บท 14
ความสง่างาม แห่งราชบัลลังก์ของพระยะโฮวาในสวรรค์
นิมิต 2—วิวรณ์ 4:1–5:14
เรื่อง: เหตุการณ์น่าเกรงขามตรงหน้าราชบัลลังก์แห่งการพิพากษาของพระเจ้า
เวลาแห่งการสำเร็จเป็นจริง: นิมิตนี้แสดงถึงเหตุการณ์ซึ่งบังเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1914 จนถึงตอนปลายรัชสมัยพันปีและต่อจากนั้นอีก เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกจะสรรเสริญพระยะโฮวา.—วิวรณ์ 5:13.
1. เพราะเหตุใดเราจึงควรสนใจอย่างแรงกล้าในนิมิตที่โยฮันให้กับเรา?
โยฮันเริ่มให้เราเห็นนิมิตอันเร้าใจต่อไป. โดยการดลใจ ท่านยังอยู่ในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า. ดังนั้น สิ่งที่ท่านพรรณนาจึงมีความหมายลึกซึ้งสำหรับพวกเราซึ่งกำลังมีชีวิตอยู่ในวันนั้นจริง ๆ. โดยทางนิมิตเหล่านี้ พระยะโฮวาทรงเปิดสิ่งที่ปิดบังไม่ให้เห็นสภาพแท้ในสวรรค์และทรงเผยให้เราทราบพระดำริของพระองค์เกี่ยวกับการพิพากษาซึ่งจะดำเนินการบนแผ่นดินโลก. ยิ่งกว่านั้น การเปิดเผยนี้ช่วยให้เราเห็นฐานะของเราในพระทัยประสงค์ของพระยะโฮวา ไม่ว่าเรามีความหวังฝ่ายสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลก. ฉะนั้น เราทุกคนจึงควรสนใจอย่างแรงกล้าต่อ ๆ ไปที่คำกล่าวของโยฮันที่ว่า “ผู้ที่อ่านออกเสียงและคนเหล่านั้นที่ได้ยินถ้อยคำในคำพยากรณ์นี้และทำตามสิ่งที่เขียนไว้ในคำพยากรณ์นี้ก็มีความสุข.”—วิวรณ์ 1:3, ล.ม.
2. ตอนนี้โยฮันมีประสบการณ์อะไร?
2 สิ่งที่โยฮันเห็นต่อไปนี้เกินกว่าสิ่งใด ๆ ที่มนุษย์ในสมัยปัจจุบันเสนอทางวีดิทัศน์! ท่านเขียนว่า “หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นประตูในสวรรค์เปิดอยู่ และเสียงแรกที่ข้าพเจ้าได้ยินนั้นดุจเสียงแตร ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘ขึ้นมาบนนี้เถิด แล้วเราจะให้เจ้าเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น.’” (วิวรณ์ 4:1, ล.ม.) ในนิมิต โยฮันได้มองเข้าไปในฟ้าสวรรค์ที่ประทับของพระยะโฮวาอันไม่ปรากฏแก่ตา ซึ่งอยู่ไกลเลยออกไปนอกอวกาศที่นักบินอวกาศได้สำรวจ กระทั่งไกลจนพ้นกาแล็กซีต่าง ๆ แห่งเอกภพซึ่งประกอบด้วยเทหวัตถุ. ราวกับว่าได้ผ่านประตูที่เปิดอยู่ โยฮันได้รับเชิญให้ชมภาพต่อเนื่องที่น่าระทึกใจของฟ้าสวรรค์สูงสุดแห่งกายวิญญาณ ที่ซึ่งพระยะโฮวาประทับบนราชบัลลังก์. (บทเพลงสรรเสริญ 11:4; ยะซายา 66:1) ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ!
3. เสียงที่เป็น “ดุจเสียงแตร” นั้นทำให้ระลึกถึงอะไร และผู้ใดคือแหล่งที่มาของเสียงนั้นอย่างไม่มีข้อสงสัย?
3 คัมภีร์ไบเบิลมิได้ระบุว่า “เสียงแรก” นี้เป็นเสียงใคร. เสียงนั้นดังเสมือนเสียงแตรบัญชาการ คล้ายกับพระสุรเสียงอันดังของพระเยซูที่ได้ยินก่อนหน้านี้. (วิวรณ์ 1:10, 11) เสียงนั้นทำให้นึกถึงเสียงแตรอันดังซึ่งเป็นสิ่งแสดงการประทับของพระยะโฮวา ณ ภูเขาไซนาย. (เอ็กโซโด 19:18-20) ไม่ต้องสงสัย พระยะโฮวาทรงเป็นแหล่งอันสง่าผ่าเผยแห่งการเรียกให้เข้าเฝ้า. (วิวรณ์ 1:1) พระองค์ทรงเปิดประตูเพื่อโยฮัน ในนิมิต จะสามารถเข้าไปยังสถานบริสุทธิ์ที่สุดในอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา.
การประทับอันรุ่งโรจน์ของพระยะโฮวา
4. (ก) นิมิตของโยฮันมีความหมายอย่างไรสำหรับคริสเตียนผู้ถูกเจิม? (ข) นิมิตนั้นมีความหมายอย่างไรสำหรับคนเหล่านั้นซึ่งความหวังของพวกเขาคือการมีชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลก?
