บทสิบเจ็ด
การระบุตัวผู้นมัสการแท้ในเวลาอวสาน
1. ตามดานิเอลบท 7 คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ป้องกันตัวเองไม่ได้มีประสบการณ์พิเศษอะไรในสมัยของเรา?
คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ป้องกันตนเองไม่ได้ถูกโจมตีอย่างโหดร้ายโดยมหาอำนาจโลกที่เข้มแข็ง. พวกเขารอดมาได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ และถึงกับประสบกับการฟื้นฟูใหม่ ไม่ใช่เพราะกำลังของพวกเขาเองแต่เนื่องจากพระยะโฮวาพระเจ้าทรงถือว่าพวกเขามีค่า. พระธรรมดานิเอลบท 7 บอกล่วงหน้าถึงเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นในตอนต้น ๆ ของศตวรรษที่ 20. กระนั้น ใครคือคนเหล่านี้? พระธรรมดานิเอลบทเดียวกันนั้นกล่าวถึงพวกเขาว่าเป็น “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด” พระยะโฮวาพระเจ้า. บทนั้นยังเปิดเผยว่า ในที่สุดบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้ปกครองร่วมในราชอาณาจักรมาซีฮา!—ดานิเอล 7:13, 14, 18, 21, 22, 25-27.
2. (ก) พระยะโฮวาทรงรู้สึกอย่างไรกับผู้รับใช้ที่ถูกเจิมของพระองค์? (ข) แนวทางที่สุขุมอะไรที่พึงติดตามในสมัยเหล่านี้?
2 ดังที่เราได้เรียนรู้ในดานิเอลบท 11 กษัตริย์ทิศเหนือจะพบจุดจบหลังจากคุกคามดินแดนฝ่ายวิญญาณอันมั่นคงปลอดภัยของบุคคลผู้ซื่อสัตย์เหล่านี้. (ดานิเอล 11:45; เทียบกับยะเอศเคล 38:18-23.) ใช่แล้ว พระยะโฮวาทรงปกป้องคุ้มครองผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ของพระองค์อย่างดี. บทเพลงสรรเสริญ 105:14, 15 บอกเราว่า “พระองค์ได้ทรงทัดทานเหล่ากษัตริย์เพราะเห็นแก่เขา. ตรัสว่าอย่าแตะต้องผู้ถูกเจิมของเรา, และอย่าทำร้ายแก่พวกศาสดาพยากรณ์ของเรา.” ดังนั้น คุณเห็นด้วยมิใช่หรือว่า ในสมัยที่ปั่นป่วนนี้ นับว่าฉลาดที่ “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งกำลังทวีมากขึ้นจะร่วมสมทบให้ใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับผู้บริสุทธิ์เหล่านี้? (วิวรณ์ 7:9; ซะคาระยา 8:23) พระเยซูคริสต์ทรงแนะนำให้คนเยี่ยงแกะทำอย่างนั้นทีเดียว—คือสมทบกับพี่น้องฝ่ายวิญญาณที่ถูกเจิมของพระองค์โดยสนับสนุนงานของพวกเขา.—มัดธาย 25:31-46; ฆะลาเตีย 3:29.
3. (ก) ทำไมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพบผู้ติดตามที่ถูกเจิมของพระเยซูและติดสนิทอยู่กับพวกเขา? (ข) ดานิเอลบท 12 จะช่วยในเรื่องนี้อย่างไร?
3 อย่างไรก็ดี ซาตาน ศัตรูของพระเจ้า ได้ทำสงครามอย่างเต็มกำลังต่อสู้เหล่าผู้ถูกเจิม. มันได้ส่งเสริมศาสนาเท็จ ทำให้โลกเต็มไปด้วยคริสเตียนปลอม. ผลคือ หลายคนถูกนำไปผิดทาง. คนอื่น ๆ หมดหวังที่จะพบคนที่เป็นตัวแทนศาสนาแท้. (มัดธาย 7:15, 21-23; วิวรณ์ 12:9, 17) แม้แต่คนที่พบ “แกะฝูงน้อย” และสมทบกับพวกเขาก็ต้องต่อสู้เพื่อรักษาความเชื่อ เพราะโลกนี้พยายามบ่อนทำลายความเชื่ออยู่เสมอ. (ลูกา 12:32) แล้วคุณล่ะ? คุณพบ “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด” และกำลังร่วมสมทบกับพวกเขาไหม? คุณรู้ถึงหลักฐานที่แน่นหนาไหมที่พิสูจน์ว่าเหล่าคนที่คุณพบเป็นผู้ที่พระเจ้าได้ทรงเลือกจริง ๆ? หลักฐานเช่นนั้นสามารถเสริมความเชื่อของคุณได้. หลักฐานนั้นยังสามารถเตรียมคุณให้พร้อมเพื่อช่วยคนอื่นให้เห็นทะลุปรุโปร่งถึงความสับสนทางศาสนาในโลกสมัยนี้. ดานิเอลบท 12 บรรจุความรู้อันล้ำค่าที่ช่วยชีวิตนี้ไว้มากมาย.
เจ้าองค์ยิ่งใหญ่ออกปฏิบัติการ
4. (ก) ดานิเอล 12:1 บอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่แตกต่างกันสองสิ่งอะไรบ้างเกี่ยวกับมิคาเอล? (ข) ในพระธรรมดานิเอล การ “ยืน” ของกษัตริย์มักหมายถึงอะไร?
4 ดานิเอล 12:1 (ล.ม.) บอกว่า “ระหว่างเวลานั้นมิคาเอลจะยืนขึ้น เจ้าองค์ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งยืนอยู่เพื่อเห็นแก่บุตรทั้งหลายแห่งชนร่วมชาติของท่าน.” ข้อนี้บอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมิคาเอลที่แตกต่างกันสองประการคือ หนึ่ง ท่าน “ยืนอยู่” บ่งชี้ถึงสภาพการณ์ที่ใช้เวลาช่วงหนึ่ง; สอง ท่าน “จะยืนขึ้น” บ่งชี้ถึงเหตุการณ์ ระหว่างช่วงเวลานั้น. ตอนแรก เราต้องการรู้ช่วงเวลาที่มิคาเอลกำลัง “ยืนอยู่เพื่อเห็นแก่บุตรทั้งหลายแห่งชนร่วมชาติของ [ดานิเอล].” ขอจำไว้ว่า มิคาเอลเป็นชื่อของพระเยซูในบทบาทของผู้ปกครองฝ่ายสวรรค์. การกล่าวว่าท่าน “ยืนอยู่” เตือนเราให้ระลึกถึงวิธีที่มีการใช้คำนี้ในที่อื่น ๆ ในพระธรรมดานิเอล. คำนี้มักเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของกษัตริย์ เช่น เมื่อขึ้นครองราชย์.—ดานิเอล 11:2-4, 7, 20, 21, ล.ม.
5, 6. (ก) ระหว่างช่วงเวลาไหนที่มิคาเอลยืนอยู่? (ข) มิคาเอล “ยืนขึ้น” เมื่อไร และอย่างไร ผลเป็นอย่างไร?
