คุณกำลังติดตามคุณความดีอยู่ไหม?
“สิ่งใดที่มีคุณความดีและสิ่งใดที่น่าสรรเสริญ ก็จงใคร่ครวญสิ่งเหล่านี้ต่อ ๆ ไป.”—ฟิลิปปอย 4:8, ล.ม.
1. ความชั่วคืออะไร และเหตุใดความชั่วไม่ได้ทำให้การนมัสการพระยะโฮวาเสื่อมไป?
ความชั่วเป็นสภาพเลวทรามหรือความเสื่อมทางศีลธรรม. ความชั่วแทรกซึมไปทั่วในโลกที่เราอาศัยอยู่. (เอเฟโซ 2:1-3) อย่างไรก็ตาม พระยะโฮวาพระเจ้าจะไม่ยอมให้การนมัสการที่สะอาดของพระองค์เป็นมลทิน. สรรพหนังสือฝ่ายคริสเตียน, การประชุม, การประชุมหมวด, และการประชุมภาค เตือนเราอย่างที่เหมาะแก่เวลาให้ระวังการประพฤติที่ไม่ชอบธรรม. เรารับการช่วยเหลือตามหลักพระคัมภีร์ให้ “ยึดถือสิ่งที่ดี” ในสายพระเนตรของพระเจ้า. (โรม 12:9) ด้วยเหตุนั้น ฐานะเป็นองค์การ พยานพระยะโฮวาพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาความสะอาดและคุณความดี. แต่จะว่าอย่างไรสำหรับเราแต่ละคน? จริง ๆ แล้ว คุณ กำลังติดตามคุณความดีอยู่ไหม?
2. คุณความดีคืออะไร และเหตุใดจึงจำเป็นต้องใช้ความพยายามเพื่อรักษาคุณความดี?
2 คุณความดีคือความดีเลิศด้านศีลธรรม, ความประเสริฐ, การกระทำและการคิดอย่างที่ถูกต้อง. คุณความดีมิใช่คุณลักษณะของการอยู่เฉยแต่เป็นคุณลักษณะเชิงปฏิบัติการและในเชิงเสริมสร้าง. คุณความดีหมายรวมมากกว่าการหลีกเว้นบาป; แต่หมายถึงการติดตามสิ่งที่ดี. (1 ติโมเธียว 6:11) อัครสาวกเปโตรกระตุ้นเตือนเพื่อนคริสเตียนดังนี้: “จงเพิ่มความเชื่อของท่านทั้งหลายด้วยคุณความดี.” โดยวิธีใด? โดย ‘มีส่วนในการตอบรับ [ต่อคำสัญญาอันล้ำค่าของพระเจ้า] ด้วยความพยายามอย่างจริงจังทุกอย่าง.’ (2 เปโตร 1:5, ล.ม.) เนื่องจากธรรมชาติที่ผิดบาปของเรา จึงต้องใช้ความพยายามจริง ๆ เพื่อจะรักษาคุณความดีเอาไว้. กระนั้น ปัจเจกบุคคลที่เกรงกลัวพระเจ้าในอดีตได้ทำเช่นนั้น แม้เผชิญอุปสรรคใหญ่หลวง.
ท่านได้ติดตามคุณความดี
3. กษัตริย์อาฮาศมีความผิดฐานทำอะไรที่ชั่วช้า?
