แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
วันที่ 6-12 กุมภาพันธ์
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | อิสยาห์ 47-51
“การเชื่อฟังพระยะโฮวาทำให้ได้รับพร”
ip-2-E น. 131 ว. 18
พระยะโฮวาสอนเราก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง
18 ผู้พยากรณ์อิสยาห์ซึ่งได้รับอำนาจจากพระยะโฮวา พูดว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดได้ส่งผมมา และผมได้รับพลังของพระองค์ พระยะโฮวาเป็นผู้ที่ไถ่คุณคืนมาและเป็นพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล พระองค์พูดว่า ‘เรายะโฮวาเป็นพระเจ้าของเจ้า เราสอนเจ้าก็เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง เรานำทางเจ้าให้เดินในทางที่ถูกต้อง’ ” (อิสยาห์ 48:16ข, 17) คำพูดที่แสดงถึงความห่วงใยของพระยะโฮวาน่าจะทำให้ชาติอิสราเอลมั่นใจว่า พระองค์จะช่วยพวกเขาให้ออกจากบาบิโลนได้ พระองค์เป็นผู้ไถ่พวกเขา (อิสยาห์ 54:5) พระยะโฮวาอยากให้ชาวอิสราเอลกลับมามีสัมพันธภาพกับพระองค์อีก แล้วเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์ การนมัสการแท้จะมาจากการเชื่อฟังกฎหมายของพระเจ้า ชาวอิสราเอลไม่สามารถเดินในทางที่ถูกต้องได้ถ้าไม่ได้รับการสอนให้รู้จัก ‘ทางที่ถูกต้อง’
ip-2-E น. 131 ว. 19
พระยะโฮวาสอนเราก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง
19 พระยะโฮวาไม่อยากให้ประชาชนของพระองค์ต้องเจอกับความหายนะ แต่อยากให้พวกเขามีความสุขกับชีวิต พระองค์จึงบอกว่า “ขอให้เชื่อฟังกฎหมายของเราเถอะ เพราะถ้าเชื่อฟัง ความสงบสุขของเจ้าจะมีเต็มเปี่ยมเหมือนน้ำในแม่น้ำ ความดีที่เจ้าทำก็จะมีมากมายเหมือนคลื่นในมหาสมุทร” (อิสยาห์ 48:18) นี่เป็นคำขอด้วยความจริงใจจากพระผู้สร้างผู้มีพลังอำนาจสูงสุด (เฉลยธรรมบัญญัติ 5:29; สดุดี 81:13) ชาวอิสราเอลไม่ต้องเป็นเชลย แต่จะมีสงบสุขซึ่งจะมีมากมายเหมือนน้ำในแม่น้ำ (สดุดี 119:165) ความดีที่พวกเขาทำจะมีมากมายเหมือนคลื่นในมหาสมุทร (อาโมส 5:24) พระยะโฮวาใส่ใจในชาวอิสราเอลจริง ๆ พระองค์ขอร้องพวกเขาและให้พวกเขารู้ทางที่ควรเดิน พระองค์อยากให้พวกเขาเชื่อฟังพระองค์
ip-2-E น. 132 ว. 20-21
พระยะโฮวาสอนเราก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง
20 อิสราเอลจะได้รับพรอะไรจากพระเจ้าถ้าพวกเขากลับใจ? พระยะโฮวาบอกว่า “เจ้าจะมีลูกหลานมากมายเหมือนทราย คนในเชื้อสายของเจ้าจะมีมากเหมือนเม็ดทราย เราจะไม่มีวันตัดชื่อเจ้าทิ้งหรือลบชื่อเจ้าออกเลย” (อิสยาห์ 48:19) พระยะโฮวาช่วยให้พวกเขานึกถึงคำสัญญาของพระองค์ที่บอกว่า ลูกหลานของอับราฮัมจะมีมากมาย “เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าและเหมือนเม็ดทรายที่ชายทะเล” (ปฐมกาล 22:17; 32:12) แต่ลูกหลานของอับราฮัมกบฏมาตลอด พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับตามคำสัญญา จริง ๆ แล้ว ประวัติของพวกเขาแย่มาก ถ้าตามกฎหมายของพระยะโฮวาแล้ว พวกเขาควรสิ้นชื่อไปแล้ว (เฉลยธรรมบัญญัติ 28:45) แต่พระยะโฮวาไม่อยากให้ประชาชนของพระองค์ถูกทำลาย พระองค์ไม่อยากทิ้งพวกเขา