4 โยฮันเห็นอะไร? ฟังสิ ขณะที่ท่านให้เรามีส่วนร่วมฟังประสบการณ์ยิ่งใหญ่ของท่าน: “แล้วทันใดนั้น ข้าพเจ้าก็ได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณ ดูเถิด! มีราชบัลลังก์ตั้งอยู่ในสวรรค์และมีผู้หนึ่งประทับบนราชบัลลังก์นั้น.” (วิวรณ์ 4:2, ล.ม.) ว่ากันในแง่วิญญาณ ชั่วพริบตาเท่านั้น พลังปฏิบัติการของพระเจ้าก็ได้นำโยฮันไปถึงราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา. น่าตื่นเต้นจริง ๆ สำหรับโยฮัน! ณ ที่นี่ ท่านได้เห็นภาพล่วงหน้าอันตระการตาของฟ้าสวรรค์ ที่ซึ่งท่านและคริสเตียนผู้ถูกเจิมคนอื่น ๆ มี “มรดกซึ่งไม่รู้เปื่อยเน่า ปราศจากมลทินและไม่ร่วงโรย” สงวนไว้. (1 เปโตร 1:3-5, ล.ม.; ฟิลิปปอย 3:20) นิมิตของโยฮันมีความหมายลึกซึ้งสำหรับคนเหล่านั้นซึ่งมีความหวังจะอยู่ตลอดไปบนแผ่นดินโลกเช่นกัน. นิมิตนี้ช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงสง่าราศีแห่งการประทับของพระยะโฮวาและความรุ่งโรจน์ของโครงสร้างการปกครองทางภาคสวรรค์ที่พระยะโฮวาทรงใช้เพื่อพิพากษานานาชาติและต่อจากนั้นเพื่อการปกครองมนุษยชาติบนแผ่นดินโลก. พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าแห่งการจัดระเบียบที่เลิศล้ำอย่างแท้จริง!
5. ความเป็นจริงอะไรที่โยฮันเห็นซึ่งฝาหีบสัญญาไมตรีเคยเป็นสัญลักษณ์เล็งถึง?
5 หลายสิ่งที่โยฮันสังเกตเห็นบนสวรรค์นั้นคล้ายคลึงกับลักษณะของพลับพลาประชุมในป่ากันดาร. พลับพลานี้ถูกสร้างขึ้นก่อนหน้านั้นประมาณ 1,600 ปี เพื่อเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งการนมัสการแท้ของพวกอิสราเอล. ในห้องบริสุทธิ์ที่สุดของพลับพลานั้นมีหีบสัญญาไมตรี และพระยะโฮวาทรงมีพระราชดำรัสจากเหนือฝาหีบที่ทำด้วยทองคำล้วน ๆ นั้นเอง. (เอ็กโซโด 25:17-22; เฮ็บราย 9:5) ดังนั้น ฝาหีบนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา. ตอนนี้โยฮันได้เห็นความเป็นจริงของสัญลักษณ์นั้น นั่นคือ พระยะโฮวาองค์บรมมหิศรประทับอย่างโอ่อ่าสง่างามบนราชบัลลังก์อันสูงยิ่งในสวรรค์!
6. โยฮันให้ความประทับใจแก่เราอย่างไรเกี่ยวด้วยพระยะโฮวา และทำไมสิ่งนี้จึงเหมาะสม?
6 ไม่เหมือนผู้พยากรณ์ในสมัยก่อนซึ่งได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา โยฮันไม่ได้พรรณนารายละเอียดขององค์บริสุทธิ์ที่ประทับบนราชบัลลังก์นั้น. (ยะเอศเคล 1:26, 27; ดานิเอล 7:9, 10) แต่โยฮันได้เผยแก่เราถึงความประทับใจที่ท่านมีต่อผู้ประทับบนราชบัลลังก์ ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้: “ลักษณะการปรากฏพระกายของผู้ที่ประทับอยู่นั้นประดุจหินแจสเพอร์และพลอยสีแดง และมีรุ้งที่เป็นดุจมรกตล้อมรอบราชบัลลังก์นั้น.” (วิวรณ์ 4:3, ล.ม.) ช่างเป็นความงดงามที่หาใดเสมอเหมือนมิได้! โยฮันเห็นความงดงามสดใสแวววาวประดุจความงามของอัญมณีที่ส่องประกายระยิบระยับ. ถ้อยคำนี้ช่างลงรอยอย่างเหมาะเจาะจริง ๆ กับคำพรรณนาที่สาวกยาโกโบกล่าวถึงพระยะโฮวาว่าทรงเป็น “พระบิดาแห่งดวงสว่างทั้งหลายแห่งฟ้าสวรรค์”! (ยาโกโบ 1:17, ล.ม.) หลังจากเขียนพระธรรมวิวรณ์ไม่นาน โยฮันเองได้กล่าวว่า “พระเจ้าเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย.” (1 โยฮัน 1:5) พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าผู้ทรงสง่าราศีอันงามเลิศอย่างแท้จริง!
7. เราสามารถเรียนรู้อะไรจากข้อเท็จจริงที่ว่า มีรุ้งอยู่ล้อมรอบราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา?
7 ขอให้สังเกตว่า โยฮันเห็นรุ้งล้อมรอบราชบัลลังก์ มีสีเขียวมรกต. คำภาษากรีกซึ่งในที่นี้ได้รับการแปลว่ารุ้ง (เอียร์อิส) บ่งลักษณะเป็นรูปวงกลมที่สมบูรณ์. มีการกล่าวถึงรุ้งเป็นครั้งแรกในคัมภีร์ไบเบิลในสมัยโนฮา. หลังจากน้ำแห่งมหาอุทกภัยลดลง พระยะโฮวาทรงบันดาลให้มีรุ้งปรากฏขึ้นที่เมฆ แล้วพระองค์ทรงอธิบายว่ารุ้งนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งใดดังนี้: “เราได้ตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ, และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งคำสัญญาในระหว่างเรากับโลก. เราจึงจะระลึกถึงคำสัญญาของเราในระหว่างเรากับเจ้าและบรรดาสัตว์ที่มีชีวิต; และน้ำจะไม่ท่วมล้างผลาญบรรดาเนื้อหนังอีกเลย.” (เยเนซิศ 9:13, 15) ถ้าเช่นนั้น นิมิตเกี่ยวกับสวรรค์ทำให้โยฮันระลึกถึงอะไร? รุ้งที่ท่านเห็นนั้นคงทำให้ท่านระลึกถึงความจำเป็นที่จะมีสัมพันธภาพอันสงบสุขกับพระยะโฮวา เช่นที่ชนจำพวกโยฮันมีอยู่ในทุกวันนี้. นอกจากนี้ รุ้งคงจะทำให้ท่านประทับใจเรื่องความสงบและสันติสุขเมื่อพระยะโฮวาประทับอยู่ อันเป็นความสงบสุขซึ่งแผ่ทั่วถึงมนุษย์ที่เชื่อฟังเมื่อพระยะโฮวาทรงกางพลับพลาของพระองค์คลุมมนุษยชาติในสังคมโลกใหม่.—บทเพลงสรรเสริญ 119:165; ฟิลิปปอย 4:7; วิวรณ์ 21:1-4.
