การช่วยให้รอดมาใกล้แล้วสำหรับบรรดาชนผู้เลื่อมใสในพระเจ้า
“พระยะโฮวาทรงทราบวิธีที่จะช่วยคนที่เลื่อมใสในพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลอง แต่ทรงทราบวิธีที่จะสงวนคนอธรรมไว้สำหรับวันแห่งการพิพากษาเพื่อจะถูกตัดขาด.”—2 เปโตร 2:9, ล.ม.
1. (ก) มนุษยชาติในทุกวันนี้กำลังเผชิญกับสภาพการณ์อันไม่ปลอดภัยอะไรบ้าง? (ข) เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ มีคำถามอะไรบ้างที่เราจะพิจารณา?
ปัญหาในชีวิตมนุษย์ทุกคนเพิ่มขึ้นทุกที. นี่เป็นความจริงไม่ว่ากับคนที่อาศัยอยู่ในที่ซึ่งบริบูรณ์ไปด้วยวัตถุปัจจัย หรือในที่ที่ขาดแคลนสิ่งจำเป็น. ความไม่ปลอดภัยมีอยู่ทั่วทุกแห่ง. ความกังวลกับภาวะง่อนแง่นทางเศรษฐกิจก็มีจนเกินพอ ปัญหาร้ายแรงด้านสิ่งแวดล้อมก็กำลังจู่โจมดาวเคราะห์โลกนี้ และคุกคามทุก ๆ ชีวิต. โรคภัยไข้เจ็บมีแพร่หลาย โรคระบาด โรคหัวใจ และโรคมะเร็งร้ายทำลายชีวิตมากมาย. ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมทำลายทั้งความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ และชีวิตครอบครัวจนย่อยยับ. นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว โลกยังเต็มไปด้วยความรุนแรง. เมื่อคำนึงถึงสิ่งที่สังคมมนุษย์กำลังเผชิญอยู่ เราจึงถามได้ว่า มีเหตุผลไหมที่จะคาดหมายให้การช่วยให้รอดมีมาเร็ว ๆ นี้? ถ้าเป็นได้ จะมีมาโดยวิธีใด? และสำหรับใคร?—เทียบฮะบาฆูค 1:2; 2:1-3.
2, 3. (ก) ทำไมพวกเราทุกวันนี้จึงเห็นว่าสิ่งที่มีกล่าวไว้ที่ 2 เปโตร 2:9 นั้นทำให้เรามั่นใจ? (ข) พระคัมภีร์ชี้ถึงปฏิบัติการเพื่อช่วยให้รอดครั้งใดบ้างที่เป็นพื้นฐานสำหรับการหนุนใจ?
2 สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสมัยนี้เตือนใจเราให้นึกถึงบางยุคในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่มีความหมายสำคัญมาก. อัครสาวกเปโตรนำความสนใจไปสู่ปฏิบัติการเพื่อช่วยให้รอดที่พระเจ้าทรงดำเนินการในสมัยต่าง ๆ นั้น และแล้วได้มาถึงข้อสรุปที่ทำให้มั่นใจดังนี้ “พระยะโฮวาทรงทราบวิธีที่จะช่วยคนที่เลื่อมใสในพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลอง.” (2 เปโตร 2:9, ล.ม.) ขอให้พิจารณาบริบทของคำกล่าวนั้นที่ 2 เปโตร 2:4-10 (ล.ม.):
