การช่วยให้รอดณ การปรากฏของพระเยซูคริสต์
“จงยินดีต่อ ๆ ไป . . . เพื่อท่านจะยินดีและชื่นชมเหลือล้นด้วยระหว่างการปรากฏแห่งสง่าราศีของพระองค์.”—1 เปโตร 4:13, ล.ม.
1. พระยะโฮวาได้ทรงเพิ่มพูนให้ไพร่พลของพระองค์มั่งคั่งโดยวิธีใด?
พระยะโฮวาทรงกระทำให้เหล่าพยานของพระองค์มั่งคั่งด้วยของประทานมากมาย. ในฐานะเป็นบรมครูของเรา พระองค์ทรงโปรดให้เรามีความรู้บริบูรณ์เกี่ยวกับพระทัยประสงค์ของพระองค์. โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ พระองค์ได้ทรงเพาะความสามารถไว้ในตัวเราให้มีความกล้าที่จะส่องความสว่างออกไป. อัครสาวกเปาโลที่รับการดลใจกล่าวกำชับพวกเราใน 1 โกรินโธ 1:6, 7, (ฉบับแปลใหม่) ดังนี้: “พยานเรื่องพระคริสต์นั้นเป็นที่รับรองแน่นอนในพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายจึงมิได้ขาดของประทานเลย ในขณะที่ท่านรอคอยการปรากฏของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา.”
2. “การปรากฏของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” ก่อให้มีความหวังอะไรที่น่ายินดี?
2 “การปรากฏของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา”—หมายถึงอะไร? หมายถึงเวลาแห่งการปรากฏของพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ที่ทรงสง่าราศี เริ่มปฏิบัติการด้วยการประทานรางวัลแก่สาวกผู้ซื่อสัตย์และดำเนินการแก้แค้นคนดูหมิ่นพระเจ้า. ดังระบุใน 1 เปโตร 4:13 ว่าจะเป็นเวลาที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมด้วยพระวิญญาณซึ่งได้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง พร้อมด้วยสหายผู้ภักดีที่มาจากชนฝูงใหญ่จะ “ยินดีและชื่นชมเหลือล้น” เพราะบ่งบอกถึงอวสานแห่งระบบของซาตาน.
3. พวกเราต้องยืนหยัดมั่นคงอย่างไร อย่างพวกพี่น้องของเราในเมืองเธซะโลนิเกที่เคยยืนหยัดมั่นคง?
3 ขณะที่เวลานั้นใกล้เข้ามา ซาตานซึ่งโกรธอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มความกดดันแก่พวกเรา. เหมือนสิงโตแผดเสียงคำราม มันพยายามจะกลืนกินพวกเรา. เราต้องยืนหยัดมั่นคง! (1 เปโตร 5:8-10) พี่น้องของเราในเมืองเธซะโลนิเกสมัยโบราณ เมื่อได้เข้ามาในความจริงใหม่ ๆ ก็เคยทนรับทุกข์ลำบากคล้าย ๆ กันกับความทุกข์ลำบากซึ่งพยานพระยะโฮวาหลายคนในทุกวันนี้ได้ประสบ. เพราะฉะนั้น ถ้อยคำซึ่งอัครสาวกเปาโลกล่าวกับพวกเขามีความหมายมากทีเดียวสำหรับพวกเรา. ท่านเขียนว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่าเป็นการยุติธรรมแล้ว ที่จะทรงเอาความยากลำบากไปสนองคนเหล่านั้นที่ก่อความยากลำบากให้กับท่านทั้งหลาย และที่จะทรงให้ท่านทั้งหลายที่รับความยากลำบากนั้นได้รับความบรรเทาด้วยกันกับเรา เมื่อพระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์ในเปลวเพลิง พร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ผู้มีฤทธิ์ของพระองค์ และจะลงโทษสนองคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระเจ้า และแก่คนที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้าของเรา.” (2 เธซะโลนิเก 1:6-8, ฉบับแปลใหม่) ใช่แล้ว การบรรเทาจะมีมา.
