การดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณช่วยเราให้ดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัว
“จงดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณแล้วท่านทั้งหลายจะไม่ทำตาม ความปรารถนาทางกายเลย.”—กลา. 5:16
1. มีการรับบัพติสมาอะไรเกิดขึ้นในวันเพนเทคอสต์?
สาวกของพระเยซูพูดภาษาต่าง ๆ ในวันเพนเทคอสต์สากลศักราช 33 หลังจากที่พวกเขาได้รับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีของประทานโดยพระวิญญาณที่มหัศจรรย์. (1 โค. 12:4-10) ของประทานนี้และคำบรรยายของอัครสาวกเปโตรก่อผลกระทบเช่นไร? หลายคน “รู้สึกเจ็บแปลบในใจ.” เมื่อเปโตรกล่าวกระตุ้น พวกเขาก็กลับใจและรับบัพติสมา. ประวัติบันทึกบอกว่า “คนที่เชื่อคำของเปโตรอย่างจริงใจจึงรับบัพติสมา และในวันนั้นมีสาวกเพิ่มเข้ามาประมาณสามพันคน.” (กิจ. 2:22, 36-41) ดังที่พระเยซูทรงบัญชาไว้ พวกเขาได้รับบัพติสมาด้วยน้ำในนามของพระบิดา, พระบุตร, และพระวิญญาณบริสุทธิ์.—มัด. 28:19
2, 3. (ก) จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์กับการรับบัพติสมาในนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์. (ข) เหตุใดทุกคนที่จะเป็นคริสเตียนแท้ในทุกวันนี้ต้องรับบัพติสมาด้วยน้ำ?
2 อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างกันไหมระหว่างการรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์กับการรับบัพติสมาในนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์? มีความแตกต่างกัน. คนที่รับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เกิดใหม่เป็นบุตรของพระเจ้าที่บังเกิดด้วยพระวิญญาณ. (โย. 3:3) พวกเขาได้รับการเจิมให้ร่วมเป็นกษัตริย์และเป็นรองปุโรหิตในราชอาณาจักรของพระเจ้าที่อยู่ในสวรรค์ในอนาคต และพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในพระกายฝ่ายวิญญาณของพระคริสต์. (1 โค. 12:13; กลา. 3:27; วิ. 20:6) ดังนั้น การรับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่พระยะโฮวาทรงทำให้เกิดขึ้นเมื่อพระองค์ทรงเลือกบางคนให้เป็นรัชทายาทร่วมกับพระคริสต์ในวันเพนเทคอสต์และหลังจากนั้น. (โรม 8:15-17) แต่จะว่าอย่างไรสำหรับการรับบัพติสมาด้วยน้ำในนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ณ การประชุมหมวดและการประชุมภาคของประชาชนของพระยะโฮวาในสมัยของเรา?
3 การรับบัพติสมาด้วยน้ำเป็นขั้นตอนอย่างหนึ่งที่คริสเตียนแท้ทำเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงถึงการอุทิศตัวโดยไม่มีเงื่อนไขแด่พระยะโฮวาพระเจ้า. คนที่ถูกเรียกสู่สวรรค์ต้องทำขั้นตอนนี้. แต่การรับบัพติสมาด้วยน้ำยังเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเช่นกันสำหรับชายหญิงหลายล้านคนในสมัยปัจจุบันนี้ที่บัดนี้มีความหวังจะอยู่ตลอดไปบนแผ่นดินโลก. ไม่ว่าใครคนหนึ่งจะมีความหวังเช่นไร การรับบัพติสมาด้วยน้ำในนามของพระบิดาและพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นขั้นตอนที่จำเป็นที่เขาต้องทำเพื่อจะได้รับการยอมรับจากพระเจ้า. คริสเตียนทุกคนที่รับบัพติสมาอย่างนั้นถูกคาดหมายว่าจะ “ดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณ” เสมอ. (อ่านกาลาเทีย 5:16) คุณกำลังดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณซึ่งช่วยให้คุณดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวอยู่ไหม?
‘การดำเนินชีวิตตามการทรงนำ จากพระวิญญาณ’ หมายถึงอะไร?
