ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาเหลือที่จะรู้หมดได้
“พระยะโฮวาเป็นองค์ยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง และความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น เหลือที่จะรู้หมดได้.”—บทเพลงสรรเสริญ 145:3, ล.ม.
1, 2. ดาวิดเป็นบุคคลแบบใด และท่านมองตัวเองเช่นไรเมื่อเทียบกับพระเจ้า?
ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญบท 145 เป็นผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในอดีต. ตอนเป็นเด็กหนุ่ม ท่านประจันหน้ากับชายร่างยักษ์ที่มีอาวุธและสังหารเขา. และฐานะกษัตริย์นักรบ ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญท่านนี้ปราบศัตรูมากมาย. ชื่อของท่านคือดาวิด และท่านเป็นกษัตริย์องค์ที่สองของอิสราเอลสมัยโบราณ. ชื่อเสียงของดาวิดยังเป็นที่เลื่องลือแม้เสียชีวิตไปแล้ว ถึงขนาดที่ผู้คนมากมายในปัจจุบันก็ยังทราบเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับตัวท่าน.
2 ทั้ง ๆ ที่ดาวิดประสบความสำเร็จหลายอย่าง ท่านก็ยังคงถ่อมใจ. ท่านร้องเพลงเกี่ยวกับพระยะโฮวาดังนี้: “ครั้นข้าพเจ้าพิจารณาท้องฟ้า, ที่เป็นพระหัตถกิจของพระองค์, คือดวงจันทร์กับดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงประดิษฐานไว้; มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา? หรือพงศ์พันธุ์ของมนุษย์เป็นผู้ใดเล่าที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเขา?” (บทเพลงสรรเสริญ 8:3, 4) แทนที่จะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ดาวิดยกย่องพระยะโฮวาว่าเป็นผู้ช่วยท่านให้รอดจากบรรดาศัตรู และกล่าวถึงพระองค์ว่า “พระองค์ได้ทรงประทานความรอดของพระองค์ให้เป็นโล่แก่ข้าพเจ้า; และซึ่งพระองค์ทรงน้อมพระทัยลงนั้นกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นใหญ่ขึ้น.” (2 ซามูเอล 22:1, 2, 36) พระยะโฮวาสำแดงความถ่อมพระทัยในการปฏิบัติด้วยความเมตตาต่อคนบาป และดาวิดหยั่งรู้ค่าพระกรุณาอันไม่พึงได้รับของพระเจ้า.
‘ข้าพเจ้าจะยกย่องพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์’
3. (ก) ดาวิดมีทัศนะเช่นไรต่อฐานะกษัตริย์ของอิสราเอล? (ข) ดาวิดปรารถนาจะสรรเสริญพระยะโฮวาถึงขีดไหน?
3 แม้ดาวิดเป็นกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้ง ท่านถือว่าพระยะโฮวาเป็นกษัตริย์องค์แท้จริงของอิสราเอล. ดาวิดกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้า ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่อง เป็นจอมของสิ่งสารพัด.” (1 โครนิกา 29:11, ฉบับแปลใหม่) และดาวิดยกย่องพระเจ้าฐานะผู้ปกครองอย่างมากทีเดียว! ท่านร้องเพลงว่า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ และข้าพเจ้าจะถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์ไม่มีเวลากำหนด แม้กระทั่งตลอดกาล. ข้าพเจ้าจะถวายพระพรแด่พระองค์ตลอดวัน และข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระองค์ถึงเวลาไม่มีกำหนด จนตลอดกาล.” (บทเพลงสรรเสริญ 145:1, 2, ล.ม.) ดาวิดปรารถนาจะสรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าตลอดวัน และตลอดชั่วนิรันดร์.
4. เพลงสรรเสริญบท 145 เปิดโปงคำกล่าวอ้างเท็จอะไร?