4. ทำไมพวกนักเทศน์นักบวชสมควรได้รับโทษในคราวการเสด็จปรากฏของพระเยซูเพื่อดำเนินการพิพากษา?
4 ความลำบากส่วนใหญ่ในสมัยเปาโลเนื่องมาจากผู้นำศาสนาชาวยิวได้ก่อเหตุ. ทำนองเดียวกันในทุกวันนี้ การขัดขวางต่อต้านพยานพระยะโฮวาที่รักสันติมักจะได้รับการยุยงจากคนที่อ้างตัวเป็นผู้แทนพระเจ้า โดยเฉพาะนักเทศน์นักบวชในคริสต์ศาสนจักร. คนเหล่านี้แสร้งทำเป็นว่ารู้จักพระเจ้า แต่พวกเขาปฏิเสธ “พระยะโฮวาพระเจ้าองค์เดียว” แห่งคัมภีร์ไบเบิล โดยนำเอาพระตรีเอกานุภาพที่เร้นลับเข้ามาแทนพระองค์. (มาระโก 12:29) พวกเขาไม่เชื่อฟังกิตติคุณเกี่ยวกับพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา โดยหมายพึ่งการปกครองของมนุษย์เพื่อการบรรเทา แล้วได้ปฏิเสธข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรอันชอบธรรมของพระคริสต์ที่จะมาถึง. บรรดาผู้ต่อต้านทางศาสนาเหล่านี้ต้องพินาศในคราวที่ “พระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์”!
“การเสด็จมา” ของพระเยซูคริสต์
5. การปรากฏของพระเยซูได้มีการพรรณนาให้เห็นภาพชัดแจ้งอย่างไรที่มัดธาย 24:29, 30?
5 พระเยซูทรงพรรณนาภาพการเสด็จปรากฏนั้นอย่างชัดเจนในมัดธาย 24:29, 30. เมื่อทรงอธิบายถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของสัญลักษณ์เกี่ยวกับการประทับและอวสานแห่งระบบนี้แล้ว พระองค์ตรัสว่า “ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องสว่าง ดวงดาวทั้งปวงจะตกจากฟ้า และบรรดาสิ่งซึ่งมีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้านหวั่นไหว.” ในตอนนั้น “นิมิตแห่งบุตรมนุษย์จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้า.” นานาชาติบนแผ่นดินโลก “จะพิลาปร่ำไห้ แล้วจะเห็นบุตรมนุษย์ [กษัตริย์มาซีฮาของพระเจ้า] เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้าด้วยฤทธานุภาพและสง่าราศีเป็นอันมาก.” “การเสด็จมา” คำนี้คือเออร์โฆʹเมโนน ในภาษากรีก บ่งถึงการปรากฏของพระเยซูในฐานะผู้เชิดชูพระยะโฮวา.
6, 7. ที่ว่า “ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์” คืออย่างไร และรวมถึงใครบ้าง?
6 “การเสด็จมา” ครั้งนี้ได้มีการพรรณนาไว้เช่นกันโดยอัครสาวกโยฮันที่วิวรณ์ 1:7, (ล.ม.) ซึ่งท่านบอกว่า “ดูเถิด! พระองค์เสด็จมาด้วยเมฆ.” ตามจริงแล้ว ศัตรูเหล่านั้นจะไม่เห็นพระเยซูด้วยตาจริง ๆ ของเขา เพราะ “เมฆ” นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพระองค์เสด็จอย่างไม่ปรากฏแก่ตาเพื่อดำเนินการพิพากษา. ถ้ามนุษย์ธรรมดาจะเห็นดูพระองค์พร้อมด้วยสง่าราศีฝ่ายสวรรค์ด้วยตาเปล่า ตาของเขาคงจะบอด เช่นเดียวกับเซาโลระหว่างการเดินทางไปยังเมืองดาเมเซ็ก พระเยซูผู้ทรงรุ่งโรจน์ด้วยสง่าราศีได้ปรากฏแก่ท่านด้วยแสงสว่างแรงกล้าชั่วแวบ ท่านถึงกับตาบอดไป.—กิจการ 9:3-8; 22:6-11.