3 “แน่นอน หากพระเจ้ามิได้ทรงยับยั้งไว้จากการลงโทษพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ผลักพวกเขาไปสู่ทาร์ทารัส ส่งพวกเขาไปยังขุมแห่งความมืดทึบเพื่อสงวนไว้สำหรับการพิพากษา และพระองค์มิได้ทรงยับยั้งไว้จากการลงโทษโลกในสมัยโบราณ แต่ได้ทรงคุ้มครองโนฮาผู้ประกาศความชอบธรรมให้ปลอดภัยกับคนอื่นอีกเจ็ดคนเมื่อพระองค์ทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกแห่งคนที่ดูหมิ่นพระเจ้า และโดยการทำลายเมืองซะโดมและกะโมราให้เป็นเถ้าถ่าน พระองค์ได้ทรงตำหนิคัดค้านพวกเขา วางแบบอย่างไว้สำหรับคนที่ดูหมิ่นพระเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และพระองค์ได้ทรงช่วยโลตผู้ชอบธรรมให้รอด ผู้ซึ่งเป็นทุกข์มากเนื่องจากการทำตามอำเภอใจของคนที่ฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการประพฤติหละหลวม—เพราะบุรุษผู้ชอบธรรมคนนั้นโดยสิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ยิน ขณะที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขาทุกวันทรมานจิตวิญญาณอันชอบธรรมของท่านเนื่องด้วยการกระทำที่ละเลยกฎหมายของพวกเขา—พระยะโฮวาทรงทราบวิธีที่จะช่วยคนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลอง แต่ทรงทราบวิธีที่จะสงวนคนอธรรมไว้สำหรับวันแห่งการพิพากษา เพื่อจะถูกตัดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านั้นที่ดำเนินตามเนื้อหนังด้วยความปรารถนาที่จะทำให้เนื้อหนังเป็นมลทิน และผู้ซึ่งดูถูกตำแหน่งผู้ปกครอง.” ดังที่พระคัมภีร์แสดงให้เห็น สิ่งที่ได้เกิดขึ้นในสมัยโนฮาและโลตเต็มไปด้วยความหมายสำหรับพวกเรา.
น้ำใจที่แพร่หลายในสมัยโนฮา
4. ในสมัยโนฮา เพราะเหตุใดพระเจ้าจึงทรงเห็นว่าแผ่นดินโลกถูกทำให้เสียหาย? (บทเพลงสรรเสริญ 11:5)
4 บันทึกเหตุการณ์ในเยเนซิศบท 6 บอกแก่เราว่า ในสมัยโนฮานั้นโลกถูกทำให้เสียหายในสายพระเนตรพระเจ้าองค์เที่ยงแท้. เพราะเหตุใด? เพราะความรุนแรง. นี่ไม่ใช่เป็นอาชญากรรมความรุนแรงที่เกิดขึ้นเฉพาะแห่ง. เยเนซิศ 6:11, (ล.ม.) บอกว่า “แผ่นดินเต็ม ไปด้วยความรุนแรง.”
5. (ก) ทัศนะแบบใดของมนุษย์ที่เพิ่มความรุนแรงในสมัยโนฮา? (ข) ฮะโนคได้เตือนไว้แล้วอย่างไรเกี่ยวด้วยการดูหมิ่นพระเจ้า?
5 อะไรอยู่เบื้องหลังสถานการณ์นั้น? ข้อพระคัมภีร์ที่ยกมากล่าวจาก 2 เปโตรนั้นกล่าวถึงบรรดาคนดูหมิ่นพระเจ้า. ใช่ น้ำใจของการดูหมิ่นพระเจ้าได้ครอบงำมนุษย์โลกไว้. สิ่งนี้เกี่ยวข้องไม่เพียงการไม่นำพาต่อกฎหมายของพระเจ้าเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทัศนะที่ต่อต้านพระเจ้าอย่างโจ่งแจ้งด้วย.a และเมื่อมนุษย์ต่อต้านพระเจ้า จะคาดหมายได้อย่างไรกันว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับเพื่อนมนุษย์ด้วยความกรุณา? แม้แต่ก่อนโนฮาเกิด การดูหมิ่นพระเจ้าก็มีแพร่ระบาดทั่วไปอยู่แล้ว จนพระยะโฮวาทรงให้ฮะโนคพยากรณ์ถึงสิ่งที่จะบังเกิดขึ้น. (ยูดา 14, 15) การต่อต้านพระเจ้าของพวกเขาจะนำมาซึ่งการสำเร็จโทษในคราวการพิพากษาของพระเจ้าอย่างแน่นอน.
