การจัดการเด็ดขาดกับประเด็นสากล
“พระยะโฮวาเองที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของท่าน จะทรงฟาดฟันกษัตริย์ทั้งหลายให้ย่อยยับในวันพิโรธของพระองค์.”—บทเพลงสรรเสริญ 110:5, ล.ม.
1, 2. ในปีสากลศักราช 70 เหตุการณ์อะไรอาจทำให้เรื่องสากลบรมเดชานุภาพของพระเจ้ายะโฮวาเป็นที่น่าสงสัย แต่ตอนนั้นพระองค์ทรงหันความใฝ่พระทัยไปยังผู้ใด?
พระบรมเดชานุภาพของพระผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งเฉพาะหน้ามนุษย์และทูตสวรรค์. ในไม่ช้าจะได้มีการจัดการกับประเด็นนี้อย่างเด็ดขาด แต่ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ศัตรูของพระยะโฮวาได้ท้าทายพระบรมเดชานุภาพของพระองค์. จริงอยู่ ความพินาศซึ่งเกิดขึ้นในปีสากลศักราช 70 กับกรุงยะรูซาเลมพร้อมด้วยวิหารที่อุทิศแด่พระยะโฮวานั้นอาจทำให้สากลบรมเดชานุภาพของพระผู้สร้างเป็นที่น่าสงสัย. กระนั้นก็ดี มีเหตุผลแน่นหนาที่ว่า ทำไมคราวนั้นพระยะโฮวาไม่ได้สำแดงพระองค์เป็นพระเจ้านักรบเพื่อเห็นแก่ชาติยิศราเอลฝ่ายเนื้อหนัง.
2 อะไรคือเหตุผล? ตอนนั้นพระเจ้ายะโฮวาทรงหันความโปรดปรานของพระองค์ไปสู่ชนชาติใหม่หรือยิศราเอลฝ่ายวิญญาณ “ยิศราเอลของพระเจ้า” ดังที่อัครสาวกเปาโลเรียกประชาคมของพระเยซูคริสต์. (ฆะลาเตีย 6:16) กระนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่งเรียกกันว่าคริสต์กาล พระยะโฮวาก็หาได้เป็นพระเจ้านักรบทำสงครามเพื่อยิศราเอลฝ่ายวิญญาณอย่างที่พระองค์เคยกระทำเพื่อชาติยิศราเอลที่อยู่ภายใต้พระบัญญัติแห่งคำสัญญาไมตรีทางโมเซไม่. พระองค์ถึงกับได้ปล่อยทหารโรมันโดยการยุยงของชาวยิวให้ตรึงพระเยซูบนหลักทรมานจนสิ้นพระชนม์ที่ตำบลฆาลเวเรเสียด้วยซ้ำ. เหตุการณ์ครั้งนั้นอุบัติขึ้นเมื่อสามสิบเจ็ดปีก่อนกรุงยะรูซาเลมถูกทำลายเป็นครั้งที่สองโดยพวกโรมันในปีสากลศักราช 70.
3, 4. นับตั้งแต่สมัยโมเซจนถึงกษัตริย์ฮีศคียา พระเจ้าทรงสำแดงโดยวิธีใดว่าพระองค์เป็นนักรบ แต่ในกรณีของยิศราเอลฝ่ายวิญญาณ การสู้รบของพระองค์และของพวกเขาเป็นไปโดยวิธีใด?