3 พระคัมภีร์มีประวัติบันทึกมากมายของคนเหล่านั้นที่ติดตามคุณความดี. ตัวอย่างเช่น ขอพิจารณาฮิศคียาผู้ทรงคุณความดี. พระบิดาของท่าน คือกษัตริย์อาฮาศแห่งยูดา ดูเหมือนว่าเป็นผู้นมัสการพระโมเล็ก. “อาฮาศมีพระชนม์ได้ยี่สิบพรรษาเมื่อขึ้นเสวยราชย์, และได้เสวยราชย์สิบหกปีในกรุงยะรูซาเลม. ท่านหาได้ประพฤติถูกต้องในคลองพระเนตรพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, เหมือนอย่างดาวิดต้นวงศ์ของท่านไม่. แต่ได้ประพฤติตามทางกษัตริย์ทั้งหลายแห่งชาติยิศราเอล, และได้เผาโอรสของท่านถวายบูชา, ตามอย่างอันน่าเกลียดชังของนานาประเทศนั้น, ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงขับไล่ออกเสียจากข้างหน้าพวกยิศราเอล. ท่านได้ถวายบูชายัญและเผาเครื่องหอม, ในที่นมัสการบนเนินสูง, และบนยอดภูเขา, ทั้งใต้ต้นไม้สดทุกต้น.” (2 กษัตริย์ 16:2-4) บางคนอ้างว่า ‘การเผาโอรสถวายบูชา’ หมายถึงพิธีกรรมชำระให้บริสุทธิ์บางอย่างและไม่ใช่การบูชายัญมนุษย์. อย่างไรก็ตาม หนังสือโมเล็ก—พระแห่งการบูชายัญมนุษย์ในพระคัมภีร์เดิม โดยจอห์น เดย์ ให้ข้อสังเกตว่า “มีหลักฐานทั้งจากทางวรรณคดีโบราณและจากทางเมืองคาร์เทจ รวมทั้งหลักฐานทางโบราณคดี ในเรื่องการบูชายัญมนุษย์ . . . ในโลกของชาวคะนาอัน และดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยในเรื่องที่พระคัมภีร์เดิมกล่าวพาดพิงถึง [การบูชายัญมนุษย์].” ยิ่งกว่านั้น 2 โครนิกา 28:3 ระบุว่าอาฮาศ “ได้เผาราชบุตรถวายบูชา.” (เทียบกับพระบัญญัติ 12:31; บทเพลงสรรเสริญ 106:37, 38.) ช่างเป็นการกระทำที่ชั่วช้าอะไรเช่นนี้!
4. กษัตริย์ฮิศคียาเองประพฤติตัวอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ความชั่วมีอยู่ดาษดื่น?
4 ฮิศคียาดำเนินชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความชั่วเช่นนี้อย่างไร? เพลงสรรเสริญบท 119 นับว่าน่าสนใจ เพราะบางคนเชื่อว่าฮิศคียาเป็นผู้ประพันธ์ โดยเขียนขณะที่ยังเป็นเจ้าชายอยู่. (บทเพลงสรรเสริญ 119:46, 99, 100) ดังนั้น สภาพการณ์ของท่านอาจพรรณนาได้ด้วยคำพูดดังนี้: “พวกเจ้านาย [“เจ้าชาย,” ล.ม.] ได้นั่งปรึกษากันต่อสู้ข้าพเจ้า; แต่ผู้ทาสของพระองค์ได้ภาวนาข้อกฎหมายของพระองค์. จิตต์ใจของข้าพเจ้าละลายไปด้วยความหนักใจ.” (บทเพลงสรรเสริญ 119:23, 28) โดยที่มีพวกปฏิบัติศาสนาเท็จอยู่รอบตัว อาจเป็นได้ที่ฮิศคียาตกเป็นเป้าของการเยาะเย้ยในหมู่พวกเจ้าชายในวังจนท่านนอนไม่ใคร่หลับ. กระนั้น ท่านดำเนินตามคุณความดีต่อไปจนถึงเวลาที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ และ “ได้ประพฤติถูกต้องในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา, . . . ท่านได้ไว้ใจในพระยะโฮวาพระเจ้าของยิศราเอล.”—2 กษัตริย์ 18:1-5.
พวกเขาคงคุณความดีเอาไว้
5. ดานิเอลและเพื่อนทั้งสามของท่านเผชิญการทดลองอะไร?