6, 7. เหตุการณ์อะไรที่เกี่ยวข้องกับพวกทูตสวรรค์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของสภาพการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นก่อนมหาอุทกภัย?
6 มีอิทธิพลอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มความรุนแรงในสมัยนั้น. เยเนซิศ 6:1, 2 ชี้ให้สนใจอิทธิพลนั้น เมื่อกล่าวว่า “อยู่มาเมื่อมนุษย์ทวีมากขึ้นที่พื้นแผ่นดิน และมีบุตรสาวบังเกิดขึ้น บุตรชายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวของมนุษย์สวย ก็รับเขาไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของตน.” บุตรชายของพระเจ้าเหล่านั้นคือใคร? ไม่ใช่มนุษย์. ผู้ชายเคยเพ่งพิศผู้หญิงที่สวยและแต่งงานกับเขามานานหลายศตวรรษแล้ว. บุตรชายของพระเจ้าเหล่านั้นก็คือทูตสวรรค์ซึ่งแปลงกาย. ที่ยูดาข้อ 6 (ล.ม.) มีการพรรณนาถึงพวกเขาว่าเป็น “ทูตสวรรค์เหล่านั้นที่ไม่ได้รักษาตำแหน่งดั้งเดิมของตน แต่ได้ละทิ้งสถานที่อยู่อันควรของตน.”—เทียบ 1 เปโตร 3:19, 20.
7 เมื่อสิ่งมีชีวิตที่เหนือมนุษย์เหล่านี้ซึ่งได้แปลงกายเป็นมนุษย์ผู้ชายได้มีความสัมพันธ์กับบุตรสาวของมนุษย์ ผลคืออะไร? “ในคราวนั้นในแผ่นดินบังเกิดมีคนรูปล่างล่ำสันใหญ่โต [ภาษาฮีบรูเนฟิลิม ] ทั้งภายหลัง เมื่อบุตรพระเจ้าได้สมสู่อยู่กับบุตรสาวมนุษย์ จึงเกิดมีคนชนิดนั้น เขาเหล่านั้นแหละเป็นคนเก่ง มีชื่อเสียงเลื่องลือในกาลโบราณ.” ถูกแล้ว บุตรที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติคือพวกเนฟิลิม คนที่มีกำลังแข็งแรงมาก ซึ่งใช้กำลังที่เหนือกว่าเข้าขู่เข็ญรังแกคนอื่น.—เยเนซิศ 6:4.
8. พระยะโฮวาทรงมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสภาพการณ์อันเลวร้ายบนแผ่นดินโลก?
8 สถานการณ์ได้เลวร้ายลงจนถึงขีดไหน? ก็จนถึงขนาดที่ “พระยะโฮวาทรงเห็นมนุษย์กระทำความชั่วมากทวีขึ้นบนแผ่นดินโลก และทรงเห็นว่าความคิดนึกในใจของเขาล้วนเป็นความชั่วเสมอไป.” พระเจ้าทรงมีปฏิกิริยาเช่นไรต่อสภาพเช่นนี้? “พระองค์ [ยะโฮวา, ล.ม.] จึงทรงกลับหวนพระทัยโทมนัสถึงการที่ได้สร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดิน.” นี่ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าทรงรู้สึกว่าได้ทรงกระทำผิดพลาดในคราวที่ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น. แต่พระองค์ทรงเสียพระทัยที่ภายหลังจากพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น การประพฤติของพวกเขากลับชั่วร้ายจนพระองค์จำต้องทำลายล้างพวกเขาเสีย.—เยเนซิศ 6:5-7.
วิถีทางที่นำไปสู่การช่วยให้รอด
9. (ก) เพราะเหตุใดพระเจ้าจึงทรงดำเนินการด้วยความโปรดปรานกับโนฮา? (ข) พระเจ้าทรงบอกอะไรแก่โนฮาล่วงหน้า?
