พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำในศตวรรษแรกและในปัจจุบัน
“พระวิญญาณเดียวกันนั้นแหละที่ดำเนินงานทั้งหมดนี้.”—1 โค. 12:11
1. เราจะพิจารณาอะไรในการศึกษานี้?
เพนเทคอสต์. คำนี้เพียงคำเดียวทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง! (กิจ. 2:1-4) การเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ ณ โอกาสนั้นในศตวรรษแรกเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวิธีที่พระเจ้าทรงชี้นำผู้รับใช้ของพระองค์. ในบทความก่อน เราได้พิจารณาบางวิธีที่พระวิญญาณของพระเจ้าทำให้ผู้ซื่อสัตย์ในสมัยโบราณสามารถทำงานที่ยากลำบากและละเอียดได้สำเร็จ. แต่วิธีที่พระวิญญาณของพระจ้าชี้นำในยุคก่อนคริสเตียนแตกต่างอย่างไรกับวิธีที่พระวิญญาณของพระองค์ชี้นำในศตวรรษแรก? และคริสเตียนได้รับประโยชน์อย่างไรจากการชี้นำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าในสมัยปัจจุบัน? ขอให้เรามาพิจารณากัน.
“ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระยะโฮวา!”
2. มาเรียได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งอะไรซึ่งเกิดจากพระวิญญาณบริสุทธิ์?
2 มาเรียอยู่ในห้องชั้นบนในกรุงเยรูซาเลมเมื่อพระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่ทรงสัญญาไว้. (กิจ. 1:13, 14) แต่สามสิบกว่าปีก่อนเหตุการณ์นี้ นางได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งซึ่งเกิดจากพระวิญญาณของพระยะโฮวา. พระยะโฮวาทรงย้ายชีวิตพระบุตรจากสวรรค์มายังแผ่นดินโลก ทำให้เกิดการปฏิสนธิในครรภ์ของมาเรียตอนที่ยังเป็นหญิงพรหมจารี. นางตั้งครรภ์ “โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์.”—มัด. 1:20
3, 4. มาเรียมีทัศนะเช่นไร และเราอาจทำตามแบบอย่างของนางได้อย่างไร?
3 เหตุใดพระเจ้าจึงโปรดให้มาเรียได้รับสิทธิพิเศษที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้? หลังจากทูตสวรรค์อธิบายพระประสงค์ของพระยะโฮวาที่เกี่ยวข้องกับนาง มาเรียก็กล่าวออกมาว่า “ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระยะโฮวา! ขอให้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าตามที่ท่านพูดเถิด.” (ลูกา 1:38) โดยกล่าวอย่างนั้น มาเรียเผยให้เห็นทัศนคติที่พระเจ้าทรงสังเกตเห็นอยู่แล้ว. การที่นางตอบรับทันทีแสดงว่านางพร้อมที่จะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในเรื่องนี้. นางไม่ได้ถามว่าผู้คนในชุมชนจะมองนางอย่างไรเมื่อเห็นนางตั้งครรภ์ หรือเรื่องนี้อาจส่งผลอย่างไรต่อความสัมพันธ์ของนางกับคู่หมั้น. โดยเรียกตัวนางเองว่าเป็นคนรับใช้ที่มีฐานะต่ำสุด มาเรียแสดงให้เห็นว่านางไว้วางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่.
4 บางครั้งคุณรู้สึกหนักใจกับปัญหาหรือหน้าที่รับผิดชอบในการรับใช้พระเจ้าไหม? เราแต่ละคนควรถามตัวเองว่า ‘ฉันไว้วางใจพระยะโฮวาอย่างเต็มที่ว่าพระองค์จะทรงดูแลสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามพระทัยประสงค์ของพระองค์ไหม? ฉันกำลังแสดงให้เห็นจริง ๆ ไหมว่าเต็มใจจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์?’ ขอให้มั่นใจได้เลยว่าพระเจ้าจะประทานพระวิญญาณแก่คนที่ไว้วางใจพระองค์อย่างสุดหัวใจและยอมรับอำนาจของพระองค์ในฐานะผู้ปกครององค์สูงสุด.—กิจ. 5:32
พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเปโตร
5. ก่อนวันเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ช่วยเปโตรอย่างไร?