4 เพลงสรรเสริญบท 145 ให้คำตอบที่มีพลังแก่คำกล่าวอ้างของซาตานที่ว่า พระเจ้าเป็นผู้ปกครองที่เห็นแก่ตัว ซึ่งกีดกันเสรีภาพไว้จากผู้ที่พระองค์ทรงสร้าง. (เยเนซิศ 3:1-5) เพลงสรรเสริญบทนี้ยังเปิดโปงคำโกหกของซาตานด้วยที่ว่า ทุกคนที่เชื่อฟังพระเจ้าทำไปก็เพราะหวังประโยชน์สำหรับตนเองเท่านั้น หาใช่เพราะรักพระองค์ไม่. (โยบ 1:9-11; 2:4, 5) เช่นเดียวกับดาวิด คริสเตียนแท้ในปัจจุบันกำลังให้คำตอบแก่ข้อกล่าวหาเท็จของพญามาร. พวกเขาทะนุถนอมความหวังของตนเรื่องชีวิตนิรันดร์ภายใต้การปกครองแห่งราชอาณาจักร เนื่องจากพวกเขาปรารถนาจะสรรเสริญพระยะโฮวาตลอดชั่วนิรันดร์. มีหลายล้านคนที่ทำเช่นนั้นแล้วด้วยการแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู และด้วยการรับใช้พระยะโฮวาด้วยความเชื่อฟังที่มาจากความรักฐานะผู้นมัสการพระองค์ที่อุทิศตัวและรับบัพติสมา.—โรม 5:8; 1 โยฮัน 5:3.
5, 6. มีโอกาสใดบ้างที่จะถวายพระพรและสรรเสริญพระยะโฮวา?
5 ขอให้คิดถึงโอกาสมากมายที่เราจะถวายพระพรและสรรเสริญพระยะโฮวาฐานะผู้รับใช้ของพระองค์. เราอาจทำเช่นนั้นด้วยการอธิษฐาน เมื่อเรารู้สึกประทับใจบางสิ่งที่เราอ่านพบในคัมภีร์ไบเบิล พระคำของพระองค์. เราอาจสรรเสริญและขอบพระคุณเมื่อรู้สึกซาบซึ้งใจในวิธีที่พระเจ้าทรงปฏิบัติต่อประชาชนของพระองค์ หรือเมื่อรู้สึกตื่นเต้นกับแง่มุมบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งทรงสร้างอันน่าพิศวงของพระองค์. เราสรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าเช่นกัน เมื่อเราอภิปรายพระประสงค์ของพระองค์กับเพื่อนร่วมความเชื่อ ณ การประชุมคริสเตียน หรือระหว่างการสนทนากันเป็นส่วนตัว. ที่จริงแล้ว “การดี” ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้านำคำสรรเสริญมาสู่พระยะโฮวา.—มัดธาย 5:16.
6 ตัวอย่างเกี่ยวกับการดีดังกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้รวมถึงการก่อสร้างสถานที่นมัสการหลายแห่งในประเทศที่ยากจนโดยประชาชนของพระยะโฮวา. ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา การทำเช่นนี้เป็นไปด้วยความช่วยเหลือทางการเงินจากเพื่อนร่วมความเชื่อในประเทศอื่น ๆ. คริสเตียนบางคนอาสาไปยังพื้นที่เหล่านี้เพื่อจะมีส่วนช่วยในการก่อสร้างหอประชุมราชอาณาจักร. และที่สำคัญที่สุดในบรรดาการดีทั้งปวงคือ การสรรเสริญพระยะโฮวาด้วยการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระองค์. (มัดธาย 24:14) ดังที่ข้อต่อ ๆ มาของเพลงสรรเสริญบท 145 แสดงให้เห็น ดาวิดหยั่งรู้ค่าการปกครองของพระเจ้า และเทิดทูนฐานะกษัตริย์ของพระองค์. (บทเพลงสรรเสริญ 145:11, 12) คุณรู้สึกขอบพระคุณอย่างเดียวกันไหมต่อวิธีการปกครองอันเปี่ยมด้วยความรักของพระเจ้า? และคุณพูดกับคนอื่น ๆ เป็นประจำไหมเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระองค์?