3 นับตั้งแต่สมัยผู้พยากรณ์โมเซกระทั่งถึงรัชกาลกษัตริย์ฮีศคียาแห่งยะรูซาเลม พระเจ้ายะโฮวาทรงทำการสู้รบอย่างน่าอัศจรรย์เพื่อชนชาติยิศราเอล และพวกยิศราเอลก็รบต่อสู้ด้วยอาวุธสำหรับฆ่าฟันภายใต้การนำของพระองค์. (พระบัญญัติ 1:30; 3:22; 20:3, 4; ยะโฮซูอะ 10:42) แต่ไม่เป็นอย่างนั้นในกรณีของยิศราเอลฝ่ายวิญญาณ! นับตั้งแต่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์นอกกรุงยะรูซาเลมเรื่อยจนถึงยุคนี้ พระเจ้านับรบองค์นี้ก็หาได้ทำสงครามแบบใช้กำลังพลเพื่อยิศราเอลของพระเจ้าไม่. ในทำนองเดียวกัน พระองค์ไม่ทรงให้อำนาจยิศราเอลฝายวิญญาณซึ่งประกอบกันเป็นประชาคมคริสเตียนที่จะสู้รบด้วยการใช้อาวุธสงครามจริง ๆ. คริสเตียนมีสงครามอีกแบบหนึ่งที่จะขับเคี่ยว.
4 สอดคล้องกับเรื่องนี้ หนึ่งในจำนวนนักสู้ชั้นนำเพื่อความเชื่อของคริสเตียนได้เขียนถึงเพื่อนคริสเตียน ณ เมืองโกรินโธ ประเทศกรีซดังนี้: “เหตุว่าเครื่องอาวุธของเราไม่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง แต่ยังมีกำลังมากโดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า อาจทำลายค่ายอันแข็งแรงได้. คือทำลายความคิดคาดคะเนและสิ่งสารพัดอันสูงที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนรับฟังพระคริสต์ และมีใจพร้อมจะลงโทษแก่บรรดาคนที่ขัดขืนและไม่ฟัง ในเวลาเมื่อความเชื่อฟังของท่านทั้งหลายจะเต็มบริบูรณ์แล้ว.” (2 โกรินโธ 10:4-6) ก่อนหน้านี้ในจดหมายฉบับเดียวกัน เปาโลกล่าวถึง “อาวุธแห่งความชอบธรรมที่มือขวาและมือซ้าย.”—2 โกรินโธ 6:7; โปรดอ่านเอเฟโซ 6:11-18 ด้วย.
พระยะโฮวาจะสู้รบ ณ อาร์มาเก็ดดอน
5. ในสวนเก็ธเซมาเน พระเยซูทรงยึดหลักอะไรต่อการใช้อาวุธสำหรับฆ่าฟันป้องกันตัวและสาวกของพระองค์ได้ยึดการกระทำแนวไหน?
5 พระเยซูคริสต์เมื่ออยู่ในโลกพระองค์ไม่เคยใช้อาวุธเพื่อฆ่าฟันไว้ป้องกันตัว. คืนวันที่พระองค์ถูกทรยศในสวนเก็ธเซมาเน ซีโมนเปโตร สาวกผู้เลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้ชักดาบออกฟันหูทาสคนหนึ่งของมหาปุโรหิตยิวจนขาด. แต่พระเยซูทรงต่อใบหูคนนั้นให้ติดเหมือนเดิมอย่างน่าอัศจรรย์และกล่าวว่า “ด้วยว่าบรรดาผู้ถือดาบจะต้องพินาศด้วยดาบ. ท่านถือว่าเราจะขอพระบิดาของเรา และในประเดี๋ยวเดียวพระองค์จะทรงประทานทูตสวรรค์แก่เรากว่าสิบสองกองไม่ได้หรือ? ถ้าอย่างนั้นคำที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่าจำจะต้องเป็นอย่างนั้นจะสำเร็จอย่างไรได้?” (มัดธาย 26:52-54) โดยคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ผู้ที่เอาอย่างพระบุตรของพระเจ้าซึ่งทรงยอมสละทุกอย่าง ย่อมจะรักษาความเป็นกลางทั้งโดยตรงและทางอ้อมเมื่อมีการสู้รบฝ่ายโลก.—โยฮัน 17:16; 18:36.
6. ในระหว่างสงครามใหญ่แห่งพระเจ้าองค์ทรงฤทธิ์อานุภาพทุกประการ ณ อาร์มาเก็ดดอน พยานพระยะโฮวาจะยึดหลักอะไร?