7 บันทึกในพระธรรมวิวรณ์กล่าวว่า “ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ รวมทั้งคนเหล่านั้นที่ได้แทงพระองค์; และตระกูลทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกจะทุบตีตัวเองด้วยความเศร้าโศกเพราะพระองค์.” ทั้งนี้หมายความว่าบรรดาผู้ที่ต่อต้านบนแผ่นดินโลกจะเข้าใจได้ถึงพินาศกรรมที่พระเยซูทรงให้เกิดแก่เขาราวกับห่าฝนนั้นว่า พระองค์เสด็จมาพร้อมด้วยฤทธิ์อำนาจและสง่าราศีอันยิ่งใหญ่ในฐานะผู้สำเร็จโทษแทนพระยะโฮวา. ทำไมมีการพรรณนาศัตรูเหล่านี้ว่าเป็น “คนที่ได้แทงพระองค์”? ก็เพราะเจตคติของพวกเขามีต่อผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้เต็มไปด้วยความเจ็บแค้นเหมือนกับเจตคติของคนที่ข่มเหงพระเยซู. จริง ๆ แล้ว พวกเขาจะ ‘ทุบตีตัวเองอย่างเจ็บแค้นขมขื่นด้วยความเศร้าโศกเพราะพระองค์.’
8. พระเยซูและเปาโลได้เตือนถึงเรื่องอะไรเกี่ยวเนื่องกับความพินาศที่จะเกิดกะทันหัน?
8 วันแห่งการแก้แค้นของพระยะโฮวาจะมาถึงอย่างไร? ในคำพยากรณ์ที่ลูกาบท 21 พระเยซูทรงพรรณนาถึงพิบัติภัยต่าง ๆ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับของพระองค์ตั้งแต่ปี 1914. แล้วในข้อ 34 และ 35, (ล.ม.) พระองค์ทรงเตือนว่า “จงเอาใจใส่ตัวเอง เพื่อว่าหัวใจของเจ้าจะไม่เพียบลงด้วยการกินมากเกินไปและการดื่มจัดและความกังวลในเรื่องชีวิต และโดยไม่ทันรู้ตัววันนั้นจะมาถึงเจ้าอย่างกะทันหัน ดุจบ่วงแร้ว. เพราะวันนั้นจะมาถึงคนทั้งปวงที่อาศัยอยู่บนพื้นแผ่นดินโลกทั้งสิ้น.” ถูกแล้ว วันแห่งการแก้แค้นของพระยะโฮวามาอย่างกะทันหัน โดยฉับพลัน! อัครสาวกเปาโลยืนยันเรื่องนี้ที่ 1 เธซะโลนิเก 5:2, 3, (ล.ม.) ดังนี้: “วันของพระยะโฮวาจะมาเหมือนขโมยที่มาในเวลากลางคืน. เมื่อไรก็ตามที่พวกเขากล่าวว่า ‘สันติภาพและความปลอดภัย!’ แล้วความพินาศโดยฉับพลันก็จะมาถึงเขาทันที.” กระทั่งเดี๋ยวนี้ นานาชาติก็กำลังพูดกันถึงเรื่องสันติภาพและความปลอดภัย ทั้งเสนอแนะให้มีการเสริมกำลังทางทหารแก่สหประชาชาติเพื่อสอดส่องจุดต่าง ๆ อันยุ่งยาก.
9. ‘ความสว่างสาดส่องมา’ ถึงใครและทำไม?
