ทำไมต้องให้การรับใช้พระยะโฮวาสำคัญเป็นอันดับแรก?
“ปากของข้าพเจ้าจะพรรณนาถึงความชอบธรรมของพระองค์, และความรอดของพระองค์วันยังค่ำ.”—เพลง. 71:15
คุณจะตอบอย่างไร?
เหตุใดโนอาห์ โมเซ ยิระมะยาห์ และเปาโลจึงจัดให้พระยะโฮวาสำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิตของพวกเขา?
อะไรจะช่วยคุณให้ตัดสินใจในเรื่องวิธีใช้ชีวิต?
เหตุใดคุณจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้การรับใช้พระยะโฮวาสำคัญเป็นอันดับแรก?
1, 2. (ก) การที่ใครคนหนึ่งอุทิศตัวแด่พระยะโฮวาแสดงว่าเขามีความตั้งใจเช่นไร? (ข) เราจะได้รับประโยชน์อะไรจากการพิจารณาตัวอย่างของโนอาห์ โมเซ ยิระมะยาห์ และเปาโล?
เมื่อคุณอุทิศตัวและรับบัพติสมาเป็นสาวกของพระเยซู คุณได้ทำสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง. การอุทิศตัวแด่พระเจ้านับเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดเท่าที่ใครคนหนึ่งจะทำได้. คุณพูดกับพระยะโฮวาในทำนองนี้: ‘ข้าแต่พระยะโฮวา ข้าพเจ้าปรารถนาจะให้พระองค์เป็นนายของข้าพเจ้าในทุกแง่ทุกมุมของชีวิต. ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์. ขอทรงบอกข้าพเจ้าว่าควรใช้เวลาที่มีอยู่อย่างไร สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิตของข้าพเจ้าควรได้แก่อะไร และข้าพเจ้าควรใช้ความสามารถและสิ่งที่ข้าพเจ้ามีอย่างไร.’
2 ถ้าคุณเป็นคริสเตียนที่อุทิศตัวแล้ว นั่นคือสิ่งที่คุณสัญญากับพระยะโฮวา. เป็นเรื่องน่าชมเชยที่คุณตัดสินใจทำอย่างนั้น; นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและฉลาดสุขุม. แต่ในเมื่อตอนนี้คุณยอมรับพระยะโฮวาเป็นนายของคุณแล้ว คุณใช้เวลาของคุณอย่างไร? ตัวอย่างของโนอาห์ โมเซ ยิระมะยาห์ และอัครสาวกเปาโลช่วยเราให้ตรวจสอบตัวเอง. พวกเขาแต่ละคนเป็นผู้ที่รับใช้พระยะโฮวาอย่างสุดชีวิต. สภาพการณ์ของเราคล้ายกับสภาพการณ์ของพวกเขา. การตัดสินใจของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกในชีวิตพวกเขาคืออะไร และนั่นน่าจะกระตุ้นเราให้ตรวจสอบตัวเองว่าเรากำลังใช้เวลาของเราอย่างไร.—มัด. 28:19, 20; 2 ติโม. 3:1
ก่อนน้ำท่วมโลก
3. สมัยของเราคล้ายกับสมัยของโนอาห์อย่างไร?
3 พระเยซูทรงเปรียบเทียบสมัยของโนอาห์กับสมัยของเรา. พระองค์ตรัสว่า “สมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์มาประทับก็จะเป็นอย่างนั้น.” ผู้คนในสมัยโนอาห์ “กินดื่ม แต่งงานเป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ และพวกเขาไม่แยแสจนกระทั่งน้ำมาท่วมและกวาดพวกเขาไปเสียสิ้น.” (มัด. 24:37-39) มนุษยชาติส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ใช้ชีวิตโดยไม่สนใจเรื่องความเร่งด่วนของยุคสมัยของเรา. พวกเขาไม่แยแสคำเตือนที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าประกาศ. หลายคนถึงกับเย้ยหยันความคิดที่ว่าพระเจ้าจะเข้าแทรกแซงกิจการของมนุษย์ เช่นเดียวกับที่ผู้คนในสมัยของโนอาห์เย้ยหยัน. (2 เป. 3:3-7) แต่ในสภาพแวดล้อมที่ผู้คนไม่เป็นมิตรเช่นนั้น โนอาห์ใช้เวลาของท่านอย่างไร?