ตัวอย่างที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
7. จงบอกถึงเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่สมควรจะสรรเสริญพระยะโฮวา.
7 บทเพลงสรรเสริญ 145:3 (ล.ม.) บอกถึงเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่สมควรจะสรรเสริญพระยะโฮวา. ดาวิดร้องเพลงว่า “พระยะโฮวาเป็นองค์ยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง และความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้น เหลือที่จะรู้หมดได้.” ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวานั้นไร้ขอบเขตจำกัด. ไม่มีทางที่มนุษย์จะค้นพบ, เข้าใจ, หรือวัดความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาได้หมด. ถึงกระนั้น ในตอนนี้เราจะได้ประโยชน์แน่ ๆ จากการพิจารณาตัวอย่างที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่อันเหลือที่จะรู้หมดได้ของพระยะโฮวา.
8. เอกภพแสดงให้เห็นอะไรเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจของพระยะโฮวา?
8 ขอให้ระลึกถึงคราวที่คุณอยู่ห่างจากแสงไฟสว่างไสวในเมืองใหญ่และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในคืนที่ไร้เมฆ. คุณอัศจรรย์ใจมิใช่หรือกับดวงดาวจำนวนมหาศาลที่มองเห็นบนฉากหลังอันมืดมิดของอวกาศ? ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการสร้างบรรดาดวงดาวเหล่านั้นกระตุ้นใจคุณให้สรรเสริญพระยะโฮวามิใช่หรือ? อย่างไรก็ตาม ที่คุณเห็นเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวของจำนวนดวงดาวในกาแล็กซี ซึ่งโลกของเราเป็นดาวดวงหนึ่งในนั้น. นอกจากนี้ ประมาณกันว่ามีกาแล็กซีจำนวนมากกว่าแสนล้านกาแล็กซี ซึ่งจากทั้งหมดนี้มีเพียงสามกาแล็กซีเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้โดยไม่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ช่วย. จริงทีเดียว ดวงดาวและกาแล็กซีเหลือคณานับที่ประกอบกันเป็นเอกภพกว้างใหญ่ไพศาลเป็นพยานหลักฐานถึงพลังอำนาจในการสร้างสรรค์และความยิ่งใหญ่อันเหลือที่จะรู้หมดได้ของพระยะโฮวา.—ยะซายา 40:26.
9, 10. (ก) แง่มุมอะไรบ้างเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาเป็นที่ประจักษ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูคริสต์? (ข) การคืนพระชนม์ของพระเยซูน่าจะส่งผลต่อความเชื่อของเราอย่างไร?
9 ขอให้พิจารณาแง่มุมอื่น ๆ เกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา นั่นคือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูคริสต์. ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นที่ประจักษ์ในการสร้างพระบุตรของพระองค์ และในการใช้พระบุตรเป็นเวลายาวนานเหลือที่จะระบุได้ในฐานะ “นายช่าง” ของพระองค์. (สุภาษิต 8:22-31, ล.ม.) พระยะโฮวาสำแดงความยิ่งใหญ่แห่งความรักของพระองค์เมื่อพระองค์ประทานพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวเป็นเครื่องบูชาไถ่สำหรับมนุษยชาติ. (มัดธาย 20:28; โยฮัน 3:16; 1 โยฮัน 2:1, 2) และกายวิญญาณอมตะที่ทรงสง่าราศีซึ่งพระยะโฮวาทรงบันดาลให้พระเยซูในคราวคืนพระชนม์นั้นเป็นเรื่องเหลือที่มนุษย์จะเข้าใจได้.—1 เปโตร 3:18.
