“ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง”
“ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง, และผู้ชอบธรรมก็จะเดินไปในทางนั้น.”—โฮเซอา 14:9.
1, 2. พระยะโฮวาให้ชนชาติอิสราเอลมีการเริ่มต้นแบบใด แต่เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
พระยะโฮวาทรงให้ชนชาติอิสราเอลมีการเริ่มต้นที่ชอบธรรมในสมัยผู้พยากรณ์โมเซ. อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนต้นศตวรรษที่แปดก่อนสากลศักราช สภาพของพวกเขากลับน่าตำหนิถึงขนาดที่พระเจ้าตัดสินว่าพวกเขามีความผิดร้ายแรง. เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากพระธรรมโฮเซอาบท 10 ถึง 14.
2 หัวใจของอิสราเอลกลับกลายเป็นหน้าซื่อใจคด. ผู้คนในอาณาจักรสิบตระกูลนั้นได้ ‘ไถหว่านความชั่ว’ และเก็บเกี่ยวผลของความอธรรม. (โฮเซอา 10:1, 13) พระยะโฮวาตรัสว่า “ครั้นเมื่อยิศราเอลยังเป็นเด็กอยู่ เราได้รักเขา, และได้เรียกเขาให้ออกมาจากประเทศอายฆุบโต.” (โฮเซอา 11:1) แม้ว่าพระเจ้าได้ช่วยชาวอิสราเอลให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสของอียิปต์ พวกเขาได้ตอบแทนพระองค์ด้วยการโกหกและการหลอกลวง. (โฮเซอา 11:12) พระยะโฮวาจึงประทานคำแนะนำนี้แก่พวกเขา: “เจ้าควรกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า คงความกรุณารักใคร่และความยุติธรรมไว้.”—โฮเซอา 12:6, ล.ม.
3. จะเกิดอะไรขึ้นกับกรุงซะมาเรียที่ขืนอำนาจ แต่ชาวอิสราเอลจะได้รับความเมตตาโดยวิธีใด?
3 กรุงซะมาเรียที่ขืนอำนาจพร้อมกับกษัตริย์ของกรุงนี้จะถึงจุดจบด้วยความหายนะ. (โฮเซอา 13:11, 16) แต่บทสุดท้ายของคำพยากรณ์ของโฮเซอาเริ่มด้วยคำวิงวอนดังนี้: “โอ! ยิศราเอล, จงกลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน.” หากชนอิสราเอลกลับใจและแสวงหาการอภัยบาป พระเจ้าจะทรงโปรดเมตตา. แน่นอน พวกเขาต้องยอมรับว่า “ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง” และดำเนินในทางนั้น.—โฮเซอา 14:1-6, 9.
4. เราจะพิจารณาหลักการใดบ้างจากคำพยากรณ์ของโฮเซอา?
4 คำพยากรณ์ของโฮเซอาส่วนนี้บรรจุหลักการหลายอย่างที่จะช่วยเราให้ดำเนินกับพระเจ้า. เราจะพิจารณาหลักการเหล่านี้: (1) พระยะโฮวาเรียกร้องการนมัสการที่ปราศจากความหน้าซื่อใจคด, (2) พระเจ้าแสดงความรักภักดีต่อประชาชนของพระองค์, (3) เราต้องหวังในพระยะโฮวาอยู่เสมอ, (4) ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้องเสมอ, และ (5) คนที่ทำบาปสามารถกลับมาหาพระยะโฮวาได้.
พระยะโฮวาเรียกร้องการนมัสการที่ปราศจากความหน้าซื่อใจคด
5. พระเจ้าคาดหมายการรับใช้แบบใดจากเรา?
5 พระยะโฮวาทรงคาดหมายให้เราถวายการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์แด่พระองค์ในแบบที่สะอาดและปราศจากความหน้าซื่อใจคด. อย่างไรก็ตาม อิสราเอลกลายเป็น “เถาองุ่นที่เสื่อมสภาพ” ไม่เกิดผลชนิดที่เหมาะสม. พลเมืองของอาณาจักรอิสราเอลมี ‘แท่นบูชามาก’ เพื่อใช้ในการนมัสการเท็จ. บรรดาผู้ออกหากเหล่านี้ถึงกับตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจได้แก่เสาหินสูงยอดแหลมที่ใช้ในการนมัสการที่ผิดศีลธรรม. พระยะโฮวาจะพังแท่นบูชาและทำลายเสาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น.—โฮเซอา 10:1, 2, ล.ม.
