เหตุใดเราควรให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำ?
“พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า. พระวิญญาณของพระองค์ก็ดีเลิศล้น; ขอทรงนำข้าพเจ้า.”—เพลง. 143:10
1. จงยกตัวอย่างที่แสดงว่าแรงที่มองไม่เห็นสามารถนำทางคนเราได้อย่างไร.
คุณเคยใช้เข็มทิศเพื่อรู้ทิศทางที่ต้องการไปไหม? เข็มทิศเป็นเครื่องมือง่าย ๆ ที่มีเพียงชิ้นส่วนเดียวที่เคลื่อนไหวได้ คือเข็มแม่เหล็กที่ชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ. เพราะแรงที่มองไม่เห็นซึ่งเรียกว่าสภาวะแม่เหล็ก เข็มของเข็มทิศจึงชี้ในแนวเดียวกันกับสนามแม่เหล็กซึ่งอยู่ระหว่างขั้วโลกทั้งสอง. นักสำรวจและนักเดินทางได้ใช้เข็มทิศกันมาหลายศตวรรษแล้วเพื่อนำทางพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล.
2, 3. (ก) พระยะโฮวาทรงใช้แรงที่ทรงพลังอะไรตั้งแต่โบราณกาล? (ข) เหตุใดเราควรคาดหมายให้พลังปฏิบัติการของพระเจ้าชี้นำชีวิตเราในทุกวันนี้?
2 มีแรงที่มองไม่เห็นอย่างหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีกที่ช่วยชี้นำเรา. แรงดังกล่าวนี้คืออะไร? ข้อแรกของคัมภีร์ไบเบิลพรรณนาถึงแรงหรือพลังนี้. หนังสือเยเนซิศได้กล่าวถึงสิ่งที่พระยะโฮวาทรงทำตั้งแต่โบราณกาลว่า “เมื่อเดิมพระเจ้าได้นฤมิตสร้างฟ้าและดิน.” ขณะที่พระองค์ทรงทำอย่างนั้น พระองค์ได้ทรงใช้แรงอย่างหนึ่งที่ทรงพลัง เพราะบันทึกเกี่ยวกับการทรงสร้างกล่าวต่อไปว่า “พระวิญญาณของพระเจ้าได้ปกคลุมอยู่เหนือน้ำนั้น.” (เย. 1:1, 2) พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเป็นพลังปฏิบัติการที่พระองค์ใช้ในการทรงสร้าง. พวกเรามีชีวิตอยู่ได้ก็เนื่องด้วยพระยะโฮวาทรงใช้พระวิญญาณนี้ในการสร้างสรรพสิ่ง.—โยบ 33:4; เพลง. 104:30
3 ในฐานะมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ เราควรคาดหมายให้พลังปฏิบัติการของพระเจ้ามีผลกระทบต่อชีวิตเรามากกว่านั้นไหม? พระบุตรของพระเจ้าเองทรงทราบว่าเราควรคาดหมายเช่นนั้น เพราะพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “พระวิญญาณ . . . จะช่วยพวกเจ้าให้เข้าใจความจริงทั้งหมด.” (โย. 16:13) พระวิญญาณนี้คืออะไร และเหตุใดเราควรให้พระวิญญาณนี้ชี้นำเรา?
พระวิญญาณบริสุทธิ์คืออะไร?
4, 5. (ก) คนที่เชื่อตรีเอกานุภาพมีความคิดผิด ๆ เช่นไรเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์? (ข) จงอธิบายว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์คืออะไร.
4 บางคนที่คุณคุยด้วยในงานประกาศอาจมีทัศนะที่ไม่ถูกต้องตามหลักพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์. คนที่เชื่อเรื่องตรีเอกานุภาพเข้าใจผิด ๆ ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นกายวิญญาณที่มีฐานะเท่าเทียมกับพระเจ้าพระบิดา. (1 โค. 8:6) แต่เราสามารถชี้ให้เห็นได้ไม่ยากเลยว่าคำสอนเรื่องตรีเอกานุภาพนี้ขัดกับพระคัมภีร์.
