บทความศึกษา 17
พวกคุณที่เป็นแม่ คุณเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของยูนิส?
“อย่าละเลยคำสั่งของแม่ คำสั่งสอนนั้นจะเป็นมงกุฎดอกไม้ที่สวยงามบนหัวลูก และเป็นสร้อยเส้นงามประดับที่คอลูก”—สภษ. 1:8, 9
เพลง 137 ผู้หญิงที่ซื่อสัตย์
ใจความสำคัญa
1-2. (ก) ยูนิสเป็นใคร? และทำไมถึงไม่ง่ายที่เธอจะสอนลูกเรื่องพระยะโฮวาและพระเยซู? (ข) ขอเล่าเกี่ยวกับภาพหน้าปก
ถึงแม้ว่าคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้พูดถึงตอนที่ทิโมธีรับบัพติศมา แต่เราคงนึกออกเลยว่ายูนิสแม่ของเขาจะดีใจขนาดไหนในวันนั้น (สภษ. 23:25) ตอนที่ทิโมธียืนอยู่ในน้ำพร้อมจะรับบัพติศมา ยูนิสคงจะมองดูลูกชายด้วยความภาคภูมิใจ เธอหันไปยิ้มกับโลอิสยายของทิโมธีที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ตอนที่ทิโมธีถูกจุ่มตัวลงในน้ำ ยูนิสคงจะกลั้นหายใจตามลูกชายไปด้วย และพอเขาโผล่ขึ้นมาจากน้ำพร้อมกับยิ้มด้วยความดีใจ แม่ของเขาคงจะน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตัน ยูนิสประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูลูกชายสุดที่รักให้รักพระยะโฮวาและพระเยซู แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ยูนิสต้องผ่านอะไรมาบ้าง?
2 ทิโมธีโตมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาต่างกัน พ่อของเขาเป็นคนกรีก ส่วนแม่กับยายเป็นคนยิว (กจ. 16:1) ตอนที่ยูนิสกับโลอิสเข้ามาเป็นคริสเตียน พ่อของทิโมธีก็ไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนตามไปด้วย แล้วทิโมธีจะเลือกทางไหน? ตอนนั้นทิโมธีคงเป็นวัยรุ่นและโตพอแล้วที่จะตัดสินใจได้เอง เขาจะเลือกนับถือศาสนาตามพ่อของเขาไหม? หรือเขาจะยึดติดกับธรรมเนียมยิวที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก? หรือเขาจะเลือกมาเป็นคริสเตียน?
3. อย่างที่บอกไว้ในสุภาษิต 1:8, 9 พระยะโฮวารู้สึกยังไงกับสิ่งที่คนที่เป็นแม่ทำ?
3 พี่น้องที่เป็นแม่ในทุกวันนี้ก็รักครอบครัวเหมือนกัน และสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเธอก็คืออยากช่วยลูกให้รักและสนิทกับพระยะโฮวา พระองค์เห็นค่าที่พวกเธอทำแบบนี้ (อ่านสุภาษิต 1:8, 9) และพระองค์ก็มีคำแนะนำดี ๆ มากมายเพื่อพวกเธอจะช่วยลูก ๆ ให้มาเป็นผู้รับใช้พระองค์
4. แม่เจอปัญหาอะไรในทุกวันนี้?
4 พี่น้องที่เป็นแม่อาจสงสัยว่าลูกโตมาจะรับใช้พระยะโฮวาเหมือนทิโมธีหรือเปล่า พ่อแม่รู้ดีว่าลูกเจอความกดดันขนาดไหนในโลกของซาตาน (1 ปต. 5:8) ยิ่งกว่านั้น พี่น้องหญิงหลายคนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือสามีไม่ได้เป็นพยานฯ ก็รู้สึกว่ายากมากที่จะเลี้ยงลูกให้โตมารับใช้พระยะโฮวา ตัวอย่างเช่น พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่ชื่อคริสตินbบอกว่า “สามีฉันรักครอบครัวมากและเป็นพ่อที่ดี แต่เขาห้ามฉันสอนพระคัมภีร์ให้ลูก ตลอดหลายปีฉันร้องไห้ไม่รู้กี่รอบเพราะกลัวว่าจะช่วยลูกให้มาเป็นพยานฯ ไม่ได้”
5. เราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
5 ถ้าคุณเป็นแม่ คุณก็ช่วยลูกให้รักและรับใช้พระเจ้าเหมือนที่ยูนิสทำได้ ในบทความนี้จะคุยกันว่า คุณจะเลียนแบบยูนิสและสอนลูกโดยคำพูดและโดยตัวอย่างของคุณได้ยังไง และเราจะคุยกันว่าพระยะโฮวาจะช่วยคุณได้ยังไงบ้าง
สอนลูกโดยคำพูดของคุณ
6. อย่างที่บอกไว้ใน 2 ทิโมธี 3:14, 15 ทิโมธีมาเป็นคริสเตียนได้ยังไง?
