บท 4
พระเยซูเสด็จมาพร้อมด้วยการหนุนใจ
1. ถึงตอนนี้โยฮันเขียนถึงใคร และผู้ใดในทุกวันนี้คงจะพบว่า ข่าวสารของท่านเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง?
ข้อความต่อมาควรเป็นสิ่งที่พึงหมกมุ่นสนใจแก่ทุกคนที่สมทบกับประชาคมแห่งประชาชนของพระเจ้าในทุกวันนี้. นี่คือข่าวสารที่เป็นชุด. ข่าวสารเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษขณะที่ “เวลากำหนด” ใกล้เข้ามา. (วิวรณ์ 1:3, ล.ม.) เราจะรับประโยชน์ถาวรถ้าเราเอาใจใส่คำประกาศเหล่านี้. ข้อความนั้นอ่านว่า “จากโยฮันถึงประชาคมทั้งเจ็ดในแคว้นเอเชีย ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับพระกรุณาอันใหญ่หลวงและสันติสุขจาก ‘พระองค์ผู้ทรงเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ ผู้ทรงเป็นอยู่ในกาลก่อน และเป็นผู้ซึ่งจะเสด็จมา’ และจากพระวิญญาณทั้งเจ็ดที่อยู่ต่อหน้าราชบัลลังก์ของพระองค์ และจากพระเยซูคริสต์.”—วิวรณ์ 1:4, 5ก, ล.ม.
2. (ก) เลข “เจ็ด” บ่งถึงอะไร? (ข) ในระหว่างวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข่าวสารที่มีไปยัง “ประชาคมทั้งเจ็ด” นั้นใช้กับใคร?
2 ในที่นี้โยฮันกล่าวกับ “ประชาคมทั้งเจ็ด” และเราจะทราบชื่อของประชาคมเหล่านั้นในคำพยากรณ์ต่อมา. มีการใช้เลข “เจ็ด” หลายครั้งในพระธรรมวิวรณ์. ตัวเลขนี้บ่งถึงความครบถ้วน โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าและประชาคมที่ถูกเจิมของพระองค์. เนื่องจากประชาคมแห่งประชาชนของพระเจ้าทั่วโลกได้ทวีขึ้นเป็นจำนวนหลายหมื่นในระหว่างวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราจึงแน่ใจได้ว่า สิ่งที่มีกล่าวในลำดับแรกแก่ “ประชาคมทั้งเจ็ด” แห่งผู้ถูกเจิมนั้น ก็ครอบคลุมถึงประชาชนทั้งปวงของพระเจ้าในปัจจุบันด้วย. (วิวรณ์ 1:10) ถูกแล้ว โยฮันมีข่าวสารสำคัญยิ่งสำหรับทุกประชาคมแห่งพยานพระยะโฮวาและทุกคนที่สมทบกับประชาคมเหล่านั้น ไม่ว่าที่ใดบนพื้นโลกนี้.
3. (ก) ในคำขึ้นต้นของโยฮันนั้น “พระกรุณาอันใหญ่หลวงและสันติสุข” มาจากไหน? (ข) คำพูดอะไรของเปาโลที่คล้ายคลึงกับคำขึ้นต้นของโยฮัน?