5 เห็นได้ชัดว่า ที่นี่ทูตสวรรค์กำลังชี้ถึงช่วงเวลาที่มีการกล่าวถึงในที่อื่น ๆ ของคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล. พระเยซูทรงเรียกช่วงเวลานี้ว่า “การประทับ” (ภาษากรีก พารูเซียʹ) ของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงปกครองในฐานะกษัตริย์ในสวรรค์. (มัดธาย 24:37-39, ล.ม.) ช่วงเวลานี้ยังถูกเรียกด้วยว่า “สมัยสุดท้าย” และ “เวลาอวสาน.” (2 ติโมเธียว 3:1, ล.ม.; ดานิเอล 12:4, 9, ล.ม.) ตั้งแต่ช่วงเวลานี้ได้เริ่มต้นในปี 1914 มิคาเอลได้ยืนอยู่ในฐานะกษัตริย์ในสวรรค์.—เทียบกับยะซายา 11:10; วิวรณ์ 12:7-9.
6 แต่ทว่ามิคาเอล “ยืนขึ้น” เมื่อไร? ก็เมื่อพระองค์ลุกขึ้นเพื่อลงมือปฏิบัติการพิเศษ. พระเยซูจะทรงทำสิ่งนี้ในอนาคต. วิวรณ์ 19:11-16 พรรณนาเชิงพยากรณ์ถึงพระเยซูว่า พระองค์ในฐานะกษัตริย์มาซีฮาผู้ทรงอำนาจกำลังนำกองทัพทูตสวรรค์มาทำลายเหล่าศัตรูของพระเจ้า. ดานิเอล 12:1 (ล.ม.) กล่าวต่อไปว่า “และจะเกิดยุคแห่งความยากลำบากเป็นแน่อย่างที่ไม่เคยทำให้เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดเป็นชาติมาจนถึงเวลานั้น.” ในฐานะผู้สำเร็จโทษองค์ยิ่งใหญ่ที่มาจากพระยะโฮวา พระคริสต์จะนำระบบชั่วทั้งสิ้นมาถึงอวสานใน “ความทุกข์ลำบากใหญ่” ที่มีการบอกไว้ล่วงหน้า.—มัดธาย 24:21; ยิระมะยา 25:33; 2 เธซะโลนิเก 1:6-8; วิวรณ์ 7:14; 16:14, 16.
7. (ก) มีความหวังอะไรสำหรับผู้ซื่อสัตย์ทุกคนระหว่าง “ยุคแห่งความยากลำบาก”? (ข) หนังสือของพระยะโฮวาคืออะไร และทำไมเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีชื่อในหนังสือนั้น?
7 คนที่แสดงความเชื่อจะเป็นอย่างไรในสมัยที่มืดมนนี้? ทูตสวรรค์บอกต่อไปว่า “ระหว่างเวลานั้นชนร่วมชาติของท่านจะหนีรอด คือ ทุกคนที่มีชื่อเขียนไว้ในหนังสือนั้น.” (เทียบกับลูกา 21:34-36.) หนังสือนี้คืออะไร? จริง ๆ แล้ว หนังสือนี้หมายถึงความทรงจำของพระยะโฮวาพระเจ้าเกี่ยวกับคนที่ทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์. (มาลาคี 3:16; เฮ็บราย 6:10) คนที่มีชื่อในหนังสือแห่งชีวิตเล่มนี้เป็นผู้คนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เพราะพวกเขาได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้า. ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายใด ๆ กับพวกเขา ความเสียหายนั้นจะได้รับการแก้ไข. แม้ว่าถ้าพวกเขาเสียชีวิตไปก่อน “ยุคแห่งความยากลำบาก” พวกเขาก็จะยังคงอยู่อย่างปลอดภัยในความทรงจำอันไร้ขีดจำกัดของพระยะโฮวา. พระองค์จะทรงระลึกถึงพวกเขาและปลุกพวกเขาให้มีชีวิตอีกในรัชสมัยพันปีของพระเยซูคริสต์.—กิจการ 24:15; วิวรณ์ 20:4-6.
เหล่าผู้บริสุทธิ์ “ตื่นขึ้น”
8. ดานิเอล 12:2 เสนอความคาดหวังที่น่ายินดีอะไร?
8 ความหวังเกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตายเป็นการปลอบประโลมใจอย่างแท้จริง. ดานิเอล 12:2 (ล.ม.) กล่าวถึงเรื่องนี้โดยกล่าวว่า “จะมีหลายคนที่นอนหลับจมอยู่ในผงคลีดินจะตื่นขึ้น บ้างจะตื่นขึ้นสู่ชีวิตยืนนานไม่มีเวลากำหนด บ้างก็สู่ความขายหน้าและสู่ความสะอิดสะเอียนยืนนานไม่มีเวลากำหนด.” (เทียบกับยะซายา 26:19.) ถ้อยคำเหล่านี้อาจเตือนใจเราเป็นอย่างดีให้ระลึกถึงคำสัญญาของพระเยซูคริสต์ที่กระตุ้นใจเกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตายสำหรับคนทั่วไป. (โยฮัน 5:28, 29) ช่างเป็นความหวังที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ! ลองคิดถึงเพื่อนและสมาชิกครอบครัวอันเป็นที่รัก—ซึ่งตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว—มีโอกาสจะมีชีวิตอีกครั้งในวันข้างหน้า! แต่คำสัญญานี้ในพระธรรมดานิเอลอันดับแรกกล่าวถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว. นั่นเป็นไปได้อย่างไร?
9. (ก) ทำไมเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะคาดหมายว่าดานิเอล 12:2 จะสำเร็จในสมัยสุดท้าย? (ข) คำพยากรณ์นั้นกล่าวถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายชนิดไหน และเรารู้ได้อย่างไร?
9 ขอพิจารณาบริบท. ดังที่เราทราบ ข้อแรกของบท 12 ไม่ได้ใช้กับตอนอวสานของระบบนี้เท่านั้นแต่ยังใช้กับช่วงเวลาทั้งหมดของสมัยสุดท้ายด้วย. ที่จริง บทนี้แทบทั้งบทไม่ได้สำเร็จในอุทยานที่จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลก แต่สำเร็จในเวลาอวสาน. มีการกลับเป็นขึ้นจากตายในช่วงเวลานี้ไหม? อัครสาวกเปาโลเขียนเกี่ยวกับการกลับเป็นขึ้นจากตายของ “บรรดาผู้ที่เป็นของพระคริสต์” ว่าจะเกิดขึ้น “ระหว่างการประทับของพระองค์.” อย่างไรก็ตาม คนที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายเพื่อมีชีวิตในสวรรค์ถูกปลุกขึ้น “สู่สภาพไม่เน่าเปื่อย.” (1 โกรินโธ 15:23, 52, ล.ม.) ไม่มีใครในพวกเขาถูกปลุก “สู่ความขายหน้าและสู่ความสะอิดสะเอียนยืนนานไม่มีเวลากำหนด” ดังที่บอกไว้ล่วงหน้าในดานิเอล 12:2 (ล.ม.). มีการกลับเป็นขึ้นจากตายชนิดอื่นไหม? ในคัมภีร์ไบเบิล บางครั้งการกลับเป็นขึ้นจากตายมีความหมายฝ่ายวิญญาณ. ตัวอย่างเช่น ทั้งพระธรรมยะเอศเคลและวิวรณ์มีถ้อยคำเชิงพยากรณ์ที่ใช้กับการฟื้นฟูหรือการกลับเป็นขึ้นจากตายฝ่ายวิญญาณ.—ยะเอศเคล 37:1-14; วิวรณ์ 11:3, 7, 11.
