ปัญญาจารย์
2 แล้วเราก็คิดในใจว่า “เราจะลองทำอะไรสนุก ๆ บ้าง ดูซิว่าจะมีอะไรดี ๆ ไหม” แต่นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
2 เราพูดถึงการหัวเราะว่า “เป็นเรื่องไร้สติ”
และพูดถึงความสนุกสนานว่า “มีประโยชน์ตรงไหน?”
3 เราตัดสินใจดื่มเหล้าองุ่นให้เต็มที่+ แต่ก็ยังรักษาสติไว้ได้ เราถึงกับยอมทำอะไรโง่ ๆ เพื่อจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดที่คนเราควรทำในช่วงชีวิตอันแสนสั้นใต้ฟ้านี้ 4 เราทำโครงการใหญ่ ๆ หลายอย่าง+ เราสร้างวังให้ตัวเองหลายวัง+และทำสวนองุ่นไว้หลายแห่ง+ 5 เราทำสวนสวย ๆ ของเราเองและปลูกผลไม้หลายชนิดไว้ในสวนเหล่านั้น 6 เราสร้างสระน้ำหลายสระเพื่อส่งน้ำเข้าไปในสวนป่าที่มีต้นไม้งอกงาม 7 เรามีคนรับใช้ชายหญิง+ มีคนรับใช้ที่เกิดในบ้าน และมีฝูงสัตว์ ทั้งฝูงวัวฝูงแกะฝูงแพะ+มากกว่าทุกคนที่เคยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มมาก่อนเรา 8 เราสะสมเงินและทองคำ+ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของพวกกษัตริย์และแคว้นต่าง ๆ+ เรารวบรวมนักร้องชายหญิงมาให้ความบันเทิงกับเรา และเรามีผู้หญิงมากมายที่ให้ความสำราญกับคนทั้งหลาย 9 เรายิ่งใหญ่กว่าทุกคนที่เคยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มมาก่อนเรา+ และเราก็มีสติปัญญา
10 เราอยากได้*อะไรเราก็หามา+ เราอยากสนุกอย่างไรเราก็ทำ เพราะเรามีความสุขกับการทำงานหนัก และนี่คือรางวัล*ที่เราได้จากการทำงานหนัก+ 11 แต่เมื่อเราคิดถึงทุกสิ่งที่เราทำและงานหนักที่เราบากบั่นทำจนเสร็จ+ เราก็เห็นว่าทุกสิ่งไร้ประโยชน์และเป็นการวิ่งไล่ตามลม+ และไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่มีค่า*จริง ๆ+
12 แล้วเราก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องสติปัญญา รวมทั้งเรื่องบ้า ๆ กับเรื่องโง่ ๆ+ (เพราะคนที่มาภายหลังกษัตริย์องค์นี้จะทำอะไรได้อีกหรือ? คงทำได้แค่สิ่งที่ทำมาแล้วเท่านั้น) 13 เราจึงเห็นว่าสติปัญญาดีกว่าความโง่+ เหมือนที่ความสว่างดีกว่าความมืด
14 คนฉลาดมองเห็นทางเดินของตัวเองอย่างชัดเจน+ แต่คนโง่เดินอยู่ในความมืด+ และเราได้เข้าใจด้วยว่าในที่สุดพวกเขาจะต้องพบจุดจบอย่างเดียวกัน+ 15 แล้วเราก็คิดในใจว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนโง่จะเกิดขึ้นกับเราด้วย”+ ถ้าอย่างนั้นเราจะฉลาดมาก ๆ ไปทำไม? เราจึงคิดในใจว่า “นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน” 16 เพราะไม่ว่าจะเป็นคนฉลาดหรือคนโง่ก็ไม่มีใครจำพวกเขาได้ตลอดไป+ อีกไม่นานผู้คนจะลืมพวกเขาไปหมด และคนฉลาดก็ต้องตายเหมือนคนโง่นั่นแหละ+
17 เราจึงเกลียดชีวิต+ เพราะเราเห็นว่าทุกสิ่งที่ทำกันภายใต้ดวงอาทิตย์ล้วนน่าสลดใจ ทุกสิ่งไร้ประโยชน์+และเป็นการวิ่งไล่ตามลม+ 18 เราเกลียดทุกสิ่งที่เราบากบั่นทำมาภายใต้ดวงอาทิตย์+ เพราะเราจะต้องทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้ให้คนที่มาทีหลังเรา+ 19 ใครจะรู้ว่าเขาจะฉลาดหรือโง่?+ ถึงอย่างไรเขาก็จะได้ครอบครองทุกสิ่งที่เราหามาด้วยความลำบากและด้วยสติปัญญาภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน 20 เราจึงท้อใจเมื่อนึกถึงงานหนักทุกอย่างที่เราบากบั่นทำไปภายใต้ดวงอาทิตย์ 21 เพราะถึงคนหนึ่งจะทำงานหนักโดยทุ่มเททั้งสติปัญญา ความรู้ และความชำนาญ แต่เขาก็ต้องยกทุกอย่างให้กับอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำอะไรเลย+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและน่าเศร้ามาก*
22 คนเราจะได้อะไรถ้าเขาตรากตรำและมีความทะเยอทะยานที่ผลักดันให้เขาทำงานหนักภายใต้ดวงอาทิตย์?+ 23 เพราะงานที่เขาทำมีแต่สร้างความเจ็บปวดและความทุกข์ให้เขาตลอดชีวิต+ แม้แต่กลางคืนก็ยังไม่มีความสงบใจ+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน
24 สำหรับมนุษย์ไม่มีอะไรจะดีไปกว่ากินและดื่มและมีความสุขที่ได้ทำงานหนัก+ และเราได้เห็นว่าพระเจ้าเที่ยงแท้ให้สิ่งเหล่านี้กับมนุษย์+ 25 เพราะมีใครบ้างได้กินและดื่มของที่ดีกว่าเรา?+
26 พระเจ้าเที่ยงแท้ให้สติปัญญา ความรู้ และความสุขกับคนที่ทำให้พระองค์พอใจ+ แต่พระองค์ให้คนบาปทำงานเพื่อสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับคนที่ทำให้พระองค์พอใจ+ นี่ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกันและเป็นการวิ่งไล่ตามลม