บท 22
วิบัติประการแรก—ตั๊กแตน
1. ผู้ใดติดตามมาเมื่อเหล่าทูตสวรรค์เป่าแตร และเสียงแตรตัวที่ห้าแจ้งถึงอะไร?
ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเตรียมจะเป่าแตรของท่าน. มีการเป่าแตรไปแล้วสี่ตัวในสวรรค์ และภัยพิบัติสี่ประการก็ได้ถูกส่งมายังหนึ่งในสามส่วนของโลกที่พระยะโฮวาทรงเห็นว่าน่าตำหนิที่สุด นั่นคือคริสต์ศาสนจักร. สภาพที่ป่วยปางตายของคริสต์ศาสนจักรถูกเปิดเผย. ขณะที่ทูตสวรรค์เป่าแตร มนุษย์ก็ประกาศต่อจนลุล่วงบนแผ่นดินโลก. ตอนนี้ แตรตัวที่ห้าของทูตสวรรค์กำลังจะประกาศถึงวิบัติประการแรก ซึ่งน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว. วิบัตินี้เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติน่ากลัวจากฝูงตั๊กแตน. แต่ก่อนอื่น ขอให้เราพิจารณาข้อคัมภีร์อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเราให้เข้าใจภัยพิบัตินี้ดีขึ้น.
2. พระธรรมเล่มใดของพระคัมภีร์ที่พรรณนาถึงภัยพิบัติเกี่ยวกับตั๊กแตนซึ่งคล้ายคลึงกับที่โยฮันเห็น และมีผลกระทบอย่างไรต่ออิสราเอลโบราณ?
2 พระธรรมโยเอลซึ่งเขียนในช่วงศตวรรษที่เก้าก่อนสากลศักราชนั้นพรรณนาถึงภัยพิบัติจากแมลงต่าง ๆ รวมทั้งตั๊กแตน ซึ่งคล้ายคลึงกับภัยพิบัติที่โยฮันเห็น. (โยเอล 2:1-11, 25)a ภัยพิบัตินั้นก่อความทุกข์ร้อนมากให้กับชาติอิสราเอลที่ออกหาก แต่ก็ยังผลให้ชาวยิวเป็นรายบุคคลกลับใจและกลับมาสู่ความโปรดปรานของพระยะโฮวาอีก. (โยเอล 2:6, 12-14) เมื่อเวลานั้นมาถึง พระยะโฮวาจะทรงเทพระวิญญาณของพระองค์ลงบน “มนุษย์ทั้งปวง” ขณะที่จะมีสัญลักษณ์ที่น่าหวาดกลัวและสิ่งบอกเหตุเตือนภัยก่อนที่ “วันใหญ่ยิ่งอันน่ากลัวของพระยะโฮวา” จะมาถึง.—โยเอล 2:11, 28-32.
ภัยพิบัติในศตวรรษแรก
3, 4. (ก) โยเอลบท 2 สำเร็จเป็นจริงเมื่อไร และอย่างไร? (ข) เกิดมีภัยพิบัติเหมือนกับฝูงตั๊กแตนในศตวรรษแรกอย่างไร และภัยพิบัตินั้นดำเนินอยู่นานเท่าไร?
3 พระธรรมโยเอลบทที่ 2 สำเร็จเป็นจริงในศตวรรษแรก. ตอนนั้น วันเพนเทคอสต์ ปีสากลศักราช 33 ซึ่งมีการเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงเจิมคริสเตียนพวกแรกและทำให้พวกเขาสามารถพูดถึง “การอิทธิฤทธิ์ของพระเจ้า” เป็นภาษาต่าง ๆ ซึ่งยังผลให้ฝูงชนจำนวนมากมาชุมนุมกัน. อัครสาวกเปโตรพูดกับผู้คนที่มายืนดูด้วยความประหลาดใจ โดยยกโยเอล 2:28, 29 ขึ้นมากล่าวและอธิบายว่า พวกเขากำลังเป็นประจักษ์พยานถึงความสำเร็จของข้อคัมภีร์นี้. (กิจการ 2:1-21) แต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับภัยพิบัติจากแมลงจริง ๆ ในเวลานั้นซึ่งก่อความทุกข์ร้อนแก่บางคนและชักนำให้บางคนกลับใจเสียใหม่.