6 ตอนนี้ จงให้นานาชาติรับรู้เสียเถิดว่า ในระหว่าง “สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์” ณ “ที่แห่งหนึ่งมีชื่อในภาษาฮีบรูว่า ฮาร์-มาเกดอน” พยานพระยะโฮวาจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้. พวกเขาจะปล่อยเรื่องนี้ไว้กับพระเจ้าผู้เป็นนักรบ “พระยะโฮวาแห่งจอมโยธา” และกองกำลังประกอบด้วยทูตสวรรค์ภายใต้การบังคับบัญชาของพระเยซูคริสต์.—วิวรณ์ 16:14-16; 19:11-12; บทเพลงสรรเสริญ 84:12.
จวนได้เวลาที่พระยะโฮวาจะทรงเริ่มการสู้รบอีก
7. ในฐานะที่ทรงเป็นพระเจ้านักรบ พระยะโฮวาได้รับฉายาอะไร และพระองค์ยังคงอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวไหม?
7 พระเจ้าของชาติยิศราเอลในคราวโบราณเป็นที่รู้จักและได้รับการเรียกขานว่ายะโฮวาเซวาโอธʹ หรือยะโฮวาแห่งพลโยธา. (1 ซามูเอล 1:3, 11) ที่พระธรรมโรม 9:29 คริสเตียนอัครสาวกเปาโลเท้าความถึงยะซายา 1:9 และเขียนดังนี้: “นอกจากพระเจ้าแห่งพลโยธา [ซับʹอาโอธ]ได้ทรงโปรดให้เรามีพงศ์พันธุ์เหลืออยู่ เราทั้งหลายก็จะได้เป็นเหมือนเมืองซะโดมและเมืองกะโมราแล้ว.” นอกจากนั้น คริสเตียนสาวกยาโกโบก็เขียนอย่างนี้ “เสียงร้องทุกข์ของคนที่เกี่ยวข้าวนั้นทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าแห่งพลโยธา [ซับʹอาโอธ] แล้ว.” (ยาโกโบ 5:4) ดังนั้น เปาโลกับยาโกโบจัดพระเจ้าเข้าอยู่ในตำแหน่งเป็นพระยะโฮวาแห่งพลโยธาในระหว่างช่วงศตวรรษแรกแห่งสากลศักราช. ตลอดสิบแปดศตวรรษต่อจากนั้นเรื่อยมา พระเจ้าก็หาได้ร่วมทำสงครามฝ่ายเนื้อหนังเพื่อเห็นแก่ยิศราเอลฝ่ายวิญญาณคือยิศราเอลของพระเจ้าไม่ อย่างที่พระองค์เคยกระทำเพื่อชนชาติยิศราเอลในโบราณกาล กระนั้นพระองค์ยังคงเป็นพระยะโฮวาแห่งพลโยธาอยู่.
8-10. (ก) ใครให้อำนาจทำสงครามในสวรรค์ และทำไมมิคาเอลมีคุณวุฒิดีที่สุดที่จะสู้รบ? (ข) ผลของสงครามในสวรรค์เป็นอย่างไร และเวลามีเหลือมากน้อยเท่าไรก่อนถึงสงครามในวันใหญ่ของพระยะโฮวา?
