บทความศึกษา 50
“คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยาน”
“ผมขอบอกคุณวันนี้ว่า คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยานแน่นอน”—ลก. 23:43
เพลง 145 คำสัญญาของพระเจ้าเรื่องอุทยาน
ใจความสำคัญa
1. ไม่นานก่อนที่พระเยซูจะตาย ท่านพูดอะไรกับผู้ร้ายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ท่าน? (ลูกา 23:39-43)
พระเยซูรู้สึกเจ็บปวดมากตอนที่ท่านกำลังจะตาย และผู้ร้าย 2 คนที่ถูกตรึงอยู่ข้าง ๆ ท่านก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน (ลก. 23:32, 33) พวกเขาพูดดูถูกพระเยซูเลยทำให้เรารู้ว่าพวกเขาไม่ใช่สาวกของท่าน (มธ. 27:44; มก. 15:32) แต่แล้วผู้ร้ายคนหนึ่งก็เปลี่ยนใจ เขาพูดกับพระเยซูว่า “ท่านเยซู ตอนที่ท่านได้เป็นกษัตริย์ อย่าลืมผมนะครับ” พระเยซูบอกเขาว่า “ผมขอบอกคุณวันนี้ว่า คุณจะได้อยู่กับผมในอุทยานแน่นอน” (อ่านลูกา 23:39-43) ผู้ร้ายคนนี้อาจเคยได้ยินพระเยซูประกาศเรื่อง “รัฐบาลสวรรค์” แต่เขาไม่ได้มาเป็นสาวกของท่าน และพระเยซูก็ไม่ได้บอกว่าเขาจะได้อยู่กับท่านในรัฐบาลสวรรค์ด้วย (มธ. 4:17) นี่แสดงว่าพระเยซูกำลังพูดถึงอุทยานบนโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำไมเราถึงบอกแบบนั้น?
2. เรารู้ได้ยังไงว่าผู้ร้ายที่กลับใจคนนี้เป็นชาวยิว?
2 ผู้ร้ายที่กลับใจคนนี้น่าจะเป็นชาวยิวเพราะเขาพูดกับผู้ร้ายอีกคนหนึ่งว่า “แกไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือไง แกก็ถูกลงโทษเหมือนกันนะ” (ลก. 23:40) ชาวยิวนมัสการพระเจ้าองค์เดียว แต่คนต่างชาตินมัสการเทพเจ้าหลายองค์ (อพย. 20:2, 3; 1 คร. 8:5, 6) ถ้า 2 คนนี้เป็นคนต่างชาติ ผู้ร้ายคนนั้นก็น่าจะพูดว่า “แกไม่กลัวพวกเทพเจ้าหรือไง?” นอกจากนั้น พระเยซูไม่ได้ถูกส่งมาประกาศกับคนต่างชาติ ท่านถูกส่งมาประกาศ “เฉพาะคนอิสราเอลเท่านั้น พวกเขาเป็นเหมือนแกะที่หลงหาย” (มธ. 15:24) ไม่ใช่แค่นั้น พระยะโฮวายังให้ชาวอิสราเอลรู้ว่าพระองค์จะปลุกคนตายให้ฟื้นและผู้ร้ายที่กลับใจคนนี้ก็อาจจะรู้เรื่องนี้ จากคำพูดของเขาทำให้เรารู้ว่าเขาคิดว่าพระยะโฮวาจะปลุกพระเยซูให้ฟื้นขึ้นจากตายและเป็นกษัตริย์ปกครองในรัฐบาลของพระองค์ ตัวเขาเองก็คงหวังว่าพระเจ้าจะปลุกเขาให้ฟื้นขึ้นจากตายด้วย
3. ตอนที่พระเยซูพูดถึงอุทยาน ผู้ร้ายที่กลับใจคนนี้น่าจะคิดถึงอะไร? ขออธิบาย (ปฐมกาล 2:15)
3 เนื่องจากผู้ร้ายคนนี้เป็นชาวยิว เขาคงรู้เกี่ยวกับเรื่องอาดัม เอวา และสวนอุทยานที่พระยะโฮวาให้มนุษย์คู่แรกอยู่ ดังนั้น เขาคงรู้ดีว่าอุทยานที่พระเยซูพูดถึงต้องหมายถึงสวนสวยงามที่อยู่บนโลก—อ่านปฐมกาล 2:15
4. คำพูดที่พระเยซูพูดกับผู้ร้ายคนนั้นควรทำให้เราคิดถึงอะไร?