4 มีภัยพิบัติโดยนัยในสมัยนั้นหรือไม่? มีแน่นอน! ภัยพิบัตินั้นเป็นผลสืบเนื่องจากการประกาศอย่างไม่หยุดหย่อนของเหล่าคริสเตียนที่เพิ่งได้รับการเจิม.b โดยผ่านทางพวกเขา พระยะโฮวาทรงเชิญชวนชาวยิวที่รับฟังให้กลับใจเสียใหม่และรับพระพรจากพระองค์. (กิจการ 2:38-40; 3:19) ปัจเจกบุคคลที่ตอบรับได้รับความโปรดปรานอย่างอุดมจากพระองค์. แต่สำหรับผู้ที่ปฏิเสธคำเชิญนั้น คริสเตียนในศตวรรษแรกกลายเป็นดั่งฝูงตั๊กแตนที่คอยก่อกวนทำลาย. โดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเลม คริสเตียนเหล่านี้ได้กระจายไปทั่วมณฑลยูดายและซะมาเรีย. ในไม่ช้า พวกเขาก็อยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทรมานชาวยิวที่ไม่เชื่อโดยประกาศอย่างเปิดเผยถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู พร้อมทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่สิ่งนี้ครอบคลุมไปถึง. (กิจการ 1:8; 4:18-20; 5:17-21, 28, 29, 40-42; 17:5, 6; 21:27-30) ภัยพิบัตินั้นดำเนินเรื่อยไปจนกระทั่ง “วันอันน่ากลัว” ในปีสากลศักราช 70 เมื่อพระยะโฮวาทรงนำกองทัพโรมันมาต่อสู้เยรูซาเลมเพื่อทำลายกรุงนี้. เฉพาะแต่คริสเตียนซึ่งร้องออกพระนามของพระยะโฮวาด้วยความเชื่อเท่านั้นที่รอด.—โยเอล 2:32; กิจการ 2:20, 21; สุภาษิต 18:10.
ภัยพิบัติตั๊กแตนในปัจจุบัน
5. คำพยากรณ์ของโยเอลได้สำเร็จเป็นจริงอย่างไรนับตั้งแต่ปี 1919?
5 เราจะคาดหมายได้อย่างมีเหตุผลว่าคำพยากรณ์ของโยเอลจะสำเร็จเป็นจริงครั้งสุดท้ายในสมัยอวสาน. เรื่องนี้ปรากฏว่าเป็นจริง! ณ การประชุมใหญ่ของนักศึกษาพระคัมภีร์ที่ซีดาร์ พอยต์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 1-8 กันยายน 1919 การหลั่งพระวิญญาณครั้งสำคัญของพระยะโฮวาได้กระตุ้นประชาชนของพระองค์ให้จัดการรณรงค์ประกาศไปทั่วโลก. ในบรรดาผู้ที่ประกาศตัวเป็นคริสเตียน พวกเขาพวกเดียว โดยตระหนักดีว่าพระเยซูทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ภาคสวรรค์แล้ว จึงไม่ละความพยายามในการประกาศข่าวดีนั้นไปยังประเทศอื่น ๆ. การให้คำพยานไม่หยุดหย่อน ซึ่งสำเร็จเป็นจริงตามคำพยากรณ์นั้น ได้กลายเป็นภัยพิบัติที่ทรมานคริสต์ศาสนจักรที่ออกหาก.—มัดธาย 24:3-8, 14; กิจการ 1:8.
6. (ก) โยฮันได้เห็นอะไรเมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรของตน? (ข) “ดาว” ดวงนี้เป็นสัญลักษณ์ถึงผู้ใด และเพราะเหตุใด?
6 พระธรรมวิวรณ์ ซึ่งเขียนขึ้นประมาณ 26 ปีภายหลังพินาศกรรมของกรุงเยรูซาเลม ก็พรรณนาถึงภัยพิบัตินั้นด้วย. พระธรรมวิวรณ์ได้พรรณนาอะไรเพิ่มเติมจากพระธรรมโยเอล? ให้เราติดตามข้อความที่บันทึกไว้โดยโยฮันดังนี้: “เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเป่าแตรของตน ข้าพเจ้าเห็นดาวดวงหนึ่งซึ่งตกจากฟ้าลงมายังแผ่นดินโลกแล้ว และดาวดวงนั้นได้รับกุญแจสำหรับขุมลึก.” (วิวรณ์ 9:1, ล.ม.) “ดาว” ดวงนี้แตกต่างจากดาวที่วิวรณ์ 8:10 ที่โยฮันเห็นขณะที่กำลังตก. ท่านเห็น “ดาวดวงหนึ่งซึ่งตกจากฟ้า” และซึ่งบัดนี้มีงานมอบหมายเกี่ยวกับแผ่นดินโลกนี้. ดาวดวงนี้เป็นบุคคลวิญญาณหรือมนุษย์? ภายหลังมีการพรรณนาถึงผู้ถือ “กุญแจสำหรับขุมลึก” นี้ว่าเหวี่ยงซาตานลงไปใน “ขุมลึก.” (วิวรณ์ 20:1-3, ล.ม.) ดังนั้น ผู้นี้จะต้องเป็นบุคคลวิญญาณที่มีฤทธิ์มาก. ที่วิวรณ์ 9:11 (ล.ม.) โยฮันบอกเราว่า พวกตั๊กแตนมี “กษัตริย์องค์หนึ่ง คือ ทูตแห่งขุมลึก.” คัมภีร์ทั้งสองข้อนี้คงต้องอ้างถึงบุคคลเดียวกัน เนื่องจากตามเหตุผลแล้ว ทูตสวรรค์ที่ถือลูกกุญแจสำหรับขุมลึกก็ควรจะเป็นทูตแห่งขุมลึกนั้นด้วย. และดาวดวงนี้จะต้องเป็นสัญลักษณ์ถึงกษัตริย์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระยะโฮวา เนื่องจากคริสเตียนผู้ถูกเจิมยอมรับกษัตริย์องค์เดียวจากสวรรค์ คือพระเยซูคริสต์เท่านั้น.—โกโลซาย 1:13; 1 โกรินโธ 15:25.