4. โนอาห์ใช้เวลาของท่านอย่างไรหลังจากได้รับงานมอบหมายจากพระยะโฮวา และเพราะเหตุใด?
4 หลังจากที่พระเจ้าทรงแจ้งให้ทราบพระประสงค์และมอบหมายงานให้โนอาห์ทำ ท่านก็สร้างเรือเพื่อคุ้มครองชีวิตของมนุษย์และสัตว์ให้รอด. (เย. 6:13, 14, 22) โนอาห์ยังประกาศเรื่องการสำเร็จโทษของพระยะโฮวาที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย. อัครสาวกเปโตรเรียกโนอาห์ว่า “ผู้ประกาศความชอบธรรม” ซึ่งแสดงว่าท่านพยายามช่วยเพื่อนมนุษย์ให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเพียงไรที่พวกเขาต้องลงมือปฏิบัติ. (อ่าน 2 เปโตร 2:5) คุณคิดว่าเป็นเรื่องสมเหตุผลไหมที่โนอาห์กับครอบครัวจะทุ่มเทความพยายามในการพัฒนาอาชีพการงาน พยายามจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น ๆ หรือมีรูปแบบชีวิตที่สะดวกสบาย? ไม่เป็นอย่างนั้นแน่! เพราะรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันข้างหน้า พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงสิ่งใดก็ตามที่จะทำให้เขวไปจากงานของพวกเขา.
สิ่งที่เจ้าชายแห่งอียิปต์เลือก
5, 6. (ก) การศึกษาที่โมเซได้รับคงมุ่งหมายจะเตรียมท่านไว้ให้พร้อมสำหรับอะไร? (ข) เหตุใดโมเซจึงเลือกที่จะไม่ดำเนินชีวิตในฐานะเจ้าชายแห่งอียิปต์?
5 ต่อไป ขอให้เรามาพิจารณาตัวอย่างของโมเซ. ท่านถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นในพระราชวังอียิปต์ฐานะบุตรบุญธรรมของธิดาฟาโรห์. ในฐานะเจ้าชาย ท่านได้รับการสอน “วิชาการทุกอย่างของชาวอียิปต์.” (กิจ. 7:22; เอ็ก. 2:9, 10) การศึกษาที่ท่านได้รับนี้คงมีเป้าหมายที่จะเตรียมท่านไว้ให้พร้อมสำหรับหน้าที่การงานในวังของฟาโรห์. ท่านอาจได้เป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลที่มีอำนาจมากที่สุดในสมัยนั้น. เมื่ออยู่ในตำแหน่งนั้น ท่านสามารถมีสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือย มีเอกสิทธิ์ และมีสิ่งที่ให้ความบันเทิงเริงรมย์. แต่การเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายของโมเซไหม?
6 เนื่องจากได้รับการฝึกอบรมจากพ่อแม่แท้ ๆ ของท่านในช่วงแรกของชีวิต โมเซคงจะรู้ว่าพระยะโฮวาทรงสัญญาอะไรกับบรรพบุรุษของท่าน คืออับราฮาม ยิศฮาค และยาโคบ. โมเซแสดงความเชื่อในคำสัญญาเหล่านั้น. ท่านคงต้องได้ใคร่ครวญอย่างละเอียดในเรื่องอนาคตและวิธีที่ท่านจะแสดงความภักดีต่อพระยะโฮวา. เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกว่าจะเป็นเจ้าชายแห่งอียิปต์หรือจะเป็นทาสชาวอิสราเอล ท่านตัดสินใจอย่างไร? โมเซเลือกเอา “การถูกทำทารุณร่วมกับประชาชนของพระเจ้าแทนที่จะเพลิดเพลินชั่วคราวกับบาป.” (อ่านฮีบรู 11:24-26) หลังจากนั้น ท่านดำเนินชีวิตตามการชี้นำของพระยะโฮวา. (เอ็ก. 3:2, 6-10) เหตุใดโมเซจึงทำเช่นนั้น? เพราะท่านเชื่อคำสัญญาของพระเจ้า. ท่านลงความเห็นว่าไม่มีอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับท่านในอียิปต์. ที่จริง หลังจากนั้นไม่นานพระเจ้าได้ลงโทษชาตินี้ด้วยภัยพิบัติสิบประการ. คุณเห็นบทเรียนในเรื่องนี้สำหรับเราที่อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาในทุกวันนี้ไหม? แทนที่จะมุ่งทำงานอาชีพหรือเน้นเรื่องความสนุกเพลิดเพลินที่มีอยู่ในระบบนี้ เราต้องจัดให้พระยะโฮวาและการรับใช้พระองค์สำคัญเป็นอันดับแรก.