การระบุตัวผู้ปกครอง 24 คน
8. โยฮันเห็นใครอยู่รอบราชบัลลังก์นั้น และคนเหล่านี้เป็นภาพแสดงถึงผู้ใด?
8 โยฮันทราบว่า ปุโรหิตได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในพลับพลาสมัยโบราณ. ดังนั้น ท่านคงประหลาดใจเมื่อแลเห็นสิ่งที่ท่านพรรณนาต่อไป: “มีบัลลังก์ยี่สิบสี่บัลลังก์อยู่ล้อมรอบราชบัลลังก์นั้น และข้าพเจ้าเห็นผู้ปกครองยี่สิบสี่คนสวมเสื้อคลุมสีขาวและสวมมงกุฎทองคำนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่านั้น.” (วิวรณ์ 4:4, ล.ม.) ใช่แล้ว แทนที่จะเป็นปุโรหิต กลับมีผู้ปกครอง 24 คน นั่งบนบัลลังก์และสวมมงกุฎอย่างกษัตริย์. ผู้ปกครองเหล่านี้เป็นใครกัน? พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชนผู้ถูกเจิมแห่งประชาคมคริสเตียนซึ่งได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายแล้วเข้ารับตำแหน่งในสวรรค์ที่พระยะโฮวาทรงสัญญาไว้. เราทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร?
9, 10. เหตุใดเราจึงทราบว่า ผู้ปกครอง 24 คนนั้นเป็นภาพแสดงถึงประชาคมคริสเตียนผู้ถูกเจิมซึ่งอยู่ในตำแหน่งฝ่ายสวรรค์อันทรงสง่าราศี?
9 ประการแรก พวกเขาสวมมงกุฎ. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่าได้รับ ‘มงกุฎที่ไม่รู้ร่วงโรย’ และบรรลุถึงชีวิตไม่สิ้นสุด—หรืออมตชีพนั่นเอง. (1 โกรินโธ 9:25; 15:53, 54) แต่เนื่องจากผู้ปกครองทั้ง 24 คนนี้นั่งอยู่บนบัลลังก์ มงกุฎทองคำในเนื้อความตอนนี้จึงแสดงถึงขัตติยอำนาจ. (เทียบกับวิวรณ์ 6:2; 14:14.) ข้อนี้สนับสนุนบทสรุปที่ว่า ผู้ปกครอง 24 คนนั้นเป็นภาพแสดงถึงสาวกผู้ถูกเจิมซึ่งดำเนินตามรอยพระบาทของพระเยซูในตำแหน่งของพวกเขาทางภาคสวรรค์ เนื่องจากพระเยซูได้ทำสัญญาจะให้พวกเขานั่งบนบัลลังก์ในราชอาณาจักรของพระองค์. (ลูกา 22:28-30) เฉพาะพระเยซูกับผู้ปกครอง 24 คนเท่านั้น—ไม่มีแม้กระทั่งทูตสวรรค์—ได้รับการพรรณนาว่าทำการปกครองในสวรรค์เฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา.
10 เรื่องนี้สอดคล้องกับสัญญาที่พระเยซูทรงทำไว้กับประชาคมลาโอดิเคียที่ว่า “เราจะให้ผู้ที่มีชัยนั่งกับเราบนบัลลังก์ของเรา.” (วิวรณ์ 3:21, ล.ม.) แต่หน้าที่มอบหมายทางภาคสวรรค์ของผู้ปกครอง 24 คนนี้มิได้จำกัดเฉพาะอำนาจทางการปกครอง. ในคำนำของพระธรรมวิวรณ์ โยฮันกล่าวถึงพระเยซูว่าพระองค์ “ทรงทำให้เราเป็นราชอาณาจักรและเป็นปุโรหิตของพระเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าและพระบิดาของพระองค์.” (วิวรณ์ 1:5, 6, ล.ม.) ผู้ปกครองเหล่านี้จึงเป็นทั้งกษัตริย์และปุโรหิต. “พวกเขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์ และจะปกครองเป็นกษัตริย์กับพระคริสต์เป็นเวลาหนึ่งพันปี.”—วิวรณ์ 20:6, ล.ม.
11. เพราะเหตุใดจึงเป็นการเหมาะสมที่จำนวนผู้ปกครองเหล่านั้นคือ 24 และจำนวนนี้มีความหมายอย่างไร?