10. (ก) ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายในความหมายใดระหว่างเวลาอวสาน? (ข) ผู้ถูกเจิมบางคนที่ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ตื่นขึ้นมา “สู่ความขายหน้าและสู่ความสะอิดสะเอียนยืนนานไม่มีเวลากำหนด” อย่างไร?
10 มีการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณเช่นนั้นของผู้รับใช้ที่ถูกเจิมของพระเจ้าในเวลาอวสานไหม? มี! นั่นเป็นเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ที่ว่าในปี 1918 ชนที่เหลือกลุ่มเล็ก ๆ ของคริสเตียนผู้ซื่อสัตย์ถูกโจมตีอย่างผิดธรรมดาซึ่งขัดขวางงานประกาศเผยแพร่อย่างเปิดเผยที่ได้จัดไว้เป็นระเบียบ. หลังจากนั้น แม้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ในปี 1919 พวกเขาคืนสู่ชีวิตในแง่ฝ่ายวิญญาณ. ข้อเท็จจริงเหล่านี้สอดคล้องกับการกลับเป็นขึ้นจากตายที่มีบอกล่วงหน้าในดานิเอล 12:2. บางคนได้ “ตื่นขึ้น” ทางฝ่ายวิญญาณในเวลานั้นและหลังจากนั้น. กระนั้น น่าเศร้าที่ไม่ใช่ทุกคนรักษาสภาพที่มีชีวิตฝ่ายวิญญาณเอาไว้. คนที่จงใจปฏิเสธกษัตริย์มาซีฮาและละทิ้งการรับใช้พระเจ้าหลังจากได้รับการปลุกให้ตื่นขึ้นแล้วทำให้ตนเองได้รับ ‘ความขายหน้าและความสะอิดสะเอียนยืนนานไม่มีเวลากำหนด’ ซึ่งมีพรรณนาไว้ในดานิเอล 12:2, (ล.ม.). (เฮ็บราย 6:4-6) อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสภาพที่ได้รับการฟื้นฟูทางฝ่ายวิญญาณโดยสนับสนุนกษัตริย์มาซีฮาอย่างภักดี. ในที่สุด ความซื่อสัตย์ของพวกเขานำไปสู่ “ชีวิตยืนนานไม่มีเวลากำหนด” ดังที่คำพยากรณ์กล่าวไว้. ในปัจจุบัน ความมีชีวิตชีวาฝ่ายวิญญาณของพวกเขาแม้เมื่อเผชิญการทดลองช่วยให้เราระบุตัวพวกเขาได้.
พวกเขา ‘ส่องแสงเหมือนดวงดาว’
11. ใครคือ “ผู้ที่มีความหยั่งเห็นเข้าใจ” ในปัจจุบัน และพวกเขาส่องแสงเหมือนดวงดาวในแง่ใด?
11 สองข้อถัดมาของดานิเอลบท 12 ช่วยเรามากขึ้นที่จะระบุตัว “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด.” ในข้อ 3 ทูตสวรรค์บอกกับดานิเอลว่า “ผู้ที่มีความหยั่งเห็นเข้าใจจะส่องแสงเหมือนแสงสว่างแห่งท้องฟ้า; และผู้ที่นำหลายคนมาสู่ความชอบธรรม เหมือนดวงดาวจนถึงเวลาไม่กำหนด จนกระทั่งตลอดกาล.” ใครคือ “ผู้ที่มีความหยั่งเห็นเข้าใจ” ในสมัยนี้? อีกครั้งหนึ่งหลักฐานชี้ไปที่ “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด” กลุ่มเดียวกันนั้น. ถ้าจะว่าไป ใครหรือนอกจากชนที่เหลือผู้ถูกเจิมผู้ซื่อสัตย์ที่จะมีความหยั่งเห็นเข้าใจจนมองออกว่ามิคาเอล เจ้าองค์ยิ่งใหญ่ เริ่มยืนขึ้นเป็นกษัตริย์ในปี 1914? โดยการประกาศความจริงเช่นนี้—รวมทั้งโดยการรักษาความประพฤติแบบคริสเตียน—พวกเขาได้ “ปรากฏดุจดวงสว่าง” ในโลกที่มืดมิดฝ่ายวิญญาณ. (ฟิลิปปอย 2:15; โยฮัน 8:12) พระเยซูทรงพยากรณ์เกี่ยวกับพวกเขาว่า “คราวนั้นผู้ชอบธรรมจะรุ่งเรืองอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของเขาดุจแสงดวงอาทิตย์.”—มัดธาย 13:43.
12. (ก) ในระหว่างเวลาอวสาน ผู้ถูกเจิมเกี่ยวข้องกับการ “นำหลายคนมาสู่ความชอบธรรม” อย่างไร? (ข) ผู้ถูกเจิมจะนำหลายคนมาสู่ความชอบธรรมและ ‘ส่องแสงเหมือนดวงดาว’ ระหว่างรัชสมัยพันปีของพระคริสต์อย่างไร?
12 ดานิเอล 12:3 ถึงกับบอกเราเกี่ยวกับการงานที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมเหล่านี้จะทำในเวลาอวสาน. พวกเขาจะ “นำหลายคนมาสู่ความชอบธรรม.” ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้รวบรวมคนที่ยังขาดอยู่จากจำนวน 144,000 คนที่เป็นรัชทายาทร่วมของพระคริสต์. (โรม 8:16, 17; วิวรณ์ 7:3, 4) เมื่องานนี้เสร็จสิ้น—ดูเหมือนว่าเมื่อถึงตอนกลางทศวรรษ 1930—พวกเขาเริ่มรวบรวม “ชนฝูงใหญ่” แห่ง “แกะอื่น.” (วิวรณ์ 7:9, ล.ม.; โยฮัน 10:16) คนเหล่านี้เช่นกันแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูคริสต์. ดังนั้น พวกเขาจึงมีฐานะอันสะอาดเฉพาะพระยะโฮวา. พวกเขามีจำนวนหลายล้านคนในทุกวันนี้ และพวกเขาทะนุถนอมความหวังที่จะรอดจากการทำลายล้างโลกชั่วที่กำลังจะเกิดขึ้น. ระหว่างรัชสมัยพันปีของพระคริสต์ พระเยซูและสหาย 144,000 คนที่เป็นกษัตริย์และปุโรหิตจะใช้คุณค่าของเครื่องบูชาไถ่อย่างเต็มที่แก่มนุษยชาติที่เชื่อฟังบนแผ่นดินโลก จึงเป็นการช่วยทุกคนที่แสดงความเชื่อให้กำจัดร่องรอยทุกอย่างแห่งความบาปที่ตกทอดมาจากอาดามให้หมดสิ้นไป. (2 เปโตร 3:13; วิวรณ์ 7:13, 14; 20:5, 6) ตอนนั้นผู้ถูกเจิมจะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการ “นำหลายคนมาสู่ความชอบธรรม” และจะ ‘ส่องแสงเหมือนดวงดาว’ ในท้องฟ้า. คุณหยั่งรู้ค่าความหวังที่จะมีชีวิตบนแผ่นดินโลกภายใต้รัฐบาลฝ่ายสวรรค์อันสง่างามของพระคริสต์และผู้ปกครองร่วมกับพระองค์ไหม? ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่ได้มีส่วนร่วมกับ “เหล่าผู้บริสุทธิ์” ในการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร!—มัดธาย 24:14.