3 “พระกรุณาอันใหญ่หลวงและสันติสุข”—ช่างเป็นสิ่งที่น่าปรารถนาเสียจริงและโดยเฉพาะเมื่อเราหยั่งรู้เข้าใจถึงแหล่งที่มา! “พระองค์” ผู้ประทานสิ่งเหล่านี้คือพระยะโฮวาองค์บรมมหิศรนั่นเอง “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระเจริญนิรันดร์” ผู้ทรงเป็นอยู่ “ตั้งแต่อดีตกาลจนตลอดอนาคตกาล.” (1 ติโมเธียว 1:17; บทเพลงสรรเสริญ 90:2) นอกจากนั้นยังมี “วิญญาณทั้งเจ็ด” เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งบ่งชี้ถึงการดำเนินงานอย่างเต็มที่ของพลังปฏิบัติการ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า ในการนำความเข้าใจและพระพรมาสู่ทุกคนที่เอาใจใส่คำพยากรณ์นี้. นอกจากนั้น “พระเยซูคริสต์” ยังมีบทบาทสำคัญเกี่ยวข้องด้วย ผู้ซึ่งโยฮันเขียนในเวลาต่อมาว่า “พระองค์บริบูรณ์ไปด้วยพระกรุณาอันไม่พึงได้รับและความจริง.” (โยฮัน 1:14, ล.ม.) ดังนั้น คำขึ้นต้นของโยฮันมีข้อความเหมือนกับที่อัครสาวกเปาโลกล่าวในตอนจบของจดหมายฉบับที่สองที่ท่านมีไปถึงประชาคมโครินท์ดังนี้: “ขอให้พระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระเยซูคริสต์เจ้าและความรักของพระเจ้าและการเข้าส่วนในพระวิญญาณบริสุทธิ์ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลาย.” (2 โกรินโธ 13:14, ล.ม.) ขอให้ถ้อยคำเหล่านั้นหมายถึงพวกเราแต่ละคนที่รักความจริงในทุกวันนี้เช่นกัน!—บทเพลงสรรเสริญ 119:97.
“พยานที่ซื่อสัตย์”
4. โยฮันพรรณนาถึงพระเยซูคริสต์ต่อไปอย่างไร และเหตุใดคำพรรณนาเหล่านี้จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง?
4 นอกจากพระยะโฮวาแล้ว พระเยซูคริสต์ทรงเป็นบุคคลที่ทรงสง่าราศีมากที่สุดในเอกภพ ดังที่โยฮันยอมรับโดยพรรณนาว่า พระองค์เป็น “‘พยานที่ซื่อสัตย์’ ‘ผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย’ และ ‘ผู้ปกครองเหนือกษัตริย์ทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก.’” (วิวรณ์ 1:5ข, ล.ม.) เฉกเช่นดวงจันทร์บนท้องฟ้า พระองค์ได้รับการตั้งไว้อย่างมั่นคงในฐานะเป็นพยานองค์ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องความเป็นพระเจ้าของพระยะโฮวา. (บทเพลงสรรเสริญ 89:37) หลังจากพระเยซูทรงรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงจนถึงสิ้นพระชนม์เป็นเครื่องบูชาแล้ว พระองค์ทรงเป็นผู้แรกจากมนุษยชาติที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นมาสู่ชีวิตอมตะฝ่ายกายวิญญาณ. (โกโลซาย 1:18) บัดนี้ ต่อพระพักตร์ของพระยะโฮวา พระเยซูได้รับการสถาปนาให้อยู่เหนือบรรดากษัตริย์ทั้งหลายในโลก ได้รับมอบ “อำนาจทั้งสิ้น . . . ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก.” (มัดธาย 28:18, ล.ม.; บทเพลงสรรเสริญ 89:27; 1 ติโมเธียว 6:15) ในปี 1914 พระองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ครอบครองท่ามกลางชาติต่าง ๆ บนแผ่นดินโลก.—บทเพลงสรรเสริญ 2:6-9.
5. (ก) โยฮันแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อพระเยซูคริสต์เจ้าต่อไปอย่างไร? (ข) ใครได้รับประโยชน์จากการที่พระเยซูประทานชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์ และชนคริสเตียนผู้ถูกเจิมได้มีส่วนในพระพรพิเศษอย่างไร?
