การประทับของพระมาซีฮาและการปกครองของพระองค์
“พระเยซูองค์นี้ซึ่งถูกรับไปจากท่านเสด็จขึ้นไปยังสวรรค์ แล้วจะเสด็จมาอีกเหมือนท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นไปยังสวรรค์นั้น.”—กิจการ 1:11.
1, 2. (ก) ทูตสวรรค์สององค์ได้ปลอบโยนเหล่าอัครสาวกของพระเยซูอย่างไรเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์? (ข) โดยการคาดหวังว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับ จึงมีการยกคำถามอะไรขึ้นมา?
ชายสิบเอ็ดคนยืนอยู่ตรงเนินด้านตะวันออกของภูเขามะกอกเทศ เพ่งสายตามองไปบนท้องฟ้า. เพียงชั่วครู่ที่ผ่านมาพระเยซูคริสต์ได้ลอยขึ้นจากท่ามกลางพวกเขาไป ร่างของพระองค์หายลับเข้าในกลุ่มเมฆ. ตลอดเวลาหลายปีที่คลุกคลีกับพระองค์ ชายกลุ่มนี้ได้เห็นพระเยซูให้หลักฐานพิสูจน์มากมายว่าพระองค์คือมาซีฮา พวกเขายังได้รู้เห็นโดยตลอดด้วยหัวใจแทบสลายในคราวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และด้วยความปลาบปลื้มยินดีเมื่อพระองค์เป็นขึ้นจากตาย. บัดนี้พระองค์จากไปเสียแล้ว.
2 ทันใดนั้น ทูตสวรรค์สององค์ได้มาปรากฏและตรัสถ้อยคำปลอบโยนดังนี้: “ชาวฆาลิลายเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงยืนเขม้นดูฟ้า? พระเยซูองค์นี้ซึ่งถูกรับไปจากท่านเสด็จขึ้นไปยังสวรรค์ แล้วจะเสด็จมาอีก เหมือนท่านทั้งหลายได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นไปยังสวรรค์นั้น.” (กิจการ 1:11) ช่างเป็นคำรับรองที่ทำให้มั่นใจเสียนี่กระไร—การที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ไม่หมายความว่าพระองค์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแผ่นดินโลกและมนุษย์อีก! ตรงกันข้าม พระเยซูจะกลับมาอีก. ไม่ต้องสงสัย ถ้อยคำเหล่านั้นให้ความหวังเต็มเปี่ยมแก่เหล่าอัครสาวก. ทุกวันนี้ หลายล้านคนเห็นด้วยเช่นกันว่าคำสัญญาเรื่องการเสด็จกลับของพระคริสต์สำคัญมาก. บางคนพูดถึงเรื่องนี้ว่า “การมาครั้งที่สอง” หรือ “การมาถึง.” แต่คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะสับสนในความหมายจริง ๆ เกี่ยวกับการเสด็จกลับของพระคริสต์. พระคริสต์จะเสด็จกลับในลักษณะไหน? เมื่อไร? และเรื่องนี้กระทบชีวิตของเราในปัจจุบันนี้อย่างไร?
ลักษณะการเสด็จกลับของพระคริสต์
3. หลายคนเชื่ออะไรในเรื่องการเสด็จกลับของพระคริสต์?
3 ตามที่กล่าวในหนังสือ แอน อีแวนเจลิคัล คริสโตโลจี “การมาครั้งที่สองหรือการเสด็จกลับของพระคริสต์ (พารูเซีย) สถาปนาราชอาณาจักรของพระเจ้า, ในที่สุด, อย่างเปิดเผย, และตลอดชั่วนิรันดร.” เป็นความเชื่อถืออย่างกว้างขวางว่าการเสด็จกลับของพระคริสต์จะปรากฏแก่ตาอย่างโจ่งแจ้ง ทุกคนบนพิภพนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาตามตัวอักษร. เพื่อสนับสนุนความคิดด้านนี้ หลายคนยกเอาวิวรณ์ 1:7 ซึ่งอ่านว่า “ดูเถิด! พระองค์เสด็จมาด้วยเมฆ และตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ได้แทงพระองค์.” แต่ควรถือเอาคัมภีร์ข้อนี้ตามตัวอักษรไหม?
4, 5. (ก) เราทราบอย่างไรว่าวิวรณ์ 1:7 ไม่หมายความตามตัวอักษร? (ข) ถ้อยคำของพระเยซูเองยืนยันความเข้าใจนี้อย่างไร?
