-
ความชอบธรรมใช่ว่าได้มาโดยประเพณีที่เล่าสืบปากหอสังเกตการณ์ 1990 | 1 ตุลาคม
-
-
17. พระเยซูทรงสอนว่าวิธีใดที่ดีกว่า “ตาแทนตา ฟันแทนฟัน”?
17 ต่อจากนั้น พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา ฟันแทนฟัน.’ ส่วนเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว แต่ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่านให้หันแก้มซ้ายให้เขาด้วย.” (มัดธาย 5:38-42) ข้อนี้พระเยซูไม่ได้อ้างอิงถึงการตบตีด้วยเจตนาจะทำร้าย แต่เป็นการใช้หลังมือตบหน้าซึ่งแสดงการหมิ่นประมาทผู้นั้น. คุณก็อย่าลดค่าตัวเองโดยถือว่าถึงทีของเราจะดูถูกเขาบ้าง. จงอย่ายอมทำชั่วตอบแทนชั่ว. แต่จงทำดีต่อเขาและด้วยวิธีนั้นคุณก็ได้ระงับความชั่วด้วยความดี.”—โรม 12:17-21.
-
-
ความชอบธรรมใช่ว่าได้มาโดยประเพณีที่เล่าสืบปากหอสังเกตการณ์ 1990 | 1 ตุลาคม
-
-
20. แทนที่จะเพิกถอนพระบัญญัติของโมเซ พระเยซูทรงทำอย่างไรเพื่อความสำคัญนั้นจะชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยังตั้งพระบัญญัตินั้นไว้ในระดับสูงกว่า?
20 ดังนั้น เมื่อพระเยซูทรงอ้างถึงพระบัญญัติบางข้อ แล้วตรัสเพิ่มว่า “ฝ่ายเราบอกท่านว่า “พระองค์หาได้แยกพระบัญญัติของโมเซไว้ต่างหากแล้วนำเอาสิ่งอื่นเข้ามาแทนไม่. เปล่าเลย แต่พระองค์ทรงเจาะลึกและขยายความสำคัญของข้อบัญญัติให้ชัดเจนโดยการชี้ถึงเจตนารมณ์ที่อยู่เบื้องหลัง. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องตำหนิการมีเจตนาร้ายอยู่เรื่อยไปว่าเป็นการฆ่าคน. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยความบริสุทธิ์นั้นตำหนิความคิดที่หมกมุ่นในกามราคะว่าเป็นการล่วงประเวณี. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยการสมรสต่อต้านการหย่าร้างด้วยเรื่องหยุมหยิมว่าเป็นแนวทางที่นำไปสู่การแต่งงานใหม่อย่างที่เป็นการผิดประเวณี. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยความสัตย์จริงชี้ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องสาบานซ้ำซาก. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยความอ่อนสุภาพจะทำให้ไม่คิดพยาบาทแก้แค้น. บัญญัติที่สูงส่งกว่าว่าด้วยความรักเรียกร้องความรักแบบเลื่อมใสในพระเจ้าซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด.
-