พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งของเรา!
“พระยะโฮวาผู้ใหญ่ยิ่ง . . . พระองค์เป็นพระบรมมหากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลก.”—เพลง. 47:2
1. ดูเหมือนว่าเปาโลกล่าวถึงอะไรที่ 1 โครินท์ 7:31?
“โลกนี้กำลังเปลี่ยนไปเหมือนละครเปลี่ยนฉาก.” อัครสาวกเปาโลกล่าวไว้อย่างนั้น. (1 โค. 7:31) ดูเหมือนว่าท่านเปรียบโลกเหมือนกับเวทีละครซึ่งตัวละครทั้งหลายกำลังแสดงบทบาทเป็นตัวดีหรือตัวร้ายจนกระทั่งเปลี่ยนฉาก.
2, 3. (ก) การท้าทายอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาอาจเทียบได้กับอะไร? (ข) เราจะพิจารณาคำถามอะไร?
2 ทุกวันนี้ ละครเรื่องหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งกำลังดำเนินอยู่ และคุณมีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้ด้วย! ละครเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพิสูจน์ว่าการปกครองของพระยะโฮวาพระเจ้าถูกต้อง. อาจเทียบละครเรื่องนี้ได้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางดินแดน. ในด้านหนึ่ง มีรัฐบาลที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องชอบธรรมเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย. ส่วนอีกด้านหนึ่ง มีองค์กรอาชญากรรมที่กำลังใช้อำนาจด้วยการหลอกลวง, ความรุนแรง, และฆาตกรรม. องค์กรที่ผิดกฎหมายนี้ท้าทายอำนาจปกครองและทดสอบความภักดีของประชากรทั้งสิ้นของรัฐบาล.
3 สถานการณ์คล้าย ๆ กันกำลังดำเนินอยู่ในขอบเขตที่ครอบคลุมทั่วทั้งเอกภพ. รัฐบาลของ “พระยะโฮวาพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่ง” ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย. (เพลง. 71:5, ล.ม.) แต่ตอนนี้มนุษยชาติถูกองค์กรอาชญากรรมที่นำโดย “ตัวชั่วร้าย” คุกคาม. (1 โย. 5:19) องค์กรนี้ท้าทายรัฐบาลของพระเจ้าที่ถูกตั้งขึ้นอย่างชอบธรรมและทดสอบความภักดีของประชากรทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การปกครองสูงสุดของพระองค์. สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เหตุใดพระเจ้าทรงยอมให้เกิดขึ้น? เราแต่ละคนจะทำอะไรได้?
ประเด็นที่เกี่ยวข้องในละครเรื่องนี้
4. ละครนี้ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาทั้งหมดในเอกภพเป็นตัวละครเกี่ยวข้องกับสองประเด็นอะไรที่เกี่ยวเนื่องกัน?
4 ละครนี้ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาทั้งหมดในเอกภพเป็นตัวละครเกี่ยวข้องกับสองประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกัน นั่นคือประเด็นเรื่องอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาและความซื่อสัตย์จงรักภักดีของมนุษย์. ในพระคัมภีร์มักเรียกพระยะโฮวาว่า “พระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่ง.” ตัวอย่างเช่น ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญร้องเพลงด้วยความไว้วางใจพระองค์อย่างเต็มที่ว่า “พระยะโฮวาผู้ใหญ่ยิ่ง . . . พระองค์เป็นพระบรมมหากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลก.” (เพลง. 47:2) มีเหตุผลที่ดีที่จะถือว่าพระยะโฮวาพระเจ้าทรงเป็นองค์สูงสุด.—ดานิ. 7:22
5. เหตุใดเราควรสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา?