10 การคืนพระชนม์ของพระเยซูเกี่ยวข้องกับหลายแง่มุมที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่อันเหลือที่จะรู้หมดได้ของพระยะโฮวา. พระเจ้าทำให้ความทรงจำของพระเยซูกลับคืนมาในเรื่องราชกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสิ่งที่เห็นได้ และเห็นไม่ได้ด้วยตา. (โกโลซาย 1:15, 16) สิ่งเหล่านั้นประกอบด้วยกายวิญญาณอื่น ๆ, เอกภพ, แผ่นดินโลกที่อุดมสมบูรณ์, และสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบบนโลกของเรา. นอกจากให้พระบุตรของพระองค์มีความรู้กลับคืนมาในเรื่องประวัติศาสตร์ที่ครบถ้วนของชีวิตบนสวรรค์และบนแผ่นดินโลกที่เคยรู้เห็นขณะดำรงสภาพอยู่ก่อนมาเป็นมนุษย์แล้ว พระยะโฮวายังให้พระเยซูได้ความทรงจำในสิ่งที่พระองค์ประสบขณะเป็นมนุษย์สมบูรณ์กลับคืนมาด้วย. ถูกแล้ว ความยิ่งใหญ่อันเหลือที่จะรู้หมดได้ของพระยะโฮวาเป็นที่ประจักษ์ในการคืนพระชนม์ของพระเยซู. นอกจากนั้น ราชกิจอันยิ่งใหญ่นี้เป็นการรับรองว่า การกลับเป็นขึ้นจากตายของคนอื่น ๆ เป็นไปได้. การคืนพระชนม์ของพระเยซูน่าจะเสริมความเชื่อแก่เราว่า พระเจ้าสามารถทำให้หลายล้านคนที่ตายไปซึ่งอยู่ในความทรงจำอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์กลับมามีชีวิตอีก.—โยฮัน 5:28, 29; กิจการ 17:31.
พระราชกิจอันยอดเยี่ยมและการอิทธิฤทธิ์
11. พระราชกิจที่ยิ่งใหญ่อะไรของพระยะโฮวาซึ่งเริ่มในวันเพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33?
11 นับจากการคืนพระชนม์ของพระเยซู พระยะโฮวากระทำพระราชกิจอันยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่อื่น ๆ อีกมากมาย. (บทเพลงสรรเสริญ 40:5) ในวันเพนเทคอสต์ ปี ส.ศ. 33 พระยะโฮวาได้ก่อกำเนิดชาติใหม่ คือ “ชาติอิสราเอลของพระเจ้า” ซึ่งประกอบด้วยบรรดาสาวกของพระคริสต์ที่ได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. (ฆะลาเตีย 6:16, ล.ม.) ชาติใหม่ฝ่ายวิญญาณนี้ขยายไปอย่างรวดเร็วตลอดทั่วโลกเท่าที่รู้จักกันในเวลานั้น. แม้การออกหากนำไปสู่การก่อตัวของคริสต์ศาสนจักรหลังจากพวกอัครสาวกของพระเยซูสิ้นชีวิตไปแล้ว พระยะโฮวาก็ยังคงกระทำพระราชกิจอันยอดเยี่ยมต่อไปเพื่อทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จเป็นจริง.
12. ข้อเท็จจริงที่ว่า คัมภีร์ไบเบิลมีในภาษาหลัก ๆ ของโลกทุกภาษาเป็นพยานหลักฐานถึงอะไร?
12 ตัวอย่างเช่น สารบบคัมภีร์ไบเบิลได้รับการปกปักรักษา และในที่สุดก็ได้รับการแปลเป็นภาษาหลัก ๆ ของโลกทุกภาษาในปัจจุบัน. บ่อยครั้งที่การแปลคัมภีร์ไบเบิลทำกันภายใต้สภาพการณ์ที่ยากลำบากและชีวิตถูกคุกคามจากเหล่าตัวแทนของซาตาน. เป็นที่แน่นอนว่า การแปลคัมภีร์ไบเบิลไปกว่า 2,000 ภาษาแล้วนั้นจะสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่ได้เป็นพระทัยประสงค์ของพระยะโฮวาพระเจ้า ผู้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์เหลือที่จะรู้หมดได้!