9 ส่วนโนฮา ท่าน “เป็นที่โปรดปรานในคลองพระเนตรพระยะโฮวา. . . . โนฮาเป็นคนชอบธรรม รอบคอบดีในสมัยอายุของเขา และได้ดำเนินไปกับพระเจ้า.” (เยเนซิศ 6:8, 9) ดังนั้น พระเจ้าจึงทรงให้คำเตือนล่วงหน้าแก่โนฮาว่าพระองค์จะทรงให้มีน้ำท่วมโลก และได้ทรงบัญชาให้โนฮาสร้างนาวาขึ้น. มนุษย์โลกทั้งสิ้นนอกจากโนฮาและครอบครัวจะถูกกวาดออกไปจากพื้นโลก. กระทั่งสัตว์ที่ทรงสร้างขึ้นก็จะถูกทำลาย เว้นแต่สัตว์จำนวนเล็กน้อยซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละชนิดที่โนฮาจะนำเข้าไว้ในนาวา.—เยเนซิศ 6:13, 14, 17.
10. (ก) ต้องมีการเตรียมอะไรเพื่อสงวนชีวิตไว้ และนั่นเป็นงานใหญ่เพียงไร? (ข) อะไรเป็นสิ่งที่ควรจดจำเกี่ยวด้วยวิธีที่โนฮาเอาใจใส่ต่องานมอบหมายของท่าน?
10 การรู้ล่วงหน้านี้วางความรับผิดชอบอันหนักหน่วงไว้กับโนฮา. ท่านต้องสร้างนาวา ซึ่งมีรูปร่างเหมือนหีบใบมหึมา มีเนื้อที่บรรจุประมาณ 1,400,000 ลูกบาศก์ฟุต [ประมาณ 40,000 ลูกบาศก์เมตร] โนฮาจะใช้เนื้อที่นั้นเก็บเสบียงอาหาร และรวบรวมสัตว์และนก “บรรดาสัตว์ที่มีชีวิต” เพื่อสงวนชีวิตไว้. เป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาทำหลายปีทีเดียว. โนฮาตอบรับพระบัญชานี้อย่างไร? พระคัมภีร์บอกว่า “พระเจ้ารับสั่งให้โนฮาทำอย่างไร โนฮาก็กระทำอย่างนั้นทุกสิ่งทุกประการ.”—เยเนซิศ 6:14-16, 19-22; เฮ็บราย 11:7.
11. หน้าที่รับผิดชอบอันสำคัญอะไรที่โนฮามีต่อครอบครัวของท่าน?
11 ขณะทำงานนั้น โนฮายังต้องใช้เวลาในการเสริมสร้างครอบครัวของท่านทางฝ่ายวิญญาณด้วย. พวกเขาจำต้องได้รับการคุ้มครองรักษาไว้จากการซึมซับเอาแนวทางความรุนแรงและทัศนะที่เป็นปฏิปักษ์ของผู้คนรอบข้าง. เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาจะไม่หมกมุ่นกับกิจธุระประจำวันมากเกินไป. พระเจ้าทรงมีงานให้พวกเขาทำ และเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาจะผูกพันชีวิตไว้กับงานนี้. เราทราบว่าครอบครัวของโนฮาตอบรับคำแนะนำของท่านและเข้าส่วนในความเชื่อของท่านด้วย เพราะโนฮา ภรรยาของท่าน บุตรชายทั้งสามและภรรยาของเขารวมแปดคน ได้มีการกล่าวถึงด้วยความเห็นชอบในพระคัมภีร์.—เยเนซิศ 6:18; 1 เปโตร 3:20.
12. ดังที่ 2 เปโตร 2:5 แสดงให้เห็น โนฮาทำหน้าที่รับผิดชอบอะไรให้สำเร็จด้วยความซื่อสัตย์?