พวกเขา “ไป ๆ มา ๆ”
13. ถ้อยคำในหนังสือของท่านดานิเอลถูกผนึกและเก็บไว้เป็นความลับในแง่ใด?
13 ตอนนี้คำแถลงของทูตสวรรค์ต่อดานิเอล ซึ่งเริ่มที่ดานิเอล 10:20 สิ้นสุดลงด้วยถ้อยคำที่ทำให้อบอุ่นใจนี้: “และส่วนท่าน โอ้ดานิเอล จงเก็บถ้อยคำเหล่านั้นไว้เป็นความลับ และผนึกม้วนหนังสือไว้ จนกระทั่งถึงเวลาอวสาน. หลายคนจะไป ๆ มา ๆ และความรู้แท้จะมีอุดมบริบูรณ์.” (ดานิเอล 12:4, ล.ม.) สิ่งที่ดานิเอลได้รับการดลใจให้เขียนแท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นความลับและถูกผนึกไว้ไม่ให้มนุษย์เข้าใจ. นั่นเป็นเหตุที่ดานิเอลเขียนในภายหลังว่า “ข้าพเจ้าได้ยิน, แต่ไม่เข้าใจ.” (ดานิเอล 12:8) หนังสือของท่านดานิเอลถูกผนึกในแง่นี้เป็นเวลาหลายศตวรรษ. แต่ในทุกวันนี้ล่ะ?
14. (ก) ใครได้ “ไป ๆ มา ๆ” ระหว่าง “เวลาอวสาน” และ “ไป ๆ มา ๆ” ที่ไหน? (ข) มีหลักฐานอะไรที่แสดงว่าพระยะโฮวาทรงอวยพระพรการ “ไป ๆ มา ๆ” นี้?
14 พวกเรามีสิทธิพิเศษที่มีชีวิตอยู่ใน “เวลาอวสาน” ที่มีบอกไว้ล่วงหน้าในพระธรรมดานิเอล. ดังที่ได้พยากรณ์ไว้ ผู้ซื่อสัตย์หลายคนได้ “ไป ๆ มา ๆ” ในหน้าต่าง ๆ ของพระคำของพระเจ้า. ผลคืออะไร? ด้วยพระพรจากพระยะโฮวา ความรู้ถ่องแท้มีอุดม. พยานผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ของพระยะโฮวาได้รับความหยั่งเห็นเข้าใจที่ช่วยพวกเขาให้เข้าใจว่าบุตรมนุษย์ขึ้นเป็นกษัตริย์ในปี 1914, ให้ระบุตัวสัตว์ต่าง ๆ ในคำพยากรณ์ของดานิเอล, ให้เตือนเกี่ยวกับ “สิ่งน่าสะอิดสะเอียนซึ่งทำให้ร้างเปล่า”—และนี่เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างเท่านั้น. (ดานิเอล 11:31, ล.ม.) ความอุดมสมบูรณ์ของความรู้นี้จึงเป็นเครื่องหมายอีกประการหนึ่งที่ระบุตัว “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด.” แต่ดานิเอลได้รับหลักฐานเพิ่มขึ้นอีก.
พวกเขาถูก ‘ทำลายย่อยยับ’
15. ตอนนี้ทูตสวรรค์ถามคำถามอะไร และคำถามนี้อาจเตือนเราให้ระลึกถึงใคร?
15 เราจำได้ว่า ดานิเอลได้รับข่าวสารเหล่านี้จากทูตสวรรค์ ณ ฝั่ง “แม่น้ำใหญ่” ฮิเดเค็ล ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยว่าแม่น้ำไทกริส. (ดานิเอล 10:4) ที่นี่ในตอนนี้ท่านเห็นทูตสวรรค์สามองค์และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเห็น ข้าพเจ้าดานิเอล และดูเถอะ! มีอีกสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำข้างนี้และอีกคนหนึ่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำข้างโน้น แล้วคนหนึ่งบอกชายที่นุ่งห่มผ้าลินิน ซึ่งอยู่เหนือน้ำทั้งหลายแห่งแม่น้ำว่า ‘จะนานเพียงใดจึงจะถึงที่สุดปลายแห่งสิ่งน่าอัศจรรย์เหล่านั้น?’” (ดานิเอล 12:5, 6, ล.ม.) คำถามที่ทูตสวรรค์ถามขึ้นที่นี่อาจสะกิดใจเราให้นึกถึง “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด” อีกครั้งหนึ่ง. ในตอนเริ่มต้นของ “เวลาอวสาน” ในปี 1914 พวกเขาเป็นห่วงอย่างยิ่งเกี่ยวกับคำถามที่ว่า อีกนานแค่ไหนคำสัญญาของพระเจ้าจะสำเร็จเป็นจริง. ที่ว่าคำพยากรณ์นี้เพ่งเล็งถึงพวกเขานั้นเห็นได้จากคำตอบสำหรับคำถามดังกล่าว.
16. ทูตสวรรค์กล่าวคำพยากรณ์อะไร และท่านเน้นความแน่นอนแห่งความสำเร็จของคำพยากรณ์นี้อย่างไร?
16 บันทึกของดานิเอลมีต่อไปว่า “และข้าพเจ้าเริ่มได้ยินชายที่นุ่งห่มผ้าลินิน ซึ่งอยู่เหนือน้ำทั้งหลายแห่งแม่น้ำ เมื่อท่านเริ่มชูมือขวาและมือซ้ายของท่านขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์และสาบานโดยอ้างพระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ไม่มีเวลากำหนดดังนี้: ‘นั่นจะเป็นเวลากำหนดหนึ่งวาระ หลายวาระและครึ่งวาระ. และทันทีที่การทำลายอำนาจของชนบริสุทธิ์ให้ย่อยยับถึงที่สิ้นสุด สิ่งทั้งปวงนี้จะถึงที่สำเร็จ.’” (ดานิเอล 12:7, ล.ม.) นี่เป็นเรื่องจริงจัง. ทูตสวรรค์ชูมือทั้งสองขึ้นปฏิญาณ บางทีอาจทำท่านี้เพื่อให้ทูตสวรรค์สององค์ที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำกว้างมองเห็น. โดยการทำเช่นนี้ ทูตสวรรค์จึงเน้นถึงความแน่นอนที่สุดว่าคำพยากรณ์นี้จะสำเร็จเป็นจริง. อย่างไรก็ตาม เวลากำหนดเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไร? คำตอบไม่ยากอย่างที่คุณอาจคิด.