ยิระมะยาห์รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
7. สถานการณ์ของยิระมะยาห์คล้ายกับสถานการณ์ของเราอย่างไร?
7 อีกคนหนึ่งที่จัดให้การรับใช้พระยะโฮวาสำคัญเป็นอันดับแรกคือผู้พยากรณ์ยิระมะยาห์. พระยะโฮวาทรงมอบหมายงานให้ยิระมะยาห์เป็นผู้พยากรณ์เพื่อประกาศข่าวสารการพิพากษาต่อกรุงเยรูซาเลมและอาณาจักรยูดาห์ที่ออกหาก. ในแง่หนึ่ง ยิระมะยาห์มีชีวิตอยู่ “ในช่วงปลายยุค.” (ยิระ. 23:19, 20, ล.ม.) ท่านรู้ดีว่าระบบที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นจะอยู่อีกไม่นาน.
8, 9. (ก) เหตุใดบารุคจำเป็นต้องแก้ไขความคิดของเขา? (ข) เราควรคำนึงถึงอะไรเมื่อวางแผน?
8 ความเชื่อมั่นที่ยิระมะยาห์มีทำให้ท่านหลีกเลี่ยงการทำอะไร? ท่านไม่ได้พยายามสร้างอนาคตในระบบที่มืดมนนั้น. การทำอย่างนั้นย่อมเป็นเรื่องโง่เขลา. อย่างไรก็ตาม มีอยู่ช่วงหนึ่งที่บารุค เลขานุการของยิระมะยาห์ ไม่ได้มองสิ่งต่าง ๆ อย่างที่ควรจะมอง. พระเจ้าจึงทรงดลใจยิระมะยาห์ให้บอกเลขานุการของท่านว่า “นี่แน่ะ, สิ่งซึ่งเราได้ก่อขึ้นเราจะหักพังลงเสีย, แลสิ่งซึ่งเราได้ปลูกลงแล้วเราจะถอนขึ้น, คือว่าประเทศนี้ทั้งหมด. แลเจ้าได้แสวงหาซึ่งของใหญ่สำหรับตัวหรือ, อย่าหาเลย, เพราะนี่แน่ะ, เราจะนำความร้ายมาบนบรรดาเนื้อหนัง . . . แต่ชีวิตของเจ้าจะยกให้แก่เจ้าเป็นของปล้นสำหรับเจ้าในบรรดาตำบลที่เจ้าจะไปอยู่นั้น.”—ยิระ. 45:4, 5
9 เราไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว “ของใหญ่” ที่บารุคแสวงหาสำหรับตนนั้นคืออะไร.a แต่เรารู้ว่าสิ่งนั้นจะอยู่อีกไม่นาน เพราะมันจะถูกทำลายเมื่อชาวบาบิโลนมาพิชิตกรุงเยรูซาเลมในปี 607 ก่อนสากลศักราช. คุณเห็นบทเรียนสำหรับเราไหม? เพื่อจะได้สิ่งจำเป็นต่าง ๆ สำหรับชีวิต เราต้องวางแผนบางอย่างไว้สำหรับอนาคต. (สุภา. 6:6-11) แต่ฉลาดสุขุมไหมที่จะลงทุนลงแรงและใช้เวลามากมายในการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีคุณค่าถาวร? จริงอยู่ องค์การของพระยะโฮวายังคงวางแผนอยู่เรื่อย ๆ ที่จะสร้างหอประชุมราชอาณาจักร อาคารสำนักงานสาขา และโครงการอื่น ๆ. แต่ความพยายามเหล่านี้มีคุณค่าถาวร เพราะมีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมผลประโยชน์ของราชอาณาจักร. ดังนั้น เมื่อวางแผน ประชาชนที่อุทิศตัวของพระยะโฮวาควรจัดให้ราชอาณาจักรของพระเจ้าสำคัญเป็นอันดับแรกเช่นเดียวกัน. คุณมั่นใจจริง ๆ ไหมว่าคุณกำลัง “แสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของ [พระยะโฮวา] ก่อน”?—มัด. 6:33
‘ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนเศษขยะ’
10, 11. (ก) ก่อนเปาโลจะมาเป็นคริสเตียน อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับท่าน? (ข) เหตุใดเปาโลจึงเปลี่ยนเป้าหมายของท่านอย่างสิ้นเชิง?
