“ขอโปรดบอกข้าพเจ้าทั้งหลายเถิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร?”
“เราบอกล่วงหน้าถึงสิ่งใหม่ ๆ; เราประกาศสิ่งเหล่านั้นให้เจ้ารู้ก่อนสิ่งเหล่านั้นได้เกิดขึ้น.”—ยะซายา 42:9.
1, 2. (ก) เหล่าสาวกของพระเยซูทูลถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับอนาคต? (ข) คำตอบของพระเยซูเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ประกอบด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ มีความสำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
คำสอนของพระผู้เป็นเจ้าบังเกิดมาจากพระเจ้ายะโฮวา “ผู้บอกเล่าตั้งแต่ต้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนปลาย.” (ยะซายา 46:10) ดังที่บทความก่อนแสดงให้เห็น พวกอัครสาวกพยายามจะได้คำสอนเช่นนั้นจากพระเยซูโดยทูลถามพระองค์ว่า “ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร. และสิ่งไรจะเป็นหมายสำคัญว่าการณ์ทั้งปวงนั้นจวนจะสำเร็จ?”—มาระโก 13:4.
2 เมื่อทรงตอบ พระเยซูทรงพรรณนาถึงชุดสัญลักษณ์อันประกอบด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจะให้หลักฐานว่า ระบบของชาวยิวจวนจะสิ้นสุด. เรื่องนี้สำเร็จเป็นจริงด้วยความพินาศของกรุงยะรูซาเลมในปีสากลศักราช 70. แต่คำพยากรณ์ของพระเยซูจะมีความสำเร็จเป็นจริงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นในอีกหลายปีข้างหน้า. เมื่อ “เวลากำหนดของคนต่างประเทศ” สิ้นสุดลงในปี 1914 จะมีสัญลักษณ์ในขอบเขตที่กว้างใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อีกไม่นานระบบชั่วปัจจุบันจะสิ้นสุดลงใน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่.”a (ลูกา 21:24) คนนับล้าน ๆ ในทุกวันนี้ยืนยันได้ว่า สัญลักษณ์นั้นสำเร็จไปแล้วด้วยสงครามโลกและเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ ในศตวรรษที่ 20 นี้. เหตุการณ์เหล่านั้นยังบ่งชี้ถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของคำพยากรณ์ของพระเยซูอีกด้วย ซึ่งความสำเร็จเป็นจริงในสมัยนี้มีสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีสากลศักราช 33 ถึง 70 เป็นแบบเล็งถึง.
3. ในการกล่าวถึงสัญลักษณ์อีกประการหนึ่ง พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าถึงเหตุการณ์เพิ่มเติมอะไรบ้าง?
3 หลังจากคำกล่าวของลูกาเกี่ยวกับเวลากำหนดของคนต่างประเทศ บันทึกที่สอดคล้องกันในมัดธายและมาระโกก็พรรณนาต่อถึงชุดเหตุการณ์ต่อไปซึ่งรวมถึงสัญลักษณ์ที่เพิ่ม เข้ากับ “สัญลักษณ์แห่ง . . . ช่วงอวสานของระบบนี้.” (มัด. 24:3, ล.ม.). (ในหน้า 15 มีการแสดงจุดสำคัญนี้ให้เห็นโดยเส้นคู่.) มัดธายกล่าวว่า “ทันทีหลังจากความทุกข์ลำบากแห่งวันเหล่านั้นดวงอาทิตย์จะถูกทำให้มืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง และดวงดาวจะตกจากฟ้าสวรรค์ และอำนาจต่าง ๆ แห่งฟ้าสวรรค์จะถูกทำให้สั่นสะเทือน. และแล้วสัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์จะปรากฏในฟ้าสวรรค์ และครั้นแล้วทุกตระกูลแห่งแผ่นดินโลกจะทุบตีตัวเองด้วยความคร่ำครวญ และเขาทั้งหลายจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์ด้วยฤทธิ์และสง่าราศีเป็นอันมาก. และพระองค์จะทรงส่งบรรดาทูตของพระองค์ออกไปพร้อมด้วยเสียงแตรอันดังยิ่ง และ [ทูต] เหล่านั้นจะรวบรวมเหล่าผู้ถูกเลือกสรรของพระองค์จากลมทั้งสี่ จากสุดฟ้าสวรรค์ด้านหนึ่งจรดอีกด้านหนึ่ง.”—มัดธาย 24:29-31, ล.ม.
ความทุกข์ลำบากและปรากฏการณ์ในท้องฟ้า
4. เกิดคำถามอะไรขึ้นเกี่ยวกับปรากฏการณ์ในท้องฟ้าที่พระเยซูทรงกล่าวถึง?