7. (ก) เกิดอะไรขึ้นเมื่อ “ขุมลึก” ถูกเปิดออก? (ข) “ขุมลึก” นั้นคืออะไร และผู้ใดอยู่ในนั้นชั่วเวลาสั้น ๆ?
7 เรื่องราวดำเนินต่อไปดังนี้: “เมื่อดาวดวงนั้นเปิดขุมลึกแล้ว มีควันลอยขึ้นมาจากขุมนั้นดุจควันจากเตาใหญ่ ดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดไปเพราะควันจากขุมนั้น. แล้วมีฝูงตั๊กแตนออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก และพวกมันได้รับฤทธิ์อย่างที่แมงป่องบนแผ่นดินโลกมี.” (วิวรณ์ 9:2, 3, ล.ม.) ตามในพระคัมภีร์ “ขุมลึก” เป็นสถานที่ซึ่งไม่มีการงานใด ๆ เป็นแม้กระทั่งสถานที่แห่งความตาย. (เทียบกับโรม 10:7; วิวรณ์ 17:8, 20:1, 3.) พระอนุชาของพระเยซูกลุ่มเล็ก ๆ ได้ใช้เวลาสั้น ๆ อยู่ใน “ขุมลึก” ที่ไม่มีกิจการงานใด ๆ เช่นนั้นในตอนปลายสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (ปี 1918-1919). แต่เมื่อพระยะโฮวาทรงเทพระวิญญาณของพระองค์ลงเหนือเหล่าผู้รับใช้ที่กลับใจของพระองค์ในปี 1919 พวกเขาก็พร้อมกันออกไปเพื่อเผชิญการท้าทายจากงานซึ่งรออยู่ข้างหน้า.
8. เป็นอย่างไรที่ตั๊กแตนถูกปล่อยออกมาพร้อมกับ “ควัน” เป็นอันมาก?
8 ตามที่โยฮันสังเกตเห็น ฝูงตั๊กแตนออกมาพร้อมกับควันโขมงเหมือน “ควันจากเตาใหญ่.”c นี่เป็นสิ่งที่ได้ปรากฏในปี 1919. สภาพการณ์มืดลงสำหรับคริสต์ศาสนจักรและโลกทั่ว ๆ ไป. (เทียบกับโยเอล 2:30, 31.) การปล่อยฝูงตั๊กแตนซึ่งก็คือชนจำพวกโยฮันนั้นนับเป็นความพ่ายแพ้สำหรับพวกนักเทศน์นักบวชของคริสต์ศาสนจักร ซึ่งเคยวางแผนและออกอุบายเพื่อทำลายกิจการงานแห่งราชอาณาจักรให้สิ้นซาก และมาบัดนี้ได้ปฏิเสธราชอาณาจักรของพระเจ้า. หลักฐานของสิ่งซึ่งปกคลุมดุจควันนั้นเริ่มแผ่ไปเหนือคริสต์ศาสนจักรที่ออกหาก ขณะที่ฝูงตั๊กแตนนั้นได้รับอำนาจจากพระเจ้าและเริ่มใช้อำนาจนั้นในการประกาศข่าวสารการพิพากษาอันทรงพลัง. “ดวงอาทิตย์” ของคริสต์ศาสนจักร ซึ่งหมายถึงท่าทีแห่งการรู้แจ้ง ก็เกิดสุริยุปราคา ส่วน “อากาศ” ก็หนาทึบไปด้วยคำประกาศการพิพากษาของพระเจ้า ขณะมีการแสดงให้เห็นว่า “ผู้มีอำนาจครอบครองในอากาศ” ของโลกนี้เป็นพระเจ้าของคริสต์ศาสนจักร.—เอเฟโซ 2:2; โยฮัน 12:31; 1 โยฮัน 5:19.
