คุณจำได้ไหม?
คุณได้อ่านวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับต่าง ๆ ที่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ไหม? เอาละ ดูซิว่า คุณจะตอบคำถามต่อไปนี้ได้หรือไม่:
▫ เนื่องจากทูตสวรรค์ที่ไม่เชื่อฟัง ถูกผลักไปสู่ทาร์ทารัส นี้จะหมายถึงอะไรสำหรับพวกมัน? (2 เปโตร 2:4)
พวกมันไม่มีที่อยู่ในองค์การอันบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาอีกต่อไป และถูกตัดออกจากความสว่างแห่งพระเจ้า. อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำของซาตาน พวกมันยังคงติดต่อใกล้ชิดกับมนุษย์ พยายามจะควบคุมมนุษย์ไว้ทั้งชายและหญิงและกระทั่งเด็ก ๆ. (วิวรณ์ 12:12, 17)—15/4 หน้า 14.
▫ ทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พึง “เกลียดการชั่ว” ในสายพระเนตรของพระยะโฮวา? (บทเพลงสรรเสริญ 97:10)
คนเหล่านั้นที่เกลียดสิ่งที่ชั่วจะไม่หาหนทางเพื่อจะปล่อยตัวไปกับมัน. แต่ตรงกันข้าม คนที่ไม่เกลียดการชั่วอาจละเว้นการทำสิ่งนั้น ขณะเดียวกันใจก็คิดอยากจะทำสิ่งชั่วนั้น.—15/4 หน้า 21.
▫ อุทาหรณ์ของพระเยซูเกี่ยวกับเงินตะลันต์นั้น ให้บทเรียนที่สำคัญอะไรแก่ผู้ที่อ้างว่าเป็นสาวกของพระคริสต์ทุกคน? (มัดธาย 25:14-30)
พวกเขาต้องทำงานเพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สมบัติของนายทางภาคสวรรค์ โดยการมีส่วนอย่างเต็มที่ในงานประกาศ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับคำชมเชยและบำเหน็จจากพระองค์. โดยวิธีนี้ พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงจากการถูกทิ้งยังที่มืดภายนอกและประสบความพินาศในที่สุด.—1/5 หน้า 9.
▫ พระเยซูทรงหมายความอย่างไร เมื่อพระองค์สอนบรรดาสาวกให้อธิษฐานว่า “ขออย่านำข้าพเจ้าเข้าสู่การทดลอง”? (มัดธาย 6:13)
ถ้อยคำเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าพระยะโฮวาล่อใจเราให้ทำบาป. ที่จริง เราทูลขอพระยะโฮวาช่วยเราไม่ให้พ่ายแพ้เมื่อถูกล่อใจหรือถูกกดดันให้ขัดขืนพระองค์. เราสามารถอ้อนวอนพระบิดาของเราได้โปรดชี้ทางเดินแก่เรา เพื่อว่าไม่มีการล่อใจใด ๆ ที่มาถึงเราจะหนักหนาจนเราทนไม่ไหว. (1 โกรินโธ 10:13)—15/5 หน้า 19.
▫ เหมาะไหมที่คริสเตียนจะยอมรับการฉีดส่วนของเลือด เช่น อิมมูน กลอบูลิน หรืออัลบูมิน?
ในการตอบรับกฎหมายของพระเจ้า คริสเตียนไม่ยอมรับการถ่ายเลือดไม่ว่าจะเป็นเลือดล้วน ๆ ส่วนประกอบของเลือด—พลาสมา เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวหรือเกล็ดเลือด. อย่างไรก็ตาม พยานพระยะโฮวาบางคนอาจคิดว่าตามสติรู้สึกผิดชอบแล้วเขาสามารถรับการฉีดส่วนประกอบโปรตีนเพียงเล็กน้อยที่มาจากพลาสมาได้. น่าสนใจ โดยธรรมชาติ ส่วนของโปรตีนนี้ผ่านจากกระแสโลหิตของหญิงที่มีครรภ์ไปยังระบบเลือดที่แยกต่างหากของทารกของเธอได้.—1/6 หน้า 31, 32.