5 ในฐานะพระผู้สร้าง พระยะโฮวาพระเจ้าทรงเป็นผู้ปกครององค์สูงสุดแห่งแผ่นดินโลกและเอกภพทั้งสิ้น. (อ่านวิวรณ์ 4:11) นอกจากนั้น พระยะโฮวาทรงเป็นผู้พิพากษา, ผู้บัญญัติกฎหมาย, และพระมหากษัตริย์ของเรา เพราะในการปกครองเหนือสรรพสิ่งพระองค์ทรงทำหน้าที่ทุกอย่างด้วยพระองค์เองทั้งด้านตุลาการ, นิติบัญญัติ, และการบริหาร. (ยซา. 33:23) เนื่องจากเรามีชีวิตอยู่ก็เพราะพระเจ้าและชีวิตเราขึ้นอยู่กับพระองค์ เราควรนับถือพระองค์ในฐานะพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่ง. เราจะถูกกระตุ้นให้สนับสนุนฐานะอันสูงส่งของพระองค์ถ้าเราจำไว้เสมอว่า “พระยะโฮวาได้ทรงตั้งพระที่นั่งของพระองค์ไว้บนสวรรค์; และพระอาณาจักรของพระองค์ครอบครองสรรพสิ่งสรรพสัตว์.”—เพลง. 103:19; กิจ. 4:24
6. ความซื่อสัตย์จงรักภักดีคืออะไร?
6 เพื่อสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา เราต้องซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระองค์เสมอ. “ความซื่อสัตย์จงรักภักดี” คือความดีหรือความครบถ้วนด้านศีลธรรม. คนซื่อสัตย์จงรักภักดีคือคนที่ปราศจากตำหนิและซื่อตรง. โยบปฐมบรรพบุรุษเป็นคนอย่างนี้.—โยบ 1:1
ละครเริ่มต้นอย่างไร?
7, 8. ซาตานท้าทายสิทธิในการปกครองของพระยะโฮวาอย่างไร?
7 เมื่อประมาณ 6,000 ปีที่แล้ว กายวิญญาณตนหนึ่งท้าทายสิทธิของพระยะโฮวาในการปกครองเหนือสรรพสิ่ง. ความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวที่อยากให้มนุษย์นมัสการมันเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ขืนอำนาจผู้นี้พูดและลงมือทำ. มันชักนำให้อาดามกับฮาวามนุษย์คู่แรกไม่ภักดีต่ออำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้า และพยายามทำให้พระนามพระยะโฮวามัวหมองโดยอ้างว่าพระองค์ตรัสมุสา. (อ่านเยเนซิศ 3:1-5) กายวิญญาณที่ขืนอำนาจผู้นี้กลายมาเป็นศัตรูตัวสำคัญ, เป็นซาตาน (ผู้ต่อต้าน), เป็นพญามาร (ผู้หมิ่นประมาท), เป็นงู (ผู้หลอกลวง), และเป็นพญานาค (ผู้ทำลาย).—วิ. 12:9
8 ซาตานตั้งตัวเองเป็นผู้ปกครองแข่งกับพระเจ้า. พระยะโฮวาพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งจะทรงทำอะไรเมื่อถูกท้าทายอย่างนี้? พระองค์จะทรงทำลายผู้ขืนอำนาจทั้งสาม คือซาตาน, อาดาม, และฮาวา ทันทีไหม? พระองค์ทรงมีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน และการทำเช่นนั้นคงจะขจัดข้อสงสัยที่ว่าใครเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด. การทำเช่นนั้นยังพิสูจน์ด้วยว่าพระยะโฮวาทรงลงโทษคนที่ละเมิดกฎหมายของพระองค์ตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้จริง. ถ้าอย่างนั้น เหตุใดพระเจ้าจึงไม่ทำลายผู้ขืนอำนาจทันที?
9. ซาตานตั้งข้อสงสัยอะไร?
9 การที่ซาตานโกหกและชักจูงอาดามกับฮาวาให้หันเหไปจากพระเจ้าเป็นการตั้งข้อสงสัยว่าพระยะโฮวาทรงมีสิทธิ์เรียกร้องให้มนุษยชาติเชื่อฟังพระองค์หรือไม่. นอกจากนั้น ด้วยการชักจูงให้มนุษย์คู่แรกไม่เชื่อฟังพระเจ้า ซาตานยังตั้งข้อสงสัยในเรื่องความภักดีของสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้นที่มีเชาวน์ปัญญาด้วย. ดังที่เห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยบซึ่งภักดีต่ออำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา ซาตานอ้างว่ามันจะชักนำมนุษย์ทั้งหมดให้หันเหไปจากพระเจ้าได้.—โยบ 2:1-5
10. การที่พระเจ้ายังไม่อ้างสิทธิ์ในการปกครองเอกภพเป็นการเปิดโอกาสให้ซาตานและมนุษย์ทำอะไร?