4. ความหมายพื้นฐานของ ‘การดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณ’ คืออะไร?
4 ‘การดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณ’ หมายรวมถึงการยอมรับการดำเนินกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การให้พระวิญญาณบริสุทธิ์มีอิทธิพลต่อคุณ. คุณอาจบอกได้ว่าการดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณหมายถึงการให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตของคุณแต่ละวัน. กาลาเทียบท 5 เน้นให้เห็นความแตกต่างระหว่างการให้พระวิญญาณบริสุทธิ์มีอิทธิพลต่อคุณกับการให้ความปรารถนาทางกายมีอิทธิพลต่อคุณ.—อ่านกาลาเทีย 5:17, 18
5. การให้พระวิญญาณบริสุทธิ์มีอิทธิพลต่อคุณเกี่ยวข้องกับการละเว้นจากอะไร?
5 ถ้าคุณให้พระวิญญาณบริสุทธิ์มีอิทธิพลต่อคุณ คุณก็จะละเว้นการกระทำที่เกิดจากความปรารถนาของกายที่มีบาป. ส่วนหนึ่งของการกระทำที่เกิดจากความปรารถนาของกายที่มีบาปได้แก่ “การผิดประเวณี การประพฤติที่ไม่สะอาด การประพฤติที่ไร้ยางอาย การไหว้รูปเคารพ การถือผี การเป็นศัตรูกัน การต่อสู้กัน การริษยากัน การบันดาลโทสะ การชิงดีชิงเด่นกัน การแตกแยกกัน การแยกเป็นนิกายต่าง ๆ การอิจฉากัน การดื่มจนเมามาย การเลี้ยงเฮฮาอย่างเลยเถิด.” (กลา. 5:19-21) ในแง่หนึ่ง คุณได้ “เลิกทำตามที่กายปรารถนาอย่างเด็ดขาดโดยอาศัยพระวิญญาณ.” (โรม 8:5, 13) การทำอย่างนั้นจะช่วยให้คุณสนใจแต่สิ่งที่เป็นของพระวิญญาณและร่วมมือกับการนำของพระวิญญาณ แทนที่จะให้ความปรารถนาต่าง ๆ ทางกายมีอิทธิพลต่อตัวคุณ.
6. จงยกตัวอย่างว่าอะไรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจะสามารถแสดงผลของพระวิญญาณ.
6 เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ดำเนินกิจเหนือคุณ คุณก็จะแสดงคุณลักษณะแบบพระเจ้า อันได้แก่ “ผลของพระวิญญาณ.” (กลา. 5:22, 23) อย่างไรก็ตาม คุณตระหนักว่าการทำอย่างนั้นต้องอาศัยความพยายาม. เพื่อเป็นตัวอย่าง: ชาวนาคนหนึ่งเตรียมดินไว้สำหรับการเพาะปลูก. แน่นอนว่าแสงแดดและน้ำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้; หากไม่มีสองสิ่งนี้ชาวนาไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยว. เราอาจเปรียบพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้กับแสงแดด. เราจำเป็นต้องมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อจะแสดงผลของพระวิญญาณ. แต่ถ้าชาวนาไม่ทำงานหนัก เขาจะผลิตพืชผลได้ไหม? (สุภา. 10:4) วิธีที่คุณพัฒนาสภาพหัวใจที่เป็นเหมือนดินมีผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณของผลพระวิญญาณในตัวคุณ. ดังนั้น จงถามตัวเองว่า ‘ฉันให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เกิดผลในตัวฉันโดยลงมือทำอย่างที่ประสานกับพระวิญญาณนั้นไหม?’
7. เหตุใดการศึกษาและการใคร่ครวญจึงสำคัญอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการจะพัฒนาผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์?