17. (ก) มีความคล้ายคลึงอะไรบ้างที่พบในคำพยากรณ์ที่ดานิเอล 7:25, ดานิเอล 12:7, และวิวรณ์ 11:3, 7, 9? (ข) สามวาระครึ่งนานเท่าไร?
17 คำพยากรณ์นี้คล้ายกันอย่างน่าประหลาดกับคำพยากรณ์อื่นอีกสองข้อ. คำพยากรณ์แรก ซึ่งเราได้พิจารณาในบท 9 ของหนังสือนี้ พบได้ในดานิเอล 7:25; อีกคำพยากรณ์หนึ่ง อยู่ที่วิวรณ์ 11:3, 7, 9. โปรดสังเกตความคล้ายคลึงบางอย่าง. แต่ละคำพยากรณ์สำเร็จในเวลาอวสาน. คำพยากรณ์ทั้งสองเกี่ยวข้องกับผู้รับใช้ที่บริสุทธิ์ของพระเจ้า แสดงภาพพวกเขาว่าถูกข่มเหงและถึงกับไม่สามารถดำเนินกิจกรรมการประกาศเผยแพร่อย่างเปิดเผยได้ชั่วคราว. แต่ละคำพยากรณ์แสดงว่าผู้รับใช้ของพระเจ้าฟื้นขึ้นและทำงานของพวกเขาอีก เอาชนะผู้ข่มเหงพวกเขา. และแต่ละคำพยากรณ์กล่าวถึงระยะเวลาที่ยากลำบากสำหรับเหล่าผู้บริสุทธิ์. คำพยากรณ์ทั้งสองในดานิเอล (7:25 และ 12:7) กล่าวถึง ‘หนึ่งวาระ, หลายวาระ, และครึ่งวาระ.’ ผู้คงแก่เรียนยอมรับกันทั่วไปว่านี่หมายถึงสามวาระครึ่ง. พระธรรมวิวรณ์กล่าวถึงช่วงเวลาเดียวกันว่าเป็น 42 เดือน หรือ 1,260 วัน. (วิวรณ์ 11:2, 3) สิ่งนี้ยืนยันว่า สามวาระครึ่งในดานิเอลหมายถึงสามปีครึ่ง แต่ละปีมี 360 วัน. แต่เวลา 1,260 วันนี้เริ่มต้นเมื่อไร?
18. (ก) ตามดานิเอล 12:7 ช่วงเวลา 1,260 วันจะสิ้นสุดลงด้วยเหตุการณ์อะไร? (ข) “อำนาจของชนบริสุทธิ์” ถูกทำลายย่อยยับเมื่อไร และเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างไร? (ค) ช่วงเวลา 1,260 วันเริ่มขึ้นเมื่อไร และผู้ถูกเจิม ‘พยากรณ์โดยสวมผ้ากระสอบ’ อย่างไร?
18 คำพยากรณ์นี้ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องที่ว่าช่วงเวลา 1,260 วันนั้นสิ้นสุดลงเมื่อไร—คือเมื่อ “การทำลายอำนาจของชนบริสุทธิ์ให้ย่อยยับถึงที่สิ้นสุด.” ตอนกลางปี 1918 สมาชิกคนสำคัญของสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ รวมทั้ง เจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด นายกสมาคม ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาเท็จ และให้จำคุกระยะยาว. เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าได้เห็นงานของพวกเขาถูก ‘ทำลายย่อยยับ’ อย่างแท้จริง ซึ่งก็คืออำนาจของพวกเขาถูกทำลาย. นับจากกลางปี 1918 ย้อนไปสามปีครึ่งก็จะมาถึงปลายปี 1914. ในเวลานั้นผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ กำลังเตรียมตัวสำหรับการกดขี่ข่มเหงอันรุนแรง. สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ระเบิดขึ้น และการต่อต้านงานของพวกเขาเพิ่มทวีขึ้น. พวกเขาถึงกับใช้คำถามที่พระคริสต์ทรงถามผู้ติดตามพระองค์เป็นข้อพระคัมภีร์ประจำปีสำหรับปี 1915 ที่ว่า “จอกนั้นซึ่งเราจะดื่มท่านจะดื่มได้หรือ”? (มัดธาย 20:22) ดังที่ได้บอกไว้ล่วงหน้าในวิวรณ์ 11:3 ช่วงเวลา 1,260 วันที่ตามมาเป็นเวลาที่น่าเศร้าสำหรับผู้ถูกเจิม—เหมือนกับว่าพวกเขากำลังพยากรณ์ในผ้ากระสอบ. การข่มเหงรุนแรงยิ่งขึ้น. พวกเขาบางคนถูกจำคุก, บางคนถูกฝูงชนทำร้าย, และยังมีบางคนถูกทรมาน. หลายคนท้อแท้เนื่องจากการเสียชีวิตของ ซี. ที. รัสเซลล์ นายกสมาคมคนแรก ในปี 1916. กระนั้น จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเวลาอันมืดมนนี้ซึ่งสิ้นสุดลงพร้อมด้วยการฆ่าผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ในฐานะองค์การแห่งการประกาศ?
19. คำพยากรณ์ในวิวรณ์บท 11 ให้คำรับรองแก่เราอย่างไรว่าผู้ถูกเจิมไม่ได้นิ่งเงียบเป็นเวลานาน?
19 คำพยากรณ์ที่คล้ายกันในวิวรณ์ 11:3, 9, 11 แสดงว่าหลังจาก “พยานทั้งสอง” ถูกฆ่า พวกเขานอนตายอยู่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น—คือสามวันครึ่ง—แล้วพวกเขาก็ฟื้นขึ้นใหม่. คล้ายกัน คำพยากรณ์ในดานิเอลบท 12 แสดงว่าเหล่าผู้บริสุทธิ์จะไม่เงียบอยู่ตลอดไป แต่มีงานมากขึ้นรอพวกเขาอยู่.
พวกเขา ‘ถูกชำระ, ถูกทำให้ขาวสะอาด, และถูกถลุง’
20. ตามดานิเอล 12:10 พระพรอะไรจะมีแก่ผู้ถูกเจิมหลังประสบการณ์อันยากลำบากของพวกเขา?
20 ดังที่ได้แสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ ดานิเอลเขียนสิ่งเหล่านี้ลงแต่ท่านไม่เข้าใจ. ท่านคงต้องสงสัยว่าเหล่าผู้บริสุทธิ์จะถูกทำลายอย่างแท้จริงด้วยมือของผู้ข่มเหงไหม เพราะท่านถามว่า “ปั้นปลายของสิ่งเหล่านี้จะเป็นเช่นไร?” ทูตสวรรค์ตอบว่า “ไปเถอะ ดานิเอล เพราะถ้อยคำเหล่านี้ถูกเก็บเป็นความลับและประทับตราไว้จนถึงเวลาอวสาน. หลายคนจะชำระตัวและทำให้ตนขาวสะอาดและจะถูกถลุง. และคนชั่วย่อมจะทำชั่วแน่ ๆ และไม่มีคนชั่วแม้สักคนจะเข้าใจ; แต่คนที่มีความหยั่งเห็นเข้าใจจะเข้าใจ.” (ดานิเอล 12:8-10, ล.ม.) มีความหวังที่แน่นอนสำหรับเหล่าผู้บริสุทธิ์! แทนที่จะถูกทำลาย พวกเขาจะถูกทำให้ขาวสะอาด คือได้รับพระพรเป็นฐานะที่สะอาดจำเพาะพระพักตร์พระยะโฮวาพระเจ้า. (มาลาคี 3:1-3) ความหยั่งเห็นเข้าใจของพวกเขาในสิ่งฝ่ายวิญญาณจะช่วยเขารักษาตัวให้สะอาดในสายพระเนตรของพระเจ้า. ไม่เหมือนกับคนอธรรมที่ไม่ยอมเข้าใจสิ่งฝ่ายวิญญาณ. แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร?