6. เพื่อจะดำเนินกับพระเจ้า เราต้องไม่มีลักษณะนิสัยเช่นไร?
6 ความหน้าซื่อใจคดจะมีอยู่ท่ามกลางผู้รับใช้ของพระยะโฮวาไม่ได้. กระนั้น เกิดอะไรขึ้นกับชาวอิสราเอล? “หัวใจเขากลับกลายเป็นหน้าซื่อใจคด” อย่างไม่น่าเชื่อ! แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาได้ทำสัญญากับพระยะโฮวาฐานะเป็นประชาชนที่อุทิศตัวแด่พระองค์ แต่พระองค์กลับพบว่าพวกเขามีความหน้าซื่อใจคด. เราเรียนอะไรได้จากเรื่องนี้? ถ้าเราอุทิศตัวแด่พระเจ้าแล้ว เราต้องไม่เป็นคนหน้าซื่อใจคด. สุภาษิต 3:32 (ฉบับแปลใหม่) เตือนว่า “คนตลบตะแลงเป็นที่เกลียดชังต่อพระเจ้า แต่คนเที่ยงธรรมอยู่ในความไว้พระทัยของพระองค์.” เพื่อจะดำเนินกับพระเจ้า เราต้องแสดงความรัก “ซึ่งเกิดจากหัวใจที่สะอาด และเกิดจากสติรู้สึกผิดชอบที่ดี และเกิดจากความเชื่ออันปราศจากความหน้าซื่อใจคด.”—1 ติโมเธียว 1:5, ล.ม.
พระเจ้าแสดงความรักภักดีต่อประชาชนของพระองค์
7, 8. (ก) ทำอย่างไรพระเจ้าจึงจะแสดงความรักภักดีต่อเรา? (ข) เราควรทำประการใดถ้าเราทำบาปร้ายแรง?
7 ถ้าเรานมัสการพระยะโฮวาในแบบที่ปราศจากความหน้าซื่อใจคดและในทางที่ชอบธรรม เราจะได้รับความกรุณารักใคร่หรือความรักภักดีจากพระองค์. ชาวอิสราเอลที่ดื้อดึงได้รับคำสั่งดังนี้: “จงพึงหว่านความชอบธรรมสำหรับตนเอง, จงพึงเกี่ยวเก็บผลแห่งความดี [“ความกรุณารักใคร่,” ล.ม.], จงพึงไถที่ดินซึ่งร้างอยู่, เพราะถึงเวลาที่จะแสวงหาพระยะโฮวาแล้ว, จนกว่าพระองค์จะเสด็จมาหลั่งผลแห่งความชอบธรรมให้แก่ท่านทั้งหลาย.”—โฮเซอา 10:12.
8 จะดีกว่าสักเพียงไรถ้าชาวอิสราเอลแสวงหาพระยะโฮวาโดยที่แสดงการกลับใจ! แล้วพระองค์ก็จะ ‘หลั่งผลแห่งความชอบธรรมแก่พวกเขา.’ ถ้าตัวเราเองทำบาปร้ายแรง ให้เราแสวงหาพระยะโฮวา อธิษฐานขอการอภัยบาปจากพระองค์ แล้วขอความช่วยเหลือด้านวิญญาณจากคริสเตียนผู้ปกครอง. (ยาโกโบ 5:13-16) นอกจากนั้น เราควรแสวงหาการชี้นำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า เนื่องจาก “ผู้ใดที่หว่านสำหรับเนื้อหนังของตนเอง จะเกี่ยวเก็บผลอนิจจังจากเนื้อหนังนั้น; แต่ผู้ใดที่หว่านสำหรับพระวิญญาณ จะเกี่ยวเก็บชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น.” (ฆะลาเตีย 6:8) ถ้าเรา “หว่านสำหรับพระวิญญาณ” เราจะได้รับความรักภักดีของพระเจ้าเรื่อยไป.
9, 10. โฮเซอา 11:1-4 นำมาใช้อย่างไรกับชาติอิสราเอล?