5 เช่นเดียวกับมาเรีย อัครสาวกเปโตรเห็นการดำเนินกิจที่ทรงพลังของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยตัวท่านเองก่อนวันเพนเทคอสต์ สากลศักราช 33. พระเยซูประทานอำนาจแก่ท่านและอัครสาวกคนอื่น ๆ ให้ขับปิศาจ. (มโก. 3:14-16) และแม้ว่าพระคัมภีร์ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก แต่ดูเหมือนว่าเปโตรใช้อำนาจดังกล่าว. เราเห็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าอย่างชัดเจนด้วยในเหตุการณ์ที่ทะเลแกลิลีเมื่อพระเยซูทรงบอกเปโตรให้เดินบนน้ำมาหาพระองค์ และเปโตรทำตาม. (อ่านมัดธาย 14:25-29) เห็นได้ชัดว่า เปโตรพึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อช่วยท่านทำสิ่งที่ทรงพลัง. อีกไม่ช้า พระวิญญาณนั้นจะประทานอำนาจแก่เปโตรและสาวกคนอื่น ๆ ให้ทำสิ่งอื่นอีกหลายอย่าง.
6. โดยอาศัยพระวิญญาณของพระเจ้า เปโตรสามารถทำอะไรในวันเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 และหลังจากนั้น?
6 ในเทศกาลเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 เปโตรกับคนอื่น ๆ ได้รับอำนาจให้พูดภาษาของคนที่มาเยือนกรุงเยรูซาเลมได้อย่างอัศจรรย์. หลังจากนั้น เปโตรก็นำคนอื่น ๆ พูดกับผู้คนที่มาชุมนุมกัน. (กิจ. 2:14-36) ชายผู้นี้ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นคนหุนหันพลันแล่นหรือขลาดกลัวในบางโอกาสมีความกล้าหาญเต็มเปี่ยมที่จะประกาศแม้ว่าถูกขู่และถูกข่มเหง. (กิจ. 4:18-20, 31) พระเจ้าทรงเปิดเผยให้ท่านรู้ข้อเท็จจริงบางอย่างเป็นพิเศษ. (กิจ. 5:8, 9) และท่านได้รับอำนาจที่จะปลุกคนให้เป็นขึ้นจากตายได้ด้วยซ้ำ.—กิจ. 9:40
7. คำสอนอะไรของพระเยซูที่เปโตรได้มาเข้าใจหลังจากที่ท่านได้รับการเจิมแล้ว?
7 ก่อนวันเพนเทคอสต์ เปโตรเข้าใจความหมายของความจริงหลายเรื่องที่พระเยซูทรงสอน. (มัด. 16:16, 17; โย. 6:68) แต่ก็มีหลายเรื่องในคำสอนของพระเยซูที่ท่านยังไม่เข้าใจ. ตัวอย่างเช่น เปโตรยังไม่เข้าใจว่าพระคริสต์จะถูกปลุกให้คืนพระชนม์เป็นกายวิญญาณในวันที่สามและไม่เข้าใจว่าราชอาณาจักรจะอยู่ในสวรรค์. (โย. 20:6-10; กิจ. 1:6) แนวคิดที่ว่ามนุษย์จะเปลี่ยนเป็นกายวิญญาณและปกครองในราชอาณาจักรสวรรค์เป็นเรื่องแปลกใหม่อย่างแท้จริงสำหรับเปโตร. ต้องรอจนถึงตอนที่ท่านรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และได้รับความหวังที่จะมีชีวิตในสวรรค์ ท่านจึงได้เข้าใจความหมายของสิ่งที่พระเยซูทรงสอนในเรื่องเหล่านั้น.
8. ทั้งผู้ถูกเจิมและ “แกะอื่น” มีความรู้ในเรื่องใด?
8 หลังการเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ เหล่าสาวกของพระเยซูเริ่มเข้าใจคำสอนหลายเรื่องที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่เข้าใจ. โดยได้รับการดลใจ ผู้เขียนพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีกอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ที่น่าพิศวงเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระยะโฮวาซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเรา. (เอเฟ. 3:8-11, 18) ปัจจุบัน ทั้งผู้ถูกเจิมและ “แกะอื่น” ได้รับอาหารฝ่ายวิญญาณร่วมกันและเข้าใจความจริงอย่างเดียวกันนี้. (โย. 10:16) คุณเห็นคุณค่าความรู้และความเข้าใจในพระคำของพระเจ้าที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้คุณเข้าใจไหม?
เปาโล “เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
9. เปาโลสามารถทำอะไรให้สำเร็จโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์?