5 โยฮันแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อพระเยซูคริสต์เจ้าต่อไปอีกด้วยคำกล่าวที่เปี่ยมด้วยความสุข: “พระองค์ทรงรักเราทั้งหลายและทรงปลดปล่อยเราให้พ้นจากบาปของเราโดยพระโลหิตของพระองค์เอง อีกทั้งทรงทำให้เราเป็นราชอาณาจักรและเป็นปุโรหิตของพระเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าและพระบิดาของพระองค์. ขอให้พระองค์ทรงมีเกียรติยศและฤทธานุภาพตลอดไป. อาเมน.” (วิวรณ์ 1:5ค, 6, ล.ม.) พระเยซูทรงสละชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์เพื่อคนเหล่านั้นในโลกแห่งมนุษยชาติซึ่งแสดงความเชื่อในพระองค์จะมีโอกาสรับการฟื้นฟูสู่ชีวิตสมบูรณ์. ผู้อ่านที่รัก คุณอาจรวมอยู่ในจำพวกนี้ได้ด้วย! (โยฮัน 3:16) แต่ที่พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์เป็นเครื่องบูชานั้นได้เปิดทางสำหรับพระพรพิเศษแก่เหล่าผู้ที่จะมาเป็นคริสเตียนผู้ถูกเจิมเหมือนโยฮัน. คนเหล่านี้ได้รับการประกาศว่าเป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู. โดยปฏิเสธโอกาสทั้งหมดที่จะได้ชีวิตบนแผ่นดินโลก ดังที่พระเยซูได้กระทำ เหล่าแกะฝูงน้อยได้รับการกำเนิดโดยพระวิญญาณของพระเจ้า พร้อมกับความคาดหมายจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายเพื่อรับใช้ฐานะเป็นกษัตริย์และปุโรหิตร่วมกับพระเยซูคริสต์ในราชอาณาจักรของพระองค์. (ลูกา 12:32; โรม 8:18; 1 เปโตร 2:5; วิวรณ์ 20:6) ช่างเป็นสิทธิพิเศษยิ่งใหญ่อะไรเช่นนั้น! ไม่น่าแปลกใจเลยที่โยฮันกล่าวออกมาอย่างหนักแน่นว่า สง่าราศีและฤทธานุภาพดำรงอยู่กับพระเยซู!
“เสด็จมาในเมฆ”
6. (ก) โยฮันประกาศอะไรเกี่ยวกับการที่พระเยซู “เสด็จมาในเมฆ” และโยฮันคงระลึกถึงคำพยากรณ์อะไรของพระเยซู? (ข) พระเยซู “เสด็จมา” อย่างไร และใครจะประสบความโศกเศร้าอันแสนสาหัส ณ แผ่นดินโลก?
6 ต่อจากนั้นโยฮันประกาศด้วยความชื่นชมยินดีว่า “ดูเถิด! พระองค์จะเสด็จมาในเมฆ ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ รวมทั้งคนที่ได้แทงพระองค์ ทุกตระกูลแห่งแผ่นดินโลกจะตีอกชกหัวด้วยความโศกเศร้าเพราะพระองค์. อาเมน.” (วิวรณ์ 1:7, ล.ม.) ไม่ต้องสงสัย ตอนนี้โยฮันระลึกถึงคำพยากรณ์ของพระเยซูก่อนหน้านี้เกี่ยวกับอวสานของระบบปัจจุบัน. ที่นั่นพระเยซูตรัสว่า “ครั้นแล้วสัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์จะปรากฏในฟ้าสวรรค์ และครั้นแล้วตระกูลทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกจะทุบตีตัวเองด้วยความคร่ำครวญ และเขาทั้งหลายจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์ด้วยฤทธิ์และสง่าราศีเป็นอันมาก.” (มัดธาย 24:3, 30, ล.ม.) ดังนั้น พระเยซู “เสด็จมา” โดยตั้งพระทัยจะดำเนินการลงโทษตามคำพิพากษาของพระยะโฮวาต่อนานาชาติ. การนี้จะก่อการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงบนแผ่นดินโลก และเนื่องจาก “ตระกูลทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลก” ปฏิเสธความเป็นจริงแห่งฐานะกษัตริย์ของพระเยซู พวกเขาจะประสบ “พระพิโรธอันแรงกล้าของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ.”—วิวรณ์ 19:11-21, ล.ม.; บทเพลงสรรเสริญ 2:2, 3, 8, 9.
7. “ตาทุกดวง” รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังจะ “เห็น” พระเยซูอย่างไร?