4 จำไว้ว่า การเสนอเรื่องของพระธรรมวิวรณ์เป็นเชิง ‘ให้สัญลักษณ์.’ (วิวรณ์ 1:1) ฉะนั้น ความข้อนี้ที่ยกขึ้นมาจึงต้องเป็นการแสดงนัย. ตามเหตุผลแล้ว “คนเหล่านั้นที่ได้แทงพระองค์” จะเห็นพระองค์ได้อย่างไร? เพราะเขาตายไปเกือบสองพันปีแล้ว! นอกจากนั้น ทูตสวรรค์ทรงกล่าวว่าพระคริสต์จะกลับมา “เหมือน [ด้วยลักษณะอย่างเดียวกัน, ล.ม.]” กับที่พระองค์ทรงจากไป. และการจากไปของพระองค์เป็นในลักษณะใด? มีผู้คนนับล้านเฝ้าชมอยู่ไหม? หามิได้ มีคนซื่อสัตย์ภักดีเพียงไม่กี่คนได้เห็นเหตุการณ์ครั้งนั้น. และเมื่อทูตสวรรค์ตรัสแก่พวกเขา อัครสาวกเหล่านั้นเฝ้ามองดูพระคริสต์เดินทางกระทั่งไปถึงสวรรค์ไหม? เปล่าเลย เพราะมีเมฆคลุมบังพระองค์ไว้พ้นสายตา. หลังจากนั้นไม่นานเท่าไร พระองค์ต้องเข้าไปถึงสวรรค์ที่สถิตของกายวิญญาณ ในฐานะเป็นวิญญาณ ไม่ประจักษ์แก่ตาของมนุษย์. (1 โกรินโธ 15:50) ดังนั้น อย่างมากที่สุด พวกอัครสาวกเห็นแค่การเริ่มต้นเดินทางของพระเยซู เขาไม่สามารถเฝ้าดูกระทั่งการเดินทางสิ้นสุด การกลับไปเฝ้าจำเพาะพระยะโฮวา พระบิดาของพระองค์. เรื่องนี้ พวกเขาเห็นได้ก็เพียงด้วยตาแห่งความเชื่อ.—โยฮัน 20:17.
5 พระคัมภีร์สอนว่าพระเยซูเสด็จกลับด้วยลักษณะอย่างเดียวกัน. ไม่นานก่อนการสิ้นพระชนม์ พระเยซูเองได้ตรัสดังนี้: “อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นเรา.” (โยฮัน 14:19) พระองค์ยังตรัสอีกว่า “แผ่นดินของพระเจ้าไม่มาโดยทางปรากฏแก่ตา.” (ลูกา 17:20) ดังนั้น ‘ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์’ นั้นในแง่ไหน? ที่จะให้คำตอบ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจถ่องแท้ในคำพูดที่พระเยซูและเหล่าสาวกใช้กับเรื่องการเสด็จกลับของพระองค์.
6. (ก) ทำไมคำต่าง ๆ เช่น “การกลับมา” “การมาถึง” “การมา” จึงไม่ใช่การแปลคำภาษากรีกพารูเซีย อย่างเพียงพอ? (ข) อะไรแสดงว่า พารูเซีย หรือ “การประทับ” กินเวลานานกว่าเหตุการณ์ใด ๆ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่ง?
6 ข้อเท็จจริงคือ มิใช่ว่าพระคริสต์เพียงแต่ “เสด็จกลับ” เฉย ๆ. คำนี้เช่นเดียวกันกับ “การมา” “การมาถึง” หมายถึงเหตุการณ์ครั้งเดียวภายในช่วงเวลาอันสั้น. แต่คำภาษากรีกซึ่งพระเยซูและบรรดาสาวกใช้นั้นมีความหมายมากกว่านั้น. คำนั้นคือพารูเซีย ตามตัวอักษรหมายถึง “อยู่เคียงข้าง” หรือ “การประทับอยู่.” ผู้คงแก่เรียนส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าคำนี้ไม่หมายเพียงการมาถึง แต่รวมไปถึงการประทับอยู่—ดังในกรณีการเยือนอย่างเป็นทางการของกษัตริย์. การประทับอยู่ไม่ใช่ว่าเป็นเหตุการณ์ชั่วประเดี๋ยวเดียว มันเป็นกาลพิเศษ เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ถือว่าสำคัญ. ที่มัดธาย 24:37-39, ล.ม. พระเยซูตรัสว่า “การประทับ [พารูเซีย] ของบุตรมนุษย์” จะเหมือน “สมัยของโนฮา” ซึ่งมาถึงจุดสุดยอดในคราวน้ำท่วม. โนฮาได้สร้างนาวาและเตือนคนชั่วอยู่หลายสิบปีก่อนน้ำมาท่วมทำลายระบบชั่วอันเสื่อมทรามของโลกสมัยนั้น. เช่นเดียวกัน การประทับของพระคริสต์อย่างไม่ประจักษ์แก่ตาก็คงเป็นเวลานานหลายสิบปีก่อนมาถึงจุดสุดยอดในคราวพินาศกรรมครั้งใหญ่.
7. (ก) อะไรพิสูจน์ว่า พารูเซีย ไม่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตามนุษย์? (ข) ข้อคัมภีร์ต่าง ๆ ที่พรรณนาการเสด็จกลับของพระคริสต์ว่า “ตาทุกดวง” แลเห็นนั้นจะสำเร็จสมจริงอย่างไรและเมื่อไร?
7 โดยไม่สงสัย พารูเซีย [การประทับ] ไม่ประจักษ์แก่ตาตามตัวอักษรแน่นอน. ถ้าเห็นได้ ทำไมพระเยซูใช้เวลามากมาย ดังเราจะดูกันต่อไป ชี้แจงให้สาวกของพระองค์ทราบถึงหมายสำคัญเพื่อเขาจะเข้าใจการประทับของพระองค์?a อย่างไรก็ดี เมื่อพระคริสต์เสด็จมาทำลายระบบในโลกนี้ของซาตาน การประทับของพระองค์จะปรากฏอย่างชัดแจ้งแก่ทุกฝ่าย. ตอนนั้นแหละที่ “ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์.” แม้แต่ศัตรูของพระเยซูก็จะเข้าใจ ด้วยความตกใจว่า การครอบครองของพระคริสต์นั้นเป็นจริง.—ดูมัดธาย 24:30; 2 เธซะโลนิเก 2:8; วิวรณ์ 1:5, 6.
การประทับเริ่มขึ้นเมื่อไร?
8. เหตุการณ์อะไรเป็นการเริ่มการประทับของพระคริสต์ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ไหน?
8 การประทับของพระมาซีฮาเริ่มด้วยเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่สมจริงตามเรื่องที่พบในคำพยากรณ์เกี่ยวด้วยมาซีฮาครั้งแล้วครั้งเล่า. พระองค์ถูกแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ในสวรรค์. (2 ซามูเอล 7:12-16; ยะซายา 9:6, 7; ยะเอศเคล 21:26, 27) พระเยซูเองทรงชี้แจงว่าการประทับของพระองค์จะเกี่ยวข้องกับการเป็นกษัตริย์ด้วย. ในอุทาหรณ์หลายเรื่อง พระองค์ได้ทรงเปรียบพระองค์เองเป็นเหมือนนายที่ละบ่าวทาสไว้เบื้องหลัง และได้จากบ้านไป “เมืองไกล” เสียนานเพื่อรับอำนาจครองแผ่นดิน. พระองค์ได้ยกอุทาหรณ์ดังกล่าวเพื่อตอบคำถามของพวกอัครสาวกเกี่ยวกับเวลาการเริ่มการประทับ [พารูเซีย] ของพระองค์ ทรงกล่าวอุทาหรณ์อีกเรื่องหนึ่ง เพราะ “เขาทั้งหลายคิดว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะปรากฏโดยพลัน.” (ลูกา 19:11,12, 15; มัดธาย 24:3; 25:14, 19) ดังนั้น ในระหว่างที่พระองค์เป็นมนุษย์อยู่บนแผ่นดินโลก ราชาภิเษกของพระองค์ใน “เมืองไกล” ซึ่งหมายถึงสวรรค์นั้นยังอยู่ห่างออกไปอีกนาน. จะเกิดขึ้นเมื่อไร?
9, 10. มีหลักฐานอะไรแสดงว่าเวลานี้พระคริสต์ทรงปกครองในสวรรค์ และพระองค์ได้เริ่มการครอบครองของพระองค์เมื่อไร?
9 เมื่อเหล่าสาวกทูลถามพระองค์ว่า “จะมีอะไรเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับของพระองค์และช่วงอวสานของระบบนี้? พระเยซูทรงตอบเขาโดยคำพรรณนาให้รายละเอียดเกี่ยวกับสมัยนั้นในภายหน้า. (ดูมัดธายบท 24, ล.ม.; มาระโกบท 13; ลูกาบท 21. โปรดดู 2 ติโมเธียว 3:1-5; วิวรณ์บท 6 ด้วย.) สัญลักษณ์นี้เท่ากับเป็นการให้ภาพอย่างละเอียดของยุคที่เต็มไปด้วยความทุกข์ลำบาก. เป็นยุคสมัยที่มีสงครามระหว่างชาติต่าง ๆ, อาชญากรรมถีบตัวสูงขึ้น, ชีวิตครอบครัวเสื่อมลง, การแพร่ระบาดของโรคร้ายต่าง ๆ, การขาดแคลนอาหาร, และแผ่นดินไหว—ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะที่ แต่เป็นวิกฤตการณ์ทั่วโลกทีเดียว. ดูเป็นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังจนชินหูใช่ไหม? แต่ละวันผ่านไปมีการยืนยันว่าศตวรรษที่ 20 นี้ช่างตรงกันกับคำพรรณนาของพระเยซูทีเดียว.
10 นักประวัติศาสตร์ต่างเห็นพ้องกันว่าปี 1914 เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เป็นปีสำคัญซึ่งปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เริ่มจะควบคุมไม่ได้ แต่รุนแรงทวีขึ้นเป็นระดับทั่วโลกทีเดียว. ใช่แล้ว เหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลกมนุษย์ที่สมจริงตามคำพยากรณ์ของพระคัมภีร์ทุกอย่างชี้ว่าปี 1914 เป็นปีที่พระเยซูเริ่มครอบครองเป็นกษัตริย์ในสวรรค์. นอกจากนั้น คำพยากรณ์ในดานิเอลบท 4 ให้หลักฐานลำดับเดือนปีซึ่งทำให้พวกเรารู้ว่าปีนั้นแหละ—1914—เป็นเวลาที่กษัตริย์ผู้รับการแต่งตั้งจากพระยะโฮวาได้ทรงเริ่มปกครอง.b
ทำไมเป็นสมัยยุ่งยากลำบาก?
11, 12. (ก) เหตุใดจึงยากสำหรับบางคนจะเชื่อว่าพระคริสต์ทรงปกครองอยู่แล้วในสวรรค์ขณะนี้? (ข) เราอาจใช้อุทาหรณ์เปรียบเทียบอย่างไรถึงสิ่งที่ได้อุบัติขึ้นภายหลังพระเยซูขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์?
11 บางคนแปลกใจว่า ‘ทำไมโลกจึงมีแต่ความยุ่งยากถ้าขณะนี้พระมาซีฮาทรงปกครองในสวรรค์?’ การใช้อุทาหรณ์อาจช่วยให้เข้าใจได้. ประเทศหนึ่งปกครองโดยประธานาธิบดีที่ชั่วร้าย. เขาตั้งระบบฉ้อราษฎร์บังหลวงขึ้นมาพร้อมด้วยเครือข่ายที่ทรงอิทธิพลกระจายอยู่ทั่วประเทศ. แต่มีการเลือกตั้ง คนดีได้รับเลือกตั้ง. ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้น? เช่นเดียวกับกรณีของประเทศประชาธิปไตยบางแห่ง จะมีช่วงภายหลังการเลือกตั้งสองสามเดือนก่อนประธานาธิบดีคนใหม่จะได้รับการทำพิธีเข้ารับตำแหน่ง. เวลาในช่วงนั้นทั้งคนใหม่กับคนเก่าจะปฏิบัติอย่างไร? คนดีจะโจมตีและรื้อทำลายการชั่วทุกอย่างที่คนก่อนหน้าได้ก่อไว้ทุกหัวระแหงโดยทันทีทันใดไหม? แทนที่จะทำเช่นนั้นเขาคงจะมุ่งความสนใจอยู่ที่เมืองหลวงเป็นประการแรก จัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ และปลดผู้คล้อยตามประธานาธิบดีคนก่อนและผู้สนับสนุนที่ทุจริตคดโกงของเขา. โดยวิธีนั้น เมื่อประธานาธิบดีคนใหม่รับอำนาจเต็มที่ เขาสามารถดำเนินงานโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่อันทรงอำนาจได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มัวหมอง. ส่วนประธานาธิบดีทุจริตผู้นั้นจะไม่ฉวยโอกาสใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ที่ยังเหลืออยู่ทีเดียวหรือ เพื่อคัดเอาสารพัดผลกำไรในทางมิชอบเท่าที่พอจะเอาได้ก่อนที่ตนจะหมดอำนาจลง?
12 ที่แท้ เรื่องคล้ายกันกับการประทับของพระคริสต์ [พารูเซีย]. วิวรณ์ 12:7-12, (ล.ม.) แสดงว่า เมื่อพระคริสต์ได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์ในสวรรค์ ทีแรกพระองค์ได้ทรงขับไล่ซาตานพร้อมด้วยพวกปีศาจออกไปจากสวรรค์ เป็นการชำระที่ตั้งแห่งรัฐบาลของพระองค์. เนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ที่รอมานาน ซาตานมีท่าทีเช่นไรในช่วง “ระยะเวลาอันสั้น” ก่อนพระคริสต์จะทรงใช้สิทธิอำนาจของพระองค์เต็มที่บนแผ่นดินโลก? คล้ายกันกับประธานาธิบดีผู้ทุจริตนั้น ซาตานก็พยายามสุดความสามารถจะเอาทุกสิ่งจากระบบเก่านี้ให้ได้. ซาตานไม่ต้องการเงิน แต่มันต้องการชีวิตมนุษย์. มันต้องการชักพาประชาชนมากหลายเท่าที่มันจะทำได้ให้เหินห่างจากพระยะโฮวาและมหากษัตริย์ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสถาปนาให้ขึ้นครองราชย์.
13. คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นอย่างไรว่าตอนเริ่มต้นการปกครองของพระคริสต์จะเป็นเวลาแห่งความทุกข์ลำบากบนแผ่นดินโลก?
13 เช่นนั้นแล้ว จึงไม่แปลกที่การเริ่มต้นแห่งการปกครองของพระคริสต์เป็นยามที่ “วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลก” (วิวรณ์ 12:12) บทเพลงสรรเสริญ 110:1, 2, 6 ก็แสดงให้เห็นทำนองเดียวกันว่าพระมาซีฮาทรงเริ่มปกครอง ‘ท่ามกลางศัตรูของพระองค์.’ ทีหลังพระองค์จะทรงบดขยี้ “ชนประเทศต่าง ๆ” รวมทั้งทุกด้านทุกแง่ในระบบที่เสื่อมทรามของซาตาน ถึงขั้นไม่ระลึกถึงอีกเลย!
เมื่อพระมาซีฮาครองโลก
14. พระมาซีฮาสามารถทำอะไรภายหลังพระองค์ทำลายระบบชั่วของซาตาน?
14 หลังจากพระองค์ทำลายระบบของซาตานและทุกฝ่ายที่สนับสนุนซาตานแล้ว ในที่สุด พระเยซูคริสต์ กษัตริย์มาซีฮา จะทรงอยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้สำเร็จเป็นจริงดังคำพยากรณ์ที่ยอดเยี่ยมในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งพรรณนาถึงรัชสมัยพันปีของพระองค์. ยะซายา 11:1-10 ช่วยให้เรามองเห็นว่าพระมาซีฮาจะเป็นผู้ปกครองแบบไหน. ข้อ 2 บอกพวกเราว่า “พระจิต [พระวิญญาณ] ของพระยะโฮวา . . . ดวงปัญญาและดวงความเข้าใจ, ดวงวินิจฉัยและดวงอานุภาพ” สถิตอยู่กับท่าน.
15. ‘ดวงอานุภาพ’ จะหมายถึงอะไรเกี่ยวข้องกับการปกครองของพระมาซีฮา?
15 จงพิจารณาว่า “ดวงอานุภาพ” จะหมายถึงสิ่งใดเกี่ยวข้องกับการปกครองของพระเยซู. ขณะที่พระเยซูอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงประกอบด้วยอานุภาพในระดับหนึ่งจากพระยะโฮวา ด้วยเหตุนั้น พระองค์จึงสามารถกระทำการอัศจรรย์หลายอย่าง. และพระองค์แสดงความปรารถนาอย่างจริงใจอยากช่วยประชาชน โดยตรัสว่า “เรายินดี.” (มัดธาย 8:3, ฉบับอมตธรรมเพื่อชีวิต) แต่การอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำครั้งกระโน้นเป็นเพียงแวบหนึ่งของสิ่งซึ่งพระองค์จะทรงกระทำเมื่อปกครองจากสวรรค์. พระเยซูจะทรงกระทำการอัศจรรย์ในขอบข่ายใหญ่โตทั่วโลก! คนเจ็บป่วย, คนตาบอด, คนหูหนวก, คนพิการ, คนขาเขยก จะได้รับการรักษาหายเป็นปกติตลอดไป. (ยะซายา 35:5, 6) อาหารอุดมสมบูรณ์, แจกจ่ายทั่วถึงเสมอหน้า, จะยุติความหิวโหยตลอดไป. (บทเพลงสรรเสริญ 72:16) ส่วนคนหลายล้านนับจำนวนไม่ได้ในหลุมฝังศพ ซึ่งพระเจ้าพอพระทัยจะระลึกถึงจะเป็นอย่างไร? “ดวงอานุภาพ” ของพระเยซูย่อมรวมไปถึงฤทธานุภาพด้วยการปลุกเขาขึ้นจากตาย ให้เขามีโอกาสจะดำรงชีวิตตลอดไปในอุทยาน! (โยฮัน 5:28, 29) ถึงแม้พระองค์เปี่ยมด้วยอานุภาพมากขนาดนี้ มหากษัตริย์มาซีฮาจะทรงถ่อมพระทัยอย่างยิ่งเสมอ. พระองค์จะประสบ “ความพึงใจ” . . . กับความยำเกรงพระยะโฮวา.”—ยะซายา 11:3.
16. องค์กษัตริย์มาซีฮาจะทรงเป็นผู้พิพากษาประเภทใด และเรื่องนี้แตกต่างอย่างไรกับประวัติของผู้พิพากษาทั้งหลายที่เป็นมนุษย์?
16 อนึ่ง มหากษัตริย์องค์นี้ทรงเป็นผู้พิพากษาที่สมบูรณ์พร้อม. “ท่านจะไม่พิพากษาตามที่ปรากฏแก่ตา ทั้งไม่ว่ากล่าวเพียงตามที่ได้ยินกับหู.” จะพรรณนาแบบนี้ได้ไหมกับผู้พิพากษาที่เป็นมนุษย์ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบัน? แม้แต่ผู้พิพากษาที่เปรื่องปราดก็ตัดสินได้เท่าที่เห็นและได้ยิน โดยการใช้สติปัญญาหรือการหยั่งเห็นที่เขาอาจมีอยู่. ฉะนั้น ผู้พิพากษาก็ดี คณะตุลาการก็ดีในโลกเก่านี้อาจถูกโน้มน้าวหรือสับสนได้โดยกลเม็ดการอ้างเหตุผลเพื่อตบตา, หรือหลักฐานขัดแย้งกัน. บ่อยครั้งคนรวยและคนมีอำนาจเท่านั้นจะวางแผนป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ที่แท้แล้วคือการซื้อความยุติธรรม. ไม่เป็นเช่นนั้นกับผู้พิพากษามาซีฮา! พระองค์ทรงอ่านหัวใจ. จะไม่มีสิ่งใดพ้นความสังเกตของพระองค์ไปได้. ความยุติธรรมผ่อนผันด้วยความรักและความกรุณา จะซื้อไม่ได้. ความยุติธรรมจะดกดื่นแพร่หลายตลอดไป.—ยะซายา 11:3-5, ล.ม.
วิธีที่การปกครองของพระองค์กระทบคุณ
17, 18. (ก) ที่ยะซายา 11:6-9 ได้มีการระบายภาพแสดงอนาคตอันรุ่งโรจน์สำหรับมนุษย์ไว้อย่างไร? (ข) คำพยากรณ์ข้อนี้นำไปใช้กับผู้ใดเป็นประการแรก และทำไมเป็นเช่นนั้น? (ค) โดยวิธีใดคำพยากรณ์นี้จะสำเร็จเป็นจริงตามตัวอักษรด้วย?
17 เป็นที่เข้าใจกันแล้วว่า การปกครองของพระมาซีฮามีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประชาราษฎร์. การปกครองนั้นเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คน. ยะซายา 11:6-9 แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะกว้างไกลเพียงใด. คำพยากรณ์ข้อนี้พรรณนาภาพสัตว์ดุร้ายที่จับสัตว์อื่นกินเป็นอาหาร เช่น หมี, สุนัขป่า, เสือดาว, สิงโต, งูเห่า—อยู่ปะปนกับสัตว์เลี้ยงและกระทั่งเด็กเล็ก. แต่สัตว์ร้ายมีเขี้ยวเล็บเหล่านั้นไม่อันตราย! ทำไม? ข้อ 9 ให้คำตอบดังนี้: “สัตว์เหล่านั้นจะไม่ทำอันตราย, หรือทำความพินาศทั่วไปบนภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา; เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้ฝ่ายพระยะโฮวาดุจน้ำท่วมเต็มมหาสมุทร.”
18 แน่นอน “ความรู้ฝ่ายพระยะโฮวา” ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทั้งหลายตามตัวอักษร ฉะนั้น ข้อคัมภีร์เหล่านี้จึงต้องนำมาใช้กับผู้คนเป็นเบื้องแรก. การปกครองของพระมาซีฮาสนับสนุนโครงการการศึกษาทั่วโลก สอนประชาชนให้รู้จักพระยะโฮวาและแนวทางของพระองค์ สอนคนทั้งปวงให้ปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความรัก, ความนับถือ, และคำนึงถึงศักดิ์ศรี. ในอุทยานที่จะมาถึง พระมาซีฮาจะทรงยกระดับมนุษยชาติจนบรรลุความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างน่าอัศจรรย์. ลักษณะนิสัยดุร้ายเยี่ยงสัตว์ที่ทำความเสียหายแก่มนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ก็จะหมดไปในที่สุด. อนึ่ง ในแง่ตามตัวอักษรด้วย มนุษยชาติกับบรรดาสัตว์จะอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติ—ในที่สุด!—เทียบกับเยเนซิศ 1:28.
19. การปกครองของพระมาซีฮากระทบชีวิตผู้คนในสมัยสุดท้ายนี้อย่างไร?
19 แต่พึงระลึกเถิดว่าขณะนี้ พระมาซีฮาทรงปกครองอยู่แล้ว. ในเวลานี้ด้วยซ้ำ ประชาราษฎร์แห่งราชอาณาจักรกำลังเรียนที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สมจริงในแง่หนึ่งของยะซายา 11:6-9. ยิ่งกว่านั้น เป็นเวลาร่วม 80 ปีทีเดียวที่พระเยซูได้ทรงกระทำให้ยะซายา 11:10 สำเร็จสมจริงที่ว่า “อยู่มาครั้นถึงวันนั้น, รากแห่งยิซัยจะตั้งเด่นขึ้นเป็นธงเครื่องหมายรวมพล, ประชาชาติทั้งปวงจะเสาะแสวงหาท่าน; และสำนักของท่านจะเป็นที่ขึ้นชื่อลือนาม.” ผู้คนจากทุกประเทศจะพากันมาหาพระมาซีฮา. เพราะเหตุใด? เพราะตั้งแต่พระองค์เริ่มปกครอง พระองค์ก็ทรง “ตั้งเด่นเป็นธงเครื่องหมายรวมพล.” พระองค์ได้ทรงทำให้การประทับของพระองค์เป็นที่รู้จักกว้างขวางทั่วโลก โดยทางโครงการให้การศึกษาอย่างกว้างขวางทั่วโลกตามที่พรรณนาข้างต้น. ตามจริงแล้ว พระเยซูทรงพยากรณ์ถึงการประกาศเผยแพร่ทั่วโลกนั้นเป็นสัญลักษณ์สำคัญแสดงว่าพระองค์เสด็จประทับแล้วก่อนระบบเก่าถึงกาลอวสาน.—มัดธาย 24:14.
20. ประชาราษฎร์ภายใต้การปกครองของพระมาซีฮาควรหลีกเลี่ยงทัศนะเช่นไร และเพราะเหตุใด?
20 ดังนั้น การประทับของพระคริสต์ด้วยขัตติยอำนาจจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว, หรือเป็นเพียงทฤษฎี เป็นเพียงหัวข้อถกเถียงในหมู่นักเทววิทยา. การปกครองของพระองค์มีผลกระทบและแปรเปลี่ยนหลายชีวิตบนแผ่นดินโลก อย่างที่ยะซายาได้พยากรณ์ไว้แล้ว. พระเยซูได้ทรงนำผู้คนหลายล้านออกจากระบบโลกที่เสื่อมทรามนี้เข้ามาเป็นราษฎรภายใต้ราชอาณาจักรของพระองค์. คุณเป็นราษฎรคนหนึ่งไหม? ถ้าเช่นนั้นแล้ว จงทำหน้าที่ของคุณด้วยความกระตือรือร้นและด้วยความยินดีอันคู่ควรกับผู้ครอบครองของเรา! เป็นที่ยอมรับว่า เป็นเรื่องง่ายมากที่จะหมดความอดทนแล้วสมทบกับพวกช่างเยาะเย้ยของโลกที่ร้องว่า “การประทับของพระองค์ที่ทรงสัญญาไว้นี้อยู่ที่ไหนล่ะ?” (2 เปโตร 3:4, ล.ม.) แต่พระเยซูเองได้ตรัสว่า “แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุด, ผู้นั้นจะรอด.”—มัดธาย 24:13.
21. พวกเราทุกคนอาจเพิ่มพูนการหยั่งรู้ค่าความหวังที่เรามีในพระมาซีฮาได้โดยวิธีใด?
21 แต่ละวันที่ล่วงไปยิ่งทำให้เราเข้าไปใกล้วันสำคัญซึ่งพระยะโฮวาจะทรงบัญชาพระบุตรของพระองค์ดำเนินงานเพื่อให้การประทับของพระองค์ปรากฏเด่นชัดต่อทั้งโลก. จงอย่าปล่อยความหวังที่คุณมีสำหรับวันนั้นให้อับเฉาไป. จงคิดรำพึงถึงตำแหน่งมาซีฮาของพระเยซูตลอดทั้งคุณสมบัติต่าง ๆ ของพระองค์ฐานะพระมหากษัตริย์องค์ทรงราชย์. คิดให้ลึกซึ้งด้วยเกี่ยวกับพระเจ้ายะโฮวา ผู้ทรงเป็นต้นกำเนิดและต้นความคิดเกี่ยวด้วยความหวังอันประเสริฐในพระมาซีฮาดังมีเค้าโครงในคัมภีร์ไบเบิล. ขณะที่คุณทำเช่นนั้น ไม่ต้องสงสัย คุณจะรู้สึกซาบซึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่อัครสาวกเปาโลเคยประสบเมื่อท่านเขียนว่า “โอพระปัญญาและความรู้ของพระเจ้ามีเอนกอนันต์มากเท่าใด!”—โรม 11:33.
[เชิงอรรถ]
a ย้อนไปปี 1864 อาร์. โกเวตต์ นักเทววิทยาได้ชี้แจงอย่างนี้: “นี้เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าเห็นว่าสำคัญมาก. การให้สัญลักษณ์แสดงการประทับบ่งชี้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับ. เราไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณเพื่อรู้ถึงการเป็นอยู่ของสิ่งที่เราเห็น.”
b เพื่อจะได้รายละเอียด ดูจากหนังสือ ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก หน้า 138-141.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ พระคริสต์เสด็จกลับด้วยลักษณะเช่นไร?
▫ เราทราบอย่างไรว่า พารูเซีย [การประทับ] ของพระคริสต์จะไม่ประจักษ์แก่ตา และครอบคลุมเวลานาน?
▫ การประทับของพระคริสต์เริ่มขึ้นเมื่อไร และเราทราบเรื่องนี้อย่างไร?
▫ องค์มาซีฮาซึ่งทรงปกครองทางภาคสวรรค์นั้นเป็นผู้ครอบครองประเภทใด?
▫ การปกครองของพระคริสต์กระทบชีวิตประชาราษฎร์ของพระองค์ในทางใด?
[รูปภาพหน้า 15]
ความหวังที่ว่าพระเยซูจะกลับมาอีกมีความหมายมากสำหรับเหล่าอัครสาวกที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
[รูปภาพหน้า 17]
โดยบริหารการปกครองจากสวรรค์ พระเยซูจะทรงกระทำการอัศจรรย์ในขอบข่ายกว้างไพศาลทั่วโลก
[ที่มาของภาพ]
Earth: Base on NASA photo