10 การที่พระยะโฮวายังไม่อ้างสิทธิ์ในฐานะพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งและยังไม่ทำลายซาตานทำให้มันมีเวลาพิสูจน์คำกล่าวอ้างของมัน. นอกจากนั้น พระเจ้ายังเปิดโอกาสให้มนุษย์แสดงความภักดีต่ออำนาจสูงสุดในการปกครองของพระองค์ด้วย. เกิดอะไรขึ้นตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านไป? ซาตานได้ก่อตั้งองค์กรอาชญากรรมที่มีอำนาจมาก. ในที่สุดพระยะโฮวาจะทรงทำลายองค์กรนี้และพญามาร ซึ่งจะให้ข้อพิสูจน์อย่างท่วมท้นว่าพระองค์ทรงมีสิทธิ์ที่จะปกครองเอกภพ. พระยะโฮวาพระเจ้าทรงมั่นใจอย่างยิ่งว่าผลจะออกมาในทางดี พระองค์จึงทรงบอกล่วงหน้าไว้อย่างนั้นเมื่อเกิดการขืนอำนาจขึ้นในสวนเอเดน.—เย. 3:15
11. ผู้คนมากมายทำอะไรเกี่ยวกับอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา?
11 มีผู้คนมากมายที่แสดงความเชื่อและซื่อสัตย์จงรักภักดีต่ออำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาและทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์. คนเหล่านี้รวมถึงเฮเบล, ฮะโนค, โนอาห์, อับราฮาม, ซาราห์, โมเซ, รูท, ดาวิด, พระเยซู, เหล่าสาวกรุ่นแรกของพระคริสต์, และหลายล้านคนในปัจจุบันที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระเจ้า. คนที่สนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้ามีส่วนในการพิสูจน์ว่าซาตานเป็นผู้พูดมุสาและขจัดคำตำหนิที่มีต่อพระนามพระยะโฮวาซึ่งพญามารทำให้เกิดขึ้นด้วยการอวดอ้างว่ามันจะทำให้มนุษยชาติทั้งสิ้นหันเหไปจากพระเจ้าได้.—สุภา. 27:11
เรารู้ว่าละครจะจบอย่างไร
12. เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าพระเจ้าจะไม่ยอมทนกับความชั่วตลอดไป?
12 เราแน่ใจได้ว่าในไม่ช้าพระยะโฮวาจะทรงอ้างสิทธิ์ของพระองค์ในการปกครองเอกภพ. พระองค์จะไม่ยอมปล่อยให้ความชั่วร้ายมีอยู่ตลอดไป และเรารู้ว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่ในสมัยสุดท้าย. พระยะโฮวาทรงทำลายคนชั่วในคราวน้ำท่วมโลก. พระองค์ทรงทำลายเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์ และทำลายฟาโรห์กับกองทัพของเขา. ซีซะรากับกองทัพ และซันเฮริบกับกองทหารชาวอัสซีเรีย ไม่อาจต้านทานพระผู้สูงสุดได้เลย. (เย. 7:1, 23; 19:24, 25; เอ็ก. 14:30, 31; วินิจ. 4:15, 16; 2 กษัต. 19:35, 36) ด้วยเหตุนั้น เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาพระเจ้าจะไม่ยอมทนให้ศัตรูหมิ่นพระนามของพระองค์และปฏิบัติอย่างเลวร้ายต่อพยานของพระองค์ตลอดไป. นอกจากนั้น ตอนนี้เราเห็นหลักฐานที่เป็นสัญญาณบอกว่าพระเยซูกำลังประทับอยู่และเป็นช่วงสุดท้ายของยุคที่ชั่วช้านี้.—มัด. 24:3
13. เราต้องทำอย่างไรเพื่อจะไม่ถูกทำลายพร้อมกับเหล่าศัตรูของพระยะโฮวา?