7 ในคืนสุดท้ายที่พระเยซูทรงอยู่กับเหล่าสาวก พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “อีกหน่อยหนึ่งโลกจะไม่เห็นเราอีก.” (โยฮัน 14:19, ล.ม.) ถ้าเช่นนั้น “ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์” อย่างไร? เราไม่ควรคิดว่า ศัตรูของพระเยซูจะเห็นพระองค์ได้ด้วยตาของเขาจริง ๆ เพราะอัครสาวกเปาโลได้กล่าวหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้วว่า ขณะนี้พระเยซูทรง “สถิตอยู่ในความสว่างที่มนุษย์คนใดจะเข้าไปถึงไม่ได้” และ “ซึ่งมนุษย์ผู้ใดยังไม่เคยได้เห็นพระองค์, และจะเห็นพระองค์ไม่ได้.” (1 ติโมเธียว 6:16) เห็นได้ชัดว่า โยฮันใช้คำ “เห็น” ในความหมายของ “เข้าใจ” เหมือนอย่างที่เราอาจเห็น หรือเข้าใจ คุณลักษณะต่าง ๆ ของพระเจ้าอันไม่ปรากฏแก่ตาโดยพิจารณาสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง. (โรม 1:20, ล.ม.) พระเยซู “เสด็จมาในเมฆ” ในความหมายว่า พระองค์จะไม่ทรงปรากฏแก่ตาของมนุษย์เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์เมื่อถูกก้อนเมฆบดบังไว้. ถึงแม้ดวงอาทิตย์ถูกก้อนเมฆบดบังในเวลากลางวัน เราก็รู้ว่าดวงอาทิตย์อยู่ที่นั่นเพราะเราเห็นแสงสว่างที่ส่องมารอบตัวเรา. ทำนองเดียวกัน ถึงแม้พระเยซูเจ้าจะไม่ทรงปรากฏแก่ตา แต่พระองค์จะได้รับการเปิดเผยเหมือน “เปลวเพลิง” ขณะพระองค์ ‘ทรงสนองโทษแก่คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังกิตติคุณของพระองค์.’ คนเหล่านี้ก็เช่นกันจะถูกบังคับให้ “เห็นพระองค์.”—2 เธซะโลนิเก 1:6-8; 2:8.
8. (ก) ใครคือ “คนที่ได้แทงพระองค์” ในปีสากลศักราช 33 และทุกวันนี้คนเช่นนั้นคือใคร? (ข) เนื่องจากพระเยซูมิได้ทรงอยู่ที่แผ่นดินโลกนี้อีกแล้ว ผู้คนจะ “แทงพระองค์” ได้อย่างไร?
8 ‘คนที่ได้แทงพระองค์จะเห็น’ พระเยซูด้วย. พวกเหล่านี้น่าจะเป็นใคร? เมื่อพระเยซูถูกประหารในปีสากลศักราช 33 นั้น ทหารโรมันได้แทงพระองค์จริง ๆ. พวกยิวมีส่วนร่วมในความผิดฐานฆาตกรรมนี้ด้วย เพราะเปโตรได้กล่าวกับพวกยิวบางคนในวันเพนเทคอสต์ว่า “พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ขึ้นเป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์ คือพระเยซูซึ่งท่านทั้งหลายได้ตรึงไว้นั้น.” (กิจการ 2:5-11, 36, ล.ม.; เทียบกับซะคาระยา 12:10; โยฮัน 19:37.) พวกโรมันและยิวเหล่านั้นตายมานานเกือบ 2,000 ปีแล้ว. ดังนั้นพวกที่ ‘แทงพระองค์’ ในทุกวันนี้จึงต้องหมายถึงชาติต่าง ๆ และผู้คนที่แสดงทัศนะเกลียดชังเช่นเดียวกับผู้คนแสดงตอนพระเยซูถูกตรึงนั้น. พระเยซูไม่ได้อยู่บนแผ่นดินโลกอีกแล้ว. แต่เมื่อผู้ต่อต้านขันแข็งข่มเหงพยานของพระยะโฮวาผู้ซึ่งให้คำพยานเรื่องพระเยซู หรือยอมให้กับการปฏิบัติเช่นนั้น ก็ประหนึ่งว่าผู้ต่อต้านเหล่านั้น ‘แทง’ พระเยซูเอง.—มัดธาย 25:33, 41-46.
‘ผู้เป็นอัลฟาและโอเมกา’
9. (ก) ตอนนี้ ใครเป็นผู้ตรัส และพระองค์ตรัสกี่ครั้งในพระธรรมวิวรณ์? (ข) เมื่อพระยะโฮวาทรงเรียกพระองค์เองว่า “อัลฟาและโอเมกา” และ “ผู้มีฤทธานุภาพทุกประการ” นั้นหมายความอย่างไร?