8 ในคราวการกำเนิดของราชอาณาจักรมาซีฮาปี 1914 เมื่อ “เวลาของคนต่างประเทศ” สิ้นสุดลง ได้เกิดสงครามในสวรรค์อันเป็นเขตการปกครองโดยพระเจ้ายะโฮวา. (ลูกา 21:24) ใครให้อำนาจทำสงคราม? พระเจ้ายะโฮวานั่นเอง. พระองค์ได้ส่งพระบุตรผู้เถลิงราชย์เข้าสู่สมรภูมิโดยมีฉายาว่ามิคาเอล เพราะท่านองค์นี้มีคุณวุฒิดีที่สุดที่จะตอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชื่อนั้น ซึ่งมีความหมายว่า “ใครเป็นเหมือนพระเจ้า?” มิคาเอลเริ่มปฏิบัติการโดยไม่ชักช้าฐานะเป็นตัวแทนสู้รบของพระยะโฮวาแห่งพลโยธา
9 ดังนั้น เราอ่านที่พระธรรมวิวรณ์ 12:7-10 ว่า “มีการสงครามในสวรรค์: มิคาเอลกับเทพบริวารได้สู้รบกับพญานาคนั้น และพญานาคกับบริวารของมันได้ต่อสู้กันกับมิคาเอลแต่จะเอาชนะไม่ได้ และสำหรับพญานาคจะไม่มีที่อยู่ในสวรรค์เลย. พญานาคใหญ่นั้นคืองูเฒ่าที่เขาเรียกว่ามารและซาตานผู้ลวงมนุษย์โลกทั้งปวงก็ถูกกำจัดออกเสีย มันกับทั้งบริวารของมันก็ถูกผลักลงมาอยู่ที่แผ่นดินโลก. และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์ร้องว่า ‘บัดนี้ ความรอดและฤทธิ์เดชและอาณาจักรแห่งพระเจ้าและอำนาจพระคริสต์ของพระองค์ก็มาถึงแล้ว เพราะว่าผู้ที่กล่าวโทษพวกพี่น้องของเรา . . . ก็ถูกผลักทิ้งลงเสียแล้ว.’”
10 บัดนี้ นานกว่าเจ็ดสิบปีแล้วตั้งแต่เกิดสงครามในสวรรค์ มี ‘เวลาเหลืออยู่น้อย’ ก่อนสงครามแห่งวันใหญ่ของพระยะโฮวาจะปะทุขึ้นและพระเจ้าจะทรงสำแดงพระองค์ให้ประจักษ์แก่มนุษยชาติในชั่วอายุนี้ว่าพระองค์เป็นพระยะโฮวาแห่งพลโยธา.—วิวรณ์ 12:12; ซะคาระยา 14:3.
ผู้ต่อสู้เพื่อการเชิดชูพระยะโฮวา
11. เวลาอะไรที่กำหนดไว้ซึ่งชนที่เหลือจำพวกแกะฝูงน้อยและชนฝูงใหญ่คอยหา ครั้นแล้วพวกเขาจะเปล่งเสียงแสดงความยินดีเนื่องด้วยสิ่งใด?
11 กษัตริย์ซะโลโมแห่งยิศราเอลในโบราณกาลทรงเขียนโดยการดลใจไว้ว่า “มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์: . . . วารสงครามและวารสันติ.” (ท่านผู้ประกาศ 3:1-8, ฉบับแปลใหม่) บนแผ่นดินโลกนี้บรรดาสาวกของกษัตริย์ที่ทรงครอบครองซึ่ง “ใหญ่กว่าซะโลโม” กำลังรอเวลาและโอกาสเมื่อพระองค์จะทรงนำทูตสวรรค์ที่เคยมีชัยในสวรรค์เข้าร่วมการรณรงค์ในสงครามฮาร์-มาเกดอน. (มัดธาย 12:42; วิวรณ์ 19:11-16) ตอนนั้นพระองค์ “จะทรงครอบครองเขาด้วยคทาเหล็ก” “จะตีเขาให้แตกด้วยกระบองเหล็ก.” (วิวรณ์ 19:15; บทเพลงสรรเสริญ 2:9) บรรดาสาวกผู้รักความสงบ และได้รับการคุ้มครองจะแซ่ซ้องสรรเสริญพระองค์ขนาดไหนในการที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอดได้อย่างน่าเกรงขามเช่นนั้น! ทั้งนี้จะรวมเอาชนที่เหลือแห่ง “แกะฝูงน้อย” จากทายาทร่วมปกครองราชอาณาจักรและ “คนเป็นอันมาก” แห่ง “แกะอื่น” ของพระองค์ ซึ่งชื่นชมกับความหวังที่จะอยู่ในอุทยานบนแผ่นดินโลกภายใต้การปกครองด้วยสันติของพระองค์เป็นเวลาหนึ่งพันปี. (ลูกา 12:32; วิวรณ์ 7:9-17; โยฮัน 10:16) ด้วยความปลาบปลื้มยินดี “ในร่มเงาแห่งผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์” คนเหล่านี้จะยกย่องสรรเสริญชัยชนะของพระเยซูคริสต์ พระมหากษัตริย์ผู้บำรุงเลี้ยงด้วยเสียงกึกก้องในการเชิดชูบรมเดชานุภาพของพระเจ้ายะโฮวา.—บทเพลงสรรเสริญ 91:1.