21. (ก) ช่วงเวลาที่บอกไว้ล่วงหน้าที่ดานิเอล 12:11 จะเริ่มขึ้นเมื่อมีสภาพการณ์อะไรเกิดขึ้น? (ข) อะไรคือ “เครื่องบูชาเนืองนิตย์” และเครื่องบูชานี้ถูกถอดถอนเมื่อไร? (ดูกรอบหน้า 298.)
21 ดานิเอลได้รับแจ้งว่า “ตั้งแต่เวลาที่เครื่องบูชาเนืองนิตย์ถูกถอนและมีการตั้งสิ่งน่าสะอิดสะเอียนซึ่งทำให้ร้างเปล่าไว้ จะมีเวลาหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน.” ดังนั้น ช่วงเวลานี้จะเริ่มขึ้นเมื่อสภาพการณ์บางอย่างเกิดขึ้น. “เครื่องบูชาเนืองนิตย์”—หรือ “การถวายเครื่องบูชาอยู่เรื่อยไป”a—จะต้องถูกถอดถอน. (ดานิเอล 12:11, เชิงอรรถ ล.ม.) เครื่องบูชาอะไรที่ทูตสวรรค์หมายถึง? ไม่ใช่เครื่องบูชาสัตว์ที่ถวายในพระวิหารใด ๆ บนแผ่นดินโลก. แม้แต่พระวิหารที่เคยอยู่ในกรุงยะรูซาเลมก็เป็นแค่ “ตัวจำลองจากแบบแท้” อันได้แก่ พระวิหารอันยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อพระคริสต์ขึ้นเป็นมหาปุโรหิตในปี ส.ศ. 29! ในพระวิหารฝ่ายวิญญาณนี้ ซึ่งหมายถึงการจัดเตรียมของพระเจ้าเพื่อการนมัสการอันบริสุทธิ์ ไม่มีความจำเป็นที่จะถวายเครื่องบูชาไถ่บาปอยู่เรื่อยไป เพราะ ‘พระคริสต์ถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาหนหนึ่ง, เพื่อจะได้ทรงรับเอาความบาปของคนเป็นอันมาก.’ (เฮ็บราย 9:24-28) กระนั้น คริสเตียนแท้ทุกคนถวายเครื่องบูชาที่พระวิหารนี้. อัครสาวกเปาโลเขียนว่า “ให้เราถวายคำสรรเสริญพระเจ้าเป็นเครื่องบูชาเสมอโดย [พระคริสต์], คือผลแห่งริมฝีปากที่กล่าวสรรเสริญพระนามของพระองค์.” (เฮ็บราย 13:15) ดังนั้น สภาพการณ์แรกในคำพยากรณ์นี้—คือการถอดถอน “เครื่องบูชาเนืองนิตย์”—เกิดขึ้นตอนกลางปี 1918 เมื่องานประกาศเกือบหยุดชะงักจริง ๆ.
22. (ก) อะไรคือ “สิ่งน่าสะอิดสะเอียน” ซึ่งทำให้ร้างเปล่า และมันถูกตั้งขึ้นเมื่อไร? (ข) ช่วงเวลาที่บอกไว้ล่วงหน้าที่ดานิเอล 12:11 เริ่มขึ้นเมื่อไร และจบลงเมื่อไร?
22 แต่จะว่าอย่างไรกับสภาพการณ์ที่สอง—“การตั้งสิ่งน่าสะอิดสะเอียนซึ่งทำให้ร้างเปล่า”? ดังที่เราเห็นในการพิจารณาดานิเอล 11:31 สิ่งน่าสะอิดสะเอียนนี้ตอนแรกคือสันนิบาตชาติและตอนหลังปรากฏขึ้นอีกเป็นสหประชาชาติ. ทั้งสององค์การนี้น่าสะอิดสะเอียนเพราะได้รับการยกย่องว่าเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้เกิดสันติภาพบนแผ่นดินโลก. ด้วยเหตุนี้ ในหัวใจของหลายคน องค์การเหล่านี้เข้ามาแทนที่ราชอาณาจักรของพระเจ้าอย่างแท้จริง! สันนิบาตนั้นถูกเสนอให้ตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 1919. สภาพการณ์ทั้งสองในดานิเอล 12:11 จึงเกิดขึ้นจริงในเวลานั้น. ดังนั้น ช่วงเวลา 1,290 วันจึงเริ่มขึ้นในตอนต้น ๆ ของปี 1919 และดำเนินไปจนกระทั่งฤดูใบไม้ร่วงปี 1922 (ซีกโลกเหนือ).
23. เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าก้าวหน้าสู่ฐานะที่ถูกชำระให้สะอาดในระหว่าง 1,290 วันที่ได้บอกไว้ล่วงหน้าที่ดานิเอลบท 12 อย่างไร?
23 ระหว่างนั้น เหล่าผู้บริสุทธิ์ก้าวหน้าไปถึงการถูกทำให้ขาวสะอาดและถูกชำระในสายพระเนตรของพระยะโฮวาไหม? แน่นอน! ในเดือนมีนาคม 1919 นายกสมาคมว็อชเทาเวอร์และผู้ร่วมสมทบที่ใกล้ชิดกับท่านได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก. ต่อมาพวกเขาก็พ้นข้อกล่าวหาเท็จ. โดยที่ตระหนักว่างานของพวกเขายังมีอีกมาก พวกเขารีบทำงานเต็มที่ทันที เตรียมจัดการประชุมสำหรับเดือนกันยายนปี 1919. ในปีเดียวกัน วารสารที่คู่กับหอสังเกตการณ์ ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรก. เดิมเรียกว่า เดอะ โกลเดน เอจ (ปัจจุบันคืออะเวก! ภาษาไทยคือตื่นเถิด!) วารสารนี้ได้สนับสนุนหอสังเกตการณ์ เสมอมาในการเปิดโปงอย่างกล้าหาญถึงความเสื่อมทรามของโลกนี้และในการช่วยเหลือไพร่พลของพระเจ้าให้รักษาตัวสะอาด. พอถึงตอนสิ้นสุดของช่วงเวลา 1,290 วันที่ได้บอกไว้ล่วงหน้า เหล่าผู้บริสุทธิ์กำลังอยู่ในแนวทางที่ถูกชำระและมีฐานะที่ได้รับการฟื้นฟูใหม่. ในเดือนกันยายน 1922 ประมาณช่วงที่เวลาดังกล่าวสิ้นสุดลงพอดี พวกเขาจัดการประชุมภาคครั้งสำคัญที่ซีดาร์พอยต์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา. การประชุมนี้ก่อแรงกระตุ้นอย่างมากที่จะทำงานประกาศ. อย่างไรก็ตาม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำความก้าวหน้ามากขึ้นอีก. นั่นจะอยู่ในช่วงเวลาต่อไปที่กำหนดไว้.