13 เพื่อจะไม่ถูกทำลายพร้อมกับเหล่าศัตรูของพระเจ้า เราต้องพิสูจน์ตัวภักดีต่ออำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา. เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? โดยแยกตัวอยู่ต่างหากจากการปกครองอันเสื่อมทรามของซาตานเสมอและไม่กลัวการข่มขู่จากตัวแทนของมัน. (ยซา. 52:11; โย. 17:16; กิจ. 5:29) เมื่อทำอย่างนี้เท่านั้น เราจึงจะสามารถสนับสนุนการปกครองของพระบิดาผู้อยู่ในสวรรค์ และมีความหวังจะรอดชีวิตเมื่อพระยะโฮวาทรงขจัดคำตำหนิที่มีต่อพระนามของพระองค์และพิสูจน์ให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพระผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดในเอกภพ.
14. ส่วนต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยเรื่องอะไร?
14 มีรายละเอียดเกี่ยวกับมนุษยชาติและอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาในคัมภีร์ไบเบิลตั้งแต่ต้นจนจบ. สามบทแรกของคัมภีร์ไบเบิลบอกเราเกี่ยวกับการทรงสร้างและการที่มนุษย์พลาดพลั้งทำบาป ในขณะที่สามบทสุดท้ายกล่าวถึงการฟื้นฟูมนุษยชาติ. เนื้อหาที่อยู่ระหว่างตอนต้นกับตอนสุดท้ายบอกรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่งทรงใช้เพื่อทำให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์สำหรับมนุษยชาติ, แผ่นดินโลก, และเอกภพ. หนังสือเยเนซิศแสดงให้เห็นว่าซาตานและความชั่วเข้ามาในโลกนี้อย่างไร และส่วนสุดท้ายของหนังสือวิวรณ์เผยให้เห็นวิธีที่ความชั่วจะถูกขจัดให้หมดไป, พญามารจะถูกทำลาย, และพระประสงค์ของพระเจ้าจะสำเร็จบนแผ่นดินโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์. จริงทีเดียว คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยสาเหตุของบาปและความตาย อีกทั้งบอกให้เรารู้ว่าบาปและความตายจะถูกขจัดไปจากโลกนี้อย่างไร. นอกจากนั้น พระคัมภีร์ยังบอกด้วยว่าคนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีจะมีความยินดีอย่างล้นเหลือและจะมีชีวิตนิรันดร์.
15. เพื่อเราเองจะได้รับประโยชน์เมื่อละครที่เกี่ยวกับอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้าจบลง เราต้องทำอะไร?
15 ในไม่ช้า ฉากของโลกนี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง. ละครที่เกี่ยวข้องกับอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้าซึ่งดำเนินมาหลายศตวรรษก็จะปิดฉากลง. ซาตานจะถูกขจัดออกไปจากเวที, ในที่สุดมันจะสาบสูญไป, และพระประสงค์ของพระเจ้าจะมีชัยอย่างแน่นอน. แต่เพื่อจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้และได้รับพระพรมากมายตามที่บอกล่วงหน้าในพระคำของพระเจ้า เราต้องสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาตั้งแต่เดี๋ยวนี้. เราไม่อาจเหยียบเรือสองแคมได้. เพื่อจะพูดได้ว่า “พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ฝ่ายข้าพเจ้า” เราต้องอยู่ฝ่ายพระองค์ต่อ ๆ ไป.—เพลง. 118:6, 7
เราเป็นคนซื่อสัตย์จงรักภักดีได้!
16. เหตุใดเราจึงแน่ใจได้ว่ามนุษย์ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระเจ้าได้?
16 เราสามารถสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาและซื่อสัตย์จงรักภักดีได้ เพราะอัครสาวกเปาโลเขียนว่า “ไม่มีการล่อใจใด ๆ เกิดขึ้นกับท่านทั้งหลายเว้นแต่การล่อใจที่มนุษย์เคยประสบมา. แต่พระเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะไม่ทรงให้พวกท่านถูกล่อใจเกินกว่าจะทนได้ แต่เมื่อพวกท่านถูกล่อใจ พระองค์จะทรงให้มีทางออกด้วยเพื่อพวกท่านจะทนได้.” (1 โค. 10:13) การล่อใจที่เปาโลกล่าวถึงมาในลักษณะใด และพระเจ้าทรงให้เรามีทางออกอย่างไร?