7 เพื่อจะเก็บเกี่ยวผลที่ดี ชาวนายังต้องรดน้ำพืชผลที่พวกเขาปลูก. เพื่อจะพัฒนาผลของพระวิญญาณ คุณจำเป็นต้องได้รับน้ำแห่งความจริงที่พบในคัมภีร์ไบเบิลและที่สามารถรับได้ทางประชาคมคริสเตียนในปัจจุบัน. (ยซา. 55:1) คุณคงชี้ให้หลายคนเห็นว่าพระคัมภีร์บริสุทธิ์เป็นผลงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์. (2 ติโม. 3:16) นอกจากนั้น ทาสสัตย์ซื่อและสุขุมยังช่วยให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำแห่งความจริงอันบริสุทธิ์ในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องได้รับอย่างยิ่ง. (มัด. 24:45-47) ความหมายในเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจน. เพื่อจะได้รับอิทธิพลจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราต้องอ่านและใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า. ถ้าคุณกำลังทำอย่างนั้นอยู่แล้ว คุณก็กำลังเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของผู้พยากรณ์ซึ่ง “อุตส่าห์ไต่ถามและค้นคว้า” ข้อมูลที่มีการจัดเตรียมไว้ให้. เป็นเรื่องน่าสังเกตที่แม้แต่เหล่าทูตสวรรค์ก็แสดงความสนใจอย่างยิ่งในเรื่องความจริงฝ่ายวิญญาณเกี่ยวกับผู้สืบเชื้อสายตามคำสัญญาและประชาคมคริสเตียนที่ได้รับการเจิม.—อ่าน 1 เปโตร 1:10-12
พระวิญญาณมี อิทธิพลต่อเราอย่างไร?
8. เหตุใดจึงสำคัญที่คุณจะขอพระวิญญาณจากพระยะโฮวา?
8 การศึกษาพระคัมภีร์และการใคร่ครวญเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ. คุณจำเป็นต้องทูลขอความช่วยเหลือและการชี้นำจากพระยะโฮวาต่อ ๆ ไป. พระองค์ทรงสามารถ “ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมายยิ่งกว่าสารพัดสิ่งที่เราทูลขอหรือคิดออก.” (เอเฟ. 3:20; ลูกา 11:13) แต่คุณจะตอบอย่างไรถ้ามีใครถามว่า “ทำไมฉันจะต้องขออยู่เรื่อย ๆ ถ้าพระเจ้าทรงรู้อยู่แล้วว่า ‘ฉันต้องการอะไรก่อนฉันจะทูลขอพระองค์’?” (มัด. 6:8) ประการหนึ่งนั้น ด้วยการอธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณยอมรับว่าคุณต้องหมายพึ่งพระยะโฮวา. ตัวอย่างเช่น ถ้ามีใครมาขอความช่วยเหลือจากคุณ คุณก็จะพยายามช่วยเต็มที่ เพราะการที่เขาขอให้คุณช่วยแสดงว่าเขาไว้ใจคุณ. (เทียบกับสุภาษิต 3:27) ในทำนองเดียวกัน พระยะโฮวาทรงยินดีที่คุณขอพระวิญญาณจากพระองค์ และพระองค์จะประทานพระวิญญาณแก่คุณ.—สุภา. 15:8
9. คุณจะทำให้การเข้าร่วมการประชุมคริสเตียนช่วยคุณให้ได้รับอิทธิพลจากพระวิญญาณของพระเจ้าได้โดยวิธีใด?
9 คุณคงรู้สึกขอบคุณด้วยที่การประชุมประชาคม, การประชุมหมวด, และการประชุมภาคเป็นอีกวิธีหนึ่งที่คุณจะให้พระวิญญาณของพระเจ้ามีอิทธิพลต่อคุณ. การพยายามเข้าร่วมและตั้งใจฟังระเบียบวาระการประชุมเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง. การทำอย่างนั้นช่วยให้คุณเข้าใจ “สิ่งลึกซึ้งของพระเจ้า.” (1 โค. 2:10) มีประโยชน์ด้วยที่จะออกความคิดเห็นเป็นประจำ. ขอให้นึกย้อนไปถึงการประชุมที่คุณได้เข้าร่วมในสี่สัปดาห์ที่ผ่านไป. คุณได้ยกมือเพื่อจะออกความคิดเห็นซึ่งเป็นการแสดงความเชื่อของคุณบ่อยเพียงไร? คุณมองเห็นช่องทางที่จะปรับปรุงในเรื่องนี้ไหม? ถ้าอย่างนั้น จงตั้งใจไว้เลยว่าจะปรับปรุงในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป. พระยะโฮวาจะทรงเห็นความตั้งใจจริงของคุณในการมีส่วนร่วมในการประชุมและจะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์แก่คุณ ซึ่งจะช่วยคุณให้ได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้นไปอีกจากการเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ.
10. การดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณหมายรวมถึงการส่งคำเชิญอะไรไปถึงคนอื่น ๆ?
10 การดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณหมายรวมถึงการตอบรับคำเชิญที่เราอ่านในวิวรณ์ 22:17 ว่า “พระวิญญาณกับเจ้าสาวกล่าวไม่หยุดว่า ‘มาเถิด!’ และให้คนที่ได้ยินกล่าวด้วยว่า ‘มาเถิด!’ ให้คนที่กระหายมาเถิด ให้คนที่อยากดื่มน้ำแห่งชีวิตมาดื่มโดยไม่เสียค่า.” พระวิญญาณ ซึ่งดำเนินกิจทางชนชั้นเจ้าสาวที่ถูกเจิม กำลังส่งคำเชิญนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำที่ให้ชีวิต. ถ้าคุณได้ตอบรับคำเชิญที่ว่า “มาเถิด!” คุณตั้งใจแน่วแน่ที่จะกล่าวด้วยว่า “มาเถิด!” ไหม? ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่จะสามารถมีส่วนร่วมในงานช่วยชีวิตนี้!
11, 12. พระวิญญาณบริสุทธิ์มีส่วนร่วมอย่างไรในงานประกาศ?
11 งานสำคัญนี้กำลังทำกันอยู่ในปัจจุบันภายใต้การชี้นำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์. เราได้อ่านว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์มีส่วนร่วมอย่างไรในการเปิดเขตงานใหม่สำหรับมิชชันนารีในศตวรรษแรก. อัครสาวกเปาโลและเพื่อนร่วมเดินทางถูก “พระวิญญาณบริสุทธิ์ห้ามพวกเขาไม่ให้ประกาศพระคำในแคว้นเอเชีย”; และพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในแคว้นบิทีเนียด้วย. เราไม่รู้อย่างแน่ชัดถึงวิธีที่พระวิญญาณห้ามพวกเขาไม่ให้เข้าไปในแคว้นเหล่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่าพระวิญญาณนำเปาโลให้เข้าไปในเขตงานอันกว้างใหญ่ในยุโรป. ท่านได้รับนิมิตเกี่ยวกับชายชาวมาซิโดเนียคนหนึ่งที่วิงวอนขอความช่วยเหลือ.—กิจ. 16:6-10
12 ปัจจุบัน พระวิญญาณของพระยะโฮวาก็กำลังชี้นำงานประกาศทั่วโลกคล้าย ๆ กัน. พระองค์ไม่ได้ใช้นิมิตอันมหัศจรรย์เพื่อชี้นำ; แทนที่จะทำอย่างนั้น พระยะโฮวาทรงชี้นำเหล่าผู้ถูกเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. และพระวิญญาณก็กระตุ้นพี่น้องให้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ในการประกาศและการสอน. ไม่ต้องสงสัยว่าคุณได้มีส่วนร่วมในงานสำคัญนี้. คุณจะเพิ่มความยินดีในงานที่น่าตื่นเต้นนี้ได้อย่างไร?
13. คุณจะอ่อนน้อมต่อการชี้นำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้โดยวิธีใด? จงยกตัวอย่าง.