9 บัดนี้ มาถึงตอนที่น่าระทึกใจยิ่ง! พระยะโฮวาองค์บรมมหิศรตรัสด้วยพระองค์เอง. นั้นเป็นการเริ่มต้นที่เหมาะสมอย่างยิ่งเพื่อเข้าสู่นิมิตต่าง ๆ ซึ่งกำลังจะถูกเปิดเผย เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระบรมครูของเราและทรงเป็นแหล่งสูงสุดแห่งการเปิดเผย! (ยะซายา 30:20) พระเจ้าของเราทรงแถลงว่า “เราเป็นอัลฟาและโอเมกา ผู้เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ ผู้เป็นอยู่ในกาลก่อน และเป็นผู้ซึ่งจะมา ผู้มีฤทธานุภาพทุกประการ.” (วิวรณ์ 1:8, ล.ม.) นี่เป็นครั้งแรกในสามครั้งในพระธรรมวิวรณ์ที่พระยะโฮวาตรัสจากสวรรค์ด้วยพระองค์เอง. (โปรดดูพระธรรมวิวรณ์ 21:5-8; 22:12-15 ด้วย.) คริสเตียนในศตวรรษแรกคงต้องเข้าใจคำอัลฟาและโอเมกาทันทีเนื่องจากเป็นอักษรตัวแรกและสุดท้ายในลำดับอักษรภาษากรีก. การที่พระยะโฮวาทรงเรียกพระองค์เองด้วยตัวอักษรสองตัวนี้เป็นการย้ำว่า ก่อนพระองค์ ไม่มีพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ และหลังจากพระองค์ก็จะไม่มีเช่นกัน. พระองค์จะทรงจัดการกับประเด็นเรื่องความเป็นพระเจ้าให้หมดข้อสงสัยตลอดชั่วกาลนาน. พระองค์จะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้องตลอดกาลฐานะเป็นพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการแต่พระองค์เดียว ทรงอำนาจสูงสุดเหนือสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง.—เทียบกับยะซายา 46:10; 55:10, 11.
10. (ก) โยฮันพรรณนาต่อไปถึงตัวท่านเองว่าอย่างไร และท่านถูกจองจำอยู่ที่ไหน? (ข) ม้วนหนังสือที่โยฮันเขียนต้องได้ถูกส่งไปยังประชาคมต่าง ๆ ด้วยความร่วมมือของผู้ใด? (ค) ทุกวันนี้ บ่อยครั้งอาหารฝ่ายวิญญาณถูกจัดเตรียมอย่างไร?
10 ด้วยความมั่นใจว่า พระยะโฮวาจะทรงเป็นผู้จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ให้สำเร็จผลในที่สุด โยฮันกล่าวแก่เพื่อนทาสของท่านว่า “ข้าพเจ้าโยฮัน พี่น้องของท่านทั้งหลายและเป็นผู้มีส่วนร่วมกับพวกท่านในความทุกข์ลำบากและราชอาณาจักรและการเพียรอดทนร่วมกับพระเยซู ได้มาอยู่ที่เกาะชื่อปัตโมสเพราะการพูดเรื่องพระเจ้าและการเป็นพยานฝ่ายพระเยซู.” (วิวรณ์ 1:9, ล.ม.) โยฮันผู้ชรา เป็นนักโทษอยู่ที่เกาะปัตโมสเพราะเห็นแก่ข่าวดี ยอมทนต่อความทุกข์ยากร่วมกับพี่น้องของท่าน หวังอย่างมั่นคงว่าจะมีส่วนร่วมในราชอาณาจักรที่จะมา บัดนี้ท่านเห็นนิมิตแรกของพระธรรมวิวรณ์. ไม่ต้องสงสัย ท่านคงได้รับการหนุนใจอย่างมากจากนิมิตเหล่านี้ เช่นเดียวกับชนจำพวกโยฮันทุกวันนี้ได้รับการกระตุ้นใจเมื่อเห็นการสำเร็จเป็นจริงของนิมิตเหล่านี้. เราไม่ทราบวิธีที่โยฮันส่งม้วนพระธรรมวิวรณ์ไปยังประชาคมต่าง ๆ เนื่องจากท่านถูกจองจำอยู่ในตอนนั้น. (วิวรณ์ 1:11; 22:18, 19) เหล่าทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาคงต้องได้ร่วมมือให้การนี้สำเร็จ เหมือนอย่างที่ได้ให้การปกป้องหลายครั้งแก่พยานที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาซึ่งรับใช้ในสภาพที่ถูกห้ามและถูกจำกัดในทุกวันนี้ ทำให้พวกเขาสามารถนำอาหารฝ่ายวิญญาณไปให้พี่น้องที่หิวกระหายความจริงได้ตามเวลา.—บทเพลงสรรเสริญ 34:6, 7.