4 ถ้อยคำเหล่านี้จะสำเร็จเมื่อไร? กิตติคุณทั้งสามเล่มกล่าวถึงสิ่งที่เราอาจเรียกว่าปรากฏการณ์ในท้องฟ้า: ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถูกทำให้มืดไปและดวงดาวตกลงมา. พระเยซูตรัสว่าสิ่งนี้จะตามหลัง “ความทุกข์ลำบาก.” พระเยซูทรงหมายถึงความทุกข์ลำบากซึ่งถึงจุดสุดยอดในปีสากลศักราช 70 หรือว่าพระองค์ตรัสถึงความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ซึ่งยังอยู่ในอนาคตของเราปัจจุบันนี้?—มัดธาย 24:29; มาระโก 13:24, ล.ม.
5. เคยมีการคิดกันอย่างไรเกี่ยวกับความทุกข์ลำบากในสมัยนี้?
5 ตั้งแต่เวลากำหนดของคนต่างประเทศสิ้นสุดลงในปี 1914 เป็นต้นมา ไพร่พลของพระเจ้าก็มุ่งสนใจอย่างแรงกล้าใน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” นั้น. (วิวรณ์ 7:14, ล.ม.) เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขาคิดว่าตอนเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ในสมัยนี้อยู่ในช่วงระยะเดียวกันกับเวลาที่เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แล้วก็มีระยะเวลาที่ว่างเว้น แล้วในที่สุดก็เป็นตอนจบ คือ “สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ.” หากเป็นเช่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้นในระหว่างหลายทศวรรษที่ว่างเว้นอยู่แห่ง “ช่วงอวสานของระบบนี้”?—วิวรณ์ 16:14; มัดธาย 13:39; 24:3; 28:20, ล.ม.
6. มีการคิดกันว่าอะไรจะทำให้คำพยากรณ์ของพระเยซูเกี่ยวกับปรากฏการณ์ในท้องฟ้าสำเร็จเป็นจริง?
6 คิดกันว่าผู้คนในระหว่างระยะเวลาที่ว่างเว้นนี้จะเห็นสัญลักษณ์ที่ประกอบด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการประกาศโดยไพร่พลของพระเจ้าซึ่งถูกรวบรวมเข้ามา. อนึ่ง ดูเหมือนอาจคาดหมายว่าจะเกิดปรากฏการณ์ในท้องฟ้าในระหว่างระยะเวลาที่ว่างเว้นภายหลังตอนเริ่มต้นในปี 1914-1918. (มัดธาย 24:29; มาระโก 13:24, 25; ลูกา 21:25) มีการมุ่งความสนใจในสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่จริง ๆ ในท้องฟ้า เช่น ยานอวกาศ, จรวด, รังสีคอสมิกหรือรังสีแกมมา, และการลงหรือการมีที่มั่นบนดวงจันทร์.
7. ได้มีการแก้ไขปรับปรุงความเข้าใจใหม่อย่างไรเกี่ยวกับความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่นั้น?
7 อย่างไรก็ตาม หอสังเกตการณ์ ฉบับสิงหาคม 1970 ได้พิจารณาคำพยากรณ์ของพระเยซูอีก โดยเฉพาะเรื่องความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ที่กำลังจะมา. วารสารนั้นแสดงว่า เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในศตวรรษแรก ความทุกข์ลำบากในสมัยนี้ไม่อาจมีตอนเริ่มต้นในปี 1914-1918 แล้วมีระยะเวลาที่ว่างเว้นนานหลายทศวรรษ และต่อมาก็เริ่มต้นใหม่. วารสารฉบับนั้นสรุปว่า ‘ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่’ อย่างที่จะไม่บังเกิดขึ้นอีกนั้นยังมีอยู่ข้างหน้า เพราะนั่นหมายถึงพินาศกรรมของจักรวรรดิแห่งศาสนาเท็จ (รวมทั้งคริสต์ศาสนจักรด้วย) ซึ่งติดตามด้วย ‘สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ’ ณ อาร์มาเก็ดดอน.”
8. ด้วยแง่คิดที่แก้ไขปรับปรุงใหม่เกี่ยวกับความทุกข์ลำบากแห่งสมัยนี้ มีการอธิบายมัดธาย 24:29 อย่างไร?