9 ในข้อ 4 และ 5 อัครสาวกได้บอกเราต่อไปว่า “แต่ดูก่อน พี่น้องทั้งหลาย ท่านไม่อยู่ในความมืดแล้ว, วันนั้นจึงไม่ได้มาถึงท่านอย่างขโมยมา. ท่านทั้งหลายเป็นบุตรของความสว่าง, และเป็นบุตรของกลางวัน เราทั้งหลายไม่ได้เป็นมาจากกลางคืน, และไม่ได้เป็นมาจากความมืด.” พวกเรามีความปีติยินดีที่เป็นบุตรแห่งความสว่าง—เป็นผู้ถือความสว่างส่องไปถึงคนอื่น ๆ ซึ่งปรารถนาสันติภาพและความปลอดภัยแท้ในโลกใหม่ของพระเจ้า. เราอ่านที่บทเพลงสรรเสริญ 97:10, 11, (ล.ม.) ว่า “แด่ท่านทั้งหลายผู้รักพระยะโฮวา จงเกลียดสิ่งชั่ว. พระองค์ทรงพิทักษ์จิตวิญญาณแห่งเหล่าผู้ภักดีของพระองค์; พระองค์ทรงช่วยเขาให้รอดจากมือคนชั่ว. ความสว่างสาดส่องมาสำหรับคนชอบธรรม และความปีติยินดีสำหรับคนที่มีหัวใจซื่อตรง.”
ลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ
10. พวกเราควรเชื่อฟังคำเตือนอะไรล่วงหน้าเกี่ยวกับวันของพระเจ้าที่จะทรงคิดบัญชี? (วิวรณ์ 16:15)
10 ลำดับเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรเมื่อความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ปะทุขึ้น? ให้เราพลิกไปดูวิวรณ์บท 16. โปรดสังเกต ดังที่พรรณนาไว้ในข้อ 13 ถึง 16 ผีโสโครกรวบรวมนานาชาติทั่วแผ่นดินโลกไปสู่ฮาร์มาเกดอน สงครามแห่งวันใหญ่ของพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ. อีกครั้งมีการเน้นว่าวันคิดบัญชีนั้นจะเป็นอย่างการมาของขโมย และเราได้รับคำเตือนให้ตื่นอยู่เสมอ—สวมเสื้อผ้าฝ่ายวิญญาณซึ่งหมายตัวเราไว้เพื่อความรอด. เวลาพิพากษาชาวประเทศทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกและ—อีกผู้หนึ่ง ก็มาถึงแล้ว. ผู้นั้นเป็นใคร?
11. ผู้หญิงที่มีกล่าวไว้ในวิวรณ์ 17:5 นั้นได้ระบุตัวเองอย่างไร?
11 ผู้นั้นได้แก่ผู้หญิงโดยนัยซึ่งพยายามทำตัวเป็น “คนสำคัญ.” นางได้รับการพรรณนาในวิวรณ์ 17:5 ว่า “ลึกลับ: คือว่า ‘เมืองบาบูโลนใหญ่นั้นเป็นแม่ของหญิงแพศยาทั้งหลายและเป็นแม่ของสิ่งของทั้งปวงที่น่าอุจาดแห่งแผ่นดินโลก.’” แต่นางไม่ใช่สิ่งลึกลับอีกต่อไปสำหรับพยานพระยะโฮวา. นางแสดงตัวให้เห็นได้ชัดทีเดียวว่านางคือจักรภพศาสนาเท็จ ซึ่งประกอบด้วยนิกายต่าง ๆ แห่งคริสต์ศาสนจักรเป็นส่วนสำคัญ. สิ่งน่าสะอิดสะเอียนในสายพระเนตรของพระยะโฮวาคือ การที่นางเข้าไปก้าวก่ายกิจการทางการเมือง นาง “เมาด้วยโลหิตของพวกสิทธชน” โดยได้กดขี่ข่มเหงคริสเตียนแท้ และการที่นางต้องรับผิดชอบต่อโลหิต “ของคนทั้งปวงที่ถูฆ่าเสียที่แผ่นดินโลก” รวมทั้งกว่าหนึ่งร้อยล้านคนที่ถูกฆ่าในสงครามต่าง ๆ เฉพาะศตวรรษที่ 20 นี้.—วิวรณ์ 17:2, 6; 18:24.