ความสุขสำหรับเหล่าผู้บริสุทธิ์
24, 25. (ก) ช่วงเวลาไหนที่มีบอกล่วงหน้าที่ดานิเอล 12:12 และดูเหมือนว่าช่วงเวลานี้เริ่มขึ้นและสิ้นสุดลงเมื่อไร? (ข) สภาพฝ่ายวิญญาณของชนที่เหลือผู้ถูกเจิมเป็นเช่นไรในตอนเริ่มต้นของช่วงเวลา 1,335 วัน?
24 ทูตสวรรค์ของพระยะโฮวาลงท้ายคำพยากรณ์ของตนเกี่ยวกับเหล่าผู้บริสุทธิ์ด้วยถ้อยคำเหล่านี้: “ความสุขมีแก่ผู้ที่คอยอยู่และคอยถึงหนึ่งพันสามร้อยสามสิบห้าวัน!” (ดานิเอล 12:12, ล.ม.) ทูตสวรรค์ไม่ได้บอกใบ้เลยว่าช่วงเวลานี้เริ่มและจบเมื่อไร. ตามประวัติศาสตร์ในระบอบของพระเจ้าแล้วดูเหมือนว่าช่วงเวลานี้เริ่มขึ้นทันทีต่อจากช่วงเวลาก่อนหน้านั้น. ถ้าเป็นอย่างนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวคงเริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 1922 ไปถึงปลายฤดูใบไม้ผลิปี 1926 (ซีกโลกเหนือ). เหล่าผู้บริสุทธิ์อยู่ในสภาพที่มีความสุขไหมพอถึงตอนสิ้นสุดของช่วงเวลานั้น? ใช่แล้ว ในหลายแนวทางที่สำคัญทางฝ่ายวิญญาณ.
25 แม้แต่หลังการประชุมภาคในปี 1922 (รูปในหน้า 302) เหล่าผู้บริสุทธิ์บางคนยังมองไปในอดีตด้วยความอาวรณ์. สิ่งพื้นฐานที่ใช้ในการศึกษาที่การประชุมของพวกเขายังคงเป็นคัมภีร์ไบเบิลและชุดคู่มือการศึกษาพระคัมภีร์ (ภาษาอังกฤษ) โดย ซี. ที. รัสเซลล์. ในเวลานั้น ทัศนะที่ยึดถือกันอย่างกว้างขวางชี้ไปยังปี 1925 ว่าเป็นปีที่การกลับเป็นขึ้นจากตายจะเริ่มขึ้นและจะมีการฟื้นฟูอุทยานบนแผ่นดินโลก. ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงรับใช้โดยคิดถึงเรื่องกำหนดเวลาที่แน่นอน. บางคนปฏิเสธที่จะเข้าส่วนร่วมในงานประกาศต่อสาธารณะด้วยความหยิ่ง. นี่ไม่ใช่เป็นสภาพที่มีความสุข.
26. ขณะที่ช่วงเวลา 1,335 วันดำเนินไป สภาพฝ่ายวิญญาณของผู้ถูกเจิมเปลี่ยนไปอย่างไร?
26 อย่างไรก็ดี ขณะที่ช่วงเวลา 1,335 วันดำเนินไป ทุกสิ่งเหล่านี้ก็เริ่มจะเปลี่ยนไป. การประกาศเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ขณะที่มีการจัดเตรียมเป็นประจำเพื่อทุกคนจะเข้าส่วนร่วมในการรับใช้ตามบ้าน. มีการกำหนดให้ศึกษาหอสังเกตการณ์ ในการประชุมทุก ๆ สัปดาห์. วารสารฉบับวันที่ 1 มีนาคม 1925 (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งมีบทความที่เป็นประวัติการณ์ที่ชื่อว่า “กำเนิดชนชาติ” ทำให้ไพร่พลของพระเจ้ามีความเข้าใจเต็มที่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาปี 1914 ถึงปี 1919. หลังจากปี 1925 ผ่านไปแล้ว เหล่าผู้บริสุทธิ์ไม่ได้รับใช้พระเจ้าด้วยการคำนึงถึงกำหนดเวลาที่ตายตัวอีกต่อไป. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น การทำให้พระนามของพระยะโฮวาเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง. ความจริงที่สำคัญนี้มีการเน้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในบทความชื่อ “ใครจะถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา?” ในหอสังเกตการณ์ (ภาษาอังกฤษ) ฉบับวันที่ 1 มกราคม 1926. ในการประชุมภาคเดือนพฤษภาคม 1926 มีการออกหนังสือชื่อการช่วยให้รอด (ภาษาอังกฤษ) (ดูหน้า 302). นี่เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในชุดหนังสือใหม่ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้แทนหนังสือคู่มือการศึกษาพระคัมภีร์. เหล่าผู้ซื่อสัตย์ไม่ได้มองไปในอดีตอีกต่อไป. พวกเขากำลังมองไปในอนาคตและการงานที่รออยู่อย่างมั่นใจ. ดังที่พยากรณ์ไว้ ช่วงเวลา 1,335 วันจึงสิ้นสุดลงด้วยการที่เหล่าผู้บริสุทธิ์อยู่ในสภาพที่มีความสุข.
27. การสรุปพระธรรมดานิเอลบท 12 ช่วยเราระบุตัวเหล่าผู้ถูกเจิมของพระยะโฮวาอย่างชัดเจนอย่างไร?
27 แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนอดทนจนผ่านยุคที่วุ่นวายนี้. ไม่ต้องสงสัยว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทูตสวรรค์ได้เน้นถึงความสำคัญของการ “คอยอยู่.” คนที่อดทนและคอยอยู่เสมอได้รับพระพรอย่างมากมาย. การสรุปดานิเอลบท 12 ทำให้เรื่องนี้ชัดเจน. ดังที่บอกไว้ล่วงหน้า ผู้ถูกเจิมได้รับการฟื้นฟู หรือกลับเป็นขึ้นจากตาย ในความหมายฝ่ายวิญญาณ. พวกเขาได้รับความหยั่งเห็นเข้าใจอันโดดเด่นต่อพระคำของพระเจ้า, ได้รับมอบอำนาจให้ “ไป ๆ มา ๆ” ในพระคำนั้น, และได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อจะไขปริศนาที่มีมาช้านาน. พระยะโฮวาทรงชำระพวกเขาและทำให้พวกเขาส่องแสงทางฝ่ายวิญญาณ สว่างราวกับดวงดาว. ผลก็คือ พวกเขานำหลายคนสู่ฐานะอันชอบธรรมเฉพาะพระยะโฮวาพระเจ้า.
28, 29. อะไรควรเป็นความตั้งใจของเราขณะที่ “เวลาอวสาน” ใกล้จะถึงจุดจบ?