12. สงครามจากที่ไหนคุกคามนานาชาติ และจะมีผลเช่นไรตามที่กล่าวไว้ในบทเพลงสรรเสริญ 68:1, 2?
12 อาจไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงที่จะพูดว่า สงครามจากแดนไกลโพ้นนอกเขตแดนที่อาศัยของมนุษย์ และเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธที่เล็งถูกเป้าอย่างแม่นยำซึ่งมีกำลังเหนือกว่าระเบิดนิวเคลียร์นั้น จึงปรากฏเป็นภาพน่ากลัวสำหรับทุกประเทศชาติในโลกนี้ไม่ว่าภายในหรือภายนอกองค์การสหประชาชาติ. ฟังซิ: “ขอเชิญพระเจ้าเสด็จมา ขอให้พวกศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป และให้คนทั้งหลายที่เกลียดชังพระองค์หนีไปจากพระพักตร์พระองค์ด้วย. ขอทรงขับไล่เขาเสียดุจควันไฟที่ลอยไปนั้น ขี้ผึ้งถูกไฟละลายไปฉันใด ก็ขอให้คนชั่วละลายไปจากพระพักตร์พระเจ้าฉันนั้น.”—บทเพลงสรรเสริญ 68:1, 2.
13. ขณะดำเนินการตระเตรียมเพื่อทำสงคราม ถ้อยคำในบทเพลงสรรเสริญ 45:1-6 หมายถึงผู้ใดในเวลานี้อย่างเหมาะเจาะที่สุด?
13 การตระเตรียมเพื่อการสงครามอย่างไม่เคยมีครั้งใดเทียบเท่าได้ขณะนี้กำลังดำเนินงานอยู่แล้ว. ในฐานะเป็นนักรบที่เก่งกาจที่สุดของพระเจ้า เป็นผู้ทำสงครามเพื่อการชันสูตรเชิดชูพระยะโฮวาเช่นนั้น ท่านผู้หนึ่งซึ่งเป็นชาวยิศราเอลได้รับการดลใจให้เรียงร้อยถ้อยคำกล่าวถึงผู้นี้ว่า “พระองค์งามเลิศยิ่งกว่าบุตรของมนุษย์. เสน่ห์หลั่งลงบนริมฝีปากของพระองค์. เพราะฉะนั้น พระเจ้าทรงอำนวยพรแก่พระองค์ถึงเวลาไม่กำหนด. ข้าแต่พระผู้ทรงฤทธิ์ จงเหน็บกระบี่ไว้ที่พระเพลาของพระองค์ พร้อมด้วยความสง่าผ่าเผยและความรุ่งโรจน์ของพระองค์. และด้วยความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงสัมฤทธิ์ผล ทรงห้อม้าไปเพื่อเห็นแก่ความจริง ความถ่อมใจและความชอบธรรม และพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์จะทรงสอนพระองค์ถึงบรรดาการอันน่าเกรงขาม. ลูกธนูของพระองค์แหลมคม—ชนชาติทั้งหลายล้มลงใต้พระองค์—เสียบหัวใจพวกศัตรูของกษัตริย์. พระเจ้าเป็นพระที่นั่งของพระองค์ถึงเวลาไม่กำหนด กระทั่งตลอดไปเป็นนิตย์ ทัณฑกรแห่งราชสมบัติของพระองค์เป็นทัณฑกรแห่งความซื่อตรง.—บทเพลงสรรเสริญ 45:1-6, ล.ม.