ตั๊กแตนที่สร้างความทุกข์ทรมาน!
9. คำแนะนำอะไรเกี่ยวกับการสู้รบที่พวกตั๊กแตนได้รับ?
9 ตั๊กแตนเหล่านั้นได้รับคำสั่งอะไรในการสู้รบ? โยฮันเล่าว่า “แล้วพวกมันได้รับพระบัญชาไม่ให้ทำความเสียหายแก่พืชพรรณบนแผ่นดินโลก รวมทั้งต้นหญ้าและต้นไม้ แต่ให้ทำความเสียหายเฉพาะแก่คนที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากเท่านั้น. ฝูงตั๊กแตนนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคนเหล่านั้น แต่ให้ทรมานพวกเขาห้าเดือน และความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับเหมือนความทุกข์ทรมานของคนที่ถูกแมงป่องต่อย. ในช่วงเวลานั้น คนทั้งหลายจะหาทางตายแต่หาไม่ได้ พวกเขาอยากจะตายแต่ตายไม่ได้สักที.”—วิวรณ์ 9:4-6, ล.ม.
10. (ก) ภัยพิบัตินี้มีต่อผู้ใดเป็นอันดับแรก และพร้อมด้วยมีผลกระทบต่อพวกเขาอย่างไร? (ข) การทรมานชนิดใดที่มีการเกี่ยวข้องอยู่ด้วย? (ดูที่เชิงอรรถด้วย.)
10 ขอสังเกตว่า ภัยพิบัตินี้ไม่ได้มุ่งมาที่ประชาชนหรือบุคคลสำคัญในหมู่ประชาชนเป็นพวกแรก—ซึ่ง ‘พืชพรรณและต้นไม้บนแผ่นดินโลก’ หมายถึง. (เทียบกับวิวรณ์ 8:7.) พวกตั๊กแตนจะทำความเสียหายแก่คนที่ไม่มีตราของพระเจ้าที่หน้าผากเท่านั้น ซึ่งก็คือคนเหล่านั้นในคริสต์ศาสนจักรที่อ้างว่าได้รับการประทับตรา แต่ประวัติบันทึกของพวกเขาแสดงว่าคำกล่าวอ้างนั้นไม่จริง. (เอเฟโซ 1:13, 14) ดังนั้น วาจาที่ก่อความทรมานของเหล่าตั๊กแตนในสมัยนี้ได้มุ่งเล็งที่ผู้นำศาสนาของคริสต์ศาสนจักรก่อน. คนที่แอบอ้างสิทธิ์เหล่านั้นคงรู้สึกถูกทรมานเพียงไรเมื่อเขาได้ยินการประกาศอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่นำฝูงแกะของพวกเขาไปสวรรค์เท่านั้น แต่พวกเขาเองจะไม่ไปที่นั่นด้วย!d แท้จริง นั่นเป็นกรณีของ ‘คนตาบอดจูงคนตาบอด’ นั่นเอง!—มัดธาย 15:14.
11. (ก) พวกตั๊กแตนได้รับอำนาจให้ทำการทรมานพวกศัตรูของพระเจ้าเป็นเวลานานเท่าไร และทำไมจึงไม่ใช่เป็นเวลาที่สั้นจริง ๆ? (ข) การทรมานนั้นรุนแรงเพียงใด?
11 ความทรมานนั้นจะกินเวลานานห้าเดือน. นั่นเป็นระยะเวลาที่ออกจะสั้นอย่างนั้นไหม? จากในแง่ของตั๊กแตนจริง ๆ แล้ว ไม่เป็นเช่นนั้น. ห้าเดือนเป็นช่วงชีวิตปกติของแมลงพวกนี้. ฉะนั้น ตราบเท่าที่เหล่าตั๊กแตนในสมัยปัจจุบันมีชีวิตอยู่ พวกมันจะต่อยศัตรูของพระเจ้า. ยิ่งกว่านั้น ความทรมานจะสาหัสถึงขนาดที่ผู้คนอยากจะตาย. จริงอยู่ เราไม่มีบันทึกที่แสดงว่าผู้ที่ถูกตั๊กแตนต่อยจะพยายามฆ่าตัวตายจริง ๆ. แต่ข้อความนี้ช่วยให้เราเห็นภาพว่าความทรมานนั้นรุนแรง—ราวกับว่าถูกแมงป่องต่อยอย่างไม่ปรานี. มันเป็นเหมือนความทุกข์ทรมานที่ยิระมะยาได้เห็นล่วงหน้าว่ามีแก่พวกอิสราเอลที่ไม่ซื่อสัตย์ซึ่งจะถูกผู้พิชิตชาวบาบิโลนตีให้แตกกระจาย ทำให้เขาอยากตายเสียมากกว่ามีชีวิตอยู่.—ยิระมะยา 8:3; ดูท่านผู้ประกาศ 4:2, 3 ด้วย.