5 ถ้าอย่างนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์คืออะไร? เชิงอรรถที่เยเนซิศ 1:2 ในพระคัมภีร์บริสุทธิ์ฉบับแปลโลกใหม่—พร้อมด้วยข้ออ้างอิง (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “คำรูอาห์ ในภาษาฮีบรู นอกจากจะแปลว่า ‘วิญญาณ’ แล้ว ยังแปลได้ด้วยว่า ‘ลม’ และแปลเป็นคำอื่น ๆ ที่หมายถึงพลังปฏิบัติการที่ไม่ประจักษ์แก่ตาได้ด้วย.” (เย. 3:8; 8:1, ล.ม. เชิงอรรถ) เช่นเดียวกับลมที่มองไม่เห็นแต่มีพลัง พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งไม่มีตัวตนและไม่ใช่บุคคลก็มองไม่เห็นแต่ก่อให้เกิดผลกระทบ. พระวิญญาณนี้เป็นพลังที่พระเจ้าประทานแก่ผู้คนหรือสิ่งต่าง ๆ เพื่อทำให้พระทัยประสงค์ของพระองค์สำเร็จ. เป็นเรื่องยากไหมที่จะเชื่อว่าพลังอันมหัศจรรย์เช่นนั้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่งองค์บริสุทธิ์? ไม่เลย!—อ่านยะซายา 40:12, 13
6. ดาวิดวิงวอนพระยะโฮวาเช่นไร?
6 พระยะโฮวาสามารถใช้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ต่อ ๆ ไปเพื่อชี้นำเราในการดำเนินชีวิตไหม? พระองค์ทรงสัญญากับดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญว่า “เราจะสั่งสอนและแนะนำท่านตามทางที่ท่านจะไป.” (เพลง. 32:8) ดาวิดอยากให้เป็นอย่างนั้นไหม? ใช่แล้ว เพราะท่านวิงวอนพระยะโฮวาว่า “ขอทรงโปรดฝึกสอนข้าพเจ้าให้ประพฤติตามพระทัยของพระองค์; เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า. พระวิญญาณของพระองค์ก็ดีเลิศล้น; ขอทรงนำข้าพเจ้า.” (เพลง. 143:10) เราควรมีความปรารถนาและความเต็มใจแบบเดียวกันนั้นที่จะให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำ. เพราะเหตุใด? ขอพิจารณาเหตุผลสี่ประการ.
เราไม่สามารถชี้นำตัวเราเอง
7, 8. (ก) เหตุใดเราไม่สามารถชี้นำตัวเราเองโดยไม่หมายพึ่งพระเจ้า? (ข) จงยกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทำไมเราไม่ควรพยายามหาทางผ่านพ้นระบบชั่วนี้ด้วยตัวเอง.
7 ก่อนอื่น เราควรปรารถนาจะให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำเราเพราะเราไม่สามารถชี้นำตัวเราเอง. “ชี้นำ” หมายถึง “นำทางหรือชี้ให้เห็นหนทางที่ต้องเดินไป.” อย่างไรก็ตาม พระยะโฮวาไม่ได้สร้างเราให้มีความสามารถที่จะทำอย่างนั้นด้วยตัวเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพที่เราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์. ยิระมะยาห์ ผู้พยากรณ์ของพระองค์ เขียนว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ทราบแล้วว่าทางของมนุษย์ไม่ขึ้นอยู่กับตัวเขา คือไม่ได้อยู่ที่มนุษย์ที่จะดำเนินไป และนำย่างเท้าของตนเอง.” (ยิระ. 10:23, พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน) เพราะเหตุใด? ยิระมะยาห์ได้ยินการวิเคราะห์ของพระเจ้าเกี่ยวกับสาเหตุที่เราไม่อาจ “นำย่างเท้า” ของตัวเราเองได้ดี. พระยะโฮวาตรัสถึงตัวตนที่แท้จริงของคนเราว่า “จิตใจ (มนุษย์) เป็นโกงเกินบรรดาทุกสิ่ง, แลเป็นชั่วร้ายกาจนัก, ใครจะรู้จักใจนั้นเล่า.”—ยิระ. 17:9; มัด. 15:19
