บทความศึกษา 5
เพลง 27 ลูกของพระเจ้าได้รับเกียรติ
“เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเลย”
“พระเจ้าบอกไว้ว่า ‘เราจะไม่มีวันทิ้งเจ้า เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเลย’” —ฮบ. 13:5ข
จุดสำคัญ
เพื่อช่วยให้ผู้รับใช้พระยะโฮวาที่อยู่บนโลกมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกทอดทิ้ง แม้ผู้ถูกเจิมที่เหลืออยู่จะถูกรับขึ้นไปสวรรค์แล้ว
1.ผู้ถูกเจิมทั้งหมดจะถูกรับไปสวรรค์เมื่อไหร่?
เมื่อหลายปีก่อนพยานพระยะโฮวาสงสัยว่า ‘ผู้ถูกเจิมทั้งหมดจะถูกรับไปสวรรค์เมื่อไหร่?’ ก่อนหน้านี้เราเคยเชื่อว่าหลังสงครามอาร์มาเกดโดนจะยังมีผู้ถูกเจิมเหลืออยู่บนโลก พวกเขาจะอยู่ในโลกที่เป็นสวนอุทยานระยะหนึ่ง แต่ในหอสังเกตการณ์ 15 กรกฎาคม 2013 ได้อธิบายกับเราว่า ผู้ถูกเจิมทุกคนจะถูกรับไปสวรรค์ก่อนสงครามอาร์มาเกดโดนเริ่มต้น—มธ. 24:31
2.บางคนอาจสงสัยอะไร? และเราจะคุยเรื่องอะไรบ้างในบทความนี้?
2 แต่อาจมีบางคนสงสัยว่า ถ้าเป็นแบบนั้น “แกะอื่น” ที่รับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ในช่วง “ความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” จะเป็นยังไง? (ยน. 10:16; มธ. 24:21) พี่น้องบางคนอาจกังวลว่าถ้าตอนนั้นผู้ถูกเจิมไปสวรรค์กันหมด พวกเขาคงไม่รู้จะทำยังไงและอาจจะรู้สึกถูกทอดทิ้ง ให้เรามาดู 2 ตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลที่อาจทำให้พวกเขาคิดแบบนั้น แล้วเราจะคุยกันว่าทำไมเราไม่ต้องกลัว
จะไม่เกิดอะไรขึ้น?
3-4.บางคนอาจกลัวอะไร? และอะไรอาจทำให้พวกเขาถึงคิดแบบนั้น?
3 บางคนอาจกลัวว่า ถ้าไม่มีผู้ถูกเจิมที่เป็นคณะกรรมการปกครองอยู่บนโลกแล้ว แกะอื่นอาจเลิกรับใช้พระยะโฮวากันหมด มี 2 ตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลที่อาจทำให้พวกเขาคิดแบบนี้ ตัวอย่างแรกเกี่ยวกับมหาปุโรหิตเยโฮยาดา เยโฮยาดาเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ เขากับภรรยาที่ชื่อเยโฮชาเบอาทปกป้องเยโฮอาชซึ่งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ และช่วยเยโฮอาชให้เป็นกษัตริย์ที่ดี ตลอดเวลาที่มหาปุโรหิตเยโฮยาดายังมีชีวิตอยู่ เยโฮอาชก็เป็นกษัตริย์ที่ดีและซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา แต่พอเยโฮยาดาตาย เยโฮอาชก็เริ่มทำชั่ว เขาฟังพวกเจ้านายของยูดาห์ที่ทำชั่วและทำให้เขาเลิกรับใช้พระยะโฮวา—2 พศ. 24:2, 15-19
4 ตัวอย่างที่ 2 เกี่ยวกับคริสเตียนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงที่พวกอัครสาวกตายไปหมดแล้ว ตอนที่ยอห์นซึ่งเป็นอัครสาวกคนสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่ คริสเตียนยังคงซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา (3 ยน. 4) ช่วงหนึ่งยอห์นกับอัครสาวกคนอื่น ๆ ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้คำสอนของพวกที่ทรยศพระเจ้าแพร่อิทธิพลในหมู่คริสเตียน (1 ยน. 2:18; 2 ธส. 2:7) แต่หลังจากที่ยอห์นตายไป การทรยศพระเจ้าก็แพร่กระจายและลุกลามไปทั่วประชาคมต่าง ๆ เหมือนไฟป่า ภายในแค่ไม่กี่สิบปี คริสเตียนก็พากันเชื่อคำสอนของพวกทรยศพระเจ้า
5.ตัวอย่าง 2 เรื่องในคัมภีร์ไบเบิลไม่ควรทำให้เราคิดแบบไหน?