6 ตอนที่ทิโมธียังเด็ก ยูนิสพยายามทำเต็มที่เพื่อจะช่วยลูกให้รู้จัก “พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” เท่าที่ชาวยิวสมัยนั้นรู้ แต่เธอไม่รู้เรื่องพระเยซู ถึงจะเป็นอย่างนั้นสิ่งที่ยูนิสสอนก็ช่วยทิโมธีให้มีความรู้พื้นฐานที่จะมาเป็นคริสเตียน แต่พอทิโมธีโตขึ้น เขาก็ต้องตัดสินใจเองว่าจะมาเป็นคริสเตียนไหม และในที่สุดเขาก็เข้ามาเป็นคริสเตียนจริง ๆ การที่ทิโมธี “มั่นใจ” ในความจริงเรื่องพระเยซู ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม่ของเขา (อ่าน 2 ทิโมธี 3:14, 15) ยูนิสต้องมีความสุขมากแน่ ๆ ที่สอนลูกให้มาเป็นผู้รับใช้พระยะโฮวาได้ ชื่อยูนิสหมายความว่า “ชนะ” และเธอก็เอาชนะความยากลำบากได้สมกับความหมายของชื่อเธอจริง ๆ
7. ยูนิสช่วยลูกชายของเธอยังไงให้ก้าวหน้าต่อไปหลังจากที่เขารับบัพติศมาแล้ว?
7 ถึงทิโมธีจะรับบัพติศมาแล้วซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ แต่ยูนิสก็ยังไม่หมดห่วง เธอคงคิดว่าวันข้างหน้าลูกจะเป็นยังไง? เขาจะไปคบกับเพื่อนไม่ดีไหม? เขาจะไปเรียนที่เอเธนส์แล้วไปเชื่อคำสอนของพวกนักปราชญ์ที่นั่นไหม? ลูกจะทุ่มเทเวลา กำลัง และความหนุ่มแน่นไปกับการหาเงินหาทองไหม? ยูนิสตัดสินใจแทนทิโมธีไม่ได้ แต่เธอช่วยลูกได้ เธอจะช่วยเขายังไง? โดยการสอนลูกอย่างสุดความสามารถให้รักพระยะโฮวา และเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวากับพระเยซูทำเพื่อพวกเขา การสอนลูกให้รักพระยะโฮวาไม่ใช่เรื่องยากแค่ในครอบครัวที่มีความเชื่อทางศาสนาต่างกันเท่านั้น แม้แต่ในครอบครัวที่พ่อกับแม่เป็นพยานฯ ด้วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสอนลูกในแบบที่เข้าถึงหัวใจเพื่อจะช่วยเขาให้โตขึ้นมาเป็นผู้รับใช้พระเจ้า แล้วพ่อแม่จะเรียนอะไรได้จากยูนิส?
8. ภรรยาจะช่วยสามีสอนลูกเกี่ยวกับพระยะโฮวาได้ยังไง?