12. นิกายต่าง ๆ ในคริสต์ศาสนจักรถูกประณามเพราะเหตุใด?
12 ที่ร้ายที่สุด นิกายต่าง ๆ แห่งคริสต์ศาสนจักรได้นำคำตำหนิมาสู่พระนามของพระเจ้าผู้ซึ่งพวกเขาได้อ้างเป็นตัวแทนโดยการหลอกลวง. พวกเขาสอนปรัชญาบาบูโลนและปรัชญากรีกแทนพระคำล้วน ๆ ของพระเจ้า และได้สนับสนุนการทำผิดศีลธรรมของนานาชาติทั้งปวงโดยยินยอมเห็นชอบด้วยกับการดำเนินชีวิตในแบบทำตามใจตัวเองอันเป็นการดูหมิ่นหลักการพระคัมภีร์. ผู้ค้าที่พยายามขายด้วยความมักได้ในท่ามกลางพวกเขาก็อยู่ในข่ายถูกประณามโดยถ้อยคำที่ยาโกโบ 5:1, 5, (ล.ม.) ดังนี้: “มาเถอะ ผู้ร่ำรวยทั้งหลาย จงร้องไห้ ร้องโหยหวนถึงความทุกขเวทนาที่จะมีมายังท่าน. ท่านทั้งหลายได้อยู่อย่างหรูหราฟุ่มเฟือยบนแผ่นดินโลก และได้หันเข้าหาความเพลิดเพลินทางเนื้อหนัง. ท่านทั้งหลายได้บำรุงหัวใจของท่านให้อ้วนพีในวันสังหาร.”
บาบูโลนใหญ่ล่มจม!
13. ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่เริ่มต้นอย่างไร และได้มีการเน้นถึงเรื่องใดอย่างเร่งด่วนที่วิวรณ์ 18:4, 5?
13 การเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่มาพร้อมกับการพิพากษาของพระยะโฮวาเพื่อสำเร็จโทษบาบูโลนใหญ่. วิวรณ์ 17:15-18 พรรณนาถึง “ความคิด” ของพระเจ้าคือให้ “เขาสิบเขา” หมายถึงพลังอำนาจภายในตัว “สัตว์ร้าย” สหประชาชาติซึ่งประกอบด้วยหลายประเทศนั้นจัดการกับบาบูโลนใหญ่. “และเขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้น และสัตว์ร้ายนั้น เหล่านี้จะเกลียดชังหญิงแพศยานั้นและจะทำให้นางถูกล้างผลาญและเปลือยกายและจะกินเนื้อของนางและเผานางจนสิ้นด้วยไฟ. ด้วยว่าพระเจ้าได้ทรงบันดาลใจพวกเขาให้กระทำตามความคิดของพระองค์.” ไม่ประหลาดใจเลยที่มีเสียงเตือนอย่างเร่งด่วนจากสวรรค์ ที่วิวรณ์ 18:4, 5, (ล.ม.) ดังนี้: “จงออกไปจากเมืองนั้นเถิด ประชาชนของเรา ถ้าพวกเจ้าไม่อยากจะมีส่วนในบาปของเมืองนั้น และถ้าพวกเจ้าไม่อยากจะได้รับส่วนแห่งภัยพิบัติของเมืองนั้น. เพราะว่าบาปของเมืองนั้นกองสูงขึ้นจรดสวรรค์แล้ว และพระเจ้าทรงระลึกถึงการอยุติธรรมของเมืองนั้นแล้ว.” เสียงเรียกนั้นยังคงดังต่อเนื่องว่า จงตัดความผูกพันทุกอย่างจากศาสนาเท็จ ก่อนที่จะสายเกินไป!