8 คงเป็นเรื่องบ้าระห่ำมิใช่หรือที่ใครบางคนซึ่งไม่มีประสบการณ์จะออกเดินทางตามลำพังโดยไม่มีมัคคุเทศก์ที่ชำนาญทางหรือไม่มีแม้แต่เข็มทิศ แล้วก็เดินเข้าไปในป่าลึกที่ไม่รู้จัก? เนื่องจากไม่รู้วิธีเอาตัวรอดในป่าที่ไม่มีที่พัก ไม่มีสิ่งค้ำจุนชีวิต และไม่มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย เขาคงทำให้ชีวิตตัวเองตกอยู่ในอันตราย. เช่นเดียวกัน คนที่คิดว่าเขาสามารถชี้นำตัวเองให้ผ่านโลกชั่วนี้ได้โดยไม่ยอมให้พระเจ้าชี้ทางเดินที่ถูกต้องให้ก็กำลังทำให้ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง. โอกาสเพียงอย่างเดียวที่เราจะผ่านพ้นระบบนี้ได้ก็คือการที่เราทูลวิงวอนพระยะโฮวาเหมือนกับที่ดาวิดทูลวิงวอนว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงโปรดให้ข้าพเจ้ารู้ทางของพระองค์, ขอทรงฝึกสอนข้าพเจ้าให้ดำเนินในพระมรคาของพระองค์.” (เพลง. 25:4; 23:3) เราอาจได้รับการชี้นำเช่นนั้นได้อย่างไร?
9. ดังที่แสดงให้เห็นในภาพหน้า 17 พระวิญญาณของพระเจ้าจะเป็นเครื่องนำทางที่ไว้ใจได้สำหรับเราได้อย่างไร?
9 ถ้าเราถ่อมใจและเต็มใจหมายพึ่งพระยะโฮวา พระองค์จะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เป็นเครื่องนำทางที่ไว้ใจได้แก่เรา. พลังปฏิบัติการนั้นจะช่วยเราอย่างไร? พระเยซูทรงอธิบายแก่เหล่าสาวกว่า “แต่ผู้ช่วย คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้มาในนามของเรานั้นจะสอนพวกเจ้าทุกสิ่งและจะช่วยพวกเจ้าให้ระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้บอกพวกเจ้าไว้.” (โย. 14:26) เมื่อเราศึกษาพระคำของพระเจ้าเป็นประจำอย่างจริงจัง รวมทั้งคำตรัสทั้งสิ้นของพระคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยให้เราเข้าใจพระสติปัญญาอันลึกซึ้งของพระยะโฮวามากขึ้นเพื่อเราจะสามารถทำตามพระประสงค์ของพระองค์อย่างใกล้ชิด. (1 โค. 2:10) นอกจากนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างไม่คาดคิดในเส้นทางสู่ชีวิต พระวิญญาณจะชี้ทางให้เราดำเนินไป. พระวิญญาณจะช่วยให้เรานึกถึงหลักการในคัมภีร์ไบเบิลที่เราได้เรียนรู้แล้วและช่วยเราให้เข้าใจว่าจะใช้หลักการเหล่านั้นอย่างไรในการกำหนดก้าวเดินของเราต่อไป.
พระเยซูทรงให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำ
10, 11. พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงคาดหมายอะไรเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยพระองค์อย่างไร?
10 เหตุผลประการที่สองที่เราควรให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ชี้นำคือพระเจ้าทรงชี้นำพระบุตรของพระองค์เองโดยทางพระวิญญาณนั้น. ก่อนเสด็จมายังแผ่นดินโลก พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงรู้คำพยากรณ์ที่บอกว่า “พระจิตต์แห่งพระยะโฮวาจะสถิตอยู่กับท่านผู้นั้น, คือดวงปัญญาและดวงความเข้าใจ, ดวงวินิจฉัยและดวงอานุภาพ, ดวงความรอบรู้ และความยำเกรงพระยะโฮวา.” (ยซา. 11:2) ขอให้นึกภาพว่าพระเยซูคงจะยินดีสักเพียงไรที่จะรับความช่วยเหลือจากพระวิญญาณของพระเจ้าเมื่อพระองค์ประสบความยุ่งยากลำบากหลายอย่างบนแผ่นดินโลกนี้!