9 เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาปฏิบัติต่อประชาชนของพระองค์ในวิธีที่เปี่ยมด้วยความรักเสมอ. จะเห็นหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่โฮเซอา 11:1-4 ซึ่งเราอ่านว่า “ครั้นเมื่อยิศราเอลเป็นเด็กอยู่เราได้รักเขา, และได้เรียกเขาให้ออกมาจากประเทศอายฆุบโต. . . . เขาได้ถวายสักการบูชาแก่พระบาละทั้งหลายและได้เผาเครื่องหอมบูชารูปเคารพ. แต่เราเป็นผู้ที่ได้สอนเอ็ฟรายิม [ชาวอิสราเอล] ให้เดิน; เราได้อุ้มเขาไว้, แต่เขามิได้ทราบว่าเราเป็นผู้ที่รักษาเขาให้หายเจ็บไข้. เราได้จูงเขาไปด้วยเชือกอันสมกับมนุษย์, คือใช้สายแห่งความรัก; เราได้กระทำแก่เขาดุจผู้ได้ยกแอกออกพ้นจากขากรรไกร, แล้วยื่นอาหารให้เขากิน.”
10 ในที่นี้ พระยะโฮวาทรงเปรียบชาติอิสราเอลเป็นเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง. พระองค์ทรงสอนชาวอิสราเอลให้เดิน และเหยียดพระพาหุออกไปหาพวกเขา. และพระองค์ทรงจูงพวกเขาด้วย “สายแห่งความรัก” เสมอ. ช่างเป็นภาพที่อ่อนโยนจริง ๆ! ขอลองนึกภาพตัวคุณเองเป็นบิดามารดาในสมัยนั้นที่กำลังฝึกลูกน้อยให้หัดเดิน. คุณเหยียดแขนของคุณออกไปหาลูก. คุณอาจใช้เชือกให้ลูกน้อยจับเอาไว้เพื่อเขาจะไม่ล้ม. ความรักที่พระยะโฮวาทรงมีต่อคุณก็อ่อนโยนคล้ายกันนั้นแหละ. พระองค์ทรงยินดีนำคุณไปด้วย “สายแห่งความรัก.”
11. พระเจ้าเป็นผู้ “ยกแอกออก” ในทางใด?
11 ในการปฏิบัติกับชาวอิสราเอล พระยะโฮวาทรงเป็นผู้ “ยกแอกออกพ้นจากขากรรไกร, แล้วยื่นอาหารให้เขากิน.” พระองค์ทรงกระทำเช่นเดียวกับคนที่ยกแอกออกหรือเลื่อนแอกไปข้างหลังมากพอที่สัตว์ของเขาจะกินอาหารได้สะดวก. ที่ประชาชนของชาติอิสราเอลตกอยู่ใต้แอกอันกดขี่ของเหล่าศัตรูก็เฉพาะเมื่อพวกเขาหักแอกแห่งการยอมอยู่ใต้อำนาจพระเจ้าเท่านั้น. (พระบัญญัติ 28:45, 48; ยิระมะยา 28:14) ขออย่าให้เราตกอยู่ในเงื้อมมือของซาตานศัตรูตัวสำคัญของเรา และประสบความเจ็บปวดจากแอกที่กดขี่ของมัน. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ให้เราดำเนินต่อ ๆ ไปอย่างซื่อสัตย์ภักดีกับพระเจ้าของเราผู้เปี่ยมด้วยความรัก.
หวังในพระยะโฮวาอยู่เสมอ
12. ตามที่กล่าวในโฮเซอา 12:6 เราต้องทำอะไรเพื่อจะดำเนินกับพระเจ้าต่อ ๆ ไป?
12 เพื่อจะดำเนินกับพระเจ้า เราต้องหวังในพระองค์อยู่เสมอ. ชาวอิสราเอลได้รับคำสั่งที่ว่า “ส่วนเจ้า เจ้าควรกลับมาหาพระเจ้าของเจ้า คงความกรุณารักใคร่และความยุติธรรมไว้ และให้หวังในพระเจ้าของเจ้าอยู่เสมอ.” (โฮเซอา 12:6, ล.ม.) ชาวอิสราเอลสามารถให้หลักฐานของการกลับใจและการหันกลับมาหาพระยะโฮวาโดยการแสดงความกรุณารักใคร่, สำแดงความยุติธรรม, และ ‘หวังในพระเจ้าอยู่เสมอ.’ ไม่ว่าเราดำเนินกับพระเจ้ามานานแค่ไหนแล้ว เราต้องแน่วแน่ที่จะแสดงความกรุณารักใคร่, สำแดงความยุติธรรม, และหวังในพระเจ้าอยู่เสมอ.—บทเพลงสรรเสริญ 27:14.