ชาติต่าง ๆ รวมหัวกันต่อต้านพระยะโฮวา
14, 15. หลังจากได้รับการปลดปล่อยจากที่คุมขัง พวกอัครสาวกได้อ้างคำพูดอะไรจากเพลงสรรเสริญบท 2 ว่าได้สำเร็จสมจริงแล้ว และพวกเขาได้ทูลขออะไรต่อพระเจ้า?
14 ไม่นานภายหลังการก่อตั้งประชาคมคริสเตียนในวันเพ็นเตคอสเต ปีสากลศักราช 33 คริสเตียนผู้ถูกเจิมได้หยั่งเห็นเข้าใจความสมจริงของบทเพลงสรรเสริญ 2:1, 2 (ล.ม.). ข้อคัมภีร์ตอนนี้อ่านว่า “เหตุไฉนประเทศทั้งหลายจึงก่อเหตุโกลาหลและชนประเทศต่าง ๆ รวมกลุ่มคิดการไร้สาระ? บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกสำแดงตน และเจ้าหน้าที่ชั้นสูงร่วมกันเป็นเอกฉันท์ต่อต้านพระยะโฮวาและต่อต้านผู้ถูกเจิมของพระองค์.” หลังจากพวกอัครสาวกจำพวกผู้ถูกเจิมของพระยะโฮวาถูกจับกุมเป็นครั้งแรก และทนรับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากศัตรูชาวยิว พวกเขาจึงได้ร่วมสมทบกันอีกกับผองเพื่อนคริสเตียน ครั้นแล้วอ้างถึงถ้อยคำซึ่งกษัตริย์ดาวิดทรงประพันธ์ไว้ที่เพลงสรรเสริญบท 2. กิจการ 4:23-30 รายงานเรื่องนี้ว่า:
15 “เมื่อเขาได้ปล่อยท่านทั้งสองแล้ว ท่านจึงไปหาจำพวกของท่านเล่าถึงข้อความทั้งสิ้นซึ่งพวกปุโรหิตใหญ่และผู้เฒ่าได้ว่าแก่ท่าน. เมื่อเขาทั้งหลายได้ฟังจึงพร้อมใจกันเปล่งเสียงสรรเสริญพระเจ้าว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้า แผ่นดิน ทะเลและสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น พระองค์ได้ตรัสไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยปากของดาวิดบรรพบุรุษของเรา ผู้รับใช้ของพระองค์ว่า “เหตุไฉนพวกต่างประเทศจึงกระทำโกลาหลขึ้น และชนประเทศต่าง ๆ คิดอ่านในการที่ไร้ประโยชน์ กษัตริย์ทั้งหลายในแผ่นดินได้ตั้งตน และเจ้านายทั้งหลายประชุมพร้อมกันต่อสู้พระเจ้าและต่อสู้พระคริสต์ของพระองค์.” แท้จริง ในเมืองนี้ทั้งเฮโรดและปนเตียวปีลาตกับจำพวกต่างประเทศและพวกยิศราเอลได้ประชุมกันต่อสู้พระเยซูพระบุตรผู้บริสุทธิ์ของพระองค์ซึ่งทรงชโลมไว้แล้วเพื่อจะให้สิ่งสารพัดสำเร็จโดยพระหัตถ์และพระดำริของพระองค์ที่ได้ตรัสไว้แต่ก่อนนั้น. บัดนี้ พระองค์เจ้าข้า [พระยะโฮวา, ล.ม.] ขอโปรดทอดพระเนตรการขู่ของเขา และโปรดประทานให้ผู้ทาสของพระองค์กล่าวถ้อยคำของพระองค์ด้วยใจกล้า เมื่อพระองค์ได้ทรงเหยียดพระหัตถ์ของพระองค์ออกรักษาโรคให้หาย และได้โปรดให้นิมิตกับการอัศจรรย์บังเกิดขึ้นโดยพระนามแห่งพระเยซูพระบุตรผู้บริสุทธิ์ของพระองค์.’”