5 ตัวอย่างอื่นในเรื่องคุณความดีได้แก่ดานิเอลและเพื่อนชาวฮีบรูสามคนของท่านซึ่งชื่อฮะนันยา, มิซาเอล, และอะซาระยา. พวกเขาถูกบังคับให้ต้องพลัดพรากบ้านเกิดเมืองนอนและไปเป็นเชลยที่บาบูโลน. คนหนุ่มทั้งสี่ได้รับชื่อใหม่ว่า เบละตะซาซัร, ซัดรัค, เมเซ็ค, และอะเบ็ดนะโค. ได้มีการนำเอา “อาหารเครื่องเสวย” มาให้พวกเขา ซึ่งมีอาหารที่พระบัญญัติของพระเจ้าห้ามรวมอยู่ด้วย. นอกจากนั้น พวกเขาถูกบังคับให้เข้าอบรมหลักสูตรสามปีเกี่ยวด้วย “ความรู้และให้พูดภาษาชาวเคเซ็ดเป็น.” นี่หมายรวมยิ่งกว่าเพียงแค่การเรียนรู้อีกภาษาหนึ่ง เพราะดูเหมือนว่าคำ “ชาวเคเซ็ด” ในที่นี้หมายถึงชนชั้นผู้คงแก่เรียน. ด้วยเหตุนี้ หนุ่มชาวฮีบรูเหล่านี้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ง่ายต่อการรับเอาคำสอนอันบิดเบือนของชาวบาบูโลน.—ดานิเอล 1:1-7.
6. เหตุใดเราสามารถกล่าวได้ว่าดานิเอลติดตามคุณความดี?
6 แม้ถูกกดดันอย่างหนักให้ยอมตาม ดานิเอลและเพื่อนทั้งสามของท่านเลือกคุณความดีแทนที่จะเลือกความชั่ว. ดานิเอล 1:21 กล่าวดังนี้: “ดานิเอลได้อยู่ในหน้าที่ราชการเรื่อยไป [“ดำเนินต่อไป,” ล.ม.] จนถึงปีต้นในรัชกาลของราชาโคเร็ธ.” ใช่แล้ว ดานิเอล “ดำเนินต่อไป” ฐานะผู้รับใช้พระยะโฮวาเป็นเวลากว่า 80 ปี—ตลอดรัชกาลของกษัตริย์ที่ทรงอำนาจหลายองค์ที่ผลัดกันขึ้นมามีอำนาจแล้วก็ตกไป. ท่านรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแม้ผจญแผนร้ายและการคบคิดของพวกข้าราชการที่คิดคด และความชั่วร้ายทางเพศที่แทรกซึมอยู่ในศาสนาของบาบูโลน. ดานิเอลติดตามคุณความดีอยู่เรื่อยไป.
7. อาจเรียนรู้อะไรได้จากแนวทางที่ดานิเอลและเพื่อนทั้งสามติดตาม?
7 เราสามารถเรียนได้มากจากดานิเอลและเพื่อน ๆ ของท่านที่เกรงกลัวพระเจ้า. พวกเขาติดตามคุณความดีและปฏิเสธที่จะถูกหลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมบาบูโลน. แม้ว่าได้รับชื่อแบบชาวบาบูโลน พวกเขาไม่เคยสูญเสียเอกลักษณ์ฐานะผู้รับใช้พระยะโฮวา. น่าสังเกตว่าประมาณ 70 ปีต่อมา กษัตริย์บาบูโลนก็ยังคงเรียกดานิเอลโดยใช้ชื่อฮีบรูของท่าน! (ดานิเอล 5:13) ตลอดชีวิตอันยืนยาวของท่าน ดานิเอลปฏิเสธที่จะอะลุ่มอล่วยแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อย. ตอนที่ยังหนุ่ม ท่านได้ “ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้ตัวเป็นมลทินด้วยอาหารเครื่องเสวย.” (ดานิเอล 1:8) ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จุดยืนที่ไม่ยอมอะลุ่มอล่วยนี้ของดานิเอลและเพื่อนทั้งสามทำให้พวกเขามีความเข้มแข็งจนสามารถรอดชีวิตจากการทดลองที่ถึงเป็นถึงตายซึ่งพวกเขาเผชิญในเวลาต่อมา.—ดานิเอลบท 3 และ 6.