21 หลักการที่มีอยู่ในข้อความที่มีพลังนี้ก็ใช้ได้กับผู้นมัสการพระยะโฮวาในทุกวันนี้ พระยะโฮวาเป็นบ่อเกิดของชีวิต พระองค์รู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไร (สดุดี 36:9) พระองค์ให้คำแนะนำเรา ไม่ใช่เพื่อให้เราไม่มีความสุข แต่เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง คริสเตียนแท้ตอบรับโดยขอให้พระยะโฮวาสอน (มีคาห์ 4:2) คำชี้แนะของพระองค์ปกป้องความเชื่อของเราและปกป้องสัมพันธภาพที่เรามีกับพระองค์ คำชี้แนะเหล่านี้จะป้องกันเราจากอิทธิพลที่เสื่อมทรามของซาตาน และเมื่อเราเห็นค่าหลักการที่มีอยู่ในกฎหมายของพระเจ้า เราก็จะเห็นว่าพระยะโฮวาสอนเราก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง เรารู้ว่า “คำสั่งของพระองค์ไม่ยากเกินไป” และเราจะไม่ถูกทำลาย—1 ยอห์น 2:17; 5:3
ขุดค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-1-E น. 643 ว. 4-5
การหย่า
การหย่าในเชิงเปรียบเทียบ ในพระคัมภีร์ มีการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาในเชิงเปรียบเทียบ ไม่ใช่ตามตัวอักษร (อสย 54:1, 5, 6; 62:1-6) นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการหย่าหรือการไล่ภรรยาในเชิงเปรียบเทียบด้วย—ยรม 3:8
อาณาจักรยูดาห์ถูกโค่นและกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายในปี 607 ก่อน ค.ศ. ผู้คนที่นั่นถูกพาไปเป็นเชลยในบาบิโลน หลายปีก่อนหน้านั้นพระยะโฮวาได้พูดเป็นเชิงพยากรณ์กับชาวยิวซึ่งในตอนนั้นจะเป็นเชลยว่า “แม่ของเจ้าที่เราไล่ไปนั้นมีหนังสือหย่าไหมล่ะ?” (อสย 50:1) “แม่” หรือชาติของพวกเขาถูกไล่ด้วยเหตุอันควร ไม่ใช่เพราะพระยะโฮวาผิดสัญญาและต้องการหย่า แต่เพราะชาตินี้ทำผิดสัญญาเกี่ยวกับกฎหมาย แต่ชาวอิสราเอลที่เหลืออยู่ได้กลับใจและอธิษฐานขอให้พระยะโฮวากลับมาเป็นสามีของพวกเขาอีกครั้งหนึ่งในประเทศบ้านเกิด พระยะโฮวาก็ช่วยประชาชนของพระองค์ให้กลับบ้านเกิดของพวกเขาเพื่อเห็นแก่ชื่อของพระองค์เองในปี 537 ก่อน ค.ศ. ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ซึ่งเป็นตอนสิ้นสุดของความร้างเปล่า 70 ปี—สด 137:1-9; ดูคำว่า “การสมรส”
วันที่ 20-26 กุมภาพันธ์
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | อิสยาห์ 58-62
“ให้ประกาศปีที่พระยะโฮวาจะเมตตาเป็นพิเศษ”
ip-2-E น. 322 ว. 4
ความดีงามงอกขึ้นในศิโยน