8 แต่มัดธาย 24:29 บอกว่า ปรากฏการณ์ในท้องฟ้ามีขึ้น “ทันทีหลังจาก ความทุกข์ลำบาก.” นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? หอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 พฤศจิกายน 1975 แนะว่าในที่นี้ความทุกข์ลำบากนั้นหมายถึงความทุกข์ลำบากที่ถึงจุดสุดยอดย้อนไปในปีสากลศักราช 70. แต่อาจกล่าวได้ในความหมายเช่นไรว่า ปรากฏการณ์ในท้องฟ้าในสมัยของเรามีขึ้น “ทันที” ภายหลังเหตุการณ์ในปีสากลศักราช 70? มีการให้เหตุผลว่า ในสายพระเนตรของพระเจ้า ช่วงเวลาหลายร้อยปีในระหว่างนั้นคงเป็นช่วงสั้น ๆ. (โรม 16:20; 2 เปโตร 3:8) อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคำพยากรณ์นี้ โดยเฉพาะมัดธาย 24:29-31 บ่งถึงคำอธิบายที่ต่างออกไป. เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีที่ความสว่าง “ส่องแสงกล้าขึ้นทุกทีจนกระทั่งถึงวันได้ตั้งขึ้นมั่นคง.” (สุภาษิต 4:18, ล.ม.)b ให้เรามาพิจารณาว่าเพราะเหตุใดคำอธิบายใหม่ หรือที่ต่างไป จึงเป็นคำอธิบายที่เหมาะสม.
9. พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูให้ภูมิหลังไว้อย่างไรสำหรับคำตรัสของพระเยซูเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในฟ้าสวรรค์?
9 พระเยซูได้ตรัสคำพยากรณ์แก่อัครสาวกสี่คนของพระองค์เกี่ยวกับ ‘ดวงอาทิตย์ถูกทำให้มืดไป ดวงจันทร์ไม่ส่องสว่าง และดวงดาวที่ตกลงมา.’ ในฐานะเป็นคนยิว พวกเขาคงได้เข้าใจการใช้ถ้อยคำเช่นนั้นจากคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู ยกตัวอย่าง ที่ซะฟันยา 1:15 (ล.ม.) มีการเรียกเวลาแห่งการพิพากษาของพระเจ้าว่า “วันแห่งพายุและความร้างเปล่า วันแห่งความมืดและความครึ้ม วันแห่งเมฆและความมืดมัว.” ผู้พยากรณ์ชาวฮีบรูหลายคนต่างก็พรรณนาเช่นเดียวกันถึงดวงอาทิตย์ถูกทำให้มืดไป ดวงจันทร์ไม่ส่องสว่าง และดวงดาวไม่ส่องแสง. คุณจะพบถ้อยคำเช่นนั้นได้ในข่าวสารที่พระเจ้าทรงมีต่อบาบูโลน, อะโดม, อียิปต์, และอาณาจักรฝ่ายเหนือแห่งยิศราเอล.—ยะซายา 13:9, 10; 34:4, 5; ยิระมะยา 4:28; ยะเอศเคล 32:2, 6-8; อาโมศ 5:20; 8:2, 9.
10, 11. (ก) โยเอลพยากรณ์อย่างไรเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในฟ้าสวรรค์? (ข) แง่ไหนแห่งคำพยากรณ์ของโยเอลที่สำเร็จเป็นจริงในปีส.ศ. 33 และแง่ไหนที่ไม่สำเร็จ?
10 เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่พระเยซูตรัส เปโตรกับคนอื่นสามคนคงระลึกถึงคำพยากรณ์ของโยเอลซึ่งมีอยู่ที่โยเอล 2:28-31 และ 3:15 ที่ว่า “เราจะหลั่งพระวิญญาณของเราลงมาบนมนุษย์ทั้งปวง; และบุตราบุตรีของเจ้าทั้งหลายจะกล่าวคำพยากรณ์. . . . เราจะสำแดงการอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนพื้นโลก, คือเป็นเลือด, ไฟ, และควันพลุ่งขึ้นเป็นลำ. ดวงอาทิตย์จะกลับมืดไป, และดวงจันทร์ก็จะกลับเป็นเลือดก่อนที่วันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัวของพระยะโฮวาจะมาถึง.” “ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็มืดไป, และดาวทั้งหลายก็อับแสง.”
11 ดังมีกล่าวไว้ที่ กิจการ 2:1-4 และ 14-21 ในวันเพ็นเตคอสเตปีสากลศักราช 33 พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงบนสาวก 120 คนทั้งชายและหญิง. อัครสาวกเปโตรทำให้เป็นที่รู้กันว่า นั่นคือสิ่งที่โยเอลบอกไว้ล่วงหน้า. กระนั้น จะว่าอย่างไรในเรื่องถ้อยคำของโยเอลเกี่ยวกับ ‘ดวงอาทิตย์จะกลับมืดไปและดวงจันทร์ก็จะกลับเป็นเลือดและดาวจะอับแสง’? ไม่มีอะไรที่บ่งว่า เรื่องนี้สำเร็จเป็นจริงในปีสากลศักราช 33 หรือระหว่างกว่า 30 ปีแห่งช่วงอวสานของระบบสิ่งต่าง ๆ ของชาติยิว.