13. นับตั้งแต่ปี 1914 ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาปรากฏให้เห็นอย่างไรในส่วนที่เกี่ยวกับพระประสงค์ของพระองค์เรื่องราชอาณาจักร?
13 ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาปรากฏให้เห็นในส่วนที่เกี่ยวกับพระประสงค์ของพระองค์เรื่องราชอาณาจักร. ตัวอย่างเช่น ในปี 1914 พระองค์ตั้งพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ในสวรรค์. ไม่นานหลังจากนั้น พระเยซูทรงลงมือปฏิบัติการกวาดล้างซาตานและเหล่าผีปิศาจของมัน. พวกมันถูกขับออกจากสวรรค์และถูกจำกัดให้อยู่ที่บริเวณแผ่นดินโลก ที่ซึ่งพวกมันกำลังคอยเวลาที่จะถูกเหวี่ยงลงสู่เหวลึก. (วิวรณ์ 12:9-12; 20:1-3) ตั้งแต่นั้นมา เหล่าสาวกผู้ถูกเจิมของพระเยซูประสบการกดขี่ข่มเหงมากขึ้น. ถึงกระนั้น พระยะโฮวาทรงค้ำจุนพวกเขาเรื่อยมาตลอดช่วงการประทับของพระคริสต์ที่ไม่ปรากฏแก่ตานี้.—มัดธาย 24:3; วิวรณ์ 12:17.
14. พระยะโฮวาทรงกระทำพระราชกิจอันยอดเยี่ยมอะไรในปี 1919 และราชกิจดังกล่าวทำให้อะไรบรรลุผลสำเร็จ?
14 ในปี 1919 พระยะโฮวาทรงกระทำพระราชกิจอันยอดเยี่ยมอีกประการหนึ่งที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์. เหล่าสาวกผู้ถูกเจิมของพระเยซู ซึ่งตกเข้าสู่สภาพไร้กิจกรรมฝ่ายวิญญาณ ได้ฟื้นคืนสภาพสู่ความมีชีวิตชีวา. (วิวรณ์ 11:3-11) จากนั้นเรื่อยมาหลายปี ผู้ถูกเจิมประกาศข่าวดีด้วยใจแรงกล้าเรื่องราชอาณาจักรที่ได้รับการสถาปนาแล้วในสวรรค์. ผู้ถูกเจิมคนอื่น ๆ ถูกรวบรวมเข้ามาเพื่อให้ครบจำนวน 144,000 คน. (วิวรณ์ 14:1-3) และโดยทางเหล่าสาวกผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ พระยะโฮวาได้วางราก “แผ่นดินโลกใหม่” ซึ่งก็คือสังคมมนุษย์ที่ชอบธรรม. (วิวรณ์ 21:1) แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับ “แผ่นดินโลกใหม่” นี้ หลังจากผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ทุกคนไปสวรรค์?
15. งานอะไรที่มีคริสเตียนผู้ถูกเจิมเป็นหัวหอก และผลเป็นประการใด?
15 ในปี 1935 วารสารนี้ฉบับ 1 สิงหาคม และ 15 สิงหาคม (ภาษาอังกฤษ) มีบทความหลักเกี่ยวกับ “ชนฝูงใหญ่” ที่กล่าวถึงในวิวรณ์บท 7. บรรดาคริสเตียนผู้ถูกเจิมเริ่มค้นหาเพื่อนร่วมนมัสการเหล่านี้อย่างกระตือรือร้นจากท่ามกลางชาติ, ตระกูล, ชนชาติ, และภาษาทั้งปวง ให้มาสมทบกับพวกเขา. “ชนฝูงใหญ่” นี้จะรอดผ่าน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” ที่กำลังคืบใกล้เข้ามา และมีความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์ในอุทยานในฐานะเป็นสมาชิกตลอดไปของ “แผ่นดินโลกใหม่.” (วิวรณ์ 7:9-14, ล.ม.) เนื่องด้วยงานประกาศราชอาณาจักรและงานทำให้คนเป็นสาวกที่มีคริสเตียนผู้ถูกเจิมเป็นหัวหอก ผู้คนกว่าหกล้านคนในปัจจุบันจึงมีความหวังที่จะมีชีวิตไม่รู้สิ้นสุดในอุทยานบนแผ่นดินโลก. ใครสมควรจะได้รับเกียรติสำหรับการเพิ่มจำนวนเช่นนี้ทั้ง ๆ ที่มีการต่อต้านขัดขวางจากซาตานและโลกที่เสื่อมทรามของมัน? (1 โยฮัน 5:19) เฉพาะแต่พระยะโฮวาผู้เดียวที่ทำให้สิ่งทั้งปวงนี้เป็นไปได้ โดยใช้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์.—ยะซายา 60:22; ซะคาระยา 4:6.