▫ พระเยซูทรงล้างเท้าพวกอัครสาวกคราวปัศคาครั้งสุดท้ายนั้นด้วยจุดประสงค์อะไร?
พระเยซูกำลังสอนบทเรียนเรื่องความถ่อมใจแก่บรรดาสาวกของพระองค์. ไม่ควรที่ใครจะเลือกเป็นหมายเลขที่หนึ่ง คิดว่าตัวเองสำคัญ. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ทุกคนควรติดตามตัวอย่างของพระเยซู และควรเต็มใจรับใช้คนอื่นโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังไม่ว่างานนั้นจะต่ำต้อยหรือไม่น่าพอใจเพียงไรก็ตาม. (โยฮัน 13:12-17)—15/6 หน้า 9.
▫ ชาวยิวในเมืองเบรอยะได้ค้นดูพระคัมภีร์ ‘อย่างรอบคอบ’ นั้นในแง่ไหน? (กิจการ 17:11)
ชาวเบรอยะไม่ได้ระแวงสงสัยเปาโลและข่าวสารที่ท่านนำมา แต่เขาได้ค้นคว้าด้วยความหวังจะได้พิสูจน์ว่าพระเยซูเป็นมาซีฮา. การที่มีหลายคนในพวกเขาได้เข้ามาเป็นผู้เชื่อถือแสดงว่า พวกเขามีเจตนาที่ถูกต้อง. (กิจการ 17:12)—15/6 หน้า 18.
▫ “หนังสือสงครามของพระยะโฮวา” คืออะไร? (อาฤธโม 21:14)
นี้คือประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้แห่งสงครามของพระเจ้าเพื่อเห็นแก่ไพร่พลของพระองค์. บางทีเริ่มด้วยชัยชนะของอับราฮามเหนือกองทัพผู้บุกรุกแผ่นดินแห่งคำสัญญา ดังบันทึกในเยเนซิศบท 14. บทส่งท้ายแห่งหนังสือจะเป็น “วันสงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธิ์” ณ ฮาร์-มาเก็ดดอน. (วิวรณ์ 16:14, 16)—1/7 หน้า 20, 23.
▫ คัมภีร์ไบเบิลพระวจนะของพระเจ้าช่วยเราทนรับความเจ็บปวดได้อย่างไร?
พระคัมภีร์บอกเราถึงเหตุผลที่พระยะโฮวายอมให้ความเจ็บปวดมีอยู่ และให้คำรับรองแก่เราด้วยว่าความเจ็บปวดจะหมดไปในไม่ช้า. (โรม 5:12; วิวรณ์ 21:1-5)—15/7 หน้า 4, 5.
▫ ไพร่พลของพระเจ้าในทุกวันนี้สามารถ “สะท้อนสง่าราศีของพระยะโฮวาเหมือนกระจก” ได้โดยวิธีใด? (2 โกรินโธ 3:18, ล.ม.)
สง่าราศีของพระเจ้าฉายแสงโดยทาง “กิตติคุณอันประกอบด้วยสง่าราศีคือกิตติคุณของพระคริสต์ผู้เป็นแบบพระฉายของพระเจ้า.” พยานพระยะโฮวาสะท้อนสง่าราศีนี้โดยการพูดถึงความรุ่งโรจน์ของพระยะโฮวาและความรุ่งโรจน์แห่งราชอาณาจักรของพระองค์โดยพระบุตร. (2 โกรินโธ 4:4-6)—15/7 หน้า 15, 16.
▫ คนเราควรรับบัพติสมาเมื่อไร?
การรับบัพติสมาเป็นขั้นตอนหนึ่งซึ่งจะกระทำเมื่อคนเราได้อุทิศตัวอย่างเต็มที่แด่พระยะโฮวาโดยทางพระเยซูคริสต์ที่จะทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม.—1/8 หน้า 14.