11 ที่ว่าโยฮันเห็นผู้ปกครอง 24 คนล้อมรอบราชบัลลังก์นั้น เลข 24 มีความหมายสำคัญอย่างไร? ในหลาย ๆ ด้าน ผู้ปกครองเหล่านั้นมีภาพแสดงล่วงหน้าไว้โดยเหล่าปุโรหิตที่ซื่อสัตย์แห่งชาติอิสราเอลโบราณ. อัครสาวกเปโตรเขียนถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิมว่า “ท่านทั้งหลายเป็น ‘เชื้อสายที่ทรงเลือกไว้, เป็นคณะปุโรหิตหลวง, เป็นชาติบริสุทธิ์, เป็นชนชาติที่เป็นสมบัติพิเศษ.’” (1 เปโตร 2:9, ล.ม.) น่าสนใจ ปุโรหิตชาวยิวในสมัยโบราณมีการแบ่งออกเป็น 24 กลุ่ม. แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้รับใช้เฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวาตามสัปดาห์ที่ตนได้รับมอบหมายในปีนั้น ๆ เพื่อให้มีการถวายงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ขาดระยะ. (1 โครนิกา 24:5-19) ฉะนั้น จึงนับว่าเหมาะสมที่มีผู้ปกครอง 24 คนอยู่ในตำแหน่งปุโรหิตทางภาคสวรรค์ตามการพรรณนาในนิมิตของโยฮัน เพราะว่าปุโรหิตเหล่านี้รับใช้พระยะโฮวาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน. เมื่ออยู่ครบถ้วนก็จะมี 24 กลุ่มด้วยกัน แต่ละกลุ่มประกอบไปด้วย 6,000 คนซึ่งเป็นผู้ชนะโลกแล้ว เนื่องจากพระธรรมวิวรณ์ 14:1-4 (ล.ม.) บอกเราว่า 144,000 (24 × 6,000) คน “ถูกซื้อจากท่ามกลางมนุษย์” เพื่อยืนอยู่บนภูเขาซีโอนฝ่ายสวรรค์กับพระเมษโปดกคือ พระเยซูคริสต์. เนื่องจากเลข 12 แสดงถึงองค์การที่สมดุลของพระเจ้า จำนวน 24 จึงเป็นการเพิ่มเป็นสองเท่า หรือเสริมกำลัง แก่การจัดเตรียมนั้น.
ฟ้าแลบ เสียงพูด และเสียงฟ้าร้อง
12. โยฮันเห็นและได้ยินอะไรต่อไป และ “ฟ้าแลบ เสียงพูด และเสียงฟ้าร้อง” นั้นทำให้ระลึกถึงอะไร?
12 โยฮันเห็นและได้ยินอะไรถัดจากนั้น? “มีฟ้าแลบ เสียงพูด และเสียงฟ้าร้องออกมาจากราชบัลลังก์นั้น.” (วิวรณ์ 4:5ก, ล.ม.) ช่างทำให้รำลึกถึงการสำแดงพระเดชานุภาพอันน่าครั่นคร้ามของพระยะโฮวาในคราวอื่น ๆ เสียจริง! ตัวอย่างเช่น คราวที่พระยะโฮวา “เสด็จลงมา” ที่ภูเขาไซนาย โมเซรายงานว่า “อยู่มาพอถึงรุ่งเช้าวันที่สามก็บังเกิดฟ้าร้องฟ้าแลบ มีเมฆอันหนาทึบหุ้มภูเขานั้นไว้ กับมีเสียงแตรดังสนั่นยิ่ง. . . . เมื่อเสียงแตรยิ่งดังขึ้น ๆ โมเซได้กราบทูลอัญเชิญพระเจ้า และพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียงตรัสตอบ.”—เอ็กโซโด 19:16-19.
13. ฟ้าแลบที่ออกมาจากพระที่นั่งของพระยะโฮวานั้นเป็นภาพเล็งถึงสิ่งใด?
13 ในระหว่างวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระยะโฮวาทรงสำแดงฤทธิ์เดชและการประทับของพระองค์อย่างสง่าผ่าเผย. เปล่า ไม่ใช่ด้วยฟ้าแลบจริง ๆ เนื่องจากสิ่งที่โยฮันเห็นนั้นเป็นสัญลักษณ์. ดังนั้นแล้ว ฟ้าแลบแสดงถึงสิ่งใด? แสงของฟ้าแลบให้ความสว่างได้ แต่ก็ทำให้คนตายได้. ฉะนั้น ฟ้าแลบที่ออกมาจากราชบัลลังก์ของพระยะโฮวาจึงเป็นภาพแสดงความสว่างแห่งความเข้าใจซึ่งพระองค์ประทานแก่ประชาชนของพระองค์อย่างต่อเนื่องและ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น หมายถึงข่าวสารการพิพากษาอันร้อนแรงของพระองค์.—เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 18:14; 144:5, 6; มัดธาย 4:14-17; 24:27.
14. ในทุกวันนี้ เสียงพูดได้มีการเปล่งออกไปอย่างไร?
14 เสียงพูดนั้นล่ะหมายถึงอะไร? ขณะที่พระยะโฮวาเสด็จลงมาที่ภูเขาไซนาย มีพระสุรเสียงตรัสกับโมเซ. (เอ็กโซโด 19:19) พระสุรเสียงจากสวรรค์แจ้งคำบัญชาและคำแถลงหลายข้อหลายประการในพระธรรมวิวรณ์. (วิวรณ์ 4:1; 10:4, 8; 11:12; 12:10; 14:13; 16:1, 17; 18:4; 19:5; 21:3) ทุกวันนี้ พระยะโฮวาก็ทรงแจ้งคำบัญชาและคำแถลงแก่ประชาชนของพระองค์ เป็นการทำให้พวกเขาเข้าใจกระจ่างเกี่ยวกับคำพยากรณ์และหลักการต่าง ๆ ในพระคัมภีร์. ความรู้ที่กระจ่างมักมีการเปิดเผยออกมา ณ การประชุมนานาชาติ แล้วหลังจากนั้น ความจริงเหล่านั้นในคัมภีร์ไบเบิลก็ได้รับการประกาศไปทั่วโลก. อัครสาวกเปาโลกล่าวถึงผู้ประกาศข่าวดีที่ซื่อสัตย์ว่า “เออจริง ‘เสียงของเขาได้ลั่นออกไปทั่วตลอดแผ่นดินโลก และคำของเขาได้บันลือไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก.’”—โรม 10:18.
15. เสียงฟ้าร้องอะไรที่ได้ดังออกไปจากราชบัลลังก์นั้นในระหว่างช่วงนี้แห่งวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า?