13 คุณสามารถอ่อนน้อมต่อการชี้นำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยการใช้ข้อมูลที่มีการจัดเตรียมไว้สำหรับประชาชนของพระเจ้า. ขอให้พิจารณาตัวอย่างหญิงสาวคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นชื่อมิโฮโกะ. เนื่องจากเธอเพิ่งเป็นไพโอเนียร์ได้ไม่นาน เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะกลับเยี่ยมเยียน; เธอรู้สึกว่าเธอไม่รู้วิธีที่จะจับความสนใจของเจ้าของบ้าน. ในช่วงนั้นเอง พระราชกิจของเรา มีข้อเสนอแนะที่ใช้ได้จริงเกี่ยวกับวิธีกลับเยี่ยมสั้น ๆ. หลังจากนั้นก็มีการออกจุลสารทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตที่น่าพอใจ? จุลสารนี้เป็นประโยชน์เป็นพิเศษในเขตประกาศที่ญี่ปุ่น. มิโฮโกะใช้ข้อเสนอแนะที่ให้ไว้เกี่ยวกับวิธีใช้จุลสารนี้ โดยเฉพาะวิธีกลับเยี่ยมสั้น ๆ. ในไม่ช้า เธอก็สามารถเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์กับหลายคนที่เมื่อก่อนอาจปฏิเสธที่จะศึกษา. เธอกล่าวว่า “ดิฉันมีรายศึกษาหลายราย—บางครั้งมีมากถึง 12 ราย—จนดิฉันนำการศึกษาไม่ไหว ต้องขอบางรายให้รอก่อน!” จริงทีเดียว เมื่อคุณดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณ ใช้คำแนะนำที่องค์การจัดเตรียมไว้สำหรับผู้รับใช้ของพระยะโฮวา คุณสามารถเก็บเกี่ยวผลอย่างบริบูรณ์.
จงหมายพึ่งพระวิญญาณของพระเจ้า
14, 15. (ก) เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์ไม่สมบูรณ์จะดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัว? (ข) คุณจะหาเพื่อนที่ดีที่สุดได้อย่างไร?
14 ในฐานะผู้รับใช้ที่ได้รับแต่งตั้ง คุณมีหน้าที่ที่ต้องทำในงานรับใช้. (โรม 10:14) คุณอาจรู้สึกว่าไม่มีคุณสมบัติอย่างครบถ้วนที่จะทำหน้าที่รับผิดชอบเช่นนั้น. แต่เช่นเดียวกับในกรณีของผู้ถูกเจิม พระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้คุณมีคุณสมบัติ. (อ่าน 2 โครินท์ 3:5) คุณสามารถดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวโดยพยายามทำให้ดีที่สุดและหมายพึ่งพระวิญญาณของพระเจ้า.
15 จริงอยู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราซึ่งเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์จะดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวแด่พระยะโฮวา พระเจ้าผู้สมบูรณ์พร้อม. ปัญหายุ่งยากอย่างหนึ่งก็คือคนที่คุณเคยคบหาอาจแปลกใจที่คุณดำเนินชีวิตในแนวทางใหม่และอาจ “กล่าวร้าย” คุณ. (1 เป. 4:4) ถึงกระนั้น อย่ามองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าคุณมีเพื่อนใหม่หลายคน ที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณมีพระยะโฮวาและพระเยซูคริสต์เป็นมิตร. (อ่านยาโกโบ 2:21-23) นับว่าสำคัญด้วยที่จะทำความรู้จักพี่น้องชายหญิงในประชาคมของคุณเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน “สังคมพี่น้องคริสเตียน” ทั่วโลก. (1 เป. 2:17; สุภา. 17:17) พระยะโฮวาจะทรงช่วยคุณโดยทางพระวิญญาณของพระองค์ให้มีเพื่อนที่จะเป็นแรงชักจูงในทางที่ดีต่อคุณเสมอ.
16. เหตุใดคุณสามารถ ‘ยินดีเมื่ออ่อนแอ’ เช่นเดียวกับเปาโล?