14. ใครจะร่ำไห้เศร้าโศกเมื่อบาบูโลนใหญ่ล่มจม และเพราะเหตุใด?
14 โลกนี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการล่มจมของบาบูโลนใหญ่? จากระยะไกล พวกนักการเมืองทุจริต—“กษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก”—เศร้าใจเพราะเมืองนี้เนื่องจากพวกเขาเคยสนุกเพลิดเพลินมาด้วยกันนานหลายศตวรรษด้วยการร่วมประเวณีฝ่ายวิญญาณ. อนึ่ง พวกที่ร่ำไห้และโศกเศร้าแก่เมืองนี้ก็คือพวกพ่อค้าที่ละโมบ “บรรดาพ่อค้า . . . ที่ได้เป็นคนมั่งมีเพราะเหตุเมืองบาบูโลนนั้น.” คนเหล่านี้เช่นกันที่อยู่ในระยะไกลจากบาบูโลน ร้องว่า “วิบัติ ๆ แก่เมืองใหญ่นั้น, ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียดและผ้าสีม่วง, และผ้าสีแดงเข้ม, และได้ประดับกายด้วยเพชรพลอยต่าง ๆ และแก้วมุกดา เพราะว่าในชั่วโมงเดียวทรัพย์สมบัติมากเช่นนั้นก็พินาศศูนย์ไป!” เสื้อคลุมทุกชนิดอันงามหรูหราบ่งบอกฐานันดรทางศาสนาและความโอ่อ่าตระการตาของโบสถ์ใหญ่ ๆ ที่มีอยู่ในโลกจะสูญสิ้นไปชั่วกาลนาน! (วิวรณ์ 18:9-17) ทว่าทุกคนไหมที่ร้องไห้เศร้าโศกเพราะบาบูโลนใหญ่?
15, 16. ไพร่พลของพระเจ้าจะมีเหตุอันใดซึ่งยังความปีติยินดี?
15 วิวรณ์ 18:20, 21 ตอบว่า “แน่ะเมืองสวรรค์, และพวกสิทธชน, และอัครสาวก, และพวกผู้พยากรณ์จงยิ้มเยาะเมืองนั้นเถิด เพราะพระเจ้าได้ทรงลงโทษแก้แค้นเมืองนั้นแทนท่านทั้งหลายแล้ว.” เหมือนหินโม่ก้อนใหญ่ถูกทุ่มลงในทะเล “เมืองบาบูโลนเมืองใหญ่นั้นจะล่มจมลงอย่างนี้แหละ และจะไม่มีใครเห็นเมืองนั้นอีกเลย.”
16 ช่างเป็นเหตุแห่งความปีติยินดีอะไรเช่นนั้น! วิวรณ์ 19:1-8 ยืนยันเรื่องนี้. มีเสียงดังจากสวรรค์ร้อง “อาละลูยา [ประชาชนทั้งหลาย จงสรรเสริญยาห์, ล.ม.]” ถึงสี่ครั้ง. เสียงร้องฮาเลลูยาห์สามครั้งแรกสรรเสริญพระยะโฮวาเพราะพระองค์ได้ทรงดำเนินการพิพากษาอันยุติธรรมแก่หญิงแพศยาที่ฉาวโฉ่ คือบาบูโลนใหญ่. จักรภพโลกแห่งศาสนาเท็จไม่มีอีกต่อไป! เสียงที่ดังมาจากพระที่นั่งของพระเจ้าว่าดังนี้: “ท่านทั้งหลายที่เป็นทาสของพระองค์, และท่านทั้งหลายที่เกรงกลัวพระองค์ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย, จงถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา.” นับว่าเป็นสิทธิพิเศษเพียงไรที่เราจะได้ร่วมร้องเพลงบทนี้!
การอภิเษกสมรสของพระเมษโปดก
17. เมื่อเทียบระหว่างวิวรณ์ 11:17 กับ 19:6 พระยะโฮวาทรงเริ่มครอบครองเป็นพระบรมมหากษัตริย์ในความหมายสองประการอะไรบ้าง?