ความรุ่งโรจน์สง่างามและพระเกียรติของพระยะโฮวา
16. เหตุใดมนุษย์จึงเห็น ‘ความรุ่งโรจน์สง่างามแห่งพระเกียรติของพระยะโฮวา’ ไม่ได้ด้วยตาจริง ๆ?
16 ไม่ว่า “พระราชกิจอันยอดเยี่ยม” และ “การอิทธิฤทธิ์” ของพระยะโฮวาจะเป็นอะไร สิ่งเหล่านั้นจะไม่ถูกลืม. ดาวิดเขียนดังนี้: “คนชั่วอายุแล้วชั่วอายุเล่าจะยกย่องพระราชกิจของพระองค์ และพวกเขาจะเล่าถึงการอิทธิฤทธิ์ของพระองค์. ความรุ่งโรจน์สง่างามแห่งพระเกียรติของพระองค์และรายละเอียดแห่งพระราชกิจอันยอดเยี่ยมของพระองค์ ข้าพเจ้าจะสนใจ. และพวกเขาจะพูดถึงอานุภาพแห่งราชกิจอันน่าเกรงขามของพระองค์ ส่วนความยิ่งใหญ่ของพระองค์ข้าพเจ้าจะประกาศ.” (บทเพลงสรรเสริญ 145:4-6, ล.ม.) แต่ดาวิดจะรู้ถึงความรุ่งโรจน์สง่างามของพระยะโฮวาได้สักกี่มากน้อย เนื่องจาก “พระเจ้าทรงเป็นองค์วิญญาณ” จึงเห็นพระองค์ไม่ได้ด้วยตามนุษย์?—โยฮัน 1:18; 4:24, ล.ม.
17, 18. ดาวิดหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อ ‘ความรุ่งโรจน์สง่างามแห่งพระเกียรติของพระยะโฮวา’ โดยวิธีใด?
17 แม้ไม่สามารถเห็นพระเจ้า แต่มีหลายวิธีที่ดาวิดจะหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อพระเกียรติของพระยะโฮวา. ตัวอย่างเช่น ท่านสามารถอ่านบันทึกในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการอิทธิฤทธิ์ของพระเจ้า เช่น การทำลายล้างโลกชั่วด้วยมหาอุทกภัยทั่วโลก. ดาวิดคงทราบอย่างแน่นอนว่า บรรดาพระเท็จของชาวอียิปต์ได้รับความอัปยศโดยวิธีใดเมื่อพระเจ้าปลดปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาสของอียิปต์. เหตุการณ์เหล่านั้นเป็นพยานหลักฐานถึงพระเกียรติและความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา.