5 ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นไหมว่าหลังจากที่ผู้ถูกเจิมถูกรับไปสวรรค์หมดแล้ว แกะอื่นจะทำชั่วเหมือนเยโฮอาชและจะทรยศพระเจ้าเหมือนพวกคริสเตียนในยุคแรก? คำตอบก็คือจะไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน! เรามั่นใจได้เต็มที่ว่าเมื่อผู้ถูกเจิมไม่อยู่บนโลกแล้ว แกะอื่นจะยังคงนมัสการพระยะโฮวาต่อไปอย่างซื่อสัตย์และพระองค์จะดูแลพวกเขาอย่างดี ทำไมเราถึงมั่นใจแบบนั้นได้?
การนมัสการแท้จะไม่หมดไป
6.เราจะคุยกันเกี่ยวกับ 3 ช่วงเวลาไหนบ้าง?
6 ทำไมเราถึงมั่นใจได้ว่าการนมัสการแท้จะไม่หมดไปถึงแม้ว่าในอนาคตเราจะต้องเจอกับความยากลำบาก? เรามั่นใจได้จากสิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลบอกเราเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ ช่วงเวลาที่เราอยู่ตอนนี้ต่างกันมากกับช่วงเวลาสมัยชาติอิสราเอลโบราณและสมัยของคริสเตียนในศตวรรษที่สอง ให้เรามาดู 3 ช่วงเวลาต่อไปนี้ด้วยกัน นั่นคือ (1) ช่วงเวลาสมัยอิสราเอลโบราณ (2) ช่วงเวลาหลังจากที่อัครสาวกตายหมดแล้ว และ (3) ช่วงเวลาในสมัยของเราซึ่งเป็น “เวลาที่ทุกสิ่งจะได้รับการฟื้นฟู”—กจ. 3:21
7.ทำไมชาวอิสราเอลที่ซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาไม่หมดหวังเมื่อกษัตริย์และคนส่วนใหญ่เลือกทำชั่ว?
7 ช่วงเวลาสมัยอิสราเอลโบราณ ไม่นานก่อนที่โมเสสจะตาย เขาบอกชาวอิสราเอลว่า “ผมรู้ดีว่าเมื่อผมตายไปแล้ว พวกคุณจะต้องทำชั่วและทิ้งแนวทางที่ผมสั่งพวกคุณไว้แน่ ๆ” (ฉธบ. 31:29) โมเสสยังเตือนพวกเขาด้วยว่าถ้าพวกเขากบฏ คนทั้งชาติจะต้องตกเป็นเชลย (ฉธบ. 28:35, 36) สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงไหม? ใช่ ตลอดหลายร้อยปี มีกษัตริย์ของชาติอิสราเอลหลายองค์ที่เลือกทำชั่วและทำให้คนมากมายหลงไปนมัสการพระเท็จ นี่ทำให้พระยะโฮวาโกรธและลงโทษคนเหล่านั้นและตัดสินว่าจะไม่ให้มีกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ปกครองพวกเขาอีกต่อไป (อสค. 21:25-27) แต่ชาวอิสราเอลที่ซื่อสัตย์ไม่หมดหวัง เมื่อพวกเขาเห็นว่าสิ่งที่พระเจ้าบอกไว้เกิดขึ้นจริง พวกเขาก็กล้าหาญและรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ต่อ ๆ ไป—อสย. 55:10, 11
8.เราควรแปลกใจไหมที่คริสเตียนในศตวรรษที่สองหลงเชื่อคำสอนของพวกทรยศพระเจ้า? ขออธิบาย
8 ช่วงเวลาหลังจากที่อัครสาวกตายหมดแล้ว เราควรแปลกใจไหมที่คริสเตียนในศตวรรษที่สองหลงเชื่อคำสอนของพวกทรยศพระเจ้า? เราไม่แปลกใจเลย พระเยซูบอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการทรยศพระเจ้าครั้งใหญ่ (มธ. 7:21-23; 13:24-30, 36-43) อัครสาวกเปาโล เปโตร และยอห์นก็ยืนยันว่าสิ่งที่พระเยซูบอกไว้ล่วงหน้าเกิดขึ้นจริงตั้งแต่ในช่วงศตวรรษแรก (2 ธส. 2:3, 7; 2 ปต. 2:1; 1 ยน. 2:18) แล้วพอมาถึงศตวรรษที่สอง คริสเตียนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้นก็พากันเชื่อคำสอนของพวกทรยศพระเจ้า ศาสนาคริสเตียนที่ทรยศพระเจ้าได้กลายมาเป็นส่วนของบาบิโลนใหญ่ซึ่งก็คือศาสนาเท็จทั้งหมดในโลก เราเห็นเลยว่าสิ่งที่พระเยซูบอกไว้ล่วงหน้าเกิดขึ้นจริง
9.ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ในตอนนี้ต่างกับสมัยอิสราเอลโบราณและสมัยของคริสเตียนศตวรรษที่สองยังไง?
9 “เวลาที่ทุกสิ่งจะได้รับการฟื้นฟู” ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ในตอนนี้ต่างกันกับสมัยอิสราเอลโบราณและสมัยที่มีการทรยศพระเจ้าครั้งใหญ่ในศตวรรษที่สอง แล้วช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ถูกเรียกว่าอะไร? ปกติแล้วเราจะมักจะเรียกช่วงเวลาของเราว่า “สมัยสุดท้าย” ของโลกชั่ว (2 ทธ. 3:1) แต่จริง ๆ แล้วเราก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่คัมภีร์ไบเบิลเรียกว่า “เวลาที่ทุกสิ่งจะได้รับการฟื้นฟู” ด้วย (กจ. 3:21) ช่วงเวลานี้เริ่มต้นพร้อมกันกับสมัยสุดท้าย แต่มีความยิ่งใหญ่กว่าและยาวนานกว่าสมัยสุดท้าย ช่วงเวลานี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1914 และจะยาวนานไปจนถึงตอนที่รัฐบาลของพระเจ้าทำให้มนุษย์ทุกคนกลายเป็นคนสมบูรณ์แบบและทำให้ทั้งโลกกลายเป็นสวนอุทยาน แล้วสิ่งที่ได้รับการฟื้นฟูมีอะไรบ้าง? อย่างแรกพระเยซูถูกตั้งให้เป็นกษัตริย์ในสวรรค์ ดังนั้น พระยะโฮวาจึงมีผู้ปกครองที่เป็นตัวแทนของพระองค์อีกครั้งซึ่งเป็นลูกหลานของกษัตริย์ดาวิด แต่นี่ไม่ใช่แค่อย่างเดียวที่พระยะโฮวาฟื้นฟู ไม่นานหลังจากที่พระเยซูเป็นกษัตริย์ การนมัสการแท้ก็ได้รับการฟื้นฟูด้วย (อสย. 2:2-4; อสค. 11:17-20) แต่การนมัสการแท้จะหมดไปอีกครั้งไหม?
10.(ก) คัมภีร์ไบเบิลมีคำพยากรณ์อะไรเกี่ยวกับการนมัสการแท้ในสมัยของเรา? (อิสยาห์ 54:17) (ข) ทำไมคำพยากรณ์เหล่านี้ทำให้เราได้รับกำลังใจ?
10 อ่านอิสยาห์ 54:17 ลองคิดถึงคำพยากรณ์ที่ว่า “ไม่มีอาวุธอะไรที่สร้างขึ้นมาต่อสู้เจ้าจะทำร้ายเจ้าได้” คำพยากรณ์นี้กำลังเกิดขึ้นจริงในสมัยของเรา ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกคำพยากรณ์หนึ่งด้วยที่เกิดขึ้นจริงในสมัยของเรา ข้อนั้นบอกว่า “ลูก ๆ ของเจ้าจะได้รับการสอนจากพระยะโฮวา พวกเขาจะมีสันติสุขมากมาย เจ้าจะยืนอยู่อย่างมั่นคงเพราะเจ้าทำดี . . . จะไม่ต้องกลัวอะไร และจะไม่มีอะไรมาทำให้เจ้ากลัว สิ่งเหล่านี้จะไม่เฉียดมาใกล้เจ้าเลย” (อสย. 54:13, 14) แม้แต่ซาตาน “พระเจ้าของโลกนี้” ก็ไม่สามารถหยุดงานที่คนของพระยะโฮวากำลังทำเพื่อสอนคนอื่นให้รู้จักพระยะโฮวา (2 คร. 4:4) การนมัสการแท้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นแล้วและจะคงอยู่ตลอดไป ไม่มีอาวุธอะไรที่สร้างขึ้นมาจะทำร้ายเราได้
จะเกิดอะไรขึ้น?
11.อะไรทำให้เรามั่นใจว่าชนฝูงใหญ่จะไม่ถูกทอดทิ้งเมื่อผู้ถูกเจิมถูกรับไปสวรรค์แล้ว?
11 แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ผู้ถูกเจิมถูกรับไปสวรรค์? ก่อนอื่นเราต้องจำไว้ว่าพระเยซูเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา ท่านเป็นผู้นำประชาคมคริสเตียน พระเยซูบอกอย่างชัดเจนว่า “คุณมีผู้นำเพียงผู้เดียวนั่นคือพระคริสต์” (มธ. 23:10) ดังนั้น พระเยซูกษัตริย์ของเราจะทำหน้าที่ของท่านแน่นอน เมื่อทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของพระเยซู สาวกของท่านที่อยู่บนโลกทุกคนก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เราไม่รู้รายละเอียดทุกอย่างว่าพระเยซูจะนำหน้าเรายังไงในตอนนั้น แต่ตัวอย่างในคัมภีร์ไบเบิลจะช่วยให้มั่นใจว่าเราจะไม่ถูกทอดทิ้งแน่นอน ให้เรามาดูบางเรื่องด้วยกัน
12.พระยะโฮวาดูแลประชาชนของพระองค์ยังไง (ก) หลังจากโมเสสตาย? (ข) หลังจากเอลียาห์ได้รับงานมอบหมายใหม่? (ดูภาพด้วย)
12 โมเสสตายก่อนที่ชาวอิสราเอลจะได้เข้าไปในแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญา พอโมเสสตาย ประชาชนของพระเจ้าเป็นยังไง? พวกเขาถูกทอดทิ้งไหม? ไม่ พระยะโฮวาดูแลพวกเขาเสมอตลอดเวลาที่พวกเขาซื่อสัตย์ต่อพระองค์ ก่อนที่โมเสสตาย พระยะโฮวาสั่งเขาให้มอบหน้าที่ผู้นำชาติอิสราเอลให้โยชูวา ซึ่งก่อนหน้านั้นโมเสสก็ได้ฝึกโยชูวามาแล้วหลายสิบปี (อพย. 33:11; ฉธบ. 34:9) นอกจากนั้น โมเสสยังเลือกผู้ชายที่มีความสามารถอีกหลายคนให้เป็นผู้นำด้วย เช่น บางคนเป็นหัวหน้าดูแลคนพันคน ร้อยคน ห้าสิบคน และสิบคน (ฉธบ. 1:15) คนของพระยะโฮวาได้รับการดูแลอย่างดีจริง ๆ เราได้เห็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่คล้ายกันนั่นคือเอลียาห์ เอลียาห์นำหน้าประชาชนในการนมัสการบริสุทธิ์มานานหลายสิบปี แต่พระยะโฮวาเปลี่ยนงานมอบหมายให้เขาไปรับใช้ที่ยูดาห์ (2 พก. 2:1; 2 พศ. 21:12) ตอนนั้นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาที่อยู่ในอิสราเอล 10 ตระกูลทางเหนือถูกทอดทิ้งไหม? ไม่ เอลียาห์ได้ฝึกเอลีชาหลายปีมาแล้ว นอกจากนี้ยังมี “ลูกหลานของพวกผู้พยากรณ์” ซึ่งอาจได้รับการฝึกจากโรงเรียนสอนผู้พยากรณ์ด้วย (2 พก. 2:7) ดังนั้น มีผู้ชายหลายคนที่พร้อมจะนำหน้าคนของพระยะโฮวา ไม่มีอะไรขัดขวางความประสงค์ของพระยะโฮวาได้ และพระองค์จะดูแลผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์อย่างแน่นอน
13.ฮีบรู 13:5ข ช่วยให้เรามั่นใจอะไร? (ดูภาพด้วย)
13 เมื่อคิดถึงตัวอย่างเหล่านี้แล้ว คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ผู้ถูกเจิมทุกคนถูกรับไปสวรรค์หมดแล้ว? เราไม่จำเป็นต้องคิดเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย คัมภีร์ไบเบิลบอกความจริงสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า พระยะโฮวาจะไม่มีวันทอดทิ้งคนของพระองค์ที่อยู่บนโลก (อ่านฮีบรู 13:5ข) เช่นเดียวกับโมเสสและเอลียาห์ ผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ ที่นำหน้าในองค์การรู้ดีว่าสำคัญมากที่พวกเขาจะต้องฝึกพี่น้องคนอื่นให้นำหน้า หลายสิบปีมาแล้วที่คณะกรรมการปกครองได้ฝึกพี่น้องชายที่เป็นแกะอื่นให้นำหน้า ตัวอย่างเช่น คณะกรรมการปกครองได้ตั้งโรงเรียนต่าง ๆ ขึ้นเพื่อฝึกอบรมผู้ดูแลในประชาคม ผู้ดูแลหมวด สมาชิกคณะกรรมการสาขา ผู้ดูแลในเบเธล และพี่น้องคนอื่น ๆ คณะกรรมการปกครองได้ฝึกผู้ช่วยคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ของคณะกรรมการปกครองด้วย และตอนนี้ผู้ช่วยเหล่านี้ก็กำลังทำหน้าที่รับผิดชอบที่สำคัญหลายอย่าง และพวกเขาก็พร้อมที่จะสานต่อหน้าที่ในการดูแลแกะของพระคริสต์ในอนาคต
14.จุดสำคัญของเรื่องที่เราคุยกันคืออะไร?
14 จุดสำคัญของเรื่องที่เราคุยกันก็คือ การนมัสการแท้จะยังคงมีอยู่ต่อไปแน่นอนถึงแม้ผู้ถูกเจิมจะถูกรับไปสวรรค์ตอนใกล้จบความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ และเพราะเรามีพระเยซูเป็นผู้นำ เราเลยสามารถนมัสการพระยะโฮวาได้ต่อ ๆ ไป แม้ในตอนนั้นเราจะถูกโกกแห่งมาโกกซึ่งก็คือกลุ่มชาติต่าง ๆ มาโจมตี (อสค. 38:18-20) แต่การโจมตีนั้นก็จะล้มเหลว พวกเขาจะไม่สามารถขัดขวางคนของพระยะโฮวาไม่ให้นมัสการพระองค์ได้ พระองค์จะช่วยพวกเราอย่างแน่นอน ในนิมิตที่อัครสาวกยอห์นเห็น เขาเห็น “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งก็คือแกะอื่นของพระคริสต์รอด “ผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่” (วว. 7:9, 14) ใช่แล้ว พระยะโฮวาจะช่วยคนของพระองค์ให้รอดอย่างปลอดภัยแน่นอน
15-16.อย่างที่บอกไว้ในวิวรณ์ 17:14 คริสเตียนผู้ถูกเจิมจะทำอะไรในช่วงสงครามอาร์มาเกดโดน? และการรู้เรื่องนี้ทำให้เราได้กำลังใจยังไง?