11 คำตรัสของพระยะโฮวาสำเร็จเป็นจริง. บันทึกในหนังสือกิตติคุณบอกสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากพระเยซูทรงรับบัพติสมาว่า “พระเยซูซึ่งเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จไปจากแม่น้ำจอร์แดน และพระวิญญาณนำทางพระองค์ในถิ่นทุรกันดาร.” (ลูกา 4:1) ที่นั่น ขณะที่พระเยซูทรงอดพระกระยาหาร อธิษฐาน และคิดใคร่ครวญ พระยะโฮวาคงได้สอนและเปิดเผยให้พระบุตรทราบสิ่งที่รอพระองค์อยู่. พลังปฏิบัติการของพระเจ้าดำเนินกิจในความคิดและหัวใจของพระเยซู ชี้นำความคิดและการตัดสินใจของพระองค์. ผลก็คือ พระเยซูทรงรู้ว่าควรทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ และพระองค์ทรงทำทุกสิ่งที่พระบิดาทรงประสงค์ให้พระองค์ทำ.
12. ทำไมเราจำเป็นต้องขอพระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำเรา?
12 เนื่องจากพระเยซูทรงเห็นคุณค่าของผลกระทบที่เกิดจากพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิตของพระองค์เอง พระองค์จึงเน้นให้เหล่าสาวกเห็นความสำคัญที่จะขอพระวิญญาณบริสุทธิ์และให้พระวิญญาณชี้นำ. (อ่านลูกา 11:9-13) เหตุใดเรื่องนี้จึงสำคัญมากสำหรับเรา? เพราะพระวิญญาณสามารถเปลี่ยนความคิดจิตใจของเราให้คล้ายคลึงกับจิตใจของพระคริสต์. (โรม 12:2; 1 โค. 2:16) โดยการยอมให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำชีวิตเรา เราสามารถคิดอย่างพระคริสต์และทำตามแบบอย่างของพระองค์.—1 เป. 2:21
น้ำใจของโลกจะชักนำเราให้หลง
13. น้ำใจของโลกคืออะไร และน้ำใจนี้ก่อให้เกิดผลเช่นไร?
13 เหตุผลประการที่สามที่เราควรให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำคือ ถ้าไม่ได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณเราอาจถูกน้ำใจที่ไม่บริสุทธิ์ซึ่งมีอยู่ในผู้คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ชักนำให้หลงได้. โลกนี้มีแรงผลักดันอันทรงพลังของมันเองซึ่งส่งเสริมแนวทางที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถก่อให้เกิดขึ้นในตัวเรา. แทนที่จะส่งเสริมให้ผู้คนมีจิตใจอย่างพระคริสต์ น้ำใจของโลกทำให้ความคิดและการกระทำของพวกเขาคล้ายกับความคิดและการกระทำของซาตาน ผู้ปกครองโลก. (อ่านเอเฟโซส์ 2:1-3; ทิทุส 3:3) เมื่อคนเรายอมแพ้น้ำใจของโลกและทำตามความปรารถนาของกาย นั่นย่อมก่อผลเสียหายร้ายแรงและทำให้เขาไม่ได้รับราชอาณาจักรของพระเจ้า.—กลา. 5:19-21
14, 15. เราจะต้านทานน้ำใจของโลกได้อย่างไร?