15 ปกติแล้วเสียงฟ้าร้องจะเกิดขึ้นหลังจากฟ้าแลบ. ดาวิดพูดถึงฟ้าร้องจริง ๆ ว่าเป็น “พระสุรเสียงของพระยะโฮวา.” (บทเพลงสรรเสริญ 29:3, 4) เมื่อพระยะโฮวาทรงช่วยดาวิดต่อสู้ศัตรูของท่าน มีการกล่าวว่า ฟ้าร้องมาจากพระองค์. (2 ซามูเอล 22:14; บทเพลงสรรเสริญ 18:13) อะลีฮูบอกโยบว่า พระสุรเสียงของพระยะโฮวาดังปานฟ้าร้อง เนื่องจากพระองค์ทรงกระทำ “การใหญ่ยิ่งซึ่งเราเข้าใจไม่ได้.” (โยบ 37:4, 5) ในช่วงนี้ของวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า พระยะโฮวาทรงเปล่งพระสุรเสียงดุจ “เสียงฟ้าร้อง” เตือนให้รู้ถึงการใหญ่โตซึ่งพระองค์จะทรงกระทำต่อพวกศัตรูของพระองค์. เสียงฟ้าร้องก้องกระหึ่มโดยนัยนี้ดังก้องครั้งแล้วครั้งเล่าไปทั่วโลก. คุณจะมีความสุขถ้าคุณเอาใจใส่ในคำแถลงอันอุโฆษเหล่านี้ และใช้ลิ้นของคุณอย่างฉลาดด้วยการทำให้เสียงนี้ดังยิ่ง ๆ ขึ้น!—ยะซายา 50:4, 5; 61:1, 2.
ตะเกียงเจ็ดดวงและทะเลแก้ว
16. “ตะเกียงเจ็ดดวง” นั้นหมายถึงอะไร?
16 โยฮันเห็นอะไรต่อจากนั้น? นั่นคือ: “อีกทั้งมีตะเกียงเจ็ดดวงจุดไว้ตรงหน้าราชบัลลังก์นั้น ตะเกียงเจ็ดดวงหมายถึงพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า. ข้างหน้าราชบัลลังก์นั้นมีสิ่งที่ดูเหมือนเป็นทะเลแก้วที่ใสดังผลึก.” (วิวรณ์ 4:5ข, 6ก, ล.ม.) โยฮันเองบอกเราถึงความสำคัญของตะเกียงเจ็ดดวงนั้นว่า “ตะเกียงเจ็ดดวงหมายถึงพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า.” เลขเจ็ดแสดงถึงความครบถ้วนสมบูรณ์เกี่ยวกับพระเจ้า. ดังนั้น ตะเกียงเจ็ดดวงต้องหมายถึงความครบถ้วนสมบูรณ์แห่งพลังพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ให้ความเข้าใจกระจ่าง. ชนจำพวกโยฮันในทุกวันนี้รู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ได้รับมอบความสว่างฝ่ายวิญญาณ พร้อมกับความรับผิดชอบในการถ่ายทอดความรู้นั้นไปยังผู้คนที่หิวกระหายฝ่ายวิญญาณบนแผ่นดินโลก! เราปีติยินดีสักเพียงไรที่แต่ละปีวารสารหอสังเกตการณ์ หลายร้อยล้านเล่มยังคงฉายความสว่างนี้ออกไปในภาษาต่าง ๆ ราว 150 ภาษา!—บทเพลงสรรเสริญ 43:3.
17. “ทะเลแก้วที่ใสดังผลึก” นั้นเป็นสัญลักษณ์ถึงสิ่งใด?
17 นอกจากนี้ โยฮันยังเห็น “ทะเลแก้วที่ใสดังผลึก.” สิ่งนี้แสดงนัยถึงอะไรเกี่ยวกับคนเหล่านั้นที่ได้รับเชิญให้เข้ามาในราชสำนักของพระยะโฮวาในสวรรค์? เปาโลได้พูดถึงวิธีที่พระเยซูทรงทำให้ประชาคมบริสุทธิ์ว่า “ทรงชำระประชาคมด้วยน้ำโดยทางพระวจนะ.” (เอเฟโซ 5:26, ล.ม.) ก่อนการวายพระชนม์ของพระองค์ พระเยซูตรัสแก่สาวกของพระองค์ว่า “เจ้าทั้งหลายสะอาดแล้วเนื่องด้วยถ้อยคำที่เราได้กล่าวแก่เจ้า.” (โยฮัน 15:3, ล.ม.) ด้วยเหตุนี้ ทะเลแก้วที่ใสดังผลึกนี้คงต้องแสดงนัยถึงพระคำของพระเจ้าที่ได้บันทึกไว้ซึ่งชำระให้สะอาด. เหล่าปุโรหิตหลวงซึ่งจะเข้าเฝ้าพระยะโฮวาต้องได้รับการชำระให้สะอาดด้วยพระคำของพระองค์.
ดูสิ—“สิ่งมีชีวิตสี่องค์”!
18. โยฮันเห็นอะไรในท่ามกลางและรอบราชบัลลังก์นั้น?
18 ตอนนี้ โยฮันสังเกตเห็นอีกสิ่งหนึ่ง. ท่านเขียนว่า “ตรงกลางราชบัลลังก์และรอบราชบัลลังก์นั้นมีสิ่งมีชีวิตสี่องค์ซึ่งมีตาอยู่เต็มทั้งข้างหน้าและข้างหลัง.”—วิวรณ์ 4:6ข, ล.ม.
19. สิ่งมีชีวิตสี่องค์นั้นเป็นภาพเล็งถึงอะไร และเราทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร?