การติดตามคุณความดีในทุกวันนี้
8. เยาวชนคริสเตียนสามารถต้านทานการหล่อหลอมเป็นส่วนของโลกซาตานได้โดยวิธีใด?
8 เช่นเดียวกับดานิเอลและเพื่อนทั้งสามของท่าน ไพร่พลพระเจ้าในปัจจุบันก็ต้านทานการหลอมรวมเข้ากับโลกชั่วของซาตาน. (1 โยฮัน 5:19) หากคุณเป็นเยาวชนคริสเตียน คุณอาจประสบความกดดันอย่างหนักจากเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่จะเลียนแบบรสนิยมแบบสุดโต่งของพวกเขาในเรื่องเสื้อผ้า, การประดับกาย, และดนตรี. กระนั้น แทนที่จะติดตามความเห่อตามสมัยนิยมหรือแบบใหม่ ๆ ไปเสียทุกอย่าง จงหนักแน่น และอย่าปล่อยตัวให้ถูก “นวดปั้น . . . ตามระบบนี้.” (โรม 12:2, ล.ม.) “ละทิ้งความอธรรมและความปรารถนาทางโลกและ . . . ดำเนินชีวิตโดยมีสุขภาพจิตดี มีความชอบธรรมและความเลื่อมใสในพระเจ้า.” (ติโต 2:11, 12, ล.ม.) สิ่งสำคัญคือการยอมรับจากพระยะโฮวา ไม่ใช่จากเพื่อน ๆ ของคุณ.—สุภาษิต 12:2.
9. คริสเตียนอาจเผชิญความกดดันอะไรในโลกธุรกิจ และเขาควรประพฤติตัวอย่างไร?
9 คริสเตียนที่เป็นผู้ใหญ่ก็เช่นกันเผชิญความกดดันและต้องรักษาคุณความดี. คริสเตียนที่เป็นนักธุรกิจอาจถูกล่อใจให้ใช้วิธีการที่น่าสงสัย หรือละเลยระเบียบและกฎหมายภาษีของรัฐบาล. อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคู่แข่งทางธุรกิจหรือเพื่อนร่วมงานประพฤติเช่นไร “เราปรารถนาจะประพฤติตัวซื่อสัตย์ในทุกสิ่ง.” (เฮ็บราย 13:18, ล.ม.) พระคัมภีร์เรียกร้องให้เราเป็นคนสัตย์ซื่อและยุติธรรมต่อนายจ้าง, ลูกจ้าง, ลูกค้า, และรัฐบาลฝ่ายโลก. (พระบัญญัติ 25:13-16; มัดธาย 5:37; โรม 13:1; 1 ติโมเธียว 5:18; ติโต 2:9, 10) นอกจากนี้ ขอให้เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะอยู่ในกฎระเบียบในเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจของเรา. โดยการรักษาบันทึกต่าง ๆ อย่างถูกต้องและทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ บ่อยครั้งช่วยป้องกันความเข้าใจผิดได้.
จงระวังอยู่เสมอ!
10. เหตุใดจึงจำเป็นต้อง “ระวัง” อยู่เสมอเมื่อเราเลือกดนตรี?