12. เพราะอะไรพวกตั๊กแตนจึงได้รับอนุญาตให้ทรมานพวกผู้นำศาสนาของคริสต์ศาสนจักรในความหมายฝ่ายวิญญาณ แต่จะไม่สังหารพวกเขา?
12 เหตุใดจึงอนุญาตให้ทรมานคนเหล่านี้ในแง่ฝ่ายวิญญาณ และไม่ฆ่าเสีย? นี่เป็นวิบัติประการแรกในการเปิดโปงความเท็จและความล้มเหลวของคริสต์ศาสนจักร เพียงแต่ในภายหลัง เมื่อวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าคืบหน้าไป สภาพเหมือนตายฝ่ายวิญญาณของคริสต์ศาสนจักรจะถูกตีแผ่จนหมดเปลือก. นั่นจะเป็นในช่วงของวิบัติประการที่สองซึ่งหนึ่งในสามส่วนของคนทั้งหลายจะถูกสังหาร.—วิวรณ์ 1:10; 9:12, 18; 11:14.
ตั๊กแตนเตรียมพร้อมสำหรับการศึก
13. พวกตั๊กแตนมีลักษณะอย่างไร?
13 ตั๊กแตนพวกนั้นช่างมีรูปร่างที่ผิดธรรมดา! โยฮันพรรณนาดังนี้: “รูปร่างของฝูงตั๊กแตนนั้นคล้ายกับม้าที่เตรียมไว้สำหรับการศึก บนหัวพวกมันมีสิ่งซึ่งดูเหมือนมงกุฎทองคำ และหน้าพวกมันเหมือนหน้ามนุษย์ พวกมันมีผมเหมือนผมผู้หญิง และฟันพวกมันเหมือนฟันสิงโต และพวกมันมีเกราะป้องกันอกดุจเกราะป้องกันอกที่ทำด้วยเหล็ก. เสียงปีกของพวกมันเหมือนเสียงกองรถศึกที่เทียมม้าหลายตัวกำลังวิ่งเข้าสู่การศึก.”—วิวรณ์ 9:7-9, ล.ม.
14. เพราะเหตุใดการพรรณนาของโยฮันเกี่ยวกับพวกตั๊กแตนจึงเหมาะกับกลุ่มคริสเตียนซึ่งฟื้นขึ้นใหม่ในปี 1919?
14 คำพรรณนานี้แสดงให้เห็นเป็นอย่างดีถึงกลุ่มคริสเตียนผู้ซื่อสัตย์ที่กลับมีชีวิตชีวาอีกในปี 1919. ดุจม้า พวกเขาพร้อมสำหรับการศึก กระหายจะต่อสู้เพื่อความจริงในวิถีทางที่อัครสาวกเปาโลได้พรรณนาไว้. (เอเฟโซ 6:11-13; 2 โกรินโธ 10:4) บนศีรษะของพวกเขาโยฮันเห็นอะไรซึ่งดูเหมือน มงกุฎทองคำ. คงไม่สมควรที่พวกเขาจะมีมงกุฎจริง ๆ เพราะว่าพวกเขาไม่ได้เริ่มต้นปกครองในขณะที่ยังอยู่บนแผ่นดินโลก. (1 โกรินโธ 4:8; วิวรณ์ 20:4) แต่ในปี 1919 พวกเขาปรากฏเยี่ยงกษัตริย์แล้ว. พวกเขาเป็นพระอนุชาของพระมหากษัตริย์ และมงกุฎฝ่ายสวรรค์ก็ถูกสงวนไว้สำหรับพวกเขาถ้าพวกเขารักษาความซื่อสัตย์จนถึงที่สุด.—2 ติโมเธียว 4:8; 1 เปโตร 5:4.
15. สิ่งต่อไปนี้ของพวกตั๊กแตนหมายถึงอะไร (ก) เกราะป้องกันอกที่ทำด้วยเหล็ก? (ข) หน้าเหมือนหน้ามนุษย์? (ค) ผมเหมือนผมผู้หญิง? (ง) ฟันเหมือนฟันสิงโต? (จ) การส่งเสียงดัง?