12, 13. ปรากฏการณ์ในท้องฟ้าที่โยเอลบอกไว้ล่วงหน้านั้นสำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
12 เห็นชัดว่า ช่วงหลังของคำพยากรณ์ของโยเอลนั้นเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับ “วันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัวของพระยะโฮวา” ซึ่งจะมาถึง คือพินาศกรรมของยะรูซาเลม. เดอะ ว็อชเทาเวอร์ ฉบับ 15 พฤศจิกายน 1966 กล่าวถึงความทุกข์ลำบากซึ่งเกิดขึ้นกับยะรูซาเลมในปีสากลศักราช 70 ว่า “นั่นเป็น ‘วันของพระยะโฮวา’ อย่างแท้จริง เกี่ยวโยงกับยะรูซาเลมและลูก ๆ ของนาง. และเกี่ยวเนื่องกับวันนั้น มี ‘เลือดและไฟและควันปกคลุม’ มากมาย ดวงอาทิตย์ไม่ทำให้ความมืดสลัวของเมืองนั้นสว่างในตอนกลางวัน และดวงจันทร์ทำให้นึกถึงการหลั่งเลือด ไม่ใช่แสงจันทร์สีเงินยวงอันเย็นตาในตอนกลางคืน.”c
13 ถูกแล้ว เช่นเดียวกับคำพยากรณ์อื่น ๆ ที่เราได้สังเกต ปรากฏการณ์ในท้องฟ้าที่โยเอลบอกล่วงหน้าได้สำเร็จเป็นจริงเมื่อพระยะโฮวาทรงสำเร็จโทษ. แทนที่จะครอบคลุมตลอดช่วงอวสานแห่งระบบยิว การที่ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, และดวงดาวถูกทำให้มืดไปนั้น เกิดขึ้นเมื่อกองกำลังสำเร็จโทษยกมาต่อสู้ยะรูซาเลม. เราจึงคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลถึงการสำเร็จเป็นจริงที่ใหญ่กว่าแห่งคำพยากรณ์ส่วนนั้นของโยเอลเมื่อการสำเร็จโทษระบบปัจจุบันโดยพระยะโฮวาเริ่มดำเนินการ.
ความทุกข์ลำบากอย่างไหนมีขึ้นก่อนปรากฏการณ์ในท้องฟ้า?
14, 15. คำพยากรณ์ของโยเอลมีผลกระทบอย่างไรต่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับมัดธาย 24:29?
14 ความสำเร็จเป็นจริงแห่งคำพยากรณ์ของโยเอล (สอดคล้องกับคำพยากรณ์อื่น ๆ ซึ่งใช้ถ้อยคำคล้ายกัน) ช่วยเราให้เข้าใจถ้อยคำที่ มัดธาย 24:29. เป็นที่ชัดแจ้งว่า สิ่งที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับ ‘การทำให้ดวงอาทิตย์มืดไป, ดวงจันทร์ไม่ส่องสว่าง, และดวงดาวตกลงมา’ นั้นไม่ได้หมายถึงสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นตลอดระยะหลายทศวรรษแห่งช่วงอวสานของระบบปัจจุบัน เช่น วิทยาการด้านจรวดอวกาศ, การลงบนดวงจันทร์, และสิ่งที่คล้าย ๆ กันนั้น. เปล่า พระองค์ทรงชี้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับ “วันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัวของพระยะโฮวา” คือการทำลายล้างซึ่งจะมีมา.
15 เรื่องนี้สัมพันธ์กับความเข้าใจของเราเกี่ยวกับวิธีที่ปรากฏการณ์ในท้องฟ้าจะมีขึ้น “ทันทีหลังจาก ความทุกข์ลำบาก.” พระเยซูไม่ได้ตรัสถึงความทุกข์ลำบากซึ่งถึงจุดสุดยอดในปีสากลศักราช 70. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงบ่งถึงการเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตกับระบบของโลก ซึ่งทำให้ “การประทับ” ที่พระองค์ทรงสัญญาไว้นั้นถึงจุดสุดยอด. (มัดธาย 24:3, ล.ม.) ความทุกข์ลำบากครั้งนั้นยังอยู่ในกาลเบื้องหน้าพวกเรา.