16 แม้ว่าคุณมีเพื่อนหลายคนในประชาคมที่คอยช่วยเหลือ คุณอาจจะยังรู้สึกว่ายากจะรับมือกับข้อท้าทายต่าง ๆ ในแต่ละวัน. บางครั้งสิ่งที่คุณต้องรับมืออาจทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ เพราะมีปัญหาประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน. ในเวลาอย่างนี้แหละที่คุณยิ่งต้องหมายพึ่งพระยะโฮวา และขอพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระองค์. อัครสาวกเปาโลเขียนว่า “เมื่อใดที่ข้าพเจ้าอ่อนแอ ข้าพเจ้าก็มีกำลังมากเมื่อนั้น.” (อ่าน 2 โครินท์ 4:7-10; 12:10) เปาโลรู้ว่าพระวิญญาณของพระเจ้าสามารถช่วยแก้ไขข้ออ่อนแอต่าง ๆ ของมนุษย์เรา ไม่ว่าจะเป็นข้ออ่อนแอในลักษณะใดก็ตาม. ด้วยเหตุนั้น พลังปฏิบัติการของพระเจ้าสามารถเสริมกำลังคุณเมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกอ่อนแอและต้องการความช่วยเหลือ. เปาโลเขียนว่าท่านสามารถ ‘ยินดีเมื่ออ่อนแอ.’ ตอนที่ท่านอ่อนแอนั่นเองที่ท่านรู้สึกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังดำเนินกิจเหนือท่าน. คุณสามารถรู้สึกอย่างเดียวกันนั้นได้!—โรม 15:13
17. พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยคุณได้อย่างไรขณะที่คุณพยายามไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง?
17 เราจำเป็นต้องได้รับพระวิญญาณจากพระเจ้าเพื่อเราจะสามารถดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวแด่พระองค์. ขอให้นึกภาพว่าคุณเป็นนักแล่นเรือใบ. เป้าหมายของคุณคือการรับใช้พระยะโฮวาตลอดไป. พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเหมือนกับลมที่คุณต้องการให้พัดพาเรือไป เพื่อคุณจะถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ. คุณไม่ต้องการให้น้ำใจของโลกซาตานพัดคุณไปทางนั้นทีทางนี้ที. (1 โค. 2:12) อาจกล่าวโดยนัยได้ว่าคุณต้องหาลมที่จะพาคุณไปสู่จุดหมายปลายทาง และให้ลมนั้นพัดพาเรือของคุณไป. ลมที่ว่านี้คือพระวิญญาณบริสุทธิ์. โดยทางพระคำของพระเจ้าและองค์การที่ได้รับการชี้นำจากพระวิญญาณ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะกระตุ้นคุณให้ดำเนินในทิศทางที่ถูกต้อง.
18. คุณตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำอะไรในตอนนี้ และเพราะเหตุใด?
18 ถ้าคุณกำลังศึกษากับพยานพระยะโฮวาและชื่นชมกับการคบหากับพวกเขาในการนมัสการ แต่คุณยังไม่ได้อุทิศตัวและรับบัพติสมาซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ จงถามตัวคุณเองว่า ‘ทำไมฉันจึงยังลังเลอยู่?’ ถ้าคุณยอมรับบทบาทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการทำให้พระประสงค์ของพระยะโฮวาสำเร็จในทุกวันนี้และรู้สึกขอบคุณสำหรับการดำเนินงานของพระวิญญาณ ก็จงดำเนินตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่คุณได้เรียนรู้ว่าถูกต้อง. พระยะโฮวาจะทรงอวยพรคุณอย่างอุดม. พระองค์จะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์แก่คุณอย่างไม่อั้น. ถ้าคุณรับบัพติสมาแล้วหลายปีหรือหลายสิบปี คุณคงรู้สึกอย่างแน่นอนถึงอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์. คุณได้เห็นและรู้สึกถึงวิธีที่พระเจ้าทรงสามารถเสริมกำลังคุณด้วยพระวิญญาณของพระองค์. พระองค์จะทรงช่วยคุณอย่างนั้นต่อ ๆ ไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด. ด้วยเหตุนั้น จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินชีวิตตามการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ต่อ ๆ ไป.
คุณจำได้ไหม?
• ‘การดำเนินตามการทรงนำจากพระวิญญาณ’ หมายถึงอะไร?
• อะไรอาจช่วยคุณได้ให้ “ดำเนินตามการทรงนำจากพระวิญญาณ” ต่อ ๆ ไป?
• คุณจะดำเนินชีวิตสมกับการอุทิศตัวได้โดยวิธีใด?
[ภาพหน้า 15]
การพัฒนาสภาพหัวใจของคุณที่เป็นเหมือนดินต้องอาศัยความพยายาม
[ภาพหน้า 16, 17]
คุณให้พระวิญญาณของพระเจ้ามีอิทธิพลต่อชีวิตคุณไหม?