18 แน่นอนว่าดาวิดมีความหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อพระเกียรติของพระเจ้าไม่เพียงจากการอ่านพระคัมภีร์เท่านั้น แต่จากการตรึกตรองสิ่งที่อ่านด้วย. ตัวอย่างเช่น ท่านคงได้ตรึกตรองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่พระเจ้าประทานพระบัญญัติแก่ชาติอิสราเอล. มีฟ้าร้อง, ฟ้าแลบ, เมฆหนาทึบ, และเสียงแตรดังสนั่น. ภูเขาไซนายสั่นสะเทือนและมีควันไฟ. ชาวอิสราเอลซึ่งชุมนุมกันที่เชิงภูเขาถึงกับได้ยิน “บัญญัติสิบประการ” ออกมาจากท่ามกลางเปลวเพลิงและเมฆ ขณะที่พระยะโฮวาตรัสแก่พวกเขาผ่านทางตัวแทนที่เป็นทูตสวรรค์. (พระบัญญัติ 4:32-36; 5:22-24; 10:4; เอ็กโซโด 19:16-20; กิจการ 7:38, 53) สิ่งเหล่านั้นแสดงถึงความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของพระยะโฮวาอย่างแท้จริง! ผู้รักพระคำของพระเจ้าซึ่งไตร่ตรองเรื่องเหล่านี้ย่อมจะต้องถูกกระตุ้นจาก ‘ความรุ่งโรจน์สง่างามแห่งพระเกียรติของพระยะโฮวา.’ แน่นอน ในทุกวันนี้พวกเรามีคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่ม ซึ่งบรรจุนิมิตอันรุ่งโรจน์หลากหลายนิมิตที่ทำให้เราประทับใจในความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา.—ยะเอศเคล 1:26-28; ดานิเอล 7:9, 10; วิวรณ์ บท 4.
19. อะไรจะทำให้เราหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อพระเกียรติของพระยะโฮวา?
19 อีกวิธีหนึ่งที่คงทำให้ดาวิดประทับใจพระเกียรติของพระเจ้าคือการศึกษาพระบัญญัติที่พระเจ้าประทานแก่ชาวอิสราเอล. (พระบัญญัติ 17:18-20; บทเพลงสรรเสริญ 19:7-11) การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระยะโฮวาทำให้ชาติอิสราเอลเป็นที่ยกย่องและโดดเด่นเหนือชนชาติอื่น ๆ ทั้งปวง. (พระบัญญัติ 4:6-8) เช่นเดียวกับที่เป็นจริงกับดาวิด การอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำ, การตรึกตรองอย่างจริงจัง, และการศึกษาอย่างขยันขันแข็ง จะทำให้เราหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อพระเกียรติของพระยะโฮวา.
คุณลักษณะในด้านศีลธรรมของพระเจ้าเชิดชูความยิ่งใหญ่ของพระองค์
20, 21. (ก) บทเพลงสรรเสริญ 145:7-9 เชิดชูความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะอะไรบ้าง? (ข) คุณลักษณะของพระเจ้าที่กล่าวถึงในที่นี้มีผลกระทบเช่นไรต่อบรรดาคนที่รักพระองค์?
20 ดังที่เราสังเกตไปแล้ว หกข้อแรกของเพลงสรรเสริญบท 145 บอกถึงเหตุผลที่สมควรจะสรรเสริญพระยะโฮวาสำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความยิ่งใหญ่อันเหลือที่จะรู้หมดได้ของพระองค์. ข้อ 7 ถึง 9 (ล.ม.) เชิดชูความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าด้วยการกล่าวถึงคุณลักษณะด้านศีลธรรมของพระองค์. ดาวิดร้องเพลงดังนี้: “พวกเขาจะพร่ำลือถึงคุณความดีอันอุดมมากมายของพระองค์ และพวกเขาจะเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีเนื่องด้วยความชอบธรรมของพระองค์. พระยะโฮวาทรงเมตตากรุณา ทรงพระพิโรธช้าและมีความกรุณารักใคร่ยิ่งนัก. พระยะโฮวาทรงดีต่อทุกคน และพระเมตตาของพระองค์มีอยู่เหนือพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์.”