16. มาระโก 13:24 ชี้ถึงความทุกข์ลำบากครั้งไหน และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
16 จะว่าอย่างไรกับถ้อยคำที่มาระโก 13:24 (ล.ม.) ที่ว่า “แต่ในวันเหล่านั้น ภายหลังความทุกข์ลำบากนั้น ดวงอาทิตย์จะถูกทำให้มืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง”? ในที่นี้ คำ “เหล่านั้น” และ “นั้น” ทั้งสองคำต่างเป็นรูปแบบต่าง ๆ ของคำภาษากรีก เอเคʹโนส ซึ่งเป็นคำสรรพนามชี้เฉพาะที่บ่งถึงบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในเวลาห่างไกล. เอเคʹโนส อาจใช้บ่งชี้ถึงบางสิ่งที่อยู่ในอดีตอันผ่านไปนานมาแล้ว (หรือกล่าวถึงก่อนนี้) หรืออาจใช้ชี้ถึงบางสิ่งในอนาคตอันไกลโพ้น. (มัดธาย 3:1; 7:22; 10:19; 24:38; มาระโก 13:11, 17, 32; 14:25; ลูกา 10:12; 2 เธซะโลนิเก 1:10) เพราะฉะนั้น พระธรรมมาระโก 13:24 ชี้ถึง “ความทุกข์ลำบากนั้น” ไม่ใช่ความทุกข์ลำบากที่ชาวโรมันก่อขึ้น แต่เป็นปฏิบัติการอันทรงฤทธิ์ของพระยะโฮวาในคราวอวสานของระบบปัจจุบัน.
17, 18. พระธรรมวิวรณ์ให้ความกระจ่างอย่างไรเกี่ยวกับวิธีที่ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น?
17 วิวรณ์บท 17 ถึง 19 ตรงกับและยืนยันความเข้าใจที่แก้ไขปรับปรุงใหม่นี้เกี่ยวกับมัดธาย 24:29-31, มาระโก 13:24-27, และลูกา 21:25-28. ด้วยวิธีใด? กิตติคุณเหล่านี้แสดงว่าความทุกข์ลำบากนี้ไม่เริ่มต้นและจบลงในทันที. หลังจากความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่เริ่มต้น มนุษยชาติที่ไม่เชื่อฟังบางส่วนจะยังมีชีวิตอยู่เพื่อเห็น “สัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์” และเพื่อจะแสดงปฏิกิริยาคือเพื่อจะคร่ำครวญและ ดังที่กล่าวไว้ที่ลูกา 21:26 (ล.ม.) เพื่อจะ “สลบเนื่องด้วยความกลัวและการคอยท่าเหตุการณ์ซึ่งจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่.” ความกลัวที่ท่วมท้นเช่นนั้นจะมีขึ้นเนื่องจากการที่พวกเขาเห็น “สัญลักษณ์” ซึ่งแสดงถึงความพินาศของพวกเขาที่จวนจะถึงแล้ว.
18 บันทึกในวิวรณ์แสดงว่า ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ในอนาคตนั้นจะเริ่มขึ้นเมื่อ “เขา” ทางทหารของ “สัตว์ร้าย” นานาชาติหันไปหาบาบูโลนใหญ่ “หญิงแพศยาคนสำคัญ.”d (วิวรณ์ 17:1, 10-16) แต่ผู้คนมากมายจะเหลืออยู่ เพราะพวกกษัตริย์, พ่อค้า, นายเรือ, และคนอื่น ๆ ต่างร้องไห้เป็นทุกข์เนื่องด้วยอวสานของศาสนาเท็จ. เป็นที่แน่นอนว่า คนจำนวนมากจะตระหนักว่าลำดับต่อไปจะเป็นการพิพากษาพวกเขา.—วิวรณ์ 18:9-19.
จะเกิดอะไรขึ้น?
19. เราอาจคาดหมายอะไรได้เมื่อความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่นั้นเริ่มต้น?
19 เนื้อความกิตติคุณในมัดธาย, มาระโก, และลูกา รวมกับวิวรณ์บท 17 ถึง 19 ให้ความกระจ่างอย่างมากทีเดียวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า. ณ เวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่จะเริ่มด้วยการโจมตีจักรวรรดิแห่งศาสนาเท็จ (บาบูโลนใหญ่). การโจมตีนี้จะมีอย่างรุนแรงโดยเฉพาะต่อคริสต์ศาสนจักรซึ่งเป็นคู่เทียบกรุงยะรูซาเลมที่ไม่ซื่อสัตย์. “ทันทีหลังจาก” ช่วงแห่งความทุกข์ลำบากนี้เองที่ “จะมีนิมิตที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์และที่ดวงดาว และบนแผ่นดินโลก [จะมี] ความทุกข์เดือดร้อนของนานาชาติ [อย่างไม่เคยมีมาก่อน].”—มัดธาย 24:29; ลูกา 21:25, ล.ม.