13, 14. เปาโลนำข้อความในโฮเซอา 13:14 มาใช้อย่างไร ซึ่งให้เหตุผลอะไรแก่เราที่จะหวังในพระยะโฮวา?
13 คำพยากรณ์ของโฮเซอาเกี่ยวกับชาวอิสราเอลให้เหตุผลพิเศษแก่เราที่จะหวังในพระเจ้า. พระยะโฮวาตรัสว่า “จะให้เราไถ่เขาออกจากเอื้อมมือแห่งหลุมฝังศพหรือ? จะให้เราไถ่เขาออกจากอำนาจแห่งความตายหรือ? โอ! ความตาย, ภัยพิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน? โอ! หลุมฝังศพ, ความพินาศของเจ้าอยู่ที่ไหน?” (โฮเซอา 13:14) พระยะโฮวาจะไม่ช่วยชาวอิสราเอลให้รอดพ้นความตายในตอนนั้น แต่ในที่สุดพระยะโฮวาจะขจัดความตายให้หมดไปตลอดกาลและทำให้ชัยชนะของมันเหนือมนุษยชาติสิ้นสุดลง.
14 เมื่อเขียนถึงเพื่อนร่วมความเชื่อซึ่งเป็นคริสเตียนผู้ถูกเจิม เปาโลยกข้อความจากคำพยากรณ์ของโฮเซอาขึ้นมากล่าว ดังนี้: “เมื่อความซึ่งอาจเปื่อยเน่านี้จะสวมความซึ่งไม่อาจเปื่อยเน่า, และมฤตยูนี้จะสวมอมฤตยู เมื่อนั้นคำซึ่งเขียนไว้แล้วจะสำเร็จคือว่า, ‘ความตายก็ถึงปราชัยแล้ว. โอ้ความตาย, ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน? โอ้ความตาย, เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน?’ เหล็กในของความตายนั้นคือความบาป, และฤทธิ์ของความบาปนั้นคือพระบัญญัติ แต่จงขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงประทานชัยชนะแก่เราทั้งหลายโดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา.” (1 โกรินโธ 15:54-57) พระยะโฮวาทรงปลุกพระเยซูให้คืนพระชนม์ ซึ่งเป็นการรับรองที่ทำให้อุ่นใจว่าผู้คนที่อยู่ในความทรงจำของพระเจ้าจะได้รับการปลุกให้มีชีวิตอีก. (โยฮัน 5:28, 29) ช่างเป็นเหตุผลที่น่ายินดีเสียจริง ๆ ที่จะหวังในพระยะโฮวา! กระนั้น มีบางสิ่งนอกเหนือจากความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายที่กระตุ้นเราให้ดำเนินกับพระเจ้า.
ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้องเสมอ
15, 16. มีการบอกไว้ล่วงหน้าเช่นไรเกี่ยวกับซะมาเรีย และคำพยากรณ์ดังกล่าวสำเร็จเป็นจริงอย่างไร?
15 การที่เราเชื่อมั่นว่า “ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง” จะช่วยเราให้ดำเนินต่อ ๆ ไปกับพระเจ้า. ชาวซะมาเรียไม่ได้ดำเนินในทางที่ชอบธรรมของพระเจ้า. ผลก็คือ พวกเขาจะต้องรับผลสำหรับบาปของตนและสำหรับการขาดความเชื่อในพระยะโฮวา. เรื่องนี้มีบอกไว้ล่วงหน้าว่า “ซะมาเรียจะต้องทนรับโทษของตน; เพราะว่าเขาได้คิดกบฏต่อพระเจ้าของเขา; เขาจะถูกดาบฟันล้มลง; ลูกอ่อนของเขาจะถูกฟาดลงจนแหลกละเอียด, และหญิงมีครรภ์จะถูกผ่าท้อง.” (โฮเซอา 13:16) บันทึกทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าชาวอัสซีเรีย ผู้พิชิตซะมาเรีย สามารถลงมือทำสิ่งที่โหดเหี้ยมเช่นนั้นได้.