9 หนึ่งปีหรือปีกว่า ๆ หลังจากวันเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 มีอีกคนหนึ่งที่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นของประทานจากพระเจ้า. คนผู้นั้นก็คือเซาโล ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นเปาโล. พระวิญญาณดำเนินกิจในชีวิตท่านหลายวิธีซึ่งทำให้เราในทุกวันนี้ได้รับประโยชน์. อัครสาวกเปาโลได้รับการดลใจให้เขียนหนังสือ 14 เล่มของคัมภีร์ไบเบิล. และเช่นเดียวกับเปโตร พระวิญญาณของพระเจ้าทำให้เปาโลสามารถเข้าใจและเขียนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความหวังเรื่องความเป็นอมตะและความไม่รู้เน่าเปื่อยในสวรรค์. โดยอาศัยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เปาโลรักษาคนป่วยให้หาย ขับปิศาจ และแม้แต่ปลุกคนให้เป็นขึ้นจากตาย! แต่เปาโลได้รับฤทธิ์อำนาจโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ทำงานมอบหมายที่สำคัญยิ่งกว่านั้น. ผู้รับใช้ของพระเจ้าในปัจจุบันได้รับอำนาจให้ทำงานอย่างเดียวกันนั้น แม้ว่าไม่ใช่ด้วยวิธีอัศจรรย์.
10. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เปาโลมีความสามารถในการพูดอย่างไร?
10 เปาโล ซึ่ง “เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” กล่าวตำหนิพ่อมดอย่างกล้าหาญ. การกระทำดังกล่าวก่อผลกระทบอย่างมากต่อข้าหลวงใหญ่ ซึ่งได้ฟังการสนทนาทั้งหมด! ผู้บริหารระดับสูงของไซปรัสผู้นี้ตอบรับความจริง “เพราะเขาอัศจรรย์ใจในคำสอนของพระยะโฮวา.” (กิจ. 13:8-12) เห็นได้ชัด เปาโลรู้ดีว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้ท่านพูดถึงความจริงอย่างกล้าหาญได้. (มัด. 10:20) ในเวลาต่อมา ท่านขอพี่น้องในประชาคมเอเฟโซส์ให้วิงวอนขอต่อพระเจ้าเพื่อช่วยให้ท่าน “พูดได้.”—เอเฟ. 6:18-20
11. พระวิญญาณของพระเจ้าชี้นำเปาโลอย่างไร?
11 พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่เพียงช่วยเปาโลให้พูดได้ เท่านั้น แต่บางครั้งพระวิญญาณก็ห้าม ท่านไม่ให้พูดในบางท้องถิ่น. เมื่อเปาโลเริ่มออกเดินทางในงานมิชชันนารี ท่านได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณของพระเจ้า. (กิจ. 13:2; อ่านกิจการ 16:6-10) พระยะโฮวายังคงใช้พระวิญญาณชี้นำงานประกาศ. เช่นเดียวกับเปาโล ผู้รับใช้ทุกคนที่เชื่อฟังพระยะโฮวาพยายามประกาศความจริงด้วยความกล้าหาญและกระตือรือร้น. แม้ว่าการชี้นำของพระเจ้าในสมัยปัจจุบันอาจไม่เด่นชัดเท่ากับในสมัยของเปาโล แต่เราแน่ใจได้ว่าพระยะโฮวากำลังใช้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์อย่างแน่นอนเพื่อคนที่คู่ควรจะมีโอกาสได้ฟังความจริง.—โย. 6:44
“การดำเนินงานมีหลายอย่าง”
12-14. พระวิญญาณของพระเจ้าดำเนินกิจในชีวิตของผู้รับใช้พระองค์ทุกคนด้วยวิธีเดียวกันไหม? จงอธิบาย.
12 บันทึกที่พรรณนาพระพรของพระยะโฮวาที่เทลงเหนือประชาคมผู้ถูกเจิมในศตวรรษแรกให้กำลังใจอย่างมากแก่ผู้รับใช้ที่อุทิศตัวแด่พระเจ้าในสมัยปัจจุบันไหม? เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน! ขอให้นึกถึงถ้อยคำของเปาโลที่เขียนถึงประชาคมในเมืองโครินท์ซึ่งบอกเกี่ยวกับพระวิญญาณอันเป็นของประทานอัศจรรย์ในสมัยท่านว่า “ของประทานมีหลายอย่าง แต่มีพระวิญญาณเดียวกัน การรับใช้มีหลายอย่าง แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน การดำเนินงานมีหลายอย่าง แต่พระเจ้าองค์เดียวกันทรงดำเนินงานทุกอย่างในทุกคน.” (1 โค. 12:4-6, 11) ใช่แล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ดำเนินกิจได้หลายวิธีกับผู้รับใช้ของพระเจ้าหลายคนเพื่อให้เป็นไปตามพระประสงค์อย่างเดียวกัน. เป็นความจริงที่ว่าพระเจ้าประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ทั้ง “แกะฝูงน้อย” และ “แกะอื่น” ของพระคริสต์. (ลูกา 12:32; โย. 10:16) ถึงกระนั้น พระวิญญาณไม่ได้ดำเนินกิจในชีวิตสมาชิกแต่ละคนของประชาคมด้วยวิธีเดียวกันเสมอไป.