20. เรายังจะคาดหมายปรากฏการณ์อะไรในท้องฟ้าได้อีก?
20 ในความหมายใดที่ “ดวงอาทิตย์จะถูกทำให้มืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง และดวงดาวจะตกจากฟ้าสวรรค์ และอำนาจต่าง ๆ แห่งฟ้าสวรรค์จะถูกทำให้สะเทือน”? แน่นอน ในช่วงต้น ๆ ของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่นั้น “ดวงสว่าง” มากหลาย—คือพวกนักเทศน์นักบวชชั้นนำในแวดวงศาสนา—จะถูกเปิดโปงและถูก “เขาสิบเขา” ที่มีกล่าวไว้ในวิวรณ์ 17:16 นั้นกำจัดเสีย. ไม่ต้องสงสัยว่า อำนาจต่าง ๆ ทางการเมืองจะถูกทำให้สะเทือนเช่นกัน. จะมีเหตุการณ์น่ากลัวด้วยเช่นกันไหมในท้องฟ้า? คงจะมี และจะน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่โยเซฟุสพรรณนาไว้มากนักซึ่งเกิดขึ้นใกล้อวสานของระบบยิว. เราทราบว่าในโบราณกาลนั้น พระเจ้าทรงสำแดงพลังอำนาจของพระองค์เพื่อทำให้เกิดภัยธรรมชาติอันรุนแรงเช่นนั้น และพระองค์ทรงสามารถทำเช่นนั้นได้อีก.—เอ็กโซโด 10:21-23; ยะโฮซูอะ 10:12-14; วินิจฉัย 5:20; ลูกา 23:44, 45.
21. “สัญลักษณ์” ในอนาคตจะเกิดขึ้นอย่างไร?
21 ณ จุดนี้เองที่ผู้เขียนกิตติคุณทั้งสามต่างก็ใช้คำโทʹเท (ครั้นแล้ว) เพื่อนำเข้าสู่เหตุการณ์ต่อไป. “ครั้นแล้ว สัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์จะปรากฏในฟ้าสวรรค์.” (มัดธาย 24:30, ล.ม.; มาระโก 13:26; ลูกา 21:27) ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เหล่าสาวกแท้ของพระเยซูได้สังเกตเข้าใจสัญลักษณ์ที่ประกอบด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ แห่งการประทับของพระองค์อันไม่ปรากฏแก่ตา ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สังเกตสัญลักษณ์นั้น. แต่มัดธาย 24:30 ชี้ไปยัง “สัญลักษณ์” อีกอย่างหนึ่งที่จะปรากฏในอนาคต คือสัญลักษณ์แห่ง “บุตรมนุษย์” และทุกชาติจะถูกบังคับให้สังเกตสัญลักษณ์นั้น. ในคราวที่พระเยซูเสด็จมาด้วยเมฆแห่งการไม่ปรากฏแก่ตา มนุษย์ทั่วโลกที่ต่อต้านจะต้องสังเกต “การเสด็จมา” (ภาษากรีก เออร์โคʹเมโนน) นั้น เพราะการสำแดงขัตติยอำนาจของพระองค์ด้วยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ.—วิวรณ์ 1:7.
22. อะไรจะเป็นผลกระทบจากการมองเห็น “สัญลักษณ์” ในมัดธาย 24:30?
22 มัดธาย 24:30 ใช้คำโทʹเท อีกครั้งเพื่อแนะนำสิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดไป. ครั้นแล้ว ชาติต่าง ๆ ซึ่งรู้สึกถึงผลที่เกิดจากสภาพการณ์ของตน จะทุบตีตัวเองและคร่ำครวญ บางทีพวกเขาคงจะเข้าใจว่า ความพินาศของเขาจวนจะถึงแล้ว. ช่างต่างกันเสียจริงกับเหล่าผู้รับใช้ของพระเจ้า เพราะพวกเราจะเงยหน้าขึ้นได้ โดยรู้อยู่ว่าการช่วยให้รอดอยู่ใกล้แล้ว! (ลูกา 21:28) วิวรณ์ 19:1-6 เผยให้เห็นเช่นกันว่า ผู้นมัสการแท้ในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกต่างชื่นชมยินดีต่ออวสานของแพศยาคนสำคัญนั้น.