8 สอนคัมภีร์ไบเบิลให้ลูก พวกคุณที่เป็นพี่น้องหญิง ถ้าสามีของคุณเป็นพี่น้อง พระยะโฮวาอยากให้คุณช่วยสามีสอนลูกเกี่ยวกับพระองค์ วิธีหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือสนับสนุนการนมัสการประจำครอบครัวเป็นประจำ ให้พูดถึงการนมัสการนี้ในแง่บวกเสมอ และคิดดูว่าจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้การนมัสการประจำครอบครัวน่าสนุกและมีบรรยากาศที่ดี หรือคุณอาจช่วยสามีคิดว่าจะทำกิจกรรมพิเศษอะไรได้บ้างในการนมัสการประจำครอบครัว นอกจากนั้น ถ้าลูกโตพอที่จะศึกษากับเขาโดยใช้หนังสือชีวิตที่มีความสุขตลอดไป คุณอาจช่วยสามีสอนลูกโดยใช้หนังสือเล่มนี้
9. คนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือมีสามีไม่ได้เป็นพยานฯ จะได้รับความช่วยเหลือจากไหนบ้าง?
9 พี่น้องหลายคนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือมีสามีที่ไม่ได้เป็นพยานฯ อาจต้องนำการนมัสการประจำครอบครัวเองหรืออาจจะต้องสอนคัมภีร์ไบเบิลกับลูก ถ้าคุณเป็นอย่างนั้น คุณไม่ต้องกังวลมากเกินไปเพราะพระยะโฮวาจะช่วยคุณ พระองค์ให้องค์การเตรียมหลายอย่างที่จะช่วยคุณให้สอนลูกได้ หรือคุณอาจจะขอไอเดียจากพ่อแม่ที่มีประสบการณ์ว่าพวกเขานำการนมัสการประจำครอบครัวกันยังไงบ้างc (สภษ. 11:14) นอกจากนั้น พระยะโฮวาจะช่วยคุณให้คุยกับลูกด้วย ให้คุณอธิษฐานขอพระองค์ให้ช่วยคุณใช้คำถามดี ๆ เพื่อจะเข้าใจว่าลูกคิดอะไรและรู้สึกยังไงจริง ๆ (สภษ. 20:5) คุณอาจจะใช้คำถามง่าย ๆ เช่น ‘มีอะไรที่ลูกไม่ชอบหรือไม่โอเคที่โรงเรียน?’ การถามแบบนี้จะช่วยให้ลูกพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
10. คุณจะทำอะไรได้อีกเพื่อช่วยลูกให้เรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวา?
10 พยายามหาโอกาสสอนลูกเกี่ยวกับพระยะโฮวาให้ได้มากที่สุด ให้คุณพูดถึงพระยะโฮวาให้ลูกฟังบ่อย ๆ และเล่าสิ่งดี ๆ ที่พระองค์ทำให้กับคุณ (ฉธบ. 6:6, 7; อสย. 63:7) เรื่องนี้สำคัญมากโดยเฉพาะถ้าคุณสอนลูกเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลที่บ้านไม่ได้ คริสตินที่พูดถึงก่อนหน้านี้บอกว่า “ฉันแทบไม่มีโอกาสพูดถึงพระยะโฮวาให้ลูก ๆ ฟัง ฉันเลยพยายามหาช่องที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกครั้งที่ทำได้ บางครั้งเราก็จะไปเดินเล่นด้วยกันหรืออาจจะไปพายเรือด้วยกัน แล้วฉันก็จะพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่สวยงามที่พระยะโฮวาสร้างให้พวกเขาฟังและเรื่องอื่น ๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา พอลูก ๆ โตพอ ฉันก็จะช่วยพวกเขาให้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลด้วยตัวเอง” นอกจากนั้น ขอให้คุณพูดแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับองค์การและพี่น้อง และอย่าพูดไม่ดีเกี่ยวกับผู้ดูแล ลูก ๆ จะไปหาผู้ดูแลเวลามีปัญหาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณพูดถึงผู้ดูแลยังไงบ้าง
11. จากยากอบ 3:18 ทำไมเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้บ้านสงบสุขและมีบรรยากาศที่ดี?