10 สุดท้าย ขอให้เราพิจารณาตัวอย่างของเปาโล. ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียน เส้นทางชีวิตของท่านดูเหมือนว่าจะมีอนาคตที่ดี. ท่านได้ศึกษากฎหมายของชาวยิวกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในสมัยนั้น. ท่านได้รับมอบอำนาจจากมหาปุโรหิตชาวยิว. และท่านกำลังก้าวหน้าในศาสนายิวยิ่งกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคน. (กิจ. 9:1, 2; 22:3; 26:10; กลา. 1:13, 14) ถึงกระนั้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเปาโลตระหนักว่าพระยะโฮวาไม่ได้อวยพรชาวยิวในฐานะชาติอีกต่อไป.
11 เปาโลตระหนักว่าอาชีพการงานในระบบยิวไม่มีคุณค่าใด ๆ ในมุมมองของพระยะโฮวา. อาชีพดังกล่าวไม่ยั่งยืน. (มัด. 24:2) อดีตฟาริซายผู้นี้ถึงกับกล่าวว่า เมื่อเทียบกับความเข้าใจใหม่ที่กระจ่างชัดเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระเจ้าและงานรับใช้ของคริสเตียนอันเป็นสิทธิพิเศษแล้ว สิ่งที่เมื่อก่อนท่านเคยคิดว่าสำคัญตอนนี้ท่านถือว่าเป็นเหมือน “เศษขยะ.” เปาโลละทิ้งศาสนายิวและอุทิศชีวิตที่เหลือบนแผ่นดินโลกเพื่อประกาศข่าวดี.—อ่านฟิลิปปอย 3:4-8, 15; กิจ. 9:15
จงตรวจสอบสิ่งที่คุณถือว่าสำคัญ
12. พระเยซูทรงให้อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากที่พระองค์รับบัพติสมา?
12 โนอาห์ โมเซ ยิระมะยาห์ เปาโล และคนอื่น ๆ อีกหลายคนใช้เวลาและกำลังส่วนใหญ่ของตนในการรับใช้พระยะโฮวา. พวกเขาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรา. แน่นอน ตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้รับใช้ที่อุทิศตัวแล้วของพระยะโฮวาคือพระเยซู. (1 เป. 2:21) หลังจากรับบัพติสมา พระเยซูทรงทุ่มเทชีวิตทั้งสิ้นที่เหลืออยู่บนแผ่นดินโลกเพื่อประกาศข่าวดีและทำให้พระยะโฮวาได้รับการสรรเสริญ. ดังนั้น การรับใช้พระยะโฮวาควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับคริสเตียนทุกคนที่ทำตามแบบอย่างของพระเยซูและยอมรับพระยะโฮวาเป็นนายของตน. การรับใช้พระยะโฮวาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับคุณไหม? เราจะรับใช้พระยะโฮวามากขึ้นและขณะเดียวกันก็ดูแลหน้าที่รับผิดชอบอื่น ๆ ฝ่ายโลกได้อย่างไร?—อ่านบทเพลงสรรเสริญ 71:15; 145:2
13, 14. (ก) คริสเตียนที่อุทิศตัวแล้วได้รับการสนับสนุนให้พิจารณาอะไร? (ข) อะไรทำให้ประชาชนของพระเจ้าอิ่มใจยินดี?