23. (ก) พระเยซูจะทรงลงมือปฏิบัติการอะไรต่อเหล่าผู้ถูกเลือกสรร? (ข) อาจกล่าวอย่างไรเกี่ยวกับการที่ชนที่เหลือถูกนำไปสู่สวรรค์?
23 คำพยากรณ์ของพระเยซูกล่าวต่อไป ที่มาระโก 13:27 (ล.ม.) ดังนี้: “ครั้นแล้ว [โทʹเท] พระองค์จะส่งบรรดาทูตสวรรค์ออกไปและจะรวบรวมเหล่าผู้ถูกเลือกสรรของพระองค์เข้าด้วยกันจากลมทั้งสี่ จากที่สุดของแผ่นดินโลกจนถึงที่สุดของฟ้าสวรรค์.” ณ ที่นี้พระเยซูทรงเพ่งเล็งที่ชนที่เหลือแห่ง “ผู้ถูกเลือกสรร” 144,000 คนซึ่งยังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลก. ตอนต้น ๆ ในช่วงอวสานแห่งระบบสิ่งต่าง ๆ สาวกผู้ถูกเจิมเหล่านี้ของพระเยซูถูกนำเข้าสู่เอกภาพตามระบอบของพระเจ้า. อย่างไรก็ดี ตามลำดับขั้นตอนที่ดำเนิน มาระโก 13:27 และมัดธาย 24:31 พรรณนาถึงอีกบางสิ่งบางอย่าง. “ด้วยเสียงแตรอันดังยิ่งนัก” “เหล่าผู้ถูกเลือกสรร” ที่ยังเหลืออยู่จะถูกรวบรวมจากที่สุดปลายแผ่นดินโลก. พวกเขาจะถูกรวบรวมอย่างไร? ไม่ต้องสงสัย พวกเขาจะได้รับการ “ประทับตรา” และได้รับการระบุชัดเจนจากพระยะโฮวาว่าเป็นส่วนแห่ง “คนเหล่านั้นที่ถูกเลือกไว้และซื่อสัตย์.” และ ณ เวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ พวกเขาจะถูกรวบรวมขึ้นไปสู่สวรรค์เพื่อเป็นกษัตริย์และปุโรหิต.e สิ่งนี้จะนำความยินดีสู่พวกเขาและ “ชนฝูงใหญ่” เพื่อนร่วมงานที่ซื่อสัตย์ของพวกเขา ซึ่งตนเองจะได้รับเครื่องหมายเพื่อพวกเขาจะ “ออกมาจากความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่นั้น” เพื่อจะชื่นชมยินดีกับพระพรตลอดกาลบนแผ่นดินโลกที่เป็นอุทยาน.—มัดธาย 24:22; วิวรณ์ 7:3, 4, 9-17; 17:14; 20:6, ล.ม.; ยะเอศเคล 9:4, 6.
24. มัดธาย 24:29-31 เผยให้เห็นลำดับต่อเนื่องอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น?
24 เมื่อพวกอัครสาวกทูลว่า “โปรดบอกข้าพเจ้าทั้งหลาย . . . ” คำตรัสตอบของพระเยซูครอบคลุมมากกว่าที่พวกเขาเข้าใจได้. กระนั้น ภายในชั่วชีวิตของพวกเขา เขามีความยินดีที่ได้เห็นความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์ของพระองค์อันเป็นแบบอย่าง. การศึกษาของเราเกี่ยวกับคำตอบของพระองค์นั้นเพ่งเล็งอยู่ที่ส่วนของคำพยากรณ์ของพระองค์ซึ่งจะมาสำเร็จเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้. (มัดธาย 24:29-31; มาระโก 13:24-27; ลูกา 21:25-28) เราเห็นได้อยู่แล้วว่า การช่วยให้พวกเรารอดนั้นกำลังใกล้เข้ามาทุกที. เราสามารถคอยท่าการเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ได้ ครั้นแล้ว ก็สัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์ และครั้นแล้ว ก็การที่พระเจ้าทรงรวบรวมเหล่าผู้ถูกเลือกสรร. ในที่สุด พระเยซูผู้ทรงครองราชย์ พระมหากษัตริย์ชาตินักรบของเรา ในฐานะผู้สำเร็จโทษที่พระยะโฮวาทรงแต่งตั้ง จะ “ทำให้ชัยชนะของตนครบถ้วน.” (วิวรณ์ 6:2, ล.ม) วันนั้นของพระยะโฮวา เมื่อพระองค์ทรงดำเนินการแก้แค้น จะมาถึงในฐานะฉากสุดท้ายอันยิ่งใหญ่แก่ช่วงอวสานของระบบนี้ ซึ่งเป็นวันแห่งพระเยซูเจ้าตั้งแต่ปี 1914 เป็นต้นมา.