4 คำพูดที่พระเยซูพูดกับผู้ร้ายคนนั้นน่าจะทำให้เราลองคิดว่าชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานจะเป็นยังไง ที่จริงเราสามารถรู้ว่าโลกใหม่จะเป็นยังไงโดยดูจากช่วงที่กษัตริย์โซโลมอนปกครองซึ่งเป็นช่วงที่มีสันติสุขมาก และเราคาดหมายได้เลยว่าพระเยซูผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าโซโลมอนจะทำงานกับผู้ร่วมปกครองของท่านเพื่อทำให้โลกอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นอีก (มธ. 12:42) และ “แกะอื่น” ควรสนใจด้วยว่าพวกเขาต้องทำยังไงเพื่อจะได้อยู่ในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานตลอดไป—ยน. 10:16
ชีวิตในอุทยานจะเป็นยังไง?
5. คุณคิดว่าชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานจะเป็นยังไง?
5 พอพูดถึงสวนอุทยานคุณคิดถึงอะไร? คุณอาจคิดถึงสวนสวย ๆ เหมือนสวนเอเดน (ปฐก. 2:7-9) คุณอาจนึกถึงคำพยากรณ์ที่มีคาห์เขียนไว้ว่า คนของพระยะโฮวา “จะได้นั่งใต้ต้นองุ่นและต้นมะเดื่อของตัวเอง” (มคา. 4:3, 4) คุณอาจคิดถึงข้อคัมภีร์หลายข้อที่บอกว่าจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน (สด. 72:16; อสย. 65:21, 22) คุณอาจนึกภาพตัวเองนั่งอยู่ในสวนสวย ๆ บนโต๊ะมีอาหารน่ากินเต็มไปหมด คุณได้สูดอากาศสดชื่นและได้กลิ่นดอกไม้หอม ๆ ตัวคุณเอง เพื่อน ๆ และครอบครัว รวมถึงญาติ ๆ ที่ฟื้นขึ้นจากตายกำลังคุยกันและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นแค่ความฝัน แต่มันคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต และไม่เพียงเท่านั้น เราจะได้ทำงานที่ทำให้มีความสุขด้วย
6. เราจะได้ทำงานอะไรบ้างในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน? (ดูภาพ)
6 พระยะโฮวาสร้างเราให้มีความสุขกับการทำงาน (ปญจ. 2:24) ในช่วง 1,000 ปีที่พระเยซูปกครองจะมีงานให้เราทำเยอะแยะ คนที่รอดชีวิตผ่านความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่รวมถึงคนที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตายจะต้องมีเสื้อผ้า อาหาร และที่พัก การช่วยกันเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาจะทำให้เรามีความสุขแน่นอน และเหมือนกับที่อาดัมกับเอวาต้องขยายสวนเอเดนออกไป เราก็มีสิทธิพิเศษที่จะทำให้ทั้งโลกเป็นอุทยาน นอกจากนั้น ลองคิดดูว่าเราจะมีความสุขมากแค่ไหนที่จะได้สอนหลายล้านคนที่ฟื้นขึ้นจากตายซึ่งแทบไม่รู้จักพระยะโฮวาและความตั้งใจของพระองค์ รวมถึงได้ช่วยผู้รับใช้ของพระเจ้าที่ซื่อสัตย์ซึ่งมีชีวิตก่อนสมัยของพระเยซูให้ได้เรียนรู้อีกหลายเรื่อง
7. เรามั่นใจได้ในเรื่องอะไร? และทำไม?