13 ตลอดหลายปี องค์การของพระยะโฮวาได้สนับสนุนคริสเตียนหลายต่อหลายครั้งให้พิจารณาอย่างจริงจังว่าเขาจะเป็นไพโอเนียร์ได้ไหม. ด้วยเหตุผลหลายอย่าง สภาพการณ์ของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์บางคนของพระยะโฮวาทำให้เขาทุ่มเทตัวในงานประกาศโดยเฉลี่ยเดือนละ 70 ชั่วโมงไม่ได้. พวกเขาไม่ควรรู้สึกไม่ดีเกี่ยวด้วยเรื่องนี้. (1 ติโม. 5:8) แต่จะว่าอย่างไรสำหรับคุณ? การเป็นไพโอเนียร์เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคุณจริง ๆ ไหม?
14 ขอให้นึกถึงความยินดีที่ประชาชนของพระเจ้าหลายคนมีในเดือนมีนาคมปีนี้. เดือนนี้เป็นเดือนก่อนการประชุมอนุสรณ์ และไพโอเนียร์สมทบได้รับอนุญาตเป็นพิเศษที่จะเลือกได้ว่าพวกเขาจะอุทิศเวลาในงานประกาศ 30 ชั่วโมงหรือ 50 ชั่วโมง. (เพลง. 110:3) หลายล้านคนเป็นไพโอเนียร์สมทบ และมีความตื่นเต้นยินดีเป็นพิเศษในประชาคมต่าง ๆ. คุณจะจัดกิจธุระของคุณเพื่อจะประสบความยินดีคล้าย ๆ กันนั้นบ่อยขึ้นได้ไหม? เมื่อสิ้นสุดแต่ละวัน คริสเตียนที่อุทิศตัวแล้วรู้สึกอิ่มใจยินดีอย่างยิ่งที่สามารถกล่าวได้ว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา ข้าพเจ้าได้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ในการรับใช้พระองค์แล้ว.”
15. หนุ่มสาวคริสเตียนควรตั้งเป้าหมายอะไรขณะที่ยังเรียนในโรงเรียน?
15 ถ้าคุณใกล้จะเรียนจบการศึกษาภาคบังคับ คุณอาจมีสุขภาพดีและมีหน้าที่รับผิดชอบไม่มาก. คุณเคยพิจารณาอย่างจริงจังในเรื่องการรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำไหม? ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อาจารย์ที่ปรึกษาในโรงเรียนเชื่อมั่นอย่างจริงใจว่าการเรียนสูงและการวางแผนเพื่อจะมีงานอาชีพดี ๆ ทำเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ. ถึงกระนั้น ความเชื่อมั่นของพวกเขายึดโยงอยู่กับระบบสังคมและการเงินที่ไม่ยั่งยืน. ตรงกันข้าม ถ้าคุณให้งานรับใช้พระยะโฮวาเป็นงานประจำชีพ คุณก็จะดำเนินตามเป้าหมายที่ถาวรและคุ้มค่าที่สุด. และนั่นเป็นการทำตามตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของพระเยซู. การตัดสินใจที่ฉลาดสุขุมเช่นนั้นจะทำให้คุณมีความสุข. การตัดสินใจเช่นนั้นจะปกป้องคุณไว้. และการทำอย่างนั้นจะแสดงให้เห็นว่าคุณตั้งใจแน่วแน่จะดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวแด่พระยะโฮวา.—มัด. 6:19-21; 1 ติโม. 6:9-12
16, 17. คริสเตียนควรถามตัวเองเช่นไรเกี่ยวกับการรับใช้พระยะโฮวา?
16 ผู้รับใช้ของพระเจ้าหลายคนในทุกวันนี้ทำงานวันละหลายชั่วโมงเพื่อจะมีสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับครอบครัว. แต่บางคนอาจทำงานมากเกินกว่าที่จำเป็น. (1 ติโม. 6:8) โลกการค้ากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เราคิดว่าเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง และนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เรื่อย ๆ. แต่คริสเตียนแท้ไม่ต้องการให้โลกของซาตานมาบงการว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเขา. (1 โย. 2:15-17) สำหรับคนที่เกษียณอายุแล้ว มีวิธีใดอีกหรือที่ดีกว่าการใช้เวลาในงานรับใช้เป็นไพโอเนียร์และให้การรับใช้พระยะโฮวาสำคัญเป็นอันดับแรก?