19 สิ่งมีชีวิตสี่องค์นี้เป็นภาพแสดงถึงอะไร? นิมิตหนึ่งที่ผู้พยากรณ์อีกคนหนึ่ง คือยะเอศเคล ได้เขียนไว้ช่วยให้เราทราบคำตอบ. ยะเอศเคลเห็นพระยะโฮวาประทับบนราชรถในสวรรค์ ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่ตามไปนั้นมีรูปลักษณะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่โยฮันพรรณนาถึง. (ยะเอศเคล 1:5-11, 22-28) ต่อมา ยะเอศเคลได้เห็นราชบัลลังก์บนราชรถนั้นอีกซึ่งล้อมรอบด้วยสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น. แต่คราวนี้ยะเอศเคลกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตนั้นว่าเป็นคะรูบ. (ยะเอศเคล 10:9-15) สิ่งมีชีวิตสี่องค์ที่โยฮันเห็นจึงต้องหมายถึงคะรูบของพระเจ้าซึ่งมีจำนวนมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีตำแหน่งสูงในองค์การฝ่ายวิญญาณของพระองค์. โยฮันคงไม่คิดว่าการเห็นคะรูบในตำแหน่งที่ใกล้ชิดอย่างยิ่งกับพระยะโฮวาเป็นสิ่งผิดปกติ เนื่องจากในการจัดเตรียมพลับพลาสมัยโบราณก็มีคะรูบทองคำสององค์ตั้งอยู่บนฝาหีบสัญญาไมตรี ซึ่งหมายถึงราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา. จากระหว่างคะรูบทั้งสองนั่นเองที่พระยะโฮวาทรงเปล่งพระสุรเสียงตรัสข้อบัญญัติต่าง ๆ แก่ชนชาตินั้น.—เอ็กโซโด 25:22; บทเพลงสรรเสริญ 80:1.
20. ในทางใดซึ่งอาจกล่าวได้ว่า สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นอยู่ “ตรงกลางบัลลังก์และรอบราชบัลลังก์นั้น”?
20 สิ่งมีชีวิตสี่องค์นี้อยู่ “ตรงกลางบัลลังก์และรอบราชบัลลังก์นั้น.” นี่หมายความอย่างไร? อาจมีความหมายว่า สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นอยู่ในตำแหน่งล้อมรอบราชบัลลังก์ในลักษณะที่ว่า แต่ละองค์ยืนอยู่ตรงกลางของแต่ละด้าน. ดังนั้น ผู้แปลพระคัมภีร์ฉบับทูเดส์ อิงลิช เวอร์ชัน ได้ถอดความตามคำกล่าวดั้งเดิมในภาษากรีกดังนี้: “ล้อมรอบราชบัลลังก์แต่ละด้าน.” หรือไม่ก็ข้อความนี้อาจหมายความว่า สิ่งมีชีวิตสี่องค์นั้นอยู่ตรงกลางสวรรค์ซึ่งราชบัลลังก์ตั้งอยู่เลยทีเดียว. ดูเหมือนนี่อาจเป็นเหตุผลที่พระคัมภีร์ฉบับ เดอะ เจรูซาเลม ไบเบิล แปลข้อความนี้ว่า “ตรงกลางนั้น และตั้งอยู่ล้อมรอบบัลลังก์นั่นเอง.” สิ่งที่สำคัญคือความใกล้ชิดของเหล่าคะรูบกับราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา เช่นเดียวกับคะรูบที่ยะเอศเคลเห็นประจำอยู่ตรงแต่ละมุมของราชรถฝ่ายองค์การของพระยะโฮวา. (ยะเอศเคล 1:15-22) ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับถ้อยคำในบทเพลงสรรเสริญ 99:1 ที่ว่า “พระยะโฮวาทรงครอบครองอยู่. . . . พระองค์ทรงประทับเหนือคะรูบ.”
21, 22. (ก) โยฮันพรรณนาสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นั้นอย่างไร? (ข) ลักษณะของสิ่งมีชีวิตแต่ละองค์ในสิ่งมีชีวิตทั้งสี่องค์นั้นเป็นภาพแสดงถึงสิ่งใด?
21 โยฮันบอกต่อไปว่า “สิ่งมีชีวิตองค์ที่หนึ่งเหมือนสิงโต สิ่งมีชีวิตองค์ที่สองเหมือนวัวหนุ่ม สิ่งมีชีวิตองค์ที่สามมีหน้าเหมือนมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตองค์ที่สี่เหมือนนกอินทรีที่บินอยู่.” (วิวรณ์ 4:7, ล.ม.) เหตุใดสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นี้จึงมีหน้าตาแตกต่างกันเช่นนี้? เห็นได้ชัดว่า ลักษณะพิเศษของสิ่งมีชีวิตทั้งสี่นี้เน้นถึงคุณลักษณะเฉพาะของพระเจ้า. ทีแรกมีสิงโต. ในคัมภีร์ไบเบิลมีการใช้สิงโตเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ โดยเฉพาะในด้านการดำเนินตามความยุติธรรมและความชอบธรรม. (2 ซามูเอล 17:10; สุภาษิต 28:1) ดังนั้น สิงโตจึงแสดงถึงคุณลักษณะของพระเจ้าเป็นอย่างดีในด้านความยุติธรรมอย่างกล้าหาญ. (พระบัญญัติ 32:4; บทเพลงสรรเสริญ 89:14) สิ่งมีชีวิตองค์ที่สองนั้นคล้ายโคหนุ่มตัวผู้. โคผู้ทำให้คุณนึกถึงคุณลักษณะอะไร? สำหรับพวกอิสราเอลโคเป็นสมบัติอันมีค่าเนื่องมาจากกำลังอันแข็งแรงของมัน. (สุภาษิต 14:4; ดูโยบ 39:9-11 ด้วย.) ฉะนั้น โคหนุ่มตัวผู้จึงแสดงถึงฤทธิ์อำนาจ พลานุภาพอันจะได้จากพระยะโฮวา.—บทเพลงสรรเสริญ 62:11; ยะซายา 40:26.