7 เรามั่นใจได้ว่าชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานภายใต้การปกครองของพระเยซูจะเป็นชีวิตที่สงบสุข มีสิ่งดี ๆ มากมาย และได้รับการจัดระเบียบอย่างดี ทำไมเราถึงมั่นใจแบบนั้นได้? ก็เพราะพระยะโฮวาทำให้เราเห็นมาแล้วในสมัยของโซโลมอน
สมัยของโซโลมอนทำให้เห็นว่าชีวิตในอุทยานจะเป็นยังไง
8. คำพูดที่สดุดี 37:10, 11, 29 เกิดขึ้นจริงมาแล้วยังไงในอดีต? (ดู “คำถามจากผู้อ่าน” ในเล่มนี้)
8 กษัตริย์ดาวิดได้รับการดลใจให้เขียนว่าชีวิตจะเป็นยังไงเมื่อกษัตริย์ที่ฉลาดและซื่อสัตย์ปกครอง (อ่านสดุดี 37:10, 11, 29) ปกติแล้วเรามักจะอ่านสดุดี 37:11 ให้เจ้าของบ้านฟังตอนที่เราคุยเรื่องโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน นั่นก็ถูกแล้วเพราะพระเยซูเองก็ยกข้อนี้มาพูดตอนที่ท่านบรรยายบนภูเขา และแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต (มธ. 5:5) แต่คำพูดนี้ของดาวิดก็ทำให้เห็นว่าสมัยที่โซโลมอนปกครองจะเป็นยังไงด้วย ตอนที่โซโลมอนเป็นกษัตริย์ ชาวอิสราเอลมีสันติสุขและมีแต่สิ่งดี ๆ พวกเขาได้อยู่ในแผ่นดิน “ที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย” นอกจากนั้น พระยะโฮวายังบอกด้วยว่า “ถ้าพวกเจ้าทำตามข้อกำหนดของเรา . . . เราจะให้แผ่นดินของเจ้ามีความสงบสุข ตอนที่เจ้านอนจะไม่มีใครมาทำให้กลัว” (ลนต. 20:24; 26:3, 6) คำสัญญาเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริงในสมัยของโซโลมอนแล้ว (1 พศ. 22:9; 29:26-28) ในช่วงนั้น “ไม่มี” ศัตรูที่ชั่วร้ายมารุกรานชาติอิสราเอลเลย (สด. 37:10) ดังนั้น เราเห็นว่าสดุดี 37:10, 11, 29 เกิดขึ้นจริงไปแล้ว และมันก็จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
9. ราชินีแห่งเชบาพูดยังไงเกี่ยวกับการปกครองสมัยโซโลมอน?
9 ข่าวเรื่องความสงบสุขและความรุ่งเรืองของชาติอิสราเอลที่อยู่ภายใต้การปกครองของโซโลมอนได้ยินถึงหูราชินีแห่งเชบา เธอเลยเดินทางไกลเพื่อมาดูด้วยตาตัวเอง (1 พก. 10:1) พอได้เห็นแล้ว เธอก็บอกว่า “ที่เราได้ยินนั้นยังไม่ถึงครึ่ง . . . ประชาชนของท่านกับข้าราชสำนักที่คอยรับใช้ใกล้ชิดและได้ยินคำพูดที่ฉลาดหลักแหลมของท่านคงมีความสุขมากจริง ๆ” (1 พก. 10:6-8) แต่ความสงบสุขในสมัยของโซโลมอนเป็นแค่ตัวอย่างของสิ่งที่พระยะโฮวาจะทำเพื่อมนุษย์ภายใต้การปกครองของพระเยซู
10. พระเยซูเหนือกว่าโซโลมอนยังไงบ้าง?
10 พระเยซูเหนือกว่าโซโลมอนในทุกด้าน โซโลมอนเป็นแค่มนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบซึ่งทำผิดพลาดหลายครั้งและทำให้ทั้งชาติอิสราเอลเจอหายนะ ตรงกันข้ามกับพระเยซูซึ่งเป็นผู้ปกครองที่สมบูรณ์แบบและไม่เคยทำผิดเลย (ลก. 1:32; ฮบ. 4:14, 15) พระเยซูเคยผ่านการทดสอบที่หนักหนาสาหัสจากซาตานมาแล้ว และท่านพิสูจน์ให้เห็นว่าท่านไม่เคยทำบาปหรือทำผิดอะไรที่จะนำความเสียหายมาสู่คนที่อยู่ภายใต้การปกครองของท่าน พระเยซูเป็นกษัตริย์ที่ดีที่สุดของเราจริง ๆ
11. ใครเป็นผู้ร่วมปกครองกับพระเยซู?
11 พระเยซูยังมีผู้ร่วมปกครองกับท่าน 144,000 คนด้วยที่จะช่วยกันดูแลมนุษย์และทำให้ความตั้งใจของพระยะโฮวาเกี่ยวกับโลกนี้เป็นจริง (วว. 14:1-3) ตอนที่พวกเขาเป็นมนุษย์ พวกเขาเคยเจอความยากลำบากและความทุกข์มากมายมาแล้ว ดังนั้น พวกเขาจะปกครองด้วยความเห็นอกเห็นใจ แล้วพวกเขาต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง?
ผู้ถูกเจิมจะทำหน้าที่อะไร?
12. พระยะโฮวาให้ 144,000 คนทำงานอะไร?
12 งานที่พระเยซูกับผู้ร่วมปกครองของท่านต้องทำนั้น ยิ่งใหญ่กว่าและเยอะกว่าสิ่งที่โซโลมอนทำหลายเท่า โซโลมอนดูแลประชาชนไม่กี่ล้านคนในประเทศอิสราเอลประเทศเดียว แต่พระเยซูกับผู้ร่วมปกครองของท่านต้องดูแลหลายพันล้านคนทั่วโลก เราเห็นว่าพระยะโฮวาให้สิทธิพิเศษกับผู้ถูกเจิม 144,000 คนมากจริง ๆ
13. ผู้ร่วมปกครองกับพระเยซูมีหน้าที่พิเศษอะไร?