17 เสียงร้องฮาเลลูยาห์ครั้งที่สี่นำสู่สาระสำคัญอีกอย่างหนึ่ง: “อาละลูยา เพราะว่าพระองค์ [พระยะโฮวา] ผู้ทรงเป็นพระเจ้าประกอบด้วยฤทธานุภาพทุกประการทรงครอบครองอยู่ [เริ่มปกครองเป็นพระมหากษัตริย์, ล.ม.].” แต่มีท่อนร้องรับเหมือนกันที่วิวรณ์ 11:17, (ล.ม.) มิใช่หรือ? ซึ่งที่นั่นเราอ่านว่า “พวกข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ พระยะโฮวาพระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ . . . เพราะพระองค์ได้ทรงรับเอาฤทธิ์เดชใหญ่ยิ่งของพระองค์และเริ่มปกครองเป็นกษัตริย์แล้ว.” ใช่แล้ว. แต่บริบทของวิวรณ์ 11:17 กล่าวถึงการที่พระยะโฮวาทรงสถาปนาราชอาณาจักรมาซีฮาขึ้นในปี 1914 “ซึ่งจะต้องเลี้ยงชาติทั้งปวงด้วยคทาเหล็ก.” (วิวรณ์ 12:5, ล.ม.) วิวรณ์ 19:6 อยู่ในบริบทที่พูดถึงพินาศกรรมของบาบูโลนใหญ่. ครั้นพระยะโฮวาทรงกำจัดศาสนาซึ่งเปรียบได้กับหญิงแพศยาออกไปแล้ว ความเป็นพระเจ้าของพระยะโฮวาจึงได้รับการเชิดชูแล้ว. ตอนนั้นการนมัสการพระองค์ในฐานะทรงเป็นองค์บรมมหิศรและพระบรมมหากษัตริย์จะแพร่หลายตลอดไป!
18. การกำจัดบาบูโลนใหญ่เปิดทางให้มีการประกาศข่าวอะไรซึ่งยังความปีติยินดี?
18 ฉะนั้น จึงมีการประกาศด้วยความปลาบปลื้มว่า “ให้เราทั้งหลายชื่นชมยินดีและถวายเกียรติยศแด่พระองค์ [ยาห์] เพราะการมงคลสมรสแห่งพระเมษโปดกนั้นมาถึงแล้ว, และเจ้าสาวได้แต่งตัวเตรียมพร้อมแล้ว. และได้ทรงโปรดให้เจ้าสาวนั้นนุ่งห่มแต่งตัวด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียดสดใสบริสุทธิ์ ด้วยว่าผ้าป่านนั้นได้แก่การประพฤติชอบธรรมของพวกสิทธชน.” (วิวรณ์ 19:7, 8) ส่วนการปลุกผู้ถูกเจิมที่ยังเหลืออยู่บนแผ่นดินโลกให้กลับเป็นขึ้นจากตายฝ่ายสวรรค์เมื่อไรไม่มีการกล่าวถึง. แต่จากบริบทนี้ เราได้รับคำรับรองว่าการที่เขาร่วมอภิเษกสมรสกับพระเมษโปดกคือพระเยซูคริสต์จะเป็นวาระแห่งความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากพวกเขารู้เห็นเป็นพยานโดยตรงถึงความอัปยศอดสูของหญิงแพศยาที่ฉาวโฉ่ บาบูโลนใหญ่นั้น.
โลกของซาตานถูกทำลาย
19. ที่วิวรณ์ 19:11-21 ได้มีการพรรณนาเหตุการณ์อื่น ๆ อะไร?