22 สิ่งมีชีวิตองค์ที่สามมีใบหน้าเหมือนมนุษย์. ทั้งนี้คงต้องแสดงถึงความรักในลักษณะที่พระเจ้าทรงมี เนื่องจากบนแผ่นดินโลกก็มีมนุษย์เท่านั้นที่ถูกสร้างตามแบบพระฉายของพระเจ้า พร้อมด้วยคุณลักษณะอันเลิศคือความรัก. (เยเนซิศ 1:26-28; มัดธาย 22:36-40; 1 โยฮัน 4:8, 16) ไม่ต้องสงสัย เหล่าคะรูบแสดงถึงคุณลักษณะนี้ขณะทำการรับใช้รอบ ๆ ราชบัลลังก์ของพระยะโฮวา. แล้วสิ่งมีชีวิตองค์ที่สี่เป็นอย่างไร? สิ่งมีชีวิตองค์ที่สี่นี้มีลักษณะเหมือนนกอินทรีที่กำลังบินอยู่. พระยะโฮวาเองทรงเตือนให้เราสนใจกำลังสายตาอันยอดเยี่ยมของนกอินทรีดังนี้: “ตาของมันมองเห็นในระยะทางไกล.” (โยบ 39:29) ด้วยเหตุนี้ นกอินทรีจึงเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสติปัญญาที่มองเห็นการณ์ไกล. พระยะโฮวาทรงเป็นบ่อเกิดแห่งสติปัญญา. คะรูบของพระองค์แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาจากพระองค์ขณะที่พวกเขาเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์.—สุภาษิต 2:6; ยาโกโบ 3:17.
คำสรรเสริญแด่พระยะโฮวาดังกึกก้อง
23. ข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งมีชีวิตทั้งสี่องค์นั้น “มีตาอยู่เต็มไปหมด” แสดงถึงอะไร และการที่พวกเขามีปีกสามคู่นั้นเน้นความสำคัญของสิ่งใด?
23 โยฮันพรรณนาต่อไปว่า “สิ่งมีชีวิตสี่องค์นั้นแต่ละองค์มีปีกหกปีก ปีกเหล่านั้นมีตาอยู่เต็มไปหมดรวมทั้งด้านในของปีกด้วย. สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพูดทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หยุดเลยว่า ‘บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยะโฮวาพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ ผู้ทรงเป็นอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ และเป็นผู้ซึ่งจะเสด็จมา.’” (วิวรณ์ 4:8, ล.ม.) การมีตาอยู่โดยรอบเช่นนี้ชี้ถึงการมองเห็นได้อย่างทั่วถึงและเห็นกว้างไกล. สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ใช้การมองเช่นนี้อย่างไม่หยุดหย่อน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องนอนหลับ. พวกเขาเลียนแบบพระองค์ผู้นั้นซึ่งมีการเขียนเกี่ยวกับพระองค์ไว้ว่า “ส่วนพระยะโฮวา พระเนตรของพระองค์กวาดมองไปทั่วแผ่นดินโลกเพื่อจะสำแดงฤทธิ์ของพระองค์เพื่อคนเหล่านั้นที่มีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวต่อพระองค์.” (2 โครนิกา 16:9, ล.ม.) เนื่องจากมีตามากมาย พวกคะรูบจึงสามารถมองเห็นทั่วทุกหนทุกแห่ง. ไม่มีอะไรที่จะรอดพ้นไปจากการเฝ้ามองของพวกเขาได้. ดังนั้น เหล่าคะรูบจึงถูกเตรียมไว้พร้อมที่จะรับใช้พระเจ้าในงานพิพากษาของพระองค์. มีการกล่าวถึงพระองค์ว่า “พระเนตรของพระยะโฮวาอยู่ทั่วทุกแห่ง. เฝ้าดูทั้งคนชั่วและคนดี.” (สุภาษิต 15:3) และที่ว่าแต่ละองค์มีปีกสามคู่—ในคัมภีร์ไบเบิลใช้เลขสามเพื่อกล่าวย้ำ—แสดงว่าคะรูบเหล่านั้นสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วดุจสายฟ้าแลบเพื่อป่าวประกาศข่าวการพิพากษาของพระยะโฮวาและดำเนินการตามนั้น.
24. พวกคะรูบนั้นถวายคำสรรเสริญแด่พระยะโฮวาอย่างไร และพร้อมด้วยมีความหมายสำคัญอย่างไร?
24 ฟังสิ! บทเพลงสรรเสริญที่คะรูบเหล่านั้นร้องถวายแด่พระยะโฮวาช่างไพเราะและเร้าใจ: “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยะโฮวาพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ ผู้ทรงเป็นอยู่ในกาลก่อน ผู้ทรงเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ และเป็นผู้ซึ่งจะเสด็จมา.” อีกครั้งหนึ่ง การกล่าวสามครั้งเป็นการย้ำถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง. คะรูบเหล่านั้นยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาพระเจ้าอย่างหนักแน่น. พระองค์ทรงเป็นแหล่งและเป็นมาตรฐานอันสูงส่งแห่งความบริสุทธิ์. พระองค์ยังทรงเป็น “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระเจริญนิรันดร์” และทรงเป็น “อัลฟาและโอเมกา เป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย” เสมอ. (1 ติโมเธียว 1:17; วิวรณ์ 22:13, ล.ม.) คะรูบเหล่านั้นไม่หยุดพักขณะที่พวกเขาทำการประกาศให้สรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างทราบคุณลักษณะอันหาที่เปรียบไม่ได้ของพระยะโฮวา.
25. สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นและผู้ปกครองทั้ง 24 คนนั้นร่วมกันในการสรรเสริญพระยะโฮวาอย่างไร?