25. เราจะสามารถมีส่วนได้อย่างไรในความสำเร็จเป็นจริงของลูกา 21:28 ที่จะมีมาในอนาคต?
25 ขอให้คุณทำให้ตัวคุณเองได้รับประโยชน์ต่อ ๆ ไปจากการสอนจากพระเจ้า เพื่อจะตอบรับต่อการสำเร็จสมจริงในวันข้างหน้าแห่งคำตรัสของพระเยซู ที่ว่า “แต่ขณะที่เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มจะบังเกิดขึ้น เจ้าทั้งหลายจงยืดตัวตรงและชูศีรษะขึ้น เพราะการช่วยให้รอดพ้นสำหรับพวกเจ้าใกล้จะถึงแล้ว.” (ลูกา 21:28, ล.ม.) ช่างเป็นอนาคตอันยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่มีอยู่ต่อหน้าเหล่าผู้ถูกเลือกสรรและชนฝูงใหญ่ในขณะที่พระยะโฮวาทรงดำเนินการต่อไปเพื่อทำให้พระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์!
[เชิงอรรถ]
a พยานพระยะโฮวายินดีให้ข้อพิสูจน์เรื่องนี้ โดยแสดงให้เห็นวิธีที่ข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ในสมัยของเราทำให้คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลสำเร็จเป็นจริง.
b เนื้อหาเพิ่มเติมมีอยู่ที่หน้า 296-323 ของหนังสือ ราชอาณาจักรพันปีของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว (ภาษาอังกฤษ) พิมพ์ในปี 1973 โดยสมาคม ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่งนิวยอร์ก และหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 เมษายน 1983 หน้า 15-22.
c โยเซฟุสเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ระหว่างการโจมตีครั้งแรกต่อยะรูซาเลม (ปีส.ศ. 66) และความพินาศของกรุงนั้นดังนี้: “ในช่วงกลางคืน เกิดพายุที่ทำลายล้าง พายุหมุนโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง, ฝนเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว, มีฟ้าแลบตลอดเวลา, ฟ้าร้องทำให้หวาดสะดุ้ง. แผ่นดินสั่นสะเทือนด้วยเสียงคำรามสนั่นจนหูอื้อ. ภัยพิบัติแก่เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้มีการส่อให้เห็นล่วงหน้าโดยการพังพินาศของโครงสร้างทั้งมวลของสิ่งต่าง ๆ ในคราวนี้ และไม่มีใครอาจสงสัยได้ว่า นิมิตนั้นเป็นสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าถึงความหายนะที่ไม่มีใดเทียบ.”
d สิ่งที่พระเยซูตรัสถึงว่าเป็น “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” และ “ความทุกข์ลำบาก” นั้น ในความสำเร็จสมจริงครั้งแรก คือความพินาศแห่งระบบของชาวยิว. แต่ในข้อที่ใช้ โดยเฉพาะ กับสมัยของเรานั้น พระองค์ทรงใช้คำนำหน้านามที่ชี้เฉพาะในภาษากรีก “นั้น” โดยตรัสว่า “ความทุกข์ลำบากนั้น.” (มัดธาย 24:21, 29; มาระโก 13:19, 24, ล.ม.) วิวรณ์ 7:14 (ล.ม.) ให้ชื่อเหตุการณ์นี้ในอนาคตว่า ‘ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่นั้น’ ตามตัวอักษรคือ “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ครั้งนั้น.”
e “คำถามจากผู้อ่าน” ในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 สิงหาคม 1990.
คุณจำได้ไหม?
▫ แง่มุมต่าง ๆ ของพระธรรมโยเอล 2:28-31 และ 3:15 สำเร็จเป็นจริงอย่างไรในศตวรรษแรก?
▫ ความทุกข์ลำบากอย่างไหนที่มัดธาย 24:29 กล่าวถึง และทำไมเราจึงลงความเห็นเช่นนั้น?
▫ มัดธาย 24:29 ชี้ถึงปรากฏการณ์อะไรในท้องฟ้า และปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นทันทีภายหลังจากความทุกข์ลำบากนั้นได้อย่างไร?
▫ ลูกา 21:26, 28 จะสำเร็จเป็นจริงอย่างไรในอนาคต?
[รูปภาพหน้า 16, 17]
บริเวณพระวิหาร
[ที่มาของภาพ]
Pictorial Archive (Near Eastern History) Est.