4 อิสยาห์เขียนว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดให้พลังของพระองค์กับผม พระยะโฮวาแต่งตั้งผมให้ประกาศข่าวดีกับคนอ่อนน้อม ให้รักษาคนที่มีหัวใจชอกช้ำ ให้ประกาศเรื่องการปลดปล่อยกับพวกเชลย และเปิดตาคนที่ถูกคุมขังให้มองเห็น” (อิสยาห์ 61:1) ใครได้รับมอบหมายให้บอกข่าวดี? คนแรกก็คงจะเป็นอิสยาห์ ซึ่งพระเจ้าดลใจให้เขาบันทึกข่าวดีสำหรับคนที่เป็นเชลยในบาบิโลน อย่างไรก็ตาม คนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คำพยากรณ์นี้เป็นจริงก็คือ พระเยซู ท่านได้บอกว่าคำของอิสยาห์ที่บันทึกไว้นั้นหมายถึงตัวท่านเอง (ลูกา 4:16-21) พระเยซูถูกส่งมาเพื่อบอกข่าวดีกับคนอ่อนน้อม และด้วยเหตุนี้ท่านจึงถูกเจิมด้วยพลังบริสุทธิ์เมื่อท่านรับบัพติศมา—มัทธิว 3:16, 17
ip-2-E น. 326-327 ว. 13-15
ความดีงามงอกขึ้นในศิโยน
13 นับตั้งแต่วันเพ็นเทคอสต์ ปี ค.ศ. 33 เป็นต้นมา พระเจ้าก็ปลูก “ต้นไม้ใหญ่ที่ดีงาม” คือคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่กล้าหาญ ไว้ในชนชาติใหม่ของพระองค์ คือ “อิสราเอลของพระเจ้า” (กาลาเทีย 6:16) ในช่วงเวลาหลายศตวรรษ “ต้นไม้” เหล่านี้มีจำนวนมากถึง 144,000 คน พวกเขาทำให้เกิดผลที่ดีงามและทำให้พระยะโฮวาพระเจ้าได้รับการสรรเสริญ (วิวรณ์ 14:3) คนกลุ่มสุดท้ายของ “ต้นไม้” ที่สง่างามเหล่านี้เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ปี 1919 เมื่อพระยะโฮวาทำให้ชนที่เหลือของอิสราเอลของพระเจ้ามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ไปชั่วคราว พระยะโฮวาให้พวกเขาได้รับน้ำมากมาย ซึ่งเป็นน้ำที่เสริมความเชื่อ พวกเขาจึงเกิดเป็นป่าที่มีต้นไม้ดีและเกิดผล—อิสยาห์ 27:6
14 อิสยาห์พูดถึงงานของ “ต้นไม้” เหล่านี้ว่า “พวกเขาจะสร้างเมืองที่เป็นซากโบราณขึ้นมาใหม่ พวกเขาจะฟื้นฟูที่ร้างเปล่าในอดีต และสร้างเมืองต่าง ๆ ที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่ ที่เหล่านั้นถูกทิ้งไว้ให้ร้างเปล่าเรื่อยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย” (อิสยาห์ 61:4) เมื่อกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียมีคำสั่งออกมา ชาวยิวที่ซื่อสัตย์ก็ออกจากบาบิโลนและกลับไปสร้างกรุงเยรูซาเล็มและวิหารขึ้นใหม่ ซึ่งถูกทิ้งร้างมานาน และมีการฟื้นฟูอีกหลังปี ค.ศ. 33 และปี 1919
15 ในปี 33 สาวกของพระเยซูเสียใจมากที่ท่านถูกจับ ถูกพิจารณาคดี และเสียชีวิต (มัทธิว 26:31) แต่ทัศนะของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อพระเยซูปรากฏตัวให้พวกเขาเห็นหลังจากที่ท่านฟื้นขึ้นจากตาย และเมื่อพวกเขาได้รับพลังบริสุทธิ์แล้ว พวกเขาขยันขันแข็งกับการประกาศข่าวดี “ในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับแคว้นสะมาเรีย และจนถึงสุดขอบโลก” (กิจการ 1:8) นี่จึงเป็นการฟื้นฟูการนมัสการแท้ขึ้นใหม่ ในลักษณะที่คล้ายกัน ตั้งแต่ปี 1919 เป็นต้นมา พระเยซูคริสต์ก็ช่วยให้ชนที่เหลือของพี่น้องผู้ถูกเจิมของท่านให้สร้าง ‘ที่เหล่านั้นซึ่งถูกทิ้งไว้ให้ร้างเปล่าเรื่อยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย’ ขึ้นใหม่ เป็นเวลาหลายศตวรรษที่พวกนักเทศน์ของคริสตจักรไม่สามารถให้ความรู้ของพระยะโฮวา แต่กลับสอนประเพณีของมนุษย์และหลักข้อเชื่อที่ไม่ได้เป็นไปตามพระคัมภีร์ คริสเตียนผู้ถูกเจิมจึงต้องชำระประชาคมไม่ให้มีสิ่งที่ปนเปื้อนศาสนาเท็จ เพื่อว่าการฟื้นฟูการนมัสการแท้จะรุดหน้าต่อไปได้ พวกเขาเริ่มงานซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นการรณรงค์การประกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้มา—มาระโก 13:10
