คุณเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวาทำเพื่อช่วยคุณให้รอดไหม?
“ขอให้พระยะโฮวาพระเจ้าของอิสราเอลได้รับการสรรเสริญเพราะพระองค์ทรงหันมาใฝ่พระทัยแล้วและช่วยประชาชนของพระองค์ให้รอด.”—ลูกา 1:68
1, 2. อาจยกตัวอย่างเปรียบเทียบอย่างไรให้เห็นความร้ายแรงของสภาพการณ์ที่เรากำลังประสบอยู่ และเราจะพิจารณาคำถามอะไรบ้าง?
ขอให้นึกภาพว่าคุณนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล. คุณอยู่ในหอผู้ป่วยที่ทุกคนป่วยด้วยโรคเดียวกัน ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ทำให้เสียชีวิตและยังไม่มีทางรักษา. เมื่อคุณรู้มาว่ามีแพทย์คนหนึ่งเป็นผู้บุกเบิกในการหาวิธีรักษา คุณเริ่มมีความหวังขึ้นมา. คุณคอยติดตามข่าวความคืบหน้าในเรื่องนี้ด้วยใจจดใจจ่อ. เมื่อถึงวันหนึ่งคุณก็ได้ยินว่าแพทย์พบวิธีรักษาแล้ว! แพทย์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ได้ทุ่มเทและเสียสละอย่างใหญ่หลวงในการค้นหาวิธีรักษาโรคดังกล่าว. คุณคงจะรู้สึกอย่างไร? แน่นอน คุณคงนับถือและขอบคุณบุคคลผู้นี้อย่างสุดหัวใจที่ช่วยเปิดทางให้คุณและคนอื่น ๆ อีกมากมายสามารถรอดพ้นความตาย.
2 ฉากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจดูเหมือนพรรณนาไว้เกินจริง แต่คำพรรณนานี้ตรงกับความเป็นจริงที่เราทุกคนเผชิญอยู่. เราแต่ละคนอยู่ในสภาพที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่พรรณนาไปแล้ว. มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีผู้ช่วยชีวิต. (อ่านโรม 7:24) พระยะโฮวาได้เสียสละอย่างใหญ่หลวงเพื่อจะช่วยเราให้รอด. พระบุตรของพระองค์ก็ได้เสียสละอย่างมากเช่นกัน. ดังนั้น ให้เรามาพิจารณาสี่คำถามสำคัญ. เหตุใดเราจำเป็นต้องได้รับการช่วยให้รอด? พระเยซูต้องเสียสละอะไรเพื่อจะช่วยเราให้รอด? พระยะโฮวาต้องเจ็บปวดพระทัยและเสียสละอย่างไรบ้าง? และเราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าเราเห็นค่าการช่วยให้รอดจากพระเจ้า?
เหตุใดเราต้องได้รับการช่วยให้รอด?
3. บาปมีความร้ายแรงอย่างไรเมื่อเทียบกับโรคระบาด?
3 ตามการประมาณเมื่อไม่นานมานี้ โรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษย์ก็คือไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 1918 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบล้านคน. ยังมีโรคอื่น ๆ ที่ร้ายแรงกว่าในบางแง่. แม้โรคเหล่านี้อาจมีคนติดเชื้อน้อยกว่า แต่ว่ามีอัตราการเสียชีวิตของคนที่ติดเชื้อสูงกว่า.a แต่จะว่าอย่างไรถ้าเราเปรียบเทียบบาปกับโรคระบาดเช่นนั้น? ขอให้นึกถึงถ้อยคำที่โรม 5:12 ซึ่งบอกว่า “บาปเข้ามาในโลกเพราะคนคนเดียวและความตายเกิดขึ้นเพราะบาปนั้น และความตายจึงลามไปถึงทุกคนเพราะทุกคนเป็นคนบาปอยู่แล้ว.” อัตราการติดเชื้อของบาปคือ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ทุกคนเป็นคนบาป. (อ่านโรม 3:23) และอัตราการตายเป็นอย่างไร? เปาโลเขียนว่าบาปทำให้ “ทุกคน” ตาย.