16 ซะมาเรียเป็นราชธานีของอาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูล. แต่ในข้อคัมภีร์นี้ ชื่อซะมาเรียอาจใช้พาดพิงถึงเขตแดนทั้งหมดของอาณาจักรดังกล่าว. (1 กษัตริย์ 21:1) กษัตริย์ซัลมัลเอเซ็รที่ห้าแห่งอัสซีเรียล้อมกรุงซะมาเรียในปี 742 ก่อน ส.ศ. เมื่อกรุงซะมาเรียแตกในที่สุดในปี 740 ก่อน ส.ศ. บุคคลสำคัญจำนวนมากของกรุงนี้ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในเมโสโปเตเมียและมีเดีย. กรุงซะมาเรียถูกยึดโดยซัลมัลเอเซ็รที่ห้า หรือว่าโดยซาร์กอนที่สอง (ซัรโมน) ผู้สืบตำแหน่งต่อจากเขา ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด. (2 กษัตริย์ 17:1-6, 22, 23; 18:9-12) กระนั้น บันทึกของซาร์กอนกล่าวถึงการกวาดต้อนชาวอิสราเอล 27,290 คนไปยังแถบแม่น้ำยูเฟรทิสตอนบนและมีเดีย.
17. แทนที่จะดูถูกมาตรฐานของพระเจ้า เราควรจะทำอะไร?
17 ชาวซะมาเรียต้องรับผลร้ายจากการที่พวกเขาไม่ดำเนินในทางอันชอบธรรมของพระยะโฮวา. ในฐานะคริสเตียนที่อุทิศตัวแล้ว เราก็จะประสบผลอันน่าเศร้าเช่นกันหากเรากลายเป็นคนกระทำบาปเป็นอาจิณ และดูถูกมาตรฐานอันชอบธรรมของพระเจ้า. ขออย่าให้เราติดตามแนวทางที่ชั่วร้ายเช่นนั้นเลย! แทนที่จะทำอย่างนั้น ให้เราแต่ละคนประพฤติสอดคล้องกับคำแนะนำของอัครสาวกเปโตรที่ว่า “อย่าให้คนใดในพวกท่านทั้งหลายทนทุกข์เพราะเป็นผู้ฆ่าคน หรือเป็นคนขโมย หรือเป็นคนทำชั่ว หรือเป็นคนยุ่งกับธุระของคนอื่น. แต่ถ้าเขาทนทุกข์ในฐานะเป็นคริสเตียน อย่าให้เขารู้สึกอาย แต่ให้เขาถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยชื่อนี้ต่อ ๆ ไป.”—1 เปโตร 4:15, 16, ล.ม.
18. เราจะ “ถวายเกียรติแด่พระเจ้า . . . ต่อ ๆ ไป” ได้โดยวิธีใด?
18 เรา “ถวายเกียรติแด่พระเจ้า . . . ต่อ ๆ ไป” โดยดำเนินในทางอันชอบธรรมของพระองค์ แทนที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามวิธีของเราเอง. คายินฆ่าคนเพราะเขาดำเนินตามแนวทางของตนเองและไม่เอาใจใส่ฟังคำเตือนของพระยะโฮวาที่ให้ระวังบาปซึ่งกำลังจะตะครุบตัวเขาอยู่แล้ว. (เยเนซิศ 4:1-8) บาลาอัม (บีละอาม) ยอมรับเงินค่าจ้างจากกษัตริย์โมอาบ แต่ความพยายามของเขาในการแช่งชาติอิสราเอลไร้ผล. (อาฤธโม 24:10) และพระเจ้าทรงลงโทษโคราชาวเลวีกับพรรคพวกถึงตายเนื่องด้วยการกบฏต่ออำนาจของโมเซและอาโรน. (อาฤธโม 16:1-3, 31-33) แน่ล่ะ เราไม่ต้องการดำเนินไปใน “ทางของคายิน” ซึ่งเป็นผู้ฆ่าคน, เร่งรีบเข้าไปใน “แนวทางที่ผิดของบาลาอัม,” หรือพินาศไปใน “การพูดขืนอำนาจของโครา.” (ยูดา 11, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม หากเราพลาดพลั้ง คำพยากรณ์ของโฮเซอาให้การปลอบประโลมแก่เรา.