17 ผู้รับใช้ที่อุทิศตัวของพระยะโฮวาทุกคนอาจถามตัวเองว่า เป้าหมายหลักในชีวิตของฉันคืออะไร? ฉันกำลังจัดให้ผลประโยชน์ของราชอาณาจักรสำคัญเป็นอันดับแรกไหม? ฉันเลียนแบบพระเยซูในเรื่องการมีน้ำใจเสียสละไหม? ฉันกำลังเอาใจใส่คำแนะนำของพระเยซูที่ให้ตามพระองค์เรื่อยไปไหม? ฉันจะปรับตารางเวลาเพื่อจะอุทิศเวลามากขึ้นในงานประกาศเรื่องราชอาณาจักรหรืองานอื่น ๆ ในการรับใช้พระเจ้าได้ไหม? แม้แต่เมื่อสภาพการณ์ของฉันในขณะนี้ไม่เอื้ออำนวยที่จะขยายงานรับใช้ ฉันกำลังพัฒนาน้ำใจเสียสละต่อ ๆ ไปไหม?
‘เพื่อให้มีใจประสงค์และลงมือทำ’
18, 19. คุณอาจอธิษฐานขออะไร และเหตุใดคำอธิษฐานนั้นจะทำให้พระยะโฮวาทรงยินดี?
18 เป็นเรื่องน่ายินดีที่เห็นว่าประชาชนของพระเจ้ามีความกระตือรือร้นอย่างยิ่ง. อย่างไรก็ตาม บางคนอาจไม่รู้สึกว่าอยากเป็นไพโอเนียร์หรือคิดว่าเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะทำได้ แม้ว่าสภาพการณ์ในชีวิตเขาอาจเอื้ออำนวย. (เอ็ก. 4:10; ยิระ. 1:6) ถ้าอย่างนั้นเขาน่าจะทำอะไร? เขาน่าจะทูลเรื่องนี้ในคำอธิษฐานถึงพระยะโฮวา. เปาโลบอกเพื่อนร่วมความเชื่อว่า พระยะโฮวา “ทรงเป็นผู้ที่ดำเนินงานอยู่ในตัวท่านทั้งหลายเพื่อให้พวกท่านมีใจประสงค์และลงมือทำตามที่พระองค์ชอบพระทัย.” (ฟิลิป. 2:13) ถ้าคุณไม่มีความรู้สึกว่าอยากขยายงานรับใช้ของคุณ จงทูลขอพระยะโฮวาให้ช่วยคุณมีความปรารถนาและความสามารถที่จะทำอย่างนั้น.—2 เป. 3:9, 11
19 โนอาห์ โมเซ ยิระมะยาห์ เปาโล และพระเยซูล้วนเป็นผู้ซื่อสัตย์ที่อุทิศตน. ผู้ซื่อสัตย์เหล่านี้ใช้เวลาและกำลังของตนเพื่อประกาศข่าวสารที่เป็นคำเตือนของพระยะโฮวา. ทุกคนไม่ยอมให้สิ่งใดมาทำให้เขาเขวจากงานที่ได้รับมอบหมาย. อวสานของระบบปัจจุบันใกล้จะถึงอยู่แล้ว. ดังนั้น เราทุกคนที่อุทิศชีวิตแด่พระเจ้าแล้วต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรากำลังทำตามแบบอย่างอันยอดเยี่ยมเหล่านี้ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์. (มัด. 24:42; 2 ติโม. 2:15) โดยทำอย่างนั้น เราจะทำให้พระยะโฮวาพอพระทัยและเก็บเกี่ยวพระพรอันอุดม.—อ่านมาลาคี 3:10
[เชิงอรรถ]
a โปรดดูหนังสือพระเจ้าตรัสกับเราผ่านทางยิระมะยาห์ หน้า 104-106.
[ภาพหน้า 21]
ผู้คนไม่แยแสคำเตือนของโนอาห์
[ภาพหน้า 24]
คุณเคยคิดอย่างจริงจังถึงการรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำไหม?