การปฏิบัติศาสนาแท้เพื่อรอดชีวิต
“แบบแห่งการนมัสการที่สะอาดและปราศจากมลทินจากทัศนะของพระเจ้า และพระบิดาของเราเป็นดังนี้ . . . รักษาตัวให้พ้นจากด่างพร้อยของโลก.”—ยาโกโบ 1:27, ล.ม.
1. มีการนิยามศาสนาไว้อย่างไร และโดยเหตุผลแล้วใครมีสิทธิตัดสินความแตกต่างระหว่างศาสนาเท็จกับศาสนาแท้?
ศาสนาได้รับการนิยามว่าเป็น “การแสดงออกซึ่งความเชื่อและความเคารพของมนุษย์ต่อผู้มีอำนาจเหนือกว่า ที่รับรู้กันว่าเป็นผู้สร้างและทรงเป็นผู้ปกครองเอกภพ.” ทีนี้ใครล่ะมีสิทธิชอบด้วยเหตุผลจะตัดสินความแตกต่างระหว่างศาสนาแท้กับศาสนาเท็จ? เป็นที่แน่นอนว่า ต้องเป็นพระองค์ผู้นั้นซึ่งมนุษย์เชื่อศรัทธาและเป็นที่เคารพน่าเกรงขาม พระผู้สร้างนั้นเอง. พระยะโฮวาทรงชี้แจงถึงทัศนะของพระองค์เรื่องศาสนาแท้และศาสนาเท็จไว้แล้วชัดเจนในพระวจนะของพระองค์.
คำ “ศาสนา” ในคัมภีร์ไบเบิล
2. พจนานุกรมต่าง ๆ ชี้แจงรากศัพท์คำภาษากรีกอย่างไรที่ถูกแปลเป็น “แบบแห่งการนมัสการ” หรือ “ศาสนา” และคำนี้นำมาใช้ได้กับการนมัสการแบบใด?
2 คำภาษากรีกที่ถูกนำมาแปลว่า “แบบการนมัสการ” หรือ “ศาสนา” นั้นคือ เทรซะคิʹอา. หนังสือ อะ กรีก-อิงลิช เล็กซิคอน อ็อฟ เดอะ นิว เทสทาเมนต์ นิยามคำนี้ว่า “การนมัสการพระเจ้า, ศาสนา, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแสดงออกในการรับใช้หรือพิธีทางศาสนา.” เดอะ เธโอโลจิคอล ดิกชันนารี อ็อฟ เดอะ นิว เทสทาเมนต์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมโดยบอกว่า “ประวัติคำศัพท์นั้นเป็นเรื่องโต้เถียงกัน . . . ผู้เชี่ยวชาญสมัยใหม่มักจะผูกโยงเข้ากับคำ เธรับ (‘รับใช้’). . . . อาจสังเกตได้เหมือนกันถึงความแตกต่างของความหมาย. ในทางที่ดีคือ ‘ความร้อนรนเพื่อศาสนา’ . . . , ‘การนมัสการพระเจ้า,’ ‘ศาสนา.’ . . . แต่ก็มีแง่ไม่ดีเหมือนกัน เช่น ‘คลั่งศาสนาเกินไป,’ ‘นมัสการไม่ถูกต้อง.’” ดังนั้น เทรซะคิʹอา จึงอาจได้รับการแปล “ศาสนา” หรือ “แบบการนมัสการ” ไม่ว่าดีหรือไม่ดีก็ได้.
3. อัครสาวกเปาโลใช้คำที่นำมาแปลว่า “แบบแห่งการนมัสการ” อย่างไร และได้มีการให้ข้อคิดเห็นน่าสนใจเช่นไรเกี่ยวกับคำแปลที่โกโลซาย 2:18?
3 คำนี้ปรากฏเพียงสี่ครั้งในคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีก. อัครสาวกเปาโลใช้คำนี้สองครั้งเพื่อระบุศาสนาเท็จ. ที่กิจการ 26:5 มีบันทึกคำพูดของท่านว่าก่อนเข้ามาเป็นคริสเตียน “ข้าพเจ้าเป็นพวกฟาริซาย อยู่ในคณะที่ถือ [“ศาสนา” ของเรา, ฉบับแปลฟิลลิปส์] เคร่งครัดอย่างยิ่ง.” ในจดหมายที่ท่านเขียนถึงชาวโกโลซาย ท่านได้เตือนดังนี้: “อย่าให้คนใดตัดสินให้ท่านแพ้เสียบำเหน็จของท่านด้วยกิริยาที่เขาทำทีถ่อมตัวลง และไหว้ [รูปแบบการนมัสการ] ทูตสวรรค์.” (โกโลซาย 2:18) การนมัสการทูตสวรรค์ดูเหมือนว่าสมัยนั้นได้กระทำกันอย่างแพร่หลายในเมืองฟรีเจีย แต่ก็เป็นรูปแบบศาสนาเท็จ.a ขณะที่คัมภีร์ฉบับแปลบางฉบับแปลคำ เทรซะคิʹอา ที่โกโลซาย 2:18 ว่า “ศาสนา” กระนั้น ฉบับแปลส่วนใหญ่ใช้คำ “การนมัสการ.” คัมภีร์ฉบับแปลโลกใหม่ แปลคำ เทรซะคิʹอา ว่า “แบบแห่งการนมัสการ” ทุกครั้ง. เชิงอรรถในคัมภีร์ฉบับอ้างอิง ระบุทุกครั้งว่าในฉบับแปลภาษาละตินมีการใช้คำ “ศาสนา.”
“สะอาดและปราศจากมลทิน” จากทัศนะของพระเจ้า
4, 5. (ก) ตามที่ยาโกโบกล่าวไว้ ทัศนะของใครที่มีต่อศาสนานับว่าสำคัญอย่างยิ่ง? (ข) อะไรอาจทำให้แบบแห่งการนมัสการของคนเราถึงกับไร้ประโยชน์ และคำที่นำมาแปลว่า “ไร้ประโยชน์” นั้นหมายถึงอะไร?
4 อีกสองกรณีที่คำเทรซะคิʹอา ปรากฏอยู่ในจดหมายของสาวกยาโกโบ สมาชิกคณะกรรมการปกครองแห่งประชาคมคริสเตียนศตวรรษแรก. ท่านเขียนว่า “ถ้าผู้ใดถือว่าตนเป็นผู้นมัสการตามแบบแผน [“เป็นคนมีศาสนา”, ฟิลลิปส์] และกระนั้นมิได้เหนี่ยวรั้งลิ้นของตน แต่ยังคงหลอกลวงหัวใจของตัวเองอยู่ต่อไป การนมัสการ [“ศาสนา”, ฟิลลิปส์] แบบที่ผู้นี้ได้กระทำก็ไร้ประโยชน์. แบบแห่งการนมัสการ [“ศาสนา”, ฟิลลิปส์] ที่สะอาดและปราศจากมลทินจากทัศนะของพระเจ้าและพระบิดาของเราเป็นดังนี้: ให้เอาใจใส่ดูแลลูกกำพร้าและหญิงม่ายในความทุกข์ลำบากของเขา และรักษาตัวให้พ้นจากด่างพร้อยของโลก.”—ยาโกโบ 1:26, 27, ล.ม.
5 แน่นอน การปฏิบัติศาสนาตามทัศนะของพระยะโฮวาเป็นสิ่งจำเป็น หากเราต้องการให้พระองค์พอพระทัยและรอดชีวิตเข้าไปอยู่ในโลกใหม่ที่พระองค์ได้สัญญาไว้. (2 เปโตร 3:13) ยาโกโบชี้ให้เห็นว่าคนเราอาจคิดเอาเองว่าตนเคร่งครัดในศาสนาอย่างแท้จริง แต่แบบแห่งการนมัสการของตนอาจจะไร้ประโยชน์. คำกรีกที่ได้รับการแปลที่นี้ว่า “ไร้ประโยชน์” ยังหมายความอีกว่า “เงื่องหงอย, ว่างเปล่า, ไร้ผล, ไม่มีประโยชน์, ขาดพลัง, ขาดสัจธรรม.” ทั้งนี้อาจเป็นไปได้อย่างในกรณีของบางคนที่อ้างตัวเป็นคริสเตียนแต่ไม่ได้ยั้งลิ้นของตนแล้วใช้ลิ้นนั้นกล่าวสรรเสริญพระเจ้าและเสริมสร้างพี่น้องคริสเตียนขึ้น. เขาคงจะ “หลอกลวงหัวใจของตัวเอง” และไม่ได้ประพฤติตาม “ศาสนาที่บริสุทธิ์และแท้จริงต่อพระพักตร์พระเจ้า.” (ฟิลลิปส์) ทัศนะของพระยะโฮวาเป็นสิ่งที่นับว่าสำคัญ.
6. (ก) อะไรคืออรรถบทของจดหมายที่ยาโกโบเขียน? (ข) ยาโกโบได้กล่าวเน้นถึงข้อกำหนดสำคัญอะไรสำหรับการนมัสการแท้ และคณะกรรมการปกครองสมัยปัจจุบันกล่าวเช่นไรในเรื่องนี้?
6 ยาโกโบไม่ได้ยกทุกสิ่งทุกอย่างที่พระยะโฮวาทรงเรียกร้องเอาเกี่ยวข้องกับการนมัสการอันบริสุทธิ์ขึ้นมากล่าว. เพื่อให้ตรงกันกับสาระสำคัญของจดหมาย ซึ่งได้แก่คนเราพิสูจน์ว่ามีความเชื่อด้วยการประพฤติ และเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องไม่เป็นมิตรกับโลกของซาตาน ท่านเน้นข้อเรียกร้องเพียงสองประการ. ประการแรกคือ “เอาใจใส่ดูแลลูกกำพร้าและหญิงม่ายในความทุกข์ลำบากของเขา.” สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความรักแท้ของคริสเตียน. พระยะโฮวาทรงมีความรักใคร่ห่วงใยลูกกำพร้าและหญิงม่ายเสมอ. (พระบัญญัติ 10:17, 18; มาลาคี 3:5) หนึ่งในบรรดาการกระทำระยะแรกของคณะกรรมการปกครองประชาคมคริสเตียนในศตวรรษแรก ก็เพื่อประโยชน์แก่แม่ม่ายคริสเตียนนั้นเอง. (กิจการ 6:1-6) อัครสาวกเปาโลได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อให้การดูแลด้วยความรักสำหรับแม่ม่ายอายุมากที่ยากจนข้นแค้น ผู้ซึ่งได้พิสูจน์ตัวซื่อสัตย์นานหลายปี และไร้ญาติช่วยเหลือ. (1 ติโมเธียว 5:3-16) คณะกรรมการปกครองแห่งพยานพระยะโฮวาในปัจจุบันนี้ก็เช่นเดียวกันได้กำหนดข้อเสนอแนะที่ชัดเจนเกี่ยวด้วย “การเอาใจใส่คนยากจน” ดังนี้: “การนมัสการแท้เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ที่ซื่อสัตย์และภักดีซึ่งอาจต้องการได้รับความช่วยเหลือด้านวัตถุ.” (โปรดดูหนังสือจัดให้เป็นระเบียบเพื่อสัมฤทธิ์ผลในงานรับใช้ของเรา หน้า 159-160) คณะผู้ปกครองหรือคริสเตียนแต่ละคนที่แสดงออกมาว่าเขาเองละเลยเรื่องนี้ก็เท่ากับว่าเขามองข้ามแง่มุมสำคัญของแบบแห่งการนมัสการที่สะอาดและปราจากมลทินจากทัศนะของพระเจ้าพระบิดาของเรา.
“พ้นจากด่างพร้อยของโลก”
7, 8. (ก) ยาโกโบกล่าวว่าข้อกำหนดที่สองสำหรับการนมัสการแท้นั้นคืออะไร? (ข) นักศาสนาและบาทหลวงได้บรรลุข้อกำหนดนี้ไหม? (ค) อาจจะกล่าวได้อย่างไรเกี่ยวกับพยานพระยะโฮวา?
7 ข้อเรียกร้องประการที่สองสำหรับศาสนาแท้ตามที่ยาโกโบระบุไว้คือ “รักษาตัวให้พ้นจากด่างพร้อยของโลก.” พระเยซูตรัสว่า “ราชอาณาจักรของเรามิได้เป็นส่วนของโลกนี้” นับว่าสอดคล้องลงรอยกัน บรรดาสาวกแท้ของพระองค์จะไม่ “เป็นส่วนของโลกนี้.” (โยฮัน 15:19; 18:36) เรื่องนี้จะกล่าวได้ไหมเกี่ยวกับนักศาสนาและนักบวชนักพรตในศาสนาใดศาสนาหนึ่งของโลก? พวกเขาเห็นชอบกับสหประชาชาติ. ผู้นำของเขาหลายคนต่างก็ตอบรับคำเชิญจากสันตะปาปาให้ประชุมที่เมืองอัสซิซิ ประเทศอิตาลี ในเดือนตุลาคม 1986 เพื่อจะได้ร่วมใจอธิษฐานอย่างพร้อมเพรียง ขอเผื่อ “ปีสันติภาพสากล” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ. อย่างไรก็ดี ความพยายามของพวกเขาไม่สำเร็จ เมื่อวัดเอาจากรายงานข่าวที่ว่า ปีนั้นหลายล้านคนเสียชีวิตจากการสู้รบหลายแห่ง และปีต่าง ๆ หลังจากนั้นด้วย. พวกนักศาสนามักจะเข้าไปตีสนิทกับพรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพล ในขณะเดียวกันก็ติดต่อลับ ๆ กับฝ่ายตรงกันข้ามด้วยวิธีที่แยบคายเพื่อไม่ว่าใครก็ตามเมื่อได้อำนาจปกครองแล้วก็จะถือคนเหล่านี้เป็น “เพื่อน.”—ยาโกโบ 4:4.
8 พยานพระยะโฮวาได้สร้างชื่อเสียงดีสำหรับตัวเองฐานะคริสเตียนที่จรรโลงความเป็นกลางต่อการเมืองและการขัดแย้งต่าง ๆ ของโลก. พยานฯ รักษาสถานะเช่นนี้ในทุกประเทศและทุกชาติ ดังที่ได้รับการพิสูจน์โดยนักข่าวหนังสือพิมพ์และบันทึกทางประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันจากทุกภูมิภาคทั่วโลก. พวกเขา “พ้นจากด่างพร้อยของโลก” จริง ๆ. ศาสนาของเขาเป็น “แบบแห่งการนมัสการที่สะอาดและปราศจากมลทินจากทัศนะของพระเจ้า.”—ยาโกโบ 1:27, ล.ม.
ลักษณะพิเศษอื่น ๆ ของศาสนาแท้
9. ข้อกำหนดประการที่สามสำหรับศาสนาแท้คืออะไร และเพราะเหตุใด?
9 ถ้าศาสนาเป็น “การเคารพยำเกรงอำนาจยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้สร้างและผู้ปกครองเอกภพ” เช่นนั้น ก็แน่นอน ศาสนาแท้ต้องมุ่งการนมัสการไปยังพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว. ศาสนาแท้ต้องไม่บิดเบือนความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับพระเจ้าจนเลอะเลือนไป โดยสอนมโนคติแบบนอกรีต เช่น พระเจ้าองค์หนึ่งประกอบด้วยสามบุคคล ซึ่งพระบิดาแบ่งฤทธิ์เดช บารมี และนิตยภูมิกับอีกสองบุคคลตามหลักคำสอนตรีเอกานุภาพอันลึกลับ. (พระบัญญัติ 6:4; 1 โกรินโธ 8:6) อนึ่ง ศาสนาแท้ต้องประกาศนามพระเจ้ายะโฮวาซึ่งไม่มีนามใดเสมอเหมือนและยกย่องพระนามนั้น จริง ๆ แล้วพวกเขาถูกเรียกตามพระนามของพระองค์เป็นไพร่พลที่ถูกรวบรวมเป็นองค์การ. (บทเพลงสรรเสริญ 83:18; กิจการ 15:14) การทำเช่นนี้ ผู้ปฏิบัติต้องติดตามตัวอย่างของพระเยซูคริสต์. (โยฮัน 17:6) ในปัจจุบันมีประชาชนกลุ่มใดเล่าได้บรรลุข้อเรียกร้องเหล่านี้อย่างคริสเตียนพยานพระยะโฮวา?
10. เพื่อศาสนาจะเสนอการรอดเข้าไปในโลกใหม่ของพระเจ้านั้น ศาสนานี้ต้องทำอะไร และทำไม?
10 อัครสาวกเปโตรแถลงดังนี้: “นอกจากนั้น ไม่มีความรอดในผู้ใดอื่นเพราะไม่มีนามอื่นทั่วใต้ฟ้าที่ได้ทรงประทานให้ท่ามกลางมนุษย์ ซึ่งเราต้องได้รับความช่วยให้รอด.” (กิจการ 4:8-12, ล.ม.) ดังนั้น ศาสนาที่บริสุทธิ์ซึ่งจะช่วยผู้คนรอดชีวิตเข้าไปในโลกใหม่ของพระเจ้าจึงต้องเป็นศาสนาที่จูงใจให้เกิดความเชื่อในพระคริสต์ และเชื่อในคุณค่าการบูชาไถ่. (โยฮัน 3:16, 36; 17:3; เอเฟโซ 1:7) ยิ่งกว่านั้น ศาสนาแท้ต้องช่วยผู้นมัสการแท้ให้ยอมเชื่อฟังพระคริสต์มหากษัตริย์องค์ทรงราชย์ อีกทั้งทรงเป็นมหาปุโรหิตที่พระยะโฮวาทรงเจิมไว้ด้วย.—บทเพลงสรรเสริญ 2:6-8; ฟิลิปปอย 2:9-11; เฮ็บราย 4:14, 15.
11. ศาสนาแท้ต้องอาศัยอะไรเป็นหลัก และพยานพระยะโฮวาอยู่ในฐานะเช่นไรในเรื่องนี้?
11 ศาสนาแท้ต้องอาศัยพระทัยประสงค์ที่พระเจ้าองค์เที่ยงแท้ได้ทรงเผยให้ทราบเป็นหลักและไม่ยึดถือประเพณีนิยมหรือหลักปรัชญาต่าง ๆ ที่มนุษย์ตั้งขึ้น. พวกเราคงจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพระยะโฮวาและพระประสงค์ต่าง ๆ ที่ดีเลิศของพระองค์ หรือเรื่องราวของพระเยซูตลอดทั้งค่าไถ่ ถ้าไม่มีคัมภีร์ไบเบิล. พยานพระยะโฮวาปลูกฝังความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ต่อพระคัมภีร์ไว้ในจิตใจของผู้คน. อีกอย่างหนึ่ง โดยวิถีชีวิตประจำวัน พวกเขายังพิสูจน์ว่า เขาเห็นด้วยกับคำกล่าวของอัครสาวกเปาโลที่ว่า “พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลบันดาลจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์เพื่อการสั่งสอน เพื่อการว่ากล่าว เพื่อจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย . . . เพื่อคนของพระเจ้าจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เตรียมพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง.”—2 ติโมเธียว 3:16, 17, ล.ม.
ศาสนาแท้คือวิถีชีวิต
12. นอกจากความเชื่อ อะไรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการนมัสการจะเป็นการนมัสการแท้ และศาสนาแท้เป็นวิถีชีวิตในทางใดบ้าง?
12 พระเยซูทรงแถลงดังนี้: “พระเจ้าเป็นองค์วิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยวิญญาณและความจริง.” (โยฮัน 4:24, ล.ม.) ดังนั้น ศาสนาหรือแบบแห่งการนมัสการแท้จึงหาใช่การประกอบพิธี การสวดมนต์ภาวนา การแสดงทีท่าว่าเลื่อมใสพระเจ้า. การนมัสการที่บริสุทธิ์นั้นเป็นฝ่ายวิญญาณ อาศัยความเชื่อเป็นหลัก. (เฮ็บราย 11:6) อย่างไรก็ดี ความเชื่อนั้นต้องควบไปกับการประพฤติ. (ยาโกโบ 2:17) ศาสนาแท้ไม่ยอมรับแนวคิดต่าง ๆ อันเป็นที่นิยมของคนทั่วไป. ศาสนาแท้ยึดมั่นในมาตรฐานของคัมภีร์ไบเบิลเรื่องศีลธรรมและภาษาพูดที่บริสุทธิ์. (1 โกรินโธ 6:9, 10; เอเฟโซ 5:3-5) ผู้ปฏิบัติศาสนานี้อุตส่าห์ตั้งใจจะบังเกิดผลแห่งพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิตครอบครัวของตน, ในสถานที่เขาทำงาน, ในโรงเรียน, กระทั่งในยามพักผ่อนเพื่อความบันเทิง. (ฆะลาเตีย 5:22, 23) พยานพระยะโฮวาตั้งใจจดจำคำเตือนของอัครสาวกเปาโลที่ว่า “เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายจะกินจะดื่มก็ดี หรือจะทำประการใดก็ดี จงกระทำทุกสิ่งให้เป็นที่ถวายเกียรติยศแด่พระเจ้า.” (1 โกรินโธ 10:31) ศาสนาของพยานพระยะโฮวาไม่ใช่เป็นเพียงระเบียบแบบแผน แต่เป็นวิถีชีวิตทีเดียว.
13. การนมัสการแท้เกี่ยวข้องกับอะไร และทำไมอาจกล่าวได้ว่าพยานพระยะโฮวาเป็นกลุ่มชนที่ยึดมั่นในศาสนาจริง ๆ?
13 แน่ล่ะ ศาสนาแท้เกี่ยวข้องกับกิจการต่าง ๆ อันเป็นฝ่ายวิญญาณ. การเหล่านี้รวมเอาการอธิษฐานส่วนตัวและอธิษฐานกับครอบครัว การศึกษาพระวจนะของพระเจ้า และศึกษาหนังสือที่เสริมความรู้ด้านคัมภีร์ไบเบิล และเข้าร่วมการประชุมที่ประชาคมคริสเตียนจัดขึ้นเป็นประจำ. การประชุมวาระต่าง ๆ ดังกล่าวเริ่มและปิดด้วยบทเพลงเทิดพระเกียรติพระยะโฮวาและการอธิษฐาน. (มัดธาย 26:30; เอเฟโซ 5:19) บทเรียนต่าง ๆ ที่เป็นการเสริมสร้างฝ่ายวิญญาณนั้นถูกนำขึ้นมาชี้แจงโดยจัดในลักษณะคำบรรยาย และพิจารณาถามตอบจากหนังสือคู่มือซึ่งทุกคนมีไว้เป็นส่วนตัว. การประชุมดังกล่าวปกติแล้วจัดขึ้น ณ หอประชุมที่สะอาด มีระเบียบ ไม่ใช่สถานที่โอ่โถงตกแต่งอย่างหรูหรา ซึ่งถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านศาสนาโดยเฉพาะ เช่นการประชุมประจำวาระ, งานสมรส, ประชุมอนุสรณ์. พยานพระยะโฮวาคำนึงว่าหอประชุมราชอาณาจักรก็ดี และสถานที่สำหรับประชุมใหญ่ ล้วนเป็นสถานซึ่งอุทิศแล้วแด่พระยะโฮวาเพื่อใช้สำหรับการนมัสการ. ไม่เหมือนโบสถ์หลายแห่งในคริสต์ศาสนจักร หอประชุมราชอาณาจักรไม่ใช่สโมสรสันนิบาต.
14. การนมัสการหมายถึงสิ่งใดสำหรับชนชาติที่พูดภาษาฮีบรู และทุกวันนี้กิจกรรมอะไรระบุว่าพยานพระยะโฮวาไม่เหมือนใคร?
14 เราได้เห็นก่อนหน้าที่ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาได้เชื่อมคำกรีกที่ได้รับการแปลว่า “แบบแห่งการนมัสการ” หรือ “ศาสนา” เข้ากับคำกิริยา “รับใช้.” น่าสนใจ คำฮีบรูที่มีความหมายเหมือนกันคือ อะโวดาห์ʹ อาจแปลได้ว่า “การรับใช้” หรือ “การนมัสการ.” (เทียบเชิงอรรถที่เอ็กโซโด 3:12 กับ 10:26.) สำหรับชาวฮีบรู การนมัสการหมายถึงการรับใช้ และก็หมายความเช่นนั้นสำหรับผู้นมัสการแท้ในปัจจุบัน. ลักษณะพิเศษที่สำคัญยิ่งของศาสนาแท้คือ ทุกคนที่ปฏิบัติศาสนาแท้ต่างก็ร่วมงานรับใช้แสดงความเลื่อมใสในพระเจ้าด้วยการประกาศ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร . . . ไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ.” (มัดธาย 24:14; กิจการ 1:8; 5:42) ศาสนาไหนล่ะที่คนทั่วโลกรู้จักเพราะการให้คำพยานเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าอย่างกว้างขวางว่าเป็นความหวังอย่างเดียวของมนุษยชาติ?
พลังในทางก่อ เกิดเอกภาพ
15. ลักษณะเด่นประจำศาสนาแท้ได้แก่อะไร?
15 ศาสนาเท็จทำให้แตกแยก. ศาสนาเท็จเคยก่อเหตุให้คนเกลียดกันและทำให้โลหิตตก เวลานี้ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น. ตรงกันข้าม ศาสนาแท้ทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. พระเยซูตรัสดังนี้: “โดยเหตุนี้ คนทั้งปวงจะรู้ว่าเจ้าทั้งหลายเป็นสาวกของเรา ถ้าเจ้ามีความรักระหว่างพวกเจ้าเอง.” (โยฮัน 13:35, ล.ม.) ความรักซึ่งผูกพันพยานพระยะโฮวาเป็นอันหนึ่งอันเดียวนั้น มีพลังยิ่งกว่าการปิดกั้นกันทางเชื้อชาติ สังคม เศรษฐกิจและเผ่าพันธุ์อันมีแต่ทำให้มวลมนุษย์แบ่งแยกกัน. พยานพระยะโฮวา “ตั้งมั่นคงอยู่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กับต่อสู้เหมือนอย่างเป็นคนเดียวเพื่อความเชื่อในกิตติคุณนั้น.”—ฟิลิปปอย 1:27.
16. (ก) พยานพระยะโฮวาประกาศ “ข่าวดี” อะไร? (ข) คำพยากรณ์ข้อใดบ้างกำลังสำเร็จเป็นจริงกับไพร่พลของพระยะโฮวา และมีพระพรอะไรตามมา?
16 “กิตติคุณ” ซึ่งพวกเขาประกาศคือที่ว่า ในไม่ช้าจุดมุ่งหมายอันไม่เปลี่ยนแปลงของพระเจ้าจะสัมฤทธิ์ผล. พระประสงค์ของพระองค์จะสำเร็จลุล่วง “ในสวรรค์อย่างไร ก็สำเร็จบนแผ่นดินโลกเหมือนกัน.” (มัดธาย 6:10) พระนามอันมีเกียรติของพระยะโฮวาจะเป็นที่เคารพอันศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินโลกจะกลายเป็นอุทยาน ซึ่งผู้นมัสการแท้จะอยู่อาศัยในอุทยานตลอดกาลนาน. (บทเพลงสรรเสริญ 37:29) ขณะนี้ผู้คนหลายล้านจากทุกดินแดนซึ่งเข้ามาสมาคมคบหากับพยานพระยะโฮวาได้พูดสมกับคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลว่า “เราจะไปด้วยท่านเพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับท่านแล้ว.” (ซะคาระยา 8:23) พระยะโฮวาทรงอวยพรไพร่พลของพระองค์. “คนตัวเล็กจะเพิ่มเป็นชนชาติใหญ่” อย่างแท้จริง ประชาคมทั่วโลกจะเป็นเอกภาพพร้อมเพรียงกันในทุกด้าน คือทางแนวคิด การงาน การนมัสการ. (ยะซายา 60:22) นี้แหละเป็นสิ่งที่ศาสนาเท็จไม่เคยทำสำเร็จเลย.
ชัยชนะของศาสนาแท้
17. มีอะไรรออยู่สำหรับบาบูโลนใหญ่ และเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นโดยวิธีใด?
17 พระวจนะของพระเจ้าได้บอกไว้ล่วงหน้าถึงความพินาศของจักรภพศาสนาเท็จในโลกซึ่งมีชื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า “บาบูโลนใหญ่.” นอกจากนั้น คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่า “บรรดากษัตริย์” หรือผู้มีอำนาจทางการเมืองแห่งแผ่นดินโลก พูดโดยนัย ก็คือเขาของสัตว์ร้าย. พระคัมภีร์แจ้งด้วยว่าพระเจ้าจะทรงบันดาลใจผู้มีอำนาจทางการเมืองให้มุ่งทำลายสถาบันของซาตานพญามารอันเปรียบเป็นแพศยานั้นจนหมดสิ้น.—ดูวิวรณ์ 17:1, 2, 5, 6, 12, 13, 15–18.b
18. คัมภีร์ไบเบิลให้เหตุผลสำคัญอะไรสำหรับการทำลายล้างบาบูโลนใหญ่ และศาสนาเท็จเริ่มต้นแนวทางอันน่าตกใจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
18 ทำไมบาบูโลนใหญ่สมควรจะถูกทำลาย? คัมภีร์ไบเบิลให้คำตอบอย่างนี้: “ในเมืองนั้นเขาได้พบโลหิตของพวกผู้พยากรณ์และพวกสิทธชน และโลหิตของคนทั้งปวงที่ถูกฆ่าเสียที่แผ่นดินโลก.” (วิวรณ์ 18:24) ความผิดฐานทำให้โลหิตตกเช่นนี้เกิดขึ้นโดยศาสนาเท็จย้อนหลังไปนานก่อนมีเมืองบาบูโลนเสียอีก. พระเยซูได้ประณามพวกผู้นำลัทธิยูดาซึ่งนำตัวเข้าไปพัวพันกับบาบูโลนใหญ่ เมื่อพระองค์ได้ตรัสว่า “โอพวกชาติงูร้าย เจ้าจะพ้นจากการปรับโทษในนรก [กิเฮนนา] อย่างไรได้? . . . บรรดาโลหิตอันชอบธรรมซึ่งตกที่แผ่นดินโลก ตั้งแต่โลหิตของเฮเบลผู้ชอบธรรม.” (มัดธาย 23:33-35) ใช่แล้ว ศาสนาเท็จซึ่งเริ่มขึ้นในโลกนับแต่เกิดกบฏในสวนเอเดนจึงต้องให้การในเรื่องการผิดฐานทำให้โลหิตตกอย่างน่าขนลุก.
19, 20. (ก) ผู้นมัสการแท้จะทำอะไรภายหลังการสำเร็จโทษบาบูโลนใหญ่แล้ว? (ข) จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น และปวงชนผู้นมัสการแท้จะมีโอกาสอะไร?
19 หลังจากการทำลายบาบูโลนใหญ่แล้ว บรรดาผู้นมัสการแท้บนแผ่นดินจะร่วมกับคณะร้องเพลงในสวรรค์เปล่งเสียงดังว่า “ประชาชนทั้งหลาย จงสรรเสริญยาห์! . . . เพราะพระองค์ได้ทรงสำเร็จโทษแพศยาตัวร้ายกาจนั้นแล้ว . . . และพระองค์ได้ทรงแก้แค้นผู้หญิงนั้นเป็นการทดแทนโลหิตผู้ทาสของพระองค์ . . . และควันไฟจากเมืองนั้นพลุ่งขึ้นตลอดชั่วกาลนาน.”—วิวรณ์ 19:1-3, ล.ม.
20 ครั้นแล้วองค์ประกอบอื่น ๆ แห่งองค์การของซาตานทางโลกนี้จะถูกทำลาย. (วิวรณ์ 19:17-21) หลังจากนั้น ซาตานผู้ริเริ่มก่อตั้งศาสนาเท็จทุกรูปแบบพร้อมกับบริวารชั่วร้ายจะถูกกักตัวอยู่ในเหวลึก. ผีปีศาจเหล่านี้จะไม่มีโอกาสข่มเหงผู้นมัสการพระยะโฮวาอีกต่อไป. (วิวรณ์ 20:1-3) ศาสนาบริสุทธิ์จะมีชัยแก่ศาสนาเท็จ. ชายหญิงผู้ซื่อสัตย์ซึ่งเชื่อฟังปฏิบัติตามคำเตือนจากพระเจ้าที่ให้หนีออกไปเสียจากบาบูโลนใหญ่จะมีโอกาสรอดชีวิตเข้าไปสู่โลกใหม่ของพระเจ้า. ที่นั่นพวกเขาจะสามารถปฏิบัติศาสนาแท้และรับใช้นมัสการพระยะโฮวาได้อย่างเต็มที่ตลอดนิรันดรกาล.
[เชิงอรรถ]
a คำอธิบายเรื่องการนมัสการทูตสวรรค์ที่กล่าวในโกโลซาย 2:18 นั้น หาอ่านได้จากหอสังเกตการณ์ 15 กรกฎาคม 1985 หน้า 14.
b เพื่อจะได้คำอธิบายคำพยากรณ์นี้ โปรดอ่านหนังสือ (ภาษาอังกฤษ) พระธรรมวิวรณ์ใกล้จะถึงจุดสุดยอด! จัดพิมพ์จำหน่ายโดยสมาคมวอชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทรกต์ แห่งนิวยอร์ก บท 33-36.
ทดสอบความจำของคุณ
▫ ทัศนะของผู้ใดในเรื่องศาสนาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และทำไม?
▫ ยาโกโบกล่าวย้ำข้อกำหนดสองประการอะไรสำหรับศาสนาแท้?
▫ ข้อเรียกร้องอื่น ๆ มีอะไรบ้างสำหรับการนมัสการแท้?
▫ พยานพระยะโฮวาประกาศ “ข่าวดี” อะไร?
▫ ศาสนาแท้จะมีชัยชนะต่อศาสนาเท็จโดยวิธีใด?
[รูปภาพหน้า 17]
ผู้นำด้านศาสนาประชุมที่เมืองอัสซิซิ ประเทศอิตาลีในเดือนตุลาคม 1986
[รูปภาพหน้า 19]
ศาสนาแท้หมายรวมถึงการร่วมประชุมเพื่อนมัสการ