14 พระยะโฮวาทรงเตรียมเราไว้ให้พร้อมเพื่อต้านทานน้ำใจของโลก. อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า “จงมีกำลังมากขึ้นโดยองค์พระผู้เป็นเจ้าและโดยฤทธานุภาพของพระองค์. . . . เพื่อท่านทั้งหลายจะสามารถต้านทานได้ในวันชั่วร้ายนั้น.” (เอเฟ. 6:10, 13) พระยะโฮวาทรงเสริมกำลังเราโดยทางพระวิญญาณของพระองค์เพื่อยืนหยัดต้านทานความพยายามของซาตานที่จะชักนำเราให้หลง. (วิ. 12:9) น้ำใจของโลกมีพลังมาก และเราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อย่างสิ้นเชิง. อย่างไรก็ตาม เราสามารถต้านทานน้ำใจนี้ได้. พระวิญญาณบริสุทธิ์มีพลังยิ่งกว่าน้ำใจของโลก และพระวิญญาณนี้จะช่วยเรา!
15 อัครสาวกเปโตรกล่าวถึงคนที่ละทิ้งศาสนาคริสเตียนในศตวรรษแรกว่า “พวกเขาละทิ้งทางตรงจึงถูกชักนำให้หลงผิด.” (2 เป. 2:15) เรารู้สึกขอบคุณสักเพียงไรที่เรา “ไม่ได้รับน้ำใจของโลก แต่ได้รับพระวิญญาณจากพระเจ้า”! (1 โค. 2:12) ด้วยความช่วยเหลือจากอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และโดยรับประโยชน์เต็มที่จากการจัดเตรียมทุกอย่างของพระยะโฮวาเพื่อช่วยเราให้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องฝ่ายวิญญาณ เราจะต้านทานน้ำใจของโลกชั่วที่มาจากซาตานได้.—กลา. 5:16
พระวิญญาณบริสุทธิ์ก่อให้เกิดผลที่ดี
16. พระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถก่อให้เกิดผลอะไรในตัวเรา?
16 เหตุผลประการที่สี่ที่เราควรให้พระวิญญาณของพระเจ้าดำเนินกิจในตัวเราคือ พระวิญญาณก่อให้เกิดผลที่ดีในชีวิตของคนที่ให้พระวิญญาณชี้นำเขา. (อ่านกาลาเทีย 5:22, 23) มีใครไหมที่ไม่อยากมีความรัก ความยินดี และสันติสุขมากขึ้น? มีใครบ้างที่ไม่อยากเปี่ยมด้วยความอดกลั้นไว้นาน ความกรุณา และความดี? มีใครบ้างที่ไม่อยากรับประโยชน์จากการพัฒนาความเชื่อ ความอ่อนโยน และการควบคุมตนเองให้มากขึ้น? พระวิญญาณของพระเจ้าก่อให้เกิดคุณลักษณะที่ดีในตัวเราซึ่งทำให้เราเองและคนที่อยู่ด้วยกันและรับใช้ด้วยกันได้รับประโยชน์. การพัฒนาผลพระวิญญาณเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีการจำกัดว่าเราจำเป็นต้องมีและสามารถพัฒนาผลของพระวิญญาณได้มากขนาดไหน.
17. เราจะพัฒนาคุณลักษณะต่าง ๆ ของผลพระวิญญาณให้มากขึ้นได้อย่างไร?
17 เราควรตรวจสอบตัวเองให้แน่ใจว่าคำพูดและการกระทำของเราให้หลักฐานว่าเราได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์และกำลังเกิดผลพระวิญญาณ. (2 โค. 13:5ก; กลา. 5:25) ถ้าเราเห็นว่าจำเป็นต้องพัฒนาคุณลักษณะบางอย่างของผลพระวิญญาณ เราก็จะสามารถร่วมมือกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มากขึ้นในการพัฒนาคุณลักษณะเหล่านั้น. เราทำเช่นนี้ได้โดยการศึกษาคุณลักษณะเหล่านั้นแต่ละอย่างตามที่เปิดเผยไว้ในคัมภีร์ไบเบิลและตามที่มีการพิจารณาในหนังสือต่าง ๆ ของคริสเตียน. โดยทำอย่างนั้น เราจะเข้าใจว่าผลพระวิญญาณควรปรากฏชัดในชีวิตประจำวันของเราอย่างไร แล้วก็พยายามปลูกฝังผลพระวิญญาณให้มากขึ้น.a เมื่อเราเห็นผลที่เกิดจากการดำเนินกิจของพระวิญญาณในชีวิตของเราเองรวมทั้งในชีวิตของเพื่อนคริสเตียน เราจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทำไมเราต้องให้พระวิญญาณชี้นำ.