17-19. (ก) ชาวอิสราเอลพ่ายแพ้แก่การล่อใจอะไรในถิ่นทุรกันดาร? (ข) เหตุใดจึงเป็นไปได้ที่เราจะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระยะโฮวา?
17 ดังที่เห็นได้จากประสบการณ์ของชาติอิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร “การล่อใจ” เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจชักนำให้เราละเมิดกฎหมายของพระเจ้า. (อ่าน 1 โครินท์ 10:6-10) ชาวอิสราเอลอาจต้านทานการล่อใจได้ แต่พวกเขาปรารถนา “สิ่งที่ก่อความเสียหาย” เมื่อพระยะโฮวาประทานฝูงนกกระทาแก่พวกเขาด้วยวิธีอัศจรรย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน. แม้ว่าพวกเขาไม่ได้กินเนื้ออยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่พระเจ้าประทานมานาแก่พวกเขามากพอจะรับประทานได้. ถึงกระนั้น พวกเขาพ่ายแพ้แก่การล่อใจและความโลภเมื่อเก็บนกกระทา.—อาฤ. 11:19, 20, 31-35
18 ก่อนหน้านั้น ขณะที่โมเซขึ้นภูเขาไซนายเพื่อรับพระบัญญัติ ชาวอิสราเอลได้กลายเป็นคนไหว้รูปเคารพ นมัสการรูปโคทองคำและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสนุกสนาน. เพราะผู้นำของพวกเขาไม่อยู่ จึงไม่มีใครช่วยพวกเขาระงับยับยั้งการล่อใจ. (เอ็ก. 32:1, 6) ขณะที่จวนจะเข้าสู่แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาอยู่แล้ว ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนถูกหญิงชาวโมอาบล่อลวงให้ทำผิดศีลธรรมทางเพศ. ในโอกาสนั้น มีชาวอิสราเอลนับหมื่นคนตายเพราะการกระทำผิด. (อาฤ. 25:1, 9) บางครั้ง ชาวอิสราเอลพ่ายแพ้แก่การล่อใจและบ่นอย่างขืนอำนาจ. ในโอกาสหนึ่งพวกเขาต่อว่าโมเซและต่อว่าพระเจ้าด้วยซ้ำ! (อาฤ. 21:5) ประชาชนชาวอิสราเอลบ่นพึมพำแม้แต่หลังจากที่โครา, ดาธาน, อะบีราม, และพรรคพวกซึ่งทำสิ่งที่ชั่วช้าถูกทำลาย โดยอ้างอย่างผิด ๆ ว่าการประหารพวกที่ขืนอำนาจนี้ไม่ยุติธรรม. ผลก็คือ ชาวอิสราเอล 14,700 คนตายด้วยโรคร้ายที่พระเจ้าทรงบันดาลให้เกิดขึ้นกับพวกเขา.—อาฤ. 16:41, 49
19 ในบรรดาการล่อใจทั้งหมดนั้น ไม่มีการล่อใจใดที่ชาวอิสราเอลต้านทานไม่ได้. พวกเขาพ่ายแพ้แก่การล่อใจเพราะพวกเขาขาดความเชื่อและลืมพระยะโฮวา, ลืมการดูแลด้วยความรักของพระองค์, และลืมว่าแนวทางของพระองค์นั้นถูกต้อง. เช่นเดียวกับในกรณีของชาวอิสราเอล การล่อใจทั้งหลายที่เราเผชิญเป็นสิ่งที่มนุษย์มักประสบ. ถ้าเราพยายามจริง ๆ ที่จะเอาชนะการล่อใจและหมายพึ่งการช่วยเหลือจากพระเจ้า เราก็จะเป็นคนซื่อสัตย์จงรักภักดีได้. เรามั่นใจได้ในเรื่องนี้เพราะ “พระเจ้าทรงซื่อสัตย์” และพระองค์จะไม่ปล่อยให้เรา “ถูกล่อใจเกินกว่าจะทนได้.” พระยะโฮวาจะไม่ปล่อยให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เราไม่สามารถทำตามพระประสงค์ของพระองค์.—เพลง. 94:14
20, 21. เมื่อเราถูกล่อใจ พระเจ้าทรงช่วยให้เรามี “ทางออก” อย่างไร?