11 พยายามช่วยให้บ้านสงบสุขและมีบรรยากาศที่ดี ขอให้คุณบอกรักสามีและลูกบ่อย ๆ และทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณรักพวกเขา ให้คุณพูดถึงสามีแบบที่ให้ความนับถือและสอนให้ลูกทำแบบนั้นด้วย ถ้าคุณทำอย่างนั้น บ้านของคุณก็จะสงบสุขและมีบรรยากาศที่ดี และจะช่วยให้ง่ายขึ้นสำหรับลูก ๆ ที่จะเรียนเกี่ยวกับพระยะโฮวา (อ่านยากอบ 3:18) โยเซฟที่เป็นไพโอเนียร์พิเศษจากโรมาเนียเล่าว่าตอนที่เขาเป็นเด็ก พ่อทำให้แม่ ตัวเขา และพี่ ๆ น้อง ๆ รับใช้พระยะโฮวาลำบากมาก เขาบอกว่า “แม่พยายามมากที่จะทำให้บ้านของเราสงบสุขและมีบรรยากาศที่ดี ยิ่งพ่อแรง แม่ก็จะยิ่งอ่อนโยน และถ้าเมื่อไหร่แม่เริ่มสังเกตว่าพวกเราไม่ค่อยนับถือพ่อและไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อ แม่ก็จะคุยเกี่ยวกับเอเฟซัส 6:1-3 กับพวกเรา แล้วก็จะเล่าให้พวกเราฟังว่าพ่อดียังไงบ้างและทำไมพวกเราต้องรักและนับถือพ่อ มีหลายครั้งที่บรรยากาศในบ้านเครียดมาก แต่แม่ก็ทำให้บรรยากาศดีขึ้นเยอะเลยครับ”
สอนลูกโดยตัวอย่างของคุณ
12. อย่างที่บอกไว้ใน 2 ทิโมธี 1:5 ตัวอย่างของยูนิสมีผลกับทิโมธียังไง?
12 อ่าน 2 ทิโมธี 1:5 ยูนิสเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทิโมธี เธอต้องสอนลูกแน่ ๆ ว่าความเชื่อแท้ต้องแสดงออกโดยการกระทำ (ยก. 2:26) ทิโมธีสังเกตสิ่งที่แม่ทำและเห็นว่าแม่รักพระยะโฮวามากจริง ๆ และเขาก็เห็นด้วยว่าการรับใช้พระยะโฮวาทำให้แม่มีความสุขมาก ตัวอย่างของยูนิสมีผลกับทิโมธียังไง? อย่างที่เปาโลบอก ทิโมธีมีความเชื่อที่เข้มแข็งเหมือนกับแม่ และนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาเห็นตัวอย่างของแม่และเลียนแบบแม่ ทุกวันนี้ก็เหมือนกัน ความประพฤติของพี่น้องหญิงหลายคนชนะใจคนในครอบครัว “โดยไม่ต้องใช้คำพูด” และช่วยพวกเขาให้มารับใช้พระยะโฮวา (1 ปต. 3:1, 2) คุณก็ทำได้เหมือนกัน แล้วคุณต้องทำอะไรบ้าง?
13. ทำไมแม่ต้องให้สายสัมพันธ์ของเธอกับพระยะโฮวาสำคัญที่สุด?
13 ให้สายสัมพันธ์ของคุณกับพระยะโฮวาสำคัญที่สุด (ฉธบ. 6:5, 6) คุณก็คงเหมือนกับแม่ส่วนใหญ่ที่ต้องเสียสละเวลา เงิน การนอนหลับ และอีกหลายอย่างเพื่อจะดูแลลูก ๆ แต่คุณต้องไม่ยุ่งเกินไปจนไม่มีเวลาให้กับพระยะโฮวา ถึงคุณจะเสียสละหลายอย่างแต่เรื่องนี้คุณจะยอมสละไม่ได้ คุณต้องจัดเวลาที่จะอธิษฐาน ศึกษาส่วนตัว และเข้าร่วมการประชุมเป็นประจำ ถ้าคุณทำอย่างนี้ คุณก็จะสนิทกับพระยะโฮวามากขึ้น และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในครอบครัวของคุณและคนอื่น ๆ
14-15. คุณได้เรียนอะไรจากตัวอย่างของลีน มาเรีย และเชา?
