกด่าว่า. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 22:7, 8) พระเยซูทรงถูกด่าว่าขณะถูกตรึงบนเสาทรมาน เพราะมัดธายรายงานว่า “คนที่เดินผ่านไปมาจึงพูดสบประมาทพระองค์ พวกเขาส่ายหน้า และพูดว่า ‘เจ้าผู้ที่จะทลายพระวิหารและสร้างขึ้นในสามวัน ช่วยตัวเองให้รอดสิ! ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า ลงมาจากเสาทรมานสิ!’ ” พวกปุโรหิตใหญ่และพวกอาลักษณ์กับพวกผู้เฒ่าผู้แก่ก็เยาะเย้ยพระองค์เหมือนกันว่า “เขาช่วยคนอื่นได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้! เขาเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ให้เขาลงมาจากเสาทรมานเดี๋ยวนี้สิ แล้วเราจะเชื่อเขา. เขาไว้วางใจพระเจ้า ให้พระองค์ช่วยเขาเดี๋ยวนี้สิถ้าพระองค์พอพระทัย เพราะเขาบอกว่า ‘เราเป็นบุตรของพระเจ้า.’ ” (มัด. 27:39-43) ถึงกระนั้น พระเยซูทรงอดทนกับการกระทำทั้งหมดนี้อย่างสง่าผ่าเผย. ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีจริง ๆ สำหรับเรา!
14, 15. จงอธิบายว่าคำพยากรณ์บางข้อสำเร็จเป็นจริงอย่างไรเกี่ยวกับเสื้อของพระมาซีอาและเหตุการณ์ที่มีคนให้น้ำส้มสายชูแก่พระองค์.
14 จะมีการจับฉลากเพื่อจะได้เสื้อของพระมาซีฮา. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญเขียนว่า “เสื้อผ้าของข้าพเจ้า เขาแบ่งซึ่งกันและกัน, ส่วนเสื้อชั้นในของข้าพเจ้า เขาจับฉลากกัน.” (เพลง. 22:18) เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เพราะ “เมื่อ [ทหารโรมัน] ตรึง [พระเยซู] บนเสาแล้วก็เอาฉลองพระองค์ตัวนอกมาจับฉลากแบ่งกัน.”—มัด. 27:35; อ่านโยฮัน 19:23, 24
15 จะมีคนเอาน้ำส้มสายชูและน้ำดีให้พระมาซีฮาดื่ม. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวว่า “เขาทั้งหลายเอาดีสัตว์ด้วยมาให้ข้าพเจ้ากินต่างอาหาร; และเมื่อข้าพเจ้ากระหายน้ำเขาเอาน้ำส้มสายชูมาให้ข้าพเจ้าดื่ม.” (เพลง. 69:21) มัดธายบอกเราว่า “พวกเขาเอาเหล้าองุ่นผสมกับน้ำดีให้ [พระเยซู] เสวย แต่เมื่อทรงชิมดูแล้ว พระองค์ไม่ยอมเสวย.” ในภายหลัง “คนหนึ่งในพวกเขาก็วิ่งไปเอาฟองน้ำชุบเหล้าองุ่นเปรี้ยวเสียบกับไม้อ้อแล้วยื่นให้พระองค์เสวย.”—มัด. 27:34, 48
16. จงอธิบายว่าคำพยากรณ์ที่บทเพลงสรรเสริญ 22:1 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร.
16 จะมีเหตุการณ์ที่ดูราวกับว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้งพระมาซีฮา. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 22:1) สอดคล้องกับคำพยากรณ์ “ตอนบ่ายสามโมงพระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า ‘เอลี เอลี ลามาซาบัคทานี?’ แปลว่า ‘พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า เหตุใดพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้า?’ ” (มโก. 15:34) พระเยซูไม่ได้สูญเสียความเชื่อในพระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์. พระเจ้าทรงทิ้งให้พระเยซูตกอยู่ในมือของศัตรูโดยถอนการปกป้องของพระองค์ เพื่อให้ความซื่อสัตย์จงรักภักดีของพระคริสต์ถูกทดสอบอย่างเต็มที่. และพระเยซูทรงทำให้บทเพลงสรรเสริญ 22:1 สำเร็จเป็นจริงด้วยการร้องออกมาดังที่มาระโกได้รายงาน.
17. ซะคาระยา 12:10 และบทเพลงสรรเสริญ 34:20 สำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
17 พระมาซีฮาจะถูกแทง แต่กระดูกของพระองค์จะไม่หัก. คนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเลมจะ “พินิจดูเราซึ่งเขาได้แทง.” (ซคา. 12:10) และบทเพลงสรรเสริญ 34:20 กล่าวว่า “[พระเจ้า] ทรงรักษาบรรดากะดูกของข้าพเจ้าไว้ ไม่ให้หักสักซี่หนึ่งเลย.” อัครสาวกโยฮันยืนยันข้อความเหล่านี้โดยเขียนว่า “ทหารคนหนึ่งเอาหอกแทงสีข้างพระองค์ [พระเยซู] และเลือดกับน้ำก็ไหลออกมาทันที. คนนั้นที่เห็น [คือโยฮัน] ก็ได้เป็นพยานยืนยันเรื่องนี้และคำยืนยันของเขาเป็นความจริง . . . เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นก็เพื่อให้สำเร็จตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘กระดูกของพระองค์จะไม่แตกหักสักท่อนเดียว’ และตามที่เขียนไว้อีกข้อหนึ่งว่า ‘พวกเขาจะมองดูผู้ที่พวกเขาได้แทง.’ ”—โย. 19:33-37
18. พระศพของพระเยซูถูกฝังร่วมกับเศรษฐีอย่างไร?