25 ฟ้าสวรรค์แห่งฟ้าสวรรค์ทั้งหลายกึกก้องด้วยเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญพระยะโฮวา! คำพรรณนาของโยฮันบอกต่อไปว่า “เมื่อใดที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นกล่าวถึงความรุ่งโรจน์ เกียรติยศ และกล่าวขอบพระคุณพระองค์ผู้ประทับบนราชบัลลังก์ ผู้ทรงพระชนม์ตลอดไปเป็นนิตย์ ผู้ปกครองยี่สิบสี่คนนั้นจะหมอบลงเฉพาะพระพักตร์พระองค์ผู้ประทับบนราชบัลลังก์และนมัสการพระองค์ผู้ทรงพระชนม์ตลอดไปเป็นนิตย์ และพวกเขาจะโยนมงกุฎของตนลงตรงหน้าราชบัลลังก์นั้นแล้วทูลว่า ‘พระยะโฮวา พระเจ้าของพวกข้าพเจ้า พระองค์ทรงคู่ควรจะได้รับเกียรติยศ ความนับถือ และอำนาจ เพราะพระองค์ทรงสร้างทุกสิ่ง สิ่งเหล่านั้นดำรงอยู่และถูกสร้างขึ้นตามที่พระองค์ทรงประสงค์.’” (วิวรณ์ 4:9-11, ล.ม.) ในพระคัมภีร์ทั้งหมด นี่เป็นการแถลงความจงรักภักดีครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งที่มีต่อพระยะโฮวา พระเจ้าและองค์บรมมหิศรของเรา!
26. เพราะเหตุใดผู้ปกครองทั้ง 24 คนจึงโยนมงกุฎของตนลงตรงเบื้องหน้าพระยะโฮวา?
26 ผู้ปกครองทั้ง 24 คนมีเจตคติอย่างเดียวกันกับที่พระเยซูทรงแสดงให้เห็น ถึงขนาดถอดมงกุฎของพวกเขาโยนลงต่อพระพักตร์พระยะโฮวา. พวกเขาไม่เคยคิดที่จะยกตนเองให้สูงเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า. พวกเขายอมรับด้วยความถ่อมตนว่า จุดประสงค์อย่างเดียวเท่านั้นในการที่พวกเขาเป็นกษัตริย์ก็คือเพื่อนำพระเกียรติและสง่าราศีมาสู่พระองค์ อย่างที่พระเยซูทรงกระทำเสมอมา. (ฟิลิปปอย 2:5, 6, 9-11) ด้วยความถ่อม พวกเขายอมรับความต่ำต้อยของตนเองและยอมรับว่า อำนาจการปกครองของพวกเขาขึ้นอยู่กับพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา. ฉะนั้น พวกเขาจึงร่วมประสานอย่างจริงใจกับพวกคะรูบและสิ่งอื่น ๆ ที่พระเจ้าสร้างที่ซื่อสัตย์ในการถวายคำสรรเสริญและสง่าราศีแด่พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง.—บทเพลงสรรเสริญ 150:1-6.
27, 28. (ก) การพรรณนาถึงนิมิตเรื่องนี้ของโยฮันน่าจะมีผลกระทบต่อเราอย่างไร? (ข) เกิดมีคำถามอะไรขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่โยฮันเห็นและได้ยินในลำดับต่อไป?
27 ใครจะนิ่งเฉยอยู่ได้เมื่ออ่านคำบรรยายของโยฮันเกี่ยวกับนิมิตนี้? นิมิตนี้ช่างสง่างามล้ำเลิศจริง ๆ! แต่ความเป็นจริงจะต้องเป็นเช่นไร? ความเลอเลิศของพระยะโฮวานี่เองจะกระตุ้นใครก็ตามที่มีหัวใจหยั่งรู้ค่าให้เข้าร่วมกับสิ่งมีชีวิตทั้งสี่และผู้ปกครองทั้ง 24 คนในการสรรเสริญพระองค์ ทั้งในการอธิษฐานและในการประกาศพระนามของพระองค์อย่างเปิดเผย. พระเจ้าองค์นี้แหละที่ชนคริสเตียนได้รับสิทธิพิเศษให้เป็นพยานถึงในทุกวันนี้. (ยะซายา 43:10) พึงจำไว้ว่า นิมิตของโยฮันเกี่ยวข้องกับวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งขณะนี้พวกเราอยู่ในช่วงเวลานั้น. “พระวิญญาณทั้งเจ็ด” อยู่พร้อมเสมอที่จะชี้แนะและหนุนกำลังเรา. (ฆะลาเตีย 5:16-18) ทุกวันนี้ พระคำของพระเจ้ามีอยู่พร้อมเพื่อช่วยเราให้เป็นคนบริสุทธิ์ในการรับใช้พระเจ้าองค์บริสุทธิ์. (1 เปโตร 1:14-16) แน่นอน เรายินดีอ่านออกเสียงคำพยากรณ์นี้. (วิวรณ์ 1:3) คำพยากรณ์เหล่านี้ช่างทำให้มีแรงกระตุ้นจริง ๆ ให้สัตย์ซื่อต่อพระยะโฮวาและไม่ยอมให้โลกนี้ทำให้เราหันออกไปจากการร้องสรรเสริญพระองค์อย่างกระตือรือร้น!—1 โยฮัน 2:15-17.
28 ถึงตอนนี้ โยฮันได้พรรณนาสิ่งที่ท่านเห็นเมื่อท่านได้รับเชิญให้ผ่านเข้าไปในประตูที่เปิดอยู่ในสวรรค์. ที่เด่นที่สุด ท่านรายงานว่า พระยะโฮวาประทับบนราชบัลลังก์ของพระองค์ในสวรรค์ด้วยพระเดชานุภาพและเกียรติยศอันล้ำเลิศทุกประการของพระองค์. ล้อมรอบพระองค์มีองค์การที่ทรงอำนาจสูงสุด เปล่งประกายด้วยความสง่างามและความซื่อสัตย์ภักดี. ศาลของพระเจ้ากำลังเปิดประชุม. (ดานิเอล 7:9, 10, 18) ฉากเหตุการณ์นั้นถูกจัดไว้สำหรับเหตุการณ์พิเศษที่จะอุบัติขึ้น. สิ่งนั้นคืออะไร และสิ่งนั้นมีผลกระทบเราอย่างไรในทุกวันนี้? ขอให้เราเฝ้าดูขณะที่ฉากนั้นเปิดออก!
[ภาพหน้า 75]
[ภาพหน้า 78]