วันที่ 27 กุมภาพันธ์-5 มีนาคม
ความรู้ที่มีค่าจากพระคัมภีร์ | อิสยาห์ 63-66
“ฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่จะทำให้มีความยินดี”
ip-2-E น. 383 ว. 23
“ให้ชื่นชมยินดีเสมอในสิ่งที่เรากำลังสร้าง”
23 หนังสือวิวรณ์พรรณนาภาพนิมิตที่อัครสาวกยอห์นเห็นในวันของพระยะโฮวาเมื่อระบบของโลกนี้จะถูกทำลาย จากนั้น ซาตานจะถูกกักขังอยู่ในขุมลึก (วิวรณ์ 19:11-20:3) หลังจากที่พรรณนาให้เห็นภาพแล้ว ยอห์นก็พูดเหมือนที่อิสยาห์พูดเป็นเชิงพยากรณ์ ยอห์นเขียนว่า “ผมเห็นฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่” ข้อคัมภีร์ต่อจากนั้นที่พูดถึงนิมิตที่สง่างามนี้บอกช่วงเวลาที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะเปลี่ยนสภาพการณ์บนโลกนี้ให้ดีขึ้นชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ (วิวรณ์ 21:1, 3-5) เห็นได้ชัดว่า คำสัญญาที่อิสยาห์บอกว่าจะมี “ฟ้าสวรรค์ใหม่และโลกใหม่” จะเป็นจริงในโลกใหม่ของพระเจ้า ภายใต้ฟ้าสวรรค์ใหม่ซึ่งเป็นการปกครองของรัฐบาลพระเจ้าในสวรรค์ จะมีโลกใหม่ซึ่งก็คือสังคมมนุษย์ที่ได้ชื่นชมกับการนมัสการแท้และได้อยู่ในโลกที่เป็นสวนอุทยานอันสวยงาม คำสัญญาที่บอกว่า “จะไม่มีใครจดจำ หรือนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาอีกเลย [คือ ความเจ็บป่วย การทนทุกข์ และความทุกข์ทรมานอื่น ๆ ที่มนุษย์ต้องเจอ]” อะไรก็ตามที่เราอาจจำได้ในตอนนั้นจะไม่ทำให้เราต้องเจ็บปวดรวดร้าว ซึ่งในเวลานี้ทำให้หลายคนต้องทุกข์ใจ
ip-2-E น. 384 ว. 25
“ให้ชื่นชมยินดีเสมอในสิ่งที่เรากำลังสร้าง”
25 ในทุกวันนี้ก็เช่นกัน พระยะโฮวาสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ และเยรูซาเล็มนี้ “จะทำให้ใครต่อใครชื่นชม” โดยวิธีใด? ตามที่เราได้เห็นมาแล้ว ฟ้าสวรรค์ใหม่ซึ่งมีขึ้นในปี 1914 จะมีผู้ร่วมปกครอง 144,000 คน มีการพูดถึงคนเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าว่าเป็น “เยรูซาเล็มใหม่” (วิวรณ์ 21:2) พระเจ้าพูดถึงเยรูซาเล็มใหม่ว่า “เรากำลังสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ เยรูซาเล็มนี้จะทำให้ใครต่อใครชื่นชม และเราจะสร้างประชาชนของเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ ประชาชนนี้ก็จะทำให้ใครต่อใครยินดี” และโดยทางเยรูซาเล็มใหม่นี้ พระเจ้าจะให้สิ่งดีมากมายกับคนที่เชื่อฟัง จะไม่ได้ยินเสียงร้องไห้หรือเสียงร้องของความทุกข์อีกเลย เพราะพระยะโฮวาจะให้ “ตามที่ใจคุณต้องการ”—สดุดี 37:3, 4