14 ให้เรามาดูตัวอย่างของพี่น้องวัยรุ่นที่รักพระยะโฮวาและไว้ใจพระองค์เพราะตัวอย่างแม่ของพวกเขา ลีนที่เป็นลูกสาวของคริสตินเล่าว่า “แม่สอนคัมภีร์ไบเบิลให้พวกเราไม่ได้ตอนที่พ่ออยู่บ้าน แต่พวกเราก็เห็นว่าแม่ไปประชุมไม่เคยขาดเลย ถึงพวกเราจะมีความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลไม่เยอะ แต่ตัวอย่างของแม่ก็ทำให้พวกเรามีความเชื่อเข้มแข็ง เรารู้ว่านี่เป็นความจริงหลายปีก่อนที่เราได้เข้าร่วมการประชุมซะอีก”
15 พ่อของมาเรียชอบด่าและทำร้ายเธอกับแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ ถ้าพวกเขาไปประชุม มาเรียบอกว่า “แม่ของฉันเป็นพี่น้องหญิงที่กล้าหาญมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จัก ตอนที่ฉันเป็นเด็กหลายครั้งฉันจะไม่ยอมทำบางอย่างเพราะว่ากลัวว่าคนอื่นจะพูดยังไง แต่พอฉันเห็นตัวอย่างของแม่ว่าแม่กล้าหาญมากและให้พระยะโฮวาสำคัญที่สุดในชีวิต ฉันก็กล้าขึ้นและไม่รู้สึกกลัว” พ่อของพี่น้องชายที่ชื่อเชาห้ามคนในครอบครัวไม่ให้คุยกันเรื่องพระยะโฮวาและคัมภีร์ไบเบิลในบ้าน เชาเล่าว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่ช่วยผมมากที่สุดก็คือ ผมเห็นแม่ยอมทำทุกอย่างและเสียสละทุกอย่างเพื่อจะเอาใจพ่อ แต่ถ้าเป็นเรื่องพระเจ้า แม่จะไม่ยอม แม่รักพระยะโฮวามากที่สุดในชีวิตเลยครับ”
16. ตัวอย่างของคนที่เป็นแม่มีผลต่อคนอื่นยังไง?
16 คนที่เป็นแม่ ขอให้คุณจำไว้ว่าตัวอย่างของคุณมีผลต่อคนอื่นมาก ลองคิดดูว่าตัวอย่างของยูนิสมีผลต่ออัครสาวกเปาโลยังไง เปาโลเขียนถึงทิโมธีว่า “ผมนึกถึงความเชื่อที่มาจากใจจริงของคุณ ซึ่ง . . . ยูนิสแม่ของคุณมีอยู่ก่อนแล้ว” (2 ทธ. 1:5) เปาโลเห็นความเชื่อของยูนิสเมื่อไหร่? อาจเป็นไปได้ว่าเขาได้เจอกับโลอิสและยูนิสที่เมืองลิสตราตอนที่เขาไปประกาศต่างประเทศรอบแรก และเขาก็อาจจะเป็นคนช่วย 2 คนนี้ให้เข้ามาเป็นคริสเตียน (กจ. 14:4-18) พอผ่านไป 15 ปี ตอนที่เปาโลเขียนจดหมายถึงทิโมธี เขายังจำตัวอย่างที่ดีในเรื่องความซื่อสัตย์ของยูนิสและบอกว่าเธอเป็นตัวอย่างที่น่าเลียนแบบ เปาโลและคริสเตียนคนอื่นในสมัยนั้นต้องประทับใจตัวอย่างของยูนิสมาก และตัวอย่างของเธอก็ให้กำลังใจพวกเขาจริง ๆ ถ้าคุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือสามีของคุณไม่ใช่พยานฯ ขอให้มั่นใจว่าความซื่อสัตย์ของคุณจะให้กำลังใจและส่งผลดีต่อคนอื่นแน่นอน
17. คุณควรทำยังไงถ้าดูเหมือนว่าลูกไม่สนใจสิ่งที่คุณสอน?