11. สิทธิพิเศษอะไร ซึ่งคล้ายคลึงกับสิทธิพิเศษที่โยฮันหยั่งรู้ค่า ที่ชนจำพวกโยฮันในสมัยนี้เห็นคุณค่าอย่างยิ่ง?
11 โยฮันคงต้องหยั่งรู้ค่าอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ต่อสิทธิพิเศษที่พระยะโฮวาทรงใช้ท่านเป็นช่องทางของพระองค์เพื่อติดต่อกับประชาคมต่าง ๆ! เช่นเดียวกัน ชนจำพวกโยฮันในทุกวันนี้เห็นคุณค่าแห่งสิทธิพิเศษในการแจก “อาหาร [ฝ่ายวิญญาณ] ตามเวลา” แก่ครอบครัวของพระเจ้า. (มัดธาย 24:45) ขอให้คุณเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการเสริมให้แข็งแรงโดยการจัดเตรียมฝ่ายวิญญาณนี้เพื่อจะบรรลุเป้าหมายอันรุ่งโรจน์แห่งการมีชีวิตนิรันดร์!—สุภาษิต 3:13-18; โยฮัน 17:3.
[กรอบหน้า 21]
การได้รับอาหารฝ่ายวิญญาณในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก
ในสมัยสุดท้ายนี้ เมื่อพยานทั้งหลายของพระยะโฮวาได้รับการกดขี่ข่มเหงและความลำบากมากมาย เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่พวกเขาจะต้องรับเอาอาหารฝ่ายวิญญาณเพื่อจะตั้งมั่นคงในความเชื่อ. ในกรณีส่วนใหญ่ มีการจัดเตรียมการค้ำจุนอย่างเหมาะสม บ่อยครั้งเนื่องมาจากการแสดงอำนาจของพระยะโฮวาอย่างน่าทึ่ง.
ตัวอย่างเช่น ในประเทศเยอรมนีภายใต้การปกครองโดยฮิตเลอร์ พวกพยานฯอัดสำเนาวารสารหอสังเกตการณ์ แล้วจำหน่ายจ่ายแจก ซึ่งวารสารนี้ถูกพวกผู้ปกครองนาซีที่โหดร้ายได้สั่งห้ามอย่างเป็นทางการ. ในฮัมบูร์ก ตำรวจลับเกสตาโปได้เข้าตรวจค้นบ้านที่มีการอัดสำเนากันที่นั่น. บ้านหลังนั้นเล็ก และไม่มีที่จะซ่อนสิ่งของใดได้อย่างปลอดภัย. เครื่องพิมพ์ดีดถูกเอาไว้ในตู้เก็บถ้วยชาม และเครื่องอัดสำเนาที่ใหญ่เทอะทะถูกเก็บไว้ในลังมันฝรั่งที่อยู่ห้องใต้ดิน. นอกจากนั้น ข้างหลังลังมันฝรั่งยังมีกระเป๋าเสื้อผ้าที่บรรจุวารสารเต็มกระเป๋าอยู่ด้วย! ดูเหมือนจะต้องถูกค้นพบอย่างแน่นอน. แต่เกิดอะไรขึ้น? เจ้าหน้าที่ที่เปิดดูตู้เก็บถ้วยชามได้เปิดอย่างที่เขามองไม่เห็นเครื่องพิมพ์ดีด. ส่วนห้องใต้ดิน เจ้าของบ้านนั้นเล่าว่า “เจ้าหน้าที่สามคนยืนอยู่กลางห้อง ลองคิดดู ตรงนั้นแหละที่ลังมันฝรั่งกับกระเป๋าเสื้อผ้าที่มีวารสารหอสังเกตการณ์ ซึ่งอยู่ข้างหลังตั้งอยู่. แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่สังเกตสิ่งนั้น มันดูราวกับว่าพวกเขาถูกทำให้ตาบอด.” เนื่องจากการดลใจอันน่าทึ่งเช่นนี้ เจ้าของบ้านสามารถดำเนินการจัดอาหารฝ่ายวิญญาณได้ต่อไปในสมัยแห่งความยากลำบากและอันตราย.