12 โนฮายังมีหน้าที่รับผิดชอบอีกอย่างหนึ่ง คือการประกาศเตือนเรื่องน้ำท่วมที่จะมีมาและบอกให้รู้ว่าจะมาเพราะเหตุใด. ประจักษ์ชัดว่าท่านปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบนั้นอย่างซื่อสัตย์ เพราะมีกล่าวถึงท่านในพระคำของพระเจ้าในฐานะ “ผู้ประกาศความชอบธรรม.”—2 เปโตร 2:5, ล.ม.
13. ขณะที่โนฮาเอาใจใส่งานที่รับมอบหมายจากพระเจ้า ท่านเผชิญกับสภาพการณ์อะไร?
13 ทีนี้ มาลองคิดดูถึงสถานการณ์ตอนที่โนฮาได้ปฏิบัติหน้าที่มอบหมายนั้นให้สำเร็จ. ลองนึกว่าคุณอยู่ในฐานะของท่าน. หากคุณเป็นโนฮาหรือเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของท่าน คุณจะถูกห้อมล้อมด้วยความรุนแรงที่ถูกก่อขึ้นโดยพวกเนฟิลิม และคนดูหมิ่นพระเจ้า. คุณต้องเผชิญกับอิทธิพลของพวกทูตสวรรค์ที่กบฏอย่างซึ่งหน้า. ขณะที่คุณทำงานสร้างนาวา คุณจะตกเป็นเป้าการเยาะเย้ยถากถาง. และปีแล้วปีเล่าที่คุณเตือนเรื่องอุทกภัยที่จะมีมา คุณจะพบว่า ประชาชนมีแต่หมกมุ่นอยู่ในกิจธุระประจำวันในชีวิตที่ทำให้พวกเขา “ไม่แยแส”—นั่นคือ “จนกระทั่งน้ำท่วมและกวาดล้างเขาไปเสียสิ้น.”—มัดธาย 24:39, ล.ม.; ลูกา 17:26, 27.
ประสบการณ์ของโนฮามีความหมายอย่างไรต่อคุณ?
14. ทำไมจึงไม่ยากที่พวกเราทุกวันนี้จะเข้าใจถึงสภาพการณ์ที่โนฮากับครอบครัวต้องเผชิญ?
14 ไม่ยากเลยที่ผู้อ่านของเราส่วนใหญ่จะนึกภาพสถานการณ์เช่นนั้นออก. ทำไมล่ะ? ก็เพราะสภาพการณ์ในสมัยของเราคล้ายคลึงกันมากกับสมัยโนฮา. พระเยซูคริสต์ตรัสว่า นี่เป็นสิ่งที่คาดหมายได้. ในคำพยากรณ์อันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเวลาแห่งการประทับของพระองค์ในช่วงอวสานแห่งระบบชั่วนี้ พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่า “ด้วยสมัยของโนฮาได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น.”—มัดธาย 24:37.
15, 16. (ก) เป็นความจริงอย่างไรที่โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงเหมือนในสมัยโนฮา? (ข) ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาต้องประสบความรุนแรงเช่นไรโดยเฉพาะ?
15 เหตุการณ์ได้เป็นไปเช่นนั้นไหม? โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงไหม? ถูกแล้ว! มากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนเสียชีวิตในการสู้รบในศตวรรษนี้. ผู้อ่านของเราบางคนได้รับผลโดยตรงจากเรื่องนี้. อีกหลายคนถูกคุกคามโดยอาชญากรที่มุ่งหมายเอาเงินหรือสิ่งของมีค่า. และพวกเยาวชนก็ประสบกับความรุนแรงในโรงเรียน.
16 อย่างไรก็ตาม ผู้รับใช้ของพระเจ้าประสบยิ่งกว่าความเสียหายจากสงคราม และอาชญากรรมความรุนแรงที่ไม่เลือกหน้า. พวกเขายังประสบกับความรุนแรงเพราะพวกเขาไม่เป็นส่วนของโลกแต่พยายามเป็นคนที่เลื่อมใสในพระเจ้า. (2 ติโมเธียว 3:10-12) บางครั้งความรุนแรงมาในรูปของการผลักหรือการตบหน้า บางครั้งรวมถึงการทำลายทรัพย์สิน การทุบตีอย่างดุร้าย และกระทั่งการสังหารชีวิต.—มัดธาย 24:9.