13 ทั้ง 144,000 คนจะเป็นกษัตริย์และปุโรหิตเหมือนกับพระเยซู (วว. 5:10) ในกฎหมายของโมเสส ปุโรหิตมีหน้าที่ช่วยประชาชนให้มีสุขภาพดีและสนิทกับพระยะโฮวา เนื่องจากกฎหมายของโมเสสเป็น “เงาของสิ่งดี ๆ ที่จะมีมา” เลยมีเหตุผลที่เราจะลงความเห็นว่าผู้ร่วมปกครองกับพระเยซูจะช่วยคนที่อยู่ในโลกให้มีสุขภาพดีและสนิทกับพระยะโฮวาด้วย (ฮบ. 10:1) ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าพระเยซูกับผู้ร่วมปกครองของท่านจะติดต่อกับพวกเราบนโลกยังไง แต่เรามั่นใจได้ว่าในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน ทุกคนจะได้รับการชี้นำแน่นอน—วว. 21:3, 4
“แกะอื่น” ต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะได้อยู่ในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน?
14. “แกะอื่น” กับ “แกะฝูงเล็ก” มีความสัมพันธ์กันยังไง?
14 พระเยซูเรียกคนที่ปกครองร่วมกับท่านว่า “แกะฝูงเล็ก” (ลก. 12:32) และท่านยังพูดถึงคนกลุ่มที่ 2 ด้วย ท่านเรียกพวกเขาว่า “แกะอื่น” ทั้งสองกลุ่มนี้จะรวมกันเป็นฝูงเดียว (ยน. 10:16) ตอนนี้ทั้งสองกลุ่มทำงานด้วยกัน และถึงแม้ในอนาคต “แกะฝูงเล็ก” จะอยู่ในสวรรค์ ส่วน “แกะอื่น” จะอยู่บนโลกที่เป็นอุทยาน แต่พวกเขาก็จะทำงานด้วยกันต่อไป แล้วคนที่เป็น “แกะอื่น” ต้องทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะได้อยู่ในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน?
15. (ก) “แกะอื่น” จะสนับสนุนพี่น้องของพระคริสต์ได้ยังไง? (ข) คุณจะเลียนแบบพี่น้องในภาพที่ไปร้านขายยาได้ยังไง?
15 ผู้ร้ายที่กลับใจคนนั้นตายก่อนที่เขาจะมีโอกาสพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเห็นค่าสิ่งที่พระเยซูทำ แต่ตอนนี้เราซึ่งเป็น “แกะอื่น” มีโอกาสมากมายที่จะแสดงให้เห็นว่าเรารู้สึกยังไงกับพระเยซู เช่น เราแสดงว่าเรารักท่านโดยสนับสนุนและช่วยพี่น้องผู้ถูกเจิมของท่าน พระเยซูบอกว่าท่านจะตัดสินว่าใครเป็นแกะโดยอาศัยสิ่งที่เขาทำกับพี่น้องของท่าน (มธ. 25:31-40) เราสนับสนุนพี่น้องของพระเยซูได้โดยขยันประกาศและสอนคนให้เป็นสาวก (มธ. 28:18-20) เราเลยอยากใช้เครื่องมือช่วยสอนคัมภีร์ไบเบิลที่พวกเขาเตรียมให้เรา เช่น หนังสือชีวิตที่มีความสุขตลอดไป ตอนนี้ถ้าคุณยังไม่ได้นำการศึกษาใครโดยใช้หนังสือเล่มนี้ ทำไมไม่ลองตั้งเป้าที่จะชวนคนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ให้มาศึกษาดูล่ะ?
16. เราต้องทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้เพื่อเตรียมตัวจะอยู่ในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน?
16 เราต้องปรับปรุงตัวเองตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะเป็นคนที่พระยะโฮวาอยากให้อยู่ในโลกใหม่ เราต้องพยายามเป็นคนซื่อสัตย์ทั้งคำพูดและการกระทำ และใช้ชีวิตอย่างสมดุล เราต้องภักดีต่อพระยะโฮวา ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส และภักดีต่อพี่น้อง ยิ่งเราพยายามใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระเจ้าตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ในโลกชั่วนี้ เมื่อเราเข้าไปในโลกใหม่มันก็ยิ่งง่ายขึ้นสำหรับเราที่จะใช้ชีวิตแบบนั้นต่อไป นอกจากนั้น เรายังอาจฝึกความสามารถบางอย่างหรือฝึกคุณลักษณะที่ดีอื่น ๆ ที่แสดงว่าเรากำลังเตรียมตัวที่จะได้อยู่ในโลกใหม่ ขอให้ดูบทความ “คุณพร้อมจะ ‘รับโลกเป็นรางวัล’ ไหม?” ในเล่มนี้
17. เราควรรู้สึกผิดไม่หายเพราะสิ่งที่เคยทำในอดีตไหม? ขออธิบาย
17 นอกจากนั้น ถ้าเรารู้สึกผิดไม่หายเพราะสิ่งที่เคยทำ เราควรพยายามเลิกรู้สึกแบบนั้น แต่เราจะไม่เอาค่าไถ่ของพระเยซูมาเป็นข้ออ้างที่จะ “จงใจทำบาป” อยู่เรื่อย ๆ (ฮบ. 10:26-31) เรามั่นใจว่าแม้เราทำผิดร้ายแรง แต่ถ้าเรากลับใจจริง ๆ ขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาและพวกผู้ดูแล และเปลี่ยนแปลงตัวเอง พระองค์จะให้อภัยเราอย่างใจกว้างแน่นอน (อสย. 55:7; กจ. 3:19) ให้เราจำคำพูดของพระเยซูที่พูดกับพวกฟาริสีไว้เสมอ ท่านบอกว่า “ที่ผมมา ไม่ได้มาเพื่อช่วยคนดี แต่มาช่วยคนบาป” (มธ. 9:13) ค่าไถ่ของพระเยซูมีพลังมากพอที่จะลบล้างบาปของเราได้ทั้งหมด
คุณมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน
18. คุณอยากจะคุยอะไรกับผู้ร้ายคนนั้นที่อยู่ข้าง ๆ พระเยซู?
18 ลองนึกภาพตัวคุณเองอยู่ในโลกใหม่ที่เป็นสวนอุทยานและได้คุยกับผู้ร้ายคนนั้นที่พูดกับพระเยซู คุณสองคนคงคุยกันว่ารู้สึกขอบคุณค่าไถ่ของพระเยซูมากขนาดไหน คุณอาจจะขอให้เขาเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นในชั่วโมงท้าย ๆ ที่พระเยซูมีชีวิตอยู่บนโลก และอาจถามเขาว่ารู้สึกยังไงที่ท่านตอบแบบนั้น และเขาเองก็อาจขอให้คุณเล่าว่าชีวิตในสมัยสุดท้ายในโลกของซาตานเป็นยังไง ลองคิดดูว่าจะเป็นสิทธิพิเศษขนาดไหนถ้าในโลกใหม่คุณได้สอนคัมภีร์ไบเบิลให้กับคนที่เป็นเหมือนผู้ชายคนนี้—อฟ. 4:22-24
19. ทำไมชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นสวนอุทยานจะไม่น่าเบื่อเลย? (ดูภาพหน้าปก)
19 ชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานจะไม่น่าเบื่อเลย เราจะได้ทำงานที่มีความสุขและเจอกับหลายคนที่น่าสนใจ ที่สำคัญที่สุด ทุกวันเราจะมีโอกาสได้รู้จักพระยะโฮวาพ่อในสวรรค์ของเราดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีความสุขกับสิ่งที่พระองค์ให้เรา เราจะได้เรียนรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดเกี่ยวกับพระองค์รวมทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์สร้าง ยิ่งเราอายุยืนยาวเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรักพระองค์มากขึ้นไปอีก เรารู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่พระยะโฮวากับพระเยซูสัญญาว่าเราจะมีชีวิตตลอดไปในโลกใหม่ที่เป็นอุทยาน
เพลง 22 รัฐบาลของพระเจ้าก่อตั้งแล้ว ขอให้มาปกครองโลกเถิด!
a คุณคงคิดบ่อย ๆ ใช่ไหมว่าชีวิตในโลกใหม่ที่เป็นอุทยานจะเป็นยังไง? ถ้าคุณทำแบบนี้ก็ดีมาก ยิ่งเราคิดว่าพระยะโฮวาจะทำอะไรเพื่อเราในอนาคต เราก็ยิ่งกระตือรือร้นที่จะสอนคนอื่นเรื่องโลกใหม่ บทความนี้จะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นในคำสัญญาของพระเยซูเรื่องโลกใหม่ที่เป็นอุทยานที่ใกล้จะมาถึง
b คำอธิบายภาพ พี่น้องชายคนหนึ่งที่มีความหวังจะได้สอนคนที่ฟื้นขึ้นจากตายกำลังสอนคนอื่นเรื่องพระเจ้าตั้งแต่ตอนนี้