13 ตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองได้รับการแต่งตั้งโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์. (กิจ. 20:28) แต่ไม่ใช่ผู้ถูกเจิมด้วยพระวิญญาณทุกคนรับใช้เป็นผู้ดูแลในประชาคม. เราได้ข้อสรุปอะไรจากเรื่องนี้? สรุปได้ว่าพระวิญญาณของพระเจ้าดำเนินกิจในชีวิตของสมาชิกแต่ละคนในประชาคมในวิธีที่แตกต่างกัน.
14 พระวิญญาณที่ทำให้ผู้ถูกเจิมแน่ใจว่าพวกเขาเป็น “ผู้ที่ถูกรับเป็นบุตร” ของพระเจ้าเป็นพระวิญญาณเดียวกันกับที่พระยะโฮวาทรงใช้ในการปลุกพระเยซูให้เป็นขึ้นจากตายสู่อมตชีพในสวรรค์. (อ่านโรม 8:11, 15) และเป็นพระวิญญาณเดียวกันนี้เองที่พระยะโฮวาทรงใช้ในการสร้างเอกภพทั้งสิ้น. (เย. 1:1-3) ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เดียวกันนั้น พระยะโฮวาทรงช่วยบะซาเลลให้มีความสามารถในการทำงานพิเศษที่เกี่ยวข้องกับพลับพลา ช่วยให้ซิมโซนทำสิ่งที่ต้องใช้กำลังมากอย่างน่าทึ่ง และช่วยให้เปโตรเดินบนน้ำได้. ด้วยเหตุนั้น ขอเราอย่าสับสนว่าการได้รับพระวิญญาณของพระเจ้าเป็นอย่างเดียวกันกับการได้รับการเจิมจากพระวิญญาณของพระเจ้า. การได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณเป็นการดำเนินกิจพิเศษเพียงอย่างหนึ่งของพระวิญญาณ. พระเจ้าเป็นผู้เลือกว่าจะเจิมใครด้วยพระวิญญาณของพระองค์.
15. จะมีการรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตลอดไปโดยไม่มีที่สิ้นสุดไหม? จงอธิบาย.
15 พลังปฏิบัติการของพระเจ้าดำเนินกิจในชีวิตผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ในหลายวิธี. เป็นเช่นนี้มาหลายพันปีแล้วก่อนที่การเจิมด้วยพระวิญญาณจะเริ่มต้นขึ้น. ในวันเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 การดำเนินกิจแบบใหม่นี้เริ่มต้นขึ้น แต่จะไม่ดำเนินเรื่อยไปตลอดกาล. การรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณจะยุติลง แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะยังคงดำเนินกิจในชีวิตประชาชนของพระเจ้าต่อไปเพื่อพวกเขาจะทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์ไปจนชั่วนิจนิรันดร์.
16. ในเวลานี้ผู้รับใช้ของพระเจ้ากำลังทำอะไรด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณ?
16 ในเวลานี้ผู้รับใช้ของพระยะโฮวากำลังทำอะไรโดยอาศัยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์? วิวรณ์ 22:17 ให้คำตอบแก่เราว่า “พระวิญญาณกับเจ้าสาวกล่าวไม่หยุดว่า ‘มาเถิด!’ และให้คนที่ได้ยินกล่าวด้วยว่า ‘มาเถิด!’ ให้คนที่กระหายมาเถิด ให้คนที่อยากดื่มน้ำแห่งชีวิตมาดื่มโดยไม่เสียค่า.” เพราะถูกกระตุ้นโดยพระวิญญาณของพระเจ้า คริสเตียนในทุกวันนี้ส่งคำเชิญของพระยะโฮวาที่ให้ชีวิตไปยัง “คนที่อยาก” ดื่มน้ำแห่งชีวิต. คริสเตียนผู้ถูกเจิมกำลังนำหน้าในงานนี้ และแกะอื่นเข้ามาสมทบกับพวกเขาในการส่งคำเชิญนี้ออกไป. ทั้งสองกลุ่มนี้ได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกันเพื่อจะทำงานนี้ให้สำเร็จ. ทั้งสองกลุ่มได้แสดงสัญลักษณ์การอุทิศตัวแด่พระยะโฮวาด้วยการรับบัพติสมา “ในนามของพระบิดาและพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์.” (มัด. 28:19) และพวกเขาทุกคนยอมให้พระวิญญาณของพระเจ้าดำเนินกิจในชีวิตของพวกเขา เพื่อช่วยให้พวกเขาเกิดผลของพระวิญญาณ. (กลา. 5:22, 23) เช่นเดียวกับชนผู้ถูกเจิม แกะอื่นยอมให้พระวิญญาณของพระเจ้าช่วยพวกเขา. ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณ พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะดำเนินชีวิตตามข้อเรียกร้องของพระยะโฮวาในเรื่องความบริสุทธิ์.—2 โค. 7:1; วิ. 7:9, 14
จงขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ต่อ ๆ ไป
17. เราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าเราได้รับพระวิญญาณของพระเจ้า?