17. การดูหมิ่นพระเจ้าแพร่หลายไหมในทุกวันนี้? จงอธิบาย.
17 ขณะที่กระทำการรุนแรงนั้นอยู่ บางครั้งคนดูหมิ่นพระเจ้าประกาศการดูหมิ่นพระเจ้าอย่างไร้ยางอาย. ณ ที่แห่งหนึ่งในแอฟริกา ตำรวจประกาศว่า “รัฐบาลเป็นของเรา. คุณไปหาพระเจ้าสิ หากมีจริงแล้วก็จงขอให้พระองค์มาช่วยคุณ.” ในคุกและค่ายกักกัน พยานพระยะโฮวาได้เผชิญกับคนอย่างบารานอฟสกี ในซักเซนเฮาเซน ประเทศเยอรมนีซึ่งเยาะเย้ยว่า “ผมเริ่มสู้กับยะโฮวาแล้ว. เรามาดูกันว่าใครเข้มแข็งกว่า ผมหรือยะโฮวา.” หลังจากนั้นไม่นาน บารานอฟสกีล้มป่วย แล้วก็ตาย แต่คนอื่น ๆ ยังคงแสดงทัศนะที่คล้ายคลึงกันอยู่. พวกเจ้าหน้าที่ของทางการที่ร่วมในการกดขี่ไม่ใช่พวกเดียวที่แสดงการต่อต้านพระเจ้า. ตลอดทั่วโลก ผู้รับใช้พระเจ้าได้ยินและได้เห็นสิ่งซึ่งให้พยานหลักฐานว่า คนเหล่านั้นที่เข้าร่วมกระทำอย่างนั้นไม่มีความเกรงกลัวพระเจ้าเลย.
18. ในทางใดที่พวกวิญญาณชั่วกำลังให้การสนับสนุนแก่สภาพการณ์ที่ปั่นป่วนของมนุษยชาติ?
18 สมัยนี้ซึ่งคล้ายคลึงกันมากกับสมัยโนฮา เราก็พบการรบกวนจากพวกวิญญาณชั่วด้วย. (วิวรณ์ 12:7-9) พวกภูตผีปีศาจเหล่านี้ก็คือเหล่าทูตสวรรค์พวกเดียวกันที่ได้แปลงกายเป็นมนุษย์ และแต่งงานกับผู้หญิงในสมัยโนฮา. เมื่อมหาอุทกภัยมา ภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขาถูกทำลาย แต่ทูตสวรรค์ที่ขัดขืนเหล่านั้นถูกบังคับให้กลับไปยังแดนวิญญาณ. พวกเขาไม่มีที่อยู่ในองค์การบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาอีกต่อไป แต่ถูกส่งไปทาร์ทารัส สภาวะอันมืดทึบ ถูกตัดขาดจากความสว่างแห่งพระเจ้า. (2 เปโตร 2:4, 5) ภายใต้การนำของซาตาน พวกมันยังคงติดต่อใกล้ชิดกับมนุษย์ และถึงแม้ไม่สามารถแปลงกายได้อีกแล้ว ก็ยังพยายามจะควบคุมมนุษย์ไว้ทั้งชาย หญิง และกระทั่งเด็ก ๆ. การนี้บางครั้งกระทำโดยพฤติกรรมลึกลับ. พวกมันยังปลุกปั่นมนุษยชาติให้ทำลายกันเองโดยไม่มีเหตุผล. แต่ไม่ใช่แค่นั้น.
19. (ก) พวกผีปีศาจมุ่งความเกลียดชังของมันต่อผู้ใดโดยเฉพาะ? (ข) ผีปีศาจพยายามจะบังคับเราให้ทำอะไร?