ในทศวรรษ 1960 มีสงครามภายในเกิดขึ้นระหว่างไนจีเรียกับเขตการปกครองไบแอฟราซึ่งแยกตัวออกไป. เนื่องจากไบแอฟราถูกปิดล้อมไว้หมดด้วยอาณาเขตของไนจีเรีย การติดต่อระหว่างไบแอฟรากับโลกภายนอกมีเพียงทางเดียวคือทางอากาศ. นี้จึงหมายความว่า พยานพระยะโฮวาในไบแอฟราอยู่ในอันตรายของการถูกตัดขาดจากการได้รับอาหารฝ่ายวิญญาณ. แต่แล้ว เมื่อต้นปี 1968 คณะผู้มีอำนาจปกครองของไบแอฟราได้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนคนหนึ่งให้ไปประจำหน้าที่สำคัญในยุโรป และอีกคนหนึ่งถูกแต่งตั้งให้ประจำที่สนามบินแห่งไบแอฟรา. พอดี ทั้งสองคนที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นเป็นพยานพระยะโฮวา และถึงตอนนี้พวกเขาจึงอยู่ ณ ปลายทางทั้งสองของการติดต่อที่มีเพียงทางเดียวของไบแอฟรากับโลกภายนอก. ทั้งสองคนตระหนักว่าการจัดเตรียมนั้นต้องเป็นมาจากพระยะโฮวา. ฉะนั้น เขาจึงเสนอตัวทำงานที่ยุ่งยากและเสี่ยงอันตรายในการนำอาหารฝ่ายวิญญาณเข้าไปในไบแอฟรา. และพวกเขาก็สามารถทำอย่างนั้นได้ตลอดช่วงสงครามนั้น. หนึ่งในสองคนนั้นให้ความเห็นว่า “การจัดเตรียมนั้นอยู่นอกเหนือสิ่งที่มนุษย์จะสามารถวางแผนได้.”
[ตารางแผนภูมิหน้า 19]
ตัวเลขที่มีความหมายเป็นนัยในพระธรรมวิวรณ์
ตัวเลข ความหมายเป็นนัย
2 แสดงถึงการยืนยันอย่างหนักแน่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง.
(วิวรณ์ 11:3, 4; เทียบกับพระบัญญัติ 17:6.)
3 แสดงการเน้น. ยังแสดงถึงความเอาจริงเอาจังด้วย.
4 แสดงถึงการมีผลครอบคลุมทั้งหมด หรือความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
ในลักษณะได้สัดส่วนกันเหมาะสม.
6 แสดงถึงความไม่สมบูรณ์, บางสิ่งที่ผิดปกติ, พิกลพิการ.
(วิวรณ์ 13:18; เทียบกับ 2 ซามูเอล 21:20.)
7 แสดงถึงความครบถ้วนตามที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้
เกี่ยวกับพระประสงค์ของพระเจ้าหรือของซาตาน.
10 แสดงถึงความทั่วถึงหรือความครบถ้วนฝ่ายวัตถุ เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ฝ่ายแผ่นดินโลก.
12 แสดงถึงองค์การที่ถูกตั้งขึ้นโดยพระเจ้าทั้งในสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลก.
24 แสดงถึงการจัดเตรียมทางองค์การของพระเจ้าอย่างบริบูรณ์ (ทวีคูณ).
ตัวเลขบางจำนวนที่มีบอกในพระธรรมวิวรณ์ต้องเข้าใจตามตัวอักษร. บ่อยครั้ง บริบทจะช่วยให้เข้าใจ. (โปรดดูวิวรณ์ 7:4, 9; 11:2, 3; 12:6, 14; 17:3, 9-11; 20:3-5.)