17 ดังนั้น ไม่ว่าความหวังที่พระเจ้าประทานแก่คุณจะเป็นชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลก พระยะโฮวาสามารถประทาน “กำลังที่มากกว่าปกติ” เพื่อให้คุณรักษาความซื่อสัตย์จงรักภักดีและได้รับรางวัล. (2 โค. 4:7) การที่คุณประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรต่อ ๆ ไปอาจทำให้ผู้คนเยาะเย้ยคุณ. แต่ขอจำไว้ว่า “ถ้า [คุณ] ถูกติเตียนเพราะพระนามพระคริสต์ [คุณ] ก็มีความสุข เพราะพระวิญญาณที่ทำให้มีเกียรติซึ่งก็คือพระวิญญาณของพระเจ้านั้นอยู่กับ [คุณ] .”—1 เป. 4:14
18, 19. พระยะโฮวาจะช่วยคุณโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์อย่างไร และคุณตั้งใจแน่วแน่เช่นไรในเรื่องนี้?
18 พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นของประทานที่พระเจ้ามอบแก่คนที่แสวงหาอย่างจริงใจ. พระวิญญาณนี้นอกจากจะช่วยคุณให้มีความสามารถมากขึ้นแล้วยังช่วยให้คุณมีความปรารถนาที่จะรับใช้พระองค์ให้ดีที่สุด. “พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ดำเนินงานอยู่ในตัวท่านทั้งหลายเพื่อให้พวกท่านมีใจประสงค์และลงมือทำตามที่พระองค์ชอบพระทัย.” พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเป็นของประทานที่ล้ำค่าควบคู่กับความพยายามอย่างจริงจังในการ “ยึดมั่นกับพระคำที่ให้ชีวิต” จะช่วยเราให้ “บากบั่นทำงานต่อ ๆ ไปด้วยความเกรงกลัวตัวสั่นเพื่อ [เรา] จะรอด.”—ฟิลิป. 2:12, 13, 16
19 ดังนั้น ด้วยความเชื่อมั่นในพระวิญญาณของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม จงเอาใจใส่งานมอบหมายทุกอย่าง พัฒนาทักษะในงานที่คุณได้รับ และขอความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา. (ยโก. 1:5) พระองค์จะประทานสิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีเพื่อจะช่วยให้คุณเข้าใจพระคำของพระองค์ รับมือปัญหาชีวิต และประกาศข่าวดี. “จงขอต่อ ๆ ไปแล้วจะได้รับ จงหาต่อ ๆ ไปแล้วจะพบ จงเคาะต่อ ๆ ไปแล้วจะเปิดให้” และนี่รวมถึงการขอเพื่อจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย. (ลูกา 11:9, 13) จงวิงวอนพระยะโฮวาต่อ ๆ ไปเพื่อคุณจะได้รับการชี้นำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า เช่นเดียวกับผู้ซื่อสัตย์ทั้งในสมัยโบราณและสมัยปัจจุบัน.
คุณอธิบายได้ไหม?
• เราอาจเลียนแบบมาเรียได้อย่างไรซึ่งจะทำให้เราได้รับพระพร?
• เปาโลได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณของพระเจ้าอย่างไร?
• ผู้รับใช้ของพระเจ้าในปัจจุบันได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณของพระเจ้าอย่างไร?
[ภาพหน้า 24]
พระวิญญาณของพระเจ้าช่วยเปาโลให้เอาชนะอิทธิพลของกายวิญญาณชั่วได้
[ภาพหน้า 26]
ในทุกวันนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมที่จะช่วยคริสเตียน ไม่ว่าเขาจะมีความหวังเช่นไร