19 พระคัมภีร์เปิดเผยว่าพวกผีปีศาจกำลังทำสงครามกับ “ผู้ที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้า และยึดถือคำพยานของพระเยซู.” (วิวรณ์ 12:12, 17) พวกวิญญาณชั่วเหล่านั้นแหละเป็นตัวยุยงสำคัญในการกดขี่ข่มเหงเหล่าผู้รับใช้ของพระยะโฮวา. (เอเฟโซ 6:10-13) พวกมันใช้ทุกวิธีที่ทำได้เพื่อบังคับขู่เข็ญ หรือล่อล่วงคนที่ซื่อสัตย์ให้สูญเสียความจงรักภักดีต่อพระยะโฮวาและเพื่อยุติการประกาศข่าวราชอาณาจักรของพระยะโฮวาซึ่งมีพระเยซูอยู่ในฐานะกษัตริย์มาซีฮา.
20. พวกผีปีศาจใช้ความพยายามอย่างไรในการขัดขวางผู้คนจากการดิ้นหลุดจากการควบคุมของมัน? (ยาโกโบ 4:7)
20 พวกผีปีศาจพยายามขัดขวางผู้คนที่อยากจะหลุดพ้นจากอิทธิพลอันหนักหน่วงของพวกมัน. อดีตหมอผีคนหนึ่งในประเทศบราซิลเล่าว่า ตอนที่พยานฯมาเยี่ยมที่บ้าน เสียงผีปีศาจสั่งเธอไม่ให้เปิดประตูรับ แต่เธอเปิด และเธอก็ได้เรียนรู้ความจริง. ในหลายแห่ง พวกผีปีศาจใช้นักเวทย์มนต์คาถาโดยตรงให้พยายามหยุดยั้งการงานของคณะพยานพระยะโฮวา. เช่นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศซูรินาเม พวกที่ต่อต้านพยานพระยะโฮวาได้ติดต่อหมอผีคนหนึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าสามารถทำให้คนตายได้ทันทีโดยเพียงแต่ชี้ไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาไปที่คนนั้น. พร้อมกับคณะผู้ติดตามที่ตีกลอง และเต้นรำ หมอผีคนนั้นซึ่งถูกครอบงำโดยผีปีศาจก็ได้เผชิญหน้ากับพยานพระยะโฮวา. เขาท่องเวทย์มนต์ของเขาแล้วเอาไม้ชี้ไปที่พวกพยานฯ. พวกชาวบ้านคาดว่า พยานฯจะล้มลงตาย แต่กลับเป็นหมอผีเองที่เป็นลมและถูกพวกที่สนับสนุนเขารีบหามไปจากที่นั่นด้วยความอับอาย.
21 เช่นเดียวกับสมัยโนฮา ผู้คนส่วนใหญ่มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการประกาศสั่งสอนของเรา และเพราะเหตุใด?
21 แม้ในที่ที่การใช้เวทย์มนต์คาถาและพ่อมดหมอผีไม่ได้ปฏิบัติกันอย่างเปิดเผย พยานพระยะโฮวาทุกคนรู้ดีว่า การพยายามจะประกาศกับประชาชนที่หมกมุ่นกับกิจธุระประจำวันของชีวิตจนไม่อยากถูกรบกวนนั้นเป็นอย่างไร. ดังในสมัยโนฮา คนส่วนใหญ่ ‘ไม่แยแส.’ (มัดธาย 24:37-39) บางคนอาจชมเชยเอกภาพและความสำเร็จของพวกเรา. แต่พวกเขาคิดว่างานเสริมสร้างฝ่ายวิญญาณของพวกเรา—ซึ่งหมายรวมถึงการใช้เวลาศึกษาส่วนตัว การเข้าร่วมประชุมเป็นประจำ และการออกประกาศ นั้นล้วนแต่เป็นเรื่องไร้สาระ. พวกเขาหัวเราะเยาะความมั่นใจของเราในคำทรงสัญญาของพระเจ้า เพราะชีวิตของพวกเขามุ่งอยู่แต่การได้มาซึ่งวัตถุเงินทอง และความยินดีพอใจในตัณหาราคะที่เขาจะมีได้ในเวลานี้.