10 บทเพลงสรรเสริญ 119:9 เน้นอีกแง่มุมหนึ่งของการรักษาคุณความดีในคลองพระเนตรพระเจ้า. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญร้องดังนี้: “คนหนุ่มทำไฉนจึงจะได้ชำระทางประพฤติของตนให้บริสุทธิ์? ให้ระวังในทางประพฤติตามพระดำรัสของพระองค์.” อาวุธที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดอย่างหนึ่งของซาตานคือดนตรี ซึ่งมีพลังกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก. น่าเศร้า คริสเตียนบางคนได้พลาดไปโดยไม่ได้ “ระวัง” ในเรื่องดนตรี และถูกชักนำเข้าสู่รูปแบบที่สุดโต่งของดนตรี เช่นแรปและเฮฟวีเมทัล. บางคนอาจแย้งว่าดนตรีเช่นนั้นไม่เป็นอันตรายต่อเขา หรือเขาไม่ได้สนใจเนื้อร้อง. คนอื่นบอกว่าเขาเพียงแต่ชอบจังหวะที่หนักแน่นหรือเสียงกีตาร์ดัง ๆ เท่านั้นเอง. อย่างไรก็ตาม สำหรับคริสเตียนแล้ว ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าสิ่งนั้นน่าพอใจหรือไม่. ที่เขาเป็นห่วงคือ นั่น “เป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้ายอมรับ” หรือไม่. (เอเฟโซ 5:10, ล.ม.) ส่วนใหญ่ ดนตรีเฮฟวีเมทัลและแรปส่งเสริมความชั่วร้ายอย่างเช่น การหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์, การผิดประเวณี, และแม้กระทั่งลัทธิซาตาน—การต่าง ๆ ที่ไม่อาจยอมให้มีอยู่ในหมู่ไพร่พลพระเจ้า.a (เอเฟโซ 5:3) ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ เราแต่ละคนน่าจะใคร่ครวญให้ดีต่อคำถามที่ว่า โดยดนตรีที่ฉันเลือก ฉันกำลังติดตามคุณความดีหรือความชั่ว?
11. คริสเตียนจะระวังในเรื่องรายการโทรทัศน์, วีดิทัศน์, และภาพยนตร์ได้โดยวิธีใด?
11 รายการโทรทัศน์, วีดิทัศน์, และภาพยนตร์มากมายส่งเสริมความชั่ว. ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งกล่าวไว้ ‘คติสุขารมย์, กามารมณ์, ความรุนแรง, ความโลภ, และความเห็นแก่ตัว’ มีมากกว่าสิ่งอื่น ๆ ในภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่สร้างกันในปัจจุบัน. ด้วยเหตุนั้น การระวังจึงหมายรวมถึงการรู้จักเลือกสรรสิ่งที่จะชม. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญอธิษฐานดังนี้: “ขอให้ลูกตาของข้าพเจ้าเมินไปเสียจากของอนิจจัง.” (บทเพลงสรรเสริญ 119:37) เยาวชนคริสเตียนคนหนึ่งชื่อโจเซฟใช้หลักการนี้. เมื่อภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาชมอยู่เริ่มจะฉายภาพแสดงเรื่องเพศและความรุนแรง เขาเดินออกจากโรงภาพยนตร์. เขารู้สึกอายไหมที่ทำอย่างนี้? โจเซฟกล่าวว่า “เปล่าเลย ผมคิดคำนึงถึงพระยะโฮวาเป็นอันดับแรกและคิดถึงการทำให้พระองค์พอพระทัย.”
บทบาทของการศึกษาและการคิดรำพึง
12. เหตุใดจำเป็นต้องมีการศึกษาส่วนตัวและการคิดรำพึงเพื่อจะติดตามคุณความดี?
12 การหลีกหนีจากสิ่งชั่วยังไม่พอ. การติดตามคุณความดียังรวมไปถึงการศึกษาและการคิดรำพึงสิ่งดีต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ในพระคำของพระเจ้า เพื่อนำหลักการอันชอบธรรมของพระคัมภีร์เอามาใช้ในชีวิต. ท่านผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญอุทานออกมาดังนี้: “ข้าพเจ้ารักข้อกฎหมายของพระองค์มากเพียงใด! ข้าพเจ้าคำนึงถึงตลอดวัน.” (บทเพลงสรรเสริญ 119:97, ล.ม.) การศึกษาส่วนตัวในคัมภีร์ไบเบิลและสรรพหนังสือฝ่ายคริสเตียนเป็นส่วนหนึ่งของตารางเวลาประจำสัปดาห์ของคุณไหม? จริงอยู่ การจัดเวลาเพื่อศึกษาพระคำของพระเจ้าอย่างขยันขันแข็งและคิดรำพึงอย่างจริงจังในพระคำนั้นอาจเป็นเรื่องท้าทายทีเดียว. แต่บ่อยครั้งเราสามารถซื้อเวลาเอาจากกิจกรรมอื่น. (เอเฟโซ 5:15, 16) อาจเป็นได้ที่คุณใช้เวลาตอนเช้าตรู่ได้เป็นอย่างดีเพื่ออธิษฐาน, ศึกษา, และคิดรำพึง.—เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 119:147.