คนที่ทำบาปสามารถกลับมาหาพระยะโฮวาได้
19, 20. ชาวอิสราเอลที่กลับใจสามารถถวายเครื่องบูชาชนิดใด?
19 แม้แต่คนที่พลาดพลั้งกระทำบาปร้ายแรงก็สามารถกลับมาหาพระยะโฮวาได้. ที่โฮเซอา 14:1, 2 เราพบคำวิงวอนดังนี้: “โอ! ยิศราเอล, จงกลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, ด้วยว่าท่านได้พลาดล้มลงไปก็เพราะความผิดของท่านเอง. เมื่อท่านหันกลับมาหาพระยะโฮวาจงนำคำวิงวอนมาด้วย; คือจงทูลพระองค์ว่า, ‘ขอโปรดทรงยกความผิดของข้าพเจ้าทั้งหมด, และโปรดทรงรับพวกข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยพระกรุณา; ข้าพเจ้าทั้งหลายจะนำผลแห่งริมฝีปากของข้าพเจ้ามาสักการบูชาต่างโค.’ ”
20 ชนอิสราเอลที่กลับใจสามารถถวาย ‘ผลแห่งริมฝีปากเป็นสักการบูชาต่างโค’ แด่พระเจ้าได้. ของถวายดังกล่าวคือเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญจากใจจริงนั่นเอง. เปาโลอ้างถึงคำพยากรณ์ข้อนี้เมื่อท่านกระตุ้นคริสเตียนให้ “ถวายคำสรรเสริญพระเจ้าเป็นเครื่องบูชาเสมอโดยพระองค์นั้น, คือผลแห่งริมฝีปากที่กล่าวสรรเสริญพระนามของพระองค์.” (เฮ็บราย 13:15) นับเป็นเกียรติเสียจริง ๆ ที่ได้ดำเนินกับพระเจ้าและถวายเครื่องบูชาเช่นนั้นในสมัยปัจจุบัน!
21, 22. ชาวอิสราเอลที่กลับใจจะได้รับการฟื้นฟูแบบไหน?
21 ชาวอิสราเอลที่ละทิ้งแนวทางอันดื้อดึงของตนและหันกลับมาหาพระเจ้าได้ถวาย ‘ผลแห่งริมฝีปากเป็นสักการบูชาต่างโค’ แด่พระเจ้า. ผลก็คือ พวกเขาได้รับการฟื้นฟูทางฝ่ายวิญญาณตามที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้. โฮเซอา 14:4-7 กล่าวดังนี้: “เรา [พระยะโฮวา] จะช่วยรักษาเขาให้หายจากการหลงเจิ่นของเขา, และเราจะรักเขาอย่างเต็มใจ; เพราะความพิโรธของเราผ่านพ้นเขาไปแล้ว. เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างโปรยลงมาบนยิศราเอล; เขาจะเบิกบานออกดุจดอกไม้, และหยั่งรากเหมือนภูเขาละบาโนน. กิ่งของเขาจะแผ่สาขาออกไป, ความสวยงามของเขาจะเป็นเหมือนต้นมะกอกเทศ, และเขาจะมีกลิ่นหอมดุจกลิ่นที่ภูเขาละบาโนน. ผู้ที่อาศัยอยู่ในร่มของพระองค์จะกลับมาอีก; เขาจะฟื้นขึ้นมาใหม่เหมือนต้นข้าว, และผลิดอกดุจเถาองุ่น, ซึ่งมีกลิ่นหอมดุจดังน้ำองุ่นแห่งภูเขาละบาโนน.”
22 ชาวอิสราเอลที่กลับใจจะได้รับการรักษาทางฝ่ายวิญญาณและจะได้รับความรักจากพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง. พระยะโฮวาจะทรงเป็นดุจน้ำค้างที่ทำให้พวกเขาสดชื่นในแง่ที่ว่าพระองค์จะทรงอวยพรพวกเขาอย่างบริบูรณ์. ประชาชนของพระองค์ที่ได้รับการฟื้นฟูจะมีความสง่างาม “เหมือนต้นมะกอกเทศ” และพวกเขาจะดำเนินในทางของพระเจ้า. เนื่องจากเราตั้งใจแน่วแน่จะดำเนินกับพระยะโฮวาพระเจ้า มีข้อเรียกร้องให้เราทำอะไร?