22, 23. เหตุการณ์ในสมัยโนฮาให้หลักประกันที่มั่นคงอย่างไรว่าพระยะโฮวาจะทรงช่วยบรรดาชนผู้เลื่อมใสในพระเจ้าให้พ้นจากการทดลอง?
22 ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาจะตกเป็นเป้าของการกล่าวร้ายจากคนที่ไม่มีความรักต่อพระเจ้าอยู่ตลอดไปไหม? ไม่แน่ ๆ! มีอะไรเกิดขึ้นในสมัยโนฮา? ตามพระบัญชาของพระเจ้า โนฮากับครอบครัวเข้าไปอยู่ในนาวาที่สร้างเสร็จแล้ว. ครั้นเมื่อถึงเวลากำหนดของพระเจ้า “บรรดาตาน้ำทั้งหลายก็เปิดออก และประตูน้ำแห่งฟ้าสวรรค์ก็เปิดออก.” น้ำท่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งท่วมมิดภูเขาทั้งหลาย. (เยเนซิศ 7:11, 17–20) พวกทูตสวรรค์ที่ได้ทิ้งถิ่นอยู่อันเหมาะสำหรับตนนั้นก็ถูกบังคับให้ทิ้งร่างที่แปลงเป็นมนุษย์ และกลับไปยังแดนวิญญาณ. พวกเนฟิลิมกับส่วนอื่นของโลกแห่งบรรดาคนดูหมิ่นพระเจ้า รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ไม่สนใจใยดีจะปฏิบัติตามคำเตือนของโนฮาถูกทำลายสิ้น. อีกด้านหนึ่ง โนฮากับภรรยา และบุตรชายทั้งสามกับภรรยาของพวกเขาปลอดภัย. ด้วยวิธีนี้เอง พระยะโฮวาทรงช่วยโนฮากับครอบครัวให้รอดจากการทดลองที่พวกท่านได้อดทนอย่างซื่อสัตย์เป็นเวลาหลายปีทีเดียว.
23 พระยะโฮวาจะทรงกระทำเช่นเดียวกันกับชนผู้เลื่อมใสในพระองค์ทุกวันนี้ไหม? ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้นในเรื่องนี้. พระองค์ทรงสัญญาไว้ และพระองค์ตรัสมุสาไม่ได้.—ติโต 1:2; 2 เปโตร 3:5-7.
[เชิงอรรถ]
a “อะโนเมีย คือการไม่นำพา หรือการต่อต้านกฎหมายของพระเจ้า; อะเซเบเอีย [คำนามของคำที่ได้รับการแปล ‘คนดูหมิ่นพระเจ้า’] เป็นทัศนะอย่างเดียวกับที่มีต่อองค์พระเจ้า.”—ไวน์ส เอ็กโพสิตอรี ดิกชันนารี ออฟ โอลด์ แอนด์ นิว เทสตาเมนต์ เวิร์ดส์ เล่ม 4 หน้า 170.
คุณจำได้ไหม?
▫ เปโตรแสดงอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงทราบวิธีช่วยบรรดาคนที่เลื่อมใสในพระองค์ให้พ้นจากการทดลอง?
▫ มีปัจจัยอะไรที่เสริมความรุนแรงในสมัยโนฮา?
▫ เมื่อคำนึงถึงมหาอุทกภัยทั่วโลกที่จะมีมา โนฮามีหน้าที่รับผิดชอบอะไร?
▫ ในสมัยนี้เราเห็นอะไรที่คล้ายคลึงกันกับสมัยโนฮา?
[รูปภาพหน้า 12]
การสร้างนาวาจำต้องใช้เวลาทำงานหนักหลายปี
[รูปภาพหน้า 13]
โนฮาใช้เวลาเพื่อเสริมสร้างครอบครัวทางฝ่ายวิญญาณ