28 เมื่อมีข้อบ่งชี้เชิงพยากรณ์เหล่านี้ทั้งหมดที่จะระบุตัว “เหล่าผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าผู้สูงสุด” แล้ว มีข้ออ้างใด ๆ ไหมที่จะไม่ยอมรับพวกเขาและร่วมสมทบกับพวกเขา? พระพรอันยอดเยี่ยมรอชนฝูงใหญ่อยู่ ผู้ซึ่งร่วมกับชนชั้นผู้ถูกเจิมที่กำลังลดน้อยลงในการรับใช้พระยะโฮวา. เราทุกคนต้องคอยอยู่เสมอในความสำเร็จของคำสัญญาของพระเจ้า. (ฮะบาฆูค 2:3) ในสมัยของเรา มิคาเอล เจ้าองค์ยิ่งใหญ่ ได้ทรงยืนอยู่เพื่อเห็นแก่ไพร่พลของพระเจ้าเป็นเวลาหลายทศวรรษ. อีกไม่ช้าไม่นาน พระองค์จะทรงปฏิบัติการในฐานะผู้สำเร็จโทษที่จะรับการแต่งตั้งจากพระเจ้าให้สำเร็จโทษระบบนี้. เมื่อพระองค์ทรงทำเช่นนั้น พวกเราจะอยู่ฝ่ายไหน?
29 คำตอบสำหรับคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกดำเนินชีวิตที่ซื่อสัตย์มั่นคงในตอนนี้หรือไม่. เพื่อเสริมความตั้งใจของเราที่จะทำเช่นนั้นขณะที่จุดจบของ “เวลาอวสาน” ใกล้เข้ามา ให้เราพิจารณาข้อสุดท้ายของพระธรรมดานิเอล. การพิจารณาข้อนี้ในบทถัดไปจะช่วยเราให้เข้าใจว่า ท่านดานิเอลมีฐานะเช่นไรเฉพาะพระเจ้าและท่านจะมีฐานะเช่นไรในอนาคต.
[เชิงอรรถ]
a ในฉบับแปลกรีกเซปตัวจินต์ แปลเป็นเพียง “เครื่องบูชา.”
คุณได้เรียนรู้อะไร?
• ระหว่างช่วงเวลาไหนที่มิคาเอล “ยืนอยู่” และพระองค์จะ “ยืนขึ้น” เมื่อไรและอย่างไร?
• ดานิเอล 12:2 กล่าวถึงการกลับเป็นขึ้นจากตายชนิดไหน?
• ช่วงเวลาเหล่านี้เริ่มต้นและจบลงเมื่อไร?
สามวาระครึ่งที่กล่าวถึงในดานิเอล 12:7
1,290 วันที่บอกล่วงหน้าในดานิเอล 12:11
1,335 วันที่พยากรณ์ในดานิเอล 12:12
• การเอาใจใส่พระธรรมดานิเอลบท 12 ช่วยเราให้ระบุตัวผู้นมัสการแท้ของพระยะโฮวาอย่างไร?
[กรอบหน้า 298]
การถอดถอนเครื่องบูชาเนืองนิตย์
ในพระธรรมดานิเอลมีวลีที่ว่า “เครื่องบูชาเนืองนิตย์” ปรากฏห้าครั้ง. เครื่องบูชานี้หมายถึงเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญ—“ผลแห่งริมฝีปาก”—ซึ่งถวายแด่พระยะโฮวาพระเจ้าเป็นประจำโดยผู้รับใช้ของพระองค์. (เฮ็บราย 13:15) การถอดถอนที่บอกไว้ล่วงหน้ามีกล่าวในดานิเอล 8:11, 11:31, และ 12:11.
ระหว่างสงครามโลกทั้งสองครั้ง ไพร่พลของพระยะโฮวาถูกข่มเหงอย่างหนักในอาณาจักรของ “กษัตริย์ทิศเหนือ” และ “กษัตริย์ทิศใต้.” (ดานิเอล 11:14, 15, ล.ม.) การถอดถอน “เครื่องบูชาเนืองนิตย์” เกิดขึ้นตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่องานประกาศเกือบจะหยุดไปในตอนกลางปี 1918. (ดานิเอล 12:7) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 “เครื่องบูชา เนืองนิตย์ถูกเอาไป” ในแบบคล้าย ๆ กันเป็นเวลา 2,300 วันโดยมหาอำนาจโลกแองโกล-อเมริกัน. (ดานิเอล 8:11-14, ล.ม.; ดูบท 10 ของหนังสือนี้.) เครื่องบูชานี้ถูกถอดถอนโดย “แขน” ของนาซีด้วยในช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุในพระคัมภีร์.—ดานิเอล 11:31; ดูบท 15 ของหนังสือนี้.
[ตารางแผนภูมิภาพหน้า 301]
ช่วงเวลาเชิงพยากรณ์ในพระธรรมดานิเอล
เจ็ดวาระ (2,520 ปี): ตุลาคม 607 ก.ส.ศ. ถึงตุลาคม ส.ศ. 1914
ดานิเอล 4:16, 25 (ราชอาณาจักรมาซีฮาได้รับการสถาปนา.
ดูบท 6 ของหนังสือนี้.)
สามวาระครึ่ง (1,260 วัน): ธันวาคม 1914 ถึงมิถุนายน 1918
ดานิเอล 7:25; 12:7 (คริสเตียนผู้ถูกเจิมถูกข่มเหง.
ดูบท 9 ของหนังสือนี้.)
2,300 เวลาเย็นและเวลาเช้า: 1 หรือ 15 มิถุนายน 1938 ถึง
ดานิเอล 8:14 8 หรือ 22 ตุลาคม 1944 (“ชนฝูงใหญ่”
ปรากฏตัวและทวีขึ้น. ดูบท 10 ของหนังสือนี้.)
70 สัปดาห์ (490 ปี): 455 ก.ส.ศ. ถึง ส.ศ. 36
ดานิเอล 9:24-27 (การเสด็จมาของพระมาซีฮาและการรับใช้ของ
พระองค์บนแผ่นดินโลก. ดูบท 11 ของหนังสือนี้.)
1,290 วัน: มกราคม 1919 ถึง กันยายน 1922
ดานิเอล 12:11 (คริสเตียนผู้ถูกเจิมตื่นขึ้นและก้าวหน้าทางฝ่ายวิญญาณ.)
1,335 วัน: กันยายน 1922 ถึงพฤษภาคม 1926
ดานิเอล 12:12 (คริสเตียนผู้ถูกเจิมได้มาซึ่งสภาพที่มีความสุข.)
[รูปภาพหน้า 287]
ผู้รับใช้คนสำคัญของพระยะโฮวาถูกส่งตัวไปที่ทัณฑสถานกลางในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา อย่างไม่ยุติธรรม. จากซ้ายไปขวา: (นั่ง) เอ. เอช. แมกมิลลัน, เจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด, ดับเบิลยู. อี. ฟอน แอมเบอร์; (ยืน), จี. เอช. ฟิเชอร์, อาร์. เจ. มาร์ติน, จี. เดอเซกกา, เอฟ. เอช. โรบินสัน, และ ซี. เจ. วูดเวิร์ท
[รูปภาพหน้า 299]
การประชุมภาคครั้งสำคัญจัดขึ้นที่ ซีดาร์พอยต์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ปี 1919 (บน) และปี 1922 (ล่าง)
[ภาพเต็มหน้า 302]