13, 14. (ก) เหตุใดการคิดรำพึงมีคุณค่ามาก? (ข) การคิดรำพึงข้อพระคัมภีร์อะไรที่สามารถช่วยเราให้เกลียดการทำผิดศีลธรรมทางเพศ?
13 การคิดรำพึงนั้นมีค่าอย่างยิ่ง เพราะเป็นการช่วยเราให้รักษาสิ่งที่ได้เรียนรู้เอาไว้. สำคัญยิ่งกว่านั้น การคิดรำพึงสามารถช่วยส่งเสริมให้มีทัศนะแบบพระเจ้า. เพื่อเป็นตัวอย่าง: การทราบว่าพระเจ้าห้ามการผิดประเวณีเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะ ‘เกลียดชังสิ่งที่ชั่วและยึดถือสิ่งที่ดีไว้.’ (โรม 12:9) เราสามารถรู้สึกได้อย่างแท้จริงถึงวิธีที่พระยะโฮวารู้สึกเกี่ยวกับการผิดศีลธรรมทางเพศโดยคิดรำพึงในข้อพระคัมภีร์หลักอย่างเช่นโกโลซาย 3:5 (ล.ม.) ซึ่งกระตุ้นเตือนดังนี้: “เหตุฉะนั้น จงประหารอวัยวะแห่งร่างกายของท่านทั้งหลายซึ่งอยู่บนแผ่นดินโลกนี้ในเรื่องการล่วงประเวณี, การโสโครก, ราคะตัณหา, ความปรารถนาที่ก่อความเสียหาย, และความละโมบ, ซึ่งเป็นการไหว้รูปเคารพ.” จงถามตัวเองว่า ‘ราคะตัณหาแบบไหนที่ฉันต้องประหาร? ฉันควรหลีกเลี่ยงอะไรที่อาจกระตุ้นความปรารถนาที่ไม่สะอาด? มีอะไรที่ฉันต้องปรับเปลี่ยนไหมในวิธีที่ฉันปฏิบัติต่อเพศตรงข้าม?’—เทียบกับ 1 ติโมเธียว 5:1, 2.
14 เปาโลกระตุ้นเตือนคริสเตียนให้หลีกเว้นการผิดประเวณีและสำแดงการรู้จักบังคับตน เพื่อ “จะไม่มีใครดำเนินไปถึงขั้นที่เกิดความเสียหายและละเมิดสิทธิ์แห่งพี่น้องของตน.” (1 เธซะโลนิเก 4:3-7, ล.ม.) ถามตัวเองว่า ‘ทำไมการทำผิดประเวณีก่อความเสียหาย? ฉันจะทำให้ตัวเองหรือคนอื่นเสียหายเช่นไรหากฉันทำบาปในเรื่องนี้? ฉันจะได้รับผลกระทบอย่างไรทางวิญญาณ, ทางอารมณ์, และทางกาย? จะว่าอย่างไรในกรณีของบางคนในประชาคมที่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายของพระเจ้าและไม่กลับใจ? ชีวิตของเขาเป็นเช่นไร?’ การใส่ใจในสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้เกี่ยวกับการประพฤติเช่นนั้นสามารถทำให้ความเกลียดชังสิ่งชั่วในสายพระเนตรพระเจ้าฝังลึกยิ่งขึ้น. (เอ็กโซโด 20:14; 1 โกรินโธ 5:11-13; 6:9, 10; ฆะลาเตีย 5:19-21; วิวรณ์ 21:8) เปาโลกล่าวว่าคนทำผิดประเวณี “มิได้ปัดทิ้งมนุษย์, แต่ได้ปัดทิ้งพระเจ้า.” (1 เธซะโลนิเก 4:8) คริสเตียนแท้คนไหนจะปัดทิ้งพระบิดาฝ่ายสวรรค์ของตนเสียได้?