16, 17. (ก) ตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีเหตุการณ์อะไรบ้างซึ่งพอจะเทียบได้กับสิ่งที่เริ่มเกิดขึ้นในปี 1914? จงอธิบาย. (ข) นานาชาติปฏิบัติการเช่นไรอยู่ต่อ ๆ ไป ซึ่งเป็นเหตุให้พระยะโฮวาต้องจดบันทึกอะไรลงไปเกี่ยวกับ ‘หนังสือสงครามของพระองค์’?
16 อย่างไรก็ดี เมื่อถึงคราวที่นานาชาติเกิดความกาหลวุ่นวาย กษัตริย์ทั้งหลายยืนหยัดร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ผู้นำทางการเมืองรวมหัวกันต่อต้านพระยะโฮวาและผู้ถูกเจิมของพระองค์คือพระเยซูคริสต์ มีเหตุการณ์อะไรตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจะเปรียบเทียบได้กับสิ่งที่เริ่มขึ้นในปี 1914 หรือ 76 ปีมาแล้ว? ปีนั้นไม่ใช่มีเพียงแต่การปะทุของสงครามโลกครั้งแรกตลอดความเป็นอยู่ของมนุษย์เท่านั้น แต่ที่สำคัญเป็นพิเศษเป็นปีเมื่อ “เวลากำหนดของคนต่างประเทศ” หรือเวลาของชนต่างชาติได้มาสิ้นสุดลง! (ลูกา 21:24) เพลงสรรเสริญ บท 2 เริ่มสำเร็จเป็นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่าในปีนั้นอย่างเห็นได้ชัด.
17 เมื่อเวลาของคนต่างชาติได้สิ้นสุดลงในปี 1914 ไม่มีชาติใดเลย—ไม่มีแม้แต่ชาติในคริสต์ศาสนจักร ซึ่งพลเมืองจำนวนมากในชาติเหล่านั้นมีแง่คิดทางศาสนาว่าตนเป็นยิศราเอลฝ่ายวิญญาณ—เต็มใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ ผู้ถูกเจิมของพระยะโฮวาให้ครองราชย์ปกครองโลก. และบัดนี้ 71 ปีหลังจาก “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักร” ได้ “รับการประกาศทั่วแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ” ตั้งแต่ปี 1919 เป็นต้นมา เป็นที่แน่นอนว่านานาชาติทั้งในและนอกคริสต์ศาสนจักรย่อมจะไม่โห่ร้องต้อนรับกษัตริย์ของพระยะโฮวาซึ่งได้รับการประกาศมานานแล้ว ทั้งคงไม่ได้ให้สัตย์สาบานจะสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ แล้วเพิกถอนการปกครองของตนบนแผ่นดินโลก. (มัดธาย 24:14, ล.ม.) ในทางตรงกันข้าม ในที่สุดพวกเขาก้าวมาไกลถึงเวลาและสถานการณ์ซึ่งเป็นเหตุให้พระยะโฮวาเสมือนบันทึกบทส่งท้ายใน “หนังสือสงครามของพระยะโฮวา.”—อาฤธโม 21:14.
ชัยชนะอย่างรุ่งโรจน์ของพระเจ้ายอดนักรบ
18. พวกเราเห็นชอบกับปฏิบัติการอะไรในส่วนของพระยะโฮวา และใครจะเสมือนอยู่เคียงข้างพระองค์เพื่อความสำเร็จสมจริงของเพลงสรรเสริญบท 110?