18 พระศพของพระมาซีฮาจะถูกฝังร่วมกับเศรษฐี. (อ่านยะซายา 53:9, ฉบับ R73)a เย็นวันที่ 14 เดือนไนซาน “โยเซฟ เศรษฐีเมืองอะริมาเทีย” ได้ไปขอพระศพของพระเยซูจากปีลาต และได้รับอนุญาตตามคำขอ. บันทึกของมัดธายให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “โยเซฟจึงนำพระศพมาพันด้วยผ้าลินินเนื้อดีที่สะอาด และวางพระศพไว้ในอุโมงค์ฝังศพใหม่ของเขาซึ่งเขาให้เจาะไว้ในศิลา. เมื่อกลิ้งหินใหญ่ปิดปากอุโมงค์ไว้แล้วเขาก็ไป.”—มัด. 27:57-60
จงต้อนรับพระมาซีฮา กษัตริย์ของเรา!
19. เกิดเหตุการณ์อะไรซึ่งทำให้คำพยากรณ์ที่บทเพลงสรรเสริญ 16:10 สำเร็จเป็นจริง?
19 พระมาซีฮาจะถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย. ดาวิดเขียนว่า “[พระยะโฮวา] จะไม่ทรงสละทิ้งจิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าไว้ในเมืองผี [เชโอล].” (เพลง. 16:10) ขอให้นึกถึงความประหลาดใจของพวกผู้หญิงที่ไปดูอุโมงค์ฝังพระศพของพระเยซู. ที่นั่น พวกนางได้พบกับทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่จำแลงกาย และบอกพวกนางว่า “อย่าตกตะลึงอยู่เลย. พวกเจ้ากำลังมองหาพระเยซูชาวนาซาเรทผู้ถูกตรึงบนเสาอยู่หรือ? พระองค์ถูกปลุกให้เป็นขึ้นมาแล้ว พระองค์ไม่อยู่ที่นี่. ดูสิ! นี่เป็นที่ซึ่งเขาเคยวางพระศพพระองค์ไว้.” (มโก. 16:6) อัครสาวกเปโตรประกาศแก่ฝูงชนที่มาอยู่ในกรุงเยรูซาเลมในวันเพนเทคอสต์ ส.ศ. 33 ว่า “[ดาวิด] รู้ล่วงหน้าและได้พูดถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายของพระคริสต์ว่า พระเจ้าไม่ทรงละพระองค์ไว้ในหลุมศพและพระกายพระองค์ก็ไม่ได้เน่าเปื่อยไป.” (กิจ. 2:29-31) พระเจ้าไม่ปล่อยให้พระกายของพระบุตรที่รักของพระองค์เน่าเปื่อย. นอกจากนั้น พระเยซูทรงถูกปลุกอย่างอัศจรรย์ให้มีชีวิตในสภาพกายวิญญาณ!—1 เป. 3:18
20. การปกครองของพระมาซีฮาตามที่มีบอกไว้ล่วงหน้าสำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
20 ดังที่มีบอกไว้ล่วงหน้า พระเจ้าทรงประกาศว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระองค์. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 2:7; มัดธาย 3:17) นอกจากนั้น ฝูงชนในศตวรรษแรกต้อนรับพระเยซูและราชอาณาจักรที่จะมา และพวกเราในปัจจุบันก็ประกาศด้วยความชื่นชมยินดีเกี่ยวกับพระเยซูและการปกครองของพระองค์ที่จะนำพระพรมาให้. (มโก. 11:7-10) ในไม่ช้า พระคริสต์จะทำลายศัตรูของพระองค์เมื่อพระองค์ ‘เสด็จมาเพราะเห็นแก่ความจริงความสุภาพและความชอบธรรม.’ (เพลง. 2:8, 9; 45:1-6) ต่อจากนั้น การปกครองของพระองค์จะทำให้ทั่วทั้งโลกมีสันติสุขและความเจริญรุ่งเรือง. (เพลง. 72:1, 3, 12, 16; ยซา. 9:6, 7) ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่เราจะประกาศความจริงเหล่านี้ในฐานะพยานของพระยะโฮวา ซึ่งพระบุตรของพระองค์ครองราชย์แล้วในสวรรค์ในฐานะกษัตริย์มาซีฮา!
[เชิงอรรถ]
a ยะซายา 53:9 (ฉบับ R73): “และเขาจัดหลุมศพของท่านไว้กับคนอธรรม ในความตายของท่านเขาจัดไว้กับเศรษฐี แม้ว่าท่านมิได้กระทำการทารุณประการใดเลยและไม่มีการหลอกลวงในปากของท่าน.”
คุณจะตอบอย่างไร?
• พระเยซูทรงถูกทรยศและถูกทอดทิ้งอย่างไร?
• เหตุการณ์เด่น ๆ อะไรบ้างเกี่ยวกับการตรึงพระเยซูคริสต์ที่มีบอกไว้ล่วงหน้า?
• เหตุใดคุณจึงเชื่อมั่นว่าพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮาที่ทรงสัญญา?
[ภาพหน้า 13]
การที่พระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเลมอย่างผู้มีชัยทำให้คำพยากรณ์ข้อใดสำเร็จเป็นจริง?
[ภาพหน้า 15]
พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา แต่ขณะนี้พระองค์ทรงปกครองในฐานะกษัตริย์มาซีฮา