15 ถึงอย่างนั้นบางคนก็อาจสงสัยว่า ‘แล้วผู้ถูกเจิมล่ะ หลังจากที่พวกเขาถูกรับไปสวรรค์แล้ว พวกเขาจะทำอะไร?’ คัมภีร์ไบเบิลให้คำตอบเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน คัมภีร์ไบเบิลบอกว่ารัฐบาลต่าง ๆ ในโลกจะ “สู้รบกับลูกแกะของพระเจ้า” แต่พวกเขาจะแพ้ เพราะคัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ลูกแกะของพระเจ้าจะชนะพวกเขา” แล้วใครจะช่วยลูกแกะของพระเจ้า? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า คนที่จะช่วยก็คือคนที่พระเจ้า “เรียก” “เลือกไว้” และ “ซื่อสัตย์” นั่นเอง (อ่านวิวรณ์ 17:14) คนเหล่านี้คือใคร? ก็คือผู้ถูกเจิม ดังนั้น เมื่อผู้ถูกเจิมทุกคนบนโลกถูกรับไปสวรรค์ตอนใกล้จะจบความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ หนึ่งในงานมอบหมายแรกของพวกเขาก็คือการต่อสู้ในสงครามอาร์มาเกดโดน นี่เป็นงานมอบหมายที่สุดยอดจริง ๆ! ก่อนมาเป็นพยานพระยะโฮวา คริสเตียนผู้ถูกเจิมบางคนเคยสู้กับคนอื่นมาก่อน บางคนถึงกับเคยเป็นทหารด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็มาเป็นคริสเตียนแท้และเรียนรู้ที่จะอยู่ในแนวทางแห่งสันติสุข (กท. 5:22; 2 ธส. 3:16) พวกเขาเลิกสนับสนุนสงครามทั้งหมด แต่หลังจากถูกรับไปสวรรค์แล้ว พวกเขาจะเข้าร่วมในกองทัพสวรรค์กับพระเยซูและทูตสวรรค์องค์อื่น ๆ และทำสงครามกับศัตรูของพระเจ้าในวันอาร์มาเกดโดน
16 ลองคิดดูสิว่าตอนนี้คริสเตียนผู้ถูกเจิมบางคนแก่แล้วและไม่ค่อยแข็งแรง แต่พอพวกเขาขึ้นไปสวรรค์ พวกเขาจะมีร่างกายสำหรับสวรรค์ที่เป็นอมตะและมีฤทธิ์อำนาจมาก พวกเขาจะร่วมรบเคียงข้างพระเยซูกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ หลังสงครามอาร์มาเกดโดนพวกเขาจะทำงานกับพระเยซูในการทำให้มนุษย์ที่อยู่บนโลกกลายเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ ตอนที่พวกเขาอยู่บนสวรรค์ พวกเขาจะสามารถช่วยพี่น้องที่อยู่บนโลกได้มากกว่าตอนที่พวกเขาเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบแน่ ๆ
17.เรารู้ได้ยังไงว่าในสงครามอาร์มาเกดโดนผู้รับใช้ทั้งหมดของพระยะโฮวาจะปลอดภัย?
17 คุณเป็นแกะอื่นไหม? ถ้าใช่ คุณต้องทำอะไรเมื่อสงครามอาร์มาเกดโดนเริ่มต้นขึ้น? สิ่งที่คุณต้องทำมีแค่นี้ วางใจพระยะโฮวาและทำตามการชี้นำของพระองค์ นี่อาจรวมถึงอะไรบ้าง? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “เข้าไปอยู่ในห้องข้างในและปิดประตูดี ๆ ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง จนกว่าความโกรธของเราจะผ่านพ้นไป” (อสย. 26:20) ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้าทุกคนทั้งในสวรรค์และบนโลกจะปลอดภัยในช่วงเวลานั้น เราสามารถมั่นใจได้เหมือนกับอัครสาวกเปาโลที่บอกว่า ไม่ว่า “รัฐบาล หรือสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ หรือสิ่งที่จะมีในอนาคต . . . จะไม่มีทางขัดขวางความรักที่พระเจ้าแสดงต่อเรา” (รม. 8:38, 39) ดังนั้น ขอให้จำไว้เสมอว่าพระยะโฮวารักคุณ และพระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งคุณแน่นอน
เมื่อผู้ถูกเจิมถูกรับไปสวรรค์หมดแล้ว . . .
จะไม่เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมเรามั่นใจได้ว่าการนมัสการบริสุทธิ์จะไม่หมดไป?
ทำไมเรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะดูแลประชาชนของพระองค์?
เพลง 8 พระยะโฮวาเป็นที่หลบภัยของเรา