18 โอ้พระยะโฮวาแห่งพลโยธา โปรดรุดหน้ารณรงค์ต่อไปเถิด พร้อมกับพระเยซูคริสต์ราชบุตรของพระองค์ทรงอยู่เคียงข้างพระองค์! มีคำกล่าวเชิงพยากรณ์ถึงพระเยซูดังนี้ “จงออกไปปราบในท่ามกลางบรรดาศัตรูของท่าน. พระยะโฮวาเองที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของท่าน จะทรงฟาดฟันกษัตริย์ทั้งหลายให้ย่อยยับในวันพิโรธของพระองค์. พระองค์จะทรงสำเร็จโทษชนประเทศต่าง ๆ พระองค์ให้ซากศพเกลื่อนกล่นอยู่ทั่วไป. พระองค์จะทรงหวดประมุขประเทศที่มีพลเมืองมากให้ย่อยยับไป.”—บทเพลงสรรเสริญ 110:2, 5, 6, ล.ม.
19. เกี่ยวกับสงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการซึ่งมีอยู่เบื้องหน้า เราจะทูลขอพระองค์ทำสิ่งใดเพื่อเห็นแก่ชนหมู่ใหญ่จำพวกแกะอื่น?
19 โอ้พระยะโฮวาแห่งพลโยธา ขอให้ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์บนแผ่นดินโลกมาเป็นพยานที่เปี่ยมด้วยความยินดีเพราะพระองค์ทรงมีชัยอย่างไม่มีใครเปรียบได้ โดยทางพระเยซูคริสต์กษัตริย์นักรบ ในสงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ ณ ที่ซึ่งมีชื่อตามภาษาฮีบรูว่าฮาร์-มาเกดอน! (วิวรณ์ 16:14) เคียงข้างกับชนที่เหลือแห่งยิศราเอลแท้ฝ่ายวิญญาณ ขอให้ชนกลุ่มใหญ่เยี่ยงแกะที่ “ได้ล้างชำระเสื้อผ้าให้ขาวในพระโลหิตของพระเมษโปดก” นั้น “ผ่านพ้นความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง” โดยความปรีดา เพื่อจะเป็นพยานของพระองค์อยู่ทางแผ่นดินโลกตลอดนิรันดร์กาล! (วิวรณ์ 7:14) ภายใต้การดูแลอย่างรักใคร่ของพระองค์ ขอให้พวกเขารอดชีวิตเข้าไปอยู่ในดินแดนที่ปลอดสงครามแห่งพระบุตรผู้ทรงได้ชัยชนะ ซึ่งพระองค์จะครอบครองแผ่นดินโลกที่ถูกชำระแล้วซึ่งเปลี่ยนสภาพเป็นอุทยานอันสวยสดงดงาม ตามที่พระองค์ทรงมุ่งหมายแต่แรก. ขอให้คนเหล่านี้เป็นพยานหลักฐานที่ประจักษ์แก่คนทั้งหลายซึ่งถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายเพื่อการชันสูตรเชิดชูพระบรมเดชานุภาพอันเป็นสิทธิของพระองค์เหนือเอกภพทั้งสิ้น! พวกเราขอขอบพระคุณพระองค์ที่จะได้ทรงจัดการกับประเด็นสากลให้เด็ดขาดตลอดไป!
คุณจำได้ไหม?
▫ อะไรคือประเด็นสำคัญที่สุดเฉพาะหน้ามนุษย์และพวกทูตสวรรค์?
▫ มีข้อแตกต่างอะไรระหว่างการสู้รบของพระยะโฮวาเพื่อชนชาติยิศราเอลในกาลโบราณกับการสู้รบเพื่อยิศราเอลฝ่ายวิญญาณ?
▫ ในระหว่างสงครามอาร์มาเก็ดดอน พยานพระยะโฮวาจะยึดหลักอะไร และเพราะเหตุใด?
▫ เมื่อไรที่เพลงสรรเสริญบท 2:1, 2 ได้สำเร็จสมจริงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน?
▫ จะมีการจัดการกับประเด็นสากลอย่างเด็ดขาดโดยวิธีใด?
[รูปภาพหน้า 24, 25]
“ชนหมู่ใหญ่” จะเปล่งเสียงแสดงความยินดีในชัยชนะแห่งกษัตริย์ผู้บำรุงเลี้ยงที่พระเจ้าทรงแต่งตั้ง