15 ในนิมิต พวกตั๊กแตนมีเกราะป้องกันอกที่ทำด้วยเหล็ก ซึ่งแสดงถึงความชอบธรรมที่ไม่อาจทำลายได้. (เอเฟโซ 6:14-18) นอกจากนี้ พวกมันยังมีหน้าเหมือนหน้ามนุษย์ ลักษณะนี้ชี้ถึงคุณลักษณะแห่งความรัก เนื่องจากมนุษย์ถูกสร้างขึ้นตามแบบพระฉายของพระเจ้าผู้ทรงเป็นความรัก. (เยเนซิศ 1:26; 1 โยฮัน 4:16). ผมของมันยาวเหมือนผมผู้หญิง ซึ่งแสดงภาพเป็นอย่างดีถึงการยอมตัวอยู่ใต้พระมหากษัตริย์ของพวกเขา คือทูตแห่งขุมลึก. และฟันของพวกมันเหมือนฟันสิงโต. สิงโตใช้ฟันของมันฉีกเนื้อ. ตั้งแต่ปี 1919 เป็นต้นมา ชนจำพวกโยฮันสามารถรับอาหารแข็งฝ่ายวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะความจริงเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้าที่ปกครองโดย “สิงโตแห่งตระกูลยูดาห์” คือพระเยซูคริสต์. เช่นเดียวกับสิงโตเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ จำต้องมีความกล้าหาญมากในการย่อยข่าวสารที่โจมตีอย่างหนักนี้ แล้วผลิตออกมาในรูปของสิ่งพิมพ์ และจำหน่ายจ่ายแจกไปทั่วโลก. ตั๊กแตนโดยนัยพวกนั้นส่งเสียงดังเหมือน “เสียงกองรถศึกที่เทียมม้าหลายตัวกำลังวิ่งเข้าสู่การศึก.” โดยติดตามตัวอย่างของคริสเตียนในศตวรรษแรก พวกเขาไม่คิดจะอยู่นิ่งเฉย.—1 โกรินโธ 11:7-15; วิวรณ์ 5:5, ล.ม.
16. การที่พวกตั๊กแตนมี “หางและเหล็กในเหมือนแมงป่อง” นั้นมีความหมายอย่างไร?
16 การประกาศนี้เป็นยิ่งกว่าวาจา! “พวกมันมีหางและเหล็กในเหมือนแมงป่อง และหางพวกมันมีฤทธิ์ทำร้ายคนทั้งหลายนานห้าเดือน.” (วิวรณ์ 9:10, ล.ม.) นี่หมายความว่าอย่างไร? ในขณะที่พยานพระยะโฮวาปฏิบัติราชกิจ พวกเขาใช้คำพูดและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งการออกคำแถลงอย่างเป็นทางการซึ่งอาศัยพระคำของพระเจ้าเป็นหลัก. ข่าวสารของพวกเขามีเหล็กในเหมือนแมงป่องเพราะเตือนถึงวันแห่งความแก้แค้นของพระยะโฮวาที่ใกล้เข้ามา. (ยะซายา 61:2) ก่อนที่ตั๊กแตนฝ่ายวิญญาณรุ่นนี้จบชีวิต งานประกาศคำพิพากษาของพระยะโฮวาที่พระองค์ทรงบัญชามานั้นจะสำเร็จครบถ้วน—ซึ่งจะยังความปวดร้าวมาสู่ผู้หมิ่นประมาทที่ดื้อดึงทั้งหลาย.
17. (ก) มีการแถลงอะไร ณ การประชุมใหญ่ในปี 1919 ของเหล่านักศึกษาพระคัมภีร์ซึ่งจะทำให้เหล็กในของการให้คำพยานของพวกเขายิ่งเข้มแข็งขึ้น? (ข) พวกนักเทศน์นักบวชถูกทรมานอย่างไร และพวกเขาตอบรับอย่างไร?
17 ฝูงตั๊กแตนมีความปีติยินดียิ่งเมื่อมีการประกาศถึงวารสารใหม่ ยุคทอง (ภาษาอังกฤษ) ณ การประชุมใหญ่ในปี 1919. วารสารนี้ออกเป็นรายปักษ์ มีขึ้นเพื่อให้เหล็กในแห่งการให้คำพยานของพวกเขาร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม.e ในฉบับที่ 27 ประจำวันที่ 29 กันยายน 1920 ได้เปิดโปงการตีสองหน้าของพวกนักเทศน์นักบวชในการกดขี่ข่มเหงนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในสหรัฐระหว่างปี 1918-1919. ตลอดทศวรรษ 1920 และ 1930 วารสารยุคทอง ได้ทรมานพวกนักเทศน์นักบวชโดยบทความและการ์ตูนที่เสียดแทงยิ่งขึ้น ซึ่งเปิดโปงถึงการเข้าเล่นการเมืองอย่างปลิ้นปล้อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงที่พระราชาคณะของนิกายคาทอลิกได้ทำกับผู้เผด็จการลัทธิฟาสซิสต์และนาซี. ในการโต้ตอบ พวกนักเทศน์นักบวชได้ “วางแผนชั่วโดยใช้กฎหมาย” และยุยงฝูงชนให้ก่อความรุนแรงต่อประชาชนของพระเจ้า.—บทเพลงสรรเสริญ 94:20.