คุณความดีและการคบหาสมาคม
15. การคบหาสมาคมมีบทบาทเช่นไรขณะที่เราติดตามคุณความดี?
15 เครื่องช่วยอีกอย่างหนึ่งเพื่อรักษาคุณความดีได้แก่การคบหาสมาคมที่ดี. ท่านผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญร้องดังนี้: “ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนกับคนทั้งปวงที่เกรงกลัวพระองค์ [พระยะโฮวา], และกับคนที่ถือรักษาพระโอวาทของพระองค์.” (บทเพลงสรรเสริญ 119:63) เราจำต้องมีการคบหาสมาคมที่ดีงามซึ่งมีที่การประชุมคริสเตียน. (เฮ็บราย 10:24, 25) หากเราแยกตัวโดดเดี่ยว เราอาจกลายเป็นคนที่ถือความคิดตนเป็นใหญ่ และความชั่วอาจเข้าจู่โจมเราโดยง่าย. (สุภาษิต 18:1) อย่างไรก็ตาม มิตรภาพที่อบอุ่นแบบคริสเตียนสามารถเสริมความเข้มแข็งแก่เราในการปลงใจแน่วแน่จะรักษาคุณความดี. แน่นอน เราต้องระวังการคบหาสมาคมที่ไม่ดีด้วย. เราสามารถมีมิตรไมตรีกับเพื่อนบ้าน, เพื่อนร่วมงาน, และเพื่อนนักเรียน. แต่หากเรากำลังดำเนินอย่างฉลาดสุขุมอย่างแท้จริง เราจะเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดเกินไปกับคนที่ไม่ได้ติดตามคุณความดีแบบคริสเตียน.—เทียบกับโกโลซาย 4:5.
16. การนำ 1 โกรินโธ 15:33 มาใช้ช่วยเราให้ติดตามคุณความดีในทุกวันนี้ได้อย่างไร?
16 เปาโลเขียนดังนี้: “การคบหาสมาคมที่ไม่ดีย่อมทำให้นิสัยดีเสียไป.” โดยกล่าวเช่นนี้ ท่านกำลังเตือนเหล่าผู้เชื่อถือว่า เขาอาจสูญเสียความเชื่อได้โดยการคบหาสมาคมกับคนที่อ้างว่าเป็นคริสเตียนซึ่งปฏิเสธคำสอนของพระคัมภีร์เกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตาย. หลักการเบื้องหลังคำเตือนของเปาโลใช้ได้กับการคบหาสมาคมของเราทั้งกับคนภายนอกและภายในประชาคม. (1 โกรินโธ 15:12, 33, ล.ม.) แน่ละ เราไม่อยากจะหลบเลี่ยงพี่น้องชายหญิงฝ่ายวิญญาณของเรา ด้วยเหตุที่พวกเขาเผอิญไม่เห็นด้วยกับทัศนะของเราซึ่งเป็นแง่คิดส่วนตัวโดยแท้. (มัดธาย 7:4, 5; โรม 14:1-12) อย่างไรก็ตาม จำต้องระมัดระวังหากมีบางคนในประชาคมเข้าไปยุ่งเกี่ยวในการกระทำที่น่าสงสัยหรือแสดงน้ำใจขมขื่นหรือชอบบ่น. (2 ติโมเธียว 2:20-22) นับว่าฉลาดที่จะอยู่ใกล้ชิดเสมอกับคนที่เราสามารถ “หนุนใจซึ่งกันและกัน.” (โรม 1:11, 12) ทั้งนี้จะช่วยเราให้ติดตามแนวทางแห่งคุณความดี และรักษาตัวอยู่บน “วิถีแห่งชีวิต.”—บทเพลงสรรเสริญ 16:11, ฉบับแปลใหม่.
การติดตามคุณความดีต่อ ๆ ไป
17. ตามอาฤธโมบท 25 ความหายนะเช่นไรเกิดแก่ชนยิศราเอล และเรื่องนี้ให้บทเรียนอะไรแก่เรา?