คุณยอมให้พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำไหม?
18. พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างสำหรับเราอย่างไรในการตอบรับพระวิญญาณของพระเจ้า?
18 ในฐานะ “นายช่าง” ของพระเจ้าในการสร้างเอกภพ พระเยซูทรงรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งมนุษย์เราใช้ในการนำทางบนโลก. (สุภา. 8:30, ฉบับ R73; โย. 1:3) อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานในคัมภีร์ไบเบิลว่าพระเยซูเคยใช้สนามแม่เหล็กโลกนำทางพระองค์ตอนที่อยู่บนแผ่นดินโลก. คัมภีร์ไบเบิลรายงานว่าตอนที่เป็นมนุษย์พระเยซูได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าซึ่งเป็นพลังที่มีฤทธิ์อย่างยิ่ง. พระองค์ทรงตอบรับอำนาจของพระวิญญาณด้วยความยินดี และเมื่อพระวิญญาณกระตุ้นพระองค์ พระองค์ทรงยอมรับและทำตาม. (มโก. 1:12, 13; ลูกา 4:14) คุณเป็นอย่างนั้นไหม?
19. เราต้องทำอะไรเพื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นพลังที่ชี้นำชีวิตเรา?
19 ปัจจุบัน พลังปฏิบัติการของพระเจ้ายังคงดำเนินกิจเพื่อกระตุ้นและชี้นำคนที่เต็มใจให้พระวิญญาณชี้นำ. คุณจะให้พระวิญญาณดำเนินกิจในตัวคุณเพื่อนำคุณไปในทิศทางที่ถูกต้องได้อย่างไร? จงอธิษฐานถึงพระยะโฮวาเสมอขอพระองค์ประทานพระวิญญาณและช่วยคุณให้ยอมรับการโน้มนำจากพระวิญญาณของพระองค์. (อ่านเอเฟโซส์ 3:14-16) จงทำอย่างที่สอดคล้องกับคำอธิษฐานของคุณด้วยการค้นหาคำแนะนำในคัมภีร์ไบเบิล พระคำของพระเจ้า ซึ่งเป็นผลงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์. (2 ติโม. 3:16, 17) จงทำตามคำแนะนำที่สุขุมในพระคัมภีร์และตอบรับการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างกระตือรือร้น. จงลงมือปฏิบัติด้วยความเชื่อว่าพระยะโฮวาทรงสามารถชี้นำคุณให้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องในโลกชั่วนี้.
[เชิงอรรถ]
a สำหรับการพิจารณาคุณลักษณะแต่ละอย่างโปรดดูหอสังเกตการณ์ 15/7/07 หน้า 24-25; 15/10/03 หน้า 14; 1/7/03 หน้า 6; 1/4/03 หน้า 15, 19-20; 15/1/03 หน้า 11; 15/1/02 หน้า 17; 1/11/01 หน้า 14-15; 1/1/01 หน้า 22; 15/1/95 หน้า 16.
คุณเห็นจุดสำคัญไหม?
• พระวิญญาณบริสุทธิ์จะมีผลกระทบต่อชีวิตเราได้อย่างไร?
• มีเหตุผลสี่ประการอะไรที่เราควรให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าชี้นำ?
• เราจะทำส่วนของเราเพื่อได้รับประโยชน์เต็มที่จากการนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อย่างไร?
[ภาพหน้า 15]
พระวิญญาณของพระเจ้าเป็นพลังผลักดันในชีวิตของพระเยซู
[ภาพหน้า 17]
พระวิญญาณของพระเจ้าดำเนินกิจเพื่อกระตุ้นและชี้นำพวกเขา