19 ม้าขาวตามซึ่งมีการกล่าวถึงครั้งแรกที่วิวรณ์ 6:2 นั้น ตอนนี้ปรากฏให้เห็นอีก. เราอ่านที่วิวรณ์ 19:11 ดังนี้: “ท่านที่นั่งบนหลังม้านั้นมีนามว่า “สุจริตและสัตย์จริง” และท่านได้ทรงพิพากษาและกระทำสงครามโดยยุติธรรม.” ดังนั้น “พระมหากษัตริย์แห่งมหากษัตริย์ทั้งปวงและเจ้านายแห่งเจ้านายทั้งปวง” ทรงม้าออกไปเพื่อโจมตีนานาประเทศและทรงเหยียบ “เครื่องหีบน้ำองุ่นแห่งพระนิเคราะห์อันเฉียบขาดของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ.” ฝ่าย “บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกกับทั้งพลรบของกษัตริย์เหล่านั้น” ที่ได้ชุมนุมกันเพื่อต่อสู้สงครามฮาร์มาเกดอนจะประสบการสูญเสียโดยสิ้นเชิง. พระองค์ผู้ทรงม้าขาวได้ชัยชนะเด็ดขาด. องค์การของซาตานทางแผ่นดินโลกจะไม่มีอะไรเหลือเลย.—วิวรณ์ 19:12-21.
20. จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวพญามารเอง?
20 แต่ตัวพญามารเองเป็นอย่างไร? ที่วิวรณ์ 20:1-6 พรรณนาถึงพระเยซูคริสต์ฐานะเป็น “ทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์มีลูกกุญแจสำหรับเหวอันลึกนั้น, และมือท่านถือโซ่ใหญ่.” พระองค์ทรงจับพญานาค งูโบราณซึ่งได้แก่พญามารซาตานนั้นเอง และมัดมันแล้วโยนลงในเหวลึก กักมันและประทับตราปิดไว้ที่นั่น. เมื่อซาตานถูกกันไว้นอกทางเช่นนั้นและไม่สามารถชักนำนานาชาติให้หลงผิดได้อีกต่อไป รัชสมัยพันปีอันรุ่งโรจน์แห่งพระเมษโปดกกับเจ้าสาวของพระองค์จึงเริ่มต้น. ไม่มีน้ำตาแห่งความเศร้าโศกอีกต่อไป! ความตายอันเนื่องมาจากอาดามจะไม่มีอีกเลย! จะไม่มีการคร่ำครวญ, เสียงร้องโวยวาย, ความเจ็บปวดอีกต่อไป! “สิ่งที่เคยมีก่อนนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว.”—วิวรณ์ 21:4, ล.ม.
21. ขณะที่เราจดจ่อรอท่าการปรากฏแห่งพระเยซูคริสต์ ความตั้งใจแน่วแน่ของเราควรเป็นเช่นไร?
21 ขณะที่เราจดจ่อเฝ้าคอยการปรากฏของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอให้เรากระตือรือร้นที่จะบอกเล่าให้คนอื่นรู้ถึงคำสัญญาเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก. การช่วยให้รอดใกล้เข้ามาแล้ว! จงให้เราก้าวไปข้างหน้า ก้าวต่อ ๆ ไปในฐานะเป็นบุตรซึ่งได้รับความสว่างจากพระยะโฮวาองค์บรมมหิศร!
การทบทวน
▫ อะไรเป็นข้อบ่งชี้ว่าการปรากฏของพระเยซูคริสต์มาใกล้แล้ว?
▫ วันแห่งการแก้แค้นของพระยะโฮวาจะมาถึงโดยวิธีใด?
▫ “ผู้ที่รักพระยะโฮวา” ควรมองสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันนี้อย่างไร?
▫ ลำดับเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรเมื่อความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ปะทุขึ้น?
[รูปภาพหน้า 23]
พระเยซู ‘เสด็จมาในเมฆ’ อย่างไม่ปรากฏแก่ตา เพื่อดำเนินการพิพากษา
[รูปภาพหน้า 25]
ในไม่ช้าศาสนาเท็จ, ระบบชั่วของซาตาน, และซาตานเองจะถึงกาลพินาศ