บท 23
การรับบัพติศมาเป็นเป้าหมายสำคัญ
พระเยซูบอกว่าคริสเตียนต้องรับบัพติศมา (อ่านมัทธิว 28:19, 20) แต่การรับบัพติศมาคืออะไร? และเราต้องทำอะไรถึงจะรับบัพติศมาได้?
1. การรับบัพติศมาคืออะไร?
คำว่า “บัพติศมา” ในภาษากรีกหมายถึง “จุ่ม” ในน้ำ ตอนที่พระเยซูรับบัพติศมา ท่านจุ่มตัวที่แม่น้ำจอร์แดนและจากนั้นท่านก็ “ขึ้นจากน้ำ” (มาระโก 1:9, 10) คริสเตียนที่แท้จริงก็ทำเหมือนกับพระเยซู เมื่อรับบัพติศมาพวกเขาก็จุ่มตัวมิดในน้ำ
2. การรับบัพติศมาทำให้รู้อะไร?
เมื่อใครสักคนรับบัพติศมา เขาก็กำลังทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาได้อุทิศตัวให้พระยะโฮวาแล้ว การอุทิศตัวหมายถึงอะไร? ก่อนที่คนหนึ่งจะรับบัพติศมาได้ เขาต้องอธิษฐานบอกพระยะโฮวาว่าจะเชื่อฟังพระองค์ตลอดไป เขาสัญญากับพระยะโฮวาว่าจะนมัสการพระองค์ผู้เดียว และให้ความประสงค์ของพระองค์เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขาตัดสินใจที่จะ “เลิกใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง . . . แล้วติดตาม” ตัวอย่างของพระเยซูและทำตามคำสอนของท่านต่อไป (มัทธิว 16:24) การอุทิศตัวและรับบัพติศมาทำให้เขาสนิทกับพระยะโฮวาและสนิทกับคนที่นมัสการพระองค์ด้วย
3. ก่อนที่ใครสักคนจะรับบัพติศมาได้เขาต้องทำอะไร?
เพื่อที่จะรับบัพติศมาได้ คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาและมีความเชื่อในพระองค์ (อ่านฮีบรู 11:6) เมื่อคุณมีความรู้และความเชื่อมากขึ้น คุณก็จะรักพระยะโฮวามากขึ้นด้วย แล้วคุณก็จะอยากทำตามสิ่งที่พระองค์บอกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลและอยากบอกให้คนอื่นรู้เรื่องพระองค์ (2 ทิโมธี 4:2; 1 ยอห์น 5:3) และเมื่อคุณ “ใช้ชีวิตให้สมกับการเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวาเพื่อจะทำให้พระองค์พอใจเสมอ” คุณก็อาจตัดสินใจอุทิศตัวให้พระองค์และรับบัพติศมา—โคโลสี 1:9, 10a
เรียนรู้มากขึ้น
เราเรียนอะไรได้จากการรับบัพติศมาของพระเยซู และก่อนที่ใครสักคนจะรับบัพติศมาได้เขาต้องทำอะไรบ้าง
4. เราเรียนอะไรได้จากการรับบัพติศมาของพระเยซู?
เพื่อจะรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการรับบัพติศมาของพระเยซู อ่านมัทธิว 3:13-17 แล้วคุยกันเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้
พระเยซูรับบัพติศมาตอนที่ท่านเป็นเด็กทารกไหม?
พระเยซูรับบัพติศมาด้วยการพรมน้ำหรือรดน้ำลงบนหัวไหม? แล้วพระเยซูรับบัพติศมายังไง?
หลังจากที่พระเยซูรับบัพติศมา ท่านเริ่มทำงานที่พระเจ้าอยากให้ท่านทำ นี่เป็นงานที่สำคัญมาก อ่านลูกา 3:21-23 และ ยอห์น 6:38 แล้วคุยกันเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้
หลังจากที่พระเยซูรับบัพติศมา ท่านตั้งใจทำงานอะไร?
5. การรับบัพติศมาเป็นเป้าหมายที่คุณทำได้
คุณอาจรู้สึกไม่มั่นใจและไม่พร้อมที่จะอุทิศตัวและรับบัพติศมาในตอนนี้ แต่ถ้าคุณเรียนรู้เรื่องพระยะโฮวาและรู้จักพระองค์มากขึ้น คุณก็จะมั่นใจและพร้อมที่จะอุทิศตัวและรับบัพติศมา ให้เรามาดูตัวอย่างของบางคนที่ทำแบบนั้น เปิดวีดีโอ
อ่านยอห์น 17:3 และ ยากอบ 1:5 แล้วคุยกันเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้
คุณต้องทำอะไรเพื่อจะพร้อมที่จะรับบัพติศมา?
1. เราอุทิศตัวให้กับพระยะโฮวาโดยอธิษฐานบอกพระองค์ว่าเราจะเชื่อฟังพระองค์ตลอดไป
2. ตอนที่เรารับบัพติศมา คนอื่นก็จะรู้ว่าเราได้อุทิศตัวให้กับพระเจ้าแล้ว
6. การรับบัพติศมาทำให้เราได้เข้ามาเป็นคนในครอบครัวของพระยะโฮวา
พอเรารับบัพติศมา เราก็ได้เข้ามาเป็นคนในครอบครัวของพระยะโฮวาที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก ไม่ว่าเราจะเป็นใครมาจากไหน เราก็เชื่อและทำตามสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกเหมือนกัน อ่านสดุดี 25:14 และ 1 เปโตร 2:17 แล้วคุยกันเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้
การรับบัพติศมามีผลยังไงต่อความสัมพันธ์ที่เรามีต่อพระยะโฮวาและต่อพี่น้องคริสเตียน?
บางคนบอกว่า “ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะรับบัพติศมา”
ถ้าคุณรู้สึกอย่างนั้น คุณคิดว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้พร้อมที่จะรับบัพติศมา?
สรุป
พระเยซูบอกว่าคริสเตียนต้องรับบัพติศมา และเพื่อจะรับบัพติศมาได้ เราต้องมีความเชื่อในพระยะโฮวา ทำตามที่พระองค์บอก และอุทิศตัวให้กับพระองค์
คำถามทบทวน
การรับบัพติศมาคืออะไร? และทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?
การรับบัพติศมาทำให้รู้อะไร?
ก่อนที่ใครสักคนจะอุทิศตัวและรับบัพติศมาได้เขาต้องทำอะไร?
ดูเพิ่มเติม
การรับบัพติศมาเป็นยังไงจริง ๆ
เพื่อจะรับบัพติศมาได้คุณต้องทำอะไรบ้าง
“ความรักต่อพระยะโฮวาจะกระตุ้นให้คุณรับบัพติศมา” (หอสังเกตการณ์ มีนาคม 2020)
อะไรทำให้ผู้ชายคนหนึ่งอยากรับบัพติศมา
“พวกท่านอยากให้ผมพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง” (หอสังเกตการณ์ 1 กุมภาพันธ์ 2013)
ทำไมการรับบัพติศมาถึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญ และคุณต้องทำอะไรเพื่อจะพร้อมรับบัพติศมา
“ฉันควรรับบัพติศมาไหม?” (คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2 บท 37)
a คนที่เคยรับบัพติศมากับศาสนาอื่นมาก่อน ต้องรับบัพติศมาใหม่อีกครั้ง เพราะอะไร? เพราะศาสนาเหล่านั้นไม่ได้สอนความจริงจากคัมภีร์ไบเบิล—ดูบท 13 ของหนังสือนี้ และกิจการ 19:1-5