17 ช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนชนชาติยิศราเอลเข้าครอบครองแผ่นดินแห่งคำสัญญา พวกเขาหลายพันคนเลือกติดตามความชั่ว—และพบความหายนะ. (อาฤธโมบท 25) ปัจจุบัน ไพร่พลพระยะโฮวายืนอยู่ที่ปากทางสู่โลกใหม่อันชอบธรรม. คนที่ปฏิเสธความชั่วของโลกต่อ ๆ ไปจะได้รับสิทธิพิเศษอันเป็นพระพรให้เข้าไป. ฐานะมนุษย์ไม่สมบูรณ์ เราอาจมีแนวโน้มผิด ๆ แต่พระเจ้าสามารถช่วยเราให้ติดตามการนำอันชอบธรรมแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์. (ฆะลาเตีย 5:16; 1 เธซะโลนิเก 4:3, 4) ด้วยเหตุนั้น ให้เราใส่ใจคำกระตุ้นเตือนของยะโฮซูอะต่อยิศราเอลที่ว่า “จงเกรงพระยะโฮวา, และปฏิบัติพระองค์ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต.” (ยะโฮซูอะ 24:14) ความกลัวอย่างสมควรเกรงว่าจะทำให้พระยะโฮวาไม่พอพระทัยจะช่วยเราให้ดำเนินตามแนวทางแห่งคุณความดี.
18. เกี่ยวกับความชั่วและคุณความดี คริสเตียนทุกคนควรมีความตั้งใจเช่นไร?
18 หากเป็นความปรารถนาแห่งหัวใจคุณที่จะทำให้พระเจ้าพอพระทัย จงตั้งใจเอาใจใส่คำกระตุ้นเตือนของเปาโลที่ว่า “สิ่งใดที่จริง, สิ่งใดที่น่าเอาใจใส่อย่างจริงจัง, สิ่งใดที่ชอบธรรม, สิ่งใดที่บริสุทธิ์, สิ่งใดที่น่ารัก, สิ่งใดที่กล่าวถึงในทางดี, สิ่งใดที่มีคุณความดีและสิ่งใดที่น่าสรรเสริญ ก็จงใคร่ครวญสิ่งเหล่านี้ต่อ ๆ ไป.” หากคุณทำเช่นนี้ จะยังผลเช่นไร? เปาโลบอกว่า “จงปฏิบัติสิ่งเหล่านี้; และพระเจ้าแห่งสันติสุขจะสถิตกับท่าน.” (ฟิลิปปอย 4:8, 9, ล.ม.) ถูกแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาคุณสามารถปฏิเสธความชั่วและดำเนินตามคุณความดีได้.
[เชิงอรรถ]
a โปรดดูหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 เมษายน 1993 หน้า 19-24 และบทความชุด “หนุ่มสาวถามว่า . . . ” ในตื่นเถิด! ฉบับ 8 กุมภาพันธ์ (ภาษาอังกฤษ), 8 มีนาคม, และ 8 เมษายน 1993, และ 8 ธันวาคม 1996.
จุดต่าง ๆ เพื่อทบทวน
▫ จำเป็นต้องมีอะไรเพื่อจะติดตามคุณความดี?
▫ ฮิศคียา, ดานิเอล, และชาวฮีบรูทั้งสามรักษาคุณความดีภายใต้สภาพการณ์เช่นไร?
▫ เราสามารถเป็นเหมือนดานิเอลได้โดยวิธีใดในการต้านทานยุทธอุบายของซาตาน?
▫ เหตุใดคริสเตียนต้องระวังในเรื่องการบันเทิง?
▫ การศึกษา, การคิดรำพึง, และการคบหาสมาคมมีบทบาทเช่นไรในการติดตามคุณความดี?
[รูปภาพหน้า 15]
ฮิศคียาเมื่อยังทรงพระเยาว์ได้ติดตามคุณความดี แม้ห้อมล้อมไปด้วยผู้นมัสการโมเล็ก
[รูปภาพหน้า 17]
คริสเตียนต้องระวังเสมอในเรื่องการบันเทิง