4. พระยะโฮวาทรงมีทัศนะอย่างไรต่อช่วงชีวิตของเรา และทัศนะของพระองค์แตกต่างอย่างไรจากทัศนะของหลายคนในปัจจุบัน?
4 หลายคนในทุกวันนี้ถือว่าบาปและความตายเป็นเรื่องธรรมดา. พวกเขากังวลกับสิ่งที่เรียกกันว่าความตายก่อนวัยอันควร แต่พวกเขาไม่ค่อยสนใจกับความตายที่คืบคลานเข้ามาหามนุษย์เมื่อคนเราแก่ตัวลง โดยถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น “ตามธรรมชาติ.” เป็นเรื่องง่ายจริง ๆ ที่มนุษย์จะลืมทัศนะของพระผู้สร้าง. ช่วงชีวิตของเราสั้นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับช่วงชีวิตที่พระผู้สร้างทรงประสงค์สำหรับมนุษย์. ที่จริง ไม่มีมนุษย์คนใดที่เคยมีชีวิตได้นานครบ ‘หนึ่งวัน’ ตามทัศนะของพระยะโฮวา. (2 เป. 3:8) พระคำของพระเจ้ากล่าวว่าชีวิตเรานั้นสั้นเหมือนต้นหญ้าที่เติบโตในฤดูหนึ่งหรือเหมือนลมหายใจเฮือกหนึ่ง. (เพลง. 39:5; 1 เป. 1:24) เราต้องจำเรื่องนี้ไว้. เพราะเหตุใด? ถ้าเราเข้าใจความร้ายแรงของ “โรค” หรือบาปซึ่งทำให้เราทุกข์ทรมาน เราก็จะยิ่งเห็นค่าของ “การรักษา” หรือการช่วยให้รอดมากขึ้น.
5. บาปได้ทำให้เกิดผลเสียหายต่อเราอย่างไร?
5 เพื่อจะเข้าใจความร้ายแรงและผลกระทบของบาป เราต้องพยายามเข้าใจว่าบาปทำให้เกิดความเสียหายอะไรแก่เราบ้าง. นั่นอาจเป็นเรื่องเข้าใจได้ยากในตอนแรก เพราะบาปทำให้เราสูญเสียสิ่งที่เราไม่เคยมีมาก่อน. ในตอนเริ่มแรก อาดามและฮาวาเป็นมนุษย์สมบูรณ์. เนื่องจากมีจิตใจและร่างกายที่สมบูรณ์ พวกเขาสามารถควบคุมความคิด, ความรู้สึก, และการกระทำของตัวเอง. ด้วยเหตุนั้น พวกเขาสามารถพัฒนาคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมต่อ ๆ ไปในฐานะผู้รับใช้ของพระยะโฮวาพระเจ้า. แทนที่จะทำอย่างนั้น พวกเขาปฏิเสธของประทานอันล้ำค่าดังกล่าว. โดยเลือกทำบาปต่อพระยะโฮวา พวกเขาจึงสูญเสียชีวิตแบบที่พระยะโฮวาทรงประสงค์ให้พวกเขาและลูกหลานของพวกเขามี. (เย. 3:16-19) ในเวลาเดียวกัน พวกเขาได้ทำให้ตัวเองและพวกเราติด “โรค” ร้าย ดังที่เราได้พิจารณาไปแล้ว. พระยะโฮวาทรงตัดสินลงโทษพวกเขาอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับ. แต่สำหรับพวกเรา พระองค์ประทานความหวังที่เราจะได้รับความรอด.—เพลง. 103:10
พระเยซูต้องเสียสละอะไรเพื่อช่วยเราให้รอด?
6, 7. (ก) พระยะโฮวาทรงแสดงให้เห็นอย่างไรตั้งแต่แรกว่าจะต้องมีการเสียสละเพื่อช่วยเราให้รอด? (ข) เราเรียนอะไรได้จากเครื่องบูชาที่ถวายโดยเฮเบลและปฐมบรรพบุรุษทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ก่อนจะมีพระบัญญัติ?
6 พระยะโฮวาทรงรู้ว่าจะต้องมีการเสียสละอย่างใหญ่หลวงเพื่อช่วยลูกหลานของอาดามและฮาวาให้รอด. ในคำพยากรณ์ซึ่งบันทึกไว้ที่เยเนซิศ 3:15 (ล.ม.) เราเรียนรู้บางสิ่งที่เกี่ยวกับการเสียสละเพื่อจะช่วยมนุษย์ให้รอด. พระยะโฮวาจะทรงจัดเตรียมให้มี “พงศ์พันธุ์” หรือผู้ช่วยให้รอด ซึ่งในที่สุดจะบดขยี้ทำลายซาตาน. อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้ช่วยให้รอดผู้นี้จะทำอย่างนั้นเขาจะได้รับบาดแผลโดยนัยที่ส้นเท้า ซึ่งหมายถึงการประสบความทุกข์ทรมาน. นั่นดูเหมือนเป็นเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดและอ่อนกำลัง แต่การถูกบดขยี้ที่ส้นเท้าตามในคำพยากรณ์นี้หมายถึงอะไร? สิ่งที่ผู้ถูกเลือกสรรของพระยะโฮวาต้องอดทนคืออะไร?
7 เพื่อจะช่วยมนุษยชาติให้พ้นจากบาป ผู้ช่วยให้รอดจะต้องจัดให้มีวิธีไถ่โทษ เตรียมทางไว้ให้มนุษย์กลับคืนดีกับพระเจ้าด้วยการลบล้างผลกระทบของบาป. การทำอย่างนั้นจะเกี่ยวข้องกับอะไร? มีเหตุการณ์ที่ช่วยบ่งชี้ตั้งแต่ตอนแรก ๆ ว่าจำเป็นจะต้องมีเครื่องบูชา. เมื่อเฮเบลมนุษย์ที่ซื่อสัตย์คนแรกถวายเครื่องบูชาสัตว์แด่พระยะโฮวา ท่านได้รับความพอพระทัยจากพระเจ้า. ต่อมา ปฐมบรรพบุรุษที่เกรงกลัวพระเจ้า เช่น โนอาห์, อับราฮาม, ยาโคบ, และโยบก็ถวายเครื่องบูชาคล้าย ๆ กัน ซึ่งพระเจ้าทรงยินดีรับ. (เย. 4:4; 8:20, 21; 22:13; 31:54; โยบ 1:5) พระบัญญัติของโมเซทำให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องเครื่องบูชามากขึ้น.
8. มหาปุโรหิตทำอะไรในวันไถ่โทษประจำปี?
8 ส่วนหนึ่งของเครื่องบูชาที่สำคัญที่สุดซึ่งพระบัญญัติกำหนดไว้คือเครื่องบูชาต่าง ๆ ที่ถวายในวันไถ่โทษประจำปี. ในวันนั้น มหาปุโรหิตจะทำพิธีที่มีความหมายโดยนัยหลายอย่างตามลำดับ. เขาจะถวายเครื่องบูชาแด่พระยะโฮวาเพื่อให้มีการไถ่ถอนบาป—ในอันดับแรกแก่คนที่อยู่ในชนชั้นปุโรหิต และต่อจากนั้นสำหรับคนที่อยู่ในตระกูลที่ไม่ใช่ปุโรหิต. มหาปุโรหิตจะเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดของพลับพลาหรือพระวิหาร ซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นสามารถเข้าไปได้และเฉพาะในวันนี้เพียงวันเดียวในแต่ละปี. ที่นั่น เขาจะประพรมเลือดของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาหน้าหีบสัญญาไมตรี. บางครั้งมีเมฆสุกใสเจิดจ้าปรากฏอยู่เหนือหีบศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งแสดงว่าพระยะโฮวาพระเจ้าทรงสถิตอยู่ที่นั่น.—เอ็ก. 25:22; เลวี. 16:1-30
9. (ก) ในวันไถ่โทษ มหาปุโรหิตเป็นภาพเล็งถึงใคร และเครื่องบูชาที่เขาถวายหมายถึงอะไร? (ข) การที่มหาปุโรหิตเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุดแสดงให้เห็นล่วงหน้าถึงอะไร?
9 อัครสาวกเปาโลได้รับการดลใจให้เปิดเผยความหมายของพิธีการต่าง ๆ ที่มีความหมายโดยนัย. ท่านแสดงให้เห็นว่ามหาปุโรหิตเป็นภาพเล็งถึงพระมาซีฮา คือพระเยซูคริสต์ ส่วนการถวายเครื่องบูชาหมายถึงการสิ้นพระชนม์เป็นเครื่องบูชาของพระคริสต์. (ฮีบรู 9:11-14) เครื่องบูชาที่สมบูรณ์นั้นจะทำให้มีการไถ่โทษอย่างแท้จริงแก่คนสองกลุ่ม—ชนชั้นปุโรหิตซึ่งประกอบด้วย 144,000 คนที่เป็นพี่น้องผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ และ “แกะอื่น.” (โย. 10:16) เมื่อมหาปุโรหิตเข้าไปในห้องบริสุทธิ์ที่สุด เขาแสดงให้เห็นล่วงหน้าถึงการที่พระเยซูจะเข้าไปในสวรรค์เพื่อถวายคุณค่าของเครื่องบูชาไถ่แด่พระยะโฮวาพระเจ้า.—ฮีบรู 9:24, 25
10. คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่าพระมาซีฮาจะประสบกับอะไรบ้าง?
10 เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีการเสียสละอย่างมากเพื่อช่วยลูกหลานของอาดามและฮาวาให้รอด. พระมาซีฮาจะต้องสละพระชนม์ชีพ! ผู้พยากรณ์หลายคนในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูให้รายละเอียดเกี่ยวกับความจริงในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน. ตัวอย่างเช่น ผู้พยากรณ์ดานิเอลกล่าวไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า “พระมาซีฮาผู้นำ” จะถูก “ตัดขาด” หรือถูกฆ่าเพื่อ “ไถ่ความผิด.” (ดานิ. 9:24-26, ล.ม.) ยะซายาห์บอกล่วงหน้าว่าพระมาซีฮาจะถูกปฏิเสธ, ถูกข่มเหง, และถูกฆ่าหรือถูกตรึง เพื่อรับเอาบาปของมนุษย์ไม่สมบูรณ์.—ยซา. 53:4, 5, 7
11. พระบุตรของพระยะโฮวาทรงแสดงความเต็มพระทัยอย่างไรที่จะสละพระองค์เองเพื่อช่วยเราให้รอด?
11 ก่อนพระองค์เสด็จมายังแผ่นดินโลก พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงรู้ว่าพระองค์จะต้องเสียสละอะไรเพื่อจะช่วยมนุษย์ให้รอด. พระองค์จะต้องทนทุกข์แสนสาหัสแล้วก็ถูกฆ่า. เมื่อพระบิดาทรงบอกพระองค์ถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้ พระองค์ทรงขอถอนตัวหรือขัดขืนไหม? ตรงกันข้าม พระองค์ทรงยอมทำตามพระบัญชาของพระบิดาอย่างเต็มพระทัย. (ยซา. 50:4-6) เมื่ออยู่บนแผ่นดินโลก พระเยซูทรงทำตามพระประสงค์ของพระบิดาด้วยความเชื่อฟังเช่นกัน. เพราะเหตุใด? พระองค์ทรงให้คำตอบด้วยคำตรัสที่ว่า “เรารักพระบิดา.” และพระองค์ยังให้คำตอบอีกด้วยว่า “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่คนหนึ่งสละชีวิตเพื่อสหายของเขา.” (โย. 14:31; 15:13) ดังนั้น ความรักของพระบุตรของพระยะโฮวาเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราได้รับความรอด. แม้ว่าพระองค์ต้องสละชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์ แต่พระองค์ทรงยินดีทำเพื่อช่วยเราให้รอด.
พระยะโฮวาต้องเสียสละอะไรเพื่อช่วยเราให้รอด?
12. ค่าไถ่เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงพระประสงค์ของใคร และเหตุใดพระองค์ทรงจัดเตรียมค่าไถ่?
12 พระเยซูไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มหรือกำหนดให้มีเครื่องบูชาไถ่. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น วิธีช่วยให้รอดแบบนี้เป็นส่วนสำคัญในพระประสงค์ของพระยะโฮวา. อัครสาวกเปาโลชี้ให้เห็นว่าแท่นบูชาในพระวิหาร ซึ่งมีการถวายเครื่องบูชาบนนั้น แสดงถึงพระประสงค์ของพระยะโฮวา. (ฮีบรู 10:10) ดังนั้น พระยะโฮวาคือบุคคลแรกและสำคัญที่สุดซึ่งเราควรสำนึกบุญคุณสำหรับความรอดที่เราได้รับโดยทางเครื่องบูชาของพระคริสต์. (ลูกา 1:68) การช่วยให้รอดดังกล่าวเป็นวิธีหนึ่งที่พระองค์ทรงแสดงพระประสงค์อันสมบูรณ์แบบและความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อมนุษย์.—อ่านโยฮัน 3:16
13, 14. ตัวอย่างของอับราฮามช่วยเราได้อย่างไรให้เข้าใจและเห็นค่าสิ่งที่พระยะโฮวาได้ทำเพื่อเรา?
13 พระยะโฮวาต้องเสียสละอะไรเพื่อแสดงความรักต่อเราด้วยวิธีนี้? เป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าใจได้. อย่างไรก็ตาม มีบันทึกเรื่องหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิลที่สามารถช่วยเราให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ชัดเจนขึ้น. พระยะโฮวาทรงขออับราฮามผู้ซื่อสัตย์ให้ทำเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญที่สุด คือขอให้ท่านถวายยิศฮาคบุตรชายเป็นเครื่องบูชา. อับราฮามเป็นบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก. พระยะโฮวาตรัสกับท่านถึงยิศฮาคว่าเป็น “บุตรที่รักคนเดียวของเจ้า.” (เย. 22:2) ถึงกระนั้น อับราฮามเห็นว่าการทำตามพระประสงค์ของพระยะโฮวานั้นสำคัญยิ่งกว่าความรักที่ท่านมีต่อยิศฮาค. อับราฮามแน่วแน่และเชื่อฟัง. อย่างไรก็ตาม พระยะโฮวาไม่ปล่อยให้อับราฮามทำสิ่งที่พระองค์เองจะทำในวันข้างหน้า. พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์มาห้ามอับราฮามไว้ก่อนที่ท่านจะฆ่าบุตรชายเป็นเครื่องบูชาจริง ๆ. อับราฮามตั้งใจแน่วแน่อย่างแท้จริงที่จะเชื่อฟังพระเจ้าในการทดสอบที่ยากยิ่งนี้ ถึงขนาดที่ท่านรู้สึกมั่นใจว่าความหวังเดียวที่ท่านจะได้เห็นบุตรชายมีชีวิตอีกครั้งก็คือโดยการกลับเป็นขึ้นจากตาย. ท่านมีความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าพระเจ้าจะทรงทำให้มีการกลับเป็นขึ้นจากตายเช่นนั้น. ที่จริง เปาโลกล่าวว่าอับราฮามได้รับยิศฮาคกลับมาโดยการกลับเป็นขึ้นจากตาย “ซึ่งเป็นตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหน้า.”—ฮีบรู 11:19
14 คุณนึกภาพออกไหมว่าอับราฮามคงเจ็บปวดใจขนาดไหนขณะที่ท่านเตรียมถวายบุตรชายเป็นเครื่องบูชา? ในแง่หนึ่ง ประสบการณ์ของอับราฮามช่วยให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่าพระยะโฮวาทรงรู้สึกอย่างไรในการสละผู้ที่พระองค์ทรงเรียกว่า “บุตรที่รักของเรา.” (มัด. 3:17) แต่อย่าลืมว่าพระยะโฮวาคงเจ็บปวดพระทัยมากกว่า. พระองค์กับพระบุตรได้อยู่ด้วยกันมาไม่รู้ว่ากี่ล้านปี ที่จริง คงเป็นเวลาหลายพันล้านปี. พระบุตรได้ทำงานด้วยความยินดีกับพระบิดาในฐานะ “นายช่าง” และ “พระวาทะ” หรือโฆษกของพระองค์. (สุภา. 8:22, 30, 31, ฉบับ R73; โย. 1:1) ความรู้สึกที่พระยะโฮวาทรงทนรับขณะที่พระบุตรถูกทรมาน, ถูกเยาะเย้ย, แล้วก็ถูกประหารในฐานะอาชญากรเป็นเรื่องที่เกินกว่าเราจะรู้ได้อย่างแท้จริง. พระยะโฮวาต้องเสียสละอย่างมากมายจริง ๆ เพื่อจะช่วยเราให้รอด! ถ้าอย่างนั้น เราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าเราเห็นค่าการช่วยให้รอดนั้น?
คุณจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าคุณเห็นค่าการช่วยให้รอด?
15. พระเยซูทรงทำให้การไถ่โทษที่ยิ่งใหญ่สำเร็จครบถ้วนอย่างไร และเรื่องนี้ทำให้อะไรเป็นไปได้?
15 พระเยซูทรงทำให้การไถ่โทษที่ยิ่งใหญ่สำเร็จครบถ้วนหลังจากที่พระองค์ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายสู่สวรรค์. เมื่อได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับพระบิดาผู้เป็นที่รักอีกครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงถวายคุณค่าแห่งเครื่องบูชาของพระองค์แด่พระยะโฮวา. พระพรอันยิ่งใหญ่ก็ตามมา. การให้อภัยบาปอย่างครบถ้วนมีอยู่พร้อม ในอันดับแรก สำหรับพี่น้องผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ และถัดจากนั้นสำหรับ “คนทั้งโลก.” เนื่องด้วยเครื่องบูชานั้น ในเวลานี้ทุกคนที่กลับใจอย่างแท้จริงจากบาปของตนและเข้ามาเป็นสาวกแท้ของพระคริสต์สามารถมีฐานะที่สะอาดจำเพาะพระพักตร์พระยะโฮวาพระเจ้า. (1 โย. 2:2) เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณอย่างไร?
16. เราอาจยกตัวอย่างเปรียบเทียบอย่างไรให้เห็นเหตุผลที่เราควรขอบคุณสำหรับความรอดที่พระยะโฮวาทรงทำให้เป็นไปได้สำหรับเรา?
16 ให้เรากลับไปยังตัวอย่างเปรียบเทียบที่ให้ไว้ในตอนต้น. สมมุติว่าแพทย์ที่พบวิธีรักษาโรคไปหาคนไข้ในหอผู้ป่วยที่คุณอยู่ พร้อมกับข้อเสนอต่อไปนี้: คนไข้ที่ยอมรับการรักษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการดูแลสุขภาพจะได้รับการรักษาให้หายอย่างแน่นอน. แต่จะว่าอย่างไรถ้าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะกินยาหรือทำตามข้อกำหนดในการดูแลสุขภาพ? คุณจะทำเหมือนพวกเขาไหม แม้ว่าคุณมีหลักฐานที่ทำให้เชื่อมั่นว่าการรักษานั้นใช้ได้ผลจริง ๆ? คุณไม่ทำอย่างนั้นแน่! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณคงแสดงความขอบคุณสำหรับการรักษานั้น แล้วก็ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด และแม้แต่บอกคนอื่น ๆ ถึงการตัดสินใจเลือกของคุณ. ในแง่ที่ใหญ่กว่านั้นมาก เราแต่ละคนควรกระตือรือร้นที่จะแสดงให้พระยะโฮวาเห็นว่าเราขอบคุณพระองค์มากขนาดไหนที่พระองค์ทรงทำให้เป็นไปได้ที่เราจะได้รับความรอดโดยเครื่องบูชาไถ่ของพระบุตรของพระองค์.—อ่านโรม 6:17, 18
17. คุณจะแสดงให้เห็นได้โดยวิธีใดบ้างว่าคุณขอบคุณสำหรับสิ่งที่พระยะโฮวาได้ทำเพื่อช่วยคุณให้รอด?
17 ถ้าเราซาบซึ้งในสิ่งที่พระยะโฮวาและพระบุตรได้ทำเพื่อช่วยเราให้พ้นจากบาปและความตาย เราจะแสดงให้เห็นด้วยการกระทำของเรา. (1 โย. 5:3) เราจะต่อสู้แนวโน้มที่ผิดบาปของเรา. เราจะไม่จงใจทำบาปซึ่งมักจะทำให้คนเราดำเนินชีวิตแบบตีสองหน้าอย่างหน้าซื่อใจคด. การทำอย่างนั้นจะเป็นเหมือนกับการพูดว่าเราไม่เห็นคุณค่าของค่าไถ่เลย. แทนที่จะทำอย่างนั้น เราจะแสดงความขอบคุณด้วยการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาตัวให้สะอาดในสายพระเนตรพระเจ้า. (2 เป. 3:14) เราจะแสดงให้เห็นอย่างนั้นด้วยการบอกคนอื่น ๆ ถึงความหวังอันยอดเยี่ยมที่จะได้รับความรอด เพื่อพวกเขาจะได้มีฐานะที่สะอาดจำเพาะพระยะโฮวาและมีความหวังที่จะมีอนาคตถาวรด้วย. (1 ติโม. 4:16) แน่นอน พระยะโฮวาและพระบุตรทรงคู่ควรกับเวลาและกำลังทั้งหมดที่เราสามารถอุทิศเพื่อสรรเสริญพระองค์ทั้งสอง! (มโก. 12:28-30) คิดดูสิ! เราสามารถคอยท่าเวลาที่เราจะได้รับการรักษาให้พ้นจากบาปอย่างสิ้นเชิง. เราสามารถมีชีวิตอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์ คือในสภาพที่สมบูรณ์ตลอดไป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพราะสิ่งที่พระยะโฮวาได้ทำเพื่อช่วยเราให้รอด!—โรม 8:21
[เชิงอรรถ]
a กล่าวกันว่าไข้หวัดใหญ่สเปนแพร่เชื้อติดผู้คนประมาณหนึ่งในห้าจนถึงครึ่งหนึ่งของประชากรโลกในเวลานั้น. ไวรัสร้ายนี้อาจได้คร่าชีวิตผู้คนประมาณ 1 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ติดเชื้อ. เมื่อเทียบกันแล้ว มีคนติดเชื้อไวรัสอีโบลาน้อยกว่านั้นมาก แต่ในบางครั้งเมื่อมีการระบาดเกิดขึ้นเชื้อนี้คร่าชีวิตผู้คนเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ติดเชื้อ.
คุณจะตอบอย่างไร?
• เหตุใดจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่คุณต้องได้รับการช่วยให้รอด?
• การเสียสละของพระเยซูส่งผลกระทบอย่างไรต่อคุณ?
• คุณรู้สึกอย่างไรในเรื่องค่าไถ่ซึ่งเป็นของประทานจากพระยะโฮวา?
• คุณถูกกระตุ้นให้ทำอะไรเพื่อตอบแทนพระคุณของพระยะโฮวาที่ทรงจัดเตรียมให้คุณได้รับความรอด?
[ภาพหน้า 27]
ในวันไถ่โทษ มหาปุโรหิตของชาติอิสราเอลเป็นภาพเล็งถึงพระมาซีฮา
[ภาพหน้า 28]
ความเต็มใจของอับราฮามที่จะถวายบุตรเป็นเครื่องบูชาสอนเราหลายสิ่งเกี่ยวกับเครื่องบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่ามากที่พระยะโฮวาทรงจัดเตรียม