17 คุณจะทำยังไงถ้าลูกดูเหมือนไม่สนใจสิ่งที่คุณสอน? ขอให้จำไว้ว่าการสอนลูกต้องใช้เวลา เหมือนกับในภาพถ้าคุณเพาะเมล็ดพืช คุณอาจจะไม่แน่ใจว่าเมล็ดนั้นจะงอกออกมาเป็นต้นและเกิดดอกออกผลไหม ถึงคุณจะบังคับมันไม่ได้ แต่คุณก็ยังรดน้ำต่อไปเพื่อให้โอกาสเมล็ดนั้นงอกออกมาเป็นต้นและเกิดดอกออกผล (มก. 4:26-29) คล้ายกัน คนที่เป็นแม่ คุณก็อาจไม่แน่ใจว่าคุณจะช่วยลูกให้รักพระยะโฮวาได้ไหม ถึงคุณจะบังคับเขาให้สนิทกับพระยะโฮวาไม่ได้ แต่ถ้าคุณพยายามสุดความสามารถเพื่อสอนลูกต่อไป คุณก็ช่วยให้เขามีโอกาสได้มาเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา—สภษ. 22:6
พึ่งความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา
18. พระยะโฮวาจะช่วยลูกของคุณยังไงบ้างเพื่อให้เป็นเพื่อนกับพระองค์?
18 พระยะโฮวาเคยช่วยวัยรุ่นหลายคนมาแล้วให้มาเป็นเพื่อนกับพระองค์ตั้งแต่ในสมัยคัมภีร์ไบเบิล (สด. 22:9, 10) และพระองค์ก็จะช่วยลูกของคุณให้เป็นเพื่อนกับพระองค์ด้วยเหมือนกันถ้าพวกเขาต้องการ (1 คร. 3:6, 7) ถึงลูกของคุณดูเหมือนเริ่มไม่เอาความจริง แต่พระยะโฮวาก็ยังรักและจะเฝ้าดูเขาต่อไป (สด. 11:4) และพอเขาแสดงให้เห็นแค่นิดหน่อยว่า “เต็มใจตอบรับความจริง” พระองค์ก็พร้อมจะช่วยเขาให้เป็นเพื่อนกับพระองค์ (กจ. 13:48; 2 พศ. 16:9) พระองค์อาจจะช่วยให้คุณรู้ว่าจะพูดอะไรกับลูกและจะพูดกับเขาเมื่อไหร่ ซึ่งนั่นเป็นตอนที่ลูกจำเป็นต้องได้ยินมากที่สุด (สภษ. 15:23) หรือพระยะโฮวาอาจจะกระตุ้นให้พี่น้องในประชาคมแสดงความสนใจตัวเขาเป็นพิเศษ แม้ว่าลูกของคุณจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วพระยะโฮวาก็อาจจะช่วยเขาให้นึกถึงบางเรื่องที่คุณสอนเขาตั้งแต่เด็ก ๆ ได้ (ยน. 14:26) ถ้าคุณสอนลูกโดยทางคำพูดและตัวอย่างของคุณต่อ ๆ ไป พระยะโฮวาจะอวยพรคุณแน่นอน
19. ทำไมคุณถึงมั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาพอใจคุณ?
19 พระยะโฮวาจะรักคุณหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าลูกของคุณตัดสินใจรับใช้พระองค์หรือเปล่า ที่พระองค์รักคุณก็เพราะคุณรักพระองค์ ถ้าคุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พระยะโฮวาก็สัญญาว่าพระองค์จะเป็นพ่อให้ลูกคุณและพระองค์จะเป็นผู้ปกป้องคุณ (สด. 68:5) คุณบังคับลูกไม่ได้ และคุณก็ไม่รู้ว่าลูกของคุณจะตัดสินใจรับใช้พระยะโฮวาหรือเปล่า แต่ถ้าคุณพึ่งความช่วยเหลือที่มาจากพระองค์และทำสุดความสามารถต่อไป คุณก็จะทำให้พระองค์พอใจแน่นอน
เพลง 134 ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า
a บทความนี้จะดูว่าเพื่อช่วยลูกให้รู้จักและรักพระยะโฮวา พี่น้องที่เป็นแม่จะเรียนอะไรได้จากยูนิสซึ่งเป็นแม่ของทิโมธี
b บางชื่อเป็นชื่อสมมุติ
c เช่น ดูบท 50 ในหนังสือชีวิตที่มีความสุขตลอดไป และบทความ “ข้อแนะสำหรับการนมัสการประจำครอบครัวและการศึกษาส่วนตัว” ในหอสังเกตการณ์ 15 สิงหาคม 2011 หน้า 6-7