ผู้ปกครองโลกได้รับการเตือน
18. พวกตั๊กแตนต้องทำงานอะไร และเกิดอะไรขึ้นซึ่งเป็นการตอบรับต่อการเป่าแตรตัวที่ห้า?
18 พวกตั๊กแตนในสมัยปัจจุบันมีงานต้องทำ. ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรจะต้องได้รับการประกาศ. ความผิดพลาดจะต้องถูกเปิดโปง. แกะที่หลงหายไปจะต้องหาให้พบ. ขณะที่พวกตั๊กแตนปฏิบัติงานเหล่านี้ โลกต้องเกิดความสนใจขึ้นมา. ด้วยความเชื่อฟังต่อเสียงแตรของทูตสวรรค์ ชนจำพวกโยฮันจึงยังคงเปิดโปงคริสต์ศาสนจักรต่อไปว่าสมควรจะได้รับการพิพากษาลงโทษจากพระยะโฮวา. เพื่อตอบรับต่อแตรตัวที่ห้า จึงมีการเน้นแง่หนึ่งโดยเฉพาะของคำพิพากษาเหล่านี้ ณ การประชุมใหญ่ของนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 25-31 พฤษภาคม 1926. การประชุมนี้เน้นมติที่ว่า “ถ้อยแถลงต่อผู้ปกครองโลก” และคำบรรยายสาธารณะที่รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ในหัวเรื่อง “เหตุที่มหาอำนาจโลกสั่นคลอน—หนทางแก้ไข” เนื้อหาของทั้งสองเรื่องถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ชั้นนำของกรุงลอนดอนฉบับหนึ่งในวันรุ่งขึ้น. ต่อมา ตั๊กแตนฝูงนี้ได้แจกจ่ายมตินั้นออกไปทั่วโลก ในรูปของแผ่นพับ 50 ล้านแผ่น—ช่างเป็นความทรมานจริง ๆ ต่อพวกนักเทศน์นักบวช! หลายปีผ่านไป ผู้คนในอังกฤษก็ยังคงพูดถึงการเปิดโปงที่ทิ่มแทงนี้อยู่.
19. พวกตั๊กแตนอันมีความหมายเป็นนัยได้รับเครื่องมือต่อสู้อะไรเพิ่มขึ้นอีก และเครื่องมือนั้นกล่าวอย่างไรเกี่ยวกับแถลงการณ์ในกรุงลอนดอน?
19 ณ การประชุมใหญ่แห่งนี้ ตั๊กแตนโดยนัยได้รับเครื่องมือต่อสู้อีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือใหม่ที่ชื่อว่าการช่วยให้รอด (ภาษาอังกฤษ). หนังสือนี้มีการอธิบายข้อคัมภีร์เกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่พิสูจน์ว่ารัฐบาลของ ‘บุตรชาย’ หรือราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระคริสต์ได้ถือกำเนิดแล้วในปี 1914. (มัดธาย 24:3-14; วิวรณ์ 12:1-10) หลังจากนั้น ได้ยกแถลงการณ์ที่ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอนในปี 1917 และเซ็นชื่อโดยนักเทศน์นักบวชแปดคน ซึ่งได้ชื่อว่า “อยู่ในพวกนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก” ขึ้นมากล่าว. พวกเขาเป็นตัวแทนของนิกายเด่น ๆ ของโปรเตสแตนต์—ซึ่งได้แก่ แบพติสต์, คองกรีเกชันแนล, เพรสไบทีเรียน, เอพิสโคพัล, และเมทอดิสต์. แถลงการณ์นี้ประกาศว่า “วิกฤตการณ์ในปัจจุบันชี้ถึงตอนสิ้นสุดของเวลาของคนต่างชาติ” และว่า “อาจคาดหมายว่าการเปิดเผยขององค์พระผู้เป็นเจ้าอาจมีขึ้นในเวลาใดก็ได้.” ใช่แล้ว นักเทศน์นักบวชเหล่านั้นตระหนักถึงสัญลักษณ์แห่งการเสด็จประทับของพระเยซู! แต่พวกเขาอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม? หนังสือการช่วยให้รอด แจ้งให้เราทราบว่า “ส่วนที่น่าสังเกตที่สุดของเรื่องนี้ก็คือคนเหล่านั้นแหละที่เซ็นชื่อในแถลงการณ์นี้ภายหลังได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนในแถลงการณ์นั้น และไม่ยอมรับพยานหลักฐานซึ่งพิสูจน์ว่าเราอยู่ในช่วงอวสานของโลก และอยู่ในสมัยแห่งการเสด็จประทับครั้งที่สองขององค์พระผู้เป็นเจ้า.”