จงดำเนินในทางที่ถูกต้องของพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป
23, 24. พระธรรมโฮเซอาปิดท้ายด้วยคำพยากรณ์อะไรที่หนุนกำลังใจ และคำพยากรณ์นั้นก่อผลกระทบเช่นไรต่อเรา?
23 หากเราปรารถนาจะดำเนินกับพระเจ้า เราต้องแสดงการมี “สติปัญญาที่มาจากเบื้องบน” และประพฤติสอดคล้องกับแนวทางที่ถูกต้องของพระองค์เสมอ. (ยาโกโบ 3:17, 18) ข้อสุดท้ายในคำพยากรณ์ของโฮเซอาอ่านดังนี้: “ผู้มีปัญญาจงเข้าใจในเรื่องเหล่านี้เถิด; ผู้ที่เฉลียวฉลาด, จงรู้จักเรื่องเหล่านี้เถิด; ด้วยว่าทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง และผู้ชอบธรรมก็จะเดินไปในทางนั้น; แต่ผู้ที่จะทำผิดหากจะเข้าไปเดินในทางนั้นก็จะสะดุดล้มลง.”—โฮเซอา 14:9.
24 แทนที่จะให้ปัญญาและมาตรฐานของโลกนี้ชี้นำเรา ขอให้เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินในทางอันชอบธรรมของพระเจ้า. (พระบัญญัติ 32:4) โฮเซอาทำเช่นนั้นนาน 59 ปีหรือมากกว่านั้น. ท่านทำหน้าที่ถ่ายทอดข่าวสารจากพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ โดยตระหนักว่าคนมีปัญญาและสุขุมจะเข้าใจข่าวสารนั้น. จะว่าอย่างไรสำหรับเรา? ตราบเท่าที่พระยะโฮวายังคงเปิดโอกาสแก่เราเพื่อให้คำพยาน เราจะเสาะหาคนที่จะตอบรับอย่างฉลาดต่อพระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระองค์ต่อ ๆ ไป. และเรายินดีที่จะร่วมมืออย่างเต็มที่ในการทำงานนี้กับ “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม”?—มัดธาย 24:45-47, ล.ม.
25. การพิจารณาคำพยากรณ์ของโฮเซอาควรช่วยเราให้ทำอะไร?
25 การพิจารณาคำพยากรณ์ของโฮเซอาควรจะช่วยเราให้ดำเนินต่อ ๆ ไปกับพระเจ้า พร้อมกับมีความหวังจะได้รับชีวิตนิรันดร์ในโลกใหม่ของพระองค์. (2 เปโตร 3:13; ยูดา 20, 21) ช่างเป็นความหวังที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ! ความหวังนี้จะกลายเป็นจริงสำหรับเราเป็นส่วนตัวหากเราพิสูจน์โดยคำพูดและการกระทำว่า เราหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ เมื่อกล่าวว่า “ทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง.”
คุณจะตอบอย่างไร?
• ถ้าเราถวายการนมัสการอันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า พระองค์จะปฏิบัติเช่นไรต่อเรา?
• ทำไมเราควรหวังในพระยะโฮวาเสมอ?
• อะไรทำให้คุณเชื่อมั่นว่าทางของพระยะโฮวาเป็นทางที่ถูกต้อง?
• เราจะดำเนินต่อ ๆ ไปในทางที่ถูกต้องของพระยะโฮวาได้อย่างไร?
[ภาพหน้า 28]
จงรับเอาความช่วยเหลือฝ่ายวิญญาณจากคริสเตียนผู้ปกครอง
[ภาพหน้า 29]
คำพยากรณ์ของโฮเซอาให้เหตุผลแก่เราที่จะมีความหวังในคำสัญญาของพระยะโฮวาเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย
[ภาพหน้า 31]
จงดำเนินกับพระเจ้าต่อ ๆ ไปพร้อมกับมีความหวังจะได้รับชีวิตนิรันดร์