21 ในที่นี้ ดาวิดเน้นคุณความดีกับความชอบธรรมของพระยะโฮวาในอันดับแรก ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ถูกซาตานพญามารตั้งข้อกังขา. คุณลักษณะเหล่านี้มีผลกระทบเช่นไรต่อบรรดาคนที่รักพระเจ้าและยอมอยู่ใต้อำนาจการปกครองของพระองค์? จริง ๆ แล้ว ความดีของพระยะโฮวากับวิธีการปกครองอันชอบธรรมของพระองค์ก่อความสุขแก่ผู้นมัสการพระองค์ถึงขนาดที่พวกเขาไม่อาจหยุดพร่ำคำสรรเสริญพระองค์ได้. นอกจากนั้น คุณความดีของพระยะโฮวามีไปถึง “ทุกคน.” หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งนี้จะช่วยให้อีกหลายคนกลับใจและเข้ามาเป็นผู้นมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ก่อนจะสายเกินไป.—กิจการ 14:15-17.
22. พระยะโฮวาทรงปฏิบัติต่อผู้รับใช้ของพระองค์อย่างไร?
22 ดาวิดยังหยั่งรู้ค่าด้วยต่อคุณลักษณะต่าง ๆ ที่พระเจ้าเองทรงเน้น เมื่อพระองค์ “เสด็จผ่านข้างหน้า [โมเซ] และประกาศว่า ‘ยะโฮวา ยะโฮวา พระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณา ทรงพระพิโรธช้าและบริบูรณ์ด้วยความกรุณารักใคร่และความจริง.’ ” (เอ็กโซโด 34:6, ล.ม.) ด้วยเหตุนั้น ดาวิดจึงแถลงได้ว่า “พระยะโฮวาทรงเมตตากรุณา ทรงพระพิโรธช้าและมีความกรุณารักใคร่ยิ่งนัก.” แม้พระยะโฮวาทรงยิ่งใหญ่อย่างที่เหลือจะรู้หมดได้ แต่ทรงให้เกียรติแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ที่เป็นมนุษย์ด้วยการปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความกรุณา. พระองค์เปี่ยมด้วยความเมตตา เต็มพระทัยจะให้อภัยคนบาปที่กลับใจโดยอาศัยเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูเป็นพื้นฐาน. ยิ่งกว่านั้น พระยะโฮวาทรงพระพิโรธช้า เนื่องจากทรงให้โอกาสแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ที่จะเอาชนะข้ออ่อนแอที่อาจขัดขวางพวกเขาไม่ให้เข้าไปสู่โลกใหม่อันชอบธรรมของพระองค์.—2 เปโตร 3:9, 13, 14.
23. คุณลักษณะที่ล้ำค่าอะไรซึ่งจะมีการพิจารณาในบทความถัดไป?
23 ดาวิดยกย่องความกรุณารักใคร่ หรือความรักภักดีของพระเจ้า. อันที่จริง ส่วนที่เหลือของเพลงสรรเสริญบท 145 แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาสำแดงคุณลักษณะนี้อย่างไร และเหล่าผู้รับใช้ที่ภักดีของพระองค์ตอบสนองความกรุณารักใคร่ของพระองค์โดยวิธีใด. จะมีการพิจารณาเรื่องเหล่านี้ในบทความถัดไป.
คุณจะตอบอย่างไร?
• มีโอกาสใดบ้างที่จะสรรเสริญพระยะโฮวา “ตลอดวัน”?
• ตัวอย่างอะไรบ้างที่แสดงว่า ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาเหลือที่จะรู้หมดได้?
• เราจะหยั่งรู้ค่ามากขึ้นต่อความรุ่งโรจน์แห่งพระเกียรติของพระยะโฮวาได้โดยวิธีใด?
[ภาพหน้า 10]
บรรดากาแล็กซีในเอกภพเป็นพยานหลักฐานถึงความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา
[ที่มาของภาพหน้า 10]
Courtesy of Anglo-Australian Observatory, photograph by David Malin
[ภาพหน้า 12]
ความยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวาเป็นที่ประจักษ์อย่างไรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูคริสต์?
[ภาพหน้า 13]
ในคราวที่ชาวอิสราเอลได้รับพระบัญญัติที่ภูเขาไซนาย พวกเขาได้ประจักษ์ถึงความรุ่งโรจน์แห่งพระเกียรติของพระยะโฮวา