20. (ก) พวกนักเทศน์นักบวชได้เลือกเอาอะไรซึ่งเกี่ยวข้องกับฝูงตั๊กแตนและกษัตริย์ของพวกมัน? (ข) โยฮันบอกว่าใครอยู่เหนือฝูงตั๊กแตน และชื่อของท่านคืออะไร?
20 แทนที่จะประกาศถึงราชอาณาจักรของพระเจ้าที่กำลังจะมีมา พวกนักเทศน์นักบวชของคริสต์ศาสนจักรเลือกอยู่กับโลกของซาตาน. พวกเขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับฝูงตั๊กแตนและพระมหากษัตริย์ของพวกมัน ซึ่งบัดนี้โยฮันได้สังเกตเห็นว่า “พวกมันมีกษัตริย์องค์หนึ่ง คือ ทูตแห่งขุมลึกนั้น. พระนามของพระองค์ในภาษาฮีบรูคือ อาบัดโดน [หมายความว่า “การทำลาย”] แต่พระองค์มีพระนามในภาษากรีกว่า อะโปลลีโอน [หมายความว่า “ผู้ทำลาย”].” (วิวรณ์ 9:11, ล.ม.) ในฐานะที่เป็น “ทูตแห่งขุมลึก” และ “ผู้ทำลาย” พระเยซูได้ปล่อยวิบัติที่ยังความทรมานลงบนคริสต์ศาสนจักรอย่างแท้จริง. แต่ยังจะมีอีก.
[เชิงอรรถ]
a เทียบโยเอล 2:4, 5, 7 (ซึ่งมีการพรรณนาถึงพวกแมลงว่าเป็นเหมือนม้า, เหมือนผู้คน, และชายฉกรรจ์, และส่งเสียงเหมือนเสียงรถรบ) กับวิวรณ์ 9:7-9; และเทียบโยเอล 2:6, 10 (ซึ่งพรรณนาถึงความทุกข์ทรมานอันเป็นผลเนื่องจากภัยพิบัติแห่งฝูงแมลงนั้น) กับวิวรณ์ 9:2, 5.
b โปรดดูที่บทความ “ร่วมกันต่อต้านนานาชาติในหุบเขาแห่งการตัดสินลงเอยกัน” ในวารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 1962.
c โปรดสังเกตว่า ข้อคัมภีร์ข้อนี้ไม่อาจใช้เพื่อพิสูจน์ว่ามีไฟในขุมลึกนั้น ราวกับว่าขุมลึกนั้นเป็นไฟนรกบางอย่าง. โยฮันกล่าวว่า ท่านได้เห็นควันหนาทึบซึ่งเป็น “ดุจ” หรือเสมือนควันจากเตาใหญ่. (วิวรณ์ 9:2, ล.ม.) ท่านไม่ได้รายงานว่า ท่านเห็นเปลวไฟจริง ๆ ในขุมลึกนั้น.
d คำภาษากรีกที่ใช้ที่นี่มาจากรากคำบาซานีโซ ซึ่งบางครั้งมีการใช้เกี่ยวกับการทรมานทางกาย แต่คำนี้อาจใช้เกี่ยวกับการทรมานทางจิตใจได้ด้วย. ตัวอย่างเช่น ที่ 2 เปโตร 2:8 เราอ่านเกี่ยวกับโลตว่า “ใจสัตย์ซื่อของท่านก็เป็นทุกข์เป็นร้อน” เนื่องจากความชั่วช้าที่ท่านได้เห็นในเมืองโซโดม. พวกผู้นำทางศาสนาในสมัยอัครสาวกได้ประสบความทรมานทางจิตใจ แม้จะเนื่องด้วยสาเหตุที่ต่างกันมาก.
e ในปี 1937 วารสารนี้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นการปลอบโยน และในปี 1946 เปลี่ยนชื่อเป็นตื่นเถิด!
[ภาพหน้า 143]
การเป่าแตรตัวที่ห้านำมาซึ่งภัยพิบัติประการแรกในสามประการ
[ภาพหน้า 146]
ลูกธนูของพระองค์เสียบหัวใจพวกศัตรูของกษัตริย์. (บทเพลงสรรเสริญ 45:5) ภาพการ์ตูนข้างบนพร้อมกับคำอธิบายนี้เป็นตัวอย่างของภาพการ์ตูนมากมายที่มีการพิมพ์ในทศวรรษ 1930 ซึ่งได้ทิ่มแทง “คนที่ไม่มีตราของพระเจ้า”
[ภาพหน้า 147]
รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ที่ซึ่งมีการออกหนังสือการช่วยให้รอด และได้มีการยอมรับมติ “ถ้อยแถลงต่อผู้ปกครองโลก”