20 พระยะโฮวาทรงให้มี “ทางออก” ด้วยการเสริมกำลังให้เราต้านทานการล่อใจได้. ตัวอย่างเช่น พวกผู้ข่มเหงอาจทำร้ายร่างกายเราเพื่อให้ละทิ้งความเชื่อ. การทำเช่นนี้อาจชักจูงเราให้ยอมอะลุ่มอล่วยเพื่อจะไม่ต้องถูกทุบตีหรือถูกทรมานต่อไป หรือเพื่อจะไม่ถูกฆ่า. แต่โดยอาศัยคำรับรองที่เปาโลได้รับการดลใจให้บันทึกไว้ที่ 1 โครินท์ 10:13 เรารู้ว่าสถานการณ์ที่ล่อใจมีอยู่แค่ชั่วคราว. พระยะโฮวาจะไม่ปล่อยให้มันมีอยู่จนถึงขั้นที่เราไม่สามารถซื่อสัตย์ต่อพระองค์. พระเจ้าทรงเสริมความเชื่อของเราได้และทำให้เรามีความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณที่จำเป็นเพื่อจะซื่อสัตย์จงรักภักดี.
21 พระยะโฮวาทรงค้ำจุนพวกเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์. พระวิญญาณนี้ยังช่วยเราให้ระลึกถึงแง่คิดจากพระคัมภีร์ที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อต้านทานการล่อใจ. (โย. 14:26) ด้วยเหตุนั้น เราจึงไม่ถูกหลอกให้ดำเนินในทางที่ผิด. ตัวอย่างเช่น เราเข้าใจประเด็นเกี่ยวกับอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวาและความซื่อสัตย์จงรักภักดีของมนุษย์. โดยมีความรู้เช่นนี้และโดยได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า หลายคนสามารถรักษาความซื่อสัตย์จนกระทั่งสิ้นชีวิต. แต่ความตายไม่ใช่ทางออกสำหรับพวกเขา หากแต่เป็นความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาที่ทำให้พวกเขาอดทนได้จนถึงที่สุดโดยไม่พ่ายแพ้แก่การล่อใจ. พระองค์ทรงสามารถช่วยเราอย่างเดียวกันนั้น. ที่จริง พระองค์ทรงใช้เหล่าทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์ซึ่ง “ถูกส่งไปเพื่อรับใช้ผู้ที่จะได้รับความรอดเป็นมรดก” ให้ทำงานรับใช้เพื่อประโยชน์ของเราด้วย. (ฮีบรู 1:14) ดังที่บทความต่อไปจะแสดงให้เห็น เฉพาะคนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีเท่านั้นที่หวังได้ว่าจะมีสิทธิพิเศษอันน่ายินดีที่จะสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระเจ้าตลอดไป. เราจะเป็นคนหนึ่งในคนเหล่านี้ได้ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวาในฐานะพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่ง.
คุณจะตอบอย่างไร?
• เหตุใดเราควรยอมรับพระยะโฮวาในฐานะพระเจ้าองค์ใหญ่ยิ่ง?
• การเป็นคนซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระเจ้าหมายถึงอะไร?
• เรารู้ได้อย่างไรว่าในไม่ช้าพระยะโฮวาจะทรงอ้างสิทธิ์ของพระองค์ในการปกครองเอกภพ?
• เมื่อคำนึงถึง 1 โครินท์ 10:13 เหตุใดจึงเป็นไปได้ที่จะซื่อสัตย์จงรักภักดีเสมอ?
[ภาพหน้า 24]
ซาตานชักนำให้อาดามกับฮาวาไม่ภักดีต่อพระยะโฮวา
[ภาพหน้า 26]
จงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะสนับสนุนอำนาจสูงสุดในการปกครองของพระยะโฮวา